More Related Content
Similar to ๒๗. ปฐมภิกขาทายิกาวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]).docx (20)
More from maruay songtanin (20)
๒๗. ปฐมภิกขาทายิกาวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]).docx
- 1. 1
ปฐมภิกขาทายิกาวิมาน
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]
ขุททกนิกาย วิมาน-เปตวัตถุ เถร-เถรีคาถา
๑๐. ปฐมภิกขาทายิกาวิมาน
ว่าด้วยวิมานที่เกิดขึ้นแก่หญิงผู้ถวายภิกษา เรื่องที่ ๑
(พระมหาโมคคัลลานเถระถามเทพธิดานั้นด้วยคาถาเหล่านี้ว่า)
[๒๗๐] เทพธิดา เธอมีผิวพรรณงามยิ่งนัก
เปล่งรัศมีสว่างไสวไปทั่วทุกทิศอยู่ ดุจดาวประกายพรึก
[๒๗๑-๒๗๒] เพราะบุญอะไรผิวพรรณเธอจึงงามเช่นนี้ ฯลฯ
และมีรัศมีกายสว่างไสวไปทั่วทุกทิศอย่างนี้
[๒๗๓] เทพธิดานั้นดีใจที่พระมหาโมคคัลลานเถระถาม
จึงตอบปัญหาผลกรรมไปตามที่พระเถระถามว่า
[๒๗๔] ชาติก่อนดิฉันเกิดเป็ นมนุษย์อยู่ในหมู่มนุษย์ในมนุษยโลก
[๒๗๕] ได้เห็นพระพุทธเจ้าผู้ปราศจากกิเลสประดุจธุลี มีพระทัยผ่องใส
ไม่มัวหมอง มีความเลื่อมใส ได้ถวายภิกษาแด่พระองค์ด้วยมือทั้งสองของตน
[๒๗๖-๒๗๗] เพราะบุญนั้นผิวพรรณดิฉันจึงงามเช่นนี้ ฯลฯ
และมีรัศมีกายสว่างไสวไปทั่วทุกทิศอย่างนี้
ปฐมภิกขาทายิกาวิมานที่ ๑๐ จบ
-----------------------------
คาอธิบายเพิ่มเติมนี้ นามาจากบางส่วนของ
อรรถกถา ขุททกนิกาย วิมานวัตถุ จิตตลดาวรรคที่ ๒
๑๐. ภิกษาทายิกาวิมานที่ ๑
อรรถกถาปฐมภิกษาทายิกาวิมาน
ปฐมภิกษาทายิกาวิมานนั้นเกิดขึ้นอย่างไร?
พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวัน กรุงสาวัตถี.
สมัยนั้น หญิงคนหนึ่งอยู่ในอุตตรมธุรานคร จะสิ้นอายุ
ควรเกิดในอบายภูมิ.
พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จออกจากมหากรุณาสมาบัติเวลาใกล้รุ่ง ทรงตรวจดูโลก
ทรงเห็นหญิงนั้นควรเกิดในอบายภูมิ มีพระทัยอันพระมหากรุณาเตือนแล้ว
มีพุทธประสงค์จะให้นางดารงอยู่ในสุคติภูมิ
จึงเสด็จไปมธุรานครพระองค์เดียวหามีเพื่อนไม่.
ครั้นเสด็จถึงแล้ว
ในเวลาเช้าทรงนุ่งแล้วถือบาตรและจีวรเสด็จไปบิณฑบาตนอกพระนคร. สมัยนั้น
หญิงนั้นจัดแจงอาหารไว้ในเรือนเสร็จแล้ว เก็บงาไว้ในที่ส่วนหนึ่ง
ถือหม้อน้าไปท่าน้า ก็เอาหม้อน้าตักน้า กาลังไปเรือนของตน
- 2. 2
ก็พบพระศาสดาระหว่างทาง ทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
ทรงได้บิณฑบาตแล้วหรือเจ้าค่ะ เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่าก็คงจักได้
ก็ทราบว่าพระองค์ยังไม่ได้บิณฑบาต วางหม้อน้าเข้าไปเฝ้ าพระผู้มีพระภาคเจ้า
ถวายบังคมแล้วกราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์จักถวายบิณฑบาต
โปรดทรงรับเถิดเจ้าค่ะ.
พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงรับโดยดุษณีภาพ.
หญิงนั้นทราบว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงรับแล้ว เดินล่วงหน้าไปก่อน
ปูลาดอาสนะเหนือที่แห้งและเกลี้ยงเกลา ยืนคอยดูพระผู้มีพระภาคเจ้าอยู่.
พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จเข้าไปยังเรือนประทับนั่งบนอาสนะที่ปูถวาย.
ดังนั้น นางได้อาราธนาให้พระผู้มีพระภาคเจ้าเสวยแล้ว.
พระผู้มีพระภาคเจ้าเสวยเสร็จแล้ว ทรงชักพระหัตถ์ออกจากบาตร
ทรงทาอนุโมทนาแก่นาง แล้วก็เสด็จหลีกไป.
นางฟังอนุโมทนา รู้สึกปีติและโสมนัสมิใช่น้อย
ไม่ยอมละปีติมีพระพุทธคุณเป็นอารมณ์
ยืนนมัสการอยู่จนพระพุทธเจ้าเสด็จลับสายตาไป. ล่วงไปได้ ๒-๓ วัน
นางก็ทากาละตายไปบังเกิดในภพดาวดึงส์
มีเทพอัปสรประมาณพันหนึ่งเป็ นบริวาร.
ท่านพระมหาโมคคัลลานเถระถามเทพธิดานั้น ด้วยคาถาว่า
ดูก่อนเทพธิดา ท่านมีวรรณะงาม ฯลฯ เหมือนดาวประกายพรึก
เพราะบุญอะไร ท่านจึงมีวรรณะเช่นนี้ ฯลฯ
และรัศมีของท่านจึงสว่างไสวไปทุกทิศ.
เทพธิดานั้นถูกพระโมคคัลลานเถระถามแล้วดีใจ
ก็พยากรณ์ปัญหาของกรรมที่มีผลอย่างนี้ว่า
ในชาติก่อน ครั้งเกิดเป็นมนุษย์ ดีฉันอยู่ในหมู่มนุษย์ในมนุษยโลก
ได้พบพระพุทธเจ้าผู้ปราศจากกิเลสธุลีผ่องใสไม่ขุ่นมัว ดีฉันเลื่อมใส
ก็ถวายภิกษาแด่พระองค์ด้วยมือของตนเอง เพราะบุญนั้น ดีฉันจึงมีวรรณะเช่นนี้
ฯ ล ฯ และรัศมีของดีฉันจึงสว่างไสวไปทุกทิศ.
คาที่เหลือทั้งหมดมีเนื้อความง่ายทั้งนั้น
เพราะมีนัยอันกล่าวมาแล้วในหนหลัง.
จบอรรถกถาปฐมภิกษาทายิกาวิมาน
-----------------------------------------------------