More Related Content
Similar to ๒๔. อุโปสถาวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]).docx (20)
More from maruay songtanin (20)
๒๔. อุโปสถาวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]).docx
- 1. 1
อุโปสถาวิมาน
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]
ขุททกนิกาย วิมาน-เปตวัตถุ เถร-เถรีคาถา
๗. อุโปสถาวิมาน
ว่าด้วยวิมานที่เกิดขึ้นแก่นางอุโบสถาอุบาสิกา
(พระมหาโมคคัลลานเถระถามถึงบุพกรรมของเทพธิดานั้นว่า)
[๒๒๙] เทพธิดา เธอมีผิวพรรณงามยิ่งนัก
เปล่งรัศมีสว่างไสวไปทั่วทุกทิศอยู่ ดุจดาวประกายพรึก
[๒๓๐-๒๓๑] เพราะบุญอะไรผิวพรรณเธอจึงงามเช่นนี้ ฯลฯ
และมีรัศมีกายสว่างไสวไปทั่วทุกทิศอย่างนี้
[๒๓๒] เทพธิดานั้นดีใจที่พระมหาโมคคัลลานเถระถาม
จึงตอบปัญหาผลกรรมไปตามที่พระเถระถามว่า
[๒๓๓] ชาวเมืองสาเกตรู้จักดิฉันในนามว่า อุโปสถา
ดิฉันเป็ นอุบาสิกาอยู่ในเมืองสาเกต เป็ นผู้มีศรัทธา สมบูรณ์ด้วยศีล
และยินดีแจกจ่ายทานทุกเมื่อ
[๒๓๔] ดิฉันมีใจเลื่อมใสในพระอริยเจ้าผู้ปฏิบัติตรง
จึงได้ถวายเครื่องนุ่งห่ม อาหาร เสนาสนะและเครื่องตามประทีป
[๒๓๕] ดิฉันเข้าจาอุโบสถศีล ซึ่งประกอบด้วยองค์ ๘ ทุกวัน ๑๔ ค่า ๑๕
ค่าและ ๘ ค่าแห่งปักษ์ และตลอดปาฏิหาริยปักษ์
[๒๓๖] ดิฉันสารวมระวังในศีลตลอดเวลา
และแจกจ่ายทานด้วยความเคารพจึงได้ครอบครองวิมานนี้
[๒๓๗] ดิฉันงดเว้นจากการฆ่าสัตว์ เว้นไกลจากการลักขโมย
การประพฤตินอกใจสามี สารวมระวังจากการพูดเท็จ และการดื่มน้าเมา
[๒๓๘] ดิฉันยินดีในศีล ๕ ฉลาดในอริยสัจ
เป็นอุบาสิกาของพระผู้มีพระภาคทรงพระนามว่า โคดม ผู้มีพระจักษุ มีพระยศ
[๒๓๙-๒๔๐] เพราะบุญนั้นผิวพรรณดิฉันจึงงามเช่นนี้ ฯลฯ
และมีรัศมีกายสว่างไสวไปทั่วทุกทิศอย่างนี้
(เมื่อจะแสดงโทษของตน เทพธิดานั้นจึงได้กล่าว ๒ คาถาอีกว่า)
[๒๔๑] เพราะดิฉันได้ฟังเรื่องทิพยสมบัติในสวนนันทวันเนืองๆ
จึงเกิดความพอใจขึ้น เพราะเหตุที่ดิฉันตั้งจิตปรารถนาในภพดาวดึงส์นั้น
จึงได้เกิดในสวนนันทวัน
[๒๔๒]
ดิฉันไม่ได้ปฏิบัติตามพระดารัสของพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า
เป็นเผ่าพันธุ์พระอาทิตย์ (แต่) ตั้งจิตไว้ในภพที่เลว ภายหลังจึงเดือดร้อน
- 2. 2
(เพื่อจะปลอบใจเทพธิดานั้น
พระมหาโมคคัลลานเถระจึงได้กล่าวคาถานี้ว่า)
[๒๔๓] อุโปสถาเทพธิดา เธอจะอยู่ในวิมานนี้นานเท่าไร อาตมาถามแล้ว
ถ้าเธอทราบอายุขัย จงบอกอาตมาด้วยเถิด
(เทพธิดานั้นตอบว่า)
[๒๔๔] ข้าแต่ท่านจอมปราชญ์ ดิฉันจักดารงอยู่
ในวิมานนี้นานประมาณหกหมื่นปีทิพย์ จุติจากเทวโลกนี้แล้ว
จักไปเกิดร่วมกับมวลมนุษย์
(พระมหาโมคคัลลานเถระปลุกเร้าเทพธิดานั้นให้อาจหาญด้วยคาถานี้ว่า)
[๒๔๕] อุโปสถาเทพธิดา เธออย่าสะทกสะท้าน
เพราะว่าเธอเป็นผู้ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงพยากรณ์ไว้แล้วว่า
จักบรรลุคุณวิเศษเป็ นพระโสดาบัน ทุคติเป็นอันเธอละได้แล้ว
อุโปสถาวิมานที่ ๗ จบ
-------------------------
คาอธิบายเพิ่มเติมนี้ นามาจากบางส่วนของ
อรรถกถา ขุททกนิกาย วิมานวัตถุ จิตตลดาวรรคที่ ๒
๗. อุโบสถวิมาน
อรรถกถาอุโบสถาวิมาน
อุโบสถาวิมานนั้นเกิดขึ้นอย่างไร?
อัตถุปปัตติเหตุเกิดเรื่องในข้อนี้มีแปลกกันเท่านี้ว่า
อุบาสิกาคนหนึ่งชื่ออุโบสถาในเมืองสาเกต.
คาที่เหลือเช่นเดียวกับวิมานติดๆ กัน.
ด้วยเหตุนั้น พระสังคีติกาจารย์จึงกล่าวว่า
ท่านพระมหาโมคคัลลานะถามว่า
ดูก่อนเทพธิดา ท่านมีวรรณะงาม ฯลฯ
รัศมีของท่านจึงส่องสว่างไปทุกทิศ.
เทพธิดานั้นถูกพระโมคคัลลานเถระถามแล้วดีใจ
ก็พยากรณ์ปัญหาของกรรมที่มีผลอย่างนี้ว่า
ดีฉันเป็ นอุบาสิกาอยู่ในเมืองสาเกต ประชาชนรู้จักดีฉันว่า อุโบสถา
เป็นผู้สมบูรณ์ด้วยศรัทธาและศีล ยินดีแล้วในจาแนกทานเสมอ มีจิตผ่องใส
ได้ถวายผ้านุ่งห่ม อาหาร เสนาสนะ และเครื่องประทีปในพระอริยะผู้ปฏิบัติตรง
ดีฉันได้เข้ารักษาอุโบสถศีล อันประกอบด้วยองค์ ๘ ประการ ตลอดวัน
๑๔ ค่า ๑๕ ค่าและวัน ๘ ค่าแห่งปักษ์ และตลอดปาฏิหาริยปักษ์ด้วย
เป็นผู้สารวมด้วยดีในศีลเสมอ เป็ นผู้งดเว้นจากปาณาติบาต
- 3. 3
เว้นห่างไกลจากอทินนาทาน จากการประพฤติผิดในกาม สารวมจากมุสาวาท
และจากการดื่มน้าเมา
ดีฉันเป็นผู้ยินดีในสิกขาบททั้ง ๕ มีปัญญาเฉลียวฉลาดในอริยสัจ
เป็นอุบาสิกาของพระโคดมผู้มีพระจักษุและพระเกียรติยศ เพราะบุญกรรมนั้น
ดีฉันจึงเป็ นผู้มีรัศมีเช่นนี้ ฯลฯ และรัศมีของดีฉันจึงสว่างไสวไปทุกทิศ.
เทพธิดานั้น เมื่อจะแสดงโทษอย่างหนึ่งของตน จึงได้กล่าวคาถา ๗
คาถาอีกว่า
ฉันทะความพอใจเกิดขึ้นแก่ดีฉัน
เพราะได้ฟังเรื่องสวนนันทนวันอยู่เนืองๆ ดีฉันจึงตั้งจิตไปในสวนนันทนวันนั้น
ก็เข้าถึงสวนนันทนวันได้จริงๆ
ดีฉันมิได้ทาตามพระวาจาของพระศาสดาพุทธเจ้าเผ่าพันธุ์แห่งพระอาทิตย์
ดีฉันนั้นตั้งจิตใจไว้ในภพอันเลวจึงร้อนใจในภายหลัง.
เมื่อเทพธิดานั้นประกาศความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นอันความยินดีในภพส
ร้างไว้อย่างนี้แล้ว พระเถระเพื่อจะปลอบใจด้วยมุข
คือชี้แจงอายุของภพที่กาหนดไว้ว่า
การตั้งอยู่ในอัตภาพมนุษย์ต่อไปแล้วก้าวล่วงทุกข์ในวัฏฏะเสีย จะทาก็ทาได้ง่าย
และว่าความเป็นผู้สิ้นอาสวะทุกประการ มีอานิสงส์มาก จึงกล่าวคาถาว่า
ดูก่อนอุโบสถาเทพธิดา ท่านจะอยู่ในวิมานนี้นานเท่าไร
ท่านถูกอาตมาถามแล้วโปรดบอกด้วย ถ้าท่านทราบอายุ.
นางเทพธิดานั้นตอบว่า
ข้าแต่ท่านมหาปราชญ์
ดีฉันดารงอยู่ในวิมานนี้ประมาณสามโกฏิหกหมื่นปี
จุติจากที่นี้แล้วจักไปบังเกิดเป็นมนุษย์.
พระมหาโมคคัลลานเถระทานางเทพธิดานั้นให้อาจหาญด้วยคาถานี้อีก
ว่า
ดูก่อนอุโบสถาเทพธิดา ท่านอย่ากลัวเลย
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ทรงพยากรณ์ไว้แล้วว่า ท่านบรรลุคุณพิเศษเป็นโสดาบัน
ทุคติ ท่านก็ละได้แล้วนี่.
คาที่เหลือเหมือนนัยที่กล่าวมาแล้ว.
จบอรรถกถาอุโบสถาวิมาน
-----------------------------------------------------