More Related Content
Similar to ๔๓. กัญชิกทายิกาวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]).docx (20)
More from maruay songtanin (20)
๔๓. กัญชิกทายิกาวิมาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]).docx
- 1. 1
กัญชิกทายิกาวิมาน
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]
ขุททกนิกาย วิมาน-เปตวัตถุ เถร-เถรีคาถา
๕. กัญชิกทายิกาวิมาน
ว่าด้วยวิมานที่เกิดขึ้นแก่หญิงผู้ถวายน้าข้าวปรุงผสมผลพุทราอบ
(พระมหาโมคคัลลานเถระถามเทพธิดาองค์หนึ่งว่า)
[๗๑๙] เทพธิดา เธอมีผิวพรรณงามยิ่งนัก
เปล่งรัศมีสว่างไสวไปทั่วทุกทิศอยู่ ดุจดาวประกายพรึก
[๗๒๐-๗๒๑] เพราะบุญอะไรเธอจึงมีผิวพรรณงามเช่นนี้ ฯลฯ
และมีรัศมีกายสว่างไสวไปทั่วทุกทิศอย่างนี้
[๗๒๒] เทพธิดานั้นดีใจที่พระมหาโมคคัลลานเถระถาม
จึงตอบปัญหาผลกรรมไปตามที่พระเถระถามว่า
[๗๒๓] ดิฉันเมื่ออยู่ในเมืองอันธกวินทะ
ได้ถวายน้าข้าวปรุงด้วยผลพุทราอบด้วยน้ามัน
แด่พระพุทธเจ้าผู้ทรงเป็นเผ่าพันธุ์แห่งพระอาทิตย์
[๗๒๔] มีจิตเลื่อมใสในพระผู้มีพระภาคผู้ปฏิบัติตรง
ได้ถวายน้าข้าวผสมด้วยดีปลี กระเทียม และรากผักชี
[๗๒๕] การที่นารีผู้มีเรือนร่างงามทุกส่วนสัด สามีมองไม่เบื่อ
ได้ครองความเป็นอัครมเหสีของพระเจ้าจักรพรรดินั้น ยังไม่เทียบเท่าเสี้ยวที่ ๑๖
แห่งการถวายน้าข้าวครั้งเดียว
[๗๒๖] ทองคา ๑๐๐ แท่ง ม้า ๑๐๐ ตัว ราชรถเทียมด้วยม้าอัสดร ๑๐๐
คัน หญิงสาวประดับต่างหูแก้วมณี ๑๐๐,๐๐๐ นาง ก็ยังมีค่าไม่ถึงเสี้ยวที่ ๑๖
แห่งทานคือการถวายน้าข้าวครั้งเดียว
[๗๒๗] ช้างมาตังคะ ๑๐๐ เชือก เกิดในป่าหิมพานต์ มีงางอนงาม
ทรงพลังมาก มีสายคล้องคอทองคา
ตกแต่งด้วยเครื่องลาดและเครื่องประดับที่วิจิตรบรรจงด้วยทองคา
ก็ยังมีค่าไม่ถึงเสี้ยวที่ ๑๖ ของการถวายน้าข้าวครั้งเดียว
[๗๒๘] การที่พระเจ้าจักรพรรดิได้ครอบครองทวีปทั้ง ๔ ในโลกนี้นั้น
ก็ยังมีค่าไม่ถึงเสี้ยวที่ ๑๖ แห่งการถวายน้าข้าวครั้งเดียวนั้น
กัญชิกทายิกาวิมานที่ ๕ จบ
------------------------
คาอธิบายเพิ่มเติมนี้ นามาจากบางส่วนของ
อรรถกถา ขุททกนิกาย วิมานวัตถุ มัญชิฏฐกวรรคที่ ๔
๕. กัญชกทายิกาวิมาน
อรรถกถากัญชิกทายิกาวิมาน
- 2. 2
กัญชิกทายิกาวิมานนั้นเกิดขึ้นอย่างไร?
สมัยนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าประชวรโรคลมในพระนาภี
จึงตรัสเรียกท่านพระอานนท์สั่งว่า อานนท์ เธอจงไปเที่ยวบิณฑบาต
นาน้าข้าวมาเพื่อทายาแก่เรา. ท่านพระอานนท์ทูลตอบรับพระพุทธดารัสว่า
พระพุทธเจ้าข้า. ถือบาตรที่ท้าวมหาราชถวาย
ยืนอยู่ที่ประตูนิเวศน์ของหมอผู้เป็นอุปัฏฐากของตน. ภริยาของหมอเห็นท่าน
ก็ออกไปต้อนรับไหว้แล้วรับบาตรพลางถามพระเถระว่า ต้องการยาอะไร เจ้าข้า.
เล่ากันว่า ภริยาของหมอนั้นเป็ นคนมีปัญญา สังเกตรู้ว่า
เมื่อจะประกอบยา พระเถระจึงมาที่นี้ มิใช่มาเพื่อภิกษา.
และเมื่อพระเถระบอกว่าต้องการน้าข้าว
นางคิดว่านี้มิใช่ยาสาหรับพระผู้เป็นเจ้าของเรา
บาตรนี้ก็เป็นบาตรของพระผู้มีพระภาคเจ้าโดยแท้ เอาละ
เราจะจัดน้าข้าวอันเหมาะแก่พระโลกนาถ นางดีใจเกิดความนับถือมาก
จึงปรุงยาคู ข้าวต้มด้วยพุทราและถั่วพูใส่เต็มบาตร
และจัดโภชนะอย่างอื่นเป็นบริวารของยาคูนั้นส่งไปถวาย.
พอพระผู้มีพระภาคเจ้าเสวยยาคูนั้นเท่านั้น อาพาธนั้นก็สงบ. ต่อมา
นางตายไปบังเกิดในภพดาวดึงส์ เสวยทิพยสมบัติยิ่งใหญ่ บันเทิงอยู่.
ท่านพระมหาโมคคัลลานะถามเทพธิดานั้นด้วยคาถาเหล่านี้ว่า
ดูก่อนเทพธิดา ท่านมีวรรณะงาม เปล่งรัศมีสว่างไปทุกทิศ
ดุจดาวประกายพรึก เพราะบุญอะไร ท่านจึงมีวรรณะเช่นนี้ เพราะบุญอะไร
ผลนี้จึงสาเร็จแก่ท่าน และโภคะทุกอย่างที่น่ารักจึงเกิดขึ้นแก่ท่าน.
ดูก่อนเทพีผู้มีอานุภาพมาก อาตมาขอถามท่าน
ครั้งเกิดเป็นมนุษย์ท่านทาบุญอะไร เพราะบุญอะไร
ท่านจึงมีอานุภาพรุ่งเรืองอย่างนี้ และรัศมีจึงสว่างไสวไปทุกทิศ.
เทวดานั้นดีใจ ถูกพระโมคคัลลานะถามแล้ว
ก็พยากรณ์ปัญหาของกรรมที่มีผลอย่างนี้
เทพธิดาแม้นั้นพยากรณ์ว่า
ดีฉันมีใจเลื่อมใสในพระพุทธเจ้าผู้ซื่อตรงได้ถวายน้าข้าวที่ปรุงด้วยพุท
รา อบด้วยน้ามันและผสมด้วยดีปลี กระเทียมและรากผักชี
แด่พระพุทธเจ้าผู้เป็นเผ่าพันธุ์แห่งพระอาทิตย์ ณ อันธกวินทนคร.
นารีผู้งามทั่วสรรพางค์ สามีมองไม่จืด
ครองความเป็ นมเหสีของพระเจ้าจักรพรรดิ ก็ยังไม่เท่าเสี้ยวที่ ๑๖
แห่งการถวายน้าข้าวนั้น.
ทองคาร้อยแท่ง ม้าร้อยตัว รถเทียมด้วยแม่ม้าอัสดรร้อยคัน
สาวน้อยประดับตุ้มหูแก้วมณีแสนนาง ก็ยังไม่เท่าเสี้ยวที่ ๑๖
- 3. 3
แห่งการถวายน้าข้าวครั้งหนึ่ง. ช้างตัวประเสริฐตระกูลเหมวตะ มีงาดุจงอนไถ
มีสายรัดทองคา มีที่อยู่อาศัยเป็นทอง [ถ้าทอง] ร้อยเชือก ก็ยังไม่เท่าเสี้ยวที่ ๑๖
แห่งการถวายน้าข้าวครั้งหนึ่ง.
ถึงแม้พระเจ้าจักรพรรดิ ครองความเป็นใหญ่แห่งทวีปทั้ง ๔
ก็ยังไม่เท่าเสี้ยวที่ ๑๖ แห่งการถวายน้าข้าวครั้งหนึ่ง.
เพราะเหตุนั้น เทพธิดาจึงกล่าวว่า
ดีฉันมีใจเลื่อมใสในพระพุทธเจ้าผู้ซื่อตรงได้ถวายน้าข้าวที่ผสมด้วยดีป
ลี กระเทียมและพริกไทยดังนี้.
คาที่เหลือมีนัยดังกล่าวแล้วทั้งนั้น
เมื่อเทวดานั้นชี้แจงถึงกรรมสุจริตที่ตนสั่งสมไว้แล้ว
ท่านพระมหาโมคคัลลานะก็แสดงธรรมแก่เธอพร้อมทั้งบริวารอย่างนี้แล้ว
กลับมายังมนุษยโลก กราบทูลเรื่องนั้นถวายพระผู้มีพระภาคเจ้า.
พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทาเนื้อความนั้นให้เป็ นอัตถุปปัตติเหตุเกิดขึ้น
แห่งเรื่อง ทรงแสดงธรรมในท่ามกลางบริษัท ๔.
เทศนานั้นได้เป็ นประโยชน์แก่มหาชน ดังนี้แล.
จบอรรถกถากัญชิกทายิกาวิมาน
-----------------------------------------------------