ว่าด้วย งูผู้มีคุณธรรมสูง
พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน ทรงปรารภการผูกเวรของคนมีเวร ตรัสพระธรรมเทศนานี้ ดังนี้.
ได้ยินว่า มหาอำมาตย์สองคนเป็นหัวหน้าทหารเป็นเสวกของพระเจ้าโกศล เห็นกันและกันเข้าก็ทะเลาะกัน การจองเวรของเขาทั้งสองเป็นที่รู้กันทั่วนคร พระราชา ญาติและมิตรไม่สามารถจะทำให้เขาทั้งสองสามัคคีกันได้.
อยู่มาวันหนึ่ง ในเวลาใกล้รุ่งพระศาสดาทรงตรวจดูเผ่าพันธุ์สัตว์ที่ควรแนะนำให้ตรัสรู้ ทรงเห็นอุปนิสัยแห่งโสดาปัตติมรรคของเขาทั้งสอง วันรุ่งขึ้น เสด็จสู่กรุงสาวัตถีเพื่อบิณฑบาตพระองค์เดียวเท่านั้น ประทับยืนที่ประตูเรือนของคนหนึ่ง เขาออกมารับบาตรแล้ว นิมนต์พระศาสดาให้เสด็จเข้าไปภายในเรือนปูอาสนะให้ประทับนั่ง. พระศาสดาประทับนั่งแล้ว ตรัสอานิสงส์แห่งการเจริญเมตตาแก่เขา ทรงทราบว่า มีจิตอ่อนแล้ว จึงทรงประกาศอริยสัจ เมื่อจบอริยสัจ เขาตั้งอยู่ในโสดาปัตติผล.
พระศาสดาทรงทราบว่า เขาบรรลุโสดาแล้ว ให้เขาถือบาตร ทรงพาไปประตูเรือนของอีกคนหนึ่ง. อำมาตย์นั้นก็ออกมาถวายบังคมพระศาสดากราบทูลว่า ขอเชิญเสด็จเข้าไปเถิดพระเจ้าข้า. แล้วทูลเสด็จเข้าไปยังเรือน อัญเชิญให้ประทับนั่ง. อำมาตย์ที่ตามเสด็จ ก็ถือบาตรตามเสด็จพระศาสดา เข้าไปพร้อมกับพระศาสดา. พระศาสดาตรัสพรรณนาอานิสงส์เมตตา ๑๑ ประการ ทรงทราบว่า เขามีจิตสมควรแล้ว จึงทรงประกาศสัจธรรม เมื่อจบแล้ว อำมาตย์นั้นก็ตั้งอยู่ในโสดาปัตติผล.
อำมาตย์ทั้งสองบรรลุโสดาบันแล้ว ก็แสดงโทษขอขมากันและกัน มีความสมัครสมานบันเทิงใจ มีอัธยาศัยร่วมกันด้วยประการฉะนี้. วันนั้นเอง เขาทั้งสองบริโภคร่วมกัน เฉพาะพระพักตร์ของพระผู้มีพระภาคเจ้า.
พระศาสดาเสวยภัตตาหารเสร็จแล้ว ได้เสด็จกลับพระวิหาร. อำมาตย์สองคนนั้นก็ถือดอกไม้ของหอมเครื่องลูบไล้และเนยใส น้ำผึ้ง น้ำอ้อย เป็นต้น ออกไปพร้อมกับพระศาสดา. เมื่อหมู่ภิกษุแสดงวัตรแล้ว พระศาสดาทรงประทานสุคโตวาท แล้วเสด็จเข้าพระคันธกุฎี.
ในเวลาเย็น ภิกษุทั้งหลายประชุมสนทนากัน ถึงกถาแสดงคุณของพระศาสดา ในธรรมสภาว่า ดูก่อนอาวุโสทั้งหลาย พระศาสดาทรงฝึกคนที่ฝึกไม่ได้ พระตถาคตทรงฝึกมหาอำมาตย์ทั้งสองซึ่งวิวาทกันมาช้านาน พระราชาและญาติมิตรเป็นต้น ก็ไม่สามารถจะทำให้สามัคคีกันได้ เพียงวันเดียวเท่านั้น.
พระศาสดาเสด็จมาตรัสถามว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บัดนี้ พวกเธอนั่งประชุมสนทนากันด้วยเรื่องอะไร? เมื่อภิกษุเหล่านั้นกราบทูลให้ทรงทราบแล้ว จึงตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราได้ทำให้ชนทั้งสองเหล่านี้สามัคคีกัน มิใช่บัดนี้เท่านั้น แม้เมื่อก่อน เราก็ทำชนเหล่านี้ให้สามัคคีกัน
แล้วทรงนำเรื่องในอดีตมา ตรัสว่า