SlideShare a Scribd company logo
1
มหากปิชาดก
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]
ขุททกนิกาย ชาดก ภาค ๑
๒. มหากปิชาดก (จากพระไตรปิฎก ลาดับเรื่องที่ ๔๐๗)
ว่าด้วยพญาลิงโพธิสัตว์
(พระราชาตรัสถามพญาลิงว่า)
[๘๓] พญาลิง เจ้าทอดตัวเป็ นสะพาน ให้ลิงเหล่านี้ข้ามไปโดยสวัสดี
เจ้าเป็นอะไรกับลิงเหล่านั้น ลิงเหล่านั้นเป็ นอะไรกับเจ้า
(พญาลิงกราบทูลว่า)
[๘๔] ขอเดชะพระองค์ผู้ปราบข้าศึก
ข้าพระองค์เป็นพญาลิงผู้เป็ นใหญ่ปกครองฝูงลิงเหล่านั้น
ผู้มีทั้งความเศร้าโศกและความกลัวต่อพระองค์
[๘๕] ข้าพระองค์ได้พุ่งตัวซึ่งมีเถาวัลย์ผูกติดที่ ๒ เท้าหลังอย่างมั่นคง
ไปจากต้นไม้นั้นประมาณชั่วร้อยคันธนูที่ปลดสายแล้ว
[๘๖] ข้าพระองค์นั้นพุ่งออกไปตามลมเข้าหาต้นมะม่วงนี้
ดุจเมฆถูกลมพัดขาด เมื่อไปไม่ถึง จึงใช้เท้าหน้าทั้ง ๒
จับกิ่งมะม่วงกลางอากาศนั้น
[๘๗] ข้าพเจ้านั้น ถูกกิ่งไม้และเถาวัลย์ขึงอยู่เหมือนสายพิณ
พวกลิงใช้เท้าเหยียบข้ามไปโดยสวัสดี
[๘๘] การผูกด้วยเถาวัลย์นั้นไม่ทาให้ข้าพเจ้าเดือดร้อน
ถึงตายก็ไม่เดือดร้อน ขอข้าพเจ้าได้นาความสุข
มาให้แก่ฝูงลิงที่ข้าพเจ้าปกครองอยู่(เท่านั้น)
[๘๙] ขอเดชะพระราชาผู้ปราบข้าศึก นี้เป็นอุปมาสาหรับพระองค์
ขอพระองค์ทรงสดับข้ออุปมานั้นเถิด ก็พระราชามหากษัตริย์ผู้ทรงทราบชัด
ควรจะแสวงหาความสุขมาให้แก่ชนทั้งปวง คือ ทั้งชาวแคว้น พาหนะ พลนิกาย
และชาวบ้าน
มหากปิชาดกที่ ๒ จบ
--------------------------
คาอธิบายเพิ่มเติมนามาจากบางส่วนของอรรถกถา
มหากปิชาดก
ว่าด้วย คุณธรรมของหัวหน้า
พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน
ทรงปรารภญาตัตถจริยา คือการบาเพ็ญประโยชน์เพื่อพระญาติ แล้วจึงตรัสเรื่องนี้
2
ก็ในกาลครั้งนั้น ภิกษุทั้งหลายตั้งเรื่องสนทนากันขึ้นในธรรมสภาว่า
ดูก่อนท่านผู้มีอายุ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ทรงบาเพ็ญญาตัตถจริยา.
พระศาสดาเสด็จมาแล้วตรัสถามว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
บัดนี้เธอทั้งหลายนั่งสนทนากันด้วยเรื่องราวอะไร?
เมื่อภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่าด้วยเรื่องชื่อนี้ ดังนี้แล้ว ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
ไม่เฉพาะในบัดนี้เท่านั้น แม้ในกาลก่อน ตถาคตก็บาเพ็ญญาตัตถจริยาเหมือนกัน
แล้วได้ทรงนาเอาเรื่องในอดีตมาสาธก ดังต่อไปนี้.
ในอดีตกาล เมื่อพระเจ้าพรหมทัตครองราชสมบัติอยู่ในนครพาราณสี
พระโพธิสัตว์เกิดในกาเนิดกระบี่
เติบโตแล้วถึงพร้อมด้วยส่วนยาวและส่วนกว้างสูงล่าสัน มีกาลังวังชามาก
มีพละกาลังเท่ากับช้าง ๕ เชือก มีฝูงกระบี่ ๘ หมื่นตัวเป็นบริวาร
อาศัยอยู่ที่ถิ่นดินแดนหิมพานต์.
ณ ที่นั้นได้มีต้นอัมพะ คือมะม่วง ที่คนทั้งหลายเรียกว่า ต้นนิโครธ
มีกิ่งก้านสาขาแผ่กว้าง มีใบดกหนา ร่มเงาหนา สูงเทียมยอดเขา
อาศัยฝั่งแม่คงคา. ผลของมันหวานหอมคล้ายกับกลิ่นและรสผลไม้ทิพย์
ผลใหญ่มากประมาณเท่าหม้อใบใหญ่ๆ. ผลของกิ่งๆ หนึ่งของมันหล่นลงบนบก
อีกกิ่งหนึ่งหล่นลงน้าที่แม่คงคา. ส่วนผลของ ๒ กิ่งหล่นลงที่ท่ามกลางใกล้ต้น.
พระโพธิสัตว์ เมื่อพาฝูงกระบี่ไปกินผลไม้ที่ต้นนั้นคิดว่า สักเวลาหนึ่ง
ภัยจักเกิดขึ้นแก่พวกเรา เพราะอาศัยผลไม้ต้นนี้ที่หล่นลงในน้า
แล้วจึงให้ฝูงกระบี่กินผลไม้ของกิ่งบนยอดที่ทอดไปเหนือน้า
ด้วยไม่ให้เหลือแม้แต่ผลเดียว ตั้งแต่เวลาผลเท่าแมลงหวี่ ในเวลาออกช่อ.
แม้เมื่อเป็ นเช่นนั้น ผลสุกผลหนึ่งที่ซ่อนอยู่ในรังมดแดง
ฝูงวานรแปดหมื่นตัวมองไม่เห็น หล่นลงไปในน้า
ติดที่ข่ายด้านบนของพระเจ้าพาราณสี ผู้ทรงให้ขึงไว้ทั้งด้านบนและด้านล่าง
แล้วทรงกีฬาน้า. ในเวลาที่พระราชาทรงเล่นตอนกลางวันแล้วตอนเย็นเสด็จกลับ
พวกชาวประมงพากันกู้ข่าย เห็นผลไม้สุกผลนั้น แล้วไม่รู้ว่าผลไม้นี้มีชื่อโน้น
จึงนาไปถวายพระราชาให้ทอดพระเนตร.
พระราชาตรัสถามว่า นี่ผลอะไรกัน?
ชาวประมง. ข้าพระพุทธเจ้าไม่ทราบ พระพุทธเจ้าข้า.
พระราชา. ใครจักทราบ?
ชาวประมง. พรานไพร พระพุทธเจ้าข้า.
พระราชารับสั่งให้เรียกพรานไพรมา ตรัสถามแล้ว ก็ทรงทราบว่า
เป็นผลมะม่วงสุก แล้วทรงใช้พระแสงกริชเฉือน ให้พรานไพรรับประทานก่อน
ภายหลังก็เสวยด้วยพระองค์เอง. พระราชทานให้พระสนมบ้าง
อามาตย์บ้างรับประทานกัน.
3
รสของผลมะม่วงสุกแผ่ซาบซ่านไปทั่วพระสรีระทั้งสิ้นของพระราชา.
พระราชานั้นทรงติดพระทัยในความยินดีชอบใจในรส
ได้ตรัสถามพวกพรานไพรถึงที่อยู่ของต้นไม้นั้น เมื่อพวกเขาทูลว่า
ที่ฝั่งแม่น้าในท้องถิ่นดินแดนแห่งหิมพานต์
จึงรับสั่งให้คนจานวนมากต่อเรือขนาน แล้วได้เสด็จทวนกระแสน้าขึ้นไป
ตามทางที่พวกพรานไพรทูลชี้แนะ แต่พวกพรานไม่ได้ทูลบอกกาหนดว่า
สิ้นเวลาเท่านี้วัน. ถึงที่นั้นตามลาดับแล้ว พวกพรานไพรจึงทูลพระราชาว่า
นี่คือต้นไม้ที่ประเสริฐ พระพุทธเจ้าข้า. พระราชารับสั่งให้จอดเรือไว้ที่แม่น้าแล้ว
มีมหาชนห้อมล้อมเสด็จดาเนินไป ณ ที่นั้นด้วยพระบาท
ทรงให้ปูที่บรรทมที่ควงไม้ เสวยผลมะม่วงสุก
แล้วเสวยพระกระยาหารมีรสเลิศนานาชนิดเสร็จแล้วก็บรรทม.
ราชบุรุษทั้งหลายวางยามแล้วก่อกองไฟไว้ทุกทิศ.
เมื่อมนุษย์ทั้งหลายหลับกันแล้ว
พระมหาสัตว์จึงได้ไปกับด้วยบริษัทในเวลาเที่ยงคืน. วานร ๘๐,๐๐๐
ตัวพากันไต่ไปกินผลมะม่วงสุกจากกิ่งหนึ่งไปยังกิ่งหนึ่ง.
พระราชาทรงตื่นบรรทม ทรงเห็นฝูงกระบี่ จึงทรงปลุกให้คนทั้งหลายตื่นขึ้น
แล้วรับสั่งให้เรียกพวกแม่นธนูมา แล้วตรัสว่า
พรุ่งนี้สูเจ้าทั้งหลายจงพากันล้อมยิงพวกวานรเหล่านั้น
ที่กินผลไม้โดยไม่ให้มันหนีไป. พรุ่งนี้ฉันจะกินผลมะม่วงและเนื้อวานร.
พวกแม่นธนูทูลรับพระบรมราชโองการใส่เกล้าฯ
แล้วพากันยืนล้อมต้นไม้แล้วขึ้นลูกศรไว้.
พวกวานรได้เห็นพวกเขากลัวภัยคือความตาย ไม่อาจหนีไปได้
จึงพากันเข้าไปหาพระมหาสัตว์ ยืนสั่นสะท้านอยู่พลางถามว่า ข้าแต่สมมติเทพ
พวกคนแม่นธนูยืนล้อมต้นไม้ด้วยหมายใจว่า พวกเราจักยิงลิงตัวที่หนีไป
พวกเราจักทาอย่างไรกัน? พระโพธิสัตว์ปลอบใจฝูงวานรว่า
สูเจ้าทั้งหลายอย่ากลัว ฉันจักให้ชีวิตแก่พวกเธอ แล้วได้วิ่งขึ้นกิ่งไม้กิ่งที่ชี้ไปตรงๆ
แล้วไต่กิ่งที่ชี้ไปตรงหน้าแม่น้าคงคา กระโดดจากปลายกิ่งนั้น
เลยที่ประมาณชั่วร้อยคันธนูไปตกลงที่ยอดพุ่มไม้พุ่มหนึ่ง ลงจากพุ่มไม้นั้นแล้ว
กาหนดอากาศระยะทางไว้ว่า ที่ๆ เรามาประมาณเท่านี้
แล้วกัดเครือหวายเถาหนึ่งที่โคนแกะกาบออกแล้ว กะช่วงระยะไว้ ๒ ช่วงนี้ คือ
ช่วงระยะเท่านี้จักผูกต้นไม้ช่วงระยะเท่านี้ จักขึงไปในอากาศ
แต่ไม่ได้กะช่วงระยะสาหรับผูกสะเอวของตน.
เขาลากเอาเครือหวายเถานั้นไปผูกเส้นหนึ่งไว้ที่ต้นไม้ที่ขึ้นอยู่ริมฝั่งแ
ม่น้าคงคา ผูกเส้นหนึ่งไว้ที่สะเอวของตน
กระโดดไปสู่สถานที่ประมาณชั่วร้อยคันธนูโดยเร็ว
4
เหมือนเมฆถูกลมพัดหอบไปฉะนั้น เพราะไม่ได้กะช่วงระยะที่ผูกสะเอวไว้
จึงไม่อาจจะขึงต้นไม้ได้จึงเอามือทั้ง ๒ ยึดกิ่งมะม่วงไว้ให้แน่นแล้ว
ได้ให้สัญญาณแก่ฝูงวานรว่า
สูเจ้าทั้งหลายจงเหยียบหลังฉันไต่ไปอย่างปลอดภัยตามเครือหวายโดยเร็ว.
วานร ๘ หมื่นตัวไหว้ขอขมาพระมหาสัตว์แล้วได้ไปอย่างนั้น.
ฝ่ายพระเทวทัตครั้งนั้นเป็ นลิงอยู่ในจานวนลิงเหล่านั้น คิดว่า
นี้เป็ นเวลาที่จะได้เห็นหลังศัตรูของเราแล้ว จึงขึ้นกิ่งไม้สูงให้เกิดกาลังเร็ว
แล้วตกลงบนหลังของพระมหาสัตว์
กระโดดลงเหยียบหลังพระมหาสัตว์ด้วยกาลังเร็ว หัวใจของพระมหาสัตว์แตก
เกิดเวทนามีกาลังแรงกล้าขึ้น.
ฝ่ายลิงเทวทัตนั้น ทาพระมหาสัตว์นั้นให้ได้รับเวทนาแล้วก็หลีกไป.
พระมหาสัตว์ได้อยู่ลาพังตัวเดียว. พระราชาบรรทมยังไม่หลับ
ทอดพระเนตรเห็นกิริยาที่พวกวานร และพระมหาสัตว์กระทาทุกอย่างแล้ว
ทรงบรรทมพลางดาริว่า วานรตัวนี้เป็นสัตว์เดียรฉาน
ได้ทาความสวัสดีแก่บริษัททีเดียว โดยมิได้คานึงถึงชีวิตของตน.
เมื่อสว่างแล้ว พระองค์ทรงพอพระทัยต่อพระมหาสัตว์ ทรงดาริว่า
เราไม่ควรให้ขุนกระบี่นี้พินาศไป เราจักให้เอาขุนกระบี่นั้นลงมาปฏิบัติรักษา
แล้วได้รับสั่งให้จอดเรือขนานไว้ภายในแม่น้าคงคา
ทรงให้ผูกกรงไว้บนนั้นแล้วให้ค่อยๆ ยกขุนกระบี่ลงมา
แล้วรับสั่งให้คลุมผ้ากาสาวพัสตร์บนหลัง ให้อาบน้าในแม่น้าคงคา ให้ดื่มน้าอ้อย
ให้เอาน้ามันที่เจียวแล้วพันครั้ง ชะโลมบนหลัง ให้ปูหนังแพะบนที่นอนแล้ว
ทรงให้ขุนกระบี่นั้นนอนบนที่นอนนั้น
พระองค์เองประทับนั่งบนอาสนะต่า ได้ตรัสคาถาที่ ๑ ว่า
ดูก่อนขุนกระบี่
ท่านได้ทอดตัวเป็นสะพานให้เหล่าวานรข้ามไปโดยสวัสดี
ท่านเป็นอะไรกับวานรเหล่านั้น และวานรเหล่านั้นเป็ นอะไรกับท่าน?
คาถานั้นมีเนื้อความว่า ดูก่อนขุนกระบี่ผู้เจริญ
ท่านทาตนให้เป็นสะพานคือยกตนให้เป็นคาน
แล้วสละชีพให้ฝูงวานรเหล่านี้ข้ามไปโดยสวัสดี คือให้ข้ามไปโดยเกษม.
ท่านได้เป็นอะไรกับพวกเขาหรือพวกเขาเหล่านี้ ได้เป็ นอะไรกับท่าน
หรือวานรเหล่านี้เป็ นอะไรกับเรา.
พระโพธิสัตว์ได้สดับคานั้นแล้ว เมื่อจะตักเตือนพระราชา
จึงกล่าวคาถาที่เหลือว่า
ข้าแต่พระองค์ผู้ทรงปราบข้าศึก ข้าพระองค์เป็ นพญาวานรผู้เป็นใหญ่
ปกครองฝูงวานรเหล่านั้น เมื่อพวกเขาถูกความโศกครอบงา หวาดกลัวพระองค์.
5
ข้าพระองค์ได้ทะยานพุ่งตัว ที่มีเครื่องผูก คือเถาวัลย์ผูกสะเอวไว้แน่น
ไปจากต้นไม้ต้นนั้น ชั่วระยะร้อยคันธนูที่ปลดสายแล้ว
กลับมาถึงต้นไม้เหมือนเมฆถูกลมหอบไปฉะนั้น
แต่ข้าพระองค์นั้นไปไม่ถึงต้นไม้นั้น จึงได้ใช้มือจับกิ่งไม้ไว้.
พวกวานรได้พากันเอาเท้าเหยียบข้าพระองค์นั้น
ผู้ถูกกิ่งไม้และเถาวัลย์รั้งไว้จนตึง เหมือนสายพิณที่ขึงตึง แล้วไต่ไปโดยสวัสดี.
การผูกมัดไว้ จึงไม่เผาลนข้าพระองค์ให้เดือดร้อน
ผู้ฆ่าก็จักไม่ให้ข้าพระองค์เดือดร้อน
เพราะข้าพระองค์ได้นาความสุขมาให้เหล่าวานรที่ให้ข้าพระองค์ครองความเป็ นใ
หญ่.
ข้าแต่พระราชาผู้ทรงปราบข้าศึก
ข้าพระองค์จะยกอุปมาถวายพระองค์ ขอพระองค์จงทรงสดับข้ออุปมานั้น
ธรรมดากษัตริย์ผู้เป็ นพระราชา ทรงพระปรีชาสามารถ
ควรแสวงหาความสุขให้แก่รัฐ ยวดยานพาหนะ กาลังพล และนิคมทั่วหน้ากัน.
วันนี้ ข้าพระองค์ได้บาบัดมรณทุกข์นั้น
แล้วนาความสุขมาให้พวกวานรเหล่านั้นแล้ว ด้วยเหตุนั้น
การผูกมัดไว้จึงไม่เผารนข้าพระองค์ให้เดือดร้อน
เพชฌฆาตคือมรณะก็จักไม่ยังข้าพระองค์ให้เดือดร้อน.
ข้าแต่มหาราช ธรรมดาพระราชาผู้ไม่ทรงบีบคั้นแว่นแคว้นราษฎร
เหมือนหีบอ้อยเลย ทรงละการลุอานาจอคติ ผูกใจเขาอยู่ด้วยสังคหวัตถุธรรม ๔
อย่าง ทรงดารงอยู่ในราชธรรม ๑๐ ประการ
แล้วทรงสละชีวิตของตนเหมือนข้าพระองค์ แล้วควรแสวงหา
คือเสาะหาความสุขเท่านั้น แก่แว่นแคว้นทั้งสิ้น
ยานพาหนะที่เทียมแล้วมีรถและเกวียนเป็ นต้นที่ชื่อว่า ยวดยานกาลังพล
กล่าวคือพลเดินเท้า และแก่นิคม
กล่าวคือนิคมและชนบททั่วหน้ากันด้วยพระดาริว่า
เราจักมีประโยชน์อะไรสาหรับท่านราษฎรทั้งหลาย ปราศจากความหวาดกลัว
หน้าร้อนเปิดประตูได้ ญาติและมิตรทั้งหลายห้อมล้อมแล้ว ให้บุตรหลานชื่นใจ
ลมเย็นโชยมา รับประทานอาหารซึ่งเป็ นของตนตามชอบใจ
ควรเป็ นผู้พร้อมพรั่งด้วยความสุขกายสบายใจ.
มหาสัตว์
เมื่อตักเตือนและพร่าสอนพระราชาอย่างนี้อยู่ก็ได้ถึงแก่กรรม.
พระราชาตรัสเรียกอามาตย์มาแล้วตรัสว่า
เธอทั้งหลายจงทาสรีรกิจของขุนกระบี่นี้ให้เหมือนสรีรกิจของพระราชา
แม้ในฝ่ายใน คือเรือนนางสนม ห้องพระมเหสี ก็ทรงบังคับว่า
6
เธอทั้งหลายจงพากันนุ่งห่มผ้าแดง สยายผม มีหัตถ์ถือประทีปด้าม
ห้อมล้อมขุนกระบี่ไปป่าช้า.
อามาตย์ทั้งหลายตั้งเชิงตะกอนด้วยฟืนเท่าลาเกวียน เผาศพมหาสัตว์
ทานองเดียวกับถวายพระเพลิงพระราชา.
แล้วได้ถือกระโหลกศีรษะไปสู่สานักพระราชา.
พระราชาทรงให้สร้างเจดีย์ไว้ที่ป่าช้าของมหาสัตว์ให้ตามประทีป
บูชาด้วยของหอมและดอกไม้เป็นต้น แล้วทรงให้เลี่ยมกระโหลกศีรษะด้วยทองคา
วางไว้ที่ปลายหลาว ให้สร้างไว้ข้างหน้า
ทรงบูชาอยู่ด้วยของหอมและดอกไม้เป็นต้น จึงเสด็จไปเมืองพาราณสี
ให้ตั้งไว้ที่ประตูพระราชวัง แล้วทรงให้ตระเตรียมพระนคร
กระทาการบูชาธาตุตลอด ๗ วัน.
ต่อมา พระองค์ก็ทรงให้รับเอาธาตุนั้นมาสร้างเจดีย์ไว้
บูชาด้วยของหอมและดอกไม้เป็นต้น ตลอดพระชนม์ชีพ
ทรงดารงอยู่ในโอวาทของพระโพธิสัตว์ บาเพ็ญบุญมีทานเป็นต้น
ครองราชสมบัติโดยธรรม แล้วได้มีสวรรค์เป็นที่ไปในเบื้องหน้า.
พระศาสดา
ครั้นทรงนาพระธรรมเทศนานี้มาแล้ว ทรงประกาศสัจธรรมทั้งหลาย แล้วทรงประ
ชุมชาดกไว้ว่า.
พระราชาในครั้งนั้น ได้แก่ พระอานนท์ ในบัดนี้
ลิงวายร้ายได้แก่ พระเทวทัต
บริษัททั้งหลายได้แก่ พุทธบริษัท
ส่วนขุนกระบี่ ได้แก่ เราตถาคต ฉะนี้แล.
จบอรรถกถามหากปิชาดกที่ ๒
-----------------------------------------------------

More Related Content

Similar to 407 มหากปิชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx

357 ลฏุกิกชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
357 ลฏุกิกชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx357 ลฏุกิกชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
357 ลฏุกิกชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
maruay songtanin
 
176 กฬายมุฏฐิชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
176 กฬายมุฏฐิชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ...176 กฬายมุฏฐิชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
176 กฬายมุฏฐิชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
maruay songtanin
 
294 ชัมพุขาทกชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
294 ชัมพุขาทกชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ...294 ชัมพุขาทกชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
294 ชัมพุขาทกชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
maruay songtanin
 
187 จตุมัฏฐชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
187 จตุมัฏฐชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....187 จตุมัฏฐชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
187 จตุมัฏฐชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
maruay songtanin
 
215 กัจฉปชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]ร.docx
215 กัจฉปชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]ร.docx215 กัจฉปชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]ร.docx
215 กัจฉปชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]ร.docx
maruay songtanin
 
335 ชัมพุกชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
335 ชัมพุกชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx335 ชัมพุกชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
335 ชัมพุกชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
maruay songtanin
 
434 จักกวากชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
434 จักกวากชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....434 จักกวากชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
434 จักกวากชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
maruay songtanin
 
298 อุทุมพรชาดกพระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
298 อุทุมพรชาดกพระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx298 อุทุมพรชาดกพระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
298 อุทุมพรชาดกพระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
maruay songtanin
 
503 สัตติคุมพชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
503 สัตติคุมพชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ...503 สัตติคุมพชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
503 สัตติคุมพชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
maruay songtanin
 
484 สาลิเกทารชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
484 สาลิเกทารชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ...484 สาลิเกทารชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
484 สาลิเกทารชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
maruay songtanin
 
481 ตักการิยชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
481 ตักการิยชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...481 ตักการิยชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
481 ตักการิยชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
maruay songtanin
 
221 กาสาวชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
221 กาสาวชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx221 กาสาวชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
221 กาสาวชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
maruay songtanin
 
277 โรมชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
277 โรมชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx277 โรมชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
277 โรมชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
maruay songtanin
 
349 สันธิเภทชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
349 สันธิเภทชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...349 สันธิเภทชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
349 สันธิเภทชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
maruay songtanin
 
511 กิงฉันทชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
511 กิงฉันทชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....511 กิงฉันทชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
511 กิงฉันทชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
maruay songtanin
 
490 ปัญจุโปสถิกชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬ...
490 ปัญจุโปสถิกชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬ...490 ปัญจุโปสถิกชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬ...
490 ปัญจุโปสถิกชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬ...
maruay songtanin
 
295 อันตชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
295 อันตชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx295 อันตชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
295 อันตชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
maruay songtanin
 
389 สุวัณณกักกฏกชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุ...
389 สุวัณณกักกฏกชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุ...389 สุวัณณกักกฏกชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุ...
389 สุวัณณกักกฏกชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุ...
maruay songtanin
 
274 โลลชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
274 โลลชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx274 โลลชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
274 โลลชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
maruay songtanin
 
260 ทูตชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
260 ทูตชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx260 ทูตชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
260 ทูตชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
maruay songtanin
 

Similar to 407 มหากปิชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx (20)

357 ลฏุกิกชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
357 ลฏุกิกชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx357 ลฏุกิกชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
357 ลฏุกิกชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
 
176 กฬายมุฏฐิชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
176 กฬายมุฏฐิชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ...176 กฬายมุฏฐิชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
176 กฬายมุฏฐิชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
 
294 ชัมพุขาทกชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
294 ชัมพุขาทกชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ...294 ชัมพุขาทกชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
294 ชัมพุขาทกชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
 
187 จตุมัฏฐชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
187 จตุมัฏฐชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....187 จตุมัฏฐชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
187 จตุมัฏฐชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
 
215 กัจฉปชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]ร.docx
215 กัจฉปชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]ร.docx215 กัจฉปชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]ร.docx
215 กัจฉปชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]ร.docx
 
335 ชัมพุกชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
335 ชัมพุกชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx335 ชัมพุกชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
335 ชัมพุกชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
 
434 จักกวากชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
434 จักกวากชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....434 จักกวากชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
434 จักกวากชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
 
298 อุทุมพรชาดกพระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
298 อุทุมพรชาดกพระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx298 อุทุมพรชาดกพระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
298 อุทุมพรชาดกพระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
 
503 สัตติคุมพชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
503 สัตติคุมพชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ...503 สัตติคุมพชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
503 สัตติคุมพชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
 
484 สาลิเกทารชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
484 สาลิเกทารชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ...484 สาลิเกทารชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
484 สาลิเกทารชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
 
481 ตักการิยชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
481 ตักการิยชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...481 ตักการิยชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
481 ตักการิยชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
 
221 กาสาวชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
221 กาสาวชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx221 กาสาวชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
221 กาสาวชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
 
277 โรมชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
277 โรมชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx277 โรมชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
277 โรมชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
 
349 สันธิเภทชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
349 สันธิเภทชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...349 สันธิเภทชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
349 สันธิเภทชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
 
511 กิงฉันทชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
511 กิงฉันทชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....511 กิงฉันทชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
511 กิงฉันทชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
 
490 ปัญจุโปสถิกชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬ...
490 ปัญจุโปสถิกชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬ...490 ปัญจุโปสถิกชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬ...
490 ปัญจุโปสถิกชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬ...
 
295 อันตชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
295 อันตชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx295 อันตชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
295 อันตชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
 
389 สุวัณณกักกฏกชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุ...
389 สุวัณณกักกฏกชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุ...389 สุวัณณกักกฏกชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุ...
389 สุวัณณกักกฏกชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุ...
 
274 โลลชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
274 โลลชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx274 โลลชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
274 โลลชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
 
260 ทูตชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
260 ทูตชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx260 ทูตชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
260 ทูตชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
 

More from maruay songtanin

ผู้นำที่มีความเห็นอกเห็นใจ Compassionate leadership.pdf
ผู้นำที่มีความเห็นอกเห็นใจ Compassionate leadership.pdfผู้นำที่มีความเห็นอกเห็นใจ Compassionate leadership.pdf
ผู้นำที่มีความเห็นอกเห็นใจ Compassionate leadership.pdf
maruay songtanin
 
537 มหาสุตโสมชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
537 มหาสุตโสมชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ...537 มหาสุตโสมชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
537 มหาสุตโสมชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
maruay songtanin
 
536 กุณาลชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
536 กุณาลชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx536 กุณาลชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
536 กุณาลชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
maruay songtanin
 
535 สุธาโภชนชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
535 สุธาโภชนชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...535 สุธาโภชนชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
535 สุธาโภชนชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
maruay songtanin
 
534 มหาหังสชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
534 มหาหังสชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....534 มหาหังสชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
534 มหาหังสชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
maruay songtanin
 
533 จูฬหังสชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
533 จูฬหังสชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....533 จูฬหังสชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
533 จูฬหังสชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
maruay songtanin
 
532 โสณนันทชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
532 โสณนันทชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....532 โสณนันทชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
532 โสณนันทชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
maruay songtanin
 
531 กุสชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
531 กุสชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx531 กุสชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
531 กุสชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
maruay songtanin
 
530 สังกิจจชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
530 สังกิจจชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....530 สังกิจจชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
530 สังกิจจชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
maruay songtanin
 
529 โสณกชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
529 โสณกชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx529 โสณกชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
529 โสณกชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
maruay songtanin
 
528 มหาโพธิชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
528 มหาโพธิชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....528 มหาโพธิชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
528 มหาโพธิชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
maruay songtanin
 
527 อุมมาทันตีชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬา...
527 อุมมาทันตีชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬา...527 อุมมาทันตีชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬา...
527 อุมมาทันตีชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬา...
maruay songtanin
 
526 นฬินิกาชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
526 นฬินิกาชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....526 นฬินิกาชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
526 นฬินิกาชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
maruay songtanin
 
525 จูฬสุตโสมชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
525 จูฬสุตโสมชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ...525 จูฬสุตโสมชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
525 จูฬสุตโสมชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
maruay songtanin
 
524 สังขปาลชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
524 สังขปาลชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....524 สังขปาลชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
524 สังขปาลชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
maruay songtanin
 
523 อลัมพุสาชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
523 อลัมพุสาชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...523 อลัมพุสาชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
523 อลัมพุสาชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
maruay songtanin
 
522 สรภังคชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
522 สรภังคชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx522 สรภังคชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
522 สรภังคชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
maruay songtanin
 
521 เตสกุณชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
521 เตสกุณชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx521 เตสกุณชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
521 เตสกุณชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
maruay songtanin
 
520 คันธตินทุกชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬา...
520 คันธตินทุกชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬา...520 คันธตินทุกชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬา...
520 คันธตินทุกชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬา...
maruay songtanin
 
519 สัมพุลาชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
519 สัมพุลาชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....519 สัมพุลาชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
519 สัมพุลาชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
maruay songtanin
 

More from maruay songtanin (20)

ผู้นำที่มีความเห็นอกเห็นใจ Compassionate leadership.pdf
ผู้นำที่มีความเห็นอกเห็นใจ Compassionate leadership.pdfผู้นำที่มีความเห็นอกเห็นใจ Compassionate leadership.pdf
ผู้นำที่มีความเห็นอกเห็นใจ Compassionate leadership.pdf
 
537 มหาสุตโสมชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
537 มหาสุตโสมชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ...537 มหาสุตโสมชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
537 มหาสุตโสมชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
 
536 กุณาลชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
536 กุณาลชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx536 กุณาลชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
536 กุณาลชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
 
535 สุธาโภชนชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
535 สุธาโภชนชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...535 สุธาโภชนชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
535 สุธาโภชนชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
 
534 มหาหังสชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
534 มหาหังสชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....534 มหาหังสชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
534 มหาหังสชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
 
533 จูฬหังสชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
533 จูฬหังสชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....533 จูฬหังสชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
533 จูฬหังสชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
 
532 โสณนันทชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
532 โสณนันทชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....532 โสณนันทชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
532 โสณนันทชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
 
531 กุสชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
531 กุสชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx531 กุสชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
531 กุสชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
 
530 สังกิจจชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
530 สังกิจจชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....530 สังกิจจชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
530 สังกิจจชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
 
529 โสณกชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
529 โสณกชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx529 โสณกชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
529 โสณกชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
 
528 มหาโพธิชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
528 มหาโพธิชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....528 มหาโพธิชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
528 มหาโพธิชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
 
527 อุมมาทันตีชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬา...
527 อุมมาทันตีชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬา...527 อุมมาทันตีชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬา...
527 อุมมาทันตีชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬา...
 
526 นฬินิกาชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
526 นฬินิกาชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....526 นฬินิกาชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
526 นฬินิกาชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
 
525 จูฬสุตโสมชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
525 จูฬสุตโสมชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ...525 จูฬสุตโสมชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
525 จูฬสุตโสมชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
 
524 สังขปาลชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
524 สังขปาลชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....524 สังขปาลชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
524 สังขปาลชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
 
523 อลัมพุสาชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
523 อลัมพุสาชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...523 อลัมพุสาชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
523 อลัมพุสาชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
 
522 สรภังคชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
522 สรภังคชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx522 สรภังคชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
522 สรภังคชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
 
521 เตสกุณชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
521 เตสกุณชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx521 เตสกุณชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
521 เตสกุณชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
 
520 คันธตินทุกชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬา...
520 คันธตินทุกชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬา...520 คันธตินทุกชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬา...
520 คันธตินทุกชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬา...
 
519 สัมพุลาชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
519 สัมพุลาชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....519 สัมพุลาชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
519 สัมพุลาชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
 

407 มหากปิชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx

  • 1. 1 มหากปิชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ] ขุททกนิกาย ชาดก ภาค ๑ ๒. มหากปิชาดก (จากพระไตรปิฎก ลาดับเรื่องที่ ๔๐๗) ว่าด้วยพญาลิงโพธิสัตว์ (พระราชาตรัสถามพญาลิงว่า) [๘๓] พญาลิง เจ้าทอดตัวเป็ นสะพาน ให้ลิงเหล่านี้ข้ามไปโดยสวัสดี เจ้าเป็นอะไรกับลิงเหล่านั้น ลิงเหล่านั้นเป็ นอะไรกับเจ้า (พญาลิงกราบทูลว่า) [๘๔] ขอเดชะพระองค์ผู้ปราบข้าศึก ข้าพระองค์เป็นพญาลิงผู้เป็ นใหญ่ปกครองฝูงลิงเหล่านั้น ผู้มีทั้งความเศร้าโศกและความกลัวต่อพระองค์ [๘๕] ข้าพระองค์ได้พุ่งตัวซึ่งมีเถาวัลย์ผูกติดที่ ๒ เท้าหลังอย่างมั่นคง ไปจากต้นไม้นั้นประมาณชั่วร้อยคันธนูที่ปลดสายแล้ว [๘๖] ข้าพระองค์นั้นพุ่งออกไปตามลมเข้าหาต้นมะม่วงนี้ ดุจเมฆถูกลมพัดขาด เมื่อไปไม่ถึง จึงใช้เท้าหน้าทั้ง ๒ จับกิ่งมะม่วงกลางอากาศนั้น [๘๗] ข้าพเจ้านั้น ถูกกิ่งไม้และเถาวัลย์ขึงอยู่เหมือนสายพิณ พวกลิงใช้เท้าเหยียบข้ามไปโดยสวัสดี [๘๘] การผูกด้วยเถาวัลย์นั้นไม่ทาให้ข้าพเจ้าเดือดร้อน ถึงตายก็ไม่เดือดร้อน ขอข้าพเจ้าได้นาความสุข มาให้แก่ฝูงลิงที่ข้าพเจ้าปกครองอยู่(เท่านั้น) [๘๙] ขอเดชะพระราชาผู้ปราบข้าศึก นี้เป็นอุปมาสาหรับพระองค์ ขอพระองค์ทรงสดับข้ออุปมานั้นเถิด ก็พระราชามหากษัตริย์ผู้ทรงทราบชัด ควรจะแสวงหาความสุขมาให้แก่ชนทั้งปวง คือ ทั้งชาวแคว้น พาหนะ พลนิกาย และชาวบ้าน มหากปิชาดกที่ ๒ จบ -------------------------- คาอธิบายเพิ่มเติมนามาจากบางส่วนของอรรถกถา มหากปิชาดก ว่าด้วย คุณธรรมของหัวหน้า พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน ทรงปรารภญาตัตถจริยา คือการบาเพ็ญประโยชน์เพื่อพระญาติ แล้วจึงตรัสเรื่องนี้
  • 2. 2 ก็ในกาลครั้งนั้น ภิกษุทั้งหลายตั้งเรื่องสนทนากันขึ้นในธรรมสภาว่า ดูก่อนท่านผู้มีอายุ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ทรงบาเพ็ญญาตัตถจริยา. พระศาสดาเสด็จมาแล้วตรัสถามว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บัดนี้เธอทั้งหลายนั่งสนทนากันด้วยเรื่องราวอะไร? เมื่อภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่าด้วยเรื่องชื่อนี้ ดังนี้แล้ว ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ไม่เฉพาะในบัดนี้เท่านั้น แม้ในกาลก่อน ตถาคตก็บาเพ็ญญาตัตถจริยาเหมือนกัน แล้วได้ทรงนาเอาเรื่องในอดีตมาสาธก ดังต่อไปนี้. ในอดีตกาล เมื่อพระเจ้าพรหมทัตครองราชสมบัติอยู่ในนครพาราณสี พระโพธิสัตว์เกิดในกาเนิดกระบี่ เติบโตแล้วถึงพร้อมด้วยส่วนยาวและส่วนกว้างสูงล่าสัน มีกาลังวังชามาก มีพละกาลังเท่ากับช้าง ๕ เชือก มีฝูงกระบี่ ๘ หมื่นตัวเป็นบริวาร อาศัยอยู่ที่ถิ่นดินแดนหิมพานต์. ณ ที่นั้นได้มีต้นอัมพะ คือมะม่วง ที่คนทั้งหลายเรียกว่า ต้นนิโครธ มีกิ่งก้านสาขาแผ่กว้าง มีใบดกหนา ร่มเงาหนา สูงเทียมยอดเขา อาศัยฝั่งแม่คงคา. ผลของมันหวานหอมคล้ายกับกลิ่นและรสผลไม้ทิพย์ ผลใหญ่มากประมาณเท่าหม้อใบใหญ่ๆ. ผลของกิ่งๆ หนึ่งของมันหล่นลงบนบก อีกกิ่งหนึ่งหล่นลงน้าที่แม่คงคา. ส่วนผลของ ๒ กิ่งหล่นลงที่ท่ามกลางใกล้ต้น. พระโพธิสัตว์ เมื่อพาฝูงกระบี่ไปกินผลไม้ที่ต้นนั้นคิดว่า สักเวลาหนึ่ง ภัยจักเกิดขึ้นแก่พวกเรา เพราะอาศัยผลไม้ต้นนี้ที่หล่นลงในน้า แล้วจึงให้ฝูงกระบี่กินผลไม้ของกิ่งบนยอดที่ทอดไปเหนือน้า ด้วยไม่ให้เหลือแม้แต่ผลเดียว ตั้งแต่เวลาผลเท่าแมลงหวี่ ในเวลาออกช่อ. แม้เมื่อเป็ นเช่นนั้น ผลสุกผลหนึ่งที่ซ่อนอยู่ในรังมดแดง ฝูงวานรแปดหมื่นตัวมองไม่เห็น หล่นลงไปในน้า ติดที่ข่ายด้านบนของพระเจ้าพาราณสี ผู้ทรงให้ขึงไว้ทั้งด้านบนและด้านล่าง แล้วทรงกีฬาน้า. ในเวลาที่พระราชาทรงเล่นตอนกลางวันแล้วตอนเย็นเสด็จกลับ พวกชาวประมงพากันกู้ข่าย เห็นผลไม้สุกผลนั้น แล้วไม่รู้ว่าผลไม้นี้มีชื่อโน้น จึงนาไปถวายพระราชาให้ทอดพระเนตร. พระราชาตรัสถามว่า นี่ผลอะไรกัน? ชาวประมง. ข้าพระพุทธเจ้าไม่ทราบ พระพุทธเจ้าข้า. พระราชา. ใครจักทราบ? ชาวประมง. พรานไพร พระพุทธเจ้าข้า. พระราชารับสั่งให้เรียกพรานไพรมา ตรัสถามแล้ว ก็ทรงทราบว่า เป็นผลมะม่วงสุก แล้วทรงใช้พระแสงกริชเฉือน ให้พรานไพรรับประทานก่อน ภายหลังก็เสวยด้วยพระองค์เอง. พระราชทานให้พระสนมบ้าง อามาตย์บ้างรับประทานกัน.
  • 3. 3 รสของผลมะม่วงสุกแผ่ซาบซ่านไปทั่วพระสรีระทั้งสิ้นของพระราชา. พระราชานั้นทรงติดพระทัยในความยินดีชอบใจในรส ได้ตรัสถามพวกพรานไพรถึงที่อยู่ของต้นไม้นั้น เมื่อพวกเขาทูลว่า ที่ฝั่งแม่น้าในท้องถิ่นดินแดนแห่งหิมพานต์ จึงรับสั่งให้คนจานวนมากต่อเรือขนาน แล้วได้เสด็จทวนกระแสน้าขึ้นไป ตามทางที่พวกพรานไพรทูลชี้แนะ แต่พวกพรานไม่ได้ทูลบอกกาหนดว่า สิ้นเวลาเท่านี้วัน. ถึงที่นั้นตามลาดับแล้ว พวกพรานไพรจึงทูลพระราชาว่า นี่คือต้นไม้ที่ประเสริฐ พระพุทธเจ้าข้า. พระราชารับสั่งให้จอดเรือไว้ที่แม่น้าแล้ว มีมหาชนห้อมล้อมเสด็จดาเนินไป ณ ที่นั้นด้วยพระบาท ทรงให้ปูที่บรรทมที่ควงไม้ เสวยผลมะม่วงสุก แล้วเสวยพระกระยาหารมีรสเลิศนานาชนิดเสร็จแล้วก็บรรทม. ราชบุรุษทั้งหลายวางยามแล้วก่อกองไฟไว้ทุกทิศ. เมื่อมนุษย์ทั้งหลายหลับกันแล้ว พระมหาสัตว์จึงได้ไปกับด้วยบริษัทในเวลาเที่ยงคืน. วานร ๘๐,๐๐๐ ตัวพากันไต่ไปกินผลมะม่วงสุกจากกิ่งหนึ่งไปยังกิ่งหนึ่ง. พระราชาทรงตื่นบรรทม ทรงเห็นฝูงกระบี่ จึงทรงปลุกให้คนทั้งหลายตื่นขึ้น แล้วรับสั่งให้เรียกพวกแม่นธนูมา แล้วตรัสว่า พรุ่งนี้สูเจ้าทั้งหลายจงพากันล้อมยิงพวกวานรเหล่านั้น ที่กินผลไม้โดยไม่ให้มันหนีไป. พรุ่งนี้ฉันจะกินผลมะม่วงและเนื้อวานร. พวกแม่นธนูทูลรับพระบรมราชโองการใส่เกล้าฯ แล้วพากันยืนล้อมต้นไม้แล้วขึ้นลูกศรไว้. พวกวานรได้เห็นพวกเขากลัวภัยคือความตาย ไม่อาจหนีไปได้ จึงพากันเข้าไปหาพระมหาสัตว์ ยืนสั่นสะท้านอยู่พลางถามว่า ข้าแต่สมมติเทพ พวกคนแม่นธนูยืนล้อมต้นไม้ด้วยหมายใจว่า พวกเราจักยิงลิงตัวที่หนีไป พวกเราจักทาอย่างไรกัน? พระโพธิสัตว์ปลอบใจฝูงวานรว่า สูเจ้าทั้งหลายอย่ากลัว ฉันจักให้ชีวิตแก่พวกเธอ แล้วได้วิ่งขึ้นกิ่งไม้กิ่งที่ชี้ไปตรงๆ แล้วไต่กิ่งที่ชี้ไปตรงหน้าแม่น้าคงคา กระโดดจากปลายกิ่งนั้น เลยที่ประมาณชั่วร้อยคันธนูไปตกลงที่ยอดพุ่มไม้พุ่มหนึ่ง ลงจากพุ่มไม้นั้นแล้ว กาหนดอากาศระยะทางไว้ว่า ที่ๆ เรามาประมาณเท่านี้ แล้วกัดเครือหวายเถาหนึ่งที่โคนแกะกาบออกแล้ว กะช่วงระยะไว้ ๒ ช่วงนี้ คือ ช่วงระยะเท่านี้จักผูกต้นไม้ช่วงระยะเท่านี้ จักขึงไปในอากาศ แต่ไม่ได้กะช่วงระยะสาหรับผูกสะเอวของตน. เขาลากเอาเครือหวายเถานั้นไปผูกเส้นหนึ่งไว้ที่ต้นไม้ที่ขึ้นอยู่ริมฝั่งแ ม่น้าคงคา ผูกเส้นหนึ่งไว้ที่สะเอวของตน กระโดดไปสู่สถานที่ประมาณชั่วร้อยคันธนูโดยเร็ว
  • 4. 4 เหมือนเมฆถูกลมพัดหอบไปฉะนั้น เพราะไม่ได้กะช่วงระยะที่ผูกสะเอวไว้ จึงไม่อาจจะขึงต้นไม้ได้จึงเอามือทั้ง ๒ ยึดกิ่งมะม่วงไว้ให้แน่นแล้ว ได้ให้สัญญาณแก่ฝูงวานรว่า สูเจ้าทั้งหลายจงเหยียบหลังฉันไต่ไปอย่างปลอดภัยตามเครือหวายโดยเร็ว. วานร ๘ หมื่นตัวไหว้ขอขมาพระมหาสัตว์แล้วได้ไปอย่างนั้น. ฝ่ายพระเทวทัตครั้งนั้นเป็ นลิงอยู่ในจานวนลิงเหล่านั้น คิดว่า นี้เป็ นเวลาที่จะได้เห็นหลังศัตรูของเราแล้ว จึงขึ้นกิ่งไม้สูงให้เกิดกาลังเร็ว แล้วตกลงบนหลังของพระมหาสัตว์ กระโดดลงเหยียบหลังพระมหาสัตว์ด้วยกาลังเร็ว หัวใจของพระมหาสัตว์แตก เกิดเวทนามีกาลังแรงกล้าขึ้น. ฝ่ายลิงเทวทัตนั้น ทาพระมหาสัตว์นั้นให้ได้รับเวทนาแล้วก็หลีกไป. พระมหาสัตว์ได้อยู่ลาพังตัวเดียว. พระราชาบรรทมยังไม่หลับ ทอดพระเนตรเห็นกิริยาที่พวกวานร และพระมหาสัตว์กระทาทุกอย่างแล้ว ทรงบรรทมพลางดาริว่า วานรตัวนี้เป็นสัตว์เดียรฉาน ได้ทาความสวัสดีแก่บริษัททีเดียว โดยมิได้คานึงถึงชีวิตของตน. เมื่อสว่างแล้ว พระองค์ทรงพอพระทัยต่อพระมหาสัตว์ ทรงดาริว่า เราไม่ควรให้ขุนกระบี่นี้พินาศไป เราจักให้เอาขุนกระบี่นั้นลงมาปฏิบัติรักษา แล้วได้รับสั่งให้จอดเรือขนานไว้ภายในแม่น้าคงคา ทรงให้ผูกกรงไว้บนนั้นแล้วให้ค่อยๆ ยกขุนกระบี่ลงมา แล้วรับสั่งให้คลุมผ้ากาสาวพัสตร์บนหลัง ให้อาบน้าในแม่น้าคงคา ให้ดื่มน้าอ้อย ให้เอาน้ามันที่เจียวแล้วพันครั้ง ชะโลมบนหลัง ให้ปูหนังแพะบนที่นอนแล้ว ทรงให้ขุนกระบี่นั้นนอนบนที่นอนนั้น พระองค์เองประทับนั่งบนอาสนะต่า ได้ตรัสคาถาที่ ๑ ว่า ดูก่อนขุนกระบี่ ท่านได้ทอดตัวเป็นสะพานให้เหล่าวานรข้ามไปโดยสวัสดี ท่านเป็นอะไรกับวานรเหล่านั้น และวานรเหล่านั้นเป็ นอะไรกับท่าน? คาถานั้นมีเนื้อความว่า ดูก่อนขุนกระบี่ผู้เจริญ ท่านทาตนให้เป็นสะพานคือยกตนให้เป็นคาน แล้วสละชีพให้ฝูงวานรเหล่านี้ข้ามไปโดยสวัสดี คือให้ข้ามไปโดยเกษม. ท่านได้เป็นอะไรกับพวกเขาหรือพวกเขาเหล่านี้ ได้เป็ นอะไรกับท่าน หรือวานรเหล่านี้เป็ นอะไรกับเรา. พระโพธิสัตว์ได้สดับคานั้นแล้ว เมื่อจะตักเตือนพระราชา จึงกล่าวคาถาที่เหลือว่า ข้าแต่พระองค์ผู้ทรงปราบข้าศึก ข้าพระองค์เป็ นพญาวานรผู้เป็นใหญ่ ปกครองฝูงวานรเหล่านั้น เมื่อพวกเขาถูกความโศกครอบงา หวาดกลัวพระองค์.
  • 5. 5 ข้าพระองค์ได้ทะยานพุ่งตัว ที่มีเครื่องผูก คือเถาวัลย์ผูกสะเอวไว้แน่น ไปจากต้นไม้ต้นนั้น ชั่วระยะร้อยคันธนูที่ปลดสายแล้ว กลับมาถึงต้นไม้เหมือนเมฆถูกลมหอบไปฉะนั้น แต่ข้าพระองค์นั้นไปไม่ถึงต้นไม้นั้น จึงได้ใช้มือจับกิ่งไม้ไว้. พวกวานรได้พากันเอาเท้าเหยียบข้าพระองค์นั้น ผู้ถูกกิ่งไม้และเถาวัลย์รั้งไว้จนตึง เหมือนสายพิณที่ขึงตึง แล้วไต่ไปโดยสวัสดี. การผูกมัดไว้ จึงไม่เผาลนข้าพระองค์ให้เดือดร้อน ผู้ฆ่าก็จักไม่ให้ข้าพระองค์เดือดร้อน เพราะข้าพระองค์ได้นาความสุขมาให้เหล่าวานรที่ให้ข้าพระองค์ครองความเป็ นใ หญ่. ข้าแต่พระราชาผู้ทรงปราบข้าศึก ข้าพระองค์จะยกอุปมาถวายพระองค์ ขอพระองค์จงทรงสดับข้ออุปมานั้น ธรรมดากษัตริย์ผู้เป็ นพระราชา ทรงพระปรีชาสามารถ ควรแสวงหาความสุขให้แก่รัฐ ยวดยานพาหนะ กาลังพล และนิคมทั่วหน้ากัน. วันนี้ ข้าพระองค์ได้บาบัดมรณทุกข์นั้น แล้วนาความสุขมาให้พวกวานรเหล่านั้นแล้ว ด้วยเหตุนั้น การผูกมัดไว้จึงไม่เผารนข้าพระองค์ให้เดือดร้อน เพชฌฆาตคือมรณะก็จักไม่ยังข้าพระองค์ให้เดือดร้อน. ข้าแต่มหาราช ธรรมดาพระราชาผู้ไม่ทรงบีบคั้นแว่นแคว้นราษฎร เหมือนหีบอ้อยเลย ทรงละการลุอานาจอคติ ผูกใจเขาอยู่ด้วยสังคหวัตถุธรรม ๔ อย่าง ทรงดารงอยู่ในราชธรรม ๑๐ ประการ แล้วทรงสละชีวิตของตนเหมือนข้าพระองค์ แล้วควรแสวงหา คือเสาะหาความสุขเท่านั้น แก่แว่นแคว้นทั้งสิ้น ยานพาหนะที่เทียมแล้วมีรถและเกวียนเป็ นต้นที่ชื่อว่า ยวดยานกาลังพล กล่าวคือพลเดินเท้า และแก่นิคม กล่าวคือนิคมและชนบททั่วหน้ากันด้วยพระดาริว่า เราจักมีประโยชน์อะไรสาหรับท่านราษฎรทั้งหลาย ปราศจากความหวาดกลัว หน้าร้อนเปิดประตูได้ ญาติและมิตรทั้งหลายห้อมล้อมแล้ว ให้บุตรหลานชื่นใจ ลมเย็นโชยมา รับประทานอาหารซึ่งเป็ นของตนตามชอบใจ ควรเป็ นผู้พร้อมพรั่งด้วยความสุขกายสบายใจ. มหาสัตว์ เมื่อตักเตือนและพร่าสอนพระราชาอย่างนี้อยู่ก็ได้ถึงแก่กรรม. พระราชาตรัสเรียกอามาตย์มาแล้วตรัสว่า เธอทั้งหลายจงทาสรีรกิจของขุนกระบี่นี้ให้เหมือนสรีรกิจของพระราชา แม้ในฝ่ายใน คือเรือนนางสนม ห้องพระมเหสี ก็ทรงบังคับว่า
  • 6. 6 เธอทั้งหลายจงพากันนุ่งห่มผ้าแดง สยายผม มีหัตถ์ถือประทีปด้าม ห้อมล้อมขุนกระบี่ไปป่าช้า. อามาตย์ทั้งหลายตั้งเชิงตะกอนด้วยฟืนเท่าลาเกวียน เผาศพมหาสัตว์ ทานองเดียวกับถวายพระเพลิงพระราชา. แล้วได้ถือกระโหลกศีรษะไปสู่สานักพระราชา. พระราชาทรงให้สร้างเจดีย์ไว้ที่ป่าช้าของมหาสัตว์ให้ตามประทีป บูชาด้วยของหอมและดอกไม้เป็นต้น แล้วทรงให้เลี่ยมกระโหลกศีรษะด้วยทองคา วางไว้ที่ปลายหลาว ให้สร้างไว้ข้างหน้า ทรงบูชาอยู่ด้วยของหอมและดอกไม้เป็นต้น จึงเสด็จไปเมืองพาราณสี ให้ตั้งไว้ที่ประตูพระราชวัง แล้วทรงให้ตระเตรียมพระนคร กระทาการบูชาธาตุตลอด ๗ วัน. ต่อมา พระองค์ก็ทรงให้รับเอาธาตุนั้นมาสร้างเจดีย์ไว้ บูชาด้วยของหอมและดอกไม้เป็นต้น ตลอดพระชนม์ชีพ ทรงดารงอยู่ในโอวาทของพระโพธิสัตว์ บาเพ็ญบุญมีทานเป็นต้น ครองราชสมบัติโดยธรรม แล้วได้มีสวรรค์เป็นที่ไปในเบื้องหน้า. พระศาสดา ครั้นทรงนาพระธรรมเทศนานี้มาแล้ว ทรงประกาศสัจธรรมทั้งหลาย แล้วทรงประ ชุมชาดกไว้ว่า. พระราชาในครั้งนั้น ได้แก่ พระอานนท์ ในบัดนี้ ลิงวายร้ายได้แก่ พระเทวทัต บริษัททั้งหลายได้แก่ พุทธบริษัท ส่วนขุนกระบี่ ได้แก่ เราตถาคต ฉะนี้แล. จบอรรถกถามหากปิชาดกที่ ๒ -----------------------------------------------------