ว่าด้วย ภัยเกิดจากที่พึ่ง พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ ณ พระเชตวันมหาวิหาร ทรงปรารภภิกษุรูปใดรูปหนึ่ง ตรัสพระธรรมเทศนานี้ ดังนี้. ความพิสดารว่า ภิกษุนั้นเรียนพระกรรมฐานจากสำนักของพระศาสดา แล้วไปสู่บ้านชายแดนตำบลหนึ่ง อาศัยหมู่บ้านหมู่หนึ่งจำพรรษาในเสนาสนะป่า ในเดือนแรกนั้นเอง เมื่อเธอเข้าไปบิณฑบาต บรรณศาลาถูกไฟไหม้ เธอลำบากด้วยไม่มีที่อยู่ จึงบอกพวกอุปัฏฐาก คนเหล่านั้นพากันพูดว่า ไม่เป็นไรดอก พระคุณเจ้า พวกกระผมจักสร้างบรรณศาลาถวาย รอให้พวกกระผมไถนาเสียก่อน หว่านข้าวเสียก่อนเถิดขอรับ จนเวลา ๓ เดือนผ่านไป เธอไม่อาจบำเพ็ญพระกรรมฐานให้ถึงที่สุดได้ เพราะไม่มีเสนาสนะเป็นที่สบาย แม้เพียงนิมิตก็ให้เกิดขึ้นไม่ได้ พอออกพรรษา เธอจึงไปสู่พระเชตวันวิหาร ถวายบังคมพระศาสดา แล้วนั่ง ณ ส่วนข้างหนึ่ง พระศาสดาทรงทำปฏิสันถารกับเธอ แล้วตรัสถามว่า ดูก่อนภิกษุ กรรมฐานของเธอเป็นสัปปายะ หรือไม่เล่า? เธอจึงกราบทูลความไม่สะดวกจำเดิมแต่ต้น พระศาสดาตรัสว่า ดูก่อนภิกษุ ในกาลก่อนโน้น แม้สัตว์เดียรัจฉานทั้งหลาย ก็ยังรู้จักสัปปายะ และอสัปปายะของตน พากันอยู่อาศัยในเวลาสบาย ในเวลาไม่สบายก็พากันทิ้งที่อยู่เสียไปในที่อื่น เหตุไร เธอจึงไม่รู้สัปปายะ และอสัปปายะของตนเล่า. เธอกราบทูลอาราธนา จึงทรงนำเอาเรื่องในอดีตมาสาธก ดังต่อไปนี้