ว่าด้วยการกล่าวคำหยาบ
พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวันวิหาร ทรงปรารภสัทธิวิหาริกของพระสารีบุตรเถระ จึงตรัสพระธรรมเทศนานี้ ดังนี้.
ได้ยินว่า ภิกษุนั้นเป็นผู้ว่าง่าย อดทนต่อถ้อยคำ (ที่สั่งสอน) กระทำอุปการะแก่พระเถระ ด้วยอุตสาหะเป็นอันมาก ครั้นสมัยหนึ่ง พระเถระทูลลาพระศาสดา หลีกจาริกไปแล้ว ได้กลับมายังทักขิณาคีรีชนบท ในเวลาที่พระเถระไปอยู่ในทักขิณาคีรีชนบทนั้น ภิกษุนั้นเป็นผู้ถือตัวจัด ไม่กระทำตามคำของพระเถระ ก็เมื่อพระเถระกล่าวว่า ผู้มีอายุ เธอจงกระทำกรรมชื่อนี้ ก็ได้เป็นฝ่ายตรงข้ามต่อพระเถระ พระเถระไม่รู้อัธยาศัยของภิกษุนั้น พระเถระเที่ยวจาริกไปในทักขิณาคีรีชนบทนั้น หวนกลับมายังพระเชตวันวิหารอีก ภิกษุนั้นก็เป็นเช่นนั้นนั่นแลอีก จำเดิมแต่พระเถระมายังพระเชตวันวิหาร.
พระเถระจึงกราบทูลแด่พระตถาคตว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ สัทธิวิหาริกรูปหนึ่งของข้าพระองค์ ในที่แห่งหนึ่งได้เป็นเหมือนทาสที่ไถ่มาด้วยทรัพย์หนึ่งร้อย แต่ในที่แห่งหนึ่งเป็นผู้ถือตัวจัด เมื่อข้าพระองค์บอกว่า จงกระทำสิ่งชื่อนี้ กลับทำตรงกันข้าม.
พระศาสดาตรัสว่า สารีบุตร ภิกษุนี้เป็นผู้มีปรกติอย่างนี้ ในบัดนี้เท่านั้นหามิได้ แม้ในกาลก่อน ภิกษุนี้ไปยังที่หนึ่งเป็นเหมือนทาสที่ไถ่มาด้วยทรัพย์ตั้งร้อย แต่ไปยังอีกที่หนึ่ง กลับเป็นฝ่ายตรงข้าม เป็นศัตรู.
อันพระเถระทูลอ้อนวอนแล้ว จึงทรงนำอดีตนิทานมา ดังต่อไปนี้