More Related Content
Similar to 013 กัณฑิชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx (20)
More from maruay songtanin (20)
013 กัณฑิชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
- 1. 1
กัณฑิชาดก
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]
ขุททกนิกาย ชาดก ภาค
๑๓. กัณฑิชาดก (จากพระไตรปิฎก ลาดับเรื่องที่ ๑๓)
ว่าด้วยเรื่องที่น่าตาหนิคนมีลูกศรเป็นอาวุธเป็ นต้น
(เทวดาโพธิสัตว์ตาหนิเรื่องที่ควรตาหนิ ๓ อย่าง จึงกล่าวว่า)
[๑๓] น่าตาหนิ คนที่มีลูกศรเป็ นอาวุธ ยิงไปเต็มกาลัง น่าตาหนิ
ชนบทที่มีสตรีเป็นผู้นา อนึ่ง แม้ชายผู้ตกอยู่ในอานาจของหญิง ก็น่าตาหนิ
กัณฑิชาดกที่ ๓ จบ
-------------------
คาอธิบายเพิ่มเติมนามาจากบางส่วนของอรรถกถา
เอกกนิบาตชาดก สีลวรรค
กัณฑินชาดก ว่าด้วยผู้ตกอยู่ในอานาจหญิง
พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวันมหาวิหาร
ทรงปรารภภิกษุถูกภรรยาเก่าประเล้าประโลม จึงตรัสพระธรรมเทศนานี้ ดังนี้.
การประเล้าประโลมนั้น จักมีแจ้งใน อินทริยชาดก อัฏฐกนิบาต.
ก็พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสพระดารัสนี้กะภิกษุนั้นว่า ดูก่อนภิกษุ
แม้ในกาลก่อน เธออาศัยมาตุคามนี้ ถึงความสิ้นชีวิต ร้องเรียกอยู่ที่พื้นถ่านเพลิง
อันปราศจากเปลว.
ภิกษุทั้งหลายทูลอ้อนวอนพระผู้มีพระภาคเจ้า
เพื่อทรงประกาศเรื่องนั้นให้แจ่มแจ้ง
พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ทรงกระทาเหตุ อันระหว่างภพปกปิด
ให้ปรากฏแล้ว.
ในอดีตกาล เมื่อพระเจ้ามคธครองราชสมบัติอยู่ในพระนครราชคฤห์
แคว้นมคธ. ในสมัยข้าวกล้าของชนชาวมคธ พวกเนื้อทั้งหลายมีอันตรายมาก
เนื้อเหล่านั้นจึงเข้าไปยังเนินเขา. เนื้อภูเขาที่อยู่ในป่าตัวหนึ่ง
ทาความสนิทสนมกับลูกเนื้อตัวเมียชาวบ้านตัวหนึ่ง
ในเวลาที่พวกเนื้อเหล่านั้นลงจากเชิงเขา กลับมายังชายแดนบ้านอีก
ได้ลงมากับเนื้อเหล่านั้นนั่นแหละ เพราะมีจิตปฏิพัทธ์ในลูกเนื้อตัวเมียนั้น.
ลาดับนั้น ลูกเนื้อตัวเมียนั้น จึงกล่าวกะเนื้อภูเขานั้นว่า ข้าแต่เจ้า
ท่านแลเป็นเนื้อภูเขาที่เขลา. ก็ธรรมดา ชายแดนของบ้าน น่าระแวง
มีภัยเฉพาะหน้า ท่านอย่าลงมากับพวกเราเลย.
เนื้อภูเขานั้นไม่กลับเพราะมีจิตปฏิพัทธ์ต่อลูกเนื้อตัวเมียนั้น
ได้มากับลูกเนื้อตัวเมียนั้น นั่นแหละ. ชนชาวมคธรู้ว่า บัดนี้
เป็นเวลาที่พวกเนื้อลงจากเนินเขา จึงยืนในซุ้มอันมิดชิดใกล้หนทาง
- 2. 2
ในหนทางที่เนื้อทั้งสองแม้นั้นเดินมา มีพรานคนหนึ่งยืนอยู่ในซุ้มอันมิดชิด.
ลูกเนื้อตัวเมียได้กลิ่นมนุษย์ จึงคิดว่า จักมีพรานคนหนึ่งยืนอยู่
จึงทาเนื้อเขลาตัวนั้น ให้อยู่ข้างหน้า ส่วนตนเองอยู่ข้างหลัง.
นายพรานได้ทาเนื้อตัวนั้นให้ล้มลงตรงนั้นนั่นเอง ด้วยการยิงด้วยลูกศรครั้งเดียว
เท่านั้น. ลูกเนื้อตัวเมียรู้ว่า เนื้อนั้นถูกยิง จึงโดดหนีไปโดยการไป
ด้วยกาลังเร็วปานลม. นายพรานออกจากซุ้มชาแหละเนื้อก่อไฟ
ปิ้งเนื้ออร่อยบนถ่านไฟอันปราศจากเปลว เคี้ยวกินแล้วดื่มน้า
หาบเนื้อที่เหลือไปด้วยไม้คานมีหยาดเลือดไหล ได้ไปยังเรือน ให้พวกเด็กๆ
ยินดีแล้ว.
ในกาลนั้น พระโพธิสัตว์บังเกิดเป็นเทวดาอยู่ในป่าชัฏแห่งนั้น
พระโพธิสัตว์นั้นเห็นเหตุการณ์นั้น จึงคิดว่า เนื้อโง่ตัวนี้ตาย เพราะอาศัยมารดา
เพราะอาศัยบิดาก็หาไม่ โดยที่แท้ตายเพราะอาศัยกาม.
จริงอยู่ เพราะกามเป็นนิมิตเหตุ สัตว์ทั้งหลายจึงถึงทุกข์นานัปการ
มีการตัดมือเป็นต้นในสุคติ และการจองจา ๕ ประการเป็นต้นในทุคติ
ชื่อว่าการทาทุกข์ คือความตายให้เกิดขึ้นแก่ผู้อื่น ก็ถูกติเตียนในโลกนี้.
แม้ชนบทใด มีสตรีเป็นผู้นาจัดแจงปกครอง ก็ถูกติเตียน.
เหล่าสัตว์ผู้ตกอยู่ในอานาจของมาตุคาม ก็ถูกติเตียนเหมือนกัน.
แล้วแสดงเรื่องสาหรับติเตียน ๓ ประการด้วยคาถา ๑ คาถา.
เมื่อเทวดาทั้งหลายในป่า ให้สาธุการ แล้วบูชาด้วยของหอม และดอกไม้เป็นต้น.
เมื่อจะยังไพรสณฑ์นั้น ให้บันลือขึ้นด้วยเสียงอันไพเราะ
จึงแสดงธรรมด้วยคาถานี้ว่า
เราติเตียนบุรุษผู้มีลูกศรเป็ นอาวุธ ผู้ยิงไปเต็มกาลัง.
เราติเตียนชนบทที่มีหญิงเป็ นผู้นา. อนึ่ง
สัตว์เหล่าใดตกอยู่ในอานาจของหญิงทั้งหลาย สัตว์เหล่านั้น
บัณฑิตก็ติเตียนแล้วเหมือนกัน.
พระโพธิสัตว์ ครั้นแสดงเรื่องสาหรับติเตียน ๓ ประการ
ด้วยคาถาเดียวอย่างนี้แล้ว ทาป่าให้บันลือขึ้นแล้ว
แสดงธรรมด้วยการเยื้องกรายดังพระพุทธเจ้า.
พระศาสดา
ครั้นทรงนาพระธรรมเทศนานี้มาแล้ว จึงทรงประกาศสัจจะทั้งหลาย
ในเวลาจบสัจจะ ภิกษุผู้กระสันจะสึก ตั้งอยู่ในโสดาปัตติผล.
พระศาสดาตรัสเรื่อง ๒ เรื่อง สืบต่ออนุสนธิกันแล้ว ทรงประชุมชาดก.
เนื้อภูเขาในครั้งนั้น ได้เป็ น ภิกษุผู้กระสันจะสึก ในบัดนี้
ลูกเนื้อตัวเมียในครั้งนั้น ได้เป็น ภรรยาเก่า ในบัดนี้
ส่วนเทวดาผู้เห็นโทษในกามทั้งหลายในครั้งนั้น ได้เป็น เรา แล.