ว่าด้วยการกล่าวถ้อยคำไม่จริง พระบรมศาสดา เมื่อประทับอยู่ ณ พระเชตวันมหาวิหาร ทรงปรารภเหล้าเจือยาพิษ ตรัสพระธรรมเทศนานี้ ดังนี้. สมัยหนึ่ง พวกนักเลงสุราในเมืองสาวัตถี ชุมนุมปรึกษากันว่า ทุนค่าซื้อสุราของพวกเราหมดแล้ว จักหาที่ไหนได้เล่า? ขณะนั้น นักเลงกักขฬะคนหนึ่ง กล่าวว่าอย่าไปคิดถึงเลย อุบายยังมีอยู่อย่างหนึ่ง. พวกนักเลงพากันถามว่า อุบายอย่างไร? นักเลงกักขฬะบอกว่า ท่านอนาถบิณฑิกะใส่แหวนหลายวง นุ่งผ้าเนื้อเกลี้ยง ไปเฝ้าในหลวง พวกเราเอายาเบื่อใส่ในไหสุรา พากันนั่งเตรียมการดื่ม เวลาท่านอนาถบิณฑิกะมา ก็เชิญท่านว่า เชิญทางนี้ครับ ท่านมหาเศรษฐี แล้วให้ท่านดื่ม เมื่อสลบแล้ว ก็ริบแหวนกับผ้านุ่ง ทำทุนซื้อเหล้ากินได้. นักเลงเหล่านั้นรับรองว่า ดีจริง ๆ ชวนกันทำอย่างนั้น. เวลาท่านเศรษฐีเดินมา ก็เดินสวนทางไป พลางกล่าวว่า นายขอรับ เชิญมาทางนี้ก่อนเถิดครับ สุราในวงของพวกข้าพเจ้า น่าชื่นใจยิ่งนัก เชิญดื่มสักหน่อย ค่อยไปเถิดครับ. ท่านอนาถบิณฑิกะเป็นโสดาบันอริยสาวก จักดื่มสุราได้อย่างไร แม้ถึงท่านจะไม่ต้องการ ก็คิดจักจับไหวพริบพวกนักเลงเหล่านั้น จึงเดินไปถึงที่ซึ่งจัดเป็นที่ดื่ม ชำเลืองดูกิริยาของพวกนั้น ก็ทราบว่า พวกนี้ปรุงสุรานี้ไว้ด้วยเหตุชื่อนี้ แล้วดำริต่อไปว่า ตั้งแต่บัดนี้ไป ต้องไล่พวกนี้ให้หนีไปจากที่นี้ ดังนี้ แล้วพูดว่า แนะเฮ้ย เจ้าพวกนักเลงสุราชั่วร้าย พวกเจ้าเอายาเบื่อใส่ในไหเหล้า แล้วคบคิดกัน ให้คนที่มาพากันดื่มสลบไสล แล้วก็ปล้นเขาเสีย ดังนี้ จัดตั้งวงดื่มนั่งรอคุยอวด แต่สุรานี้อย่างเดียว ใครๆ แม้สักคนเดียวก็ไม่กล้ายกเหล้านี้ขึ้นดื่ม ถ้าเหล้านี้ไม่ผสมยาเบื่อแล้วไซร้ พวกเจ้าต้องดื่มกันบ้าง เป็นแน่. ท่านเศรษฐีขู่นักเลงเหล่านั้น ให้หนีไปจากที่นั้น แล้วก็ไปบ้านของตน ได้คิดว่า จักต้องกราบทูลเหตุที่พวกนักเลงกระทำ ให้พระตถาคตทรงทราบ จึงไปสู่พระเชตวันมหาวิหาร กราบทูลพระศาสดาให้ทรงทราบ. พระศาสดาตรัสว่า ดูก่อนคฤหบดี มิใช่แต่ในบัดนี้เท่านั้น ที่พวกนักเลงเหล่านั้นประสงค์จะหลอกลวงเธอ ถึงในครั้งก่อน ก็ได้มีประสงค์จะหลอกลวงบัณฑิตทั้งหลายมาแล้ว. ท่านเศรษฐีกราบทูลอาราธนา. จึงทรงนำเอาเรื่องในอดีตมาสาธก ดังต่อไปนี้