More Related Content
Similar to 058 ตโยธัมมชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx (20)
More from maruay songtanin (20)
058 ตโยธัมมชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
- 1. 1
ตโยธัมมชาดก
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]
ขุททกนิกาย ชาดก ภาค ๑
๘. ตโยธัมมชาดก (จากพระไตรปิฎก ลาดับเรื่องที่ ๕๘)
ว่าด้วยธรรม ๓ ประการของพญาวานร
(รากษสชมเชยพระโพธิสัตว์ว่า)
[๕๘] พญาวานร ผู้ใดมีธรรม ๓ ประการเหล่านี้ คือ (๑) ความขยัน (๒)
ความแกล้วกล้า (๓) ปัญญา เช่นกับท่าน ผู้นั้นย่อมครอบงาศัตรูที่ตนพบเห็นได้
ตโยธัมมชาดกที่ ๘ จบ
--------------------
คาอธิบายเพิ่มเติมนามาจากบางส่วนของอรรถกถา
เอกกนิบาตชาดก อาสิงสวรรค
๘. ตโยธรรมชาดก ว่าด้วยธรรมของผู้ล่วงพ้นศัตรู
พระบรมศาสดา เมื่อประทับอยู่ ณ พระเวฬุวันมหาวิหาร
ทรงปรารภการตะเกียกตะกายจะฆ่าพระองค์นั่นแหละของพระเทวทัต
ตรัสพระธรรมเทศนานี้ ดังนี้.
ในอดีตกาล ครั้งพระเจ้าพรหมทัตเสวยราชสมบัติอยู่ในกรุงพาราณสี.
พระเทวทัตบังเกิดในกาเนิดวานร ควบคุมฝูงอยู่ในหิมวันตประเทศ.
เมื่อลูกวานรที่อาศัยตนเติบโตแล้ว ก็ขบพืชของลูกวานรเหล่านั้นเสียสิ้น
เพราะกลัวว่า วานรเหล่านี้จะแย่งคุมฝูง.
ในครั้งนั้น พระโพธิสัตว์ก็อาศัยวานรนั้นแหละ
ถือปฏิสนธิในท้องของนางวานรตัวหนึ่ง. ครั้นนางวานรรู้ว่า ตั้งครรภ์
เพื่อจะถนอมครรภ์ของตน ก็ได้ไปสู่เชิงเขาตาบลอื่น พอท้องแก่ครบกาหนด
ก็คลอดพระโพธิสัตว์. พระโพธิสัตว์เจริญวัย ถึงความเป็ นผู้รู้เดียงสาแล้ว
เป็นผู้สมบูรณ์ด้วยกาลัง.
วันหนึ่ง ถามมารดาว่า แม่จ๋า ใครเป็ นพ่อของฉัน.
มารดาตอบว่า พ่อคุณ บิดาของเจ้าคุมฝูงอยู่ที่ภูเขาลูกโน้น.
แม่พาฉันไปหาพ่อเถิด.
ลูกจ๋า เจ้าไม่อาจเข้าใกล้พ่อของเจ้าได้
เพราะพ่อของเจ้าคอยขบพืชของลูกวานร ที่อาศัยตนเกิดเสียหมด
เพราะกลัวจะแย่งคุมฝูง.
แม่จ๋า พาฉันไปเถิด ฉันจักรู้ (อนาคตของตนเอง).
นางจึงพาพระโพธิสัตว์มายังสานักของวานรผู้เป็นพ่อ.
วานรนั้นเห็นลูกของตนแล้ว ก็คิดว่า
เมื่อเจ้านี่เติบโตจักไม่ยอมให้เราคุมฝูง ต้องฆ่ามันเสีย บัดนี้ทีเดียว
- 2. 2
เราจักทาเป็นเหมือนสวมกอดมัน แล้วก็บีบให้แน่นให้ถึงสิ้นชีวิตให้จงได้
จึงกล่าวว่า มานี่เถิดลูก เจ้าไปไหนเสีย นมนานจนป่านนี้ ดังนี้แล้ว
ทาเป็นเหมือนกอดรัดพระโพธิสัตว์ รัดจนแน่น.
ก็พระโพธิสัตว์มีกาลังดังช้างสารสมบูรณ์ด้วยเรี่ยวแรง จึงบีบรัดตอบ.
ครั้งนั้น กระดูกทุกชิ้นส่วนของวานรนั้น ถึงอาการจะแตกแยก.
ลาดับนั้น วานรผู้เป็ นพ่อเกิดวิตกว่า ไอ้นี่เติบโตขึ้นต้องฆ่าเรา
เราต้องหาอุบายอะไร รีบฆ่ามันเสียก่อน แต่นั้นก็คิดได้ว่า ไม่ไกลจากนี้
มีสระที่มีผีเสื้อน้าสิงอยู่ เราจักให้ผีเสื้อน้ากินมันเสียที่สระนั้น
แล้วจึงกล่าวกะพระโพธิสัตว์ว่า ลูกเอ๋ย พ่อแก่แล้ว จักมอบฝูงให้เจ้า
วันนี้จะตั้งเจ้าเป็ นหัวหน้า ที่ตรงโน้นมีสระอยู่ ในสระนั้น ดอกโกมุท ๒ ดอก อุบล
๓ ดอก ปทุม ๕ ดอก กาลังบาน ไปเถิด ไปเอาดอกไม้ มาจากสระนั้น.
พระโพธิสัตว์รับคาว่า ดีละพ่อ ฉันจักไปนามาแล้วก็ไป
แต่ยังไม่ผลีผลามลงไป ตรวจดูรอยรอบๆ สระ เห็นแต่รอยลงเท่านั้น
ไม่เห็นรอยขึ้น ก็รู้ว่าอันสระนี้ต้องมีรากษสยึดครองแน่นอน
พ่อเราไม่อาจฆ่าเราด้วยตน จักหวังให้รากษสเคี้ยวกินเราเสีย เราจักไม่ลงสระนี้
และต้องเก็บดอกไม้ให้ได้ด้วย แล้วเดินไปหาที่ซึ่งไม่มีน้า ไปได้ ๒ ดอก ทีเดียว
โดดไปลงฝั่งโน้น โดดจากฝั่งโน้นมาลงฝั่งนี้ ก็คว้าได้อีก ๒ ดอก
ด้วยอุบายนั้นแหละ. ด้วยวิธีนี้ พระโพธิสัตว์เก็บดอกไม้ได้
เป็นกองทั้งสองฝั่งสระและไม่ต้องลงสู่สถานอันอยู่ในอาญาของรากษส.
ครั้นพระโพธิสัตว์เห็นว่า ไม่สามารถจะเก็บได้มากกว่านี้
ก็รวบรวมดอกไม้กองไว้ที่เดียว.
ครั้งนั้น รากษสดาริว่า อัจฉริยบุรุษมีปัญญาอย่างนี้
เราไม่เคยเห็นเลยตลอดกาลมีประมาณเท่านี้ ดอกไม้ก็เก็บได้ตามปรารถนา
และไม่ต้องลงสู่สถานที่ อันอยู่ในอาญาของเราอีกด้วย จึงระเบิดน้า
โผล่ขึ้นจากน้าเข้าไปหาพระโพธิสัตว์ กล่าวว่า พานรินทร์ ในโลกนี้ ผู้ใดมีธรรม ๓
ประการ ผู้นั้นย่อมครอบงาปัจจามิตรได้ ชะรอยภายในตัวของท่าน
จักมีธรรมทั้งนั้นครบทุกประการ เป็นแน่.
เมื่อจะชื่นชมพระโพธิสัตว์ จึงกล่าวคาถานี้ ความว่า :-
“ ธรรม ๓ ประการเหล่านี้ คือทักขิยะ
(ความเป็นผู้มีความขยันขันแข็ง.) สุริยะ (ความเป็นผู้กล้าหาญ.) ปัญญา
(ความรู้อุบาย) มีแก่บุคคลใด เหมือนมีแก่ท่าน บุคคลนั้นย่อมล่วงพ้นศัตรูได้. ”
ดังนี้.
รากษสนั้นชมเชยพระโพธิสัตว์ด้วยคาถานี้อย่างนี้แล้ว ก็ถามว่า
ท่านเก็บดอกไม้เหล่านี้ไปทาไม?
พระโพธิสัตว์ตอบว่า พ่อของเราปรารถนาจะตั้งเราเป็นผู้นาฝูง
- 3. 3
เราเก็บไป เพราะเหตุนั้น.
รากษสพูดว่า อุดมบุรุษเช่นท่าน ไม่น่าจะนาดอกไม้ไป เราจักนาไปให้
แล้วหอบดอกไม้เดินตามหลังพระโพธิสัตว์ไป.
ครั้งนั้น บิดาของพระโพธิสัตว์เห็นแต่ไกลแล้ว ราพึงว่า เราส่งมันไป
หมายว่าจักให้เป็นเหยื่อของรากษส บัดนี้ มันกลับใช้ให้รากษสถือดอกไม้ตามมา
คราวนี้เราฉิบหายแล้ว เลยหัวใจแตกเจ็ดเสี่ยง สิ้นชีวิตในที่นั้นเอง.
ฝูงวานรที่เหลืออยู่ประชุมกัน ยกพระโพธิสัตว์ให้เป็นราชาผู้นาฝูง.
แม้พระบรมศาสดา ครั้นทรงนาพระธรรมเทศนานี้มาแล้ว
ทรงสืบอนุสนธิ ประชุมชาดกว่า
วานรนายฝูงในครั้งนั้น ได้เป็ น พระเทวทัต ในครั้งนี้
ส่วนบุตรของลิงผู้เป็ นจ่าฝูง ได้มาเป็น เราตถาคต ฉะนี้แล.
-----------------------