ว่าด้วย เป็นคนควรศึกษาศิลปะ พระศาสดา เมื่อทรงอาศัยพระนครเวสาลี ประทับอยู่ ณ กูฏาคารศาลา ป่ามหาวัน ทรงปรารภเจ้าลิจฉวีองค์หนึ่ง ตรัสพระธรรมเทศนานี้ ดังนี้. ได้ยินว่า เจ้าลิจฉวีองค์นั้นทรงมีศรัทธาเลื่อมใส นิมนต์พระภิกษุมีพระพุทธเจ้าเป็นประมุข ทรงยังมหาทานให้เป็นไปในวังของพระองค์ แต่เทวีของพระองค์มีอวัยวะทุกส่วนอ้วนพี ดูคล้ายนิมิตแห่งซากศพที่ขึ้นพอง ไม่สมบูรณ์ด้วยมรรยาท. พระศาสดาทรงทำอนุโมทนา ในเวลาเสร็จภัตรกิจ แล้วเสด็จไปพระวิหาร ประทานโอวาทแก่ภิกษุทั้งหลาย เสด็จเข้าพระคันธกุฎี. ภิกษุทั้งหลายพากันตั้งเรื่องสนทนากันในธรรมสภาว่า ท่านผู้มีอายุทั้งหลาย เจ้าลิจฉวีพระองค์นั้นมีพระรูปงามปานนั้น มีเทวีลักษณะตรงกันข้าม มีอวัยวะน้อยใหญ่อ้วนพี ไม่มีกิริยามรรยาท ท้าวเธอจะทรงอภิรมย์กับเทวีได้อย่างไรกันนะ? พระศาสดาเสด็จมา ตรัสถามว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บัดนี้ พวกเธอนั่งประชุมสนทนากันด้วยเรื่องอะไร. เมื่อภิกษุทั้งหลายกราบทูลให้ทรงทราบแล้ว ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เจ้าลิจฉวีองค์นี้ มิใช่แต่ในบัดนี้เท่านั้น แม้ในครั้งก่อนก็ทรงอภิรมย์กับหญิงที่มีร่างกายอ้วนเหมือนกัน แล้วทรงนำเอาเรื่องในอดีตมาสาธก ดังต่อไปนี้