SlideShare a Scribd company logo
1 of 7
Download to read offline
ศึกษาวิถธรรมวิถพทธ “ ฐานทางเสื่ อมของวัยรุ่น ”
                     ี      ี ุ
โครงการอบรมธรรมะสู่ ดวงใจ “ยุวพุทธ พบ ยุวชน” ค่ ายพุทธบุตร โรงเรียน……………………….
         -----------------------------------------------------------------------------------------------
                                   ทางเสื่ อมของวัยรุ่นไทยในปัจจุบัน
    ๑. ชอบความเกียจคร้ าน          ๒. ผลาญเงินพ่อแม่            ๓. เรียนแย่ หลายวิชา              ๔. เร่ งหาคู่รัก
                              ๕. จมปลักอบายมุข            ๖. มัวสนุกในวัยหนุ่มสาว
                             อบายมุข คือ ช่ องทางแห่ งความเสื่ อม ๖ ประการ คือ
 ๑. ดืมสุ รายาเสพติดพิษมากมาย ๒. มักผ่ อนคลายด้ วยการเทียวเหยียวราตรี ๓. ชอบสนุกด้ วยการเล่ นไม่ เว้ นช่ วง
      ่                                                 ่      ่
  ๔. ชอบเสี่ ยงดวงด้ วยพนันมันทุกที่ ๕. คบคนชั่วเป็ นมิตรผิดวิธี ๖. อ้ างโน่ นนี่เพราะเกียจคร้ านงานไม่ ทา
                                                                                                         ํ
                                              ๕ ดี เพือสั งคม คือ
                                                      ่
                     คิดดี       พูดดี          ทําดี          คบคนดี         ไปสู่ สถานที่ดี ๆ
                                    หลักการพัฒนาตนเองด้ วยศีล ๕ คือ
             ๑. ไม่ โหดร้ าย ๒. ไม่ มือไว ๓. ไม่ ใจอยาก ๔. ไม่ ปากชั่ว ๕ . ไม่ มัวเมาด้ วยอบายมุข
                                          ปัญหาของโลกในปัจจุบัน
       ๑. แย่ งอาหารกันกิน ๒. แย่ งถินกันอยู่
                                      ่             ๓. แย่ งคู่กนพิศวาส ๔. แย่ งอํานาจกันเป็ นใหญ่
                                                                ั
            ยุคคนไทย IQ เตีย Idea ตํา ปัญญา Buffalo อวัยวะโต แต่ มันสมองเล็ก Sexรุ นแรง
                             ้           ่
      แก่ งแย่ งชิงดี กดขีปวงประชา ธุรกิจการค้ าล้ มละลาย ขายตัว มั่วกาม คุกคามทางเพศ เอดส์ ระบาด
                          ่
                             ชาติล่ม สั งคมทรุ ด มนุษย์ ทราม ชอบทําตามใจตนเอง
                               ผญาอีสานกับชีวตคนหนุ่มสาวในสั งคมปัจจุบัน
                                             ิ
        ตกสมัยพุทธศักราชลํา ๒๕๔๗ เหตุแห่ งเมืองไทยแลนด์ ป่ าสิ แปนปานหัวล้ าน สาวสิ หนีไกลบ้ าน เฮือน
                                ้
ซานบ่ ข่องเกียว สมัยคนของเคียว บ่ หัวซาโต่ งซิ่น กระโปรงฮือฮัดอยู่แฮว กําลังเกิดขึนแล้ ว กําลังเกิดขึนแล้ ว
              ่                                                  ้                          ้               ้
หลายหลากสารพัด คนบ่ หัวซาวัด ฮอดสมัยคนใจตืน ถืกอธรรมนําทืน เมืองทั้งเมืองเกลียงอ่ อยฮอย ลูกเอาผัว
                                                      ้                ่                      ้
เอาเมีย พ่ อกับแม่ อยู่ทางบ้ าน พากันได้ ลูกน้ อย จนลาวปอยใส่ กน ผู้ลูกสาวว่ าสั้ นสนุกแท้ บ่แลหลัง พ่อแม่ อายคน
                                                        ้      ั
นินทาบ่ ทนฟัง หน้ าเหลือทอ ๒ นิว หลงสี แดงสี สิ่ว จนลืมหมกปลาซิว จนลืมต้ มปลาค่ อ ลืมคุณแม่ คุณพ่อ ลืม
                                    ้
เอาฮอดโต่ งซิ่น กะเลยสิ้นค่ าสาว ชั่นดอกหว้ า.
 ท่ านหลวงพ่ อพุทธทาสภิกขุ เตือนใจวัยรุ่นว่ า บังคับจิตใจตนเองได้ แค่ น้ันก็เป็ นยุวชนทีดได้ แล้ ว
                                                                                        ่ ี
ปริศนาธรรมนําสุ ข
     ทีดากลับขาว ได้ แก่ เส้ นผม
       ่ ํ                                 ทียาวกลับสั้ น ได้ แก่ สายตา
                                             ่                                 ทีมั่นกลับคลอน ได้ แก่ ฟัน
                                                                                 ่
      ทีหย่ อนกลับตึง
         ่                ได้ แก่ หู        ทีซึ้งกลับเยอะ ได้ แก่ สั ญญาความจําได้ หมายรู้ ( ต. ต. ต. ต. )
                                               ่
               ธรรมะประยุกต์ ในพระพุทธศาสนา ยุวชนมีความคิดเห็นอย่ างไรบ้ างครับ ?
 ๑. ชีวตหลังความตายแล้วจะเป็ นอย่างไร พิสูจน์ ได้หรือไม่ ? ๒. นรก – สวรรค์มีจริงหรือไม่ พิสูจน์ ได้อย่างไร?
       ิ
         ๓. การทําแท้ งผิดศีลธรรมหรือไม่ อย่างไร ? ๔. พระพุทธศาสนามองปัญหาโสเภณีเป็ นอย่างไร ?
                   วัฒนธรรมตะวันตก ทีว่าแน่ ก็ยงแพ้ วฒนธรรมไทย (ความแตกต่ าง)
                                          ่        ั     ั
             วัฒนธรรมไทย (มาจาก….?)                                วัฒนธรรมนอก (มาจาก… .?)
 วัฒน แปลว่า เจริ ญ , งอกงาม                             น = หนองใน
 ธรรม แปลว่า ศูนย์รวม                                    อ = เอดส์
 ไทย มาจาก ไ = ไตรรงค์ คือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริ ย,์   ก = เกิด
 ท = ทน ทาน เท่ห์ , ย = ยิง ยืน ยาว
                          ่
                                                         วัฒนธรรมนอก คือ ศูนย์ รวมแห่ งความเจริญของ
 วัฒนธรรมไทย คือ ศูนย์รวมแห่ งความเจริ ญของ ชาติ
 ศาสนา พระมหากษัตริ ย ์ ทนทาน ยิงยืนยาว
                                                         การเกิดหนองใน เอดส์ เป็ นต้ น
                                   ่
                       “ เอดส์ ” ทางพระพุทธศาสนาแบ่ งออกเป็ น ๖ ประเภท คือ
๑. เอดส์ ทางกาย      ได้ แก่   การแสดงออกจากทางกิริยามารยาท การพูด การเดินพฤติกรรมวิปริต เป็ นต้ น
๒. เอดส์ ทางกาม      ได้ แก่   การไม่ รวมในกาม มีปกติสําส่ อนทางเพศ เสพไม่ เลือกทีเ่ ลือกคู่ เป็ นต้ น
๓. เอดส์ ทางวัฒนธรรมได้ แก่    การแสดงออกทางภาษา การพูดแบบสิ้นคิด การแต่ งกายไม่ สุภาพ เป็ นต้ น
๔. เอดส์ ทางอารมณ์ ได้ แก่     อารมณ์ ชอบ / ชัง อิจฉาริษยา อิจฉาตาร้ อน นินทาว่ าร้ าย มองคนในแง่ ร้าย
๕. เอดส์ ทางความคิด ได้ แก่    คนมีความคิดวิปริต ไม่ มความเคารพพ่ อแม่ ครู อาจารย์ พระสงฆ์ ไม่ ร้ ู จกบุญคุณ
                                                      ี                                              ั
๖. เอดส์ ทางการเมือง ได้ แก่   แสดงออกลักษณะ ๕ ก. คือ เกะกะ ก่ อกวน กลันแกล้ ง กอบโกย โกงกิน
                                                                             ่
                                        มนต์ คาถาป้ องกันเอดส์ ทางกาย
          ๑. ไม่ เห็นแก่ กาม     ๒. ไม่ ตามใจอยาก ๓. ไม่ มากคู่เคียง        ๔. ไม่ เสี่ ยงสิ่ งเสพย์ ตด
                                                                                                      ิ
  เมาเพศหมดราคา เมาสุ ราหมดสํ าคัญ เมาการพนันหมดตัว เมาเพือนชั่วหมดดี เมาโสเภณีชุบเปอร์ สตาร์ เอดส์
                                                                ่
(สรุป) ๕ ดีเพือตนเอง คือ เป็ นลูกที่ดีของพ่อแม่ เป็ นศิษย์ที่ดีของครู บาอาจารย์ เป็ นเพื่อนที่ดีของเพื่อน
                  ่
                              เป็ นพลเมืองที่ดีของประเทศชาติ เป็ นศาสนิกชนที่ดีของพระพุทธศาสนา
        โดย………พระอาจารย์ ปราโมทย์ วาทโกวิโทภิกขุ ( พันธพัฒน์ )………บันทึกคติธรรมนําชีวต                   ิ
                     ทีมงานพระหนุ่มกลุ่มอบรมธรรมะสร้ างสรรค์ เพือพัฒนาชีวตเยาวชนไทย
                                                                  ่       ิ
ศึกษาวิถธรรมวิถพทธ “ ฐานพระผู้มบุญคุณ ”
                            ี      ี ุ             ี
โครงการอบรมธรรมะสู่ ดวงใจ “ยุวพุทธ พบ ยุวชน” ค่ ายพุทธบุตร โรงเรียน………………………...
         -----------------------------------------------------------------------------------------------
                                        หน้ าทีของบุตรธิดา (ลูก) คือ
                                               ่
           ๑. เลียงท่ านตอบ
                 ้                  ๒.งานช่ วยทํา ๓. คําจุนวงศ์
                                                       ้                     ๔. ดํารงตนดี        ๕. สิ้นชีวทาบุญให้
                                                                                                           ี ํ
                                          หน้ าทีของบิดามารดา ( พ่ อแม่ ) คือ
                                                 ่
  ๑. ห้ ามจากความชั่ว ๒. ให้ ต้งตนเป็ นคนดี
                                    ั                      ๓. ให้ มีความรู้   ๔. จัดคู่ให้ อยู่ครอง ๕. มอบกองมรดก
                             สรุ ปให้ จาง่ าย ๆ คือ ตัดชั่ว ตัวดี วิชาอยู่ คู่บุญ และทุนมี
                                       ํ
   ห้ าม – ห้ ามมิให้ ทาชั่ว, ให้ – ให้ ทาความดี , หวง – ใครจะทําอันตรายมิได้ , ห่ วง – ทุ่มเทเสี ยสละเพือลูก
                       ํ                 ํ                                                                   ่
            เสน่ ห์ของผ้ าขีริ้ว ผ้ าขีริ้วมีปรัชญาทีน่าศึกษา คือ เป็ นผ้ าทีขเี้ หร่ แต่ มีเสน่ ห์ เพราะ…
                            ้          ้             ่                       ่
                                                       (ผ้ าขีริ้วยอมสกปรกเพือให้ สิ่งอืนสะอาด)
                                                              ้              ่          ่
            เสน่ห์ของคนที่ยอมลําบากเพื่อให้ผอื่นเป็ นสุ ข เช่น พ่อแม่ยอมเหนื่อยเพื่อให้ลูกหลานสุ ขสบาย ยอมโน้มตัวจากที่สูงลง
                                                    ู้
สู่ ที่ต่าได้ ส่ งให้ศึกษาเล่าเรี ยนเพื่ออนาคตของลูกตนเอง(ลูกดีต้องมี ๔ ช. คือ เชื่อ = ฟัง , ช่ วย= งาน , ชื่น = ชม , เชิด =ตระกูล)
         ํ
                             (ผ้ าขีริ้วดูดซับความสกปรกได้ แต่ กสลัดความสกปรกออกจากตัว ได้ ตลอดเวลา)
                                    ้                                    ็
            เสน่ห์ของคนที่รู้ตวเองว่าสกปรก เมื่อถึงเวลาก็ชาระล้างให้สะอาด เหมือนชําระร่ างกายประจําวัน มิใช่อมความสกปรก
                                 ั                                   ํ
ไว้แล้วแกล้งหลอกตัวเองว่าสะอาดหมดจด คือรู ้จกยอมรับว่าตนก็ทาผิดได้ มิใช่ถูกเสมอไป ขอบคุณเมื่อมีคนตักเตือน ถือว่า
                                                                ั                ํ
เป็ นครู ของเรา เช่น พ่อแม่บอกกล่าวตักเตือน ก็เชื่อฟังคําสังสอน ไม่เถียงด้วยวาจาก้าวร้าว คิดว่าตนเองถูกเสมอ คิดว่าพ่อแม่
                                                                       ่
เป็ นคนไม่ทนสมัย อย่ าลืมว่ ากรรมชั่ว ทีทากับพ่อแม่ มันบาปมากทีสุด
                 ั                              ่ ํ                            ่
                                               พระคุณของแม่ มี ๕ ส. คือ
   ๑. แม่ เป็ นผู้สร้ าง (สร้ างให้ ลูกเกิดมาเป็ นคน เป็ นมนุษย์ )
   ๒.แม่ เป็ นผู้สอน (สอนให้ รู้ จกการดําเนินชีวต สอนให้ ร้ ู จกอ่ อนน้ อมถ่ อมตนต่ อผู้มีพระคุณ)
                                       ั             ิ             ั
   ๓. แม่ เป็ นผู้ส่ง (ส่ งให้ ศึกษาเล่ าเรียน ให้ มีอนาคตก้ าวหน้ า ได้ ประกาศนียบัตร ไม่ ใช่ ได้ ประกาศนียบุตร )
   ๔. แม่ เป็ นเสริม (เสริมให้ สูง ประคองมิให้ เซ คําไม่ ให้ ทรุ ด )
                                                            ้
   ๕. แม่ เป็ นผู้เสี ย (เสี ยสละทุกอย่ างทั้งหยาดเหงือ ทรัพย์ สิ้น ความสุ ข สติปัญญาเพือลูก)
                                                          ่                                 ่
แววของลูกทีดี ๑. ต้ องขยัน ๒. ต้ องอดทน ๓. ต้ องประหยัด ๔. ต้ องซื่อสัตย์ ๕. ต้ องกตัญญู
                ่
                                        ความทุกข์ ของพ่ อแม่ มี ๓ ประการคือ
         ๑. ทุกข์ เพราะไม่ มีลูก            ๒. ทุกข์ เพราะลูกตาย               ๓. ทุกข์ เพราะลูกชั่ว (ทุกข์ มากทีสุด)
                                                                                                                 ่
                       ทําไมคนไม่ รีบกตัญญู เพราะติด ๒ รอ คือ ๑. รอว่ าง ๒. รอรวย
การเลียงพ่ อแม่ มี ๒ วิธี คือ
                                                      ้
๑. เลียงทางกาย
      ้                   ได้ แก่ เลียงด้ วยให้ ข้าวนํา เสื้อผ้ า ยารักษาโรค ของกินเครื่องใช้ มิปล่ อยให้ ท่านอดรัดทดใจ
                                     ้                ้
๒. เลียงทางใจ
        ้                 ได้ แก่ ทําความดีให้ ท่านชื่นใจ เว้ นจากเรื่องกระทบกระเทือนความรู้ สึก เรียนให้ จบ
                                                     สรุปสิ่ งพ่ อแม่ ให้ ลูก คือ
๑. ให้ กาเนิด คือ
        ํ                 ชีวต เลือดเนือ ยอดแห่ งทรัพย์
                             ิ         ้                              ๒. ให้ นํานม คือ เลือดทีหลังเพือหล่อเลียงชีวตลูก
                                                                               ้               ่ ่ ่         ้ ิ
๓. ให้ การอบรม คือ        แนะนําทางดี ให้ หลีกทางชั่ว                 ๔. ให้ บรมธรรม คือ บอกอุบายการดําเนินชีวตทีดี
                                                                                                              ิ ่
                                                   ลูกไทย ๆ ยุค “ไฮเทค”
ลูก……ยอดเยียม๑. ลูกรัก
           ่                        ลูกทีรักพ่ อรักแม่ รักวงศ์ ตระกูล รักมรดกทีพ่อแม่ มอบให้ ไม่ ทาลาย
                                           ่                                     ่                    ํ
                 ๒. ลูกเลียง
                          ้         ลูกทีมีคุณธรรมกตัญญูกตเวที เลียงดูพ่อแม่ ให้ มีความสุ ขกาย สุ ขใจ
                                         ่                             ้
                 ๓. ลูกเลิศ         ลูกทีประเสริฐกว่ าพ่ อแม่ เชิดชู วงศ์ ตระกูลเป็ นสง่ าราศีแก่วงศ์ ตระกูลของตน
                                             ่
ลูก……ยอดแย่ ๑. ลูกริบ               ลูกขีโกง จ้ องหาจังหวะแต่ จะเบียดบังทรัพย์ สินพ่ อแม่
                                         ้
                 ๒. ลูกลอก          ลูกทีปอกลอกพ่อแม่
                                                ่              เลียงไม่ ร้ ูจักโต ให้ ไม่ รู้ จักพอ
                                                                  ้
                 ๓. ลูกลาก          ลูกทีก่อเวรสร้ างแต่ กรรม นําทุกข์ มาสู่ พ่อแม่ ลากพ่ อแม่ ขึนโรงขึนศาลยันคุก
                                              ่                                                       ้ ้
                 ๔. ลูกรก           ลูกทีอยู่ทไหนพ่ อแม่ กหนักใจ รกตระกูล ลักษณะว่ า “ชั่วเกินโปรดคดเกินดัด”
                                             ่ ี่          ็
                 ๕. ลูกนรก          ลูกทีใจดําอํามหิต ฆ่ าได้ กระทังพ่ อแม่ ทําร้ ายได้ แม้ ผู้มพระคุณ
                                           ่                        ่                               ี
                                               ครู ในโลกนีมี ๔ ประเภท คือ
                                                          ้
๑. ครู ประจําบ้ าน        ได้ แก่           พ่ อแม่ เป็ นผู้ทให้ กาเนิด และเลียงเรามาตั้งแต่ เล็ก ๆ หัดสอนให้ เดิน
                                                               ี่ ํ           ้
๒. ครู ประจําโรงเรียน     ได้ แก่           ครู บาอาจารย์ทสอนศิลปวิทยาแก่ศิษย์ ให้ อ่านออกเขียนได้
                                                            ี่
๓. ครูประจําโลก (จิตใจ)   ได้ แก่           พระพุทธเจ้ า พระสงฆ์ สาวก ผู้นําธรรมะมาอบรมสั่ งสอนให้ เราเป็ นคนดี
๔. ครู ประจําธรรมชาติ     ได้ แก่           ประสบการณ์สิ่งทีได้ ผ่านไปแล้ วในชีวตจิตใจของเรา ทั้งดีและไม่ ดี
                                                                 ่                ิ
                                                      หน้ าทีของศิษย์ ทดี
                                                             ่         ี่
    ๑. ต้ องมีความเคารพ ๒. คบการศึกษา ๓. กล้ ารับความผิด ๔. คิดช่ วยเหลือครู ๕ . กตัญญูต่อสถาบัน
กรรม ๖ ประเภท ๑.ทําแล้วเศร้ าหมอง            เรียกว่ า บาปกรรม     (ฆ่ าสั ตว์ ลักทรัพย์ มั่วยาเสพติด ทะเลาะกัน)
                   ๒.ทําแล้วผ่ องใส          เรียกว่ า บุญกรรม     (ทําบุญ ช่ วยเหลือคนทีตกทุกข์ สามัคคี )
                                                                                               ่
                   ๓.ทําแล้ วผูกพันธ์ ติดตาม เรียกว่ า เวรกรรม     (ความโกรธ อิจฉาริษยา แก้แค้ นการฆ่ ากัน)
                   ๔.ทําแล้วโง่              เรียกว่ า อกุศลกรรม (ความชั่วทุกชนิดในโลกนี้ ใช้ ความรุนแรง)
                   ๕. ทําแล้ วฉลาด           เรียกว่ า กุศลกรรม    (ความดีทุกชนิดในโลกนี้ ใช้ ปัญญาพิจารณา)
                   ๖. ทําแล้ วดีแต่ มีข้นตอน เรียกว่ า พิธีกรรม
                                        ั                          (เป็ นคนมีเหตุมีผล ทํางานมีระบบระเบียบวินัย)
              โดย………พระอาจารย์ ปราโมทย์ วาทโกวิโทภิกขุ ( พันธพัฒน์ )………บันทึกคติธรรมนําชีวต            ิ
                    ทีมงานพระหนุ่มกลุ่มอบรมธรรมะสร้ างสรรค์ เพือพัฒนาชีวตเยาวชนไทย
                                                                 ่              ิ
ศึกษาวิถธรรมวิถพทธ “ ฐานเป้ าหมายของการศึกษา ”
                  ี      ี ุ
โครงการอบรมธรรมะสู่ ดวงใจ “ยุวพุทธ พบ ยุวชน” ค่ ายพุทธบุตร โรงเรียน………………………..
         -----------------------------------------------------------------------------------------------
                                             การศึกษา( Education )
       ศึกษาทางโลก - เรียนไปเพือเพิมทุกข์ / ศึกษาทางธรรม- เรียนไปเพือหมดทุกข์
                                  ่ ่                                      ่
                      สิ่ งทีไม่ ควรทําเร็วค่ อย ๆ เป็ นค่ อย ๆไป ๗ ประการ
                             ่
     ๑. ความรัก        ๒. การเกา          ๓. การขึนต้ นไม้
                                                    ้        ๔. การว่ ายนํา ๕. การรับประทานอาหาร
                                                                          ้
                                            ๖. การสร้ างฐานะ ๗. การศึกษา
           คนเราเกิดมามี ๔ บัตร          ๑. สู จบัตร ๒. ประกาศนียบัตร ๓. ธนบัตร ๔. มรณบัตร
                                                ิ
                             สถานทีทก่อให้ เกิดสติปัญญาหรือ เกิดความคิดดี ๆ
                                   ่ ี่
       ๑. วัด                  - ทําให้ นึกถึงพระ – สวรรค์
       ๒. วัง                  - นึกถึงศิลปกรรม ความดีทพระมหากษัตริย์ทรงมีต่อประเทศชาติ
                                                              ี่
       ๓. โรงเรียน             - นึกถึงความก้ าวหน้ า – อนาคต
       ๔. โรงศาล               - นึกถึงความผิดพลาด - ความประมาท
       ๕. โรงพยาบาท            - นึกถึงอนิจจังของสั งขารว่ าไม่ เทียง
                                                                   ่
                                                   ความเชื่อต่ างกัน
            เด็กอนุบาล เชื่อพ่อแม่ เด็กประถม เชื่อคุณครู เด็กมัธยม เชื่อเพือน
                                                                            ่
           ปริญญาตรี เชื่อตํารา    ปริญญาโท เชื่อตนเอง ปริญญาเอก ไม่ เชื่อใครเลย
                                                      อะไรเอ่ ย ?
๑. บ้ านใกล้ ท่านํา ไม่ มีนํากิน - เกิดมาพบพระพุทธศาสนาแล้ ว เป็ นคนไม่ ศึกษาธรรมะ ไม่ มีธรรมะประจําจิตใจ
                  ้         ้
๒. ช่ างปั้นดินไม่ มีหม้ อใช้ - ตัวของเราเองไม่ คุณธรรมประจิตใจ เช่ น ความกตัญญูกตเวที ความอ่ อนน้ อม
๓. เลียงไก่ ไม่ มีเสี ยงขัน
       ้                         - ลูกเนรคุณพ่อแม่ ครู อาจารย์ ไม่ มความเคารพต่ อท่ านผู้มีพระคุณ
                                                                    ี
๔. อยากไปสวรรค์ ให้ ไปแก้ ซิ่นทีวด - ศึกษาธรรมะจากคัมภีร์ ศึกษาเล่ าเรียนวิชาพระพุทธศาสนา แล้ วนําไปปฏิบัติ
                                   ่ั
                                       หัวใจนักปราชญ์ หลักการเรียนเก่ ง
                           ฟังให้ หมด            จดให้ มาก    ปากต้ องไว        ใจต้ องคิด
              สุ ต้ องตั้งใจฟังให้ ดอย่ าขีเ้ กียจ
                                    ี                                 จิ คิดให้ ละเอียดข้ อสงสั ย
              ปุ ถามตามเนือความทีข้องใจ
                              ้          ่                            ลิ เขียนไว้ เมื่อสงสั ยให้ เปิ ดดู
ทําไมมนุษย์ เกิดมาไม่ เหมือนกัน
๑. มีอายุยน ื                 เพราะ   - มีเมตตาต่ อสั ตว์ ไม่ ฆ่าสั ตว์ ไม่ เบียดเบียนสั ตว์
๒. ไม่ ป่วยเป็ นโรค           เพราะ   - ไม่ ทาร้ ายทรมานและกักขังสั ตว์
                                              ํ
๓. รู ปร่ างหล่ อสวย          เพราะ   - ไม่ มีความโกรธแค้ น
๔. มียศศักดิ์                 เพราะ   - มีความยินดีเมื่อคนอืนได้ ดี ไม่ อจฉาริษยา
                                                              ่          ิ
๕. มีฐานะรํ่ารวย              เพราะ   - ใฝ่ ทําบุญสุ นทานมามาก
๖. มีตระกูลสู ง               เพราะ   - มีความเคารพ อ่ อนน้ อม ถ่ อมตน
๗. มีสติปัญญาดี               เพราะ   - เข้ าหาพระสงฆ์ เข้ าหาบัณฑิต ตั้งใจศึกษาเล่ าเรียน
เรียนเก่ งอย่ างมีหลัก        ๑. เรียนจากครู เรียนจากครูทโรงเรียน
                                                         ี่
                              ๒. ดูจากตํารา อ่ านศึกษาจากตําราในห้ องสมุด      ๓. สดับปาฐะ ฟังจากผู้รู้คนอืน
                                                                                                           ่
ทางทีจะเรียนให้ จบ คือ
      ่                       - อิทธิบาท ๔ ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา
อ่ อนน้ อมมีเสน่ ห์ คือ       - มืออ่ อน หัวอ่ อน เข่ าอ่ อน หลังอ่ อน ปากอ่ อน
                                       ศึกษาไปเพือนทํางานทีไม่ มโทษ
                                                 ่         ่ ี
              ๑. ไม่ ผดกฎหมาย ๒. ไม่ ผดประเพณี ๓. ไม่ ผดศีล
                      ิ               ิ                   ิ           ๔. ไม่ ผดธรรม
                                                                              ิ
การเคารพ หมายถึง การแสดงความนับถือ การแสดงความอ่อนน้ อม อ่อนโยน ถ่ อมตนอย่างเหมาะสม ทั้งต่ อ
หน้ าและลับหลัง ความเคารพมี ๗ ประเภท ๑. เคารพในพระพุทธเจ้ า
              ๒.เคารพในพระธรรม        ๓. เคารพในพระสงฆ์        ๔. เคารพในการศึกษา
              ๕. เคารพในสมาธิ         ๖. เคารพในความไม่ ประมาท ๗. เคารพในปฏิสันถาร
                                                นักเรียนทีดีควร
                                                          ่
๑.ไม่ โยกเก้ าอี้       ๒. ไม่ หนีโรงเรียน ๓. ไม่ เขียนข้ างฝา ๔. ไม่ ด่าครู สอน            ๕. ไม่ นอนตืนสาย
                                                                                                        ่
๖. ไม่ หน่ ายการเรียน ๗. ไม่ เพียรทําผิด ๘. ไม่ คดมุ่งร้ าย  ิ             ๙. ไม่ อายการงาน ๑๐. ไม่ ผลาญเงินตรา
๑๑. ไม่ ซ่าหาเรื่อง ๑๒. ไม่ เคืองโกรธกัน ๑๓. ไม่ หันหาอบายมุข ๑๔. ไม่ คลุกกับเกมส์
๔ ย. ก่ อปัญหา๑. ย. เยาวชน              ขาดความอบอุ่น ถูกทอดทิง นักเรียน กลายเป็ นนักเลง (อาชีวะ เป็ น อาซิว่ะ)
                                                                       ้
                    ๒.ย. ยากจน          เศรษฐกิจฝื ดเคือง ความฟุ้ งเฟอ ฟุ้ มเฟื อย
                                                                         ้
                   ๓. ย.ยาเสพติด ตัวอันตรายทีบ่อนทําลายคน , เศรษฐกิจประเทศชาติและสั งคม
                                                          ่
                   ๔. ย.ยุแหย่          ยุให้ รํา ตําให้ รั่ว ทั้งปากคนและปากกา
                   โดย………พระอาจารย์ ปราโมทย์ วาทโกวิโทภิกขุ ( พันธพัฒน์ )………บันทึกคติธรรมนําชีวต
                                                                                               ิ
                       ทีมงานพระหนุ่มกลุ่มอบรมธรรมะสร้ างสรรค์ เพือพัฒนาชีวตเยาวชนไทย
                                                                  ่        ิ
หลักและวิธีการใช้ ทรัพย์
       ๑. ฝากออมสิ น เก็บฝากธนาคารไว้ ใช้ ในยามจําเป็ น
       ๒. ฝังดินไว้ บริจาคทําบุญสุ นทานในพระพุทธศาสนา
       ๓. ใช้ หนีเ้ ก่ า พ่ อแม่ เลียงเรามา เราก็เลียงท่ านตอบ
                                      ้                ้
       ๔. ให้ เขากู้     เลียงดูบุตรธิดา ส่ งให้ ศึกษาเล่าเรียน
                            ้
       ๕. ใส่ ปากงูเห่ า ช่ วยเหลือญาติมิตร
       ๖. ทิงลงสู่ เหว เลียงตัวเราเอง
            ้                 ้
นํา ๓ ประเภท ทําให้ ฉิบหาย
  ้
       ๑. นําเหล้ า
              ้          ทําให้ ว่ ุนวาย
       ๒. นําลาย  ้      ทําให้ ขัดแย้ ง
       ๓. นําหมึก
                ้        ทําให้ ย่ ุง ( หนังสื อพิมพ์)

More Related Content

What's hot

คำกลอนสอนศิษย์
คำกลอนสอนศิษย์คำกลอนสอนศิษย์
คำกลอนสอนศิษย์PomPam Comsci
 
ปริศนาธรรมในพุทธปรัชญา
ปริศนาธรรมในพุทธปรัชญาปริศนาธรรมในพุทธปรัชญา
ปริศนาธรรมในพุทธปรัชญาpentanino
 
ศึกษาเปรียบเทียบแนวความคิด
ศึกษาเปรียบเทียบแนวความคิดศึกษาเปรียบเทียบแนวความคิด
ศึกษาเปรียบเทียบแนวความคิดpentanino
 
เรื่องศาสนาเชน
เรื่องศาสนาเชนเรื่องศาสนาเชน
เรื่องศาสนาเชนTongsamut vorasan
 
คู่มืออบรมยุวพุทธ
คู่มืออบรมยุวพุทธคู่มืออบรมยุวพุทธ
คู่มืออบรมยุวพุทธniralai
 
วิชาปรัชญาจีน ตอน ปรัชญาของจวงจื๊อ
วิชาปรัชญาจีน ตอน ปรัชญาของจวงจื๊อวิชาปรัชญาจีน ตอน ปรัชญาของจวงจื๊อ
วิชาปรัชญาจีน ตอน ปรัชญาของจวงจื๊อPadvee Academy
 
สายธารปรัชญาคือที่มาของสรรพศาสตร์
สายธารปรัชญาคือที่มาของสรรพศาสตร์สายธารปรัชญาคือที่มาของสรรพศาสตร์
สายธารปรัชญาคือที่มาของสรรพศาสตร์pentanino
 
โพธิยาลัย เดือน กุมภาพันธ์ 2555
โพธิยาลัย เดือน กุมภาพันธ์ 2555โพธิยาลัย เดือน กุมภาพันธ์ 2555
โพธิยาลัย เดือน กุมภาพันธ์ 2555Panda Jing
 
ศึกษาเปรียบเทียบหลักจริยศาสตร์ของโสคราตีสกับพุทธปรัชญาเถรวาท
ศึกษาเปรียบเทียบหลักจริยศาสตร์ของโสคราตีสกับพุทธปรัชญาเถรวาทศึกษาเปรียบเทียบหลักจริยศาสตร์ของโสคราตีสกับพุทธปรัชญาเถรวาท
ศึกษาเปรียบเทียบหลักจริยศาสตร์ของโสคราตีสกับพุทธปรัชญาเถรวาทpentanino
 
วิชาปรัชญาจีน ตอน ปรัชญาเม่งจื๊อ
วิชาปรัชญาจีน ตอน ปรัชญาเม่งจื๊อวิชาปรัชญาจีน ตอน ปรัชญาเม่งจื๊อ
วิชาปรัชญาจีน ตอน ปรัชญาเม่งจื๊อPadvee Academy
 
เชิญร่วมงานสาธยายพระไตรปิฎก วัดมเหยงคณ์ วันที่ 5 เดือน 5 2555
เชิญร่วมงานสาธยายพระไตรปิฎก วัดมเหยงคณ์ วันที่ 5 เดือน 5 2555เชิญร่วมงานสาธยายพระไตรปิฎก วัดมเหยงคณ์ วันที่ 5 เดือน 5 2555
เชิญร่วมงานสาธยายพระไตรปิฎก วัดมเหยงคณ์ วันที่ 5 เดือน 5 2555Carzanova
 
ศาสนาเชน
ศาสนาเชนศาสนาเชน
ศาสนาเชนPadvee Academy
 
ครูพัชราภรณ์ เหมือนรุ่ง
ครูพัชราภรณ์    เหมือนรุ่งครูพัชราภรณ์    เหมือนรุ่ง
ครูพัชราภรณ์ เหมือนรุ่งพัน พัน
 
เปรียบเทียบความเชื่อเรื่องความดีความชั่วในศาสนาต่างๆ
เปรียบเทียบความเชื่อเรื่องความดีความชั่วในศาสนาต่างๆเปรียบเทียบความเชื่อเรื่องความดีความชั่วในศาสนาต่างๆ
เปรียบเทียบความเชื่อเรื่องความดีความชั่วในศาสนาต่างๆAnchalee BuddhaBucha
 
2 แก้กรรม แนวพุทธ cancelkarma
2 แก้กรรม แนวพุทธ cancelkarma2 แก้กรรม แนวพุทธ cancelkarma
2 แก้กรรม แนวพุทธ cancelkarmaTongsamut vorasan
 
ศึกษาเรื่องกรรมในทางพระพุทธศาสนา
ศึกษาเรื่องกรรมในทางพระพุทธศาสนาศึกษาเรื่องกรรมในทางพระพุทธศาสนา
ศึกษาเรื่องกรรมในทางพระพุทธศาสนาpentanino
 

What's hot (18)

คำกลอนสอนศิษย์
คำกลอนสอนศิษย์คำกลอนสอนศิษย์
คำกลอนสอนศิษย์
 
ปริศนาธรรมในพุทธปรัชญา
ปริศนาธรรมในพุทธปรัชญาปริศนาธรรมในพุทธปรัชญา
ปริศนาธรรมในพุทธปรัชญา
 
ศึกษาเปรียบเทียบแนวความคิด
ศึกษาเปรียบเทียบแนวความคิดศึกษาเปรียบเทียบแนวความคิด
ศึกษาเปรียบเทียบแนวความคิด
 
เรื่องศาสนาเชน
เรื่องศาสนาเชนเรื่องศาสนาเชน
เรื่องศาสนาเชน
 
คู่มืออบรมยุวพุทธ
คู่มืออบรมยุวพุทธคู่มืออบรมยุวพุทธ
คู่มืออบรมยุวพุทธ
 
วิชาปรัชญาจีน ตอน ปรัชญาของจวงจื๊อ
วิชาปรัชญาจีน ตอน ปรัชญาของจวงจื๊อวิชาปรัชญาจีน ตอน ปรัชญาของจวงจื๊อ
วิชาปรัชญาจีน ตอน ปรัชญาของจวงจื๊อ
 
สายธารปรัชญาคือที่มาของสรรพศาสตร์
สายธารปรัชญาคือที่มาของสรรพศาสตร์สายธารปรัชญาคือที่มาของสรรพศาสตร์
สายธารปรัชญาคือที่มาของสรรพศาสตร์
 
โพธิยาลัย เดือน กุมภาพันธ์ 2555
โพธิยาลัย เดือน กุมภาพันธ์ 2555โพธิยาลัย เดือน กุมภาพันธ์ 2555
โพธิยาลัย เดือน กุมภาพันธ์ 2555
 
ศึกษาเปรียบเทียบหลักจริยศาสตร์ของโสคราตีสกับพุทธปรัชญาเถรวาท
ศึกษาเปรียบเทียบหลักจริยศาสตร์ของโสคราตีสกับพุทธปรัชญาเถรวาทศึกษาเปรียบเทียบหลักจริยศาสตร์ของโสคราตีสกับพุทธปรัชญาเถรวาท
ศึกษาเปรียบเทียบหลักจริยศาสตร์ของโสคราตีสกับพุทธปรัชญาเถรวาท
 
วิชาปรัชญาจีน ตอน ปรัชญาเม่งจื๊อ
วิชาปรัชญาจีน ตอน ปรัชญาเม่งจื๊อวิชาปรัชญาจีน ตอน ปรัชญาเม่งจื๊อ
วิชาปรัชญาจีน ตอน ปรัชญาเม่งจื๊อ
 
ข้อสอบโควตา ม
ข้อสอบโควตา มข้อสอบโควตา ม
ข้อสอบโควตา ม
 
เชิญร่วมงานสาธยายพระไตรปิฎก วัดมเหยงคณ์ วันที่ 5 เดือน 5 2555
เชิญร่วมงานสาธยายพระไตรปิฎก วัดมเหยงคณ์ วันที่ 5 เดือน 5 2555เชิญร่วมงานสาธยายพระไตรปิฎก วัดมเหยงคณ์ วันที่ 5 เดือน 5 2555
เชิญร่วมงานสาธยายพระไตรปิฎก วัดมเหยงคณ์ วันที่ 5 เดือน 5 2555
 
ศาสนาเชน
ศาสนาเชนศาสนาเชน
ศาสนาเชน
 
ครูพัชราภรณ์ เหมือนรุ่ง
ครูพัชราภรณ์    เหมือนรุ่งครูพัชราภรณ์    เหมือนรุ่ง
ครูพัชราภรณ์ เหมือนรุ่ง
 
เปรียบเทียบความเชื่อเรื่องความดีความชั่วในศาสนาต่างๆ
เปรียบเทียบความเชื่อเรื่องความดีความชั่วในศาสนาต่างๆเปรียบเทียบความเชื่อเรื่องความดีความชั่วในศาสนาต่างๆ
เปรียบเทียบความเชื่อเรื่องความดีความชั่วในศาสนาต่างๆ
 
2 แก้กรรม แนวพุทธ cancelkarma
2 แก้กรรม แนวพุทธ cancelkarma2 แก้กรรม แนวพุทธ cancelkarma
2 แก้กรรม แนวพุทธ cancelkarma
 
บทที่ 1
บทที่ 1บทที่ 1
บทที่ 1
 
ศึกษาเรื่องกรรมในทางพระพุทธศาสนา
ศึกษาเรื่องกรรมในทางพระพุทธศาสนาศึกษาเรื่องกรรมในทางพระพุทธศาสนา
ศึกษาเรื่องกรรมในทางพระพุทธศาสนา
 

Viewers also liked

กษัตริย์ยอดกตัญญู
กษัตริย์ยอดกตัญญูกษัตริย์ยอดกตัญญู
กษัตริย์ยอดกตัญญูniralai
 
บทสวดมนตร์จากพระโอษฐ์
บทสวดมนตร์จากพระโอษฐ์บทสวดมนตร์จากพระโอษฐ์
บทสวดมนตร์จากพระโอษฐ์niralai
 
กำเนิดจักรวาล
กำเนิดจักรวาลกำเนิดจักรวาล
กำเนิดจักรวาลniralai
 
ความหมายของครู
ความหมายของครูความหมายของครู
ความหมายของครูniralai
 
อาจาระของพระภิกษุสามเณร
อาจาระของพระภิกษุสามเณรอาจาระของพระภิกษุสามเณร
อาจาระของพระภิกษุสามเณรniralai
 
บทสวดมนต์แปลสามเณรภาคฤดูร้อน
บทสวดมนต์แปลสามเณรภาคฤดูร้อนบทสวดมนต์แปลสามเณรภาคฤดูร้อน
บทสวดมนต์แปลสามเณรภาคฤดูร้อนniralai
 
สัญญาใจค่ายจริยธรรม
สัญญาใจค่ายจริยธรรมสัญญาใจค่ายจริยธรรม
สัญญาใจค่ายจริยธรรมniralai
 
หน้าที่ของเลขานุการ
หน้าที่ของเลขานุการหน้าที่ของเลขานุการ
หน้าที่ของเลขานุการniralai
 
สมุดประจำตัวกิจกรรมเยาวชนภาคฤดูร้อน
สมุดประจำตัวกิจกรรมเยาวชนภาคฤดูร้อนสมุดประจำตัวกิจกรรมเยาวชนภาคฤดูร้อน
สมุดประจำตัวกิจกรรมเยาวชนภาคฤดูร้อนniralai
 
พุทธวิธีในการสอน พระพรหมคุณาภรณ์(ป.อ.ปยุตฺโต)
พุทธวิธีในการสอน พระพรหมคุณาภรณ์(ป.อ.ปยุตฺโต) พุทธวิธีในการสอน พระพรหมคุณาภรณ์(ป.อ.ปยุตฺโต)
พุทธวิธีในการสอน พระพรหมคุณาภรณ์(ป.อ.ปยุตฺโต) niralai
 
บทสวดมนต์แปลภาษาไทยและภาษาอังกฤษ 7 บทสำหรับแข่งทักษะ
บทสวดมนต์แปลภาษาไทยและภาษาอังกฤษ 7 บทสำหรับแข่งทักษะบทสวดมนต์แปลภาษาไทยและภาษาอังกฤษ 7 บทสำหรับแข่งทักษะ
บทสวดมนต์แปลภาษาไทยและภาษาอังกฤษ 7 บทสำหรับแข่งทักษะอุษณีษ์ ศรีสม
 
พุทธวิธีในการสอน(ศึกษาวิจัยจากพระไตรปิฎก)
พุทธวิธีในการสอน(ศึกษาวิจัยจากพระไตรปิฎก)พุทธวิธีในการสอน(ศึกษาวิจัยจากพระไตรปิฎก)
พุทธวิธีในการสอน(ศึกษาวิจัยจากพระไตรปิฎก)niralai
 
คลอด
คลอดคลอด
คลอดniralai
 
คู่มือพระวิทยากร
คู่มือพระวิทยากรคู่มือพระวิทยากร
คู่มือพระวิทยากรniralai
 
ถ้าฉันเป็นครู
ถ้าฉันเป็นครูถ้าฉันเป็นครู
ถ้าฉันเป็นครูniralai
 
พุทธภาษิตนักเรียน
พุทธภาษิตนักเรียนพุทธภาษิตนักเรียน
พุทธภาษิตนักเรียนniralai
 
334กุศลกรรมบถ10
334กุศลกรรมบถ10334กุศลกรรมบถ10
334กุศลกรรมบถ10niralai
 
คำคมคารมปราชญ์
คำคมคารมปราชญ์คำคมคารมปราชญ์
คำคมคารมปราชญ์niralai
 
คู่มือโฆษกเสียงทอง
คู่มือโฆษกเสียงทองคู่มือโฆษกเสียงทอง
คู่มือโฆษกเสียงทองniralai
 

Viewers also liked (20)

กษัตริย์ยอดกตัญญู
กษัตริย์ยอดกตัญญูกษัตริย์ยอดกตัญญู
กษัตริย์ยอดกตัญญู
 
บทสวดมนตร์จากพระโอษฐ์
บทสวดมนตร์จากพระโอษฐ์บทสวดมนตร์จากพระโอษฐ์
บทสวดมนตร์จากพระโอษฐ์
 
กำเนิดจักรวาล
กำเนิดจักรวาลกำเนิดจักรวาล
กำเนิดจักรวาล
 
ความหมายของครู
ความหมายของครูความหมายของครู
ความหมายของครู
 
อาจาระของพระภิกษุสามเณร
อาจาระของพระภิกษุสามเณรอาจาระของพระภิกษุสามเณร
อาจาระของพระภิกษุสามเณร
 
บทสวดมนต์แปลสามเณรภาคฤดูร้อน
บทสวดมนต์แปลสามเณรภาคฤดูร้อนบทสวดมนต์แปลสามเณรภาคฤดูร้อน
บทสวดมนต์แปลสามเณรภาคฤดูร้อน
 
สัญญาใจค่ายจริยธรรม
สัญญาใจค่ายจริยธรรมสัญญาใจค่ายจริยธรรม
สัญญาใจค่ายจริยธรรม
 
หน้าที่ของเลขานุการ
หน้าที่ของเลขานุการหน้าที่ของเลขานุการ
หน้าที่ของเลขานุการ
 
สมุดประจำตัวกิจกรรมเยาวชนภาคฤดูร้อน
สมุดประจำตัวกิจกรรมเยาวชนภาคฤดูร้อนสมุดประจำตัวกิจกรรมเยาวชนภาคฤดูร้อน
สมุดประจำตัวกิจกรรมเยาวชนภาคฤดูร้อน
 
สวดมนต์แปล(ตัวใหญ่)
สวดมนต์แปล(ตัวใหญ่)สวดมนต์แปล(ตัวใหญ่)
สวดมนต์แปล(ตัวใหญ่)
 
พุทธวิธีในการสอน พระพรหมคุณาภรณ์(ป.อ.ปยุตฺโต)
พุทธวิธีในการสอน พระพรหมคุณาภรณ์(ป.อ.ปยุตฺโต) พุทธวิธีในการสอน พระพรหมคุณาภรณ์(ป.อ.ปยุตฺโต)
พุทธวิธีในการสอน พระพรหมคุณาภรณ์(ป.อ.ปยุตฺโต)
 
บทสวดมนต์แปลภาษาไทยและภาษาอังกฤษ 7 บทสำหรับแข่งทักษะ
บทสวดมนต์แปลภาษาไทยและภาษาอังกฤษ 7 บทสำหรับแข่งทักษะบทสวดมนต์แปลภาษาไทยและภาษาอังกฤษ 7 บทสำหรับแข่งทักษะ
บทสวดมนต์แปลภาษาไทยและภาษาอังกฤษ 7 บทสำหรับแข่งทักษะ
 
พุทธวิธีในการสอน(ศึกษาวิจัยจากพระไตรปิฎก)
พุทธวิธีในการสอน(ศึกษาวิจัยจากพระไตรปิฎก)พุทธวิธีในการสอน(ศึกษาวิจัยจากพระไตรปิฎก)
พุทธวิธีในการสอน(ศึกษาวิจัยจากพระไตรปิฎก)
 
คลอด
คลอดคลอด
คลอด
 
คู่มือพระวิทยากร
คู่มือพระวิทยากรคู่มือพระวิทยากร
คู่มือพระวิทยากร
 
ถ้าฉันเป็นครู
ถ้าฉันเป็นครูถ้าฉันเป็นครู
ถ้าฉันเป็นครู
 
พุทธภาษิตนักเรียน
พุทธภาษิตนักเรียนพุทธภาษิตนักเรียน
พุทธภาษิตนักเรียน
 
334กุศลกรรมบถ10
334กุศลกรรมบถ10334กุศลกรรมบถ10
334กุศลกรรมบถ10
 
คำคมคารมปราชญ์
คำคมคารมปราชญ์คำคมคารมปราชญ์
คำคมคารมปราชญ์
 
คู่มือโฆษกเสียงทอง
คู่มือโฆษกเสียงทองคู่มือโฆษกเสียงทอง
คู่มือโฆษกเสียงทอง
 

Similar to ศึกษาวิถีธรรมวิถีพุทธ

ครูมิใช่ช่างปั้นอันวิจิตร
ครูมิใช่ช่างปั้นอันวิจิตรครูมิใช่ช่างปั้นอันวิจิตร
ครูมิใช่ช่างปั้นอันวิจิตรniralai
 
กลอนครูและคำคม
กลอนครูและคำคมกลอนครูและคำคม
กลอนครูและคำคมniralai
 
สุภีร์ ทุมทอง สติปัญญา
สุภีร์ ทุมทอง   สติปัญญาสุภีร์ ทุมทอง   สติปัญญา
สุภีร์ ทุมทอง สติปัญญาTongsamut vorasan
 
คำอริยะถึงในหลวง
คำอริยะถึงในหลวงคำอริยะถึงในหลวง
คำอริยะถึงในหลวงSongsarid Ruecha
 
ความหมายของสำนวน
ความหมายของสำนวนความหมายของสำนวน
ความหมายของสำนวนJoice Naka
 
ผู้นำขี้โอ่...โอหัง
ผู้นำขี้โอ่...โอหังผู้นำขี้โอ่...โอหัง
ผู้นำขี้โอ่...โอหังWat Thai Washington, D.C.
 
ตายแล้วไปไหน
ตายแล้วไปไหนตายแล้วไปไหน
ตายแล้วไปไหนPanda Jing
 
ชวิตนี้มีแต่สุข_อ.เฉลิมชัย
ชวิตนี้มีแต่สุข_อ.เฉลิมชัยชวิตนี้มีแต่สุข_อ.เฉลิมชัย
ชวิตนี้มีแต่สุข_อ.เฉลิมชัยAchara Sritavarit
 
ทำอย่างไรชีวิตจึงจะมีความสุข
ทำอย่างไรชีวิตจึงจะมีความสุขทำอย่างไรชีวิตจึงจะมีความสุข
ทำอย่างไรชีวิตจึงจะมีความสุขniralai
 
หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ขันธะวิมุติสะมังคีธรรม
หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต    ขันธะวิมุติสะมังคีธรรมหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต    ขันธะวิมุติสะมังคีธรรม
หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ขันธะวิมุติสะมังคีธรรมTongsamut vorasan
 
3 ตามรอยธรรม dhamatrail
3 ตามรอยธรรม dhamatrail3 ตามรอยธรรม dhamatrail
3 ตามรอยธรรม dhamatrailTongsamut vorasan
 
3 ตามรอยธรรม dhamatrail
3 ตามรอยธรรม dhamatrail3 ตามรอยธรรม dhamatrail
3 ตามรอยธรรม dhamatrailTongsamut vorasan
 
โครงงานสุขภาพส่งเสริมคุณธรรม
โครงงานสุขภาพส่งเสริมคุณธรรมโครงงานสุขภาพส่งเสริมคุณธรรม
โครงงานสุขภาพส่งเสริมคุณธรรมtassanee chaicharoen
 
หลักธรรมพุทธศาสนา
หลักธรรมพุทธศาสนาหลักธรรมพุทธศาสนา
หลักธรรมพุทธศาสนาkruudompcccr
 
เอกสารเผยแพร่โครงงานสุขภาพ
เอกสารเผยแพร่โครงงานสุขภาพ เอกสารเผยแพร่โครงงานสุขภาพ
เอกสารเผยแพร่โครงงานสุขภาพ tassanee chaicharoen
 
จัดการความรู้ คุณธรรมนำความรู้ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
จัดการความรู้ คุณธรรมนำความรู้ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงจัดการความรู้ คุณธรรมนำความรู้ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
จัดการความรู้ คุณธรรมนำความรู้ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงLove Oil
 
นายณัฐกรณ์
นายณัฐกรณ์นายณัฐกรณ์
นายณัฐกรณ์Nattakorntop
 
The buddhist s_discipline
The buddhist s_disciplineThe buddhist s_discipline
The buddhist s_disciplineChawalit Jit
 

Similar to ศึกษาวิถีธรรมวิถีพุทธ (20)

กลอน
กลอนกลอน
กลอน
 
ครูมิใช่ช่างปั้นอันวิจิตร
ครูมิใช่ช่างปั้นอันวิจิตรครูมิใช่ช่างปั้นอันวิจิตร
ครูมิใช่ช่างปั้นอันวิจิตร
 
กลอนครูและคำคม
กลอนครูและคำคมกลอนครูและคำคม
กลอนครูและคำคม
 
สุภีร์ ทุมทอง สติปัญญา
สุภีร์ ทุมทอง   สติปัญญาสุภีร์ ทุมทอง   สติปัญญา
สุภีร์ ทุมทอง สติปัญญา
 
คำอริยะถึงในหลวง
คำอริยะถึงในหลวงคำอริยะถึงในหลวง
คำอริยะถึงในหลวง
 
ความหมายของสำนวน
ความหมายของสำนวนความหมายของสำนวน
ความหมายของสำนวน
 
ผู้นำขี้โอ่...โอหัง
ผู้นำขี้โอ่...โอหังผู้นำขี้โอ่...โอหัง
ผู้นำขี้โอ่...โอหัง
 
ตายแล้วไปไหน
ตายแล้วไปไหนตายแล้วไปไหน
ตายแล้วไปไหน
 
ชวิตนี้มีแต่สุข_อ.เฉลิมชัย
ชวิตนี้มีแต่สุข_อ.เฉลิมชัยชวิตนี้มีแต่สุข_อ.เฉลิมชัย
ชวิตนี้มีแต่สุข_อ.เฉลิมชัย
 
m3thai51
m3thai51m3thai51
m3thai51
 
ทำอย่างไรชีวิตจึงจะมีความสุข
ทำอย่างไรชีวิตจึงจะมีความสุขทำอย่างไรชีวิตจึงจะมีความสุข
ทำอย่างไรชีวิตจึงจะมีความสุข
 
หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ขันธะวิมุติสะมังคีธรรม
หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต    ขันธะวิมุติสะมังคีธรรมหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต    ขันธะวิมุติสะมังคีธรรม
หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ขันธะวิมุติสะมังคีธรรม
 
3 ตามรอยธรรม dhamatrail
3 ตามรอยธรรม dhamatrail3 ตามรอยธรรม dhamatrail
3 ตามรอยธรรม dhamatrail
 
3 ตามรอยธรรม dhamatrail
3 ตามรอยธรรม dhamatrail3 ตามรอยธรรม dhamatrail
3 ตามรอยธรรม dhamatrail
 
โครงงานสุขภาพส่งเสริมคุณธรรม
โครงงานสุขภาพส่งเสริมคุณธรรมโครงงานสุขภาพส่งเสริมคุณธรรม
โครงงานสุขภาพส่งเสริมคุณธรรม
 
หลักธรรมพุทธศาสนา
หลักธรรมพุทธศาสนาหลักธรรมพุทธศาสนา
หลักธรรมพุทธศาสนา
 
เอกสารเผยแพร่โครงงานสุขภาพ
เอกสารเผยแพร่โครงงานสุขภาพ เอกสารเผยแพร่โครงงานสุขภาพ
เอกสารเผยแพร่โครงงานสุขภาพ
 
จัดการความรู้ คุณธรรมนำความรู้ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
จัดการความรู้ คุณธรรมนำความรู้ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงจัดการความรู้ คุณธรรมนำความรู้ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
จัดการความรู้ คุณธรรมนำความรู้ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
 
นายณัฐกรณ์
นายณัฐกรณ์นายณัฐกรณ์
นายณัฐกรณ์
 
The buddhist s_discipline
The buddhist s_disciplineThe buddhist s_discipline
The buddhist s_discipline
 

More from niralai

332วันอาสาฬหบูชา
332วันอาสาฬหบูชา332วันอาสาฬหบูชา
332วันอาสาฬหบูชาniralai
 
331วันเข้าพรรษา
331วันเข้าพรรษา331วันเข้าพรรษา
331วันเข้าพรรษาniralai
 
338มารยาทไทย
338มารยาทไทย338มารยาทไทย
338มารยาทไทยniralai
 
337ประวัติพระพุทธศาสนา
337ประวัติพระพุทธศาสนา337ประวัติพระพุทธศาสนา
337ประวัติพระพุทธศาสนาniralai
 
335เข้าใจในมิตร(มิตรแท้ มิตรเทียม)
335เข้าใจในมิตร(มิตรแท้ มิตรเทียม)335เข้าใจในมิตร(มิตรแท้ มิตรเทียม)
335เข้าใจในมิตร(มิตรแท้ มิตรเทียม)niralai
 
336เบญจศีล
336เบญจศีล336เบญจศีล
336เบญจศีลniralai
 
340วัฒนธรรมชาวพุทธ
340วัฒนธรรมชาวพุทธ340วัฒนธรรมชาวพุทธ
340วัฒนธรรมชาวพุทธniralai
 
339ระวังอย่าให้อาย!
339ระวังอย่าให้อาย!339ระวังอย่าให้อาย!
339ระวังอย่าให้อาย!niralai
 
345สถานการณ์วัยรุ่นไทย
345สถานการณ์วัยรุ่นไทย345สถานการณ์วัยรุ่นไทย
345สถานการณ์วัยรุ่นไทยniralai
 
344สถานการณ์เด็กและเยาวชน ดร.อมรวิศ
344สถานการณ์เด็กและเยาวชน ดร.อมรวิศ344สถานการณ์เด็กและเยาวชน ดร.อมรวิศ
344สถานการณ์เด็กและเยาวชน ดร.อมรวิศniralai
 
343ศิลปการพูด
343ศิลปการพูด343ศิลปการพูด
343ศิลปการพูดniralai
 
342วิธีสร้างสุข5
342วิธีสร้างสุข5342วิธีสร้างสุข5
342วิธีสร้างสุข5niralai
 
341วันออกพรรษา
341วันออกพรรษา341วันออกพรรษา
341วันออกพรรษาniralai
 
346สังคมศึกษา ป.3 เรื่องวันเข้าพรรษา
346สังคมศึกษา ป.3 เรื่องวันเข้าพรรษา346สังคมศึกษา ป.3 เรื่องวันเข้าพรรษา
346สังคมศึกษา ป.3 เรื่องวันเข้าพรรษาniralai
 
347สังคมศึกษา ป.5สมบัติของผู้ดี
347สังคมศึกษา ป.5สมบัติของผู้ดี347สังคมศึกษา ป.5สมบัติของผู้ดี
347สังคมศึกษา ป.5สมบัติของผู้ดีniralai
 
348สังคมศึกษา วันสำคัญทางศาสนาพุทธ12
348สังคมศึกษา วันสำคัญทางศาสนาพุทธ12348สังคมศึกษา วันสำคัญทางศาสนาพุทธ12
348สังคมศึกษา วันสำคัญทางศาสนาพุทธ12niralai
 
350สารานิยธรรม6
350สารานิยธรรม6350สารานิยธรรม6
350สารานิยธรรม6niralai
 
349สังคหวัตถุ4
349สังคหวัตถุ4349สังคหวัตถุ4
349สังคหวัตถุ4niralai
 
351หน้าที่ชาวพุทธ3
351หน้าที่ชาวพุทธ3351หน้าที่ชาวพุทธ3
351หน้าที่ชาวพุทธ3niralai
 
098ชีวิตวัยรุ่น
098ชีวิตวัยรุ่น098ชีวิตวัยรุ่น
098ชีวิตวัยรุ่นniralai
 

More from niralai (20)

332วันอาสาฬหบูชา
332วันอาสาฬหบูชา332วันอาสาฬหบูชา
332วันอาสาฬหบูชา
 
331วันเข้าพรรษา
331วันเข้าพรรษา331วันเข้าพรรษา
331วันเข้าพรรษา
 
338มารยาทไทย
338มารยาทไทย338มารยาทไทย
338มารยาทไทย
 
337ประวัติพระพุทธศาสนา
337ประวัติพระพุทธศาสนา337ประวัติพระพุทธศาสนา
337ประวัติพระพุทธศาสนา
 
335เข้าใจในมิตร(มิตรแท้ มิตรเทียม)
335เข้าใจในมิตร(มิตรแท้ มิตรเทียม)335เข้าใจในมิตร(มิตรแท้ มิตรเทียม)
335เข้าใจในมิตร(มิตรแท้ มิตรเทียม)
 
336เบญจศีล
336เบญจศีล336เบญจศีล
336เบญจศีล
 
340วัฒนธรรมชาวพุทธ
340วัฒนธรรมชาวพุทธ340วัฒนธรรมชาวพุทธ
340วัฒนธรรมชาวพุทธ
 
339ระวังอย่าให้อาย!
339ระวังอย่าให้อาย!339ระวังอย่าให้อาย!
339ระวังอย่าให้อาย!
 
345สถานการณ์วัยรุ่นไทย
345สถานการณ์วัยรุ่นไทย345สถานการณ์วัยรุ่นไทย
345สถานการณ์วัยรุ่นไทย
 
344สถานการณ์เด็กและเยาวชน ดร.อมรวิศ
344สถานการณ์เด็กและเยาวชน ดร.อมรวิศ344สถานการณ์เด็กและเยาวชน ดร.อมรวิศ
344สถานการณ์เด็กและเยาวชน ดร.อมรวิศ
 
343ศิลปการพูด
343ศิลปการพูด343ศิลปการพูด
343ศิลปการพูด
 
342วิธีสร้างสุข5
342วิธีสร้างสุข5342วิธีสร้างสุข5
342วิธีสร้างสุข5
 
341วันออกพรรษา
341วันออกพรรษา341วันออกพรรษา
341วันออกพรรษา
 
346สังคมศึกษา ป.3 เรื่องวันเข้าพรรษา
346สังคมศึกษา ป.3 เรื่องวันเข้าพรรษา346สังคมศึกษา ป.3 เรื่องวันเข้าพรรษา
346สังคมศึกษา ป.3 เรื่องวันเข้าพรรษา
 
347สังคมศึกษา ป.5สมบัติของผู้ดี
347สังคมศึกษา ป.5สมบัติของผู้ดี347สังคมศึกษา ป.5สมบัติของผู้ดี
347สังคมศึกษา ป.5สมบัติของผู้ดี
 
348สังคมศึกษา วันสำคัญทางศาสนาพุทธ12
348สังคมศึกษา วันสำคัญทางศาสนาพุทธ12348สังคมศึกษา วันสำคัญทางศาสนาพุทธ12
348สังคมศึกษา วันสำคัญทางศาสนาพุทธ12
 
350สารานิยธรรม6
350สารานิยธรรม6350สารานิยธรรม6
350สารานิยธรรม6
 
349สังคหวัตถุ4
349สังคหวัตถุ4349สังคหวัตถุ4
349สังคหวัตถุ4
 
351หน้าที่ชาวพุทธ3
351หน้าที่ชาวพุทธ3351หน้าที่ชาวพุทธ3
351หน้าที่ชาวพุทธ3
 
098ชีวิตวัยรุ่น
098ชีวิตวัยรุ่น098ชีวิตวัยรุ่น
098ชีวิตวัยรุ่น
 

ศึกษาวิถีธรรมวิถีพุทธ

  • 1. ศึกษาวิถธรรมวิถพทธ “ ฐานทางเสื่ อมของวัยรุ่น ” ี ี ุ โครงการอบรมธรรมะสู่ ดวงใจ “ยุวพุทธ พบ ยุวชน” ค่ ายพุทธบุตร โรงเรียน………………………. ----------------------------------------------------------------------------------------------- ทางเสื่ อมของวัยรุ่นไทยในปัจจุบัน ๑. ชอบความเกียจคร้ าน ๒. ผลาญเงินพ่อแม่ ๓. เรียนแย่ หลายวิชา ๔. เร่ งหาคู่รัก ๕. จมปลักอบายมุข ๖. มัวสนุกในวัยหนุ่มสาว อบายมุข คือ ช่ องทางแห่ งความเสื่ อม ๖ ประการ คือ ๑. ดืมสุ รายาเสพติดพิษมากมาย ๒. มักผ่ อนคลายด้ วยการเทียวเหยียวราตรี ๓. ชอบสนุกด้ วยการเล่ นไม่ เว้ นช่ วง ่ ่ ่ ๔. ชอบเสี่ ยงดวงด้ วยพนันมันทุกที่ ๕. คบคนชั่วเป็ นมิตรผิดวิธี ๖. อ้ างโน่ นนี่เพราะเกียจคร้ านงานไม่ ทา ํ ๕ ดี เพือสั งคม คือ ่ คิดดี พูดดี ทําดี คบคนดี ไปสู่ สถานที่ดี ๆ หลักการพัฒนาตนเองด้ วยศีล ๕ คือ ๑. ไม่ โหดร้ าย ๒. ไม่ มือไว ๓. ไม่ ใจอยาก ๔. ไม่ ปากชั่ว ๕ . ไม่ มัวเมาด้ วยอบายมุข ปัญหาของโลกในปัจจุบัน ๑. แย่ งอาหารกันกิน ๒. แย่ งถินกันอยู่ ่ ๓. แย่ งคู่กนพิศวาส ๔. แย่ งอํานาจกันเป็ นใหญ่ ั ยุคคนไทย IQ เตีย Idea ตํา ปัญญา Buffalo อวัยวะโต แต่ มันสมองเล็ก Sexรุ นแรง ้ ่ แก่ งแย่ งชิงดี กดขีปวงประชา ธุรกิจการค้ าล้ มละลาย ขายตัว มั่วกาม คุกคามทางเพศ เอดส์ ระบาด ่ ชาติล่ม สั งคมทรุ ด มนุษย์ ทราม ชอบทําตามใจตนเอง ผญาอีสานกับชีวตคนหนุ่มสาวในสั งคมปัจจุบัน ิ ตกสมัยพุทธศักราชลํา ๒๕๔๗ เหตุแห่ งเมืองไทยแลนด์ ป่ าสิ แปนปานหัวล้ าน สาวสิ หนีไกลบ้ าน เฮือน ้ ซานบ่ ข่องเกียว สมัยคนของเคียว บ่ หัวซาโต่ งซิ่น กระโปรงฮือฮัดอยู่แฮว กําลังเกิดขึนแล้ ว กําลังเกิดขึนแล้ ว ่ ้ ้ ้ หลายหลากสารพัด คนบ่ หัวซาวัด ฮอดสมัยคนใจตืน ถืกอธรรมนําทืน เมืองทั้งเมืองเกลียงอ่ อยฮอย ลูกเอาผัว ้ ่ ้ เอาเมีย พ่ อกับแม่ อยู่ทางบ้ าน พากันได้ ลูกน้ อย จนลาวปอยใส่ กน ผู้ลูกสาวว่ าสั้ นสนุกแท้ บ่แลหลัง พ่อแม่ อายคน ้ ั นินทาบ่ ทนฟัง หน้ าเหลือทอ ๒ นิว หลงสี แดงสี สิ่ว จนลืมหมกปลาซิว จนลืมต้ มปลาค่ อ ลืมคุณแม่ คุณพ่อ ลืม ้ เอาฮอดโต่ งซิ่น กะเลยสิ้นค่ าสาว ชั่นดอกหว้ า. ท่ านหลวงพ่ อพุทธทาสภิกขุ เตือนใจวัยรุ่นว่ า บังคับจิตใจตนเองได้ แค่ น้ันก็เป็ นยุวชนทีดได้ แล้ ว ่ ี
  • 2. ปริศนาธรรมนําสุ ข ทีดากลับขาว ได้ แก่ เส้ นผม ่ ํ ทียาวกลับสั้ น ได้ แก่ สายตา ่ ทีมั่นกลับคลอน ได้ แก่ ฟัน ่ ทีหย่ อนกลับตึง ่ ได้ แก่ หู ทีซึ้งกลับเยอะ ได้ แก่ สั ญญาความจําได้ หมายรู้ ( ต. ต. ต. ต. ) ่ ธรรมะประยุกต์ ในพระพุทธศาสนา ยุวชนมีความคิดเห็นอย่ างไรบ้ างครับ ? ๑. ชีวตหลังความตายแล้วจะเป็ นอย่างไร พิสูจน์ ได้หรือไม่ ? ๒. นรก – สวรรค์มีจริงหรือไม่ พิสูจน์ ได้อย่างไร? ิ ๓. การทําแท้ งผิดศีลธรรมหรือไม่ อย่างไร ? ๔. พระพุทธศาสนามองปัญหาโสเภณีเป็ นอย่างไร ? วัฒนธรรมตะวันตก ทีว่าแน่ ก็ยงแพ้ วฒนธรรมไทย (ความแตกต่ าง) ่ ั ั วัฒนธรรมไทย (มาจาก….?) วัฒนธรรมนอก (มาจาก… .?) วัฒน แปลว่า เจริ ญ , งอกงาม น = หนองใน ธรรม แปลว่า ศูนย์รวม อ = เอดส์ ไทย มาจาก ไ = ไตรรงค์ คือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริ ย,์ ก = เกิด ท = ทน ทาน เท่ห์ , ย = ยิง ยืน ยาว ่ วัฒนธรรมนอก คือ ศูนย์ รวมแห่ งความเจริญของ วัฒนธรรมไทย คือ ศูนย์รวมแห่ งความเจริ ญของ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริ ย ์ ทนทาน ยิงยืนยาว การเกิดหนองใน เอดส์ เป็ นต้ น ่ “ เอดส์ ” ทางพระพุทธศาสนาแบ่ งออกเป็ น ๖ ประเภท คือ ๑. เอดส์ ทางกาย ได้ แก่ การแสดงออกจากทางกิริยามารยาท การพูด การเดินพฤติกรรมวิปริต เป็ นต้ น ๒. เอดส์ ทางกาม ได้ แก่ การไม่ รวมในกาม มีปกติสําส่ อนทางเพศ เสพไม่ เลือกทีเ่ ลือกคู่ เป็ นต้ น ๓. เอดส์ ทางวัฒนธรรมได้ แก่ การแสดงออกทางภาษา การพูดแบบสิ้นคิด การแต่ งกายไม่ สุภาพ เป็ นต้ น ๔. เอดส์ ทางอารมณ์ ได้ แก่ อารมณ์ ชอบ / ชัง อิจฉาริษยา อิจฉาตาร้ อน นินทาว่ าร้ าย มองคนในแง่ ร้าย ๕. เอดส์ ทางความคิด ได้ แก่ คนมีความคิดวิปริต ไม่ มความเคารพพ่ อแม่ ครู อาจารย์ พระสงฆ์ ไม่ ร้ ู จกบุญคุณ ี ั ๖. เอดส์ ทางการเมือง ได้ แก่ แสดงออกลักษณะ ๕ ก. คือ เกะกะ ก่ อกวน กลันแกล้ ง กอบโกย โกงกิน ่ มนต์ คาถาป้ องกันเอดส์ ทางกาย ๑. ไม่ เห็นแก่ กาม ๒. ไม่ ตามใจอยาก ๓. ไม่ มากคู่เคียง ๔. ไม่ เสี่ ยงสิ่ งเสพย์ ตด ิ เมาเพศหมดราคา เมาสุ ราหมดสํ าคัญ เมาการพนันหมดตัว เมาเพือนชั่วหมดดี เมาโสเภณีชุบเปอร์ สตาร์ เอดส์ ่ (สรุป) ๕ ดีเพือตนเอง คือ เป็ นลูกที่ดีของพ่อแม่ เป็ นศิษย์ที่ดีของครู บาอาจารย์ เป็ นเพื่อนที่ดีของเพื่อน ่ เป็ นพลเมืองที่ดีของประเทศชาติ เป็ นศาสนิกชนที่ดีของพระพุทธศาสนา โดย………พระอาจารย์ ปราโมทย์ วาทโกวิโทภิกขุ ( พันธพัฒน์ )………บันทึกคติธรรมนําชีวต ิ ทีมงานพระหนุ่มกลุ่มอบรมธรรมะสร้ างสรรค์ เพือพัฒนาชีวตเยาวชนไทย ่ ิ
  • 3. ศึกษาวิถธรรมวิถพทธ “ ฐานพระผู้มบุญคุณ ” ี ี ุ ี โครงการอบรมธรรมะสู่ ดวงใจ “ยุวพุทธ พบ ยุวชน” ค่ ายพุทธบุตร โรงเรียน………………………... ----------------------------------------------------------------------------------------------- หน้ าทีของบุตรธิดา (ลูก) คือ ่ ๑. เลียงท่ านตอบ ้ ๒.งานช่ วยทํา ๓. คําจุนวงศ์ ้ ๔. ดํารงตนดี ๕. สิ้นชีวทาบุญให้ ี ํ หน้ าทีของบิดามารดา ( พ่ อแม่ ) คือ ่ ๑. ห้ ามจากความชั่ว ๒. ให้ ต้งตนเป็ นคนดี ั ๓. ให้ มีความรู้ ๔. จัดคู่ให้ อยู่ครอง ๕. มอบกองมรดก สรุ ปให้ จาง่ าย ๆ คือ ตัดชั่ว ตัวดี วิชาอยู่ คู่บุญ และทุนมี ํ ห้ าม – ห้ ามมิให้ ทาชั่ว, ให้ – ให้ ทาความดี , หวง – ใครจะทําอันตรายมิได้ , ห่ วง – ทุ่มเทเสี ยสละเพือลูก ํ ํ ่ เสน่ ห์ของผ้ าขีริ้ว ผ้ าขีริ้วมีปรัชญาทีน่าศึกษา คือ เป็ นผ้ าทีขเี้ หร่ แต่ มีเสน่ ห์ เพราะ… ้ ้ ่ ่ (ผ้ าขีริ้วยอมสกปรกเพือให้ สิ่งอืนสะอาด) ้ ่ ่ เสน่ห์ของคนที่ยอมลําบากเพื่อให้ผอื่นเป็ นสุ ข เช่น พ่อแม่ยอมเหนื่อยเพื่อให้ลูกหลานสุ ขสบาย ยอมโน้มตัวจากที่สูงลง ู้ สู่ ที่ต่าได้ ส่ งให้ศึกษาเล่าเรี ยนเพื่ออนาคตของลูกตนเอง(ลูกดีต้องมี ๔ ช. คือ เชื่อ = ฟัง , ช่ วย= งาน , ชื่น = ชม , เชิด =ตระกูล) ํ (ผ้ าขีริ้วดูดซับความสกปรกได้ แต่ กสลัดความสกปรกออกจากตัว ได้ ตลอดเวลา) ้ ็ เสน่ห์ของคนที่รู้ตวเองว่าสกปรก เมื่อถึงเวลาก็ชาระล้างให้สะอาด เหมือนชําระร่ างกายประจําวัน มิใช่อมความสกปรก ั ํ ไว้แล้วแกล้งหลอกตัวเองว่าสะอาดหมดจด คือรู ้จกยอมรับว่าตนก็ทาผิดได้ มิใช่ถูกเสมอไป ขอบคุณเมื่อมีคนตักเตือน ถือว่า ั ํ เป็ นครู ของเรา เช่น พ่อแม่บอกกล่าวตักเตือน ก็เชื่อฟังคําสังสอน ไม่เถียงด้วยวาจาก้าวร้าว คิดว่าตนเองถูกเสมอ คิดว่าพ่อแม่ ่ เป็ นคนไม่ทนสมัย อย่ าลืมว่ ากรรมชั่ว ทีทากับพ่อแม่ มันบาปมากทีสุด ั ่ ํ ่ พระคุณของแม่ มี ๕ ส. คือ ๑. แม่ เป็ นผู้สร้ าง (สร้ างให้ ลูกเกิดมาเป็ นคน เป็ นมนุษย์ ) ๒.แม่ เป็ นผู้สอน (สอนให้ รู้ จกการดําเนินชีวต สอนให้ ร้ ู จกอ่ อนน้ อมถ่ อมตนต่ อผู้มีพระคุณ) ั ิ ั ๓. แม่ เป็ นผู้ส่ง (ส่ งให้ ศึกษาเล่ าเรียน ให้ มีอนาคตก้ าวหน้ า ได้ ประกาศนียบัตร ไม่ ใช่ ได้ ประกาศนียบุตร ) ๔. แม่ เป็ นเสริม (เสริมให้ สูง ประคองมิให้ เซ คําไม่ ให้ ทรุ ด ) ้ ๕. แม่ เป็ นผู้เสี ย (เสี ยสละทุกอย่ างทั้งหยาดเหงือ ทรัพย์ สิ้น ความสุ ข สติปัญญาเพือลูก) ่ ่ แววของลูกทีดี ๑. ต้ องขยัน ๒. ต้ องอดทน ๓. ต้ องประหยัด ๔. ต้ องซื่อสัตย์ ๕. ต้ องกตัญญู ่ ความทุกข์ ของพ่ อแม่ มี ๓ ประการคือ ๑. ทุกข์ เพราะไม่ มีลูก ๒. ทุกข์ เพราะลูกตาย ๓. ทุกข์ เพราะลูกชั่ว (ทุกข์ มากทีสุด) ่ ทําไมคนไม่ รีบกตัญญู เพราะติด ๒ รอ คือ ๑. รอว่ าง ๒. รอรวย
  • 4. การเลียงพ่ อแม่ มี ๒ วิธี คือ ้ ๑. เลียงทางกาย ้ ได้ แก่ เลียงด้ วยให้ ข้าวนํา เสื้อผ้ า ยารักษาโรค ของกินเครื่องใช้ มิปล่ อยให้ ท่านอดรัดทดใจ ้ ้ ๒. เลียงทางใจ ้ ได้ แก่ ทําความดีให้ ท่านชื่นใจ เว้ นจากเรื่องกระทบกระเทือนความรู้ สึก เรียนให้ จบ สรุปสิ่ งพ่ อแม่ ให้ ลูก คือ ๑. ให้ กาเนิด คือ ํ ชีวต เลือดเนือ ยอดแห่ งทรัพย์ ิ ้ ๒. ให้ นํานม คือ เลือดทีหลังเพือหล่อเลียงชีวตลูก ้ ่ ่ ่ ้ ิ ๓. ให้ การอบรม คือ แนะนําทางดี ให้ หลีกทางชั่ว ๔. ให้ บรมธรรม คือ บอกอุบายการดําเนินชีวตทีดี ิ ่ ลูกไทย ๆ ยุค “ไฮเทค” ลูก……ยอดเยียม๑. ลูกรัก ่ ลูกทีรักพ่ อรักแม่ รักวงศ์ ตระกูล รักมรดกทีพ่อแม่ มอบให้ ไม่ ทาลาย ่ ่ ํ ๒. ลูกเลียง ้ ลูกทีมีคุณธรรมกตัญญูกตเวที เลียงดูพ่อแม่ ให้ มีความสุ ขกาย สุ ขใจ ่ ้ ๓. ลูกเลิศ ลูกทีประเสริฐกว่ าพ่ อแม่ เชิดชู วงศ์ ตระกูลเป็ นสง่ าราศีแก่วงศ์ ตระกูลของตน ่ ลูก……ยอดแย่ ๑. ลูกริบ ลูกขีโกง จ้ องหาจังหวะแต่ จะเบียดบังทรัพย์ สินพ่ อแม่ ้ ๒. ลูกลอก ลูกทีปอกลอกพ่อแม่ ่ เลียงไม่ ร้ ูจักโต ให้ ไม่ รู้ จักพอ ้ ๓. ลูกลาก ลูกทีก่อเวรสร้ างแต่ กรรม นําทุกข์ มาสู่ พ่อแม่ ลากพ่ อแม่ ขึนโรงขึนศาลยันคุก ่ ้ ้ ๔. ลูกรก ลูกทีอยู่ทไหนพ่ อแม่ กหนักใจ รกตระกูล ลักษณะว่ า “ชั่วเกินโปรดคดเกินดัด” ่ ี่ ็ ๕. ลูกนรก ลูกทีใจดําอํามหิต ฆ่ าได้ กระทังพ่ อแม่ ทําร้ ายได้ แม้ ผู้มพระคุณ ่ ่ ี ครู ในโลกนีมี ๔ ประเภท คือ ้ ๑. ครู ประจําบ้ าน ได้ แก่ พ่ อแม่ เป็ นผู้ทให้ กาเนิด และเลียงเรามาตั้งแต่ เล็ก ๆ หัดสอนให้ เดิน ี่ ํ ้ ๒. ครู ประจําโรงเรียน ได้ แก่ ครู บาอาจารย์ทสอนศิลปวิทยาแก่ศิษย์ ให้ อ่านออกเขียนได้ ี่ ๓. ครูประจําโลก (จิตใจ) ได้ แก่ พระพุทธเจ้ า พระสงฆ์ สาวก ผู้นําธรรมะมาอบรมสั่ งสอนให้ เราเป็ นคนดี ๔. ครู ประจําธรรมชาติ ได้ แก่ ประสบการณ์สิ่งทีได้ ผ่านไปแล้ วในชีวตจิตใจของเรา ทั้งดีและไม่ ดี ่ ิ หน้ าทีของศิษย์ ทดี ่ ี่ ๑. ต้ องมีความเคารพ ๒. คบการศึกษา ๓. กล้ ารับความผิด ๔. คิดช่ วยเหลือครู ๕ . กตัญญูต่อสถาบัน กรรม ๖ ประเภท ๑.ทําแล้วเศร้ าหมอง เรียกว่ า บาปกรรม (ฆ่ าสั ตว์ ลักทรัพย์ มั่วยาเสพติด ทะเลาะกัน) ๒.ทําแล้วผ่ องใส เรียกว่ า บุญกรรม (ทําบุญ ช่ วยเหลือคนทีตกทุกข์ สามัคคี ) ่ ๓.ทําแล้ วผูกพันธ์ ติดตาม เรียกว่ า เวรกรรม (ความโกรธ อิจฉาริษยา แก้แค้ นการฆ่ ากัน) ๔.ทําแล้วโง่ เรียกว่ า อกุศลกรรม (ความชั่วทุกชนิดในโลกนี้ ใช้ ความรุนแรง) ๕. ทําแล้ วฉลาด เรียกว่ า กุศลกรรม (ความดีทุกชนิดในโลกนี้ ใช้ ปัญญาพิจารณา) ๖. ทําแล้ วดีแต่ มีข้นตอน เรียกว่ า พิธีกรรม ั (เป็ นคนมีเหตุมีผล ทํางานมีระบบระเบียบวินัย) โดย………พระอาจารย์ ปราโมทย์ วาทโกวิโทภิกขุ ( พันธพัฒน์ )………บันทึกคติธรรมนําชีวต ิ ทีมงานพระหนุ่มกลุ่มอบรมธรรมะสร้ างสรรค์ เพือพัฒนาชีวตเยาวชนไทย ่ ิ
  • 5. ศึกษาวิถธรรมวิถพทธ “ ฐานเป้ าหมายของการศึกษา ” ี ี ุ โครงการอบรมธรรมะสู่ ดวงใจ “ยุวพุทธ พบ ยุวชน” ค่ ายพุทธบุตร โรงเรียน……………………….. ----------------------------------------------------------------------------------------------- การศึกษา( Education ) ศึกษาทางโลก - เรียนไปเพือเพิมทุกข์ / ศึกษาทางธรรม- เรียนไปเพือหมดทุกข์ ่ ่ ่ สิ่ งทีไม่ ควรทําเร็วค่ อย ๆ เป็ นค่ อย ๆไป ๗ ประการ ่ ๑. ความรัก ๒. การเกา ๓. การขึนต้ นไม้ ้ ๔. การว่ ายนํา ๕. การรับประทานอาหาร ้ ๖. การสร้ างฐานะ ๗. การศึกษา คนเราเกิดมามี ๔ บัตร ๑. สู จบัตร ๒. ประกาศนียบัตร ๓. ธนบัตร ๔. มรณบัตร ิ สถานทีทก่อให้ เกิดสติปัญญาหรือ เกิดความคิดดี ๆ ่ ี่ ๑. วัด - ทําให้ นึกถึงพระ – สวรรค์ ๒. วัง - นึกถึงศิลปกรรม ความดีทพระมหากษัตริย์ทรงมีต่อประเทศชาติ ี่ ๓. โรงเรียน - นึกถึงความก้ าวหน้ า – อนาคต ๔. โรงศาล - นึกถึงความผิดพลาด - ความประมาท ๕. โรงพยาบาท - นึกถึงอนิจจังของสั งขารว่ าไม่ เทียง ่ ความเชื่อต่ างกัน เด็กอนุบาล เชื่อพ่อแม่ เด็กประถม เชื่อคุณครู เด็กมัธยม เชื่อเพือน ่ ปริญญาตรี เชื่อตํารา ปริญญาโท เชื่อตนเอง ปริญญาเอก ไม่ เชื่อใครเลย อะไรเอ่ ย ? ๑. บ้ านใกล้ ท่านํา ไม่ มีนํากิน - เกิดมาพบพระพุทธศาสนาแล้ ว เป็ นคนไม่ ศึกษาธรรมะ ไม่ มีธรรมะประจําจิตใจ ้ ้ ๒. ช่ างปั้นดินไม่ มีหม้ อใช้ - ตัวของเราเองไม่ คุณธรรมประจิตใจ เช่ น ความกตัญญูกตเวที ความอ่ อนน้ อม ๓. เลียงไก่ ไม่ มีเสี ยงขัน ้ - ลูกเนรคุณพ่อแม่ ครู อาจารย์ ไม่ มความเคารพต่ อท่ านผู้มีพระคุณ ี ๔. อยากไปสวรรค์ ให้ ไปแก้ ซิ่นทีวด - ศึกษาธรรมะจากคัมภีร์ ศึกษาเล่ าเรียนวิชาพระพุทธศาสนา แล้ วนําไปปฏิบัติ ่ั หัวใจนักปราชญ์ หลักการเรียนเก่ ง ฟังให้ หมด จดให้ มาก ปากต้ องไว ใจต้ องคิด สุ ต้ องตั้งใจฟังให้ ดอย่ าขีเ้ กียจ ี จิ คิดให้ ละเอียดข้ อสงสั ย ปุ ถามตามเนือความทีข้องใจ ้ ่ ลิ เขียนไว้ เมื่อสงสั ยให้ เปิ ดดู
  • 6. ทําไมมนุษย์ เกิดมาไม่ เหมือนกัน ๑. มีอายุยน ื เพราะ - มีเมตตาต่ อสั ตว์ ไม่ ฆ่าสั ตว์ ไม่ เบียดเบียนสั ตว์ ๒. ไม่ ป่วยเป็ นโรค เพราะ - ไม่ ทาร้ ายทรมานและกักขังสั ตว์ ํ ๓. รู ปร่ างหล่ อสวย เพราะ - ไม่ มีความโกรธแค้ น ๔. มียศศักดิ์ เพราะ - มีความยินดีเมื่อคนอืนได้ ดี ไม่ อจฉาริษยา ่ ิ ๕. มีฐานะรํ่ารวย เพราะ - ใฝ่ ทําบุญสุ นทานมามาก ๖. มีตระกูลสู ง เพราะ - มีความเคารพ อ่ อนน้ อม ถ่ อมตน ๗. มีสติปัญญาดี เพราะ - เข้ าหาพระสงฆ์ เข้ าหาบัณฑิต ตั้งใจศึกษาเล่ าเรียน เรียนเก่ งอย่ างมีหลัก ๑. เรียนจากครู เรียนจากครูทโรงเรียน ี่ ๒. ดูจากตํารา อ่ านศึกษาจากตําราในห้ องสมุด ๓. สดับปาฐะ ฟังจากผู้รู้คนอืน ่ ทางทีจะเรียนให้ จบ คือ ่ - อิทธิบาท ๔ ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา อ่ อนน้ อมมีเสน่ ห์ คือ - มืออ่ อน หัวอ่ อน เข่ าอ่ อน หลังอ่ อน ปากอ่ อน ศึกษาไปเพือนทํางานทีไม่ มโทษ ่ ่ ี ๑. ไม่ ผดกฎหมาย ๒. ไม่ ผดประเพณี ๓. ไม่ ผดศีล ิ ิ ิ ๔. ไม่ ผดธรรม ิ การเคารพ หมายถึง การแสดงความนับถือ การแสดงความอ่อนน้ อม อ่อนโยน ถ่ อมตนอย่างเหมาะสม ทั้งต่ อ หน้ าและลับหลัง ความเคารพมี ๗ ประเภท ๑. เคารพในพระพุทธเจ้ า ๒.เคารพในพระธรรม ๓. เคารพในพระสงฆ์ ๔. เคารพในการศึกษา ๕. เคารพในสมาธิ ๖. เคารพในความไม่ ประมาท ๗. เคารพในปฏิสันถาร นักเรียนทีดีควร ่ ๑.ไม่ โยกเก้ าอี้ ๒. ไม่ หนีโรงเรียน ๓. ไม่ เขียนข้ างฝา ๔. ไม่ ด่าครู สอน ๕. ไม่ นอนตืนสาย ่ ๖. ไม่ หน่ ายการเรียน ๗. ไม่ เพียรทําผิด ๘. ไม่ คดมุ่งร้ าย ิ ๙. ไม่ อายการงาน ๑๐. ไม่ ผลาญเงินตรา ๑๑. ไม่ ซ่าหาเรื่อง ๑๒. ไม่ เคืองโกรธกัน ๑๓. ไม่ หันหาอบายมุข ๑๔. ไม่ คลุกกับเกมส์ ๔ ย. ก่ อปัญหา๑. ย. เยาวชน ขาดความอบอุ่น ถูกทอดทิง นักเรียน กลายเป็ นนักเลง (อาชีวะ เป็ น อาซิว่ะ) ้ ๒.ย. ยากจน เศรษฐกิจฝื ดเคือง ความฟุ้ งเฟอ ฟุ้ มเฟื อย ้ ๓. ย.ยาเสพติด ตัวอันตรายทีบ่อนทําลายคน , เศรษฐกิจประเทศชาติและสั งคม ่ ๔. ย.ยุแหย่ ยุให้ รํา ตําให้ รั่ว ทั้งปากคนและปากกา โดย………พระอาจารย์ ปราโมทย์ วาทโกวิโทภิกขุ ( พันธพัฒน์ )………บันทึกคติธรรมนําชีวต ิ ทีมงานพระหนุ่มกลุ่มอบรมธรรมะสร้ างสรรค์ เพือพัฒนาชีวตเยาวชนไทย ่ ิ
  • 7. หลักและวิธีการใช้ ทรัพย์ ๑. ฝากออมสิ น เก็บฝากธนาคารไว้ ใช้ ในยามจําเป็ น ๒. ฝังดินไว้ บริจาคทําบุญสุ นทานในพระพุทธศาสนา ๓. ใช้ หนีเ้ ก่ า พ่ อแม่ เลียงเรามา เราก็เลียงท่ านตอบ ้ ้ ๔. ให้ เขากู้ เลียงดูบุตรธิดา ส่ งให้ ศึกษาเล่าเรียน ้ ๕. ใส่ ปากงูเห่ า ช่ วยเหลือญาติมิตร ๖. ทิงลงสู่ เหว เลียงตัวเราเอง ้ ้ นํา ๓ ประเภท ทําให้ ฉิบหาย ้ ๑. นําเหล้ า ้ ทําให้ ว่ ุนวาย ๒. นําลาย ้ ทําให้ ขัดแย้ ง ๓. นําหมึก ้ ทําให้ ย่ ุง ( หนังสื อพิมพ์)