SlideShare a Scribd company logo
ฟังก์ชันไซน์และโคไซน์
                                      วงกลมหนึ่งหน่วย (Unit circle)

      บทนิยาม วงกลมหนึ่งหน่วย หมายถึง กราฟของความสัมพันธ์
             U = {(x,y)  RR | x2+ y2 = 1}

      คือ วงกลม ที่มีจุดศูนย์กลางที่จุดกาเนิด และรัศมียาว 1 หน่วย นั่นเอง ดังรูป

                                                 Y
                                         
                                                 (0,1)
                                         2



                                                                  2
                             -1,0)       O                         (1,0) X

                                        3
                                                 (0,-1)
                                         2




             เนื่องจากวงกลมหนึ่งหน่วยมีรัศมียาว 1 หน่วย
             จากสูตร ความยาวเส้นรอบวง = 2r
                                        = 2  (1) = 2  หน่วย
                             หรือ  2(3.1416)  6.2832 หน่วย
                                             2           
ดังนั้น เสี้ยววงกลมหนึ่งหน่วยยาว  = 4 = 2 หรือประมาณ 1.5708 หน่วย
                                    2
           ครึ่งวงกลมหนึงหน่วยยาว = 2 =  หรือประมาณ 3.1416 หน่วย
                        ่
                                             3                3
    3 ใน 4 ของวงกลมหนึ่งหน่วยยาว = 4  2  = 2 หรือประมาณ 4.7124 หน่วย
การวัดความยาวส่วนโค้งของวงกลมหนึ่งหน่วย
 กาหนด   R จุด P(  ) เป็นจุดปลายส่วนโค้งที่ยาว  โดยวัดจากจุด (1,0) ไปตามส่วนโค้งของวงกลม
        ถ้า   0 หมายถึงการวัดไปในทิศทางทวนเข็มนาฬิกา
        ถ้า  < 0 หมายถึงการวัดไปในทิศทางตามเข็มนาฬิกา
        ให้ความยาวส่วนโค้งวงกลมหนึ่งหน่วยยาว  หน่วย มี โคออร์ดิเนทจุดปลายส่วนโค้งเป็น (x,y)
        นั่นคือ P(  ) = (x,y)
        จากรูปวงกลมหนึ่งหน่วย จะเห็นว่า (พิจารณารูปหน้าที่ 1 ประกอบ)

                                                             3
         P(0) = (1,0) , P( 2 ) = (0,1) , P() = (-1,0) , P( 2 ) = (0,-1) , P(2) = (1,0)


                                                       3
                  P(- 2 ) = (0,-1) , P(-) = (-1,0) , P(- 2 ) = (0,1) , P(-2) = (1,0)



   ทฤษฎีบท 1 ถ้า  เป็นจานวนใดๆ แล้ว P(  ) = P( + 2n) เมื่อ n เป็นจานวนเต็ม

                                                                            
จุดปลายส่วนโค้งที่ยาว P() เมื่อ  เป็นจานวนจริงที่สาคัญที่ควรทราบ ( 3 , 4 , 6 )
                      
ตัวอย่างที่ 1 จงหา P( 4 )
                                                                                  
วิธีทา จากรูป เนื่องจาก P( 4 ) เป็นจุดกึ่งกลางส่วนโค้ง AB และส่วนโค้ง AB ยาว 2
                                                          
               B(0,1)                 ดังนั้น AP = PB = 4
                                                                                   
                                P(x,y)       ให้ P(x,y) เป็นจุดปลายส่วนโค้งที่ยาว 4
                                   เพราะฉะนั้น AP2 = PB2
                    O             A(1,0)         (x-1)2 + (y-0)2 = (x-0)2 + (y-1)2
                                                x2- 2x + 1 + y2 = x2 + y2-2y + 1
                                                                x = y
                                   แต่เนื่องจาก (x,y) เป็นจุดบนวงกลม x2+ y2 = 1
                                   x2 + x2 = 1  2x2 = 1
         1                1                     1
   x2 = 2  x =                และ y = 
                  2                              2
แต่ P(x,y) อยู่ในควอดรันต์รันที่ 1 ดังนั้น x และ y มีค่าเป็นบวก
                             1                                       1
 เพราะฉะนั้น x =                     และ y =                                        0.701
                                 2                                       2
                                1       1                                   2        2
ดังนั้น P ( 4 ) = (   , ) = ( 2 , 2 )
                    2   2



                                                                               
ตารางต่อไปนี้ สรุป จุด P( ) เมื่อ  = 6 , ,
                                          4 3

                                            P( )
                                                  3 1
                         6               (           , )
                                                 2 2
                                                  2     2
                                         (           ,               )
                         4                       2     2
                                            1               3
                                         (       ,               )
                         3                   2           2


โดยอาศัยความรู้เรื่องการสมมาตรต่อแกน X ต่อแกน Y หรือต่อจุดกาเนิด สามารถที่จะหาพิกัดของจุด P(  )
เมื่อ  เป็นความยาวส่วนโค้งที่อยู่ในควอดรันต์อื่นๆ ดังรูป


      2                            1               3
 P(        )           P( 3 ) = (        ,               )
       3                             2           2
                                                         3                                               2            2             
                                                 P( 4 )                                   P( )=(               ,            )       P( 6 )
                                                                                              4        2            2


                   O                                                             O                                              O
                                                                                                                        7            11
                                                                                                                   P( 6 )           P( 6 )
      4                     5                              5                                   7
 P(        )            P( 3 )                           P( 4 )                              P( 4 )
      3
การหาค่าของ sin (-  ) และ cos (-  ) เมื่อ  > 0
                                             Y
                                                  P( ) = (x,y)



                                            O               A(1,0) X



                                                           P(- ) = (x,-y)

   ให้ P( ) เป็นจุดปลายส่วนโค้งที่วัดจากจุด (1,0) ไปในทิศทางทวนเข็มนาฬิกายาว | | หน่วย P(- ) เป็นจุด
ปลายส่วนโค้งที่วัดจากจุด (1,0) ไปในทิศทางตามเข็มนาฬิกายาว | | หน่วย เช่นกัน P( ) และ P(- ) สมมาตรกัน
โดยมีแกน X เป็นแกนสมมาตร
   จากนิยาม sin  = y             และ sin (- ) = -y
               cos  = x              cos (- ) = x

   ดังนั้น               sin (- ) = - sin (  )
                         cos (- ) = cos (  )
                                    2                          3
ตัวอย่างที่ 2 จงหาค่าของ sin (  3 ) , cos (  6 ) , sin (  4 )
                    2              2                 3
วิธีทา       sin (  3 ) = - sin 3       =  2
                                             3
             cos (  6 ) = cos 6         = 2
                  3            3                 2
         sin (  4 ) = - sin 4           = - 2             
                                                            

การหาค่าของ sin  และ cos  เมื่อ  > 2
   การหา sin  และ cos  ให้นา 2 ไปหาร  สมมติให้ผลหารเท่ากับ n เหลือเศษ  (alpha)
   โดยที่ 0    2   = 2n +  , nI+ เมื่อ

              ดังนั้น               sin  = sin (2n + ) = sin 
                                    cos  = cos (2n + ) = cos 
32                    35 
 ตัวอย่างที่ 3 จงหาค่าของ sin 3                    , cos (  4 )
                 32                                   2              2              3
วิธีทา       sin 3           = sin ( 5  2   3 ) = sin 3                       = 2
                     35                 35                            3                 3         2
             cos (  4 ) = cos ( 4 ) = cos ( 4  2   4 ) = cos ( 4 ) =  2                               
                                                                                                           

การหาค่าของฟังก์ชันไซน์และโคไซน์ของจานวนจริงตั้งแต่ 0 ถึง 2 โดยอาศัยค่าของฟังก์ชันไซน์และโคไซน์ของ
                            
จานวนจริงตั้งแต่ 0 ถึง 2
                                                                
   1. เมื่อจุดปลายส่วนโค้งที่ยาว  หน่วย อยู่ในควอดรันต์ที่ 2 ( 2     )
                                Y
                      P’(x’,y’)         P(x,y)              ให้ P’(x’,y’) เป็นจุดปลายส่วนโค้งที่ยาว 
                                                                 ส่วนโค้ง AB ยาว       = 
                                                                 ส่วนโค้ง P’B ยาว      = -
                B                 O              A(1,0) X และ ส่วนโค้ง AP ยาว =  - 

                                                                                 ดังนั้น เมื่อ  ตกอยู่ใน Q2
                                                                                    sin  = sin (  -  )


                                                                                              11        11
ตัวอย่างที่ 4 กาหนดให้ sin 12  0 . 26 และ cos 12 = 0.96 จงหาค่าของ sin 12 และ cos 12
                          11
  วิธีทา เนื่องจากจุดปลาย 12 อยู่ในควอดรันต์ที่ 2
                   11                    11               
         ดังนั้น sin 12 = sin (   12 ) = sin 12 = 0.26

                   11                      11                  
               cos 12 = - cos (   12 ) = - cos 12 = - 0.96                               
                                                                                           

                                                20 
    ตัวอย่างที่ 5 จงหาค่าของ sin (  3 )
                     20           20                  2
    วิธีทา sin (  3 ) = - sin 3 = - sin [( 3  2  )  3 ]
                                    2                      2                            3
                            = - sin 3 = - sin (   3 ) = - sin 3 =  2                          
                                                                                                  
3
2. เมื่อจุดปลายส่วนโค้ง  หน่วยอยู่ในควอดรันต์ที่ 3 (     2 )
                             Y
                    M (-x,y)          P(x,y)          ให้ P(x’,y’) เป็นจุดปลายส่วนโค้งที่ยาว  หน่วย

                                                               จุด P’(x’,y’) สมมาตรกับจุด M(-x,y)
        B(-1,0)                  O            A(1,0)     X          จุด M(-x,y) สมมาตรกับจุด P(x,y)

                                                                     ดังนั้น เมื่อ  อยู่ใน Q3
             P’(x’,y’)                                            sin    sin(    )
                                                                  cos    cos(    )


  ตัวอย่างที่ 6 จงหาค่าของ cos 5 และ sin(  16  )
                                     4                     3
  วิธีทา เนื่องจาก cos 5 อยู่ใน Q 3 จะได้
                             4
                 5
            cos
                  4
                         =  cos( 5    ) =  cos  =                    2
                                                                                      
                                                                                      
                                     4                     4        2
              16 
       sin( 
                3
                    ) =  sin( 16  )         =  sin( 4   4  )
                                    3                            3
                               4                    4
                      =  sin 3              =  sin( 3   )
                                                            3
                      =  [  sin( 3 )] = sin 3       = 2            
                                                                      
                                                              3
  3. เมื่อจุดปลายส่วนโค้งที่ยาว  หน่วยอยู่ในควอดรันต์ที่ 4 ( 2    2  )

                             Y                              ให้ P(x,y) เป็นจุดปลายส่วนโค้งที่ยาว  หน่วย
                                                          จุด P(x,y) สมมาตรกับจุด P’(x’,y’)
                                         P(x,y)
                                                                      ดังนั้น เมื่อ  อยู่ใน Q4
                             O                A(1,0) X                  sin    sin( 2   )
                                                                        cos   cos( 2   )

                                          P’(x’,y’) = (x,-y)
11                      5            47 
  ตัวอย่างที่ 7 จงหาค่าของ sin 6 , cos 3 , sin 4
                        11     5      47 
วิธีทา เนื่องจาก sin 6 , cos 3 , sin 4 อยู่ใน Q4 จะได้
             11                                 11                                              1
           sin
                6
                     =  sin( 2   6 ) =  sin 6 =  2 ***
            5                    5               1
        cos
              3
                    = cos( 2   3 ) = cos 3 = 2 ***
           47                              7                           7                                    7                  2
       sin
            4
                    =     sin( 10                     )   = sin 4                   =  sin( 2   4 ) =  sin 4 =  2 ***
                                                4


ฟังก์ชันตรีโกณมิติอื่นๆ

                               sin 
            1. tan  =                                  เมื่อ cos   0
                               cos 
                               cos 
            2. cot  =                                  เมื่อ sin   0
                               sin 

            3. sec  =                                  เมื่อ cos   0
                                 1
                               cos 

            4. cosec  =                            เมื่อ sin   0
                                1
                               sin 




                        tan  =                             เมื่อ cot   0
                                            1
หมายเหตุ
                                       cot 

                        cot  =                             เมื่อ tan   0
                                         1
                                       tan 


ตัวอย่างที่ 8 จงหาค่าของ tan  , cot  , sec  , cosec  เมื่อกาหนด  ดังนี้
                                                                                                     
        1.  =                         2.  =                                     3.  =
                    6                                        4                                         3
                                           1                                                 3
วิธีทา 1. เนื่องจาก sin                =                    และ cos                    =
                               6            2                                     6            2
                                                                    1
                                           sin
                          
                                                                                                                                   
                                                                                                                                   
                                                                                       1           2           1              3
        ดังนั้น     tan            =             
                                                    6
                                                            =        2
                                                                              =        2
                                                                                                          =           หรือ
                           6                                         3                                 3        3             3
                                           cos
                                                    6                2
                          
                                                                                                                              
                                                                                                                               
                                            1                        1                             3
                    cot            =             
                                                            =        1
                                                                              =       1                   =       3
                           6                                                                   1
                                       tan
                                                 6                   3

                                                                                       
                                                                                        
                              1                   1                    2           2
  sec               =             
                                          =               =    1              =
            6                                     3                    3           3
                          cos
                                  6               2
        
                                                                                       
                                                                                        
                          1                   1                    2
cosec           =             
                                      =       1
                                                      =       1           =   2
        6                                                          1
                        sin
                              6               2
กราฟของฟังก์ชันตรีโกณมิติ
1. กราฟของฟังก์ชันไซน์
        จากความสัมพันธ์ sine = {(x,y)RR |y = sin x}
โดยที่ โดเมนของ sin = R
       เรนจ์ของ sin = [-1,1] มีกราฟดังรูป

                                                      Y
                                                     1

                                                                                             X
                3                                                3
       -2                   -                      O    2
                                                                      2
                                                                               2
                  2                 2
                                                     -1

2. กราฟของฟังก์ชันโคไซน์
        จากความสัมพันธ์ cos = {(x,y)RR |y = cos x}
โดยที่ โดเมนของ cos = R
       เรนจ์ของ cos = [-1,1] มีกราฟดังรูป
                                      Y

                                                 1
                                                                                         X
                                                         
         - 2         - 3   -         -             O       
                                                                        3
                                                                                    2
                        2                   2             2             2



                                                -1

ฟังก์ชันทีเ่ ป็ นคาบ หมายถึง ฟังก์ชันที่สามารถแบ่งแกน X ออกเป็นช่วงย่อยๆ โดยที่ความยาวแต่ละช่วงเท่ากัน
         และกราฟของฟังก์ชันในแต่ละช่วงย่อยมีลักษณะเหมือนกัน ความยาวของช่วงย่อยที่สั้นที่สุด ซึ่งมีลักษณะ
        ดังกล่าว เรียกว่า คาบ ของฟังก์ชัน

       ดังนั้น ฟังก์ชัน      y = sin x และ y = cos x เป็ นฟังก์ชันทีเ่ ป็ นคาบและมีคาบเท่ากับ 2 
ฟังก์ชันที่เป็นคาบซี่งมีค่าสูงสุด และค่าต่่าสุด จะเป็นฟังก์ที่มีแอมพลิจูด ซึ่งมีค่าเท่ากับครึ่งหนึ่งของผลต่าง
 ระหว่างค่าสูงสุด และค่าต่่าสุดของฟังก์ชัน นั่นคือ

                                 1
             แอมพลิจูด = 2 (ค่ าสู งสุ ดของฟังก์ ชัน - ค่ าต่าสุ ดของฟังก์ ชัน)

        ดังนั้น ฟังก์ชั่น y = sin x และ y = cos x มีแอมพลิจูดเป็ น 1 เท่ากัน

3. กราฟของฟังก์ชันแทนเจนต์
                                                         sin x
        จาก tangent = {(x,y) RR | y = tan x = cos x , cos x  0 }
        โดเมนของ tangent = {xR | cosx  0}
                     = R - {xR | cosx = 0}
                                                 
                        = R - {x R | x = n 2 เมื่อ n เป็นจ่านวนเต็มคี่ }
       เรนจ์ของ tangent = R มีกราฟดังรูป
                                                     Y




                           3                                         
                 2                                            O                          3      2     X
                           2                         2                   2                    2

More Related Content

What's hot

เมทริกซ์ (Matrix)
เมทริกซ์ (Matrix)เมทริกซ์ (Matrix)
เมทริกซ์ (Matrix)
K'Keng Hale's
 
แบบฝึกหัดการวัดตำแหน่งของข้อมูล (สถิติ)
แบบฝึกหัดการวัดตำแหน่งของข้อมูล (สถิติ)แบบฝึกหัดการวัดตำแหน่งของข้อมูล (สถิติ)
แบบฝึกหัดการวัดตำแหน่งของข้อมูล (สถิติ)
Math and Brain @Bangbon3
 
1 แบบฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์วิชาฟิสกส์ เรื่อง ความหนาแน่น
1 แบบฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์วิชาฟิสกส์ เรื่อง ความหนาแน่น1 แบบฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์วิชาฟิสกส์ เรื่อง ความหนาแน่น
1 แบบฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์วิชาฟิสกส์ เรื่อง ความหนาแน่น
KruNistha Akkho
 
เฉลยแคลคูลัส
เฉลยแคลคูลัสเฉลยแคลคูลัส
เฉลยแคลคูลัส
krurutsamee
 
เอกสารประกอบบทเรียน เรื่อง โมเมนตัมและการชน
เอกสารประกอบบทเรียน เรื่อง โมเมนตัมและการชนเอกสารประกอบบทเรียน เรื่อง โมเมนตัมและการชน
เอกสารประกอบบทเรียน เรื่อง โมเมนตัมและการชน
Wijitta DevilTeacher
 
กรณฑ์ที่สอง
กรณฑ์ที่สองกรณฑ์ที่สอง
กรณฑ์ที่สอง
Ritthinarongron School
 
การวัดตำแหน่งที่ของข้อมูลม.6
การวัดตำแหน่งที่ของข้อมูลม.6การวัดตำแหน่งที่ของข้อมูลม.6
การวัดตำแหน่งที่ของข้อมูลม.6
KruGift Girlz
 
2.แบบฝึกหัดการเคลื่อนที่แนวตรง
2.แบบฝึกหัดการเคลื่อนที่แนวตรง2.แบบฝึกหัดการเคลื่อนที่แนวตรง
2.แบบฝึกหัดการเคลื่อนที่แนวตรง
เซิฟ กิ๊ฟ ติวเตอร์
 
1.แบบฝึกหัดเวกเตอร์
1.แบบฝึกหัดเวกเตอร์1.แบบฝึกหัดเวกเตอร์
1.แบบฝึกหัดเวกเตอร์
เซิฟ กิ๊ฟ ติวเตอร์
 
เอกสารประกอบการเรียนเรื่องเสียงกับการได้ยิน ป.5
เอกสารประกอบการเรียนเรื่องเสียงกับการได้ยิน ป.5เอกสารประกอบการเรียนเรื่องเสียงกับการได้ยิน ป.5
เอกสารประกอบการเรียนเรื่องเสียงกับการได้ยิน ป.5
Wuttipong Tubkrathok
 
ไฟฟ้าเคมี1 ppt
ไฟฟ้าเคมี1 pptไฟฟ้าเคมี1 ppt
ไฟฟ้าเคมี1 ppt10846
 
อินทิเกรต
อินทิเกรตอินทิเกรต
อินทิเกรตkrurutsamee
 
โครงงานสำรวจพฤติกรรมการใช้สมาร์ทโฟนนักเรียนชั้น ม.4-5
โครงงานสำรวจพฤติกรรมการใช้สมาร์ทโฟนนักเรียนชั้น ม.4-5โครงงานสำรวจพฤติกรรมการใช้สมาร์ทโฟนนักเรียนชั้น ม.4-5
โครงงานสำรวจพฤติกรรมการใช้สมาร์ทโฟนนักเรียนชั้น ม.4-5kessara61977
 
การคำนวณกระจกเว้า
การคำนวณกระจกเว้าการคำนวณกระจกเว้า
การคำนวณกระจกเว้าsripai52
 
แบบฝึกหัดกฏการเคลื่อนที่ของนิวตัน
แบบฝึกหัดกฏการเคลื่อนที่ของนิวตันแบบฝึกหัดกฏการเคลื่อนที่ของนิวตัน
แบบฝึกหัดกฏการเคลื่อนที่ของนิวตัน
เซิฟ กิ๊ฟ ติวเตอร์
 
เฉลยแบบทดสอบย่อยครั้งที่ 1 เรื่องกล้องและเซลล์
เฉลยแบบทดสอบย่อยครั้งที่ 1 เรื่องกล้องและเซลล์เฉลยแบบทดสอบย่อยครั้งที่ 1 เรื่องกล้องและเซลล์
เฉลยแบบทดสอบย่อยครั้งที่ 1 เรื่องกล้องและเซลล์Phattarawan Wai
 
(คู่มือ)หนังสือเรียนสสวท คณิตศาสตร์เพิ่มเติม ม.1 ล.1
(คู่มือ)หนังสือเรียนสสวท คณิตศาสตร์เพิ่มเติม ม.1 ล.1 (คู่มือ)หนังสือเรียนสสวท คณิตศาสตร์เพิ่มเติม ม.1 ล.1
(คู่มือ)หนังสือเรียนสสวท คณิตศาสตร์เพิ่มเติม ม.1 ล.1
KruPa Jggdd
 

What's hot (20)

เมทริกซ์ (Matrix)
เมทริกซ์ (Matrix)เมทริกซ์ (Matrix)
เมทริกซ์ (Matrix)
 
แบบฝึกหัดการวัดตำแหน่งของข้อมูล (สถิติ)
แบบฝึกหัดการวัดตำแหน่งของข้อมูล (สถิติ)แบบฝึกหัดการวัดตำแหน่งของข้อมูล (สถิติ)
แบบฝึกหัดการวัดตำแหน่งของข้อมูล (สถิติ)
 
1 แบบฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์วิชาฟิสกส์ เรื่อง ความหนาแน่น
1 แบบฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์วิชาฟิสกส์ เรื่อง ความหนาแน่น1 แบบฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์วิชาฟิสกส์ เรื่อง ความหนาแน่น
1 แบบฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์วิชาฟิสกส์ เรื่อง ความหนาแน่น
 
เฉลยแคลคูลัส
เฉลยแคลคูลัสเฉลยแคลคูลัส
เฉลยแคลคูลัส
 
ฟังก์ชัน
ฟังก์ชันฟังก์ชัน
ฟังก์ชัน
 
เอกสารประกอบบทเรียน เรื่อง โมเมนตัมและการชน
เอกสารประกอบบทเรียน เรื่อง โมเมนตัมและการชนเอกสารประกอบบทเรียน เรื่อง โมเมนตัมและการชน
เอกสารประกอบบทเรียน เรื่อง โมเมนตัมและการชน
 
กรณฑ์ที่สอง
กรณฑ์ที่สองกรณฑ์ที่สอง
กรณฑ์ที่สอง
 
การวัดตำแหน่งที่ของข้อมูลม.6
การวัดตำแหน่งที่ของข้อมูลม.6การวัดตำแหน่งที่ของข้อมูลม.6
การวัดตำแหน่งที่ของข้อมูลม.6
 
2.แบบฝึกหัดการเคลื่อนที่แนวตรง
2.แบบฝึกหัดการเคลื่อนที่แนวตรง2.แบบฝึกหัดการเคลื่อนที่แนวตรง
2.แบบฝึกหัดการเคลื่อนที่แนวตรง
 
1.แบบฝึกหัดเวกเตอร์
1.แบบฝึกหัดเวกเตอร์1.แบบฝึกหัดเวกเตอร์
1.แบบฝึกหัดเวกเตอร์
 
เอกสารประกอบการเรียนเรื่องเสียงกับการได้ยิน ป.5
เอกสารประกอบการเรียนเรื่องเสียงกับการได้ยิน ป.5เอกสารประกอบการเรียนเรื่องเสียงกับการได้ยิน ป.5
เอกสารประกอบการเรียนเรื่องเสียงกับการได้ยิน ป.5
 
ไฟฟ้าเคมี1 ppt
ไฟฟ้าเคมี1 pptไฟฟ้าเคมี1 ppt
ไฟฟ้าเคมี1 ppt
 
O-NET ม.6-สถิติ
O-NET ม.6-สถิติO-NET ม.6-สถิติ
O-NET ม.6-สถิติ
 
อินทิเกรต
อินทิเกรตอินทิเกรต
อินทิเกรต
 
โครงงานสำรวจพฤติกรรมการใช้สมาร์ทโฟนนักเรียนชั้น ม.4-5
โครงงานสำรวจพฤติกรรมการใช้สมาร์ทโฟนนักเรียนชั้น ม.4-5โครงงานสำรวจพฤติกรรมการใช้สมาร์ทโฟนนักเรียนชั้น ม.4-5
โครงงานสำรวจพฤติกรรมการใช้สมาร์ทโฟนนักเรียนชั้น ม.4-5
 
การคำนวณกระจกเว้า
การคำนวณกระจกเว้าการคำนวณกระจกเว้า
การคำนวณกระจกเว้า
 
แบบฝึกหัดกฏการเคลื่อนที่ของนิวตัน
แบบฝึกหัดกฏการเคลื่อนที่ของนิวตันแบบฝึกหัดกฏการเคลื่อนที่ของนิวตัน
แบบฝึกหัดกฏการเคลื่อนที่ของนิวตัน
 
เฉลยแบบทดสอบย่อยครั้งที่ 1 เรื่องกล้องและเซลล์
เฉลยแบบทดสอบย่อยครั้งที่ 1 เรื่องกล้องและเซลล์เฉลยแบบทดสอบย่อยครั้งที่ 1 เรื่องกล้องและเซลล์
เฉลยแบบทดสอบย่อยครั้งที่ 1 เรื่องกล้องและเซลล์
 
(คู่มือ)หนังสือเรียนสสวท คณิตศาสตร์เพิ่มเติม ม.1 ล.1
(คู่มือ)หนังสือเรียนสสวท คณิตศาสตร์เพิ่มเติม ม.1 ล.1 (คู่มือ)หนังสือเรียนสสวท คณิตศาสตร์เพิ่มเติม ม.1 ล.1
(คู่มือ)หนังสือเรียนสสวท คณิตศาสตร์เพิ่มเติม ม.1 ล.1
 
ลำดับเรขาคณิต (Geometric sequence)
ลำดับเรขาคณิต (Geometric sequence)ลำดับเรขาคณิต (Geometric sequence)
ลำดับเรขาคณิต (Geometric sequence)
 

Similar to วงกลมหนึ่งหน่วย

Conic section2555
Conic section2555Conic section2555
Conic section2555wongsrida
 
คณิต มข
คณิต มขคณิต มข
คณิต มขaom08
 
46497232 ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับเรขาคณิตวิเคราะห์
46497232 ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับเรขาคณิตวิเคราะห์46497232 ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับเรขาคณิตวิเคราะห์
46497232 ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับเรขาคณิตวิเคราะห์
Krudodo Banjetjet
 
ฟังก์ชันตรีโกณมติ 2014
ฟังก์ชันตรีโกณมติ 2014ฟังก์ชันตรีโกณมติ 2014
ฟังก์ชันตรีโกณมติ 2014Nattakarn Namsawad
 
Analytic geometry1
Analytic geometry1Analytic geometry1
Analytic geometry1
Thanuphong Ngoapm
 
เวกเตอร์(สอน)
เวกเตอร์(สอน)เวกเตอร์(สอน)
เวกเตอร์(สอน)
kroojaja
 
trigo1.pdf
trigo1.pdftrigo1.pdf
trigo1.pdf
Tam Kunjung
 
Ch3 high order_od_es
Ch3 high order_od_esCh3 high order_od_es
Ch3 high order_od_es
Wk Kal
 

Similar to วงกลมหนึ่งหน่วย (20)

Conic section2555
Conic section2555Conic section2555
Conic section2555
 
Pat 1
Pat 1Pat 1
Pat 1
 
คณิต มข
คณิต มขคณิต มข
คณิต มข
 
Calculus
CalculusCalculus
Calculus
 
ภาคตัดกรวย
ภาคตัดกรวยภาคตัดกรวย
ภาคตัดกรวย
 
46497232 ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับเรขาคณิตวิเคราะห์
46497232 ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับเรขาคณิตวิเคราะห์46497232 ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับเรขาคณิตวิเคราะห์
46497232 ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับเรขาคณิตวิเคราะห์
 
ฟังก์ชันตรีโกณมติ 2014
ฟังก์ชันตรีโกณมติ 2014ฟังก์ชันตรีโกณมติ 2014
ฟังก์ชันตรีโกณมติ 2014
 
Analytic geometry1
Analytic geometry1Analytic geometry1
Analytic geometry1
 
เวกเตอร์(สอน)
เวกเตอร์(สอน)เวกเตอร์(สอน)
เวกเตอร์(สอน)
 
trigo1.pdf
trigo1.pdftrigo1.pdf
trigo1.pdf
 
Ch3 high order_od_es
Ch3 high order_od_esCh3 high order_od_es
Ch3 high order_od_es
 
ฟังก์ชันตรีโกณมิติ
ฟังก์ชันตรีโกณมิติฟังก์ชันตรีโกณมิติ
ฟังก์ชันตรีโกณมิติ
 
Eng
EngEng
Eng
 
Math
MathMath
Math
 
Eng
EngEng
Eng
 
Eng
EngEng
Eng
 
Eng
EngEng
Eng
 
วงกลมวงรี
วงกลมวงรีวงกลมวงรี
วงกลมวงรี
 
Geomety
GeometyGeomety
Geomety
 
ข้อสอบโควตา
ข้อสอบโควตาข้อสอบโควตา
ข้อสอบโควตา
 

More from Jiraprapa Suwannajak

พื้นที่ผิวและปริมาตร
พื้นที่ผิวและปริมาตรพื้นที่ผิวและปริมาตร
พื้นที่ผิวและปริมาตรJiraprapa Suwannajak
 
เลขยกกำลังและลอการิทึม
เลขยกกำลังและลอการิทึมเลขยกกำลังและลอการิทึม
เลขยกกำลังและลอการิทึมJiraprapa Suwannajak
 
ความสัมพันธ์และฟังก์ชัน
ความสัมพันธ์และฟังก์ชันความสัมพันธ์และฟังก์ชัน
ความสัมพันธ์และฟังก์ชันJiraprapa Suwannajak
 
งาน เศรษฐกิจพอเพียง
งาน เศรษฐกิจพอเพียงงาน เศรษฐกิจพอเพียง
งาน เศรษฐกิจพอเพียงJiraprapa Suwannajak
 
เศรษฐกิจพอเพียง
เศรษฐกิจพอเพียงเศรษฐกิจพอเพียง
เศรษฐกิจพอเพียงJiraprapa Suwannajak
 
แบบทดสอบเรื่องฟังก์ชัน
แบบทดสอบเรื่องฟังก์ชันแบบทดสอบเรื่องฟังก์ชัน
แบบทดสอบเรื่องฟังก์ชันJiraprapa Suwannajak
 
สื่อชั้นสูงและการบูรณาการIct
สื่อชั้นสูงและการบูรณาการIctสื่อชั้นสูงและการบูรณาการIct
สื่อชั้นสูงและการบูรณาการIctJiraprapa Suwannajak
 
กราฟิกเพื่อการศึกษา
กราฟิกเพื่อการศึกษากราฟิกเพื่อการศึกษา
กราฟิกเพื่อการศึกษาJiraprapa Suwannajak
 

More from Jiraprapa Suwannajak (20)

พื้นที่ผิวและปริมาตร
พื้นที่ผิวและปริมาตรพื้นที่ผิวและปริมาตร
พื้นที่ผิวและปริมาตร
 
เมทริกซ์...
เมทริกซ์...เมทริกซ์...
เมทริกซ์...
 
รากที่สอง..
รากที่สอง..รากที่สอง..
รากที่สอง..
 
อสมการ
อสมการอสมการ
อสมการ
 
เศษส่วน
เศษส่วนเศษส่วน
เศษส่วน
 
เลขยกกำลังและลอการิทึม
เลขยกกำลังและลอการิทึมเลขยกกำลังและลอการิทึม
เลขยกกำลังและลอการิทึม
 
ลอการิทึม
ลอการิทึมลอการิทึม
ลอการิทึม
 
ลอการิทึม..[1]
ลอการิทึม..[1]ลอการิทึม..[1]
ลอการิทึม..[1]
 
ตรีโกณมิต..[1]
ตรีโกณมิต..[1]ตรีโกณมิต..[1]
ตรีโกณมิต..[1]
 
ความสัมพันธ์และฟังก์ชัน
ความสัมพันธ์และฟังก์ชันความสัมพันธ์และฟังก์ชัน
ความสัมพันธ์และฟังก์ชัน
 
ตรรกศาสตร์
ตรรกศาสตร์ตรรกศาสตร์
ตรรกศาสตร์
 
งาน เศรษฐกิจพอเพียง
งาน เศรษฐกิจพอเพียงงาน เศรษฐกิจพอเพียง
งาน เศรษฐกิจพอเพียง
 
กลุ่ม4
กลุ่ม4กลุ่ม4
กลุ่ม4
 
ปรัชญาเศร..
ปรัชญาเศร..ปรัชญาเศร..
ปรัชญาเศร..
 
เศรษฐกิจพอเพียง
เศรษฐกิจพอเพียงเศรษฐกิจพอเพียง
เศรษฐกิจพอเพียง
 
เศรษฐกิจ..[1]
 เศรษฐกิจ..[1] เศรษฐกิจ..[1]
เศรษฐกิจ..[1]
 
สมการตรีโกณ
สมการตรีโกณสมการตรีโกณ
สมการตรีโกณ
 
แบบทดสอบเรื่องฟังก์ชัน
แบบทดสอบเรื่องฟังก์ชันแบบทดสอบเรื่องฟังก์ชัน
แบบทดสอบเรื่องฟังก์ชัน
 
สื่อชั้นสูงและการบูรณาการIct
สื่อชั้นสูงและการบูรณาการIctสื่อชั้นสูงและการบูรณาการIct
สื่อชั้นสูงและการบูรณาการIct
 
กราฟิกเพื่อการศึกษา
กราฟิกเพื่อการศึกษากราฟิกเพื่อการศึกษา
กราฟิกเพื่อการศึกษา
 

วงกลมหนึ่งหน่วย

  • 1. ฟังก์ชันไซน์และโคไซน์ วงกลมหนึ่งหน่วย (Unit circle) บทนิยาม วงกลมหนึ่งหน่วย หมายถึง กราฟของความสัมพันธ์ U = {(x,y)  RR | x2+ y2 = 1} คือ วงกลม ที่มีจุดศูนย์กลางที่จุดกาเนิด และรัศมียาว 1 หน่วย นั่นเอง ดังรูป Y  (0,1) 2  2 -1,0) O (1,0) X 3 (0,-1) 2 เนื่องจากวงกลมหนึ่งหน่วยมีรัศมียาว 1 หน่วย จากสูตร ความยาวเส้นรอบวง = 2r = 2  (1) = 2  หน่วย หรือ  2(3.1416)  6.2832 หน่วย 2  ดังนั้น เสี้ยววงกลมหนึ่งหน่วยยาว = 4 = 2 หรือประมาณ 1.5708 หน่วย 2 ครึ่งวงกลมหนึงหน่วยยาว = 2 =  หรือประมาณ 3.1416 หน่วย ่ 3 3 3 ใน 4 ของวงกลมหนึ่งหน่วยยาว = 4  2  = 2 หรือประมาณ 4.7124 หน่วย
  • 2. การวัดความยาวส่วนโค้งของวงกลมหนึ่งหน่วย กาหนด   R จุด P(  ) เป็นจุดปลายส่วนโค้งที่ยาว  โดยวัดจากจุด (1,0) ไปตามส่วนโค้งของวงกลม ถ้า   0 หมายถึงการวัดไปในทิศทางทวนเข็มนาฬิกา ถ้า  < 0 หมายถึงการวัดไปในทิศทางตามเข็มนาฬิกา ให้ความยาวส่วนโค้งวงกลมหนึ่งหน่วยยาว  หน่วย มี โคออร์ดิเนทจุดปลายส่วนโค้งเป็น (x,y) นั่นคือ P(  ) = (x,y) จากรูปวงกลมหนึ่งหน่วย จะเห็นว่า (พิจารณารูปหน้าที่ 1 ประกอบ)  3 P(0) = (1,0) , P( 2 ) = (0,1) , P() = (-1,0) , P( 2 ) = (0,-1) , P(2) = (1,0)  3 P(- 2 ) = (0,-1) , P(-) = (-1,0) , P(- 2 ) = (0,1) , P(-2) = (1,0) ทฤษฎีบท 1 ถ้า  เป็นจานวนใดๆ แล้ว P(  ) = P( + 2n) เมื่อ n เป็นจานวนเต็ม    จุดปลายส่วนโค้งที่ยาว P() เมื่อ  เป็นจานวนจริงที่สาคัญที่ควรทราบ ( 3 , 4 , 6 )  ตัวอย่างที่ 1 จงหา P( 4 )   วิธีทา จากรูป เนื่องจาก P( 4 ) เป็นจุดกึ่งกลางส่วนโค้ง AB และส่วนโค้ง AB ยาว 2  B(0,1) ดังนั้น AP = PB = 4   P(x,y) ให้ P(x,y) เป็นจุดปลายส่วนโค้งที่ยาว 4 เพราะฉะนั้น AP2 = PB2 O A(1,0) (x-1)2 + (y-0)2 = (x-0)2 + (y-1)2 x2- 2x + 1 + y2 = x2 + y2-2y + 1 x = y แต่เนื่องจาก (x,y) เป็นจุดบนวงกลม x2+ y2 = 1 x2 + x2 = 1  2x2 = 1 1 1 1 x2 = 2  x =  และ y =  2 2
  • 3. แต่ P(x,y) อยู่ในควอดรันต์รันที่ 1 ดังนั้น x และ y มีค่าเป็นบวก 1 1 เพราะฉะนั้น x = และ y =  0.701 2 2  1 1 2 2 ดังนั้น P ( 4 ) = ( , ) = ( 2 , 2 ) 2 2    ตารางต่อไปนี้ สรุป จุด P( ) เมื่อ  = 6 , , 4 3  P( )  3 1 6 ( , ) 2 2  2 2 ( , ) 4 2 2  1 3 ( , ) 3 2 2 โดยอาศัยความรู้เรื่องการสมมาตรต่อแกน X ต่อแกน Y หรือต่อจุดกาเนิด สามารถที่จะหาพิกัดของจุด P(  ) เมื่อ  เป็นความยาวส่วนโค้งที่อยู่ในควอดรันต์อื่นๆ ดังรูป 2  1 3 P( ) P( 3 ) = ( , ) 3 2 2 3  2 2  P( 4 ) P( )=( , ) P( 6 ) 4 2 2 O O O 7 11 P( 6 ) P( 6 ) 4 5 5 7 P( ) P( 3 ) P( 4 ) P( 4 ) 3
  • 4. การหาค่าของ sin (-  ) และ cos (-  ) เมื่อ  > 0 Y P( ) = (x,y) O A(1,0) X P(- ) = (x,-y) ให้ P( ) เป็นจุดปลายส่วนโค้งที่วัดจากจุด (1,0) ไปในทิศทางทวนเข็มนาฬิกายาว | | หน่วย P(- ) เป็นจุด ปลายส่วนโค้งที่วัดจากจุด (1,0) ไปในทิศทางตามเข็มนาฬิกายาว | | หน่วย เช่นกัน P( ) และ P(- ) สมมาตรกัน โดยมีแกน X เป็นแกนสมมาตร จากนิยาม sin  = y และ sin (- ) = -y cos  = x cos (- ) = x ดังนั้น sin (- ) = - sin (  ) cos (- ) = cos (  ) 2  3 ตัวอย่างที่ 2 จงหาค่าของ sin (  3 ) , cos (  6 ) , sin (  4 ) 2 2 3 วิธีทา sin (  3 ) = - sin 3 =  2   3 cos (  6 ) = cos 6 = 2 3 3 2 sin (  4 ) = - sin 4 = - 2   การหาค่าของ sin  และ cos  เมื่อ  > 2 การหา sin  และ cos  ให้นา 2 ไปหาร  สมมติให้ผลหารเท่ากับ n เหลือเศษ  (alpha) โดยที่ 0    2   = 2n +  , nI+ เมื่อ ดังนั้น sin  = sin (2n + ) = sin  cos  = cos (2n + ) = cos 
  • 5. 32  35  ตัวอย่างที่ 3 จงหาค่าของ sin 3 , cos (  4 ) 32  2 2 3 วิธีทา sin 3 = sin ( 5  2   3 ) = sin 3 = 2 35  35  3 3 2 cos (  4 ) = cos ( 4 ) = cos ( 4  2   4 ) = cos ( 4 ) =  2   การหาค่าของฟังก์ชันไซน์และโคไซน์ของจานวนจริงตั้งแต่ 0 ถึง 2 โดยอาศัยค่าของฟังก์ชันไซน์และโคไซน์ของ  จานวนจริงตั้งแต่ 0 ถึง 2  1. เมื่อจุดปลายส่วนโค้งที่ยาว  หน่วย อยู่ในควอดรันต์ที่ 2 ( 2     ) Y P’(x’,y’) P(x,y) ให้ P’(x’,y’) เป็นจุดปลายส่วนโค้งที่ยาว  ส่วนโค้ง AB ยาว =  ส่วนโค้ง P’B ยาว = - B O A(1,0) X และ ส่วนโค้ง AP ยาว =  -  ดังนั้น เมื่อ  ตกอยู่ใน Q2 sin  = sin (  -  )   11 11 ตัวอย่างที่ 4 กาหนดให้ sin 12  0 . 26 และ cos 12 = 0.96 จงหาค่าของ sin 12 และ cos 12 11 วิธีทา เนื่องจากจุดปลาย 12 อยู่ในควอดรันต์ที่ 2 11 11  ดังนั้น sin 12 = sin (   12 ) = sin 12 = 0.26 11 11  cos 12 = - cos (   12 ) = - cos 12 = - 0.96   20  ตัวอย่างที่ 5 จงหาค่าของ sin (  3 ) 20  20  2 วิธีทา sin (  3 ) = - sin 3 = - sin [( 3  2  )  3 ] 2 2  3 = - sin 3 = - sin (   3 ) = - sin 3 =  2  
  • 6. 3 2. เมื่อจุดปลายส่วนโค้ง  หน่วยอยู่ในควอดรันต์ที่ 3 (     2 ) Y M (-x,y) P(x,y) ให้ P(x’,y’) เป็นจุดปลายส่วนโค้งที่ยาว  หน่วย จุด P’(x’,y’) สมมาตรกับจุด M(-x,y) B(-1,0) O A(1,0) X จุด M(-x,y) สมมาตรกับจุด P(x,y) ดังนั้น เมื่อ  อยู่ใน Q3 P’(x’,y’) sin    sin(    ) cos    cos(    ) ตัวอย่างที่ 6 จงหาค่าของ cos 5 และ sin(  16  ) 4 3 วิธีทา เนื่องจาก cos 5 อยู่ใน Q 3 จะได้ 4 5 cos 4 =  cos( 5    ) =  cos  =  2   4 4 2 16  sin(  3 ) =  sin( 16  ) =  sin( 4   4  ) 3 3 4 4 =  sin 3 =  sin( 3   )   3 =  [  sin( 3 )] = sin 3 = 2   3 3. เมื่อจุดปลายส่วนโค้งที่ยาว  หน่วยอยู่ในควอดรันต์ที่ 4 ( 2    2  ) Y ให้ P(x,y) เป็นจุดปลายส่วนโค้งที่ยาว  หน่วย จุด P(x,y) สมมาตรกับจุด P’(x’,y’) P(x,y) ดังนั้น เมื่อ  อยู่ใน Q4 O A(1,0) X sin    sin( 2   ) cos   cos( 2   ) P’(x’,y’) = (x,-y)
  • 7. 11 5 47  ตัวอย่างที่ 7 จงหาค่าของ sin 6 , cos 3 , sin 4 11 5 47  วิธีทา เนื่องจาก sin 6 , cos 3 , sin 4 อยู่ใน Q4 จะได้ 11 11  1 sin 6 =  sin( 2   6 ) =  sin 6 =  2 *** 5 5  1 cos 3 = cos( 2   3 ) = cos 3 = 2 *** 47  7 7 7  2 sin 4 = sin( 10   ) = sin 4 =  sin( 2   4 ) =  sin 4 =  2 *** 4 ฟังก์ชันตรีโกณมิติอื่นๆ sin  1. tan  = เมื่อ cos   0 cos  cos  2. cot  = เมื่อ sin   0 sin  3. sec  = เมื่อ cos   0 1 cos  4. cosec  = เมื่อ sin   0 1 sin  tan  = เมื่อ cot   0 1 หมายเหตุ cot  cot  = เมื่อ tan   0 1 tan  ตัวอย่างที่ 8 จงหาค่าของ tan  , cot  , sec  , cosec  เมื่อกาหนด  ดังนี้    1.  = 2.  = 3.  = 6 4 3  1  3 วิธีทา 1. เนื่องจาก sin = และ cos = 6 2 6 2  1 sin    1 2 1 3 ดังนั้น tan =  6 = 2 = 2  = หรือ 6 3 3 3 3 cos 6 2    1 1 3 cot =  = 1 = 1 = 3 6 1 tan 6 3
  • 8.   1 1 2 2 sec =  = = 1 = 6 3 3 3 cos 6 2    1 1 2 cosec =  = 1 = 1 = 2 6 1 sin 6 2
  • 9. กราฟของฟังก์ชันตรีโกณมิติ 1. กราฟของฟังก์ชันไซน์ จากความสัมพันธ์ sine = {(x,y)RR |y = sin x} โดยที่ โดเมนของ sin = R เรนจ์ของ sin = [-1,1] มีกราฟดังรูป Y 1 X 3   3 -2 - O 2  2 2 2 2 -1 2. กราฟของฟังก์ชันโคไซน์ จากความสัมพันธ์ cos = {(x,y)RR |y = cos x} โดยที่ โดเมนของ cos = R เรนจ์ของ cos = [-1,1] มีกราฟดังรูป Y 1 X   - 2 - 3 - - O  3 2 2 2 2 2 -1 ฟังก์ชันทีเ่ ป็ นคาบ หมายถึง ฟังก์ชันที่สามารถแบ่งแกน X ออกเป็นช่วงย่อยๆ โดยที่ความยาวแต่ละช่วงเท่ากัน และกราฟของฟังก์ชันในแต่ละช่วงย่อยมีลักษณะเหมือนกัน ความยาวของช่วงย่อยที่สั้นที่สุด ซึ่งมีลักษณะ ดังกล่าว เรียกว่า คาบ ของฟังก์ชัน ดังนั้น ฟังก์ชัน y = sin x และ y = cos x เป็ นฟังก์ชันทีเ่ ป็ นคาบและมีคาบเท่ากับ 2 
  • 10. ฟังก์ชันที่เป็นคาบซี่งมีค่าสูงสุด และค่าต่่าสุด จะเป็นฟังก์ที่มีแอมพลิจูด ซึ่งมีค่าเท่ากับครึ่งหนึ่งของผลต่าง ระหว่างค่าสูงสุด และค่าต่่าสุดของฟังก์ชัน นั่นคือ 1 แอมพลิจูด = 2 (ค่ าสู งสุ ดของฟังก์ ชัน - ค่ าต่าสุ ดของฟังก์ ชัน) ดังนั้น ฟังก์ชั่น y = sin x และ y = cos x มีแอมพลิจูดเป็ น 1 เท่ากัน 3. กราฟของฟังก์ชันแทนเจนต์ sin x จาก tangent = {(x,y) RR | y = tan x = cos x , cos x  0 } โดเมนของ tangent = {xR | cosx  0} = R - {xR | cosx = 0}  = R - {x R | x = n 2 เมื่อ n เป็นจ่านวนเต็มคี่ } เรนจ์ของ tangent = R มีกราฟดังรูป Y  3   2   O  3 2 X 2 2 2 2