ว่าด้วย อกิตติดาบสขอพรท้าวสักกะ พระศาสดา เมื่อเสด็จประทับอยู่ ณ พระเชตวันมหาวิหาร ทรงปรารภอุบาสกผู้ทานบดีชาวกรุงสาวัตถีผู้หนึ่ง ตรัสพระธรรมเทศนานี้ ดังนี้. เล่ากันมาว่า อุบาสกนั้นนิมนต์พระศาสดา ถวายมหาทานแด่ภิกษุสงฆ์ มีพระพุทธเจ้าเป็นประธานตลอด ๗ วัน ในวันสุดท้ายได้ถวายบริขารทั้งปวงแก่พระอริยสงฆ์. ลำดับนั้น พระศาสดาประทับท่ามกลางบริษัทนั้นแหละ เมื่อทรงกระทำอนุโมทนาตรัสว่า อุบาสก การบริจาคของเธอใหญ่หลวง กรรมที่ทำได้ยากยิ่งเธอกระทำแล้ว ธรรมดาว่าทานวงศ์นี้เป็นวงศ์ของหมู่บัณฑิต แต่ก่อนแท้จริง อันชื่อว่าทาน ไม่ว่าจะเป็นคฤหัสถ์ ไม่ว่าเป็นบรรพชิต ควรให้ทั้งนั้น ก็บัณฑิตแต่เก่าก่อนบวชอยู่ในป่า และแม้จะฉันใบหมากเม่านึ่งกับวัตถุเพียงแต่น้ำ ไม่เค็มและไร้กลิ่น ก็ยังให้แก่ยาจกที่ประจวบเหมาะ ตนเองยังอัตภาพให้เป็นไปด้วยปีติสุข. อุบาสกนั้นกราบทูลอาราธนาว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ การถวายบริกขารทั้งปวงนี้ปรากฏแก่มหาชนแล้วละ พระเจ้าข้า ข้อนี้พระองค์ตรัสยังมิได้ปรากฏ โปรดตรัสคำนั้นแก่พวกข้าพระองค์เถิด พระเจ้าข้า. ดังนี้แล้วจึงทรงนำอดีตนิทานมาดังต่อไปนี้.