More Related Content
Similar to 175 อาทิจจุปัฏฐานชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx (20)
More from maruay songtanin (20)
175 อาทิจจุปัฏฐานชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
- 1. 1
อาทิจจุปัฏฐานชาดก
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]
ขุททกนิกาย ชาดก ภาค ๑
๕. อาทิจจุปัฏฐานชาดก (จากพระไตรปิฎก ลาดับเรื่องที่ ๑๗๕)
ว่าด้วยลิงไหว้พระอาทิตย์
(พวกมนุษย์เห็นกิริยาของลิงผู้ทาเป็ นเหมือนบาเพ็ญตบะและเหมือนจาศีล
จึงกล่าวสรรเสริญว่า)
[๔๙] เล่ากันมาว่า บรรดาสัตว์ทั้งมวล สัตว์ที่ตั้งมั่นอยู่ในศีลมีอยู่
ท่านจงดูลิงสาขะผู้ต่าทราม มันยืนไหว้พระอาทิตย์อยู่
(ฤๅษีโพธิสัตว์เห็นพวกมนุษย์พากันสรรเสริญลิง จึงกล่าวเตือนว่า)
[๕๐] ท่านทั้งหลายไม่รู้ปกติของมัน เพราะไม่รู้จึงพากันสรรเสริญ
โรงไฟก็ถูกมันเผา และคนโทน้า ๒ ลูกก็ถูกมันทาลาย
อาทิจจุปัฏฐานชาดกที่ ๕ จบ
--------------------------
คาอธิบายเพิ่มเติมนามาจากบางส่วนของอรรถกถา
อาทิจจุปัฏฐานชาดก
ว่าด้วย ลิงไหว้พระอาทิตย์
พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ ณ พระเชตวันมหาวิหาร
ทรงปรารภภิกษุหลอกลวงรูปหนึ่ง ตรัสพระธรรมเทศนานี้ ดังนี้.
เรื่องราวเหมือนกับที่กล่าวแล้วในหนหลัง.
ในอดีตกาล ครั้งพระเจ้าพรหมทัตเสวยราชสมบัติอยู่ในกรุงพาราณสี
พระโพธิสัตว์อุบัติในตระกูลพราหมณ์ แคว้นกาสี ครั้นเจริญวัย
ศึกษาศิลปะในเมืองตักกสิลา บวชเป็นฤๅษี ยังอภิญญาและสมาบัติให้เกิด
มีบริวารมาก เป็ นครูประจาคณะ อาศัยอยู่ป่าหิมพานต์.
พระโพธิสัตว์อยู่ในป่าหิมพานต์นั้นเป็นเวลานาน
จึงลงจากภูเขาเพื่อเสพของเค็มและของเปรี้ยว
อาศัยบ้านหนึ่งในชายแดนพักอยู่ที่บรรณศาลา.
ขณะนั้น มีลิงโลนตัวหนึ่ง เมื่อคณะฤๅษีไปภิกขาจารจึงมายังอาศรมบท
ถอนหญ้าที่บรรณศาลา เทน้าในหม้อน้าทิ้ง ทุบคนโทน้า ถ่ายคูถไว้ที่โรงไฟ.
ดาบสทั้งหลายอยู่จาพรรษาแล้ว ดาริว่า บัดนี้
ป่าหิมพานต์บริบูรณ์ด้วยดอกไม้และผลไม้น่ารื่นรมย์ เราจะไป ณ ที่นั้น
จึงบอกลาชาวบ้านชายแดน. พวกมนุษย์กล่าวว่า พระคุณเจ้า วันพรุ่งนี้
พวกข้าพเจ้าจะนาภิกษามายังอาศรมบท พระคุณเจ้าฉันอาหารแล้ว จึงค่อยไป
ในวันที่สองต่างก็นาของเคี้ยวของฉันเป็นอันมากไป ณ ที่นั้นอีก.
- 2. 2
ลิงโลนเห็นดังนั้นจึงคิดว่า
เราจักลวงให้มนุษย์เลื่อมใสให้นาของเคี้ยวของบริโภคมาให้เรา
ลิงจึงทาเป็นเหมือนบาเพ็ญตบะ และเหมือนจาศีล ยืนนอบน้อมพระอาทิตย์
ในที่ไม่ห่างจากดาบส.
พวกมนุษย์เห็นดังนั้น จึงพากันกล่าวว่า ผู้อยู่ใกล้ผู้มีศีล ย่อมเป็นผู้มีศีล
แล้วกล่าวคาถาแรกว่า :-
ในบรรดาสัตว์ทั้งปวง สัตว์ผู้ตั้งมั่นอยู่ในศีล มีอยู่ ท่านจงดูลิงผู้ลามก
ยืนไหว้พระอาทิตย์อยู่เถิด.
พระโพธิสัตว์เห็นพวกมนุษย์เหล่านั้น สรรเสริญคุณของลิงนั้น
จึงกล่าวว่า พวกท่านไม่รู้ศีล และมารยาทของลิงโลนตัวนี้
แล้วเลื่อมใสในสิ่งไม่เป็นเรื่องเป็นราว
จึงกล่าวคาถาที่ ๒ ว่า :-
ท่านทั้งหลายไม่รู้จักปกติของมัน เพราะไม่รู้จักพากันสรรเสริญ
ลิงตัวนี้มันเผาโรงไฟเสีย และทุบต่อยคนโทน้าเสียสองใบ.
พระโพธิสัตว์กล่าวโทษลิงอย่างนี้ว่า มันทุบคนโทน้าเสียสองใบ.
พวกมนุษย์ครั้นรู้ว่า เป็ นลิงหลอกลวง จึงคว้าก้อนดินและไม้ขว้าง
ไล่ให้มันหนีไป แล้วถวายภิกษาแก่หมู่ฤๅษี.
แม้ฤๅษีทั้งหลายก็พากันไปป่าหิมพานต์ ทาฌานไม่ให้เสื่อม
ได้มีพรหมโลกเป็นที่ไปในเบื้องหน้า.
พระศาสดาทรงนาพระธรรมเทศนานี้มาแล้ว ทรงประชุมชาดก.
ลิงในครั้งนั้น ได้เป็ นภิกษุลวงโลกนี้
หมู่ฤๅษีได้เป็น พุทธบริษัท
ส่วนครูประจาคณะ คือ เราตถาคต นี้แล.
-----------------