SlideShare a Scribd company logo
รายงานการวิจัย
ความรู้ความเข้าใจ, ทักษะกระบวนการและเจตคติต่อการเรียนรู้ด้านเพศศึกษา
ในสถานศึกษา
วิชัย ลิขิตพรรักษ์
ตําแหน่งครูผู้ช่วย กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
โรงเรียนศีลาจารพิพัฒน์ เขตบา กรุงเทพมหานคร
ปี พ.ศ. 2557
รายงานการวิจัย
ความรู้ความเข้าใจ, ทักษะกระบวนการและเจตคติต่อการเรียนรู้ด้านเพศศึกษา
ในสถานศึกษา
วิชัย ลิขิตพรรักษ์
ตําแหน่งครูผู้ช่วย กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
โรงเรียนศีลาจารพิพัฒน์ เขตบา กรุงเทพมหานคร
ปี พ.ศ. 2557
รายงานการวิจัย
ความรู้ความเข้าใจ, ทักษะกระบวนการและเจตคติต่อการเรียนรู้ด้านเพศศึกษา
ในสถานศึกษา
วิชัย ลิขิตพรรักษ์
ตําแหน่งครูผู้ช่วย กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
โรงเรียนศีลาจารพิพัฒน์ เขตบา กรุงเทพมหานคร
ปี พ.ศ. 2557
รายงานการวิจัย
ความรู้ความเข้าใจ, ทักษะกระบวนการและเจตคติต่อการเรียนรู้ด้านเพศศึกษา
ในสถานศึกษา
วิชัย ลิขิตพรรักษ์
ตําแหน่งครูผู้ช่วย กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
โรงเรียนศีลาจารพิพัฒน์
ปี พ.ศ. 2557
ก.
งานวิจัย
เข้าใจ, ทักษะกระบวนการและเจตคติต่อการเรียนรู้ด้านเพศศึกษาในสถานศึกษา
บทคัดย่อ :
ยรุ่น มี
บทเรียนหรือรูปแบบกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนต่างๆ โดยมีเป้าหมายในการพัฒนาผู้เรียนเป็นมนุ
มี
วัตถุประสง , ทักษะกระบวนการ
.3 และ
ม.6 , ทักษะกระบวนการและเจตคติต่อการ
.3 และ ม.6 โดยเก็บ
รวบรวมข้อมูลระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนมีนาคม พ.ศ. 2557 จการศึกษา
.3 และ ม.6 ปีการศึกษา 2556 จํานวน 110 15
ข้อ แบ่งเป็น 3 ด้านๆละ 5 ข้อ คือ ด้านความรู้ความเข้าใจ, ด้านทักษะกระบวนการ และด้านเจตคติ
= 0.74 = 0.934 และวิเคราะห์ข้อมูลโดยหาค่าร้อย
ละ, , , การทดสอบค่า t, การทดสอบความแปรปรวนทางเดียว และ
ผลการศึกษาพบว่า ปัจจัย
ด้านเพศ, , , ทัศนค ,
0.05 , ทักษะกระบวนการและเจตคติต่อการ
เรียนรู้เพศศึกษา แต่กลับพบว่า ปัจจัยด้านอายุพบความแ 0.05 ในด้านทักษะ
กระบวนการ, 0.05 ในด้านเจตคติ,
0.05 ในด้านความรู้ความเข้าใจ
, ทักษะกระบวนการและเจตคติต่อการเรียนรู้
.3 และ ม.6 มีความสัมพันธ์กัน
0.05 (p=.000)
ข.
กิตติกรรมประกาศ
การเปิดโอกาสจากโรงเรียนศี
ลาจารพิพัฒน์
โรงเรียนนายสกุล ทองเอียด, ท่านรองผู้อํานวยการสํานักบริหารวิชาการนางศุภธิวรรณ นุชาหาญ
และนางวนิดา เรียวไพศาลศักดา หัวหน้ากลุ่มสาระวิทยาศาสตร์
อย่างดีมาโดยตลอด
ขอขอบพระคุณนางวนิดา เรียวไพศาลศักดา, นางวิลาวัลย์ นามศรี, นางนภาพร มูลรัตน์,
นางสาวรัชนี พุทธาสมศรี และนางสาวจิราภรณ์ สุขดํา
ขอขอบคุณครูอาจารย์โรงเรียนศีลาจารพิพัฒน์ งกลุ่มสาระการ
เรียนรู้วิทยาศาสตร์และกลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา หลือแนะนําการทํางาน
การเรียนการสอนเพศศึกษาใน
สถานศึกษา
ขอขอบคุณคณาจารย์สาขาวิจัยการศึกษา ภาควิชาการประเมินและการวิจัย คณะ
ศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคําแหง
เกิดประโยชน์แก่ครู อาจารย์ บุคลากรทางการศึกษาและ
ผู้สนใจ
ผู้วิจัยมีความรู้ความสามารถ
วิชัย ลิขิตพรรักษ์
ตําแหน่งครูผู้ช่วย กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
โรงเรียนศีลาจารพิพัฒน์
ค.
สารบัญ
หน้า
ปก ก.
บทคัดย่อ ข.
กิตติกรรมประกาศ ค.
สารบัญ ง.-จ.
1 : บทนํา 1-4
- ความเป็นมาและความสําคัญของปัญหา 1-2
- วัตถุประสงค์ของการวิจัย 2
- ขอบเขตของการวิจัย 2
- นิยามเชิงศัพท์ 2-3
- สมมติฐานของการวิจัย 3
- 4
- กรอบความคิดในการศึกษาวิจัย 4
2 : 5-19
- 5-10
- 2551 10-11
- 12-14
- 14-16
- การจัดการเรียนรู้เพศศึกษาแบบรอบด้าน 16-18
- 18-19
3 : วิธีดําเนินการวิจัย 20-25
- 20-21
- ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง 21
- ตัวแปรในการศึกษาวิจัย 21
- 21-23
ง.
หน้า
- การเก็บรวบรวมข้อมูล 23-24
- การวิเคราะห์ข้อมูล 24
- 24-25
4 : ผลการศึกษาวิจัย 26-42
5 : สรุป อภิปรายผลการศึกษาและข้อเสนอแนะ 43-50
- สรุปผลการวิจัย 43-47
- อภิปรายผลการวิจัย 48-49
- ข้อเสนอแนะ 50
ภาคผนวก
บรรณานุกรม
ประวัติผู้วิจัย
จ.
1 บทนํา
ความเป็นมา และความสําคัญของปัญหา
การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้มีความสามารถในการคิดการแก้ปัญหามีคุณธรรมเป็นผู้มี
วัฒนธรรมให้แก่ประเทศ เพราะคนเป็นปัจจัย
เน้นให้คนทุกคนได้รับการพัฒนาศักยภาพของแต่ล
สังคมโลกในอนาคตนอกจากต้องการความเก่งแล้วจะต้องอาศัยความดีและความสุขของประชาชน
รวดเร็วการรับรู้ข้อมูลข่าวสารเป็นไปอย่างรวดเร็วทําให้การดําเนินชีวิตของคนในปัจจุบันมีความ
เพศสัมพันธ์ (พรฤดี นิธิรัตน์, 2553) การตัดสินใจและความรับผิดชอบ
เพศสัมพันธ์ เช่น การถูกล่อลวงไปข่มขืน การมีบุตรก่อนวัยอันควร การทําแท้ง โรคติดต่อทาง
เพศสัมพันธ์และโรคเอดส์ (เจษฎา สุระแสงและคณะ, 2552)
กว่า 20 14.7
จะต้องไม่เกินร้อยละ 10
เกณฑ์ 2,500 กรัม (2.5 กิโลกรัม) 8.7
กําหนดไว้จะต้องไม่เกินร้อยละ 7
ประมาณ 140 ราย หรือประมาณปีละ 50,000
รุนแรงของสังคม เพราะส่งผลให้คุณภาพชีวิตของทารก
ความเครียดและภาวะซึมเศร้าเพราะต้องการปกปิ
ยนและการทําแท้งอีกด้วย (องค์การแพธ, 2547)
แนวคิดทฤษฎีทางการศึกษาเน้นกระบวนการเรียนรู้เน้นผู้เรียนเป็นสําคัญ ปัญหาเด็กและ
ตรายต่อตนเองและบุคคลใกล้เคียง (ธนกฤต ชัยหมก,
2555) า
1.
นและรอบด้าน โดยเน้นพัฒนาการของผู้เรียนเป็นสําคัญ
กับวัฒธรรมประเพณีอันดีงามของไทย (อุรสา พรสยม, 2545)
ด้วยเหตุผลดังกล่าว ผู้วิจัยในฐานครูผู้สอนรายวิชาชีววิทยา กลุ่มวสาระการเรียนรู้
เจริญเติบโต , ทักษะ
กระบวนการและเจตคติต่อการ
.3 และ ม.6 และความสัมพันธ์ระหว่างความรู้ความเข้าใจ, ทักษะกระบวนการและเจตคติ
.3 และ ม.6
ข้อมูลไปใช้เป็นหลักฐานอ้างอิงในการประเมินประสิทธิภาพและประสิทธิผลการจัดการศึกษา
ของโ
ด้านเพศศึกษาให้นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจ,
นําไปใช้ในการดําเนินชีวิตของตนเองอย่างมีคุณภาพ
วัตถุประสงค์
1. , ทักษะกระบวนการและ
ม.3 และ ม.6
2. , ทักษะกระบวนการและเจตคติต่อการ
.3 และ ม.6
ขอบเขตของการวิจัย
เชิงประเมิน สําหรับนักเรียนระดับ 3 และ
6 2556 โรงเรียนศีลาจาร
กรุงเทพมหานคร
นิยามเชิงศัพท์
1.
ดํารงตนอยู่ในสังคมได้อย่างมี
ความรับผิดชอบและเป็นสุข องค์การแพทย์กล่าวว่า การจัดการเรียนรู้เพศศึกษารอบด้าน หมายถึง
2.
2. 3
มัธยมศึกษาตอนต้น
2551
3. 6
ตอนปลาย
2551
4. ความรู้ความเข้าใจ หมายถึง ความสามารถในการจําและเข้าใจรายละเอียดของข้อมูล
ตีความ ขยายความ หรือแ
5. ทักษะกระบวนการ หมายถึง
ให้
การดําเนินการมีประสิทธิภาพนําไปสู่ความสําเร็จตามจุดประสงค์และเป้าหมายได้ โดยใช้เวลาและ
6. เจตคติ หมายถึง
หรือไม่ชอบ เห็นหรือไม่เห็นด้วย
สมมติฐานการวิจัย
1. นักเรียนผู้สําเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้นและตอนปลายตามหลักสูตร
2551 , อายุ, ระดับการศึกษา, ,
สถานภาพครอบครัว, , ทัศนคติต่อเพศศึกษา,
และลักษณะการใช้บริการสังคมออนไลน์แตกต่างกันน่าจะมีระดับความรู้ความเข้าใจ, ทักษะ
นัยสําคัญ .05
2. ระดับความรู้ความเข้าใจ, ทักษะกระบวนการและเจตคติของนักเรียนผู้สําเร็จการศึกษา
2551
ระดับนัยสําคัญ .05
3.
1.
ด้านเพศศึกษา
2. เป็นแนวทางหรือแบบอย่างกระบวนการวิจัยเชิงประเมินแก่ครู อาจารย์ หรือบุคลากรทาง
ของ
ผู้เรียนด้านความรู้ความเข้าใจ,
สามารถนําไปใช้ในการดําเนินชีวิตอย่างมีคุณภาพ
3. เป็นการส่งเสริมองค์ความรู้ของการวิจัยทางด้านการศึกษา
มัธยมศึกษาตอนต้นและตอนปลายในด้านความรู้ความเข้าใจ, ทักษะกระบวนการและเจต
คติ
กรอบความคิดในการศึกษาวิจัย
ตัวแปรต้น
สถานะของนักเรียนผู้สําเร็จการศึกษา
 เพศ
 อายุ
 ระดับการศึกษา

 สถานภาพครอบครัว

 ทัศนคติต่อเพศศึกษา

 ลักษณะการใช้บริการสังคมออนไลน์
ตัวแปรตาม

เพศศึกษา

เพศศึกษา

การศึกษาเปรียบเทียบความแตกต่าง
(independent t-test, one way ANOVA)
( , ร้อยละ, , ) การศึกษาความสัมพันธ์
(Pearson product moment)
4.
2
การวิจัยเชิงประเมิน (Evaluative Reseach)
ความรู้ความเข้าใจ, ทักษะกระบวนการและเจตคติต่อการเรียนรู้เพศศึกษาในสถานศึกษาและศึกษา
ความสัมพันธ์ระหว่างความรู้ความเข้าใจ, ทักษะกระบวนการและเจตคติต่อการเรียนรู้เพศศึกษาใน
และตอนปลายโรงเรียนศีลา
1 กรุงเทพมหานคร โดย
เปรียบเทียบปัจจัยจากข้อมูลส่วนบุคคลของนักเรียน ได้แก่ เพศ, อายุ, ระดับการศึกษา,
สําเร็จการศึกษา, สถานภาพครอบครัว, , ทัศนคติต่อเพศศึกษา,
ควรมีครอบครัวและลักษณะการใช้บริการสังคมออนไลน์แตกต่างกันน่าจะมีระดับความรู้ความ
เข้าใจ,
1. รุ่น
2. 2551
3.
4.
5. การจัดการเรียนรู้เพศศึกษา
6.
1.
1.1 ความหมายของวัยรุ่น
สุชา จันทร์เอมและสุรางค์ จันทร์เอม (2521: 25)
และถ้าจะกําหนดลงไปว่า
(Puberty) ก่อนเด็กชายประมาณ 1-2 ปี แต่ก็ไม่มี
อาหาร ขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรม
ณิฐินันท์ วิชัยรัมย์ (2545: 12) ได้สรุปว่า วัยรุ่นเป็นวัย
แต่ถือเอาจากความ
5.
สติปัญญา อารมณ์และสังคมไปพร้อมกัน
1.2 ช่วงระยะของวัยรุ่น
พร้อมกัน สุชา จันทน์หอม (2529: 3) ได้แบ่ง วัยรุ่นออกเป็น 3
1.2.1 วัยรุ่นตอนต้น (Early Adolescence) อายุระหว่าง 13-15
นไม่
มีลักษณะ
างกายยัง
ด้านอวัยวะเพศและการเจริญเติบโตของทรวงอก
ระยะของวัยรุ่นได้เข้าใกล้มาแล้ว
1.2.2 วัยรุ่นตอนกลาง (Middle Adolescence) อายุระหว่าง 15-18 ปี มีการ
“วุฒิภาวะ
ของวัยรุ่น”
1.2.3 วัยรุ่นตอนปลาย (Late Adolescence) อายุระหว่าง 18-21
พยายามปรับปรุงร่างกายของตัวเองให้เข้ากับส
ปัญหา
สะดวกสบายใจ แต่ในทางตรงกันข้ามถ้าแก้ปัญห
6.
1.3 พัฒนาการของงเด็กวัยรุ่น
พัฒนาการ (Development)
และแบบแผนอินทรีย์ทุกส่วน
(สุชา จันทน์เอม, 2536)
พัฒนาการต่างๆ ของวัยรุ่นเป็
1.3.1 พัฒนาการทางด้านสรีรวิทยา
1.3.2 พัฒนาการทางด้านร่างกาย
อย่างรวดเร็วมาก
กชายและ
เด็กหญิงมีความแตกต่างกันคือ
1.
อายุประมาณ 9-12 ปี จะสูงกว่าและตัวโตกว่าเด็กชาย
2. 2 ปี (ระยะ
ย 12 14 ปี)
3. เด็กหญิงมีขนาดการเจริญเติบโตโครงสร้างทางร่างกายน้อยกว่าเด็กชาย
1.
เพศ มีอายุประมาณ 13-15 ปี
2.
ผลิตไข่สุก ถ้าไม่ได้รับการผสมจะถูกขับออกมาจากร่างกายในรูปของ
ประจําเดือนโดยมีระยะหมุนเวียนอยู่ระหว่าง 28-30 3-5
7.
วันในระหว่างการมีประจําเดือนอาจมีอาการปวดท้อง ปวดศรีษะ หรือหงุดหงิดและเกิดความเครียด
3. และบริเวณ
4. โดย
5.
ยออก เอวคอดเข้า เป็นต้น
6.
1-2
สามารถบอกได้แน่นอนว่าลักษณะ
ใดเกิดก่อนลักษณะใดเกิดหลัง
1.3.3 พัฒนาการทางอารมณ์
อนาคตของเขาเองอารมณ์ประเภทต่า
1. ประเภทก้าวร้าวรุนแรง เช่น อารมณ์โกรธ อิจฉา เกลียดชัง
2. ประเภทเก็บกดเอาไว้ เช่น ความวิตกกังวล ความกลัว ความเศร้าใจ
สลดหดหู่
8.
3. อารมณ์สนุก เช่น ความรัก ชอบ
งมาก
1.3.4 พัฒนาการทางสติปัญญา
การคิดอย่างมีเหตุผล และการตัดสินในแก้ปัญหาในสถานการณ์ต่างๆ สามารถแสดงความคิดเห็น
จะพบได้ว่าเด็กวัยรุ่นชอบส่องกระจก
พัฒนาการทางด้านสติปัญญาในวัยรุ่นตอนต้นมีพัฒนาการอย่างรวดเร็ว
16 ปี (สุชา จันทน์เอม, 2528)
เองและมองเห็น
ชุมชน
1.3.5 พัฒนาการทางสังคม
วัยรุ่น วามเป็นอยู่ภายในครอบครัวด้วย ดังจะ
2-3 1
15
9.
14 ปี เด็กหญิงจะ
2. หลักสูตรแกนกลาง 2551
2551
เป็นกรอบและทิศทางในการพัฒนาหลักสูตรและจัดการเรียนการ
สําคัญของผู้เรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ มาตรฐานการเรียนรู้พร้อมให้รายละเอียดในแต่ละ
กลุ่มสาระการเรียนรู้ ได้กําหนดมาตรฐานการเรียนรู้เป็นเป้ าหมายสําคัญของการพัฒนาคุณภาพ
จัดทําหน่วยการเรียนรู้ จัดการเรียนการสอน และเป็นเกณฑ์สําคัญสําหรับการวัดและประเมินผล
(กระทรวงศึกษาธิการ, 2551)
2.1 วิสัยทัศน์
มนุษย์ มีจิตสํานึกในความเป็นพลเมืองไทยและเป็นพล
โลก
การประกอบอาชีพและการศึกษาตลอด
ชีวิต โดย ทุกคนสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้
เต็มตามศักยภาพ
2.2 จุดหมาย
2.2.1 มีคุณธรรม เห็นคุณค่าของตนเอง มีวินัยและ
ปฏิบัติตนตามหลักธรรมของพระพุทธศาสนา
พอเพียง
2.2.2 มีความ
เทคโนโลยีและมีทักษะชีวิต
2.2.3
10.
2.2.4
การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
2.2.5 มีจิตสํานึกในการอนุรักษ์วัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย การอนุรักษ์และพัฒนา
อย่างมีความสุข
2.3 สมรรถนะสําคัญของผู้เรียน
2.3.1
2.3.2 ความสามารถในการคิด
2.3.3 ความสามารถในการแก้ปัญหา
2.3.4 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
2.3.5 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
2.4 คุณลักษณะอันพึงประสงค์
2.4.1 รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์
2.4.2
2.4.3มีวินัย
2.4.4 ใฝ่เรียนรู้
2.4.5 อยู่อย่างพอเพียง
2.4.6
2.4.7 รักความเป็นไทย
2.4.8 มีจิตสาธารณะ
2.5 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้
2.5.1 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
2.5.2 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
2.5.3 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
2.5.4 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
2.5.5 กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา
2.5.6. กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ
2.5.7 กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี
2.5.8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ
11.
3.
3.1 ความหมายของคําว่าเพศศึกษา
เพศศึกษามีความหมายค่อนข้างกว้าง
สามารถนําไปใช้ปรับตัว
(วันทนีย์วาสิกะสิน, 2526)
ณิฐินันท์ วิชัยรัมย์ (2545: 30) สรุปไว้ว่า เพศศึกษาหมายถึง
รับผิดชอบและความสัมพันธ์อันดีระหว่างเพศ
3.2 ความสําคัญและจุดมุ่งหมายของเพศศึกษา
ชัยวัฒน์ ปัญจพงษ์และคณะ (2524: 21-22) ได้กล่าวถึงจดมุ่งหมายกว้างๆทาง
1.
2. กังวล
เหมาะสมทุกทางในด้านเพศ
3.
เป็นเพศเดียวกันหรือต่างเพศก็ได้
4.
5.
6.
ศีลธรรมเข้าไปร่วมด้วยเสมอ
7.
ถูกต้อง
12.
8.
งตามยถากรรม การหลอกลวงผู้หญิงไปค้าประเวณี
9. ให้หมดไป เช่นการเอา
รับผิดชอบและอยุติธรรม
10.
ณิฐินันท์ วิชัยรัมย์(2545: 31) สรุปไว้ว่า ความสําคัญและจุดม่งหมายของเพศศึกษา
ของชีวิตได้ด้ เป็นการสร้างคุณภาพชีวิตของ
3.3
แนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพศศึกษาสําหรับผู้เรียนระดับ
6 (สํานักงาน
คณ , 2549)
1
(body image)
ตัวตนทางเพศ และความพึงพอใจทางเพศ (sexual and orientation)
2 สัมพันธภาพระหว่
3
ชีวิต
-
ดําเนินชีวิตของเรา
-
-
สามารถรับผิดชอบได้
13.
- การรักษาและยืนยันในความเป็นตัวของตัวเองสามารถแสดงความรู้สึกความต้องการของ
-
หน่วยการเรียนรู้ 4
พัฒนาไปตามช่วงชีวิต การเรียนรู้อารมณ์เพศ การจัดการอารณ์เพศ การช่วยตัวเอง จินตนาการทาง
เพศ การแสดงออกทางเพศ การละเว้นการมีเพศสัมพันธ์ การตอบสนองทางเพศ เป็นต้น
5 สุขภาพทางเพศ เป็นสาร
ละเมิดทางเพศ ความรุนแรงทางเพศและอนามัยเจริญพันธุ์
6
บริ
4.
(สํานักงานคณะกรรมการ
นฐานและกรมควบคุมโรค, 2549) ได้แก่
4.1
1 : การอ่าน
มาตรฐาน ท 1.1 ใช้กระบวนการอ่าน สร้างความรู้ ความคิด ไปใช้ตัดสินใจแก้ปัญหาและ
สร้างวิสัยทัศน์ในการดําเนินชีวิตและมีนิสัยรักการอ่าน
2 : การเขียน
มาตรฐาน ท 2.1
ประสิทธิภาพ
3 : การฟัง การดู การพูด
มาตรฐาน ท 3.1 สามารถเลือก ฟัง ดูอย่างมีวิจารณญาณและพูดแสดงความรู้สึก ความคิด
ความรู้สึกในโอกาสต่างๆอย่างมีวิจารณญาณและสร้างสรรค์
14.
4 : หลักการใช้ภาษา
มาตรฐาน ท 4.1 สามารถใช้ภาษาแสวงหาความรู้ เสริมสร้างลักษณะนิสัยบุคลิกภาพ และ
ความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรม อาชีพ สังคม และชีวิตประจําวัน
4.2
มาตรฐาน พ 1.1 เข้าใจธรรมชาติของการเจริญเติบโตและพัฒนาการของมนุษย์
มาตรฐาน พ. 2.1 เข้าใจและเห็นคุณค่าของชีวิต ครอบครัว เพศศึกษาและมีทักษะในการ
ดําเนินชีวิต
มาตรฐาน พ. 4.1 เห็นคุณค่าและมีทักษะในการเสริมสร้างสุขภาพ การดํารงสุขภาพ การ
มาตรฐาน พ. 5.1
ใช้ยา สารเสพติดและความรุนแรง
4.3 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
มาตรฐาน ว 1.1
มาตรฐาน ว 1.2 เข้าใจกระบวนการและความสําคัญของการถ่ายทอดลักษณะทาง
และนําความรู้ไปใช้ประโยชน์
4.4
มาตรฐาน ส 1.3 ประพฤติ ปฏิบัติตน ตามหลักธรรมและศาสนพิธีของพระพุทธศาสนา
ประโยชน์ต่อสังคม
มาตรฐาน ส 2.1
วัฒนธรรมไทย ดํารงชีวิตอยู่ร่วมกันในสังคมไทยและสังคมโลกอย่างมีความสุข
4.5 กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ตาม
8 กลุ่ม การเข้า
ความถนัดและความสนใจอย่างแท้จริงกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนแบ่งเป็น 2 ลักษณะ คือ
4.5.1 และพัฒนาความสามาถของผู้เรียนให้
เหมาะสม ตามความแตกต่างระหว่างบุคคล ให้สามารถค้นพบและพัฒนาศักยภาพของตน
เสริมสร้างทักษะชีวิตวุฒิภาวะทางอารมณ์การเรียนรู้เชิงพหุปัญญา
15.
4.5.2
ศึกษาวิเคราะห์วางแผน ปฏิบัติตามแผน ประเมินและปรับปรุงการทํางานโดยเน้นการทํางานร่วมกัน
เป็นกลุ่ม เช่น ลูกเสือ เนตรนารี ยุวกาชาด และผู้บําเพ็ญประโยชน์ เป็นต้น
5. การจัดการเรียนรู้เพศศึกษาแบบรอบด้าน
6
“SIECUS Comprehensive Sexuality Education” โดยจัดให้เป็นการเรียนรู้
มิติต่างๆ อย่างรอบด้าน (องค์การแพธ, 2550)
- ในมิติพัฒนาการตามธรรมชาติของช่วงวัยมนุษย์ (Human Development) เราคาดหวังให้
o บุคคลรู้สึกพอใจภูมิใจไม่เกิดปมด้อยกับเรือนร่างสรีระของตน
o
o ป็นพัฒนาการธรรมชาติของชีวิตมนุษย์และไม่จําเป็นว่าจะต้อง
ประสบการณ์การมีเพศสัมพันธ์ในชีวิต
o มีปฎิสัมพันธ์กับทุกเพศอย่างเหมาะสมและเคารพในคุณค่าของแต่ละบุคคลโดย
ปราศจากอคติต่อความแตกต่างระหว่างเพศ
o
o ยอมรับความเป็นตัวตนทางเพศและเพศสภาพของตนเคารพความเป็นตัวตนและเพศ
- (Relationship) เราคาดหวังให้
o
เหมาะสม
o
o
o บุคคลสามารถจะตัดสินใจโดยมีข้อมูลรอบด้านในการสร้างครอบครัวและสร้าง
o
- ในมิติของการพัฒนาทักษะส่วนบุคคล (Personal Skills) เราควรคากหวังให้
16.
o คล้องกับความปรารถนาและ
ค่านิยมของตน
o
o บุคคลได้ฝึกฝนการตัดสินใจอย่างมีประสิทธิภาพ
o บุคคลได้พัฒนาทักษะของการคิด วิเคราะห์ แยกแยะ อย่างรอบด้าน
o
รัก
- ในมิติของพฤติกรรมทางเพศ (Sexual Behavior) เราคาดหวังให้
o
ชีวิต
o
o บุคคลสามารถสร้างความรู้สึกสุขใจ พอใจทางเพศโดยไม่จําเป็นว่าจะต้องลงมือ
o
o
o บุคคลสามารถแสวงหาข้อมูลและก
o
อย่างปลอดภัยจริงใจไม่หลอกลวงเอาเปรียบทําร้าย
- ในมิติของสุขภาพทางเพศ (Sexual Health) เราคาดหวังให้
o พศ อาทิ การตรวจสุขภาพ
o
o บุคคลสามารถป้องกันตนเองจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคเอดส์
o บุคคลสาม
พร้อม
o
o บุคคลสามารถช่วยกันป้องกันและระงับการทําร้ายการล่วงละเมิดทางเพศ
- ในมิติของสังคมวัฒนธรรม (Society and Culture) เราคาดหวังให้
o บุคคลมีคว
17.
o บุคคลใช้สิทธิตามกระบวนการประชาธิปไตยในการสร้างกติกาทางสังคมและ
o
o
ก่อให้เกิดอคติ
o
o
เพศแตกต่างจากตน
o บุคคลไม่ยอมรับต่อการตีตรา ปรักปรํา หรือเหมารวมว่ากลุ่มประชากรใดมีแนว
6.
นางสาวณิฐินันท์ วิชัยรัมย์ (2545)
การมีเพศสัมพันธ์ของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ในเขตอําเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ ผล
การศึกษาพบว่า
1.
และความสัมพันธ์
2.
.001 และค่าใช้จ่ายประจําเดือนแตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทาง
.05
3.
54.0 .001
นายเจษฎา สุระแสงและคณะ (2552)
1 อําเภอสหัสขันธ์ จังหวัดกาฬสินธุ์
1 ในอําเภอสหัสขันธ์ จังหวัดกาฬสิ
18.
.05 (p=.000)
เพศศึกษามีความสัมพันธ์กั .05 (p=.000)
กุลกานต์ อภิวัฒนลังการและคณะ (2551)
ระหว่างบิดามารดาและบุตรวัยรุ่น ผลการศึกษาพบว่า
1. ผลการศึกษาจากกลุ่มบิดามารดา พบว่า หลังการเข้าร่วมโปรแกรม บิดามารดากลุ่ม
เพศสูงกว่ากลุ่มควบคุมหลังเข้าร่วมโปรแกรมอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติ
2. ผลการศึกษาจากกลุ่มบุตรวัยรุ่น พบว่าหลังบิดามารดาเข้าร่วมโปรแกรม บุตรวัยรุ่นของ
ศึกษาของบิดามารดาสูง
กว่าบุตรวัยรุ่นของบิดามารดากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสําคัญทางสิถิติ
นางพรฤดี นิธิรัตน์ (2553) :
ให้วัยรุ่นไทยไม่ใช้ถุงยางอนามัย ผลการศึกษาพบว่า เหตุผลหลัก 5
1) ถุงยางอนมัยทําให้ความสุขทางเพศลดลง 2) ความรู้สึก
3)
4) ความรู้สึกไว้วางใจในคู่นอน และ 5) การรับรู้ประโยชน์ของ
ในกลุ่มวัยรุ่นหญิง
19.
3
การวิจัย เป็นการวิจัยเชิงประเมิน (Evaluative research) มีวัตถุประสงค์
, ทักษะกระบวนการและเจตคติต่อการเรียนรู้
. 3 และ ม.6 และ
ความสัมพันธ์ระหว่างความรู้ความเข้าใจ, ทักษะกระบวนการและเจตคติต่อการเรียนรู้เพศศึกษาใน
.3 และ ม.6 โดยใช้แบบสอบถามความคิดเห็น
ตอนต้นและมัธยมศึกษาตอนปลายประจําปีการศึกษา 2556 โดยนักเรียนเป็นผู้ตอบแบบสอบถาม
ตามความคิดเห็นของตนเอง
ระเบียบวิธีการวิจัย
(Research methodology) ประกอบด้วย
1. การศึกษา ค้นคว้า ทบทวน กับสภาพปัญหาวัยรุ่นในปัจจุบัน
2. การสร้างและพัฒนา
ปลายโดยนักเรียนเป็นผู้ตอบแบบสอบถามตามความคิดเห็นของตนเอง
3. การดําเนินการประเมิน ด้านความตรงเชิง หา (Content
Validity) (IOC) พร้อมปรับปรุงแก้ไข ก่อน
นําไปใช้จริงกลับกลุ่มตัวอย่างในโรงเรียน
4. (try out) กับกลุ่มนักเรียน
20
(Reliability) โดยการคํานวณหา ( - Coefficient) ของ Cronbach
5. ดําเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลจาก
มัธยมศึกษาตอนปลาย .3 และ ม.
6 ปีการศึกษา 2556 โรงเรียนศีลาจารพิพัฒน์ จํานวน 110 คน โดยนักเรียนเป็นผู้ตอบ
แบบสอบถามตามความคิดเห็นของตนเอง
6. การวิเคราะห์ สรุปผล และนําเสนอผลการวิจัยเชิงประเมินจากข้อมูลการตอบแบบสอบถาม
.3 และ
20.
ม.6 ปีการศึกษา 2556 โรงเรียนศีลาจารพิพัฒน์ จํานวน 110 คนโดยใช้โปรแกรมสําเร็จรูป
คํานวณผลทางสถิติ (SPSS) พร้อมกับจัดทําเล่มรายงานฉบับสมบูรณ์
ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง
1. ประชากร ได้แก่
ตอนต้น ( 3) และมัธยมศึกษาตอนปลาย ( 6)
2. กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่
มัธยมศึกษาตอนต้น ( 3) และมัธยมศึกษาตอนปลาย ( 6) ปี
การศึกษา 2556 จํานวน 110 คน โดยวิธีการสุ่มอย่างง่าย (Simple random sampling)
ตัวแปรในการศึกษาวิจัย
คือ สถานะของนักเรียนผู้สําเร็จการศึกษา ได้แก่ เพศ ,
อายุ, ระดับการศึกษา, , สถานภาพครอบครัว, ,
ทัศนคติต่อเพศศึกษา
,
1. มือ
สําเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้นและมัธยมศึกษาตอนปลาย ปีการศึกษา 2556 โดยให้โดย
นักเรียนเป็นผู้ตอบแบบสอบถามตามความคิดเห็นของตนเอง
2.
แบบสอบถามค
สําเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้นและมัธยมศึกษาตอนปลาย ปีการศึกษา 2556 มีลักษณะ
เป็นแบบสอบถามแบบมาตรส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ โดยสอบถามความคิดเห็น
.3 และ ม.6
ลาจารพิพัฒน์ จํานวน 1
1. ศึกษาหลักการสร้างแบบสอบถาม
จากเอกสารการวัดและประเมินผลต่าง ๆ
2. สร้าง
2556
21.
โดยให้โดยนักเรียนเป็นผู้ตอบแบบสอบถามตามความคิดเห็นของตนเองเป็นมาตราส่วนประมาณค่า
(Rating Scale) 5 ระดับ ข้อคําถามจํานวน 15 ข้อ แบ่งออกเป็น 3 ด้าน คือ
ด้าน 1 1 – 5
2 6 - 10
3 11 - 15
ระดับ 1 หมายถึง
ระดับ 2 หมายถึง นักเรียนค่อนข้างไม่เห็นด้วย
ระดับ 3 หมายถึง นักเรียนเห็นด้วยปานกลาง
ระดับ 4 หมายถึง นักเรียนค่อนข้างเห็นด้วย
ระดับ 5 หมายถึง
1.00 - 1.50 หมายถึง
1.51 - 2.50 หมายถึง นักเรียนค่อนข้างไม่เห็นด้วย
2.51 - 3.50 หมายถึง นักเรียนเห็นด้วยปานกลาง
3.51 - 4.50 หมายถึง นักเรียนค่อนข้างเห็นด้วย
4.51 - 5.00 หมายถึง
3. 5 คน ได้แก่ นางวนิดา เรียวไพศาลศักดา
หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์, นางวิลาวัลย์ นามศรี หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้สุข
ศึกษาและพละศึกษา, นางนภาพร มูลรัตน์ ครู คศ.2 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์, นางสาวรัชนี
พุทธาสมศรี ครู คศ.1 กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพละศึกษา และนางสาวจิราภรณ์ สุขดํา
(Content Validity)
IOC
(Index of Item Objectives Congruence) โดยกําหนดเกณฑ์การพิจารณา คือ
เห็นว่าสอดคล้อง ให้คะแนน +1
ไม่แน่ใจ ให้คะแนน 0
เห็นว่าไม่สอดคล้อง ให้คะแนน -1
การวิเคราะห์ข้อมูลความเหมาะสมสอดคล้องของแบบสอบถามความคิดเห็นโดยใช้ดัชนีความ
สอดคล้อง(IOC) คํานวณค่าตามสูตร
N
R
IOC

22.
R =
N =
IOC โดยใช้ดัชนี
ความ สอดคล้อง (Index of Item Objective Congruence)
0.5 0.74
4.
.3 และ ม.6 ปีการศึกษา 2556 โรงเรียนศีลาจารพิพัฒน์ จํานวน 20 คน
โดยนักเรียนเป็นผู้ตอบแบบสอบถามตามความคิดเห็นของตนเอง
5. / ความพึง
พอใจ โดยหาค่าสัม ( - Coefficient) ของ Cronbach
กําหนดไว้0.70 ได้ค่าเท่ากับ 0.934
การเก็บรวบรวมข้อมูล
เชิงประเมิน โดยผู้วิจัยได้ดําเนินการเก็บรวบรวมข้อมูล
1. จัดทํา
การศึกษา 2556 โดยให้โดยนักเรียนเป็นผู้ตอบแบบสอบถามตามความคิดเห็นของ
ตนเอง
2. นํา องนักเรียนโรงเรียนศีลาจาร
การศึกษา 2556 ผู้วิจัย ไปสําเนาประมาณ 120 ชุด พร้อมแจกให้
3
6 ปีการศึกษา 2556 โรงเรียนศีลาจารพิพัฒน์แบบสุ่ม
3. เก็บรวบรวม
ตอนปลาย ปีการศึกษา 2556 กลับคืนจากนักเรียน ได้จํานวน 110 ชุด คิดเป็นร้อยละ
91.67
4.
มัธยมศึกษาตอนปลาย ปีการศึกษา 2556 ของนักเรียนเป็นรายบุคคล
23.
5. นําผลคะแนนจากการลงคะแนนระดับความคิดในแต่ละข้อแบบสอบถามความคิดเห็น
มัธยมศึกษาตอนต้นและมัธยมศึกษาตอนปลาย ปีการศึกษา 2556 ของนักเรียนเป็น
รายบุคคลบันทึกลงตารางของโปรแกรมวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติสําเร็จรูป
ข้อมูลอย่างเหมาะสมต่อไป
การวิเคราะห์ข้อมูล
วิเคราะห์ข้อมูล
การศึกษา 2556 โดยการหาค่าร้อยละ (Percent) , (Mean),
(Standard deviation), การทดสอบค่า t (Independent t-test), การทดสอบความแปรปรวนทางเดียว
(One-way ANOVA) (Pearson product moment
correlation coefficient) โดยใช้โปรแกรมวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติสําเร็จรูปในการวิเคราะห์ข้อมูล
(กัลยา วานิชย์บัญชา, 2548)
( , 2545)
N
X
X


X
 X ผลรวมของคะแนน
N จํานวน
 
 1
S.D.
22



 
NN
xxN
S.D.
 )X-(X
N จํานวน
ค่าดัชนีความสอดคล้อง
N
R
IOC


IOC =
24.
R =
N =
( - coefficient)







 

2
tS
2
iS
1
1-n
n
α
α
n จํานวนข้อ
2
iS คะแนนความแปรปรวนแต่ละข้อ
2
tS
สัมประสิทธ์สหสัมพันธ์เพียร์สันโพรดักโมเมนต์(Pearson Product Momet:rxy)
N คือ จํานวนคู่ของข้อมูล
X 1
Y 2 ค่า
การทดสอบความแปรปรวนทางเดียว (One-way ANOVA)
25.
R =
N =
( - coefficient)







 

2
tS
2
iS
1
1-n
n
α
α
n จํานวนข้อ
2
iS คะแนนความแปรปรวนแต่ละข้อ
2
tS
สัมประสิทธ์สหสัมพันธ์เพียร์สันโพรดักโมเมนต์(Pearson Product Momet:rxy)
N คือ จํานวนคู่ของข้อมูล
X 1
Y 2 ค่า
การทดสอบความแปรปรวนทางเดียว (One-way ANOVA)
25.
R =
N =
( - coefficient)







 

2
tS
2
iS
1
1-n
n
α
α
n จํานวนข้อ
2
iS คะแนนความแปรปรวนแต่ละข้อ
2
tS
สัมประสิทธ์สหสัมพันธ์เพียร์สันโพรดักโมเมนต์(Pearson Product Momet:rxy)
N คือ จํานวนคู่ของข้อมูล
X 1
Y 2 ค่า
การทดสอบความแปรปรวนทางเดียว (One-way ANOVA)
25.
4 ผลการศึกษาวิจัย
1 แสดงผลการวิเคราะห์ (Content Validity) ตามความคิดเห็นของ
ผู้ (IOC) ต่อ
การศึกษา 2556
รายการข้อความคิดเห็น
ประมาณค่าความคิดเห็นของ
ค่า
IOC แปลผล
1 2 3 4 5
1. +1 0 +1 +1 +1 0.8 ใช้ได้
2. 0 +1 +1 +1 +1 0.8 ใช้ได้
3. +1 +1 +1 0 +1 0.8 ใช้ได้
4. เอดส์ (AIDS) เป็นโรคติดต่อร้ายแรงทางเพศสัมพันธ์ในปัจจุบัน +1 +1 +1 +1 +1 0.8 ใช้ได้
5. +1 +1 0 +1 +1 0.8 ใช้ได้
6. +1 +1 +1 +1 +1 1 ใช้ได้
7. +1 +1 0 +1 0 0.6 ใช้ได้
8. +1 +1 +1 0 +1 0.8 ใช้ได้
9. 0 0 +1 +1 +1 0.6 ใช้ได้
10. +1 +1 0 +1 0 0.6 ใช้ได้
11. การอยู่ด้วยกันก่อนแต่งงานระหว่างหญิง- 0 +1 0 +1 +1 0.6 ใช้ได้
12. +1 0 +1 0 +1 0.6 ใช้ได้
13. +1 0 +1 +1 +1 0.8 ใช้ได้
14. 0 +1 +1 +1 +1 0.8 ใช้ได้
15. สังคม/ +1 +1 0 +1 +1 0.8 ใช้ได้
ค่า IOC = 0.8+0.8+0.8+0.8+0.8+1.0+0.6+0.8+0.6+0.6+0.6+0.6+ 0.8+0.8+0.8
15
= 11.2 = 0.74
15
แปลผล ในภาพรวมและข้อสอบถาม
รายข้อ ในการเก็บข้อมูล (IOC > 0.5)
แก้ไขปรับปรุงในด้านความสอดคล้องเหมาะสมกับสภาพปัจจุบันและปัญหา, ความเหมาะสมของ
การใช้ภาษาและความเหมาะสมของรูปแบบตามคําแนะนํา
26.
2 แสดงข้อมูล ของจํานวนนักเรียนกลุ่มตัวอย่า
มัธยมศึกษาตอนต้นและมัธยมศึกษาตอนปลาย ปีการศึกษา 2556 แยกตามสถานภาพและข้อมูล
ส่วนบุคคล
เพศ จํานวน (คน) ร้อยละ
ชาย 48 43.6
หญิง 62 56.4
รวม 110 100.0
อายุ จํานวน (คน) ร้อยละ
15 2 1.8
15 - 16 ปี 44 40.0
17 – 18 ปี 50 45.5
มากกว่า 18 ปี 14 12.7
รวม 110 100.0
ระดับการศึกษา จํานวน (คน) ร้อยละ
ม.3 50 45.5
ม.6 60 54.5
รวม 110 100.0
จํานวน (คน) ร้อยละ
2.50 20 18.2
2.50 – 2.99 28 25.5
3.00 – 3.49 34 30.9
สูงกว่า 3.50 28 25.5
รวม 110 100.0
27.
สถานภาพครอบครัว จํานวน (คน) ร้อยละ
อยู่กับพ่อและแม่ 50 45.5
2 1.8
22 20.0
อยู่กับผู้ปกครอง 36 32.7
รวม 110 100.0
จํานวน (คน) ร้อยละ
เว็ปไซต์/อินเทอร์เน็ต 54 49.1
(หนังสือ, นิตยาสาร) 10 9.1
VCD, DVD 6 5.5
/โทรทัศน์ 8 7.3
16 14.5
พ่อแม่/ครูอาจารย์ 16 14.5
รวม 110 100.0
ทัศนคติต่อเพศศึกษา จํานวน (คน) ร้อยละ
56 50.9
5 4.5
/ 33 30.0
ไม่แน่ใจ 16 14.5
รวม 110 100.0
จํานวน (คน) ร้อยละ
น้อยกว่า 20 ปี 8 7.3
21 – 25 ปี 30 27.3
26 – 30 ปี 52 47.3
มากกว่า 31 ปี 20 18.2
รวม 110 100.0
28.
การใช้บริการสังคมออนไลน์ จํานวน (คน) ร้อยละ
ใช้เป็นประจําทุกวัน 80 72.7
ใช้ 2 – 3 วัน/ 24 21.8
6 5.5
0 0.0
0 0.0
ไม่เคยใช้เลย 0 0.0
รวม 110 100.0
1 แสดงร้อยละของจํานวนนักเรียนกลุ่มตัวอย่า แบบสอบถามความ
มัธยมศึกษาตอนต้นและมัธยมศึกษาตอนปลาย ปีการศึกษา 2556 แยกตามสถานภาพและข้อมูล
ส่วนบุคคล
0
20
40
60
15
29.
การใช้บริการสังคมออนไลน์ จํานวน (คน) ร้อยละ
ใช้เป็นประจําทุกวัน 80 72.7
ใช้ 2 – 3 วัน/ 24 21.8
6 5.5
0 0.0
0 0.0
ไม่เคยใช้เลย 0 0.0
รวม 110 100.0
1 แสดงร้อยละของจํานวนนักเรียนกลุ่มตัวอย่า แบบสอบถามความ
มัธยมศึกษาตอนต้นและมัธยมศึกษาตอนปลาย ปีการศึกษา 2556 แยกตามสถานภาพและข้อมูล
ส่วนบุคคล
ชาย
44%
หญิง
56%
15 15 - 16 ปี 17 – 18 ปี มากกว่า 18 ปี
29.
การใช้บริการสังคมออนไลน์ จํานวน (คน) ร้อยละ
ใช้เป็นประจําทุกวัน 80 72.7
ใช้ 2 – 3 วัน/ 24 21.8
6 5.5
0 0.0
0 0.0
ไม่เคยใช้เลย 0 0.0
รวม 110 100.0
1 แสดงร้อยละของจํานวนนักเรียนกลุ่มตัวอย่า แบบสอบถามความ
มัธยมศึกษาตอนต้นและมัธยมศึกษาตอนปลาย ปีการศึกษา 2556 แยกตามสถานภาพและข้อมูล
ส่วนบุคคล
29.
ม.6
55%
0
10
20
30
40
2.50
0
5
10
15
20
25
30
35
40
45
50
30.
ม.3
45%
ม.6
55%
2.50 2.50 – 2.99 3.00 – 3.49 สูงกว่า 3.50
30.30.
0
5
10
15
20
25
30
35
40
45
50
0
10
20
30
40
50
60
0
10
20
30
40
50
น้อยกว่า 20 ปี
31.
น้อยกว่า 20 ปี 21 – 25 ปี 26 – 30 ปี มากกว่า 31 ปี
31.31.
2 ข้อมูลการตอบแบบ
มัธยมศึกษาตอนปลาย ปีการศึกษา 2556 แยกเป็นรายข้อสอบถาม
ระดับการประเมิน
ของนักเรียน
1 2 3 4 5
ร้อยละ ร้อยละ ร้อยละ ร้อยละ ร้อยละ
12 คน 10.9 14 คน 12.7 10 คน 9.1 6 คน 5.5 4 คน 3.6
ค่อนข้างไม่เห็นด้วย 6 คน 5.5 8 คน 7.3 16 คน 14.5 12 คน 10.9 10 คน 9.1
เห็นด้วยปานกลาง 30 คน 27.3 24 คน 21.8 36 คน 32.7 26 คน 23.6 30 คน 27.3
ค่อนข้างเห็นด้วย 36 คน 32.7 24 คน 21.8 40 คน 36.4 18 คน 16.4 38 คน 34.5
26 คน 23.6 40 คน 36.4 8 คน 7.3 48 คน 43.6 28 คน 25.5
รวม 110 คน 100.0 110 คน 100.0 110 คน 100.0 110 คน 100.0 110 คน 100.0
ระดับการประเมิน
ของนักเรียน
6 7 8 9 10
ร้อยละ ร้อยละ ร้อยละ ร้อยละ ร้อยละ
10 คน 9.1 10 คน 9.1 10 คน 9.1 8 คน 7.3 18 คน 16.4
ค่อนข้างไม่เห็นด้วย 6 คน 5.5 12 คน 10.9 16 คน 14.5 18 คน 16.4 6 คน 5.5
เห็นด้วยปานกลาง 28 คน 25.5 38 คน 34.5 46 คน 41.8 32 คน 29.1 24 คน 21.8
ค่อนข้างเห็นด้วย 48 คน 43.6 20 คน 18.2 20 คน 18.2 18 คน 16.4 22 คน 20.0
18 คน 16.4 30 คน 27.3 18 คน 16.4 34 คน 30.9 40 คน 36.4
รวม 110 คน 100.0 110 คน 100.0 110 คน 100.0 110 คน 100.0 110 คน 100.0
0
10
20
30
40
50
60
70
80
32.
2 ข้อมูลการตอบแบบ
มัธยมศึกษาตอนปลาย ปีการศึกษา 2556 แยกเป็นรายข้อสอบถาม
ระดับการประเมิน
ของนักเรียน
1 2 3 4 5
ร้อยละ ร้อยละ ร้อยละ ร้อยละ ร้อยละ
12 คน 10.9 14 คน 12.7 10 คน 9.1 6 คน 5.5 4 คน 3.6
ค่อนข้างไม่เห็นด้วย 6 คน 5.5 8 คน 7.3 16 คน 14.5 12 คน 10.9 10 คน 9.1
เห็นด้วยปานกลาง 30 คน 27.3 24 คน 21.8 36 คน 32.7 26 คน 23.6 30 คน 27.3
ค่อนข้างเห็นด้วย 36 คน 32.7 24 คน 21.8 40 คน 36.4 18 คน 16.4 38 คน 34.5
26 คน 23.6 40 คน 36.4 8 คน 7.3 48 คน 43.6 28 คน 25.5
รวม 110 คน 100.0 110 คน 100.0 110 คน 100.0 110 คน 100.0 110 คน 100.0
ระดับการประเมิน
ของนักเรียน
6 7 8 9 10
ร้อยละ ร้อยละ ร้อยละ ร้อยละ ร้อยละ
10 คน 9.1 10 คน 9.1 10 คน 9.1 8 คน 7.3 18 คน 16.4
ค่อนข้างไม่เห็นด้วย 6 คน 5.5 12 คน 10.9 16 คน 14.5 18 คน 16.4 6 คน 5.5
เห็นด้วยปานกลาง 28 คน 25.5 38 คน 34.5 46 คน 41.8 32 คน 29.1 24 คน 21.8
ค่อนข้างเห็นด้วย 48 คน 43.6 20 คน 18.2 20 คน 18.2 18 คน 16.4 22 คน 20.0
18 คน 16.4 30 คน 27.3 18 คน 16.4 34 คน 30.9 40 คน 36.4
รวม 110 คน 100.0 110 คน 100.0 110 คน 100.0 110 คน 100.0 110 คน 100.0
32.
2 ข้อมูลการตอบแบบ
มัธยมศึกษาตอนปลาย ปีการศึกษา 2556 แยกเป็นรายข้อสอบถาม
ระดับการประเมิน
ของนักเรียน
1 2 3 4 5
ร้อยละ ร้อยละ ร้อยละ ร้อยละ ร้อยละ
12 คน 10.9 14 คน 12.7 10 คน 9.1 6 คน 5.5 4 คน 3.6
ค่อนข้างไม่เห็นด้วย 6 คน 5.5 8 คน 7.3 16 คน 14.5 12 คน 10.9 10 คน 9.1
เห็นด้วยปานกลาง 30 คน 27.3 24 คน 21.8 36 คน 32.7 26 คน 23.6 30 คน 27.3
ค่อนข้างเห็นด้วย 36 คน 32.7 24 คน 21.8 40 คน 36.4 18 คน 16.4 38 คน 34.5
26 คน 23.6 40 คน 36.4 8 คน 7.3 48 คน 43.6 28 คน 25.5
รวม 110 คน 100.0 110 คน 100.0 110 คน 100.0 110 คน 100.0 110 คน 100.0
ระดับการประเมิน
ของนักเรียน
6 7 8 9 10
ร้อยละ ร้อยละ ร้อยละ ร้อยละ ร้อยละ
10 คน 9.1 10 คน 9.1 10 คน 9.1 8 คน 7.3 18 คน 16.4
ค่อนข้างไม่เห็นด้วย 6 คน 5.5 12 คน 10.9 16 คน 14.5 18 คน 16.4 6 คน 5.5
เห็นด้วยปานกลาง 28 คน 25.5 38 คน 34.5 46 คน 41.8 32 คน 29.1 24 คน 21.8
ค่อนข้างเห็นด้วย 48 คน 43.6 20 คน 18.2 20 คน 18.2 18 คน 16.4 22 คน 20.0
18 คน 16.4 30 คน 27.3 18 คน 16.4 34 คน 30.9 40 คน 36.4
รวม 110 คน 100.0 110 คน 100.0 110 คน 100.0 110 คน 100.0 110 คน 100.0
32.
ระดับการประเมิน
ของนักเรียน
11 12 13 14 15
ร้อยละ ร้อยละ ร้อยละ ร้อยละ ร้อยละ
8 คน 7.3 10 คน 9.1 4 คน 3.6 8 คน 7.3 10 คน 9.1
ค่อนข้างไม่เห็นด้วย 26 คน 23.6 6 คน 5.5 8 คน 7.3 6 คน 5.5 2 คน 1.8
เห็นด้วยปานกลาง 54 คน 49.1 18 คน 16.4 40 คน 36.4 36 คน 32.7 32 คน 29.1
ค่อนข้างเห็นด้วย 8 คน 7.3 28 คน 25.5 30 คน 27.3 30 คน 27.3 28 คน 25.5
14 คน 12.7 48 คน 43.6 28 คน 25.5 30 คน 27.3 38 คน 34.5
รวม 110 คน 100.0 110 คน 100.0 110 คน 100.0 110 คน 100.0 110 คน 100.0
2 แสดงร้อยละของข้อมูลการตอบแบบ
ปลาย ปีการศึกษา 2556 แยกเป็นรายข้อสอบถาม
0
5
10
15
20
25
30
35
40
45
1 2
0
10
20
30
40
50
6 7
ด้านความรู้ความเข้าใจ
ด้านทักษะกระบวนการ
33.
ระดับการประเมิน
ของนักเรียน
11 12 13 14 15
ร้อยละ ร้อยละ ร้อยละ ร้อยละ ร้อยละ
8 คน 7.3 10 คน 9.1 4 คน 3.6 8 คน 7.3 10 คน 9.1
ค่อนข้างไม่เห็นด้วย 26 คน 23.6 6 คน 5.5 8 คน 7.3 6 คน 5.5 2 คน 1.8
เห็นด้วยปานกลาง 54 คน 49.1 18 คน 16.4 40 คน 36.4 36 คน 32.7 32 คน 29.1
ค่อนข้างเห็นด้วย 8 คน 7.3 28 คน 25.5 30 คน 27.3 30 คน 27.3 28 คน 25.5
14 คน 12.7 48 คน 43.6 28 คน 25.5 30 คน 27.3 38 คน 34.5
รวม 110 คน 100.0 110 คน 100.0 110 คน 100.0 110 คน 100.0 110 คน 100.0
2 แสดงร้อยละของข้อมูลการตอบแบบ
ปลาย ปีการศึกษา 2556 แยกเป็นรายข้อสอบถาม
2 3 4 5
7 8 9 10
ด้านความรู้ความเข้าใจ
ด้านทักษะกระบวนการ
33.
ระดับการประเมิน
ของนักเรียน
11 12 13 14 15
ร้อยละ ร้อยละ ร้อยละ ร้อยละ ร้อยละ
8 คน 7.3 10 คน 9.1 4 คน 3.6 8 คน 7.3 10 คน 9.1
ค่อนข้างไม่เห็นด้วย 26 คน 23.6 6 คน 5.5 8 คน 7.3 6 คน 5.5 2 คน 1.8
เห็นด้วยปานกลาง 54 คน 49.1 18 คน 16.4 40 คน 36.4 36 คน 32.7 32 คน 29.1
ค่อนข้างเห็นด้วย 8 คน 7.3 28 คน 25.5 30 คน 27.3 30 คน 27.3 28 คน 25.5
14 คน 12.7 48 คน 43.6 28 คน 25.5 30 คน 27.3 38 คน 34.5
รวม 110 คน 100.0 110 คน 100.0 110 คน 100.0 110 คน 100.0 110 คน 100.0
2 แสดงร้อยละของข้อมูลการตอบแบบ
ปลาย ปีการศึกษา 2556 แยกเป็นรายข้อสอบถาม
ค่อนข้างไม่เห็นด้วย
เห็นด้วยปานกลาง
ค่อนข้างเห็นด้วย
ค่อนข้างไม่เห็นด้วย
เห็นด้วยปานกลาง
ค่อนข้างเห็นด้วย
ด้านความรู้ความเข้าใจ
ด้านทักษะกระบวนการ
33.
3 ของข้อมูลการตอบแบบสอบถามความคิดเห็น
ตอนต้นและมัธยมศึกษาตอนปลาย ปีการศึกษา 2556 แยกเป็นรายข้อสอบถาม
รายการข้อสอบถาม
( X ) ( SD )
ความหมาย
1. เรื่องเพศเปนเรื่องธรรมชาติมีความเกี่ยวของกับมนุษยทุกคน 3.53 1.224 ค่อนข้างเห็นด้วย
2. การมีความรูเรื่องการคุมกําเนิดชวยลดปญหาการทําแทงได 3.62 1.375 ค่อนข้างเห็นด้วย
3. สื่อภาพยนตและโทรทัศนมีสวนทําใหเกิดการเรียนรูเรื่องเพศศึกษา 3.18 1.068 เห็นด้วยปานกลาง
4. เอดส (AIDS) เปนโรคติดตอรายแรงทางเพศสัมพันธในปจจุบัน 3.82 1.258 ค่อนข้างเห็นด้วย
5. ครอบครัวที่อบอุนมีสวนสําคัญในการปองกันปญหาทางเพศได 3.69 1.064 ค่อนข้างเห็นด้วย
6. พฤติกรรมเลียนแบบดารานักรองทุกอยางเปนสิ่งไมควรปฏิบัติ 3.53 1.115 ค่อนข้างเห็นด้วย
7. เมื่อประสบปญหาทางเพศจะหันไปปรึกษาพอแมเปนอันดับแรก 3.44 1.253 เห็นด้วยปานกลาง
8. การที่นักเรียนมีแฟนหรือคนรักในวัยเรียนเปนเรื่องที่ไมสมควร 3.18 1.151 เห็นด้วยปานกลาง
9. การเที่ยวเวลากลางคืนเปนเรื่องที่ไมเหมาะสมในวัยเรียน 3.47 1.283 เห็นด้วยปานกลาง
10. การจะรักใครสักคนนั้นนักเรียนจะใชใจไมใชรางกายแลกมา 3.55 1.444 ค่อนข้างเห็นด้วย
11. การอยูดวยกันกอนแตงงานระหวางหญิง-ชายที่รักกัน 2.95 1.057 เห็นด้วยปานกลาง
12. การที่เราเปนชายหรือหญิงควรเริ่มจากความรักในตนเอง 3.89 1.280 ค่อนข้างเห็นด้วย
13. การเรียนเรื่องเพศศึกษาที่ถูกตองควรเริ่มตั้งแตระดับประถม 3.64 1.056 ค่อนข้างเห็นด้วย
14. การแตงงานมีครอบครัวหรือมีลูกในวัยเรียนเปนสิ่งที่ไมถูกตอง 3.62 1.157 ค่อนข้างเห็นด้วย
15. สังคม/ครอบครัวและสื่อมีสวนสงเสริมพฤติกรรมทางเพศที่ถูกตอง 3.75 1.215 ค่อนข้างเห็นด้วย
0
10
20
30
40
50
11 12
34.
3 ของข้อมูลการตอบแบบสอบถามความคิดเห็น
ตอนต้นและมัธยมศึกษาตอนปลาย ปีการศึกษา 2556 แยกเป็นรายข้อสอบถาม
รายการข้อสอบถาม
( X ) ( SD )
ความหมาย
1. เรื่องเพศเปนเรื่องธรรมชาติมีความเกี่ยวของกับมนุษยทุกคน 3.53 1.224 ค่อนข้างเห็นด้วย
2. การมีความรูเรื่องการคุมกําเนิดชวยลดปญหาการทําแทงได 3.62 1.375 ค่อนข้างเห็นด้วย
3. สื่อภาพยนตและโทรทัศนมีสวนทําใหเกิดการเรียนรูเรื่องเพศศึกษา 3.18 1.068 เห็นด้วยปานกลาง
4. เอดส (AIDS) เปนโรคติดตอรายแรงทางเพศสัมพันธในปจจุบัน 3.82 1.258 ค่อนข้างเห็นด้วย
5. ครอบครัวที่อบอุนมีสวนสําคัญในการปองกันปญหาทางเพศได 3.69 1.064 ค่อนข้างเห็นด้วย
6. พฤติกรรมเลียนแบบดารานักรองทุกอยางเปนสิ่งไมควรปฏิบัติ 3.53 1.115 ค่อนข้างเห็นด้วย
7. เมื่อประสบปญหาทางเพศจะหันไปปรึกษาพอแมเปนอันดับแรก 3.44 1.253 เห็นด้วยปานกลาง
8. การที่นักเรียนมีแฟนหรือคนรักในวัยเรียนเปนเรื่องที่ไมสมควร 3.18 1.151 เห็นด้วยปานกลาง
9. การเที่ยวเวลากลางคืนเปนเรื่องที่ไมเหมาะสมในวัยเรียน 3.47 1.283 เห็นด้วยปานกลาง
10. การจะรักใครสักคนนั้นนักเรียนจะใชใจไมใชรางกายแลกมา 3.55 1.444 ค่อนข้างเห็นด้วย
11. การอยูดวยกันกอนแตงงานระหวางหญิง-ชายที่รักกัน 2.95 1.057 เห็นด้วยปานกลาง
12. การที่เราเปนชายหรือหญิงควรเริ่มจากความรักในตนเอง 3.89 1.280 ค่อนข้างเห็นด้วย
13. การเรียนเรื่องเพศศึกษาที่ถูกตองควรเริ่มตั้งแตระดับประถม 3.64 1.056 ค่อนข้างเห็นด้วย
14. การแตงงานมีครอบครัวหรือมีลูกในวัยเรียนเปนสิ่งที่ไมถูกตอง 3.62 1.157 ค่อนข้างเห็นด้วย
15. สังคม/ครอบครัวและสื่อมีสวนสงเสริมพฤติกรรมทางเพศที่ถูกตอง 3.75 1.215 ค่อนข้างเห็นด้วย
12 13 14 15
34.
3 ของข้อมูลการตอบแบบสอบถามความคิดเห็น
ตอนต้นและมัธยมศึกษาตอนปลาย ปีการศึกษา 2556 แยกเป็นรายข้อสอบถาม
รายการข้อสอบถาม
( X ) ( SD )
ความหมาย
1. เรื่องเพศเปนเรื่องธรรมชาติมีความเกี่ยวของกับมนุษยทุกคน 3.53 1.224 ค่อนข้างเห็นด้วย
2. การมีความรูเรื่องการคุมกําเนิดชวยลดปญหาการทําแทงได 3.62 1.375 ค่อนข้างเห็นด้วย
3. สื่อภาพยนตและโทรทัศนมีสวนทําใหเกิดการเรียนรูเรื่องเพศศึกษา 3.18 1.068 เห็นด้วยปานกลาง
4. เอดส (AIDS) เปนโรคติดตอรายแรงทางเพศสัมพันธในปจจุบัน 3.82 1.258 ค่อนข้างเห็นด้วย
5. ครอบครัวที่อบอุนมีสวนสําคัญในการปองกันปญหาทางเพศได 3.69 1.064 ค่อนข้างเห็นด้วย
6. พฤติกรรมเลียนแบบดารานักรองทุกอยางเปนสิ่งไมควรปฏิบัติ 3.53 1.115 ค่อนข้างเห็นด้วย
7. เมื่อประสบปญหาทางเพศจะหันไปปรึกษาพอแมเปนอันดับแรก 3.44 1.253 เห็นด้วยปานกลาง
8. การที่นักเรียนมีแฟนหรือคนรักในวัยเรียนเปนเรื่องที่ไมสมควร 3.18 1.151 เห็นด้วยปานกลาง
9. การเที่ยวเวลากลางคืนเปนเรื่องที่ไมเหมาะสมในวัยเรียน 3.47 1.283 เห็นด้วยปานกลาง
10. การจะรักใครสักคนนั้นนักเรียนจะใชใจไมใชรางกายแลกมา 3.55 1.444 ค่อนข้างเห็นด้วย
11. การอยูดวยกันกอนแตงงานระหวางหญิง-ชายที่รักกัน 2.95 1.057 เห็นด้วยปานกลาง
12. การที่เราเปนชายหรือหญิงควรเริ่มจากความรักในตนเอง 3.89 1.280 ค่อนข้างเห็นด้วย
13. การเรียนเรื่องเพศศึกษาที่ถูกตองควรเริ่มตั้งแตระดับประถม 3.64 1.056 ค่อนข้างเห็นด้วย
14. การแตงงานมีครอบครัวหรือมีลูกในวัยเรียนเปนสิ่งที่ไมถูกตอง 3.62 1.157 ค่อนข้างเห็นด้วย
15. สังคม/ครอบครัวและสื่อมีสวนสงเสริมพฤติกรรมทางเพศที่ถูกตอง 3.75 1.215 ค่อนข้างเห็นด้วย
ค่อนข้างไม่เห็นด้วย
เห็นด้วยปานกลาง
ค่อนข้างเห็นด้วย
34.
3 ของข้อมูลการตอบแบบ
ปลาย ปีการศึกษา 2556 แยกเป็นรายข้อสอบถาม
4 แสดงค่า ข้อมูลการตอบแบบสอบถามความคิดเห็น
ตอนต้นและมัธยมศึกษาตอนปลาย ปีการศึกษา 2556 แยกเป็นรายด้าน
การประเมิน
( X ) ( SD )
ความหมาย
ดานความรูความเขาใจเกี่ยวกับเพศศึกษา 3.57 1.008 ค่อนข้างเห็นด้วย
ดานทักษะกระบวนการเกี่ยวกับเพศศึกษา 3.43 0.985 เห็นด้วยปานกลาง
ดานเจตคติเกี่ยวกับเพศศึกษา 3.57 0.653 ค่อนข้างเห็นด้วย
4 ของข้อมูลการตอบแบบ
ปลาย ปีการศึกษา 2556 แยกเป็นรายด้าน
0
0.5
1
1.5
2
2.5
3
3.5
4
35.
3 ของข้อมูลการตอบแบบ
ปลาย ปีการศึกษา 2556 แยกเป็นรายข้อสอบถาม
4 แสดงค่า ข้อมูลการตอบแบบสอบถามความคิดเห็น
ตอนต้นและมัธยมศึกษาตอนปลาย ปีการศึกษา 2556 แยกเป็นรายด้าน
การประเมิน
( X ) ( SD )
ความหมาย
ดานความรูความเขาใจเกี่ยวกับเพศศึกษา 3.57 1.008 ค่อนข้างเห็นด้วย
ดานทักษะกระบวนการเกี่ยวกับเพศศึกษา 3.43 0.985 เห็นด้วยปานกลาง
ดานเจตคติเกี่ยวกับเพศศึกษา 3.57 0.653 ค่อนข้างเห็นด้วย
4 ของข้อมูลการตอบแบบ
ปลาย ปีการศึกษา 2556 แยกเป็นรายด้าน
35.
3 ของข้อมูลการตอบแบบ
ปลาย ปีการศึกษา 2556 แยกเป็นรายข้อสอบถาม
4 แสดงค่า ข้อมูลการตอบแบบสอบถามความคิดเห็น
ตอนต้นและมัธยมศึกษาตอนปลาย ปีการศึกษา 2556 แยกเป็นรายด้าน
การประเมิน
( X ) ( SD )
ความหมาย
ดานความรูความเขาใจเกี่ยวกับเพศศึกษา 3.57 1.008 ค่อนข้างเห็นด้วย
ดานทักษะกระบวนการเกี่ยวกับเพศศึกษา 3.43 0.985 เห็นด้วยปานกลาง
ดานเจตคติเกี่ยวกับเพศศึกษา 3.57 0.653 ค่อนข้างเห็นด้วย
4 ของข้อมูลการตอบแบบ
ปลาย ปีการศึกษา 2556 แยกเป็นรายด้าน
35.
5 แสดงผลการวิเคราะห์ค่า สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน (Pearson product
moment correlation coefficient) ระหว่างด้านความรู้ความเข้าใจ, ทักษะกระบวนการและเจตคติ
จากการตอบแบบ
2556
คู่ความสัมพันธ์ จํานวนนักเรียน ค่าสหสัมพันธ์ ค่านัยสําคัญ (สองทาง)
ความรู้ กับ ทักษะ 110 คน 0.762** 0.000
ความรู้กับ เจตคติ 110 คน 0.701** 0.000
ทักษะ กับ เจตคติ 110 คน 0.678** 0.000
** p < .01
5 แสดงความสัมพันธ์ของข้อมูลการตอบแบบ
ตอนปลาย ปีการศึกษา 2556 แยกเป็นรายด้าน
ความรู้ความรู้
ทักษะ
ทักษะ
เจตคติ
เจตคติ
36.
5 แสดงผลการวิเคราะห์ค่า สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน (Pearson product
moment correlation coefficient) ระหว่างด้านความรู้ความเข้าใจ, ทักษะกระบวนการและเจตคติ
จากการตอบแบบ
2556
คู่ความสัมพันธ์ จํานวนนักเรียน ค่าสหสัมพันธ์ ค่านัยสําคัญ (สองทาง)
ความรู้ กับ ทักษะ 110 คน 0.762** 0.000
ความรู้กับ เจตคติ 110 คน 0.701** 0.000
ทักษะ กับ เจตคติ 110 คน 0.678** 0.000
** p < .01
5 แสดงความสัมพันธ์ของข้อมูลการตอบแบบ
ตอนปลาย ปีการศึกษา 2556 แยกเป็นรายด้าน
ความรู้ความรู้
ทักษะ
ทักษะ
เจตคติ
เจตคติ
36.
5 แสดงผลการวิเคราะห์ค่า สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน (Pearson product
moment correlation coefficient) ระหว่างด้านความรู้ความเข้าใจ, ทักษะกระบวนการและเจตคติ
จากการตอบแบบ
2556
คู่ความสัมพันธ์ จํานวนนักเรียน ค่าสหสัมพันธ์ ค่านัยสําคัญ (สองทาง)
ความรู้ กับ ทักษะ 110 คน 0.762** 0.000
ความรู้กับ เจตคติ 110 คน 0.701** 0.000
ทักษะ กับ เจตคติ 110 คน 0.678** 0.000
** p < .01
5 แสดงความสัมพันธ์ของข้อมูลการตอบแบบ
ตอนปลาย ปีการศึกษา 2556 แยกเป็นรายด้าน
ความรู้ความรู้
ทักษะ
ทักษะ
เจตคติ
เจตคติ
36.
6 แสดงผลการทดสอบค่า t (idependent t-test) 0.05
จากการตอบแบบ
2556
1. เพศ
ข้อสอบถาม ค่า t ค่านัยสําคัญ (สองทาง)
6. พฤติกรรมเลียนแบบดารานักรอง
ทุกอยางเปนสิ่งไมควรปฏิบัติ
ชาย = 3.83
หญิง = 3.29
2.743** 0.007
11. การอยูดวยกันกอนแตงงาน
ระหวางหญิง-ชายที่รักกัน
ชาย = 2.71
หญิง = 3.13
-2.127* 0.036
** p < .01 * p < .05
2. ระดับการศึกษา
ข้อสอบถาม ค่า t ค่านัยสําคัญ (สองทาง)
3. สื่อภาพยนตและโทรทัศนมีสวนทํา
ใหเกิดการเรียนรูเรื่องเพศศึกษา
ม.3 = 2.96
ม.6 = 3.37
-2.016* 0.046
7. เมื่อประสบปญหาทางเพศจะหันไป
ปรึกษาพอแมเปนอันดับแรก
ม.3 = 3.08
ม.6 = 3.73
-2.808** 0.006
15. สังคม/ครอบครัวและสื่อมีสวน
สงเสริมพฤติกรรมทางเพศที่ถูกตอง
ม.3 = 3.48
ม.6 = 3.97
-2.126* 0.036
** p < .01 * p < .05
37.
7 แสดงผลการทดสอบความแปรปรวนทางเดียว (One-way ANOVA)
0.05 และผลการเปรียบเทียบรายคู่แบบเชฟเฟ่ (Scheffe) จากการตอบ
แบบ
การศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้นและมัธยมศึกษาตอนปลาย ปีการศึกษา 2556
1. อายุ
ข้อสอบถาม ค่า F ค่านัยสําคัญ คู่ความแตกต่าง ค่านัยสําคัญ
1. 3.179* 0.027 <15 ปี กับ 15-16 ปี
<15 ปี กับ 17-18 ปี
0.029
0.035
4. เอดส์ (AIDS) เป็นโรคติดต่อ
ร้ายแรงทางเพศสัมพันธ์ในปัจจุบัน
4.393** 0.006 <15 ปี กับ 15-16 ปี
<15 ปี กับ 17-18 ปี
<15 ปี กับ >18 ปี
0.021
0.016
0.006
6. พฤติกรรมเลียนแบบดารานักร้อง 8.491** 0.000 <15 ปี กับ 15-16 ปี
<15 ปี กับ 17-18 ปี
<15 ปี กับ >18 ปี
15-16ปี กับ 17-18 ปี
0.003
0.033
0.002
0.022
7.
ไปปรึกษาพ่อแม่เป็นอันดับแรก
6.386** 0.001 <15 ปี กับ 17-18 ปี
<15 ปี กับ >18 ปี
15-16ปี กับ >18 ปี
0.024
0.007
0.040
9.
ไม่เหมาะสมในวัยเรียน
5.892** 0.001 <15 ปี กับ 17-18 ปี
<15 ปี กับ >18 ปี
0.027
0.010
10.
จะใช้ใจไม่ใช้ร่างกายแลกมา
3.150* 0.028 <15 ปี กับ >18 ปี 0.037
11. การอยู่ด้วยกันก่อนแต่งงาน
ระหว่างหญิง-
6.974** 0.000 <15 ปี กับ 15-16 ปี
<15 ปี กับ >18 ปี
17-18ปี กับ >18 ปี
0.032
0.003
0.010
12. 4.888* 0.003 <15 ปี กับ 15-16 ปี
<15 ปี กับ 17-18 ปี
<15 ปี กับ >18 ปี
0.007
0.026
0.011
14. การแต่งงานมีครอบครัวหรือมี 4.891** 0.003 <15 ปี กับ 15-16 ปี
<15 ปี กับ 17-18 ปี
<15 ปี กับ >18 ปี
0.015
0.019
0.004
เพศศึกษา
6.135** 0.001 <15 ปี กับ 15-16 ปี
<15 ปี กับ 17-18 ปี
<15 ปี กับ >18 ปี
0.007
0.005
0.001
** p < .01 * p < .05
38.
2.
ข้อสอบถาม ค่า F ค่านัยสําคัญ คู่ความแตกต่าง ค่านัยสําคัญ
5.
ในการป้ องกันปัญหาทางเพศได้
2.962* 0.036 2.50 กับ 3.00-3.49 0.039
** p < .01 * p < .05
3. สถานภาพครอบครัว (อาศัยอยู่กับ)
ข้อสอบถาม ค่า F ค่านัยสําคัญ คู่ความแตกต่าง ค่านัยสําคัญ
5.
ในการป้ องกันปัญหาทางเพศได้
4.794** 0.004 พ่อและแม่ กับ ผู้ปกครอง 0.007
6. พฤติกรรมเลียนแบบดารานักร้อง 4.048** 0.009
ผู้ปกครอง
0.011
0.014
0.023
14. การแต่งงานมีครอบครัวหรือมี 3.997* 0.010 0.010
0.026
0.019
15. สังคม/ 3.734* 0.013 0.015
0.017
0.017
4.766** 0.004 0.006
0.006
0.015
** p < .01 * p < .05
39.
4.
ข้อสอบถาม ค่า F ค่านัยสําคัญ คู่ความแตกต่าง ค่านัยสําคัญ
1. 4.009** 0.002 เว็ปไซต์ กับ VCD 0.044
2.
ช่วยลดปัญหาการทําแท้งได้
4.751** 0.001 เว็ปไซต์กับ พ่อแม่/ครู
หนังสือ กับ พ่อแม่/ครู
0.005
0.047
4. เอดส์ (AIDS) เป็นโรคติดต่อ
ร้ายแรงทางเพศสัมพันธ์ในปัจจุบัน
4.129** 0.002 เว็ปไซต์ กับ พ่อแม่/ครู 0.013
10.
จะใช้ใจไม่ใช้ร่างกายแลกมา
3.412** 0.007 เว็ปไซต์กับ พ่อแม่/ครู 0.018
12. 5.414** 0.000 เว็ปไซต์กับ พ่อแม่/ครู 0.009
ด้านความรู้ความเข้าใจเพศศึกษา 4.685** 0.001 เว็ปไซต์กับ พ่อแม่/ครู 0.008
ด้านเจตคติเพศศึกษา 4.011** 0.002 เว็ปไซต์กับ พ่อแม่/ครู 0.022
** p < .01
5.
ข้อสอบถาม ค่า F ค่านัยสําคัญ คู่ความแตกต่าง ค่านัยสําคัญ
1. 4.727** 0.004 สําคัญ กับ ไม่สําคัญ 0.019
0.041
2.
ช่วยลดปัญหาการทําแท้งได้
5.085** 0.003 สําคัญ กับ ไม่แน่ใจ 0.014
0.028
3. 3.430* 0.020 0.040
** p < .01 * p < .05
6.
ข้อสอบถาม ค่า F ค่านัยสําคัญ คู่ความแตกต่าง ค่านัยสําคัญ
1. 4.656** 0.004 20 ปี กับ 21-25ปี
20 ปี กับ 26-30ปี
20ปีกับมากกว่า31ปี
0.007
0.009
0.016
** p < .01
40.
7.
ข้อสอบถาม ค่า F ค่านัยสําคัญ คู่ความแตกต่าง ค่านัยสําคัญ
6. พฤติกรรมเลียนแบบดารานักร้อง 3.494* 0.034 2-3วัน กับ สัปดาห์ 0.047
8. 3.867* 0.024 ทุกวัน กับ สัปดาห์ 0.027
11. การอยู่ด้วยกันก่อนแต่งงาน
ระหว่างหญิง-
9.822** 0.000 ทุกวัน กับ 2-3วัน
ทุกวัน กับ สัปดาห์
0.003
0.009
** p < .01 * p < .05
8 แสดงผลการวิเคราะห์ ( - Coefficient) ของ Cronbach จากการ
ทดลองใช้ (try out) แบบ
2556
( -
Coefficient) ของ Cronbach ทดลองใช้ แบบสอบถาม
0.934 18 ข้อ 20 คน
41.
9 แสดงผลการวิเคราะห์ค่าอํานาจจําแนกรายข้อแบบสอบถาม (Corrected Item-total
Correlation) จากการทดลองใช้ (try out) แบบ
ปลาย ปีการศึกษา 2556
ข้อแบบสอบถาม ค่าอํานาจจําแนก (r) แปลผล
1. 0.686 ดีมาก
2. 0.785 ดีมาก
3. 0.759 ดีมาก
4. เอดส์ (AIDS) เป็นโรคติดต่อร้ายแรงทางเพศสัมพันธ์ในปัจจุบัน 0.808 ดีมาก
5. 0.669 ดีมาก
6. 0.622 ดีมาก
7. 0.643 ดีมาก
8. 0.569 ดี
9. 0.790 ดีมาก
10. 0.744 ดีมาก
11. การอยู่ด้วยกันก่อนแต่งงานระหว่างหญิง- -0.531
12. 0.795 ดีมาก
13. 0.584 ดี
14. 0.613 ดีมาก
15. สังคม/ 0.590 ดี
0.916 ดีมาก
0.906 ดีมาก
0.834 ดีมาก
เกณฑ์ตัดสินค่าอํานาจจําแนก (r)
0.60 – 1.00 หมายถึง อํานาจจําแนกดีมาก
0.40 – 0.59 หมายถึง อํานาจจําแนกดี
0.20 – 0.39 หมายถึง อําจําแนกพอใช้
0.10 – 0.19 (ควรปรับ )
-1.00 – 0.09 หมายถึง ( )
42.
วิจัยอนามัยเพศ
วิจัยอนามัยเพศ
วิจัยอนามัยเพศ
วิจัยอนามัยเพศ
วิจัยอนามัยเพศ
วิจัยอนามัยเพศ
วิจัยอนามัยเพศ
วิจัยอนามัยเพศ
วิจัยอนามัยเพศ
วิจัยอนามัยเพศ
วิจัยอนามัยเพศ
วิจัยอนามัยเพศ
วิจัยอนามัยเพศ
วิจัยอนามัยเพศ
วิจัยอนามัยเพศ
วิจัยอนามัยเพศ

More Related Content

What's hot

รายงานนวัตกรรมการจัดกิจกรรมด้านทักษะการคิดชั้นสูง
รายงานนวัตกรรมการจัดกิจกรรมด้านทักษะการคิดชั้นสูงรายงานนวัตกรรมการจัดกิจกรรมด้านทักษะการคิดชั้นสูง
รายงานนวัตกรรมการจัดกิจกรรมด้านทักษะการคิดชั้นสูง
Wichai Likitponrak
 
รายงานนวัตกรรมการจัดกิจกรรมด้านการใช้เทคโนโลยีเพื่อการเรียนรู้
รายงานนวัตกรรมการจัดกิจกรรมด้านการใช้เทคโนโลยีเพื่อการเรียนรู้รายงานนวัตกรรมการจัดกิจกรรมด้านการใช้เทคโนโลยีเพื่อการเรียนรู้
รายงานนวัตกรรมการจัดกิจกรรมด้านการใช้เทคโนโลยีเพื่อการเรียนรู้
Wichai Likitponrak
 
รายงานนวัตกรรมการจัดกิจกรรมด้านการแสวงหาความรู้เพื่อการแก้ปัญหา
รายงานนวัตกรรมการจัดกิจกรรมด้านการแสวงหาความรู้เพื่อการแก้ปัญหารายงานนวัตกรรมการจัดกิจกรรมด้านการแสวงหาความรู้เพื่อการแก้ปัญหา
รายงานนวัตกรรมการจัดกิจกรรมด้านการแสวงหาความรู้เพื่อการแก้ปัญหา
Wichai Likitponrak
 
รายงานนวัตกรรมการจัดกิจกรรมด้านการมีทักษะชีวิต
รายงานนวัตกรรมการจัดกิจกรรมด้านการมีทักษะชีวิตรายงานนวัตกรรมการจัดกิจกรรมด้านการมีทักษะชีวิต
รายงานนวัตกรรมการจัดกิจกรรมด้านการมีทักษะชีวิต
Wichai Likitponrak
 
วิจัยในชั้นเรียนเจตคติวิทยาศาสตร์
วิจัยในชั้นเรียนเจตคติวิทยาศาสตร์วิจัยในชั้นเรียนเจตคติวิทยาศาสตร์
วิจัยในชั้นเรียนเจตคติวิทยาศาสตร์Wichai Likitponrak
 
วิจัยในชั้นเรียน ครูคิว2
วิจัยในชั้นเรียน ครูคิว2วิจัยในชั้นเรียน ครูคิว2
วิจัยในชั้นเรียน ครูคิว2Aroonswat
 
วิจัยปี 59 ครูวิชัย
วิจัยปี 59 ครูวิชัยวิจัยปี 59 ครูวิชัย
วิจัยปี 59 ครูวิชัย
Wichai Likitponrak
 
วิจัยในชั้นเรียนไม่ส่งการบ้าน
วิจัยในชั้นเรียนไม่ส่งการบ้านวิจัยในชั้นเรียนไม่ส่งการบ้าน
วิจัยในชั้นเรียนไม่ส่งการบ้านthkitiya
 
แผนการเรียนรู้ที่1 เรื่อง ถ่ายทอดพันธุกรรม
แผนการเรียนรู้ที่1 เรื่อง ถ่ายทอดพันธุกรรมแผนการเรียนรู้ที่1 เรื่อง ถ่ายทอดพันธุกรรม
แผนการเรียนรู้ที่1 เรื่อง ถ่ายทอดพันธุกรรม
Wichai Likitponrak
 
วิจัยสำรวจทัศนคติของนักเรียนที่มีต่อวิชาการงานอาชีพ
วิจัยสำรวจทัศนคติของนักเรียนที่มีต่อวิชาการงานอาชีพวิจัยสำรวจทัศนคติของนักเรียนที่มีต่อวิชาการงานอาชีพ
วิจัยสำรวจทัศนคติของนักเรียนที่มีต่อวิชาการงานอาชีพKamolthip Boonpo
 
วิจัยในชั้นเรียน ครู เจี๊ยบ
วิจัยในชั้นเรียน ครู เจี๊ยบวิจัยในชั้นเรียน ครู เจี๊ยบ
วิจัยในชั้นเรียน ครู เจี๊ยบ
ครูนิรุต ฉิมเพชร
 
วิจัย ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558
วิจัย ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558วิจัย ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558
วิจัย ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558
Anusara Sensai
 
Casestudy การศึกษารายกรณี
Casestudy การศึกษารายกรณีCasestudy การศึกษารายกรณี
Casestudy การศึกษารายกรณี
rewat Chitthaing
 
วิจัยในชั้นเรียน ภาคเรียนที่ 2 2557
วิจัยในชั้นเรียน ภาคเรียนที่ 2 2557วิจัยในชั้นเรียน ภาคเรียนที่ 2 2557
วิจัยในชั้นเรียน ภาคเรียนที่ 2 2557
Anusara Sensai
 
1 nervesys plan
1 nervesys plan1 nervesys plan
1 nervesys plan
Wichai Likitponrak
 
เด็กไม่ส่งการบ้าน
เด็กไม่ส่งการบ้านเด็กไม่ส่งการบ้าน
เด็กไม่ส่งการบ้านaapiaa
 
คู่มือการใช้นวัตกรรมคลื่นกลและเสียง
คู่มือการใช้นวัตกรรมคลื่นกลและเสียงคู่มือการใช้นวัตกรรมคลื่นกลและเสียง
คู่มือการใช้นวัตกรรมคลื่นกลและเสียง
โรงเรียนเทพลีลา
 

What's hot (20)

รายงานนวัตกรรมการจัดกิจกรรมด้านทักษะการคิดชั้นสูง
รายงานนวัตกรรมการจัดกิจกรรมด้านทักษะการคิดชั้นสูงรายงานนวัตกรรมการจัดกิจกรรมด้านทักษะการคิดชั้นสูง
รายงานนวัตกรรมการจัดกิจกรรมด้านทักษะการคิดชั้นสูง
 
รายงานนวัตกรรมการจัดกิจกรรมด้านการใช้เทคโนโลยีเพื่อการเรียนรู้
รายงานนวัตกรรมการจัดกิจกรรมด้านการใช้เทคโนโลยีเพื่อการเรียนรู้รายงานนวัตกรรมการจัดกิจกรรมด้านการใช้เทคโนโลยีเพื่อการเรียนรู้
รายงานนวัตกรรมการจัดกิจกรรมด้านการใช้เทคโนโลยีเพื่อการเรียนรู้
 
รายงานนวัตกรรมการจัดกิจกรรมด้านการแสวงหาความรู้เพื่อการแก้ปัญหา
รายงานนวัตกรรมการจัดกิจกรรมด้านการแสวงหาความรู้เพื่อการแก้ปัญหารายงานนวัตกรรมการจัดกิจกรรมด้านการแสวงหาความรู้เพื่อการแก้ปัญหา
รายงานนวัตกรรมการจัดกิจกรรมด้านการแสวงหาความรู้เพื่อการแก้ปัญหา
 
รายงานนวัตกรรมการจัดกิจกรรมด้านการมีทักษะชีวิต
รายงานนวัตกรรมการจัดกิจกรรมด้านการมีทักษะชีวิตรายงานนวัตกรรมการจัดกิจกรรมด้านการมีทักษะชีวิต
รายงานนวัตกรรมการจัดกิจกรรมด้านการมีทักษะชีวิต
 
วิจัยในชั้นเรียนเจตคติวิทยาศาสตร์
วิจัยในชั้นเรียนเจตคติวิทยาศาสตร์วิจัยในชั้นเรียนเจตคติวิทยาศาสตร์
วิจัยในชั้นเรียนเจตคติวิทยาศาสตร์
 
แผนBioม.4 2
แผนBioม.4 2แผนBioม.4 2
แผนBioม.4 2
 
วิจัยในชั้นเรียน ครูคิว2
วิจัยในชั้นเรียน ครูคิว2วิจัยในชั้นเรียน ครูคิว2
วิจัยในชั้นเรียน ครูคิว2
 
วิจัยปี 59 ครูวิชัย
วิจัยปี 59 ครูวิชัยวิจัยปี 59 ครูวิชัย
วิจัยปี 59 ครูวิชัย
 
วิจัยในชั้นเรียนไม่ส่งการบ้าน
วิจัยในชั้นเรียนไม่ส่งการบ้านวิจัยในชั้นเรียนไม่ส่งการบ้าน
วิจัยในชั้นเรียนไม่ส่งการบ้าน
 
แผนการเรียนรู้ที่1 เรื่อง ถ่ายทอดพันธุกรรม
แผนการเรียนรู้ที่1 เรื่อง ถ่ายทอดพันธุกรรมแผนการเรียนรู้ที่1 เรื่อง ถ่ายทอดพันธุกรรม
แผนการเรียนรู้ที่1 เรื่อง ถ่ายทอดพันธุกรรม
 
วิจัยสำรวจทัศนคติของนักเรียนที่มีต่อวิชาการงานอาชีพ
วิจัยสำรวจทัศนคติของนักเรียนที่มีต่อวิชาการงานอาชีพวิจัยสำรวจทัศนคติของนักเรียนที่มีต่อวิชาการงานอาชีพ
วิจัยสำรวจทัศนคติของนักเรียนที่มีต่อวิชาการงานอาชีพ
 
แผนBioม.6 1
แผนBioม.6 1แผนBioม.6 1
แผนBioม.6 1
 
วิจัยในชั้นเรียน ครู เจี๊ยบ
วิจัยในชั้นเรียน ครู เจี๊ยบวิจัยในชั้นเรียน ครู เจี๊ยบ
วิจัยในชั้นเรียน ครู เจี๊ยบ
 
วิจัย ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558
วิจัย ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558วิจัย ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558
วิจัย ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558
 
แผนBioม.5 1
แผนBioม.5 1แผนBioม.5 1
แผนBioม.5 1
 
Casestudy การศึกษารายกรณี
Casestudy การศึกษารายกรณีCasestudy การศึกษารายกรณี
Casestudy การศึกษารายกรณี
 
วิจัยในชั้นเรียน ภาคเรียนที่ 2 2557
วิจัยในชั้นเรียน ภาคเรียนที่ 2 2557วิจัยในชั้นเรียน ภาคเรียนที่ 2 2557
วิจัยในชั้นเรียน ภาคเรียนที่ 2 2557
 
1 nervesys plan
1 nervesys plan1 nervesys plan
1 nervesys plan
 
เด็กไม่ส่งการบ้าน
เด็กไม่ส่งการบ้านเด็กไม่ส่งการบ้าน
เด็กไม่ส่งการบ้าน
 
คู่มือการใช้นวัตกรรมคลื่นกลและเสียง
คู่มือการใช้นวัตกรรมคลื่นกลและเสียงคู่มือการใช้นวัตกรรมคลื่นกลและเสียง
คู่มือการใช้นวัตกรรมคลื่นกลและเสียง
 

Viewers also liked

Toolkit for 21st century
Toolkit for 21st centuryToolkit for 21st century
Toolkit for 21st century
Wichai Likitponrak
 
ต่อมไร้ท่อ
ต่อมไร้ท่อต่อมไร้ท่อ
ต่อมไร้ท่อWichai Likitponrak
 
ตอบสนองพืช
ตอบสนองพืชตอบสนองพืช
ตอบสนองพืชWichai Likitponrak
 
การเคลื่อนที่สมช
การเคลื่อนที่สมชการเคลื่อนที่สมช
การเคลื่อนที่สมชWichai Likitponrak
 
มหัศจรรย์พืช
มหัศจรรย์พืชมหัศจรรย์พืช
มหัศจรรย์พืชWichai Likitponrak
 
สังเคราะห์แสง
สังเคราะห์แสงสังเคราะห์แสง
สังเคราะห์แสงWichai Likitponrak
 
รวมเล่มโครงการสอน
รวมเล่มโครงการสอนรวมเล่มโครงการสอน
รวมเล่มโครงการสอนWichai Likitponrak
 
โครงสร้างหน้าที่พืช
โครงสร้างหน้าที่พืชโครงสร้างหน้าที่พืช
โครงสร้างหน้าที่พืชWichai Likitponrak
 

Viewers also liked (14)

รักษาดุลม.5
รักษาดุลม.5รักษาดุลม.5
รักษาดุลม.5
 
ประสาท
ประสาทประสาท
ประสาท
 
Toolkit for 21st century
Toolkit for 21st centuryToolkit for 21st century
Toolkit for 21st century
 
สืบดอก
สืบดอกสืบดอก
สืบดอก
 
ต่อมไร้ท่อ
ต่อมไร้ท่อต่อมไร้ท่อ
ต่อมไร้ท่อ
 
ตอบสนองพืช
ตอบสนองพืชตอบสนองพืช
ตอบสนองพืช
 
การเคลื่อนที่สมช
การเคลื่อนที่สมชการเคลื่อนที่สมช
การเคลื่อนที่สมช
 
มหัศจรรย์พืช
มหัศจรรย์พืชมหัศจรรย์พืช
มหัศจรรย์พืช
 
สังเคราะห์แสง
สังเคราะห์แสงสังเคราะห์แสง
สังเคราะห์แสง
 
แผนBioม.4 1
แผนBioม.4 1แผนBioม.4 1
แผนBioม.4 1
 
แผนBioม.6 2
แผนBioม.6 2แผนBioม.6 2
แผนBioม.6 2
 
รวมเล่มโครงการสอน
รวมเล่มโครงการสอนรวมเล่มโครงการสอน
รวมเล่มโครงการสอน
 
แผนBioม.5 2
แผนBioม.5 2แผนBioม.5 2
แผนBioม.5 2
 
โครงสร้างหน้าที่พืช
โครงสร้างหน้าที่พืชโครงสร้างหน้าที่พืช
โครงสร้างหน้าที่พืช
 

Similar to วิจัยอนามัยเพศ

หลักสูตร51สู่ห้องเรียน
หลักสูตร51สู่ห้องเรียนหลักสูตร51สู่ห้องเรียน
หลักสูตร51สู่ห้องเรียนPitima Boonprasit
 
แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่องสถานะของสาร รายการครูมืออาชีพ ตอนครูหัดบิน ครูกอบว...
แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่องสถานะของสาร รายการครูมืออาชีพ ตอนครูหัดบิน ครูกอบว...แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่องสถานะของสาร รายการครูมืออาชีพ ตอนครูหัดบิน ครูกอบว...
แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่องสถานะของสาร รายการครูมืออาชีพ ตอนครูหัดบิน ครูกอบว...
Kobwit Piriyawat
 
ส่วนหน้าแบบฝึกเสริมทักษะ
ส่วนหน้าแบบฝึกเสริมทักษะส่วนหน้าแบบฝึกเสริมทักษะ
ส่วนหน้าแบบฝึกเสริมทักษะkrupornpana55
 
บทความวิจัยของจีราศรีไทย ม.ราชภัฏสุรินทร์
บทความวิจัยของจีราศรีไทย ม.ราชภัฏสุรินทร์บทความวิจัยของจีราศรีไทย ม.ราชภัฏสุรินทร์
บทความวิจัยของจีราศรีไทย ม.ราชภัฏสุรินทร์
JeeraJaree Srithai
 
แฟ้มสะสมผลงานดีเด่นระดับปริญญาเอก นายกอบวิทย์ พิริยะวัฒน์
แฟ้มสะสมผลงานดีเด่นระดับปริญญาเอก นายกอบวิทย์  พิริยะวัฒน์แฟ้มสะสมผลงานดีเด่นระดับปริญญาเอก นายกอบวิทย์  พิริยะวัฒน์
แฟ้มสะสมผลงานดีเด่นระดับปริญญาเอก นายกอบวิทย์ พิริยะวัฒน์Kobwit Piriyawat
 
การบริหารแบบมีส่วนร่วม
การบริหารแบบมีส่วนร่วมการบริหารแบบมีส่วนร่วม
การบริหารแบบมีส่วนร่วมAiphie Sonia Haji
 
ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง
ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลางตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง
ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลางkorakate
 
บทความบทที่ 2 คณิตศาสตร์
บทความบทที่  2  คณิตศาสตร์บทความบทที่  2  คณิตศาสตร์
บทความบทที่ 2 คณิตศาสตร์supanyasaengpet
 
๒.ประกาศการใช้มาตรฐานการศึกษาปฐมวัยโรงเรียนซอย ๒๖ สาย ๔ ซ้าย ๑๑ มาตรฐาน
๒.ประกาศการใช้มาตรฐานการศึกษาปฐมวัยโรงเรียนซอย ๒๖ สาย ๔ ซ้าย ๑๑ มาตรฐาน๒.ประกาศการใช้มาตรฐานการศึกษาปฐมวัยโรงเรียนซอย ๒๖ สาย ๔ ซ้าย ๑๑ มาตรฐาน
๒.ประกาศการใช้มาตรฐานการศึกษาปฐมวัยโรงเรียนซอย ๒๖ สาย ๔ ซ้าย ๑๑ มาตรฐาน
ผอ.พีระยศ บุญเพ็ง
 
แผนการจัดการเรียนรู้เพศศึกษาหน่วยที่ 4
แผนการจัดการเรียนรู้เพศศึกษาหน่วยที่ 4แผนการจัดการเรียนรู้เพศศึกษาหน่วยที่ 4
แผนการจัดการเรียนรู้เพศศึกษาหน่วยที่ 4tassanee chaicharoen
 
งานนำเสนอ อ อ ญญปารย 333
งานนำเสนอ อ อ ญญปารย 333งานนำเสนอ อ อ ญญปารย 333
งานนำเสนอ อ อ ญญปารย 333
Chirinee Deeraksa
 
รายงานผลการจัดการเรียนรู้นวัตกรรมคุณธรรมนำความคิด เรื่องสารละลาย ชั้น ม.1 ครู...
รายงานผลการจัดการเรียนรู้นวัตกรรมคุณธรรมนำความคิด เรื่องสารละลาย ชั้น ม.1 ครู...รายงานผลการจัดการเรียนรู้นวัตกรรมคุณธรรมนำความคิด เรื่องสารละลาย ชั้น ม.1 ครู...
รายงานผลการจัดการเรียนรู้นวัตกรรมคุณธรรมนำความคิด เรื่องสารละลาย ชั้น ม.1 ครู...Kobwit Piriyawat
 
มาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐาน
มาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐานมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐาน
มาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐานNang Ka Nangnarak
 

Similar to วิจัยอนามัยเพศ (20)

หลักสูตร51สู่ห้องเรียน
หลักสูตร51สู่ห้องเรียนหลักสูตร51สู่ห้องเรียน
หลักสูตร51สู่ห้องเรียน
 
1ปกสอน
1ปกสอน1ปกสอน
1ปกสอน
 
แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่องสถานะของสาร รายการครูมืออาชีพ ตอนครูหัดบิน ครูกอบว...
แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่องสถานะของสาร รายการครูมืออาชีพ ตอนครูหัดบิน ครูกอบว...แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่องสถานะของสาร รายการครูมืออาชีพ ตอนครูหัดบิน ครูกอบว...
แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่องสถานะของสาร รายการครูมืออาชีพ ตอนครูหัดบิน ครูกอบว...
 
ส่วนหน้าแบบฝึกเสริมทักษะ
ส่วนหน้าแบบฝึกเสริมทักษะส่วนหน้าแบบฝึกเสริมทักษะ
ส่วนหน้าแบบฝึกเสริมทักษะ
 
บทความวิจัยของจีราศรีไทย ม.ราชภัฏสุรินทร์
บทความวิจัยของจีราศรีไทย ม.ราชภัฏสุรินทร์บทความวิจัยของจีราศรีไทย ม.ราชภัฏสุรินทร์
บทความวิจัยของจีราศรีไทย ม.ราชภัฏสุรินทร์
 
แฟ้มสะสมผลงานดีเด่นระดับปริญญาเอก นายกอบวิทย์ พิริยะวัฒน์
แฟ้มสะสมผลงานดีเด่นระดับปริญญาเอก นายกอบวิทย์  พิริยะวัฒน์แฟ้มสะสมผลงานดีเด่นระดับปริญญาเอก นายกอบวิทย์  พิริยะวัฒน์
แฟ้มสะสมผลงานดีเด่นระดับปริญญาเอก นายกอบวิทย์ พิริยะวัฒน์
 
การบริหารแบบมีส่วนร่วม
การบริหารแบบมีส่วนร่วมการบริหารแบบมีส่วนร่วม
การบริหารแบบมีส่วนร่วม
 
บทที่ 3.ใหม่
บทที่ 3.ใหม่บทที่ 3.ใหม่
บทที่ 3.ใหม่
 
ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง
ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลางตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง
ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง
 
บทความบทที่ 2 คณิตศาสตร์
บทความบทที่  2  คณิตศาสตร์บทความบทที่  2  คณิตศาสตร์
บทความบทที่ 2 คณิตศาสตร์
 
1
11
1
 
๒.ประกาศการใช้มาตรฐานการศึกษาปฐมวัยโรงเรียนซอย ๒๖ สาย ๔ ซ้าย ๑๑ มาตรฐาน
๒.ประกาศการใช้มาตรฐานการศึกษาปฐมวัยโรงเรียนซอย ๒๖ สาย ๔ ซ้าย ๑๑ มาตรฐาน๒.ประกาศการใช้มาตรฐานการศึกษาปฐมวัยโรงเรียนซอย ๒๖ สาย ๔ ซ้าย ๑๑ มาตรฐาน
๒.ประกาศการใช้มาตรฐานการศึกษาปฐมวัยโรงเรียนซอย ๒๖ สาย ๔ ซ้าย ๑๑ มาตรฐาน
 
แผนการจัดการเรียนรู้เพศศึกษาหน่วยที่ 4
แผนการจัดการเรียนรู้เพศศึกษาหน่วยที่ 4แผนการจัดการเรียนรู้เพศศึกษาหน่วยที่ 4
แผนการจัดการเรียนรู้เพศศึกษาหน่วยที่ 4
 
งานนำเสนอ อ อ ญญปารย 333
งานนำเสนอ อ อ ญญปารย 333งานนำเสนอ อ อ ญญปารย 333
งานนำเสนอ อ อ ญญปารย 333
 
รายงานผลการจัดการเรียนรู้นวัตกรรมคุณธรรมนำความคิด เรื่องสารละลาย ชั้น ม.1 ครู...
รายงานผลการจัดการเรียนรู้นวัตกรรมคุณธรรมนำความคิด เรื่องสารละลาย ชั้น ม.1 ครู...รายงานผลการจัดการเรียนรู้นวัตกรรมคุณธรรมนำความคิด เรื่องสารละลาย ชั้น ม.1 ครู...
รายงานผลการจัดการเรียนรู้นวัตกรรมคุณธรรมนำความคิด เรื่องสารละลาย ชั้น ม.1 ครู...
 
มาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐาน
มาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐานมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐาน
มาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐาน
 
Radchaneeporn
RadchaneepornRadchaneeporn
Radchaneeporn
 
หน่วยที่๓
หน่วยที่๓หน่วยที่๓
หน่วยที่๓
 
05chap3
05chap305chap3
05chap3
 
R wichuta
R wichutaR wichuta
R wichuta
 

More from Wichai Likitponrak

บันทึกข้อความประเมินรับสมัครGS2565_ครูวิชัย
บันทึกข้อความประเมินรับสมัครGS2565_ครูวิชัยบันทึกข้อความประเมินรับสมัครGS2565_ครูวิชัย
บันทึกข้อความประเมินรับสมัครGS2565_ครูวิชัย
Wichai Likitponrak
 
บันทึกข้อความประเมินดับเพลิง2565_ครูวิชัย
บันทึกข้อความประเมินดับเพลิง2565_ครูวิชัยบันทึกข้อความประเมินดับเพลิง2565_ครูวิชัย
บันทึกข้อความประเมินดับเพลิง2565_ครูวิชัย
Wichai Likitponrak
 
บันทึกข้อความประเมินสอวนชีวะ2565_ครูวิชัย
บันทึกข้อความประเมินสอวนชีวะ2565_ครูวิชัยบันทึกข้อความประเมินสอวนชีวะ2565_ครูวิชัย
บันทึกข้อความประเมินสอวนชีวะ2565_ครูวิชัย
Wichai Likitponrak
 
บันทึกข้อความประเมินทัศนศึกษา2565_ครูวิชัย
บันทึกข้อความประเมินทัศนศึกษา2565_ครูวิชัยบันทึกข้อความประเมินทัศนศึกษา2565_ครูวิชัย
บันทึกข้อความประเมินทัศนศึกษา2565_ครูวิชัย
Wichai Likitponrak
 
SAR64-วิชัย(ชีววิทยา).pdf
SAR64-วิชัย(ชีววิทยา).pdfSAR64-วิชัย(ชีววิทยา).pdf
SAR64-วิชัย(ชีววิทยา).pdf
Wichai Likitponrak
 
การสำรวจพืช Globe tu64
การสำรวจพืช Globe tu64การสำรวจพืช Globe tu64
การสำรวจพืช Globe tu64
Wichai Likitponrak
 
การสำรวจบรรยากาศ Globe tu64
การสำรวจบรรยากาศ Globe tu64การสำรวจบรรยากาศ Globe tu64
การสำรวจบรรยากาศ Globe tu64
Wichai Likitponrak
 
การสำรวจน้ำ Globe tu64
การสำรวจน้ำ Globe tu64การสำรวจน้ำ Globe tu64
การสำรวจน้ำ Globe tu64
Wichai Likitponrak
 
การสำรวจดิน Globe tu64
การสำรวจดิน Globe tu64การสำรวจดิน Globe tu64
การสำรวจดิน Globe tu64
Wichai Likitponrak
 
แนวข้อสอบสามัญชีวะ2564
แนวข้อสอบสามัญชีวะ2564แนวข้อสอบสามัญชีวะ2564
แนวข้อสอบสามัญชีวะ2564
Wichai Likitponrak
 
Biotest kku60
Biotest kku60Biotest kku60
Biotest kku60
Wichai Likitponrak
 
Key biotestku60 kruwichaitu
Key biotestku60 kruwichaituKey biotestku60 kruwichaitu
Key biotestku60 kruwichaitu
Wichai Likitponrak
 
Bi opat2 onet2564_kru_wichai
Bi opat2 onet2564_kru_wichaiBi opat2 onet2564_kru_wichai
Bi opat2 onet2564_kru_wichai
Wichai Likitponrak
 
BiOsaman2564
BiOsaman2564BiOsaman2564
BiOsaman2564
Wichai Likitponrak
 
Biosaman63 kruwichai
Biosaman63 kruwichaiBiosaman63 kruwichai
Biosaman63 kruwichai
Wichai Likitponrak
 
Ijs obio62 testing
Ijs obio62 testingIjs obio62 testing
Ijs obio62 testing
Wichai Likitponrak
 
Pptgst uprojectplant62
Pptgst uprojectplant62Pptgst uprojectplant62
Pptgst uprojectplant62
Wichai Likitponrak
 
Pptgst uprojectpaper62
Pptgst uprojectpaper62Pptgst uprojectpaper62
Pptgst uprojectpaper62
Wichai Likitponrak
 
Pptgst uprojectnickle61
Pptgst uprojectnickle61Pptgst uprojectnickle61
Pptgst uprojectnickle61
Wichai Likitponrak
 
Pptgst uprojectflower61
Pptgst uprojectflower61Pptgst uprojectflower61
Pptgst uprojectflower61
Wichai Likitponrak
 

More from Wichai Likitponrak (20)

บันทึกข้อความประเมินรับสมัครGS2565_ครูวิชัย
บันทึกข้อความประเมินรับสมัครGS2565_ครูวิชัยบันทึกข้อความประเมินรับสมัครGS2565_ครูวิชัย
บันทึกข้อความประเมินรับสมัครGS2565_ครูวิชัย
 
บันทึกข้อความประเมินดับเพลิง2565_ครูวิชัย
บันทึกข้อความประเมินดับเพลิง2565_ครูวิชัยบันทึกข้อความประเมินดับเพลิง2565_ครูวิชัย
บันทึกข้อความประเมินดับเพลิง2565_ครูวิชัย
 
บันทึกข้อความประเมินสอวนชีวะ2565_ครูวิชัย
บันทึกข้อความประเมินสอวนชีวะ2565_ครูวิชัยบันทึกข้อความประเมินสอวนชีวะ2565_ครูวิชัย
บันทึกข้อความประเมินสอวนชีวะ2565_ครูวิชัย
 
บันทึกข้อความประเมินทัศนศึกษา2565_ครูวิชัย
บันทึกข้อความประเมินทัศนศึกษา2565_ครูวิชัยบันทึกข้อความประเมินทัศนศึกษา2565_ครูวิชัย
บันทึกข้อความประเมินทัศนศึกษา2565_ครูวิชัย
 
SAR64-วิชัย(ชีววิทยา).pdf
SAR64-วิชัย(ชีววิทยา).pdfSAR64-วิชัย(ชีววิทยา).pdf
SAR64-วิชัย(ชีววิทยา).pdf
 
การสำรวจพืช Globe tu64
การสำรวจพืช Globe tu64การสำรวจพืช Globe tu64
การสำรวจพืช Globe tu64
 
การสำรวจบรรยากาศ Globe tu64
การสำรวจบรรยากาศ Globe tu64การสำรวจบรรยากาศ Globe tu64
การสำรวจบรรยากาศ Globe tu64
 
การสำรวจน้ำ Globe tu64
การสำรวจน้ำ Globe tu64การสำรวจน้ำ Globe tu64
การสำรวจน้ำ Globe tu64
 
การสำรวจดิน Globe tu64
การสำรวจดิน Globe tu64การสำรวจดิน Globe tu64
การสำรวจดิน Globe tu64
 
แนวข้อสอบสามัญชีวะ2564
แนวข้อสอบสามัญชีวะ2564แนวข้อสอบสามัญชีวะ2564
แนวข้อสอบสามัญชีวะ2564
 
Biotest kku60
Biotest kku60Biotest kku60
Biotest kku60
 
Key biotestku60 kruwichaitu
Key biotestku60 kruwichaituKey biotestku60 kruwichaitu
Key biotestku60 kruwichaitu
 
Bi opat2 onet2564_kru_wichai
Bi opat2 onet2564_kru_wichaiBi opat2 onet2564_kru_wichai
Bi opat2 onet2564_kru_wichai
 
BiOsaman2564
BiOsaman2564BiOsaman2564
BiOsaman2564
 
Biosaman63 kruwichai
Biosaman63 kruwichaiBiosaman63 kruwichai
Biosaman63 kruwichai
 
Ijs obio62 testing
Ijs obio62 testingIjs obio62 testing
Ijs obio62 testing
 
Pptgst uprojectplant62
Pptgst uprojectplant62Pptgst uprojectplant62
Pptgst uprojectplant62
 
Pptgst uprojectpaper62
Pptgst uprojectpaper62Pptgst uprojectpaper62
Pptgst uprojectpaper62
 
Pptgst uprojectnickle61
Pptgst uprojectnickle61Pptgst uprojectnickle61
Pptgst uprojectnickle61
 
Pptgst uprojectflower61
Pptgst uprojectflower61Pptgst uprojectflower61
Pptgst uprojectflower61
 

Recently uploaded

3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
สุเมธี​​​​ ตี่พนมโอรัล / សុមេធី ទីភ្នំឱរ៉ាល់ (Sumedhi TyPhnomAoral)
 
การเขียนข้อเสนอโครงการวิจัย (Research Proposal)
การเขียนข้อเสนอโครงการวิจัย (Research Proposal)การเขียนข้อเสนอโครงการวิจัย (Research Proposal)
การเขียนข้อเสนอโครงการวิจัย (Research Proposal)
Prachyanun Nilsook
 
4_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลไทยเป็นมคธ ประโยค ป.ธ.4 (2505-2567).pdf
4_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลไทยเป็นมคธ ประโยค ป.ธ.4 (2505-2567).pdf4_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลไทยเป็นมคธ ประโยค ป.ธ.4 (2505-2567).pdf
4_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลไทยเป็นมคธ ประโยค ป.ธ.4 (2505-2567).pdf
สุเมธี​​​​ ตี่พนมโอรัล / សុមេធី ទីភ្នំឱរ៉ាល់ (Sumedhi TyPhnomAoral)
 
แนวความเชื่อ วิธีการปฎิบัติ พระพุทธศาสนามหายาน.pdf
แนวความเชื่อ วิธีการปฎิบัติ พระพุทธศาสนามหายาน.pdfแนวความเชื่อ วิธีการปฎิบัติ พระพุทธศาสนามหายาน.pdf
แนวความเชื่อ วิธีการปฎิบัติ พระพุทธศาสนามหายาน.pdf
Faculty of BuddhismMahachulalongkornrajavidyalaya Roi Et Buddhist College
 
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา สัมพันธ์ไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา สัมพันธ์ไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา สัมพันธ์ไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา สัมพันธ์ไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
สุเมธี​​​​ ตี่พนมโอรัล / សុមេធី ទីភ្នំឱរ៉ាល់ (Sumedhi TyPhnomAoral)
 
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค 1-2 (2510-2567).pdf
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค 1-2 (2510-2567).pdf1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค 1-2 (2510-2567).pdf
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค 1-2 (2510-2567).pdf
สุเมธี​​​​ ตี่พนมโอรัล / សុមេធី ទីភ្នំឱរ៉ាល់ (Sumedhi TyPhnomAoral)
 
ภาษาอังกฤษเพื่อการปฏิบัติกรรมฐานในพระพุทธศาสนา
ภาษาอังกฤษเพื่อการปฏิบัติกรรมฐานในพระพุทธศาสนาภาษาอังกฤษเพื่อการปฏิบัติกรรมฐานในพระพุทธศาสนา
ภาษาอังกฤษเพื่อการปฏิบัติกรรมฐานในพระพุทธศาสนา
Faculty of BuddhismMahachulalongkornrajavidyalaya Roi Et Buddhist College
 
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา บาลีไวยากรณ์ ประโยค 1-2 (2511-2567).pdf
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา บาลีไวยากรณ์ ประโยค 1-2 (2511-2567).pdf1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา บาลีไวยากรณ์ ประโยค 1-2 (2511-2567).pdf
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา บาลีไวยากรณ์ ประโยค 1-2 (2511-2567).pdf
สุเมธี​​​​ ตี่พนมโอรัล / សុមេធី ទីភ្នំឱរ៉ាល់ (Sumedhi TyPhnomAoral)
 
รายงานโครงงานการออกแบบลายเสื่อโดยใช้รูปเรขาคณิต ระดับประเทศ.pdf
รายงานโครงงานการออกแบบลายเสื่อโดยใช้รูปเรขาคณิต ระดับประเทศ.pdfรายงานโครงงานการออกแบบลายเสื่อโดยใช้รูปเรขาคณิต ระดับประเทศ.pdf
รายงานโครงงานการออกแบบลายเสื่อโดยใช้รูปเรขาคณิต ระดับประเทศ.pdf
NitayataNuansri
 

Recently uploaded (9)

3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
 
การเขียนข้อเสนอโครงการวิจัย (Research Proposal)
การเขียนข้อเสนอโครงการวิจัย (Research Proposal)การเขียนข้อเสนอโครงการวิจัย (Research Proposal)
การเขียนข้อเสนอโครงการวิจัย (Research Proposal)
 
4_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลไทยเป็นมคธ ประโยค ป.ธ.4 (2505-2567).pdf
4_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลไทยเป็นมคธ ประโยค ป.ธ.4 (2505-2567).pdf4_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลไทยเป็นมคธ ประโยค ป.ธ.4 (2505-2567).pdf
4_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลไทยเป็นมคธ ประโยค ป.ธ.4 (2505-2567).pdf
 
แนวความเชื่อ วิธีการปฎิบัติ พระพุทธศาสนามหายาน.pdf
แนวความเชื่อ วิธีการปฎิบัติ พระพุทธศาสนามหายาน.pdfแนวความเชื่อ วิธีการปฎิบัติ พระพุทธศาสนามหายาน.pdf
แนวความเชื่อ วิธีการปฎิบัติ พระพุทธศาสนามหายาน.pdf
 
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา สัมพันธ์ไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา สัมพันธ์ไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา สัมพันธ์ไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา สัมพันธ์ไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
 
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค 1-2 (2510-2567).pdf
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค 1-2 (2510-2567).pdf1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค 1-2 (2510-2567).pdf
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค 1-2 (2510-2567).pdf
 
ภาษาอังกฤษเพื่อการปฏิบัติกรรมฐานในพระพุทธศาสนา
ภาษาอังกฤษเพื่อการปฏิบัติกรรมฐานในพระพุทธศาสนาภาษาอังกฤษเพื่อการปฏิบัติกรรมฐานในพระพุทธศาสนา
ภาษาอังกฤษเพื่อการปฏิบัติกรรมฐานในพระพุทธศาสนา
 
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา บาลีไวยากรณ์ ประโยค 1-2 (2511-2567).pdf
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา บาลีไวยากรณ์ ประโยค 1-2 (2511-2567).pdf1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา บาลีไวยากรณ์ ประโยค 1-2 (2511-2567).pdf
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา บาลีไวยากรณ์ ประโยค 1-2 (2511-2567).pdf
 
รายงานโครงงานการออกแบบลายเสื่อโดยใช้รูปเรขาคณิต ระดับประเทศ.pdf
รายงานโครงงานการออกแบบลายเสื่อโดยใช้รูปเรขาคณิต ระดับประเทศ.pdfรายงานโครงงานการออกแบบลายเสื่อโดยใช้รูปเรขาคณิต ระดับประเทศ.pdf
รายงานโครงงานการออกแบบลายเสื่อโดยใช้รูปเรขาคณิต ระดับประเทศ.pdf
 

วิจัยอนามัยเพศ

  • 1. รายงานการวิจัย ความรู้ความเข้าใจ, ทักษะกระบวนการและเจตคติต่อการเรียนรู้ด้านเพศศึกษา ในสถานศึกษา วิชัย ลิขิตพรรักษ์ ตําแหน่งครูผู้ช่วย กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนศีลาจารพิพัฒน์ เขตบา กรุงเทพมหานคร ปี พ.ศ. 2557 รายงานการวิจัย ความรู้ความเข้าใจ, ทักษะกระบวนการและเจตคติต่อการเรียนรู้ด้านเพศศึกษา ในสถานศึกษา วิชัย ลิขิตพรรักษ์ ตําแหน่งครูผู้ช่วย กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนศีลาจารพิพัฒน์ เขตบา กรุงเทพมหานคร ปี พ.ศ. 2557 รายงานการวิจัย ความรู้ความเข้าใจ, ทักษะกระบวนการและเจตคติต่อการเรียนรู้ด้านเพศศึกษา ในสถานศึกษา วิชัย ลิขิตพรรักษ์ ตําแหน่งครูผู้ช่วย กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนศีลาจารพิพัฒน์ เขตบา กรุงเทพมหานคร ปี พ.ศ. 2557
  • 3. งานวิจัย เข้าใจ, ทักษะกระบวนการและเจตคติต่อการเรียนรู้ด้านเพศศึกษาในสถานศึกษา บทคัดย่อ : ยรุ่น มี บทเรียนหรือรูปแบบกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนต่างๆ โดยมีเป้าหมายในการพัฒนาผู้เรียนเป็นมนุ มี วัตถุประสง , ทักษะกระบวนการ .3 และ ม.6 , ทักษะกระบวนการและเจตคติต่อการ .3 และ ม.6 โดยเก็บ รวบรวมข้อมูลระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนมีนาคม พ.ศ. 2557 จการศึกษา .3 และ ม.6 ปีการศึกษา 2556 จํานวน 110 15 ข้อ แบ่งเป็น 3 ด้านๆละ 5 ข้อ คือ ด้านความรู้ความเข้าใจ, ด้านทักษะกระบวนการ และด้านเจตคติ = 0.74 = 0.934 และวิเคราะห์ข้อมูลโดยหาค่าร้อย ละ, , , การทดสอบค่า t, การทดสอบความแปรปรวนทางเดียว และ ผลการศึกษาพบว่า ปัจจัย ด้านเพศ, , , ทัศนค , 0.05 , ทักษะกระบวนการและเจตคติต่อการ เรียนรู้เพศศึกษา แต่กลับพบว่า ปัจจัยด้านอายุพบความแ 0.05 ในด้านทักษะ กระบวนการ, 0.05 ในด้านเจตคติ, 0.05 ในด้านความรู้ความเข้าใจ , ทักษะกระบวนการและเจตคติต่อการเรียนรู้ .3 และ ม.6 มีความสัมพันธ์กัน 0.05 (p=.000) ข.
  • 4. กิตติกรรมประกาศ การเปิดโอกาสจากโรงเรียนศี ลาจารพิพัฒน์ โรงเรียนนายสกุล ทองเอียด, ท่านรองผู้อํานวยการสํานักบริหารวิชาการนางศุภธิวรรณ นุชาหาญ และนางวนิดา เรียวไพศาลศักดา หัวหน้ากลุ่มสาระวิทยาศาสตร์ อย่างดีมาโดยตลอด ขอขอบพระคุณนางวนิดา เรียวไพศาลศักดา, นางวิลาวัลย์ นามศรี, นางนภาพร มูลรัตน์, นางสาวรัชนี พุทธาสมศรี และนางสาวจิราภรณ์ สุขดํา ขอขอบคุณครูอาจารย์โรงเรียนศีลาจารพิพัฒน์ งกลุ่มสาระการ เรียนรู้วิทยาศาสตร์และกลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา หลือแนะนําการทํางาน การเรียนการสอนเพศศึกษาใน สถานศึกษา ขอขอบคุณคณาจารย์สาขาวิจัยการศึกษา ภาควิชาการประเมินและการวิจัย คณะ ศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคําแหง เกิดประโยชน์แก่ครู อาจารย์ บุคลากรทางการศึกษาและ ผู้สนใจ ผู้วิจัยมีความรู้ความสามารถ วิชัย ลิขิตพรรักษ์ ตําแหน่งครูผู้ช่วย กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนศีลาจารพิพัฒน์ ค.
  • 5. สารบัญ หน้า ปก ก. บทคัดย่อ ข. กิตติกรรมประกาศ ค. สารบัญ ง.-จ. 1 : บทนํา 1-4 - ความเป็นมาและความสําคัญของปัญหา 1-2 - วัตถุประสงค์ของการวิจัย 2 - ขอบเขตของการวิจัย 2 - นิยามเชิงศัพท์ 2-3 - สมมติฐานของการวิจัย 3 - 4 - กรอบความคิดในการศึกษาวิจัย 4 2 : 5-19 - 5-10 - 2551 10-11 - 12-14 - 14-16 - การจัดการเรียนรู้เพศศึกษาแบบรอบด้าน 16-18 - 18-19 3 : วิธีดําเนินการวิจัย 20-25 - 20-21 - ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง 21 - ตัวแปรในการศึกษาวิจัย 21 - 21-23 ง.
  • 6. หน้า - การเก็บรวบรวมข้อมูล 23-24 - การวิเคราะห์ข้อมูล 24 - 24-25 4 : ผลการศึกษาวิจัย 26-42 5 : สรุป อภิปรายผลการศึกษาและข้อเสนอแนะ 43-50 - สรุปผลการวิจัย 43-47 - อภิปรายผลการวิจัย 48-49 - ข้อเสนอแนะ 50 ภาคผนวก บรรณานุกรม ประวัติผู้วิจัย จ.
  • 7. 1 บทนํา ความเป็นมา และความสําคัญของปัญหา การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้มีความสามารถในการคิดการแก้ปัญหามีคุณธรรมเป็นผู้มี วัฒนธรรมให้แก่ประเทศ เพราะคนเป็นปัจจัย เน้นให้คนทุกคนได้รับการพัฒนาศักยภาพของแต่ล สังคมโลกในอนาคตนอกจากต้องการความเก่งแล้วจะต้องอาศัยความดีและความสุขของประชาชน รวดเร็วการรับรู้ข้อมูลข่าวสารเป็นไปอย่างรวดเร็วทําให้การดําเนินชีวิตของคนในปัจจุบันมีความ เพศสัมพันธ์ (พรฤดี นิธิรัตน์, 2553) การตัดสินใจและความรับผิดชอบ เพศสัมพันธ์ เช่น การถูกล่อลวงไปข่มขืน การมีบุตรก่อนวัยอันควร การทําแท้ง โรคติดต่อทาง เพศสัมพันธ์และโรคเอดส์ (เจษฎา สุระแสงและคณะ, 2552) กว่า 20 14.7 จะต้องไม่เกินร้อยละ 10 เกณฑ์ 2,500 กรัม (2.5 กิโลกรัม) 8.7 กําหนดไว้จะต้องไม่เกินร้อยละ 7 ประมาณ 140 ราย หรือประมาณปีละ 50,000 รุนแรงของสังคม เพราะส่งผลให้คุณภาพชีวิตของทารก ความเครียดและภาวะซึมเศร้าเพราะต้องการปกปิ ยนและการทําแท้งอีกด้วย (องค์การแพธ, 2547) แนวคิดทฤษฎีทางการศึกษาเน้นกระบวนการเรียนรู้เน้นผู้เรียนเป็นสําคัญ ปัญหาเด็กและ ตรายต่อตนเองและบุคคลใกล้เคียง (ธนกฤต ชัยหมก, 2555) า 1.
  • 8. นและรอบด้าน โดยเน้นพัฒนาการของผู้เรียนเป็นสําคัญ กับวัฒธรรมประเพณีอันดีงามของไทย (อุรสา พรสยม, 2545) ด้วยเหตุผลดังกล่าว ผู้วิจัยในฐานครูผู้สอนรายวิชาชีววิทยา กลุ่มวสาระการเรียนรู้ เจริญเติบโต , ทักษะ กระบวนการและเจตคติต่อการ .3 และ ม.6 และความสัมพันธ์ระหว่างความรู้ความเข้าใจ, ทักษะกระบวนการและเจตคติ .3 และ ม.6 ข้อมูลไปใช้เป็นหลักฐานอ้างอิงในการประเมินประสิทธิภาพและประสิทธิผลการจัดการศึกษา ของโ ด้านเพศศึกษาให้นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจ, นําไปใช้ในการดําเนินชีวิตของตนเองอย่างมีคุณภาพ วัตถุประสงค์ 1. , ทักษะกระบวนการและ ม.3 และ ม.6 2. , ทักษะกระบวนการและเจตคติต่อการ .3 และ ม.6 ขอบเขตของการวิจัย เชิงประเมิน สําหรับนักเรียนระดับ 3 และ 6 2556 โรงเรียนศีลาจาร กรุงเทพมหานคร นิยามเชิงศัพท์ 1. ดํารงตนอยู่ในสังคมได้อย่างมี ความรับผิดชอบและเป็นสุข องค์การแพทย์กล่าวว่า การจัดการเรียนรู้เพศศึกษารอบด้าน หมายถึง 2.
  • 9. 2. 3 มัธยมศึกษาตอนต้น 2551 3. 6 ตอนปลาย 2551 4. ความรู้ความเข้าใจ หมายถึง ความสามารถในการจําและเข้าใจรายละเอียดของข้อมูล ตีความ ขยายความ หรือแ 5. ทักษะกระบวนการ หมายถึง ให้ การดําเนินการมีประสิทธิภาพนําไปสู่ความสําเร็จตามจุดประสงค์และเป้าหมายได้ โดยใช้เวลาและ 6. เจตคติ หมายถึง หรือไม่ชอบ เห็นหรือไม่เห็นด้วย สมมติฐานการวิจัย 1. นักเรียนผู้สําเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้นและตอนปลายตามหลักสูตร 2551 , อายุ, ระดับการศึกษา, , สถานภาพครอบครัว, , ทัศนคติต่อเพศศึกษา, และลักษณะการใช้บริการสังคมออนไลน์แตกต่างกันน่าจะมีระดับความรู้ความเข้าใจ, ทักษะ นัยสําคัญ .05 2. ระดับความรู้ความเข้าใจ, ทักษะกระบวนการและเจตคติของนักเรียนผู้สําเร็จการศึกษา 2551 ระดับนัยสําคัญ .05 3.
  • 10. 1. ด้านเพศศึกษา 2. เป็นแนวทางหรือแบบอย่างกระบวนการวิจัยเชิงประเมินแก่ครู อาจารย์ หรือบุคลากรทาง ของ ผู้เรียนด้านความรู้ความเข้าใจ, สามารถนําไปใช้ในการดําเนินชีวิตอย่างมีคุณภาพ 3. เป็นการส่งเสริมองค์ความรู้ของการวิจัยทางด้านการศึกษา มัธยมศึกษาตอนต้นและตอนปลายในด้านความรู้ความเข้าใจ, ทักษะกระบวนการและเจต คติ กรอบความคิดในการศึกษาวิจัย ตัวแปรต้น สถานะของนักเรียนผู้สําเร็จการศึกษา  เพศ  อายุ  ระดับการศึกษา   สถานภาพครอบครัว   ทัศนคติต่อเพศศึกษา   ลักษณะการใช้บริการสังคมออนไลน์ ตัวแปรตาม  เพศศึกษา  เพศศึกษา  การศึกษาเปรียบเทียบความแตกต่าง (independent t-test, one way ANOVA) ( , ร้อยละ, , ) การศึกษาความสัมพันธ์ (Pearson product moment) 4.
  • 11. 2 การวิจัยเชิงประเมิน (Evaluative Reseach) ความรู้ความเข้าใจ, ทักษะกระบวนการและเจตคติต่อการเรียนรู้เพศศึกษาในสถานศึกษาและศึกษา ความสัมพันธ์ระหว่างความรู้ความเข้าใจ, ทักษะกระบวนการและเจตคติต่อการเรียนรู้เพศศึกษาใน และตอนปลายโรงเรียนศีลา 1 กรุงเทพมหานคร โดย เปรียบเทียบปัจจัยจากข้อมูลส่วนบุคคลของนักเรียน ได้แก่ เพศ, อายุ, ระดับการศึกษา, สําเร็จการศึกษา, สถานภาพครอบครัว, , ทัศนคติต่อเพศศึกษา, ควรมีครอบครัวและลักษณะการใช้บริการสังคมออนไลน์แตกต่างกันน่าจะมีระดับความรู้ความ เข้าใจ, 1. รุ่น 2. 2551 3. 4. 5. การจัดการเรียนรู้เพศศึกษา 6. 1. 1.1 ความหมายของวัยรุ่น สุชา จันทร์เอมและสุรางค์ จันทร์เอม (2521: 25) และถ้าจะกําหนดลงไปว่า (Puberty) ก่อนเด็กชายประมาณ 1-2 ปี แต่ก็ไม่มี อาหาร ขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรม ณิฐินันท์ วิชัยรัมย์ (2545: 12) ได้สรุปว่า วัยรุ่นเป็นวัย แต่ถือเอาจากความ 5.
  • 12. สติปัญญา อารมณ์และสังคมไปพร้อมกัน 1.2 ช่วงระยะของวัยรุ่น พร้อมกัน สุชา จันทน์หอม (2529: 3) ได้แบ่ง วัยรุ่นออกเป็น 3 1.2.1 วัยรุ่นตอนต้น (Early Adolescence) อายุระหว่าง 13-15 นไม่ มีลักษณะ างกายยัง ด้านอวัยวะเพศและการเจริญเติบโตของทรวงอก ระยะของวัยรุ่นได้เข้าใกล้มาแล้ว 1.2.2 วัยรุ่นตอนกลาง (Middle Adolescence) อายุระหว่าง 15-18 ปี มีการ “วุฒิภาวะ ของวัยรุ่น” 1.2.3 วัยรุ่นตอนปลาย (Late Adolescence) อายุระหว่าง 18-21 พยายามปรับปรุงร่างกายของตัวเองให้เข้ากับส ปัญหา สะดวกสบายใจ แต่ในทางตรงกันข้ามถ้าแก้ปัญห 6.
  • 13. 1.3 พัฒนาการของงเด็กวัยรุ่น พัฒนาการ (Development) และแบบแผนอินทรีย์ทุกส่วน (สุชา จันทน์เอม, 2536) พัฒนาการต่างๆ ของวัยรุ่นเป็ 1.3.1 พัฒนาการทางด้านสรีรวิทยา 1.3.2 พัฒนาการทางด้านร่างกาย อย่างรวดเร็วมาก กชายและ เด็กหญิงมีความแตกต่างกันคือ 1. อายุประมาณ 9-12 ปี จะสูงกว่าและตัวโตกว่าเด็กชาย 2. 2 ปี (ระยะ ย 12 14 ปี) 3. เด็กหญิงมีขนาดการเจริญเติบโตโครงสร้างทางร่างกายน้อยกว่าเด็กชาย 1. เพศ มีอายุประมาณ 13-15 ปี 2. ผลิตไข่สุก ถ้าไม่ได้รับการผสมจะถูกขับออกมาจากร่างกายในรูปของ ประจําเดือนโดยมีระยะหมุนเวียนอยู่ระหว่าง 28-30 3-5 7.
  • 14. วันในระหว่างการมีประจําเดือนอาจมีอาการปวดท้อง ปวดศรีษะ หรือหงุดหงิดและเกิดความเครียด 3. และบริเวณ 4. โดย 5. ยออก เอวคอดเข้า เป็นต้น 6. 1-2 สามารถบอกได้แน่นอนว่าลักษณะ ใดเกิดก่อนลักษณะใดเกิดหลัง 1.3.3 พัฒนาการทางอารมณ์ อนาคตของเขาเองอารมณ์ประเภทต่า 1. ประเภทก้าวร้าวรุนแรง เช่น อารมณ์โกรธ อิจฉา เกลียดชัง 2. ประเภทเก็บกดเอาไว้ เช่น ความวิตกกังวล ความกลัว ความเศร้าใจ สลดหดหู่ 8.
  • 15. 3. อารมณ์สนุก เช่น ความรัก ชอบ งมาก 1.3.4 พัฒนาการทางสติปัญญา การคิดอย่างมีเหตุผล และการตัดสินในแก้ปัญหาในสถานการณ์ต่างๆ สามารถแสดงความคิดเห็น จะพบได้ว่าเด็กวัยรุ่นชอบส่องกระจก พัฒนาการทางด้านสติปัญญาในวัยรุ่นตอนต้นมีพัฒนาการอย่างรวดเร็ว 16 ปี (สุชา จันทน์เอม, 2528) เองและมองเห็น ชุมชน 1.3.5 พัฒนาการทางสังคม วัยรุ่น วามเป็นอยู่ภายในครอบครัวด้วย ดังจะ 2-3 1 15 9.
  • 16. 14 ปี เด็กหญิงจะ 2. หลักสูตรแกนกลาง 2551 2551 เป็นกรอบและทิศทางในการพัฒนาหลักสูตรและจัดการเรียนการ สําคัญของผู้เรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ มาตรฐานการเรียนรู้พร้อมให้รายละเอียดในแต่ละ กลุ่มสาระการเรียนรู้ ได้กําหนดมาตรฐานการเรียนรู้เป็นเป้ าหมายสําคัญของการพัฒนาคุณภาพ จัดทําหน่วยการเรียนรู้ จัดการเรียนการสอน และเป็นเกณฑ์สําคัญสําหรับการวัดและประเมินผล (กระทรวงศึกษาธิการ, 2551) 2.1 วิสัยทัศน์ มนุษย์ มีจิตสํานึกในความเป็นพลเมืองไทยและเป็นพล โลก การประกอบอาชีพและการศึกษาตลอด ชีวิต โดย ทุกคนสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้ เต็มตามศักยภาพ 2.2 จุดหมาย 2.2.1 มีคุณธรรม เห็นคุณค่าของตนเอง มีวินัยและ ปฏิบัติตนตามหลักธรรมของพระพุทธศาสนา พอเพียง 2.2.2 มีความ เทคโนโลยีและมีทักษะชีวิต 2.2.3 10.
  • 17. 2.2.4 การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข 2.2.5 มีจิตสํานึกในการอนุรักษ์วัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย การอนุรักษ์และพัฒนา อย่างมีความสุข 2.3 สมรรถนะสําคัญของผู้เรียน 2.3.1 2.3.2 ความสามารถในการคิด 2.3.3 ความสามารถในการแก้ปัญหา 2.3.4 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 2.3.5 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 2.4 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 2.4.1 รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 2.4.2 2.4.3มีวินัย 2.4.4 ใฝ่เรียนรู้ 2.4.5 อยู่อย่างพอเพียง 2.4.6 2.4.7 รักความเป็นไทย 2.4.8 มีจิตสาธารณะ 2.5 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ 2.5.1 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย 2.5.2 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ 2.5.3 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ 2.5.4 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม 2.5.5 กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา 2.5.6. กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ 2.5.7 กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี 2.5.8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ 11.
  • 18. 3. 3.1 ความหมายของคําว่าเพศศึกษา เพศศึกษามีความหมายค่อนข้างกว้าง สามารถนําไปใช้ปรับตัว (วันทนีย์วาสิกะสิน, 2526) ณิฐินันท์ วิชัยรัมย์ (2545: 30) สรุปไว้ว่า เพศศึกษาหมายถึง รับผิดชอบและความสัมพันธ์อันดีระหว่างเพศ 3.2 ความสําคัญและจุดมุ่งหมายของเพศศึกษา ชัยวัฒน์ ปัญจพงษ์และคณะ (2524: 21-22) ได้กล่าวถึงจดมุ่งหมายกว้างๆทาง 1. 2. กังวล เหมาะสมทุกทางในด้านเพศ 3. เป็นเพศเดียวกันหรือต่างเพศก็ได้ 4. 5. 6. ศีลธรรมเข้าไปร่วมด้วยเสมอ 7. ถูกต้อง 12.
  • 19. 8. งตามยถากรรม การหลอกลวงผู้หญิงไปค้าประเวณี 9. ให้หมดไป เช่นการเอา รับผิดชอบและอยุติธรรม 10. ณิฐินันท์ วิชัยรัมย์(2545: 31) สรุปไว้ว่า ความสําคัญและจุดม่งหมายของเพศศึกษา ของชีวิตได้ด้ เป็นการสร้างคุณภาพชีวิตของ 3.3 แนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพศศึกษาสําหรับผู้เรียนระดับ 6 (สํานักงาน คณ , 2549) 1 (body image) ตัวตนทางเพศ และความพึงพอใจทางเพศ (sexual and orientation) 2 สัมพันธภาพระหว่ 3 ชีวิต - ดําเนินชีวิตของเรา - - สามารถรับผิดชอบได้ 13.
  • 20. - การรักษาและยืนยันในความเป็นตัวของตัวเองสามารถแสดงความรู้สึกความต้องการของ - หน่วยการเรียนรู้ 4 พัฒนาไปตามช่วงชีวิต การเรียนรู้อารมณ์เพศ การจัดการอารณ์เพศ การช่วยตัวเอง จินตนาการทาง เพศ การแสดงออกทางเพศ การละเว้นการมีเพศสัมพันธ์ การตอบสนองทางเพศ เป็นต้น 5 สุขภาพทางเพศ เป็นสาร ละเมิดทางเพศ ความรุนแรงทางเพศและอนามัยเจริญพันธุ์ 6 บริ 4. (สํานักงานคณะกรรมการ นฐานและกรมควบคุมโรค, 2549) ได้แก่ 4.1 1 : การอ่าน มาตรฐาน ท 1.1 ใช้กระบวนการอ่าน สร้างความรู้ ความคิด ไปใช้ตัดสินใจแก้ปัญหาและ สร้างวิสัยทัศน์ในการดําเนินชีวิตและมีนิสัยรักการอ่าน 2 : การเขียน มาตรฐาน ท 2.1 ประสิทธิภาพ 3 : การฟัง การดู การพูด มาตรฐาน ท 3.1 สามารถเลือก ฟัง ดูอย่างมีวิจารณญาณและพูดแสดงความรู้สึก ความคิด ความรู้สึกในโอกาสต่างๆอย่างมีวิจารณญาณและสร้างสรรค์ 14.
  • 21. 4 : หลักการใช้ภาษา มาตรฐาน ท 4.1 สามารถใช้ภาษาแสวงหาความรู้ เสริมสร้างลักษณะนิสัยบุคลิกภาพ และ ความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรม อาชีพ สังคม และชีวิตประจําวัน 4.2 มาตรฐาน พ 1.1 เข้าใจธรรมชาติของการเจริญเติบโตและพัฒนาการของมนุษย์ มาตรฐาน พ. 2.1 เข้าใจและเห็นคุณค่าของชีวิต ครอบครัว เพศศึกษาและมีทักษะในการ ดําเนินชีวิต มาตรฐาน พ. 4.1 เห็นคุณค่าและมีทักษะในการเสริมสร้างสุขภาพ การดํารงสุขภาพ การ มาตรฐาน พ. 5.1 ใช้ยา สารเสพติดและความรุนแรง 4.3 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ มาตรฐาน ว 1.1 มาตรฐาน ว 1.2 เข้าใจกระบวนการและความสําคัญของการถ่ายทอดลักษณะทาง และนําความรู้ไปใช้ประโยชน์ 4.4 มาตรฐาน ส 1.3 ประพฤติ ปฏิบัติตน ตามหลักธรรมและศาสนพิธีของพระพุทธศาสนา ประโยชน์ต่อสังคม มาตรฐาน ส 2.1 วัฒนธรรมไทย ดํารงชีวิตอยู่ร่วมกันในสังคมไทยและสังคมโลกอย่างมีความสุข 4.5 กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ตาม 8 กลุ่ม การเข้า ความถนัดและความสนใจอย่างแท้จริงกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนแบ่งเป็น 2 ลักษณะ คือ 4.5.1 และพัฒนาความสามาถของผู้เรียนให้ เหมาะสม ตามความแตกต่างระหว่างบุคคล ให้สามารถค้นพบและพัฒนาศักยภาพของตน เสริมสร้างทักษะชีวิตวุฒิภาวะทางอารมณ์การเรียนรู้เชิงพหุปัญญา 15.
  • 22. 4.5.2 ศึกษาวิเคราะห์วางแผน ปฏิบัติตามแผน ประเมินและปรับปรุงการทํางานโดยเน้นการทํางานร่วมกัน เป็นกลุ่ม เช่น ลูกเสือ เนตรนารี ยุวกาชาด และผู้บําเพ็ญประโยชน์ เป็นต้น 5. การจัดการเรียนรู้เพศศึกษาแบบรอบด้าน 6 “SIECUS Comprehensive Sexuality Education” โดยจัดให้เป็นการเรียนรู้ มิติต่างๆ อย่างรอบด้าน (องค์การแพธ, 2550) - ในมิติพัฒนาการตามธรรมชาติของช่วงวัยมนุษย์ (Human Development) เราคาดหวังให้ o บุคคลรู้สึกพอใจภูมิใจไม่เกิดปมด้อยกับเรือนร่างสรีระของตน o o ป็นพัฒนาการธรรมชาติของชีวิตมนุษย์และไม่จําเป็นว่าจะต้อง ประสบการณ์การมีเพศสัมพันธ์ในชีวิต o มีปฎิสัมพันธ์กับทุกเพศอย่างเหมาะสมและเคารพในคุณค่าของแต่ละบุคคลโดย ปราศจากอคติต่อความแตกต่างระหว่างเพศ o o ยอมรับความเป็นตัวตนทางเพศและเพศสภาพของตนเคารพความเป็นตัวตนและเพศ - (Relationship) เราคาดหวังให้ o เหมาะสม o o o บุคคลสามารถจะตัดสินใจโดยมีข้อมูลรอบด้านในการสร้างครอบครัวและสร้าง o - ในมิติของการพัฒนาทักษะส่วนบุคคล (Personal Skills) เราควรคากหวังให้ 16.
  • 23. o คล้องกับความปรารถนาและ ค่านิยมของตน o o บุคคลได้ฝึกฝนการตัดสินใจอย่างมีประสิทธิภาพ o บุคคลได้พัฒนาทักษะของการคิด วิเคราะห์ แยกแยะ อย่างรอบด้าน o รัก - ในมิติของพฤติกรรมทางเพศ (Sexual Behavior) เราคาดหวังให้ o ชีวิต o o บุคคลสามารถสร้างความรู้สึกสุขใจ พอใจทางเพศโดยไม่จําเป็นว่าจะต้องลงมือ o o o บุคคลสามารถแสวงหาข้อมูลและก o อย่างปลอดภัยจริงใจไม่หลอกลวงเอาเปรียบทําร้าย - ในมิติของสุขภาพทางเพศ (Sexual Health) เราคาดหวังให้ o พศ อาทิ การตรวจสุขภาพ o o บุคคลสามารถป้องกันตนเองจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคเอดส์ o บุคคลสาม พร้อม o o บุคคลสามารถช่วยกันป้องกันและระงับการทําร้ายการล่วงละเมิดทางเพศ - ในมิติของสังคมวัฒนธรรม (Society and Culture) เราคาดหวังให้ o บุคคลมีคว 17.
  • 24. o บุคคลใช้สิทธิตามกระบวนการประชาธิปไตยในการสร้างกติกาทางสังคมและ o o ก่อให้เกิดอคติ o o เพศแตกต่างจากตน o บุคคลไม่ยอมรับต่อการตีตรา ปรักปรํา หรือเหมารวมว่ากลุ่มประชากรใดมีแนว 6. นางสาวณิฐินันท์ วิชัยรัมย์ (2545) การมีเพศสัมพันธ์ของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ในเขตอําเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ ผล การศึกษาพบว่า 1. และความสัมพันธ์ 2. .001 และค่าใช้จ่ายประจําเดือนแตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทาง .05 3. 54.0 .001 นายเจษฎา สุระแสงและคณะ (2552) 1 อําเภอสหัสขันธ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ 1 ในอําเภอสหัสขันธ์ จังหวัดกาฬสิ 18.
  • 25. .05 (p=.000) เพศศึกษามีความสัมพันธ์กั .05 (p=.000) กุลกานต์ อภิวัฒนลังการและคณะ (2551) ระหว่างบิดามารดาและบุตรวัยรุ่น ผลการศึกษาพบว่า 1. ผลการศึกษาจากกลุ่มบิดามารดา พบว่า หลังการเข้าร่วมโปรแกรม บิดามารดากลุ่ม เพศสูงกว่ากลุ่มควบคุมหลังเข้าร่วมโปรแกรมอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติ 2. ผลการศึกษาจากกลุ่มบุตรวัยรุ่น พบว่าหลังบิดามารดาเข้าร่วมโปรแกรม บุตรวัยรุ่นของ ศึกษาของบิดามารดาสูง กว่าบุตรวัยรุ่นของบิดามารดากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสําคัญทางสิถิติ นางพรฤดี นิธิรัตน์ (2553) : ให้วัยรุ่นไทยไม่ใช้ถุงยางอนามัย ผลการศึกษาพบว่า เหตุผลหลัก 5 1) ถุงยางอนมัยทําให้ความสุขทางเพศลดลง 2) ความรู้สึก 3) 4) ความรู้สึกไว้วางใจในคู่นอน และ 5) การรับรู้ประโยชน์ของ ในกลุ่มวัยรุ่นหญิง 19.
  • 26. 3 การวิจัย เป็นการวิจัยเชิงประเมิน (Evaluative research) มีวัตถุประสงค์ , ทักษะกระบวนการและเจตคติต่อการเรียนรู้ . 3 และ ม.6 และ ความสัมพันธ์ระหว่างความรู้ความเข้าใจ, ทักษะกระบวนการและเจตคติต่อการเรียนรู้เพศศึกษาใน .3 และ ม.6 โดยใช้แบบสอบถามความคิดเห็น ตอนต้นและมัธยมศึกษาตอนปลายประจําปีการศึกษา 2556 โดยนักเรียนเป็นผู้ตอบแบบสอบถาม ตามความคิดเห็นของตนเอง ระเบียบวิธีการวิจัย (Research methodology) ประกอบด้วย 1. การศึกษา ค้นคว้า ทบทวน กับสภาพปัญหาวัยรุ่นในปัจจุบัน 2. การสร้างและพัฒนา ปลายโดยนักเรียนเป็นผู้ตอบแบบสอบถามตามความคิดเห็นของตนเอง 3. การดําเนินการประเมิน ด้านความตรงเชิง หา (Content Validity) (IOC) พร้อมปรับปรุงแก้ไข ก่อน นําไปใช้จริงกลับกลุ่มตัวอย่างในโรงเรียน 4. (try out) กับกลุ่มนักเรียน 20 (Reliability) โดยการคํานวณหา ( - Coefficient) ของ Cronbach 5. ดําเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลจาก มัธยมศึกษาตอนปลาย .3 และ ม. 6 ปีการศึกษา 2556 โรงเรียนศีลาจารพิพัฒน์ จํานวน 110 คน โดยนักเรียนเป็นผู้ตอบ แบบสอบถามตามความคิดเห็นของตนเอง 6. การวิเคราะห์ สรุปผล และนําเสนอผลการวิจัยเชิงประเมินจากข้อมูลการตอบแบบสอบถาม .3 และ 20.
  • 27. ม.6 ปีการศึกษา 2556 โรงเรียนศีลาจารพิพัฒน์ จํานวน 110 คนโดยใช้โปรแกรมสําเร็จรูป คํานวณผลทางสถิติ (SPSS) พร้อมกับจัดทําเล่มรายงานฉบับสมบูรณ์ ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง 1. ประชากร ได้แก่ ตอนต้น ( 3) และมัธยมศึกษาตอนปลาย ( 6) 2. กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ มัธยมศึกษาตอนต้น ( 3) และมัธยมศึกษาตอนปลาย ( 6) ปี การศึกษา 2556 จํานวน 110 คน โดยวิธีการสุ่มอย่างง่าย (Simple random sampling) ตัวแปรในการศึกษาวิจัย คือ สถานะของนักเรียนผู้สําเร็จการศึกษา ได้แก่ เพศ , อายุ, ระดับการศึกษา, , สถานภาพครอบครัว, , ทัศนคติต่อเพศศึกษา , 1. มือ สําเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้นและมัธยมศึกษาตอนปลาย ปีการศึกษา 2556 โดยให้โดย นักเรียนเป็นผู้ตอบแบบสอบถามตามความคิดเห็นของตนเอง 2. แบบสอบถามค สําเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้นและมัธยมศึกษาตอนปลาย ปีการศึกษา 2556 มีลักษณะ เป็นแบบสอบถามแบบมาตรส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ โดยสอบถามความคิดเห็น .3 และ ม.6 ลาจารพิพัฒน์ จํานวน 1 1. ศึกษาหลักการสร้างแบบสอบถาม จากเอกสารการวัดและประเมินผลต่าง ๆ 2. สร้าง 2556 21.
  • 28. โดยให้โดยนักเรียนเป็นผู้ตอบแบบสอบถามตามความคิดเห็นของตนเองเป็นมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ ข้อคําถามจํานวน 15 ข้อ แบ่งออกเป็น 3 ด้าน คือ ด้าน 1 1 – 5 2 6 - 10 3 11 - 15 ระดับ 1 หมายถึง ระดับ 2 หมายถึง นักเรียนค่อนข้างไม่เห็นด้วย ระดับ 3 หมายถึง นักเรียนเห็นด้วยปานกลาง ระดับ 4 หมายถึง นักเรียนค่อนข้างเห็นด้วย ระดับ 5 หมายถึง 1.00 - 1.50 หมายถึง 1.51 - 2.50 หมายถึง นักเรียนค่อนข้างไม่เห็นด้วย 2.51 - 3.50 หมายถึง นักเรียนเห็นด้วยปานกลาง 3.51 - 4.50 หมายถึง นักเรียนค่อนข้างเห็นด้วย 4.51 - 5.00 หมายถึง 3. 5 คน ได้แก่ นางวนิดา เรียวไพศาลศักดา หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์, นางวิลาวัลย์ นามศรี หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้สุข ศึกษาและพละศึกษา, นางนภาพร มูลรัตน์ ครู คศ.2 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์, นางสาวรัชนี พุทธาสมศรี ครู คศ.1 กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพละศึกษา และนางสาวจิราภรณ์ สุขดํา (Content Validity) IOC (Index of Item Objectives Congruence) โดยกําหนดเกณฑ์การพิจารณา คือ เห็นว่าสอดคล้อง ให้คะแนน +1 ไม่แน่ใจ ให้คะแนน 0 เห็นว่าไม่สอดคล้อง ให้คะแนน -1 การวิเคราะห์ข้อมูลความเหมาะสมสอดคล้องของแบบสอบถามความคิดเห็นโดยใช้ดัชนีความ สอดคล้อง(IOC) คํานวณค่าตามสูตร N R IOC  22.
  • 29. R = N = IOC โดยใช้ดัชนี ความ สอดคล้อง (Index of Item Objective Congruence) 0.5 0.74 4. .3 และ ม.6 ปีการศึกษา 2556 โรงเรียนศีลาจารพิพัฒน์ จํานวน 20 คน โดยนักเรียนเป็นผู้ตอบแบบสอบถามตามความคิดเห็นของตนเอง 5. / ความพึง พอใจ โดยหาค่าสัม ( - Coefficient) ของ Cronbach กําหนดไว้0.70 ได้ค่าเท่ากับ 0.934 การเก็บรวบรวมข้อมูล เชิงประเมิน โดยผู้วิจัยได้ดําเนินการเก็บรวบรวมข้อมูล 1. จัดทํา การศึกษา 2556 โดยให้โดยนักเรียนเป็นผู้ตอบแบบสอบถามตามความคิดเห็นของ ตนเอง 2. นํา องนักเรียนโรงเรียนศีลาจาร การศึกษา 2556 ผู้วิจัย ไปสําเนาประมาณ 120 ชุด พร้อมแจกให้ 3 6 ปีการศึกษา 2556 โรงเรียนศีลาจารพิพัฒน์แบบสุ่ม 3. เก็บรวบรวม ตอนปลาย ปีการศึกษา 2556 กลับคืนจากนักเรียน ได้จํานวน 110 ชุด คิดเป็นร้อยละ 91.67 4. มัธยมศึกษาตอนปลาย ปีการศึกษา 2556 ของนักเรียนเป็นรายบุคคล 23.
  • 30. 5. นําผลคะแนนจากการลงคะแนนระดับความคิดในแต่ละข้อแบบสอบถามความคิดเห็น มัธยมศึกษาตอนต้นและมัธยมศึกษาตอนปลาย ปีการศึกษา 2556 ของนักเรียนเป็น รายบุคคลบันทึกลงตารางของโปรแกรมวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติสําเร็จรูป ข้อมูลอย่างเหมาะสมต่อไป การวิเคราะห์ข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูล การศึกษา 2556 โดยการหาค่าร้อยละ (Percent) , (Mean), (Standard deviation), การทดสอบค่า t (Independent t-test), การทดสอบความแปรปรวนทางเดียว (One-way ANOVA) (Pearson product moment correlation coefficient) โดยใช้โปรแกรมวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติสําเร็จรูปในการวิเคราะห์ข้อมูล (กัลยา วานิชย์บัญชา, 2548) ( , 2545) N X X   X  X ผลรวมของคะแนน N จํานวน    1 S.D. 22      NN xxN S.D.  )X-(X N จํานวน ค่าดัชนีความสอดคล้อง N R IOC   IOC = 24.
  • 31. R = N = ( - coefficient)           2 tS 2 iS 1 1-n n α α n จํานวนข้อ 2 iS คะแนนความแปรปรวนแต่ละข้อ 2 tS สัมประสิทธ์สหสัมพันธ์เพียร์สันโพรดักโมเมนต์(Pearson Product Momet:rxy) N คือ จํานวนคู่ของข้อมูล X 1 Y 2 ค่า การทดสอบความแปรปรวนทางเดียว (One-way ANOVA) 25. R = N = ( - coefficient)           2 tS 2 iS 1 1-n n α α n จํานวนข้อ 2 iS คะแนนความแปรปรวนแต่ละข้อ 2 tS สัมประสิทธ์สหสัมพันธ์เพียร์สันโพรดักโมเมนต์(Pearson Product Momet:rxy) N คือ จํานวนคู่ของข้อมูล X 1 Y 2 ค่า การทดสอบความแปรปรวนทางเดียว (One-way ANOVA) 25. R = N = ( - coefficient)           2 tS 2 iS 1 1-n n α α n จํานวนข้อ 2 iS คะแนนความแปรปรวนแต่ละข้อ 2 tS สัมประสิทธ์สหสัมพันธ์เพียร์สันโพรดักโมเมนต์(Pearson Product Momet:rxy) N คือ จํานวนคู่ของข้อมูล X 1 Y 2 ค่า การทดสอบความแปรปรวนทางเดียว (One-way ANOVA) 25.
  • 32. 4 ผลการศึกษาวิจัย 1 แสดงผลการวิเคราะห์ (Content Validity) ตามความคิดเห็นของ ผู้ (IOC) ต่อ การศึกษา 2556 รายการข้อความคิดเห็น ประมาณค่าความคิดเห็นของ ค่า IOC แปลผล 1 2 3 4 5 1. +1 0 +1 +1 +1 0.8 ใช้ได้ 2. 0 +1 +1 +1 +1 0.8 ใช้ได้ 3. +1 +1 +1 0 +1 0.8 ใช้ได้ 4. เอดส์ (AIDS) เป็นโรคติดต่อร้ายแรงทางเพศสัมพันธ์ในปัจจุบัน +1 +1 +1 +1 +1 0.8 ใช้ได้ 5. +1 +1 0 +1 +1 0.8 ใช้ได้ 6. +1 +1 +1 +1 +1 1 ใช้ได้ 7. +1 +1 0 +1 0 0.6 ใช้ได้ 8. +1 +1 +1 0 +1 0.8 ใช้ได้ 9. 0 0 +1 +1 +1 0.6 ใช้ได้ 10. +1 +1 0 +1 0 0.6 ใช้ได้ 11. การอยู่ด้วยกันก่อนแต่งงานระหว่างหญิง- 0 +1 0 +1 +1 0.6 ใช้ได้ 12. +1 0 +1 0 +1 0.6 ใช้ได้ 13. +1 0 +1 +1 +1 0.8 ใช้ได้ 14. 0 +1 +1 +1 +1 0.8 ใช้ได้ 15. สังคม/ +1 +1 0 +1 +1 0.8 ใช้ได้ ค่า IOC = 0.8+0.8+0.8+0.8+0.8+1.0+0.6+0.8+0.6+0.6+0.6+0.6+ 0.8+0.8+0.8 15 = 11.2 = 0.74 15 แปลผล ในภาพรวมและข้อสอบถาม รายข้อ ในการเก็บข้อมูล (IOC > 0.5) แก้ไขปรับปรุงในด้านความสอดคล้องเหมาะสมกับสภาพปัจจุบันและปัญหา, ความเหมาะสมของ การใช้ภาษาและความเหมาะสมของรูปแบบตามคําแนะนํา 26.
  • 33. 2 แสดงข้อมูล ของจํานวนนักเรียนกลุ่มตัวอย่า มัธยมศึกษาตอนต้นและมัธยมศึกษาตอนปลาย ปีการศึกษา 2556 แยกตามสถานภาพและข้อมูล ส่วนบุคคล เพศ จํานวน (คน) ร้อยละ ชาย 48 43.6 หญิง 62 56.4 รวม 110 100.0 อายุ จํานวน (คน) ร้อยละ 15 2 1.8 15 - 16 ปี 44 40.0 17 – 18 ปี 50 45.5 มากกว่า 18 ปี 14 12.7 รวม 110 100.0 ระดับการศึกษา จํานวน (คน) ร้อยละ ม.3 50 45.5 ม.6 60 54.5 รวม 110 100.0 จํานวน (คน) ร้อยละ 2.50 20 18.2 2.50 – 2.99 28 25.5 3.00 – 3.49 34 30.9 สูงกว่า 3.50 28 25.5 รวม 110 100.0 27.
  • 34. สถานภาพครอบครัว จํานวน (คน) ร้อยละ อยู่กับพ่อและแม่ 50 45.5 2 1.8 22 20.0 อยู่กับผู้ปกครอง 36 32.7 รวม 110 100.0 จํานวน (คน) ร้อยละ เว็ปไซต์/อินเทอร์เน็ต 54 49.1 (หนังสือ, นิตยาสาร) 10 9.1 VCD, DVD 6 5.5 /โทรทัศน์ 8 7.3 16 14.5 พ่อแม่/ครูอาจารย์ 16 14.5 รวม 110 100.0 ทัศนคติต่อเพศศึกษา จํานวน (คน) ร้อยละ 56 50.9 5 4.5 / 33 30.0 ไม่แน่ใจ 16 14.5 รวม 110 100.0 จํานวน (คน) ร้อยละ น้อยกว่า 20 ปี 8 7.3 21 – 25 ปี 30 27.3 26 – 30 ปี 52 47.3 มากกว่า 31 ปี 20 18.2 รวม 110 100.0 28.
  • 35. การใช้บริการสังคมออนไลน์ จํานวน (คน) ร้อยละ ใช้เป็นประจําทุกวัน 80 72.7 ใช้ 2 – 3 วัน/ 24 21.8 6 5.5 0 0.0 0 0.0 ไม่เคยใช้เลย 0 0.0 รวม 110 100.0 1 แสดงร้อยละของจํานวนนักเรียนกลุ่มตัวอย่า แบบสอบถามความ มัธยมศึกษาตอนต้นและมัธยมศึกษาตอนปลาย ปีการศึกษา 2556 แยกตามสถานภาพและข้อมูล ส่วนบุคคล 0 20 40 60 15 29. การใช้บริการสังคมออนไลน์ จํานวน (คน) ร้อยละ ใช้เป็นประจําทุกวัน 80 72.7 ใช้ 2 – 3 วัน/ 24 21.8 6 5.5 0 0.0 0 0.0 ไม่เคยใช้เลย 0 0.0 รวม 110 100.0 1 แสดงร้อยละของจํานวนนักเรียนกลุ่มตัวอย่า แบบสอบถามความ มัธยมศึกษาตอนต้นและมัธยมศึกษาตอนปลาย ปีการศึกษา 2556 แยกตามสถานภาพและข้อมูล ส่วนบุคคล ชาย 44% หญิง 56% 15 15 - 16 ปี 17 – 18 ปี มากกว่า 18 ปี 29. การใช้บริการสังคมออนไลน์ จํานวน (คน) ร้อยละ ใช้เป็นประจําทุกวัน 80 72.7 ใช้ 2 – 3 วัน/ 24 21.8 6 5.5 0 0.0 0 0.0 ไม่เคยใช้เลย 0 0.0 รวม 110 100.0 1 แสดงร้อยละของจํานวนนักเรียนกลุ่มตัวอย่า แบบสอบถามความ มัธยมศึกษาตอนต้นและมัธยมศึกษาตอนปลาย ปีการศึกษา 2556 แยกตามสถานภาพและข้อมูล ส่วนบุคคล 29.
  • 38. 2 ข้อมูลการตอบแบบ มัธยมศึกษาตอนปลาย ปีการศึกษา 2556 แยกเป็นรายข้อสอบถาม ระดับการประเมิน ของนักเรียน 1 2 3 4 5 ร้อยละ ร้อยละ ร้อยละ ร้อยละ ร้อยละ 12 คน 10.9 14 คน 12.7 10 คน 9.1 6 คน 5.5 4 คน 3.6 ค่อนข้างไม่เห็นด้วย 6 คน 5.5 8 คน 7.3 16 คน 14.5 12 คน 10.9 10 คน 9.1 เห็นด้วยปานกลาง 30 คน 27.3 24 คน 21.8 36 คน 32.7 26 คน 23.6 30 คน 27.3 ค่อนข้างเห็นด้วย 36 คน 32.7 24 คน 21.8 40 คน 36.4 18 คน 16.4 38 คน 34.5 26 คน 23.6 40 คน 36.4 8 คน 7.3 48 คน 43.6 28 คน 25.5 รวม 110 คน 100.0 110 คน 100.0 110 คน 100.0 110 คน 100.0 110 คน 100.0 ระดับการประเมิน ของนักเรียน 6 7 8 9 10 ร้อยละ ร้อยละ ร้อยละ ร้อยละ ร้อยละ 10 คน 9.1 10 คน 9.1 10 คน 9.1 8 คน 7.3 18 คน 16.4 ค่อนข้างไม่เห็นด้วย 6 คน 5.5 12 คน 10.9 16 คน 14.5 18 คน 16.4 6 คน 5.5 เห็นด้วยปานกลาง 28 คน 25.5 38 คน 34.5 46 คน 41.8 32 คน 29.1 24 คน 21.8 ค่อนข้างเห็นด้วย 48 คน 43.6 20 คน 18.2 20 คน 18.2 18 คน 16.4 22 คน 20.0 18 คน 16.4 30 คน 27.3 18 คน 16.4 34 คน 30.9 40 คน 36.4 รวม 110 คน 100.0 110 คน 100.0 110 คน 100.0 110 คน 100.0 110 คน 100.0 0 10 20 30 40 50 60 70 80 32. 2 ข้อมูลการตอบแบบ มัธยมศึกษาตอนปลาย ปีการศึกษา 2556 แยกเป็นรายข้อสอบถาม ระดับการประเมิน ของนักเรียน 1 2 3 4 5 ร้อยละ ร้อยละ ร้อยละ ร้อยละ ร้อยละ 12 คน 10.9 14 คน 12.7 10 คน 9.1 6 คน 5.5 4 คน 3.6 ค่อนข้างไม่เห็นด้วย 6 คน 5.5 8 คน 7.3 16 คน 14.5 12 คน 10.9 10 คน 9.1 เห็นด้วยปานกลาง 30 คน 27.3 24 คน 21.8 36 คน 32.7 26 คน 23.6 30 คน 27.3 ค่อนข้างเห็นด้วย 36 คน 32.7 24 คน 21.8 40 คน 36.4 18 คน 16.4 38 คน 34.5 26 คน 23.6 40 คน 36.4 8 คน 7.3 48 คน 43.6 28 คน 25.5 รวม 110 คน 100.0 110 คน 100.0 110 คน 100.0 110 คน 100.0 110 คน 100.0 ระดับการประเมิน ของนักเรียน 6 7 8 9 10 ร้อยละ ร้อยละ ร้อยละ ร้อยละ ร้อยละ 10 คน 9.1 10 คน 9.1 10 คน 9.1 8 คน 7.3 18 คน 16.4 ค่อนข้างไม่เห็นด้วย 6 คน 5.5 12 คน 10.9 16 คน 14.5 18 คน 16.4 6 คน 5.5 เห็นด้วยปานกลาง 28 คน 25.5 38 คน 34.5 46 คน 41.8 32 คน 29.1 24 คน 21.8 ค่อนข้างเห็นด้วย 48 คน 43.6 20 คน 18.2 20 คน 18.2 18 คน 16.4 22 คน 20.0 18 คน 16.4 30 คน 27.3 18 คน 16.4 34 คน 30.9 40 คน 36.4 รวม 110 คน 100.0 110 คน 100.0 110 คน 100.0 110 คน 100.0 110 คน 100.0 32. 2 ข้อมูลการตอบแบบ มัธยมศึกษาตอนปลาย ปีการศึกษา 2556 แยกเป็นรายข้อสอบถาม ระดับการประเมิน ของนักเรียน 1 2 3 4 5 ร้อยละ ร้อยละ ร้อยละ ร้อยละ ร้อยละ 12 คน 10.9 14 คน 12.7 10 คน 9.1 6 คน 5.5 4 คน 3.6 ค่อนข้างไม่เห็นด้วย 6 คน 5.5 8 คน 7.3 16 คน 14.5 12 คน 10.9 10 คน 9.1 เห็นด้วยปานกลาง 30 คน 27.3 24 คน 21.8 36 คน 32.7 26 คน 23.6 30 คน 27.3 ค่อนข้างเห็นด้วย 36 คน 32.7 24 คน 21.8 40 คน 36.4 18 คน 16.4 38 คน 34.5 26 คน 23.6 40 คน 36.4 8 คน 7.3 48 คน 43.6 28 คน 25.5 รวม 110 คน 100.0 110 คน 100.0 110 คน 100.0 110 คน 100.0 110 คน 100.0 ระดับการประเมิน ของนักเรียน 6 7 8 9 10 ร้อยละ ร้อยละ ร้อยละ ร้อยละ ร้อยละ 10 คน 9.1 10 คน 9.1 10 คน 9.1 8 คน 7.3 18 คน 16.4 ค่อนข้างไม่เห็นด้วย 6 คน 5.5 12 คน 10.9 16 คน 14.5 18 คน 16.4 6 คน 5.5 เห็นด้วยปานกลาง 28 คน 25.5 38 คน 34.5 46 คน 41.8 32 คน 29.1 24 คน 21.8 ค่อนข้างเห็นด้วย 48 คน 43.6 20 คน 18.2 20 คน 18.2 18 คน 16.4 22 คน 20.0 18 คน 16.4 30 คน 27.3 18 คน 16.4 34 คน 30.9 40 คน 36.4 รวม 110 คน 100.0 110 คน 100.0 110 คน 100.0 110 คน 100.0 110 คน 100.0 32.
  • 39. ระดับการประเมิน ของนักเรียน 11 12 13 14 15 ร้อยละ ร้อยละ ร้อยละ ร้อยละ ร้อยละ 8 คน 7.3 10 คน 9.1 4 คน 3.6 8 คน 7.3 10 คน 9.1 ค่อนข้างไม่เห็นด้วย 26 คน 23.6 6 คน 5.5 8 คน 7.3 6 คน 5.5 2 คน 1.8 เห็นด้วยปานกลาง 54 คน 49.1 18 คน 16.4 40 คน 36.4 36 คน 32.7 32 คน 29.1 ค่อนข้างเห็นด้วย 8 คน 7.3 28 คน 25.5 30 คน 27.3 30 คน 27.3 28 คน 25.5 14 คน 12.7 48 คน 43.6 28 คน 25.5 30 คน 27.3 38 คน 34.5 รวม 110 คน 100.0 110 คน 100.0 110 คน 100.0 110 คน 100.0 110 คน 100.0 2 แสดงร้อยละของข้อมูลการตอบแบบ ปลาย ปีการศึกษา 2556 แยกเป็นรายข้อสอบถาม 0 5 10 15 20 25 30 35 40 45 1 2 0 10 20 30 40 50 6 7 ด้านความรู้ความเข้าใจ ด้านทักษะกระบวนการ 33. ระดับการประเมิน ของนักเรียน 11 12 13 14 15 ร้อยละ ร้อยละ ร้อยละ ร้อยละ ร้อยละ 8 คน 7.3 10 คน 9.1 4 คน 3.6 8 คน 7.3 10 คน 9.1 ค่อนข้างไม่เห็นด้วย 26 คน 23.6 6 คน 5.5 8 คน 7.3 6 คน 5.5 2 คน 1.8 เห็นด้วยปานกลาง 54 คน 49.1 18 คน 16.4 40 คน 36.4 36 คน 32.7 32 คน 29.1 ค่อนข้างเห็นด้วย 8 คน 7.3 28 คน 25.5 30 คน 27.3 30 คน 27.3 28 คน 25.5 14 คน 12.7 48 คน 43.6 28 คน 25.5 30 คน 27.3 38 คน 34.5 รวม 110 คน 100.0 110 คน 100.0 110 คน 100.0 110 คน 100.0 110 คน 100.0 2 แสดงร้อยละของข้อมูลการตอบแบบ ปลาย ปีการศึกษา 2556 แยกเป็นรายข้อสอบถาม 2 3 4 5 7 8 9 10 ด้านความรู้ความเข้าใจ ด้านทักษะกระบวนการ 33. ระดับการประเมิน ของนักเรียน 11 12 13 14 15 ร้อยละ ร้อยละ ร้อยละ ร้อยละ ร้อยละ 8 คน 7.3 10 คน 9.1 4 คน 3.6 8 คน 7.3 10 คน 9.1 ค่อนข้างไม่เห็นด้วย 26 คน 23.6 6 คน 5.5 8 คน 7.3 6 คน 5.5 2 คน 1.8 เห็นด้วยปานกลาง 54 คน 49.1 18 คน 16.4 40 คน 36.4 36 คน 32.7 32 คน 29.1 ค่อนข้างเห็นด้วย 8 คน 7.3 28 คน 25.5 30 คน 27.3 30 คน 27.3 28 คน 25.5 14 คน 12.7 48 คน 43.6 28 คน 25.5 30 คน 27.3 38 คน 34.5 รวม 110 คน 100.0 110 คน 100.0 110 คน 100.0 110 คน 100.0 110 คน 100.0 2 แสดงร้อยละของข้อมูลการตอบแบบ ปลาย ปีการศึกษา 2556 แยกเป็นรายข้อสอบถาม ค่อนข้างไม่เห็นด้วย เห็นด้วยปานกลาง ค่อนข้างเห็นด้วย ค่อนข้างไม่เห็นด้วย เห็นด้วยปานกลาง ค่อนข้างเห็นด้วย ด้านความรู้ความเข้าใจ ด้านทักษะกระบวนการ 33.
  • 40. 3 ของข้อมูลการตอบแบบสอบถามความคิดเห็น ตอนต้นและมัธยมศึกษาตอนปลาย ปีการศึกษา 2556 แยกเป็นรายข้อสอบถาม รายการข้อสอบถาม ( X ) ( SD ) ความหมาย 1. เรื่องเพศเปนเรื่องธรรมชาติมีความเกี่ยวของกับมนุษยทุกคน 3.53 1.224 ค่อนข้างเห็นด้วย 2. การมีความรูเรื่องการคุมกําเนิดชวยลดปญหาการทําแทงได 3.62 1.375 ค่อนข้างเห็นด้วย 3. สื่อภาพยนตและโทรทัศนมีสวนทําใหเกิดการเรียนรูเรื่องเพศศึกษา 3.18 1.068 เห็นด้วยปานกลาง 4. เอดส (AIDS) เปนโรคติดตอรายแรงทางเพศสัมพันธในปจจุบัน 3.82 1.258 ค่อนข้างเห็นด้วย 5. ครอบครัวที่อบอุนมีสวนสําคัญในการปองกันปญหาทางเพศได 3.69 1.064 ค่อนข้างเห็นด้วย 6. พฤติกรรมเลียนแบบดารานักรองทุกอยางเปนสิ่งไมควรปฏิบัติ 3.53 1.115 ค่อนข้างเห็นด้วย 7. เมื่อประสบปญหาทางเพศจะหันไปปรึกษาพอแมเปนอันดับแรก 3.44 1.253 เห็นด้วยปานกลาง 8. การที่นักเรียนมีแฟนหรือคนรักในวัยเรียนเปนเรื่องที่ไมสมควร 3.18 1.151 เห็นด้วยปานกลาง 9. การเที่ยวเวลากลางคืนเปนเรื่องที่ไมเหมาะสมในวัยเรียน 3.47 1.283 เห็นด้วยปานกลาง 10. การจะรักใครสักคนนั้นนักเรียนจะใชใจไมใชรางกายแลกมา 3.55 1.444 ค่อนข้างเห็นด้วย 11. การอยูดวยกันกอนแตงงานระหวางหญิง-ชายที่รักกัน 2.95 1.057 เห็นด้วยปานกลาง 12. การที่เราเปนชายหรือหญิงควรเริ่มจากความรักในตนเอง 3.89 1.280 ค่อนข้างเห็นด้วย 13. การเรียนเรื่องเพศศึกษาที่ถูกตองควรเริ่มตั้งแตระดับประถม 3.64 1.056 ค่อนข้างเห็นด้วย 14. การแตงงานมีครอบครัวหรือมีลูกในวัยเรียนเปนสิ่งที่ไมถูกตอง 3.62 1.157 ค่อนข้างเห็นด้วย 15. สังคม/ครอบครัวและสื่อมีสวนสงเสริมพฤติกรรมทางเพศที่ถูกตอง 3.75 1.215 ค่อนข้างเห็นด้วย 0 10 20 30 40 50 11 12 34. 3 ของข้อมูลการตอบแบบสอบถามความคิดเห็น ตอนต้นและมัธยมศึกษาตอนปลาย ปีการศึกษา 2556 แยกเป็นรายข้อสอบถาม รายการข้อสอบถาม ( X ) ( SD ) ความหมาย 1. เรื่องเพศเปนเรื่องธรรมชาติมีความเกี่ยวของกับมนุษยทุกคน 3.53 1.224 ค่อนข้างเห็นด้วย 2. การมีความรูเรื่องการคุมกําเนิดชวยลดปญหาการทําแทงได 3.62 1.375 ค่อนข้างเห็นด้วย 3. สื่อภาพยนตและโทรทัศนมีสวนทําใหเกิดการเรียนรูเรื่องเพศศึกษา 3.18 1.068 เห็นด้วยปานกลาง 4. เอดส (AIDS) เปนโรคติดตอรายแรงทางเพศสัมพันธในปจจุบัน 3.82 1.258 ค่อนข้างเห็นด้วย 5. ครอบครัวที่อบอุนมีสวนสําคัญในการปองกันปญหาทางเพศได 3.69 1.064 ค่อนข้างเห็นด้วย 6. พฤติกรรมเลียนแบบดารานักรองทุกอยางเปนสิ่งไมควรปฏิบัติ 3.53 1.115 ค่อนข้างเห็นด้วย 7. เมื่อประสบปญหาทางเพศจะหันไปปรึกษาพอแมเปนอันดับแรก 3.44 1.253 เห็นด้วยปานกลาง 8. การที่นักเรียนมีแฟนหรือคนรักในวัยเรียนเปนเรื่องที่ไมสมควร 3.18 1.151 เห็นด้วยปานกลาง 9. การเที่ยวเวลากลางคืนเปนเรื่องที่ไมเหมาะสมในวัยเรียน 3.47 1.283 เห็นด้วยปานกลาง 10. การจะรักใครสักคนนั้นนักเรียนจะใชใจไมใชรางกายแลกมา 3.55 1.444 ค่อนข้างเห็นด้วย 11. การอยูดวยกันกอนแตงงานระหวางหญิง-ชายที่รักกัน 2.95 1.057 เห็นด้วยปานกลาง 12. การที่เราเปนชายหรือหญิงควรเริ่มจากความรักในตนเอง 3.89 1.280 ค่อนข้างเห็นด้วย 13. การเรียนเรื่องเพศศึกษาที่ถูกตองควรเริ่มตั้งแตระดับประถม 3.64 1.056 ค่อนข้างเห็นด้วย 14. การแตงงานมีครอบครัวหรือมีลูกในวัยเรียนเปนสิ่งที่ไมถูกตอง 3.62 1.157 ค่อนข้างเห็นด้วย 15. สังคม/ครอบครัวและสื่อมีสวนสงเสริมพฤติกรรมทางเพศที่ถูกตอง 3.75 1.215 ค่อนข้างเห็นด้วย 12 13 14 15 34. 3 ของข้อมูลการตอบแบบสอบถามความคิดเห็น ตอนต้นและมัธยมศึกษาตอนปลาย ปีการศึกษา 2556 แยกเป็นรายข้อสอบถาม รายการข้อสอบถาม ( X ) ( SD ) ความหมาย 1. เรื่องเพศเปนเรื่องธรรมชาติมีความเกี่ยวของกับมนุษยทุกคน 3.53 1.224 ค่อนข้างเห็นด้วย 2. การมีความรูเรื่องการคุมกําเนิดชวยลดปญหาการทําแทงได 3.62 1.375 ค่อนข้างเห็นด้วย 3. สื่อภาพยนตและโทรทัศนมีสวนทําใหเกิดการเรียนรูเรื่องเพศศึกษา 3.18 1.068 เห็นด้วยปานกลาง 4. เอดส (AIDS) เปนโรคติดตอรายแรงทางเพศสัมพันธในปจจุบัน 3.82 1.258 ค่อนข้างเห็นด้วย 5. ครอบครัวที่อบอุนมีสวนสําคัญในการปองกันปญหาทางเพศได 3.69 1.064 ค่อนข้างเห็นด้วย 6. พฤติกรรมเลียนแบบดารานักรองทุกอยางเปนสิ่งไมควรปฏิบัติ 3.53 1.115 ค่อนข้างเห็นด้วย 7. เมื่อประสบปญหาทางเพศจะหันไปปรึกษาพอแมเปนอันดับแรก 3.44 1.253 เห็นด้วยปานกลาง 8. การที่นักเรียนมีแฟนหรือคนรักในวัยเรียนเปนเรื่องที่ไมสมควร 3.18 1.151 เห็นด้วยปานกลาง 9. การเที่ยวเวลากลางคืนเปนเรื่องที่ไมเหมาะสมในวัยเรียน 3.47 1.283 เห็นด้วยปานกลาง 10. การจะรักใครสักคนนั้นนักเรียนจะใชใจไมใชรางกายแลกมา 3.55 1.444 ค่อนข้างเห็นด้วย 11. การอยูดวยกันกอนแตงงานระหวางหญิง-ชายที่รักกัน 2.95 1.057 เห็นด้วยปานกลาง 12. การที่เราเปนชายหรือหญิงควรเริ่มจากความรักในตนเอง 3.89 1.280 ค่อนข้างเห็นด้วย 13. การเรียนเรื่องเพศศึกษาที่ถูกตองควรเริ่มตั้งแตระดับประถม 3.64 1.056 ค่อนข้างเห็นด้วย 14. การแตงงานมีครอบครัวหรือมีลูกในวัยเรียนเปนสิ่งที่ไมถูกตอง 3.62 1.157 ค่อนข้างเห็นด้วย 15. สังคม/ครอบครัวและสื่อมีสวนสงเสริมพฤติกรรมทางเพศที่ถูกตอง 3.75 1.215 ค่อนข้างเห็นด้วย ค่อนข้างไม่เห็นด้วย เห็นด้วยปานกลาง ค่อนข้างเห็นด้วย 34.
  • 41. 3 ของข้อมูลการตอบแบบ ปลาย ปีการศึกษา 2556 แยกเป็นรายข้อสอบถาม 4 แสดงค่า ข้อมูลการตอบแบบสอบถามความคิดเห็น ตอนต้นและมัธยมศึกษาตอนปลาย ปีการศึกษา 2556 แยกเป็นรายด้าน การประเมิน ( X ) ( SD ) ความหมาย ดานความรูความเขาใจเกี่ยวกับเพศศึกษา 3.57 1.008 ค่อนข้างเห็นด้วย ดานทักษะกระบวนการเกี่ยวกับเพศศึกษา 3.43 0.985 เห็นด้วยปานกลาง ดานเจตคติเกี่ยวกับเพศศึกษา 3.57 0.653 ค่อนข้างเห็นด้วย 4 ของข้อมูลการตอบแบบ ปลาย ปีการศึกษา 2556 แยกเป็นรายด้าน 0 0.5 1 1.5 2 2.5 3 3.5 4 35. 3 ของข้อมูลการตอบแบบ ปลาย ปีการศึกษา 2556 แยกเป็นรายข้อสอบถาม 4 แสดงค่า ข้อมูลการตอบแบบสอบถามความคิดเห็น ตอนต้นและมัธยมศึกษาตอนปลาย ปีการศึกษา 2556 แยกเป็นรายด้าน การประเมิน ( X ) ( SD ) ความหมาย ดานความรูความเขาใจเกี่ยวกับเพศศึกษา 3.57 1.008 ค่อนข้างเห็นด้วย ดานทักษะกระบวนการเกี่ยวกับเพศศึกษา 3.43 0.985 เห็นด้วยปานกลาง ดานเจตคติเกี่ยวกับเพศศึกษา 3.57 0.653 ค่อนข้างเห็นด้วย 4 ของข้อมูลการตอบแบบ ปลาย ปีการศึกษา 2556 แยกเป็นรายด้าน 35. 3 ของข้อมูลการตอบแบบ ปลาย ปีการศึกษา 2556 แยกเป็นรายข้อสอบถาม 4 แสดงค่า ข้อมูลการตอบแบบสอบถามความคิดเห็น ตอนต้นและมัธยมศึกษาตอนปลาย ปีการศึกษา 2556 แยกเป็นรายด้าน การประเมิน ( X ) ( SD ) ความหมาย ดานความรูความเขาใจเกี่ยวกับเพศศึกษา 3.57 1.008 ค่อนข้างเห็นด้วย ดานทักษะกระบวนการเกี่ยวกับเพศศึกษา 3.43 0.985 เห็นด้วยปานกลาง ดานเจตคติเกี่ยวกับเพศศึกษา 3.57 0.653 ค่อนข้างเห็นด้วย 4 ของข้อมูลการตอบแบบ ปลาย ปีการศึกษา 2556 แยกเป็นรายด้าน 35.
  • 42. 5 แสดงผลการวิเคราะห์ค่า สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน (Pearson product moment correlation coefficient) ระหว่างด้านความรู้ความเข้าใจ, ทักษะกระบวนการและเจตคติ จากการตอบแบบ 2556 คู่ความสัมพันธ์ จํานวนนักเรียน ค่าสหสัมพันธ์ ค่านัยสําคัญ (สองทาง) ความรู้ กับ ทักษะ 110 คน 0.762** 0.000 ความรู้กับ เจตคติ 110 คน 0.701** 0.000 ทักษะ กับ เจตคติ 110 คน 0.678** 0.000 ** p < .01 5 แสดงความสัมพันธ์ของข้อมูลการตอบแบบ ตอนปลาย ปีการศึกษา 2556 แยกเป็นรายด้าน ความรู้ความรู้ ทักษะ ทักษะ เจตคติ เจตคติ 36. 5 แสดงผลการวิเคราะห์ค่า สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน (Pearson product moment correlation coefficient) ระหว่างด้านความรู้ความเข้าใจ, ทักษะกระบวนการและเจตคติ จากการตอบแบบ 2556 คู่ความสัมพันธ์ จํานวนนักเรียน ค่าสหสัมพันธ์ ค่านัยสําคัญ (สองทาง) ความรู้ กับ ทักษะ 110 คน 0.762** 0.000 ความรู้กับ เจตคติ 110 คน 0.701** 0.000 ทักษะ กับ เจตคติ 110 คน 0.678** 0.000 ** p < .01 5 แสดงความสัมพันธ์ของข้อมูลการตอบแบบ ตอนปลาย ปีการศึกษา 2556 แยกเป็นรายด้าน ความรู้ความรู้ ทักษะ ทักษะ เจตคติ เจตคติ 36. 5 แสดงผลการวิเคราะห์ค่า สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน (Pearson product moment correlation coefficient) ระหว่างด้านความรู้ความเข้าใจ, ทักษะกระบวนการและเจตคติ จากการตอบแบบ 2556 คู่ความสัมพันธ์ จํานวนนักเรียน ค่าสหสัมพันธ์ ค่านัยสําคัญ (สองทาง) ความรู้ กับ ทักษะ 110 คน 0.762** 0.000 ความรู้กับ เจตคติ 110 คน 0.701** 0.000 ทักษะ กับ เจตคติ 110 คน 0.678** 0.000 ** p < .01 5 แสดงความสัมพันธ์ของข้อมูลการตอบแบบ ตอนปลาย ปีการศึกษา 2556 แยกเป็นรายด้าน ความรู้ความรู้ ทักษะ ทักษะ เจตคติ เจตคติ 36.
  • 43. 6 แสดงผลการทดสอบค่า t (idependent t-test) 0.05 จากการตอบแบบ 2556 1. เพศ ข้อสอบถาม ค่า t ค่านัยสําคัญ (สองทาง) 6. พฤติกรรมเลียนแบบดารานักรอง ทุกอยางเปนสิ่งไมควรปฏิบัติ ชาย = 3.83 หญิง = 3.29 2.743** 0.007 11. การอยูดวยกันกอนแตงงาน ระหวางหญิง-ชายที่รักกัน ชาย = 2.71 หญิง = 3.13 -2.127* 0.036 ** p < .01 * p < .05 2. ระดับการศึกษา ข้อสอบถาม ค่า t ค่านัยสําคัญ (สองทาง) 3. สื่อภาพยนตและโทรทัศนมีสวนทํา ใหเกิดการเรียนรูเรื่องเพศศึกษา ม.3 = 2.96 ม.6 = 3.37 -2.016* 0.046 7. เมื่อประสบปญหาทางเพศจะหันไป ปรึกษาพอแมเปนอันดับแรก ม.3 = 3.08 ม.6 = 3.73 -2.808** 0.006 15. สังคม/ครอบครัวและสื่อมีสวน สงเสริมพฤติกรรมทางเพศที่ถูกตอง ม.3 = 3.48 ม.6 = 3.97 -2.126* 0.036 ** p < .01 * p < .05 37.
  • 44. 7 แสดงผลการทดสอบความแปรปรวนทางเดียว (One-way ANOVA) 0.05 และผลการเปรียบเทียบรายคู่แบบเชฟเฟ่ (Scheffe) จากการตอบ แบบ การศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้นและมัธยมศึกษาตอนปลาย ปีการศึกษา 2556 1. อายุ ข้อสอบถาม ค่า F ค่านัยสําคัญ คู่ความแตกต่าง ค่านัยสําคัญ 1. 3.179* 0.027 <15 ปี กับ 15-16 ปี <15 ปี กับ 17-18 ปี 0.029 0.035 4. เอดส์ (AIDS) เป็นโรคติดต่อ ร้ายแรงทางเพศสัมพันธ์ในปัจจุบัน 4.393** 0.006 <15 ปี กับ 15-16 ปี <15 ปี กับ 17-18 ปี <15 ปี กับ >18 ปี 0.021 0.016 0.006 6. พฤติกรรมเลียนแบบดารานักร้อง 8.491** 0.000 <15 ปี กับ 15-16 ปี <15 ปี กับ 17-18 ปี <15 ปี กับ >18 ปี 15-16ปี กับ 17-18 ปี 0.003 0.033 0.002 0.022 7. ไปปรึกษาพ่อแม่เป็นอันดับแรก 6.386** 0.001 <15 ปี กับ 17-18 ปี <15 ปี กับ >18 ปี 15-16ปี กับ >18 ปี 0.024 0.007 0.040 9. ไม่เหมาะสมในวัยเรียน 5.892** 0.001 <15 ปี กับ 17-18 ปี <15 ปี กับ >18 ปี 0.027 0.010 10. จะใช้ใจไม่ใช้ร่างกายแลกมา 3.150* 0.028 <15 ปี กับ >18 ปี 0.037 11. การอยู่ด้วยกันก่อนแต่งงาน ระหว่างหญิง- 6.974** 0.000 <15 ปี กับ 15-16 ปี <15 ปี กับ >18 ปี 17-18ปี กับ >18 ปี 0.032 0.003 0.010 12. 4.888* 0.003 <15 ปี กับ 15-16 ปี <15 ปี กับ 17-18 ปี <15 ปี กับ >18 ปี 0.007 0.026 0.011 14. การแต่งงานมีครอบครัวหรือมี 4.891** 0.003 <15 ปี กับ 15-16 ปี <15 ปี กับ 17-18 ปี <15 ปี กับ >18 ปี 0.015 0.019 0.004 เพศศึกษา 6.135** 0.001 <15 ปี กับ 15-16 ปี <15 ปี กับ 17-18 ปี <15 ปี กับ >18 ปี 0.007 0.005 0.001 ** p < .01 * p < .05 38.
  • 45. 2. ข้อสอบถาม ค่า F ค่านัยสําคัญ คู่ความแตกต่าง ค่านัยสําคัญ 5. ในการป้ องกันปัญหาทางเพศได้ 2.962* 0.036 2.50 กับ 3.00-3.49 0.039 ** p < .01 * p < .05 3. สถานภาพครอบครัว (อาศัยอยู่กับ) ข้อสอบถาม ค่า F ค่านัยสําคัญ คู่ความแตกต่าง ค่านัยสําคัญ 5. ในการป้ องกันปัญหาทางเพศได้ 4.794** 0.004 พ่อและแม่ กับ ผู้ปกครอง 0.007 6. พฤติกรรมเลียนแบบดารานักร้อง 4.048** 0.009 ผู้ปกครอง 0.011 0.014 0.023 14. การแต่งงานมีครอบครัวหรือมี 3.997* 0.010 0.010 0.026 0.019 15. สังคม/ 3.734* 0.013 0.015 0.017 0.017 4.766** 0.004 0.006 0.006 0.015 ** p < .01 * p < .05 39.
  • 46. 4. ข้อสอบถาม ค่า F ค่านัยสําคัญ คู่ความแตกต่าง ค่านัยสําคัญ 1. 4.009** 0.002 เว็ปไซต์ กับ VCD 0.044 2. ช่วยลดปัญหาการทําแท้งได้ 4.751** 0.001 เว็ปไซต์กับ พ่อแม่/ครู หนังสือ กับ พ่อแม่/ครู 0.005 0.047 4. เอดส์ (AIDS) เป็นโรคติดต่อ ร้ายแรงทางเพศสัมพันธ์ในปัจจุบัน 4.129** 0.002 เว็ปไซต์ กับ พ่อแม่/ครู 0.013 10. จะใช้ใจไม่ใช้ร่างกายแลกมา 3.412** 0.007 เว็ปไซต์กับ พ่อแม่/ครู 0.018 12. 5.414** 0.000 เว็ปไซต์กับ พ่อแม่/ครู 0.009 ด้านความรู้ความเข้าใจเพศศึกษา 4.685** 0.001 เว็ปไซต์กับ พ่อแม่/ครู 0.008 ด้านเจตคติเพศศึกษา 4.011** 0.002 เว็ปไซต์กับ พ่อแม่/ครู 0.022 ** p < .01 5. ข้อสอบถาม ค่า F ค่านัยสําคัญ คู่ความแตกต่าง ค่านัยสําคัญ 1. 4.727** 0.004 สําคัญ กับ ไม่สําคัญ 0.019 0.041 2. ช่วยลดปัญหาการทําแท้งได้ 5.085** 0.003 สําคัญ กับ ไม่แน่ใจ 0.014 0.028 3. 3.430* 0.020 0.040 ** p < .01 * p < .05 6. ข้อสอบถาม ค่า F ค่านัยสําคัญ คู่ความแตกต่าง ค่านัยสําคัญ 1. 4.656** 0.004 20 ปี กับ 21-25ปี 20 ปี กับ 26-30ปี 20ปีกับมากกว่า31ปี 0.007 0.009 0.016 ** p < .01 40.
  • 47. 7. ข้อสอบถาม ค่า F ค่านัยสําคัญ คู่ความแตกต่าง ค่านัยสําคัญ 6. พฤติกรรมเลียนแบบดารานักร้อง 3.494* 0.034 2-3วัน กับ สัปดาห์ 0.047 8. 3.867* 0.024 ทุกวัน กับ สัปดาห์ 0.027 11. การอยู่ด้วยกันก่อนแต่งงาน ระหว่างหญิง- 9.822** 0.000 ทุกวัน กับ 2-3วัน ทุกวัน กับ สัปดาห์ 0.003 0.009 ** p < .01 * p < .05 8 แสดงผลการวิเคราะห์ ( - Coefficient) ของ Cronbach จากการ ทดลองใช้ (try out) แบบ 2556 ( - Coefficient) ของ Cronbach ทดลองใช้ แบบสอบถาม 0.934 18 ข้อ 20 คน 41.
  • 48. 9 แสดงผลการวิเคราะห์ค่าอํานาจจําแนกรายข้อแบบสอบถาม (Corrected Item-total Correlation) จากการทดลองใช้ (try out) แบบ ปลาย ปีการศึกษา 2556 ข้อแบบสอบถาม ค่าอํานาจจําแนก (r) แปลผล 1. 0.686 ดีมาก 2. 0.785 ดีมาก 3. 0.759 ดีมาก 4. เอดส์ (AIDS) เป็นโรคติดต่อร้ายแรงทางเพศสัมพันธ์ในปัจจุบัน 0.808 ดีมาก 5. 0.669 ดีมาก 6. 0.622 ดีมาก 7. 0.643 ดีมาก 8. 0.569 ดี 9. 0.790 ดีมาก 10. 0.744 ดีมาก 11. การอยู่ด้วยกันก่อนแต่งงานระหว่างหญิง- -0.531 12. 0.795 ดีมาก 13. 0.584 ดี 14. 0.613 ดีมาก 15. สังคม/ 0.590 ดี 0.916 ดีมาก 0.906 ดีมาก 0.834 ดีมาก เกณฑ์ตัดสินค่าอํานาจจําแนก (r) 0.60 – 1.00 หมายถึง อํานาจจําแนกดีมาก 0.40 – 0.59 หมายถึง อํานาจจําแนกดี 0.20 – 0.39 หมายถึง อําจําแนกพอใช้ 0.10 – 0.19 (ควรปรับ ) -1.00 – 0.09 หมายถึง ( ) 42.