6. ๖
บทที่ ๒
เอกสารและงานวิจัยอ้างอิง
จากการศึกษา เรื่อง ผลของการจัดการเรียนรู้ด้วยกิจกรรมการทดลองที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการ
เรียนวิทยาศาสตร์ และ เจตคติต่อการเรียนวิทยาศาสตร์ ระดับประถมศึกษาปีที่ ๕ ผู้ศึกษาค้นคว้าได้
ค้นคว้าจากเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ดังนี้
๑. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิทยาศาสตร์
๒. เจตคติต่อการเรียนวิทยาศาสตร์
๓. วิธีสอนวิทยาศาสตร์
๑. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิทยาศาสตร์
นักวิจัยทางการศึกษา ได้ให้ความหมายของผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิทยาศาสตร์ ไว้แตกต่างกัน ดังนี้
Van and Frances (๒๐๐๑) ได้ให้ความหมาย ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิทยาศาสตร์ ไว้ว่า
หมายถึง ความสามารถในการอธิบาย มีทักษะในการปฏิบัติการ มีลักษณะเป็น แบบแผน และมีความรู้
เชิงกลยุทธ์ (Science achievement defined as declarative, procedural, schematic and
strategic knowledge)
Third International Mathematics and Science Study (TIMSS) ที่รายงานโดย Rice
and Islas (๒๐๐๑) ได้ให้ความหมายของผลสัมฤทธิ์ทางวิทยาศาสตร์ของนักเรียนไว้ว่า เป็นความรู้
ความสามารถในระดับลึกที่แน่นอนสาหรับนักเรียนทุกคน และที่ระดับพัฒนาการต่าง ๆ (The
documents defined science achievement at certain depths of knowledge and ability for
all students and at different developmental levels)
ในด้านเนื้อหาวิทยาศาสตร์นั้น National Science Education Standards (๒๐๐๗) ได้
กาหนดมาตรฐานเนื้อหาของวิชาวิทยาศาสตร์อยู่ที่ข้อเท็จจริง แนวคิด หลักการ ทฤษฎีและแบบจาลอง ซึ่ง
เป็นสิ่งสาคัญสาหรับนักเรียนทุกคนควรเรียนรู้ เข้าใจ และนาไปใช้ ส่วนด้านทักษะกระบวนการทา ง
วิทยาศาสตร์ได้จากวิธีการศึกษาค้นคว้า เพราะการศึกษาค้นคว้าทางวิทยาศาสตร์เป็นหัวใจของ
วิทยาศาสตร์และการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ และพบว่า “การวางพื้นฐานที่ดีทางวิทยาศาสตร์ให้เข้มแข็ง ต้อง
ใช้ทักษะหลาย ๆ อย่างซึ่งประชาชนใช้อยู่ทุก ๆ วัน ” (A sound grounding in science strengthens
many of the skills that people use every day)
Lee and Paik (๒๐๐๐) พบว่า ทักษะที่นักเรียนต้องใช้ คือ ตั้งคาถาม ออกแบบและวางแผน
เพื่ออธิบายคาถามให้กระจ่าง ตั้งและปรับเปลี่ยนสมมติฐาน เก็บรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล อ่านและ
ตีความหมายผล สร้างแบบการอภิปรายผลและวางแผนการสรุป และนักเรียนต้องสามารถใช้อุปกรณ์และ
เครื่องมือเพื่อควบคุมดูแลการสืบเสาะหา ความรู้ได้อย่างเหมาะสม