ว่าด้วย ผลไม้ทิพย์
พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน ทรงปรารภการที่พระสารีบุตรเถระถวายรสมะม่วงแก่พระพิมพาเถรี จึงตรัสเรื่องนี้ ดังนี้.
ได้ยินว่า เมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประกาศพระธรรมจักรอันควร แล้วประทับอยู่ ณ กูฏาคารศาลาในเมืองเวสาลี พระนางมหาปชาบดีโคตมีพานางสากิยานีจำนวน ๕๐๐ นางไปขอบรรพชาแล้ว ได้บรรพชาและอุปสมบท. ในกาลต่อมา ภิกษุณี ๕๐๐ รูปเหล่านั้นได้ฟังโอวาทของพระนันทกะได้บรรลุพระอรหัต.
อนึ่ง เมื่อพระศาสดาเสด็จเข้าไปอาศัยประทับอยู่ในเมืองสาวัตถี พระเทวีชนนีของพระราหุลทรงดำริว่า พระสวามีของเราบวชได้บรรลุพระสัพพัญญุตญาณแล้ว แม้โอรสของเราก็บวชอยู่ในสำนักของพระสวามีแห่งเรานั้น เราจักกระทำอะไรอยู่ในท่ามกลางเรือน แม้เราบวชแล้วไปอยู่ในเมืองสาวัตถี จักเห็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระโอรสอยู่เป็นเนืองนิตย์ จึงเสด็จเข้าไปยังสำนักของนางภิกษุณี บวชแล้วได้ไปยังเมืองสาวัตถีพร้อมกับอุปัชฌาย์อาจารย์. เห็นพระศาสดาและบุตรผู้เป็นที่รัก สำเร็จการอยู่ในสำนักภิกษุณีแห่งหนึ่ง ราหุลสามเณรได้มาเยี่ยมพระชนนี.
ครั้นวันหนึ่ง ลมในพระอุทรของพระเถรีกำเริบขึ้น. เมื่อพระโอรสเสด็จมาเพื่อจะเยี่ยมเยียน พระเถรีนั้นไม่สามารถจะออกมาพบได้ ภิกษุณีอื่นๆ จึงมาบอกว่า พระเถรีไม่สบาย. ราหุลสามเณรนั้นจึงไปยังสำนักของพระมารดา แล้วทูลถามว่า พระองค์ควรจะได้ยาอะไร? พระเถรีผู้ชนนีตรัสว่า ดูก่อนพ่อ ในคราวยังครองเรือน มารดาดื่มรสมะม่วงที่เขาปรุงประกอบด้วยน้ำตาลกรวดเป็นต้น โรคลมในท้องก็สงบระงับไป แต่บัดนี้ พวกเราเที่ยวบิณฑบาตเลี้ยงชีพ จักได้รสมะม่วงนั้นมาจากไหน.
ราหุลสามเณรทูลว่า เมื่อหม่อมฉันได้ จักนำมา แล้วก็ออกไป.
ก็ท่านผู้มีอายุนั้นมีสมบัติมากมาย คือ มีพระธรรมเสนาบดีเป็นอุปัชฌาย์ มีพระมหาโมคคัลลานะเป็นอาจารย์ มีพระอานันทเถระเป็นอาว์ มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นบิดา. แม้เมื่อเป็นอย่างนั้น ท่านก็ไม่ไปยังสำนักอื่น ได้ไปยังสำนักของอุปัชฌาย์ไหว้แล้ว ได้ยืนมีอาการหน้าเศร้าอยู่.
ลำดับนั้น พระเถระจึงกล่าวกะราหุลสามเณรนั้นว่า ดูก่อนราหุล เหตุไรหนอ เธอจึงมีหน้าระทมทุกข์อยู่. ราหุลสามเณรกล่าวว่า ข้าแต่ท่านผู้เจริญ โรคลมในท้องแห่งพระเถรีผู้เป็นมารดาของกระผม กำเริบขึ้น.
พระเถระถามว่า ได้อะไรจึงจะควร?
ราหุลสามเณรเรียนว่า พระมารดาเล่าให้ฟังว่า มีความผาสุกได้ด้วยรสมะม่วงที่ปรุงประกอบด้วยน้ำตาลกรวด.
พระเถระจึงกล่าวว่า ช่างเถอะ เราจักได้มา เธออย่าคิดไปเลย.
ในวันรุ่งขึ้น พระเถระพาราหุลสามเณรนั้นเข้าไปในเมืองสาวัตถี ให้สามเณรนั่งที่โรงฉันแล้วได้ไปยังประตูพระราชวัง. พระเจ้าโกศลเห็นพระเถระ จึงนิมนต์ให้นั่ง. ในขณะนั้นเอง นายอุยยานบาลนำเอามะม่วงหวานที่สุกทั้งพวง จำนวนห่อหนึ่งมาถวาย. พระราชาทรงปอกเปลือกมะม่วงแล้วใส่น้ำตาลกรวดลงไป ขยำด้วยพระองค์เอง แล้วได้ถวายพระเถระจนเต็มบาตร.
พระเถระออกจากพระราชนิเวศน์ ไปยังโรงฉัน แล้วได้ให้แก่สามเณร โดยกล่าวว่า เธอจงนำรสมะม่วงนั้นไปให้มารดาของเธอ.
ราหุลสามเณรนั้นได้นำไปถวายแล้ว.
พอพระเถรีบริโภคแล้วเท่านั้น โรคลมในท้องก็สงบ.