SlideShare a Scribd company logo
1 of 33
การเขียนรายงานการวิจัย
โดย
ร.ศ. ดร.ประพนธ์ เจียรกูล
ผู้ทรงคุณวุฒิ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
รูปแบบการนาเสนอผลการวิจัย
• 1. ดุษฎีนิพนธ์ หรือ วิทยานิพนธ์ (Dissertation or Thesis)
• 2. รายงานการวิจัยของหน่วยงาน (Research Report)
• 3. บทสรุปสาหรับผู้บริหาร (Executive Summary)
• 4. บทความวิจัย (Research Article)
• 5. บทคัดย่อ (Abstract)
• 6. ความย่อ (Synopsis)
ดุษฎีนิพนธ์ หรือ วิทยานิพนธ์
• มีรูปแบบเคร่งครัดตามที่กาหนดโดยสถาบันการศึกษานั้น ๆ
• ถ้าเป็นการวิจัยเชิงปริมาณมักจะกาหนดให้ประกอบด้วย 5 บท
• ถ้าเป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ ไม่ได้กาหนดจานวนบทตายตัว อาจจะมี
มากกว่า 5 บทก็ได้
รายงานการวิจัยของหน่วยงาน
• ไม่กาหนดรูปแบบเคร่งครัดเหมือนดุษฎีนิพนธ์หรือวิทยานิพนธ์ อาจมี 5
บทเหมือนดุษฎีนิพนธ์หรือวิทยานิพนธ์ก็ได้ หรืออาจมีแค่ 4 บท โดยเอา
บทที่ 2 ปรับรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของบทที่ 1 ก็ได้ ซึ่งจะกลายเป็น
หัวข้อ “แนวคิด ทฤษฎี และผลการวิจัยที่เกี่ยวข้อง” อยู่หลังหัวข้อ
“วัตถุประสงค์การวิจัย” หรือ “สมมติฐานการวิจัย (ถ้ามี)
บทสรุปสาหรับผู้บริหาร
• เนื่องจากผู้บริหารไม่ค่อยมีเวลามาก จึงไม่สามารถอ่านงานวิจัยฉบับ
สมบูรณ์ได้ ดังนั้นจึงต้องทาบทสรุปสาหรับให้ผู้บริหารอ่าน มีความยาว
ประมาณ 3 – 5 หน้า โดยเน้นการนาเสนอผลการค้นพบของงานวิจัย
ฉบับนั้น เพื่อให้ผู้บริหารได้อ่านและนาไปพิจารณาใช้ประโยชน์สาหรับ
การบริหารงาน
บทความวิจัย
• เป็นการนาเสนอผลการวิจัยในรูปของบทความเพื่อนาลงในวารสาร การ
เขียนบทความวิจัยมีความสาคัญมาก เพราะเป็นการเผยแพร่
ผลการวิจัยสู่ผู้อ่านอย่างกว้างขวาง มักมีความยาวตั้งแต่ 8 ถึง 15
หน้า และต้องประกอบด้วยหัวข้อตามที่กาหนดไว้ในวารสารนั้น ๆ
บทคัดย่อ
• คือข้อความที่เป็นการสรุปย่องานวิจัยเรื่องนั้น มักจะปรากฏในตอนหน้า
ของดุษฎีนิพนธ์หรือวิทยานิพนธ์ หรือรายงานการวิจัยฉบับสมบูรณ์
• บทคัดย่อทาหน้าที่รายงานผลการวิจัยเรื่องนั้น ๆ อย่างย่อ ๆ เพื่อให้ผู้
ค้นคว้าได้ “ชิม” ว่า งานวิจัยเรื่องนั้นตรงกับที่ตนต้องการหรือไม่ หาก
ตรง ก็จะได้อ่านงานวิจัยให้ละเอียดทั้งเล่ม หากไม่ตรง ก็ผ่านเลยไป
• มหาวิทยาลัยแต่ละแห่งจะนาบทคัดย่อวิทยานิพนธ์ที่ปรากฏในแต่ละปี
มารวมพิมพ์เป็นเล่ม เรียกว่า รวมบทคัดย่อวิทยานิพนธ์/ดุษฎีนิพนธ์ ซึ่ง
จะเป็นเอกสารช่วยให้ค้นคว้าผลงานวิจัยตามที่ผู้อ่านต้องการ
ความย่อ
• ความย่อหรือ Synopsis เป็นบทคัดย่อที่เขียนไว้อย่างสั้นมาก มักจะ
ปรากฏเป็นส่วนหนึ่งของบทความวิจัย มักจะมีความยาว 4 – 5
บรรทัดเท่านั้น ทาหน้าที่เช่นเดียวกับบทคัดย่อที่ปรากฏในวิทยานิพนธ์
หรือรายงานการวิจัย คือให้สาระย่อของบทความวิจัยเรื่องนั้น เพื่อผู้อ่าน
จะได้ตัดสินใจว่าสมควรอ่านรายละเอียดของบทความนั้น หรือผ่านเลย
ไป
ส่วนประกอบและวิธีเขียนรายงานการวิจัยเชิงปริมาณ
• รายงานการวิจัยในที่นี้หมายถึงดุษฎีนิพนธ์ วิทยานิพนธ์ หรือรายงาน
การวิจัยของหน่วยงาน ที่เป็นงานวิจัยเชิงปริมาณ และมีเนื้อหา
ประกอบด้วย 5 บท รายงานวิจัยดังกล่าวประกอบด้วย 3 ส่วน คือ
1. ส่วนนา
2. ส่วนเนื้อเรื่อง
3. ส่วนอ้างอิง
มีรายละเอียดดังนี้
ส่วนนาของรายงานการวิจัยเชิงปริมาณ
ส่วนนาของรายงานการวิจัยเชิงปริมาณประกอบด้วยองค์ประกอบ
ดังต่อไปนี้
1. ปกนอก (Cover)
2. ปกในหรือหน้าชื่อเรื่อง (Title Page) เป็นหน้าสาคัญที่สุดของ
รายงานการวิจัย บางมหาวิทยาลัยให้แยกหน้าชื่อเรื่องภาษาไทย และ Title
Page ออกจากกัน
3. บทคัดย่อ เป็นการเขียนที่สรุปความเกี่ยวกับงานวิจัยเรื่องนั้น
เป็นภาษาไทยอย่างย่อ ๆ โดยมีเนื้อหาตามรูปแบบที่กาหนด
ส่วนนา (ต่อ)
4. Abstract เป็นบทคัดย่อที่แปลเป็นภาษาอังกฤษ อยู่คนละหน้า
กับบทคัดย่อภาษาไทย
5. คานา (Preface) เป็นข้อความที่ผู้วิจัยบอกให้ผู้อ่านทราบถึง
ที่มาหรือมูลเหตุจูงใจให้ทาวิจัยเรื่องนั้น
6. กิตติกรรมประกาศ (Acknowledgement) เป็นข้อความแสดง
ความขอบคุณแก่หน่วยงานหรือบุคคลที่มีส่วนช่วยให้ผู้วิจัยทางานวิจัยได้
สาเร็จ
7. สารบัญ (Table of Contents)
ส่วนนา (ต่อ)
8. สารบัญตาราง (List of Tables) คือการนาเสนอตารางที่ปรากฏ
ในรายงานการวิจัย พร้อมด้วยการระบุหน้าซึ่งตารางนั้นปรากฏ
9. สารบัญภาพ (List of Figures) คือการนาเสนอแผนภูมิ
แผนภาพ หรือกราฟ หรือภาพประกอบที่ปรากฏในรายงานการวิจัย พร้อม
ด้วยการระบุหน้าซึ่งสิ่งเหล่านั้นปรากฏ
การระบุหน้าของส่วนนา นิยมระบุเป็นตัวอักษร ไม่ใช่ตัวเลข
ส่วนเนื้อเรื่องของรายงานการวิจัยเชิงปริมาณ
เป็นส่วนสาคัญที่สุดของรายงานการวิจัย เพราะเป็นส่วนนาเสนอ
รายละเอียดของการวิจัย มักจะแบ่งออกเป็น 5 บท ดังนี้
บทที่ 1 บทนา
บทที่ 2 เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง (หรือ วรรณกรรมที่
เกี่ยวข้อง)
บทที่ 3 วิธีดาเนินการวิจัย
บทที่ 4 ผลการวิเคราะห์ข้อมูล
บทที่ 5 สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ
การเขียนบทที่ 1 บทนา
การเขียนบทที่ 1 บทนา ประกอบด้วยการเขียนหัวข้อดังต่อไปนี้
1. ความเป็นมาและความสาคัญของปัญหาที่ทาการวิจัย เป็น
การกล่าวถึงภูมิหลังและที่มาของปัญหาที่จะทาการวิจัย แล้วชี้ให้เห็นความ
จาเป็นที่ต้องทาการวิจัยเรื่องนี้นิยมเขียนในลักษณะของหลักการและ
เหตุผล แล้วขมวดหรือเชื่อมโยงมาสู่วัตถุประสงค์การวิจัย
2. วัตถุประสงค์ของการวิจัย เขียนนาเสนอเป็นข้อ ๆ
3. สมมติฐานการวิจัย (ถ้ามี) ในงานวิจัยที่จาเป็นต้องมีการ
ตั้งสมมติฐาน ให้เขียนสมมติฐานเป็นข้อ ๆ
การเขียนบทนา (ต่อ)
4. ขอบเขตของการวิจัย เป็นการกาหนดขอบเขตของเรื่องที่
ต้องการวิจัย มักนิยมกาหนดขอบเขตไว้ 4 ประเด็น คือ
(1) ประชากร หรือกลุ่มเป้ าหมายของการวิจัย ให้ระบุ
ประชากรของการวิจัย แต่อย่าระบุกลุ่มตัวอย่าง เพราะกลุ่มตัวอย่างจะไป
พูดถึงในบทที่ 3
(2) เนื้อหาของการวิจัย
(3) ตัวแปรที่เกี่ยวข้อง
(4) ระยะเวลาที่ทาการวิจัย
การเขียนบทนา (ต่อ)
5. ข้อตกลงเบื้องต้น (ถ้ามี) เป็นการทาความเข้าใจกับผู้อ่าน
เกี่ยวกับเงื่อนไขบางประการของการทาวิจัย
6. ข้อจากัดของการวิจัย (ถ้ามี) เป็นการทาความกระจ่างแก่
ผู้อ่านเกี่ยวกับข้อจากัดของการทาวิจัย ซึ่งอาจส่งผลให้การวิจัยไม่ได้ผล
เต็มที่อย่างที่คาดเอาไว้
7. นิยามศัพท์ นิยามคาศัพท์สาคัญที่เกี่ยวข้องในงานวิจัยเพื่อให้
ผู้อ่านเข้าใจตรงกับผู้วิจัย การนิยามมักให้ทั้งนิยามเชิงความหมาย และ
นิยามเชิงปฏิบัติการ
การเขียนบทนา (ต่อ)
8. ประโยชน์ที่(คาดว่าจะ)ได้รับจากการวิจัย เขียนประโยชน์ที่
ได้รับหรือคาดว่าจะได้รับจากการวิจัยซึ่งประกอบด้วยประโยชน์โดยตรง
และประโยชน์สืบเนื่อง ให้เขียนเป็นข้อ ๆ โดยเริ่มจากประโยชน์โดยตรงก่อน
การเขียนบทที่ 2 เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
การเขียนบทนี้เป็นการให้ความกระจ่างกับผู้อ่านเกี่ยวกับเรื่องที่ทา
การวิจัย โดยมักจะครอบคลุมเนื้อหาต่อไปนี้
(1) ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับเรื่องที่วิจัย
(2) ทฤษฎีที่รองรับหรือเกี่ยวข้องกับเรื่องที่วิจัย
(3) แนวปฏิบัติเกี่ยวกับเรื่องที่วิจัย (ถ้ามี)
(4) ผลการวิจัยที่เกี่ยวข้องทั้งจากต่างประเทศและภายในประเทศ
ถ้าเขียนบทที่ 2 ได้ดี จะทาให้การอภิปรายผลในบทที่ 5 ลึกซึ้ง
ยิ่งขึ้น
การเขียนบทที่ 3 วิธีดาเนินการวิจัย
เป็นรายละเอียดที่จะบอกให้ผู้อ่านทราบว่าผู้วิจัยทาการวิจัยตาม
ขั้นตอนการวิจัยอย่างไร หัวข้อสาคัญที่ควรมีในบทนี้มีดังต่อไปนี้
1. รูปแบบการวิจัย หรือ แบบแผนการวิจัย ให้ระบุว่างานวิจัยเรื่องนี้
เป็นการวิจัยประเภทใด และมีแบบแผนการวิจัยอย่างไร
2. ขั้นตอนการวิจัย เสนอรายละเอียดของขั้นตอนการวิจัยซึ่งถูก
กาหนดโดยแบบแผนการวิจัยโดยอธิบายขั้นตอนเป็นข้อ ๆ
3. ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง เขียนเป็นสองย่อหน้า ย่อหน้าแรก
ระบุประชากรของการวิจัย ย่อหน้าที่สองระบุกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย โดย
ต้องระบุขนาดของกลุ่มตัวอย่าง และวิธีการที่ใช้ในการเลือกกลุ่มตัวอย่าง
การเขียนบทที่ 3 (ต่อ)
4. เครื่องมือการวิจัย ระบุเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยทุกอย่าง
สาหรับงานวิจัยเชิงทดลองมีเครื่องมือสองประเภท คือ เครื่องมือทดลอง
และเครื่องมือรวบรวมข้อมูล ส่วนงานวิจัยเชิงพรรณนามีเครื่องมือประเภท
เดียว คือ เครื่องมือรวบรวมข้อมูล ซึ่งอาจใช้เครื่องมือหลายอย่าง ขึ้นอยู่กับ
ตัวแปรตาม
ในการกล่าวถึงเครื่องมือแต่ละชนิดจะต้องกล่าวสองอย่างเสมอ
คือ (1) เครื่องมือนั้นมีลักษณะอย่างไร (ตัวอย่างเครื่องมือต้องปรากฏใน
ภาคผนวก) และ (2) เครื่องมือนั้นได้มาอย่างไร ถ้าเอาเครื่องมือที่ผู้อื่นพัฒนาขึ้น
ต้องรายงานข้อมูลคุณภาพเครื่องมือ ถ้าผู้วิจัยพัฒนาเครื่องมือขึ้นเองต้องระบุขั้นตอน
ของการพัฒนาและตรวจสอบคุณภาพเครื่องมือนั้น ๆ
การเขียนบทที่ 3 (ต่อ)
5. การเก็บรวบรวมข้อมูล ระบุวิธีการที่ใช้ในการเก็บรวบรวม
ข้อมูล ว่าใช้วิธีการใด และอย่างไร
(การเขียนข้อนี้อย่าให้สับสนกับการเขียนขั้นตอนการวิจัย)
6. การวิเคราะห์ข้อมูล ระบุวิธีการวิเคราะห์ข้อมูลและสถิติที่ใช้
ในการวิเคราะห์ข้อมูล
ปัจจุบันนี้ไม่จาเป็นต้องเสนอสูตรการคานวณทางสถิติ เพราะ
มักจะทาการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยคอมพิวเตอร์ แต่ควรระบุนัยสาคัญของ
การทดสอบสมมติฐานไว้ล่วงหน้า
การเขียนบทที่ 4 ผลการวิเคราะห์ข้อมูล
1. แบ่งการนาเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูลออกเป็นตอน ๆ ตาม
วัตถุประสงค์ของการวิจัย
2. ในงานวิจัยเชิงพรรณนา ควรนาเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูล
กลุ่มตัวอย่างด้วย
3. ในการนาเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูลในแต่ละตอน ควรทาดังนี้
(1) มีการบรรยายนาก่อนเล็กน้อย
(2) มีการแนะนาตารางก่อนการนาเสนอตาราง
(3) มีการบรรยายเพื่อตีความหมายของข้อมูลในตาราง
การเขียนบทที่ 5 การสรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ
บทนี้มีหัวข้อ 4 หัวข้อ และมีแนวทางการเขียนดังนี้
1. สรุปการวิจัย เป็นการสรุปกิจกรรมการวิจัยทั้งหมด ซึ่งมักจะประกอบด้วยหัวข้อย่อยสาคัญ ๆ
คือ วัตถุประสงค์การวิจัย ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง เครื่องมือการวิจัย การเก็บรวบรวมข้อมูล และการ
วิเคราะห์ข้อมูล
2. สรุปผลการวิจัย นาเสนอผลการวิจัยที่ได้จากบทที่ 4 เป็นข้อ ๆ
3. อภิปรายผล เป็นหัวข้อที่สาคัญที่สุดของบทที่ 5 เพราะเป็นการแสดงภูมิปัญญาของผู้วิจัย
การอภิปรายทาได้ในสองแนวทาง คือ
(1) ผลการวิจัยดังกล่าวหมายความว่าอย่างไร ทาไมจึงเป็นเช่นนั้น
(2) ผลการวิจัยดังกล่าวสอดคล้องหรือขัดแย้งกับผลการวิจัยในอดีตของนักวิจัยผู้
ใดบ้าง
4. ข้อเสนอแนะ นิยมเขียนโดยแบ่งเป็นสองหัวข้อ คือ
(1) ข้อเสนอแนะเพื่อใช้ประโยชน์จากผลการวิจัย
(2) ข้อเสนอแนะเพื่อการวิจัยต่อไป
ส่วนอ้างอิงของรายงานการวิจัยเชิงปริมาณ
มักจะประกอบด้วยสององค์ประกอบหรือหัวข้อ คือ
1. บรรณานุกรม (Bibliography)
2. ภาคผนวก (Appendice)
งานวิจัยที่เป็นวิทยานิพนธ์หรือดุษฎีนิพนธ์มักจะมีการเสนอประวัติ
ย่อของผู้เขียนต่อท้ายไว้ด้วย
การเขียนบรรณานุกรมและภาคผนวก
การเขียนบรรณานุกรม ต้องเขียนตามรูปแบบที่มหาวิทยาลัยแต่
ละแห่งกาหนด ในกรณีที่ไม่ได้มีการกาหนดรูปแบบไว้ ควรยึดรูปแบบใด
รูปแบบหนึ่ง
สาหรับบรรณนานุกรมภาษาอังกฤษ มักยึดรูปแบบของ American
Psychological Association (APA)
การเขียนภาคผนวก อาจทาเป็นภาคผนวกเดียวหรือหลาย
ภาคผนวกก็ได้ สิ่งที่ปรากฏในภาคผนวกมักจะได้แก่ ตัวอย่างเครื่องมือ
หลักฐานคุณภาพของเครื่องมือ และข้อมูลบางอย่างที่ผู้วิจัยไม่ประสงค์จะ
ให้ปรากฏในเนื้อหาภายใน
การเขียนรายงานการวิจัยเชิงคุณภาพ
รายงานการวิจัยเชิงคุณภาพมีส่วนประกอบที่แบ่งเป็นส่วนนา ส่วนเนื้อเรื่อง และส่วน
อ้างอิง เหมือนรายงานการวิจัยเชิงปริมาณ แต่ความแตกต่างอยู่ที่รายละเอียดของส่วนเนื้อเรื่อง
กล่าวคือ
1. เนื้อหาของการวิจัยเชิงคุณภาพไม่จาเป็นต้องแบ่งเป็น 5 บท อาจมีมากกว่า 5 บทก็
ได้
2. เนื้อหาอาจประกอบด้วยบทต่อไปนี้
(1) บทที่กล่าวถึงความเป็นมาของเรื่องที่วิจัย วัตถุประสงค์ และวิธีการวิจัย
(2) บทที่กล่าวถึงวรรณกรรมที่เกี่ยวข้อง ซึ่งรวมถึง แนวคิด ทฤษฎี และ
ผลการวิจัยที่เกี่ยวข้อง (อาจมีหรือไม่มีก็ได้)
(3) บทต่าง ๆ ที่รายงานผลการวิจัย ซึ่งมีหลายบท
(4) บทสรุปและอภิปรายผล
ตัวอย่างงานวิจัยเชิงคุณภาพ
งานวิจัยเรื่อง ความเชื่อเรื่องฮวงจุ้ยในวิถีชีวิตของคนไทยเชื้อสาย
จีนในกรุงเทพมหานคร (ณัฐธิดา สุขมนัส 2539)
บทที่ 1 บทนา
บทที่ 2 ประวัติความเป็นมาของชาวจีนในประเทศไทย
บทที่ 3 ชุมชนชาวไทยเชื้อสายจีนในย่านสาเพ็ง-เยาวราช
กรุงเทพมหานคร
บทที่ 4 ศาสนา ความเชื่อ และพิธีกรรมของชาวจีน
บทที่ 5 ฮวงจุ้ย ความเชื่อเกี่ยวกับการพยากรณ์ของชาวจีน
บทที่ 6 การใช้สัญลักษณ์ทางฮวงจุ้ยเพื่ออาคารที่อยู่อาศัย
บทที่ 7 สรุปผลการวิจัย อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ
การเขียนบทความวิจัย
การเขียนบทความวิจัยเพื่อส่งไปลงในวารสารต่าง ๆ ควรศึกษา
ข้อกาหนดของวารสารนั้น ๆ เกี่ยวกับรูปแบบ (Format) และหัวข้อที่จะต้อง
ปรากฏในบทความ โดยทั่วไป บทความมักประกอบด้วยองค์ประกอบ
ต่อไปนี้
1. ชื่อบทความ
2. ชื่อผู้เขียน มักจะให้บอกสถาบันที่สังกัด และ e-mail address
3. บทคัดย่อ และ/หรือ Abstract ซึ่งมักเป็นแบบย่อหน้าเดียว หรือ
Synopsis
การเขียนบทความวิจัย (ต่อ)
4. คานา หรือ ความเป็นมาและความสาคัญของปัญหา
5. วัตถุประสงค์ของการวิจัย
6. ระเบียบวิธีการวิจัย หรือ วิธีการวิจัย
7. ผลการวิจัย
8. อภิปรายผล
9. เอกสารอ้างอิง หรือบรรณานุกรม
10. ภาคผนวก (อาจมีหรือไม่มีก็ได้)
การเขียนบทคัดย่อ (Abstract)
บทคัดย่อประกอบด้วย 3 ส่วน คือ
1. ส่วนหัว ซึ่งจะต้องพิมพ์ตามรูปแบบและเนื้อหาตามที่แต่ละสถาบัน
กาหนด
2. ส่วนเนื้อหา เป็นเนื้อหาของบทคัดย่อ ซึ่งแบ่งเป็น 3 แบบ คือ
(1) แบบ 5 ย่อหน้า
(2) แบบ 4 ย่อหน้า
(3) แบบ 3 ย่อหน้า นิยมมากที่สุด
3. ส่วนช่วยการค้นหา ได้แก่ คาสาคัญ (Keywords)
การเขียนเนื้อหาบทคัดย่อ
การเขียนบทคัดย่อแบบ 5 ย่อหน้า
ย่อหน้าที่ 1 ระบุหลักการหรือความสาคัญของเรื่องที่วิจัย
ย่อหน้าที่ 2 ระบุวัตถุประสงค์ของการวิจัย
ย่อหน้าที่ 3 ระบุระเบียบวิธีการวิจัย ซึ่งประกอบด้วย กลุ่มตัวอย่าง
เครื่องมือการวิจัย และการวิเคราะห์ข้อมูล
ย่อหน้าที่ 4 ระบุผลการวิจัย โดยนาเสนอเป็นข้อ ๆ
ย่อหน้าที่ 5 ระบุการอภิปรายผลและข้อเสนอแนะ
การเขียนเนื้อหาบทคัดย่อ (ต่อ)
การเขียนบทคัดย่อแบบ 4 ย่อหน้า
ตัดย่อหน้าแรกออก ดังนั้นจึงเหลือแต่ย่อหน้าที่กล่าวถึง
วัตถุประสงค์การวิจัย ระเบียบวิธีการวิจัย ผลการวิจัย และการอภิปรายผล
หรือข้อเสนอแนะ
การเขียนบทคัดย่อแบบ 3 ย่อหน้า
ตัดย่อหน้าแรกและย่อหน้าสุดท้ายออก ดังนั้นจึงเหลือแต่ย่อหน้าที่
กล่าวถึง วัตถุประสงค์การวิจัย ระเบียบวิธีการวิจัย และผลการวิจัย
การเขียนคาสาคัญของบทคัดย่อ
คาสาคัญ คือคาที่จะช่วยให้ผู้คนคว้าได้เข้าถึงบทคัดย่อเรื่องนี้ในการค้นด้วย
คอมพิวเตอร์ มีหลักในการเขียนคาสาคัญดังนี้
1. ในบทคัดย่อแต่ละเรื่อง ควรเสนอคาสาคัญหลาย ๆ คา เพื่ออานวยความสะดวกใน
การค้นคว้า นิยมเสนอมากถึง 5 คา
2. ต้องเสนอเป็นคา อย่าเสนอเป็นวลีหรือประโยค
3. คาที่เสนอต้องปรากฏในชื่อเรื่องหรือเนื้อหาของบทคัดย่อ

More Related Content

What's hot

งานธุรการโรงเรียน
งานธุรการโรงเรียนงานธุรการโรงเรียน
งานธุรการโรงเรียน
Sukanya Polratanamonkol
 
แบบฝึกภาษาไทยป.4 ตำที่มีตัวการันต์ (1)
แบบฝึกภาษาไทยป.4 ตำที่มีตัวการันต์ (1)แบบฝึกภาษาไทยป.4 ตำที่มีตัวการันต์ (1)
แบบฝึกภาษาไทยป.4 ตำที่มีตัวการันต์ (1)
Petsa Petsa
 
ตัวอย่างแผนการสอนคอมพิวเตอร์
ตัวอย่างแผนการสอนคอมพิวเตอร์ตัวอย่างแผนการสอนคอมพิวเตอร์
ตัวอย่างแผนการสอนคอมพิวเตอร์
srkschool
 
แบบประเมินผลชิ้นงาน
แบบประเมินผลชิ้นงานแบบประเมินผลชิ้นงาน
แบบประเมินผลชิ้นงาน
pacharawalee
 
รายงาน Power point
รายงาน Power pointรายงาน Power point
รายงาน Power point
Thank Chiro
 
ตัวอย่างโครงงานชนะเลิศ
ตัวอย่างโครงงานชนะเลิศตัวอย่างโครงงานชนะเลิศ
ตัวอย่างโครงงานชนะเลิศ
sariya25
 
10บรรณานุกรม
10บรรณานุกรม10บรรณานุกรม
10บรรณานุกรม
krupornpana55
 
5 ประชากร,กลุ่มตัวอย่าง
5 ประชากร,กลุ่มตัวอย่าง5 ประชากร,กลุ่มตัวอย่าง
5 ประชากร,กลุ่มตัวอย่าง
Nitinop Tongwassanasong
 

What's hot (20)

ใบงานอาหารและโภชนาการ
ใบงานอาหารและโภชนาการใบงานอาหารและโภชนาการ
ใบงานอาหารและโภชนาการ
 
งานธุรการโรงเรียน
งานธุรการโรงเรียนงานธุรการโรงเรียน
งานธุรการโรงเรียน
 
การเขียนรายงานทางวิชาการ ตอนที่ ๑
การเขียนรายงานทางวิชาการ ตอนที่ ๑การเขียนรายงานทางวิชาการ ตอนที่ ๑
การเขียนรายงานทางวิชาการ ตอนที่ ๑
 
แบบฝึกเสริมทักษะ ชุด มาตราตัวสะกด ป4
แบบฝึกเสริมทักษะ ชุด มาตราตัวสะกด ป4แบบฝึกเสริมทักษะ ชุด มาตราตัวสะกด ป4
แบบฝึกเสริมทักษะ ชุด มาตราตัวสะกด ป4
 
แบบฝึกภาษาไทยป.4 ตำที่มีตัวการันต์ (1)
แบบฝึกภาษาไทยป.4 ตำที่มีตัวการันต์ (1)แบบฝึกภาษาไทยป.4 ตำที่มีตัวการันต์ (1)
แบบฝึกภาษาไทยป.4 ตำที่มีตัวการันต์ (1)
 
หน่วย 1
หน่วย 1หน่วย 1
หน่วย 1
 
การใช้กระบวนการพยาบาลในการดูแลผู้ป่วยไตวายระยะสุดท้าย โดย ชัชวาล วงค์สารี
การใช้กระบวนการพยาบาลในการดูแลผู้ป่วยไตวายระยะสุดท้าย โดย ชัชวาล  วงค์สารีการใช้กระบวนการพยาบาลในการดูแลผู้ป่วยไตวายระยะสุดท้าย โดย ชัชวาล  วงค์สารี
การใช้กระบวนการพยาบาลในการดูแลผู้ป่วยไตวายระยะสุดท้าย โดย ชัชวาล วงค์สารี
 
ตัวอย่างแผนการสอนคอมพิวเตอร์
ตัวอย่างแผนการสอนคอมพิวเตอร์ตัวอย่างแผนการสอนคอมพิวเตอร์
ตัวอย่างแผนการสอนคอมพิวเตอร์
 
ใบความรู้ที่ 4 เรื่อง การวางแผนการทำโครงงาน
ใบความรู้ที่ 4 เรื่อง การวางแผนการทำโครงงานใบความรู้ที่ 4 เรื่อง การวางแผนการทำโครงงาน
ใบความรู้ที่ 4 เรื่อง การวางแผนการทำโครงงาน
 
วิธีการดูแลเท้าในผู้ป่วยเบาหวานในชุมชน
วิธีการดูแลเท้าในผู้ป่วยเบาหวานในชุมชนวิธีการดูแลเท้าในผู้ป่วยเบาหวานในชุมชน
วิธีการดูแลเท้าในผู้ป่วยเบาหวานในชุมชน
 
เสพติด Quiz
เสพติด Quizเสพติด Quiz
เสพติด Quiz
 
แนวทางการจัดการเรียนรู้ รายวิชาเพิ่มเติม "หน้าที่พลเมือง"
แนวทางการจัดการเรียนรู้ รายวิชาเพิ่มเติม "หน้าที่พลเมือง"แนวทางการจัดการเรียนรู้ รายวิชาเพิ่มเติม "หน้าที่พลเมือง"
แนวทางการจัดการเรียนรู้ รายวิชาเพิ่มเติม "หน้าที่พลเมือง"
 
แบบประเมินผลชิ้นงาน
แบบประเมินผลชิ้นงานแบบประเมินผลชิ้นงาน
แบบประเมินผลชิ้นงาน
 
รายงาน Power point
รายงาน Power pointรายงาน Power point
รายงาน Power point
 
วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา
วันสำคัญทางพระพุทธศาสนาวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา
วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา
 
ตัวอย่างโครงงานชนะเลิศ
ตัวอย่างโครงงานชนะเลิศตัวอย่างโครงงานชนะเลิศ
ตัวอย่างโครงงานชนะเลิศ
 
แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ ป.3
แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ ป.3แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ ป.3
แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ ป.3
 
10บรรณานุกรม
10บรรณานุกรม10บรรณานุกรม
10บรรณานุกรม
 
โครงร่างสัมมนา
โครงร่างสัมมนาโครงร่างสัมมนา
โครงร่างสัมมนา
 
5 ประชากร,กลุ่มตัวอย่าง
5 ประชากร,กลุ่มตัวอย่าง5 ประชากร,กลุ่มตัวอย่าง
5 ประชากร,กลุ่มตัวอย่าง
 

Viewers also liked

แนวการเขียนรายงายเชิงวิจัย
แนวการเขียนรายงายเชิงวิจัยแนวการเขียนรายงายเชิงวิจัย
แนวการเขียนรายงายเชิงวิจัย
witthaya601
 
นำเสนองานวิจัย
นำเสนองานวิจัยนำเสนองานวิจัย
นำเสนองานวิจัย
guest98fad3
 
T distribution
T distributionT distribution
T distribution
noinasang
 
ความหมายและความสำคัญของโครงงาน
ความหมายและความสำคัญของโครงงานความหมายและความสำคัญของโครงงาน
ความหมายและความสำคัญของโครงงาน
Pawarit Jitakul
 
Confidence Intervals And The T Distribution
Confidence Intervals And The T   DistributionConfidence Intervals And The T   Distribution
Confidence Intervals And The T Distribution
Darren Barton
 
ความหมายและความสำคัญของโครงงาน
ความหมายและความสำคัญของโครงงานความหมายและความสำคัญของโครงงาน
ความหมายและความสำคัญของโครงงาน
Freshsica Chunyanuch
 
9 รูปแบบการวิจัย
9 รูปแบบการวิจัย9 รูปแบบการวิจัย
9 รูปแบบการวิจัย
guest9e1b8
 
หน้าปก บทคัดย่อ สารบัญ ภาคผนวก บรรณานุกรม Is
หน้าปก บทคัดย่อ สารบัญ ภาคผนวก บรรณานุกรม Isหน้าปก บทคัดย่อ สารบัญ ภาคผนวก บรรณานุกรม Is
หน้าปก บทคัดย่อ สารบัญ ภาคผนวก บรรณานุกรม Is
Sasiyada Promsuban
 
ตัวอย่างบทคัดย่อ
ตัวอย่างบทคัดย่อตัวอย่างบทคัดย่อ
ตัวอย่างบทคัดย่อ
sukanya5729
 

Viewers also liked (20)

แนวการเขียนรายงายเชิงวิจัย
แนวการเขียนรายงายเชิงวิจัยแนวการเขียนรายงายเชิงวิจัย
แนวการเขียนรายงายเชิงวิจัย
 
โครงร่างวิทยานิพนธ์ถ่ายภาพปริญญาตรี
โครงร่างวิทยานิพนธ์ถ่ายภาพปริญญาตรีโครงร่างวิทยานิพนธ์ถ่ายภาพปริญญาตรี
โครงร่างวิทยานิพนธ์ถ่ายภาพปริญญาตรี
 
บท1 5 เรื่องเทคนิคการถ่ายภาพและตัดต่อภาพถ่าย
บท1 5 เรื่องเทคนิคการถ่ายภาพและตัดต่อภาพถ่ายบท1 5 เรื่องเทคนิคการถ่ายภาพและตัดต่อภาพถ่าย
บท1 5 เรื่องเทคนิคการถ่ายภาพและตัดต่อภาพถ่าย
 
นำเสนองานวิจัย
นำเสนองานวิจัยนำเสนองานวิจัย
นำเสนองานวิจัย
 
กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีสารสนเทศ
กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีสารสนเทศ กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีสารสนเทศ
กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีสารสนเทศ
 
การเขียนรายงานผลการวิจัย
การเขียนรายงานผลการวิจัยการเขียนรายงานผลการวิจัย
การเขียนรายงานผลการวิจัย
 
T distribution
T distributionT distribution
T distribution
 
ความหมายและความสำคัญของโครงงาน
ความหมายและความสำคัญของโครงงานความหมายและความสำคัญของโครงงาน
ความหมายและความสำคัญของโครงงาน
 
T distribution | Statistics
T distribution | StatisticsT distribution | Statistics
T distribution | Statistics
 
Confidence Intervals And The T Distribution
Confidence Intervals And The T   DistributionConfidence Intervals And The T   Distribution
Confidence Intervals And The T Distribution
 
ระดับของภาษา
ระดับของภาษาระดับของภาษา
ระดับของภาษา
 
ความหมายและความสำคัญของโครงงาน
ความหมายและความสำคัญของโครงงานความหมายและความสำคัญของโครงงาน
ความหมายและความสำคัญของโครงงาน
 
หน้าปกคำนำสารบัญ
หน้าปกคำนำสารบัญหน้าปกคำนำสารบัญ
หน้าปกคำนำสารบัญ
 
9 รูปแบบการวิจัย
9 รูปแบบการวิจัย9 รูปแบบการวิจัย
9 รูปแบบการวิจัย
 
ปกคำนำสารบัญ
ปกคำนำสารบัญปกคำนำสารบัญ
ปกคำนำสารบัญ
 
ปก
ปกปก
ปก
 
Proposal ict2
Proposal ict2Proposal ict2
Proposal ict2
 
หน้าปก บทคัดย่อ สารบัญ ภาคผนวก บรรณานุกรม Is
หน้าปก บทคัดย่อ สารบัญ ภาคผนวก บรรณานุกรม Isหน้าปก บทคัดย่อ สารบัญ ภาคผนวก บรรณานุกรม Is
หน้าปก บทคัดย่อ สารบัญ ภาคผนวก บรรณานุกรม Is
 
ตัวอย่างบทคัดย่อ
ตัวอย่างบทคัดย่อตัวอย่างบทคัดย่อ
ตัวอย่างบทคัดย่อ
 
การเขียนโครงร่าง
การเขียนโครงร่างการเขียนโครงร่าง
การเขียนโครงร่าง
 

Similar to การเขียนรายงานการวิจัย

Ppt1ความเรียงขั้นสูง
Ppt1ความเรียงขั้นสูงPpt1ความเรียงขั้นสูง
Ppt1ความเรียงขั้นสูง
Attaporn Saranoppakun
 
โครงงานคอม ใบท 6
โครงงานคอม ใบท  6โครงงานคอม ใบท  6
โครงงานคอม ใบท 6
StampPamika
 
การเขียนบทความวิจัย
การเขียนบทความวิจัยการเขียนบทความวิจัย
การเขียนบทความวิจัย
Prachyanun Nilsook
 
Cแนะแนว
CแนะแนวCแนะแนว
Cแนะแนว
yutict
 

Similar to การเขียนรายงานการวิจัย (20)

Km การตีพิมพ์บทความวิจัย cs mju 05 01-58 v2
Km การตีพิมพ์บทความวิจัย cs mju 05 01-58 v2Km การตีพิมพ์บทความวิจัย cs mju 05 01-58 v2
Km การตีพิมพ์บทความวิจัย cs mju 05 01-58 v2
 
01
0101
01
 
01
0101
01
 
Km1
Km1Km1
Km1
 
Outline
OutlineOutline
Outline
 
การเขียนรายงาน
การเขียนรายงานการเขียนรายงาน
การเขียนรายงาน
 
Ppt1ความเรียงขั้นสูง
Ppt1ความเรียงขั้นสูงPpt1ความเรียงขั้นสูง
Ppt1ความเรียงขั้นสูง
 
โครงงานคอม ใบท 6
โครงงานคอม ใบท  6โครงงานคอม ใบท  6
โครงงานคอม ใบท 6
 
โครงงานคอม ใบท 6
โครงงานคอม ใบท  6โครงงานคอม ใบท  6
โครงงานคอม ใบท 6
 
4 การทบทวนเอกสาร
4 การทบทวนเอกสาร4 การทบทวนเอกสาร
4 การทบทวนเอกสาร
 
Academic article
Academic articleAcademic article
Academic article
 
การเขียนบทความวิจัย
การเขียนบทความวิจัยการเขียนบทความวิจัย
การเขียนบทความวิจัย
 
ตัวอย่างการทำslide
ตัวอย่างการทำslideตัวอย่างการทำslide
ตัวอย่างการทำslide
 
การเขียนบทความวิจัย บุรีรัมย์ ๙ พค ๒๕๕๔
การเขียนบทความวิจัย บุรีรัมย์ ๙  พค ๒๕๕๔การเขียนบทความวิจัย บุรีรัมย์ ๙  พค ๒๕๕๔
การเขียนบทความวิจัย บุรีรัมย์ ๙ พค ๒๕๕๔
 
Cแนะแนว
CแนะแนวCแนะแนว
Cแนะแนว
 
Research1
Research1Research1
Research1
 
Review literature in nursing
Review literature in nursingReview literature in nursing
Review literature in nursing
 
Km1
Km1Km1
Km1
 
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับรายงาน
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับรายงานความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับรายงาน
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับรายงาน
 
07 final exam
07 final exam07 final exam
07 final exam
 

More from noinasang (20)

Normal dis
Normal disNormal dis
Normal dis
 
Mogan
MoganMogan
Mogan
 
17 การวัดการกระจายของข้อมูล
17 การวัดการกระจายของข้อมูล17 การวัดการกระจายของข้อมูล
17 การวัดการกระจายของข้อมูล
 
15 anova
15 anova15 anova
15 anova
 
12 sampling
12 sampling12 sampling
12 sampling
 
10 f test
10 f test10 f test
10 f test
 
9
99
9
 
8
88
8
 
7
77
7
 
6
66
6
 
4
44
4
 
3
33
3
 
1 สถิติ (statistics)
1 สถิติ (statistics)1 สถิติ (statistics)
1 สถิติ (statistics)
 
T distribution
T distributionT distribution
T distribution
 
Normal dis
Normal disNormal dis
Normal dis
 
Mogan
MoganMogan
Mogan
 
17 การวัดการกระจายของข้อมูล
17 การวัดการกระจายของข้อมูล17 การวัดการกระจายของข้อมูล
17 การวัดการกระจายของข้อมูล
 
15 anova
15 anova15 anova
15 anova
 
12 sampling
12 sampling12 sampling
12 sampling
 
10 f test
10 f test10 f test
10 f test
 

การเขียนรายงานการวิจัย