More Related Content
Similar to วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา
Similar to วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา (20)
วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา
- 2. วันมาฆบูชา
ตรงกับวันขึ้น ๑๕ ค่า เดือน ๓
วันมาฆบูชา ค่ำ ว่ำ “มาฆะ” ย่อมำจำกคำ ว่ำ “มาฆบูรณมี” หมำยถึง กำรบูชำพระในวัน
เพ็ญกลำงเดือนมำฆะตำมปฏิทนิของอินเดีย หรือเดือน ๓ คือ การบูชาในวันขึ้น ๑๕ ค่า เดือน ๓ ถ้าปี
ใดมีเดือน ๘ สองหนก็เลื่อนไปเป็นวันขึ้น ๑๕ ค่า เดือน ๔
- 4. เป็นวันที่มีการประชุมครัง้ใหญ่ (จาตุรงคสันนิบาต) อันมีความมหัศจรรย์ 4 ประการ ในครัง้พุทธกาล
กล่าวคือ
๑. พระสงฆ์ ๑,๒๕๐ รูป มาประชุมพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย มาจากที่ต่างๆกัน
เพื่อสักการะ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่เวฬุวันวิหาร ในกรุงราชคฤห์เมืองมคธ
๒. พระสงฆ์ ๑,๒๕๐ รูปท่านเหล่านั้นล้วนได้รับอุปสมบทจากพระพุทธเจ้า เป็น
เอหิภิกขุอุปสัมปทา
๓. พระสงฆ์ ๑,๒๕๐ รูปท่านเหล่านั้นล้วนเป็นพระอรหันต์
๔. วันที่ประชุมเป็นวันเพ็ญกลางเดือนมาฆะ หรือเดือน ๓ เป็นวันที่พระพุทธเจ้าได้
ทรงแสดงธรรมเทศนา อันเป็นหัวใจของพระพุทธศาสนา คือ โอวาทปาติโมกข์
กลุ่มป่าไผ่ร่มรื่น ในกลุ่มโบราณสถานวัด
เวฬุวันมหาวิหาร สถานที่พระพุทธองค์
ทรงแสดงโอวาทปาฏิโมกข์
- 6. การถือปฏิบัติวันมาฆบูชาในประเทศไทย
พิธีวันมาฆบูชานี้ เดิมทีเดียวในประเทศไทยไม่เคยทา มาก่อน พระบาทสมเด็จพระ
จุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงอธิบายไว้ว่าเกิดขึ้นในสมัย พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาล
ที่ ๔ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ โดยทรงถือตามแบบของโบราณบัณฑิตที่ได้นิยมกันว่า วันมาฆะบูรณมี
พระจันทร์เสวยฤกษ์มาฆะเต็มบริบูรณ์เป็นวันที่พระอรหันต์สาวกของ พระพุทธเจ้า ๑,๒๕๐ รูป ได้
ประชุมกันพร้อมด้วยองค์ ๔ ประการ เรียกว่า จาตุรงคสันนิบาตพระพุทธเจ้าได้ตรัสเทศนา
โอวาทปาติโมกข์ ในที่ประชุมสงฆ์เป็นการ ประชุมใหญ่ และเป็นการอัศจรรย์ในพระพุทธศาสนา
นักปราชญ์ จึงถือเอาเหตุนั้นประกอบ การสักการบูชาพระพุทธเจ้าและพระอรหันต์สาวก ๑,๒๕๐
รูปนั้น ให้เป็นที่ตั้งแห่งความ เลื่อมใสการประกอบพิธีมาฆะบูชา ได้เริ่มในพระบรมมหาราชวังก่อน
- 8. กิจกรรมเกี่ยวกับสถานศึกษา
ในสถำนศึกษำเป็นแหล่งเรียนรู้ที่สำ คัญอีกแห่ง โดยภำยในสถำนศึกษำควรมีกำรร่วมรำลึกถึง
รำลึกถึงควำมสำ คัญของวันมำฆบูชำ เช่น จัดนิทรรศกำรให้ควำมรู้ ประกวดเรียงควำม ตอบปัญหำธรรมะ
ธรรมะ บรรยำยธรรม หรือร่วมกันทำ บุญ ตักบำตร เวียนเทียน บำ เพ็ญกุศล อีกทงั้ประกำศเกียรติคุณ
นักเรียนผูท้ำ ประโยชน์ ประพฤตตินเป็นแบบอย่ำงที่ดี
กิจกรรมเกี่ยวกับสถานที่ทางาน
ควรประชำสัมพันธ์ในที่ทำ งำนและจัดให้มีกำรบรรยำยธรรม หรือร่วมบำ เพ็ญประโยชน์ร่วมกัน
ร่วมกัน ร่วมทำ บุญ บำ เพ็ญกุศลร่วมกัน
- 9. กิจกรรมเกี่ยวกับสังคม
ภำคส่วนต่ำงๆในสังคม ไม่ว่ำจะเป็น วัด มูลนิธิ สมำคม สื่อมวลชน สนำมบิน สถำนีรถไฟ ฯลฯ
ฯลฯ ควรช่วยกันประชำสัมพันธ์ควำมสำ คัญของวันมำฆบูชำ อำจเป็นกำรพิมพ์เอกสำรให้ควำมรู้ จัดให้มี
ให้มีกำรเขำ้ร่วมกิจกรรมทำงศำสนำร่วมกัน เช่น ทำ บุญตักบำตร ฟังธรรม ช่วยกันรณรงค์ให้เลิกอบำยมุข
อบำยมุข แต่รณรงค์ให้ช่วยกันทำ ประโยชน์ต่อสังคมแทน อำจช่วยกันปลูกต้นไม้ ทำ ควำมสะอำดที่
สำธำรณะ ฯลฯ
- 10. การบาเพ็ญพระราชกุศลในวันมาฆบูชา
กำรทรงบำ เพ็ญพระรำชกุศลของพระมหำกษัตริย์นั้น พระบำทสมเด็จพระเจำ้อยู่หัวภูมิพลอดุลย
เดช จะเสด็จพระรำชดำ เนินไปยังพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศำสดำรำม พระสงฆ์ ๓๐ รูป เจริญพระพุทธ
พุทธมนต์แล้ว พระบำทสมเด็จพระเจ้ำอยู่หัวทรงโปรยดอกมะลิ ๑,๒๕๐ ดอก เท่ำจำ นวนพระอรหันต์ที่มำ
ที่มำประชุมกันในครั้งพุทธกำล พระรำชำคณะถวำยศีล และถวำยพระธรรมเทศนำ ๑ กัณฑ์ พระบำทสมเด็จ
พระบำทสมเด็จพระเจ้ำอยู่หัวทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรม พระสงฆ์ถวำยอนุโมทนำ ถวำยอดิเรก เป็น
เป็นเสร็จพิธี
- 11. กิจกรรมที่ควรปฏิบัติในวันมาฆบูชา
ช่วงเช้า : เริ่มตงั้แต่เชำ้ตรู่ ควรไหวพ้ระ นั่งสมำธิ ทำ จิตให้สงบหลังจำกตื่นนอน และเตรียมถวำยอำหำร
บิณฑบำตแด่พระภิกษุสำมเณรตำมควำมเหมำะสม
ช่วงสาย : เดินทำงไปวัดที่อยู่ใกลบ้ำ้น หรือวัดที่ท่ำนให้ควำมคุน้เคย สะดวก เพื่อจะทำ บุญ และสมำทำน
รักษำศีล ๕ หรือ ศีล ๘ บำ้ง แลว้แต่ศรัทธำ ฟังพระธรรมเทศนำ หรือถวำยอำหำรเพลแด่พระภิกษุสำมเณร
สำมเณรในวัดต่ำง ๆ
ช่วงบ่าย : ฟังพระธรรมเทศนำในวัดที่จัดให้มีพิธีเทศน์ในตอนกลำงวัน หรือไปนั่งสมำธิตำมควำมสะดวก
เหมำะสม
ช่วงเย็น : เตรียมตัวเพื่อเวียนเทียนเป็นพุทธบูชำ โดยเตรียมดอกไม้ธูปเทียน หรือบำงวัดมีกำรจัดเตรียม
และบริกำรไว้ซึ่งจะเวียนรอบพระอุโบสถ หรือพระเจดีย์ซึ่งเป็นที่ประดิษฐำนพระปฏิมำของพระสัมมำสัม
สัมมำสัมพุทธเจำ้
- 13. หลักการ ๓ คือหลักคาสอนที่ควรปฏิบัติ ได้แก่
การไม่ทาบาปทงั้ปวง คือ กำรลด ละ เลิก ทำ บำปทงั้ปวง อันไดแ้ก่ อกุศลกรรมบถ ๑๐ ซึ่ง
เป็นทำงแห่งควำมชั่ว ๑๐ ประกำรที่เป็นควำมชั่วทำงกำย (กำรฆ่ำสัตว์ กำรลักทรัพย์ กำรประพฤติผิดใน
ผิดในกำม) ทำงวำจำ (กำรพูดเท็จ กำรพูดส่อเสียด กำรพูดเพอ้เจอ้) และทำงใจ (กำรอยำกไดส้มบัติของ
ของผูอ้ื่น กำรผูกพยำบำท และควำมเห็นผิดจำกทำ นองคลองธรรม)
การทากุศลให้ถึงพร้อม คือ กำรทำ ควำมดีทุกอย่ำงตำม กุศลกรรมบถ ๑๐ ทงั้ควำมดีทำงกำย
(ไม่ฆ่ำสัตว์ ไม่เบียดเบียนผูอ้ื่น ไม่เอำสิ่งของที่เจำ้ของไม่ไดใ้ห้มำเป็นของตน มีควำมเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ไม่
ไม่ประพฤติผิดในกำม) ควำมดีทำงวำจำ (ไม่พูดเท็จ ไม่พูดส่อเสียด ไม่พูดหยำบคำย ไม่พูด เพอ้เจอ้) และ
- 14. อุดมการณ์ ๔ ได้แก่
ความอดทน อดกลนั้ คือ ไม่ทำ บำปทงั้กำย วำจำ ใจ
ความไม่เบียดเบียน คือ งดเวน้จำกกำรทำ ร้ำย หรือ เบียดเบียนผูอ้ื่น
ความสงบ ไดแ้ก่ กำรปฏิบัติตนให้สงบทงั้ทำงกำย ทำงวำจำและทำงใจ
นิพพาน ไดแ้ก่ กำรดับทุกข์ ซึ่งเป็นเป้ำหมำยสูงสุดในพระพุทธศำสนำ
วิธีการ ๖ ได้แก่
๑. ไม่ว่ำร้ำย ไดแ้ก่ ไม่กล่ำวให้ร้ำยหรือ กล่ำวโจมตีใคร
๒. ไม่ทำ ร้ำย ไดแ้ก่ ไม่เบียดเบียนผูอ้ื่น
๓. สำ รวมในปำติโมกข์ ไดแ้ก่ ควำมเคำรพระเบียบวินัย กฎกติกำ กฎหมำย รวมทงั้
ขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีของสังคม
๔. รู้จักประมำณ ไดแ้ก่ รู้จักควำมพอดีในกำรบริโภคอำหำรหรือกำรใชส้อยสิ่งต่ำง ๆ
๕. อยู่ในสถำนที่ที่สงัด ไดแ้ก่ อยู่ในสถำนที่สงบมีสิ่งแวดลอ้มที่เหมำะสม
๖. ฝึกหัดจิตใจให้สงบ ไดแ้ก่ฝึกหัดชำ ระจิตให้สงบมีสุขภำพคุณภำพและประสิทธิภำพที่ดี
ดี