More Related Content
Similar to เนื้อเยื่อพืช (20)
More from Thanyamon Chat.
More from Thanyamon Chat. (18)
เนื้อเยื่อพืช
- 5. • เนื่อเยื่อพืช (plant tissue) ประกอบด้วย เซลล์พืชหลาย
ชนิดโดยมีลักษณะร่วมกัน คือ มีผนังเซลล์ (cell wall)
• ผนังเซลล์ปฐมภูมิ (primary cell wall) cellulose
ผนังเซลล์ทุติยภูมิ (secondary cell wall) lignin
• 1 cell wall ที่อยู่ติดกันถูกยึดด้วย middle lamella ซึ่งมี
pectin เป็นองค์ประกอบ
- 6. เนื้อเยื่อเจริญ (meristematic tissues)
คือ กลุ่มของเซลล์ที่มีการเจริญและแบ่งตัวแบบไมโทซิส (mitosis)
ได้ตลอดชีวิตของเซลล์
ลักษณะของเนื้อเยื่อเจริญ
ขนาดเล็ก ผนังบาง เซลล์แต่ละชนิดอยู่ชิดติดกันมาก
ไม่มีช่องว่างระหว่างเซลล์ (intercellular space)
- 7. คือ เนื้อเยื่อเจริญส่วนปลายยอด (apical shoot meristem) และ
เนื้อเยื่อเจริญส่วนปลายราก (apical root meristem) เมื่อมีการ
แบ่งตัวเพิ่มจานวนเซลล์จะทาให้ รากและลาต้นยืดยาวออก เพิ่มความสูง
ให้กับต้นพืช เป็นการเจริญขั้นแรก (Primary growth)
1. เนื้อเยื่อเจริญส่วนปลาย
(apical meristem)
- 10. 3. เนื้อเยื่อเจริญด้านข้าง
(lateral meristem หรือ axillary meristem)
คือ เนื้อเยื่อเจริญที่แบ่งตัวออกด้านข้างของลาต้นหรือ
ราก เมื่อแบ่งตัวแล้วจะทาให้ลาต้น ราก ขยายขนาดออก
ทางด้านข้างหรือมีขนาดใหญ่ขึ้น เป็นการเจริญขั้นที่ 2
(Secondary growth) บางคนอาจเรียกเนื้อเยื่อเจริญ
ด้านข้างนี้ว่า แคมเบียม (cambium) แบ่งเป็น 2 ชนิด
คือ Vascular cambium และ cork cambium
- 12. cork cambium หรือ Phellogen
Cork cambium
ให้กาเนิดคอร์ก หรือเฟลเลมหุ้มรอบราก
และลาต้นพืชใบเลี้ยงคู่ที่มีอายุมาก
ที่มา http://www.sbs.utexas.edu/mauseth/weblab/webchap17bark/17.1-5.htm
- 17. เอพิเดอร์มิส (Epidermis)
• ปกป้องคุ้มครองเนื้อเยื่อต่าง ๆ
• รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า
• ผิวด้านนอก มีสารขี้ผึ้งพวก
คิวติน (cutin) ฉาบอยู่
เพื่อช่วยป้องกันการระเหยของน้า
• ชั้นของคิวตินนี้เรียกว่า
คิวติเคิล (cuticle)
ที่มา http://www.nana-bio.com/e-learning/plant%20organ/root.html
- 20. คอร์กหรือเฟลเลม (cork / phellem)
เกิดจากการแบ่งตัวของคอร์กแคมเบียม หรือเฟลโลเจน เมื่อคอร์กเติบโต
เต็มที่แล้ว โพรโทพลาสซึมและเยื่อหุ้มเซลล์จะสลายไป เหลือเฉพาะ
ผนังเซลล์ที่มีซูเบอริน และคิวติเคิล สะสม ซึ่งน้าจะไม่สามารถผ่านได้
เนื้อเยื่อชั้นคอร์ก รวมกับเฟลโลเจน และเฟลโลเดริ์ม เรียกรวมว่า
เพอริเดิร์ม (Peridrem)
- 24. ตัดตามยาว (long section) ตัดตามขวาง (cross section)
พาเรงคิมา (parenchyma)
ที่มา
http://botit.botany.wisc.edu/images/130/Cells_&_Tissues/Celery_Petiole/Parenchyma.ht
- 27. หน้าที่ของพาเรงคิมา
1. สะสมน้าและอาหารพวกแป้ง โปรตีน และไขมัน
2. ในลาต้นพืชอ่อน ๆ ทาหน้าที่สังเคราะห์ด้วยแสง
3. ในพืชตระกูลถั่วจะอยู่รวมเป็นกลุ่มที่โคนก้านใบทาหน้าที่เกี่ยวกับ การหุบ-กางใบ
4. ในพืช C3 C4 บางชนิดพาเรงคิมาจะเจริญล้อมรอบมัดท่อลาเลียง ถ้าภายในมี
คลอโรพลาสต์ก็จะสังเคราะห์ด้วยแสงด้วย
5. ใบพืชบางชนิดจะเจริญเปลี่ยนไปเป็นต่อมสร้างสาร เช่น สร้างน้ามัน
6. พาเรงคิมาในมัดท่อลาเลียงจะทาหน้าที่ลาเลียงอาหาร
7. ในก้านใบและเส้นกลางใบของพืชบางชนิด เช่น พุทธรักษา เปลี่ยนไปเป็น
แอเรงคิมา (Aerenchyma)
- 37. เนื้อเยื่อถาวรเชิงซ้อน (Complex permanent tissue)
ประกอบด้วยกลุ่มเซลล์หลายชนิดมาทางานร่วมกัน ซึ่งเนื้อเยื่อถาวร
เชิงซ้อนแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่
1. เนื้อเยื่อที่ทาหน้าที่ลาเลียงน้าและแร่ธาตุ เรียกว่าไซเลม (xylem)
2. เนื้อเยื่อลาเลียงอาหาร เรียกว่า โฟลเอม (phloem)
- 38. ไซเลม (xylem)
1. vessel
2. tracheid
3. xylem fiber
4. xylem parenchyma
ที่มา https://webspace.utexas.edu/harms/VEVI3/transport.html
เป็นเนื้อเยื่อที่ทาหน้าที่ลาเลียงน้าและแร่ธาตุต่าง ๆ ทั้งสารอินทรีย์และ
สารอนินทรีย์ โดยท่อลาเลียงน้าและแร่ธาตุประกอบด้วยเซลล์ 4 ชนิด
ประกอบด้วย
- 39. เวสเซล (Vessel)
• คล้ายท่อยาวๆ ที่ประกอบด้วยท่อสั้น ๆ หลาย ๆ
ท่อมาต่อกัน
• ท่อสั้นแต่ละท่อเรียกว่า vessel member หรือ
vessel element
• ผนังหนาเป็นสารพวกลิกนินมาสะสม มีช่องทะลุถึง
กัน ซึ่งมีลักษณะเป็นรอยปรุหรือรูพรุนที่เรียกว่า
perforation plate
ที่มา http://www.dbdmart.com/lifesigngatc/product.php?cat=88432&lang=en
- 48. ซีพทิวบ์ (sieve tube)
มีรูปร่างยาว ปลายทั้ง 2 ด้าน
ค่อนข้างแหลม มีรูเล็กคล้ายตะแกรง
เรียกว่า ซีพเพลท (Sieve plate)
ซีพทิวบ์เมมเบอร์หลาย ๆ เซลล์มา
เรียงต่อกันเป็นท่อยาวๆ เรียกว่า
ซีพทิวบ์ (Sieve tube)
- 49. เซลล์คอมพาเนียน (Companion cell)
เซลล์มีขนาดเล็ก รูปร่างเรียวยาว
ปลายแหลม มีนิวเคลียสขนาดใหญ่
เห็นได้ชัดเจน มีกาเนิดจากเซลล์
ต้นกาเนิดเดียวกับซีพทิวบ์เมมเบอร์
ที่มา http://www.school.net.th/library/create-web/10000/science/10000-
5830.html