More Related Content
More from Thanyamon Chat. (20)
transpiration and gas exchange in plant
- 2. Transpiration
• ส่วนใหญ่พืชสูญเสียน้าไป
มากถึง 98% ออกไปในรูป
ของไอน้าสู่บรรยากาศ โดยการ
คายน้า (Transpiration)
•ผ่านทาง รูปากใบ
(Stomata) เป็นส่วนใหญ่
โดยมีเซลล์คุม (guard cell)
ควบคุมการเปิดปิด และ
สามารถแพร่ผ่านผิวใบได้
เล็กน้อย
By Thanyamon Chaturavitkul
- 3. กลไกการปิดเปิดของปากใบ
• การปิดเปิดของปากใบขึนกับเซลล์คุม
(Guard cell)
• เมื่อมีแสงสว่าง K+ ในเซลล์คุมเพิ่มขึน
จึงมีความเข้มข้นของสารละลายมากขึน
น้าจากเซลล์ที่อยู่ติดกันจึงออสโมซิส เข้า
สู่เซลล์คุม ท้าให้เซลล์คุมเต่งมากขึน
• ผนังเซลล์ด้านหนาให้โค้งตาม เกิด
ช่องว่างท้าให้ปากใบยิ่งเปิดกว้าง
• การปิดเปิดปากใบมีหลายปัจจัยที่
เกี่ยวข้องได้แก่ อุณหภูมิ ความชืน
กระแสลม สภาพน้าในดิน ความเข้ม
ของแสง และแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์
By Thanyamon Chaturavitkul
- 6. 3. อุณหภูมิ ถ้าอุณหภูมิสูงขึน ความชืนสัมพัทธ์ในอากาศลดลง น้าจะระเหยออกจากปากใบเพิ่มขึน
การคายน้าจะเพิ่มขึน แต่ถ้าอุณหภูมิสูงมากเกินไปปากใบจะปิดแคบลงเพื่อลดการสูญเสียน้า และถ้า
อุณหภูมิต่้ามาก ๆ ปากใบก็จะปิดด้วย
4. ปริมาณ CO2 พืชทั่วไปเมื่ออยู่ในบริเวณที่มี CO2 สูงกว่าปกติ จะท้าให้พืชเปิดรูปากใบแคบลง
เช่น ในอากาศปกติมีปริมาณ CO2 300 ppm ปากใบจะเปิดแต่ถ้าเพิ่มเป็น 1000 ppm ปากใบ
จะปิด
By Thanyamon Chaturavitkul
- 7. 5. กระแสลม ลมที่พัดผ่านใบไม้จะท้าให้ความกดอากาศที่บริเวณผิวใบลดลง น้าบริเวณปากใบจะระเหยสู่
อากาศได้มากขึน การคายน้าจึงเกิดเพิ่มขึน แต่ถ้าลมพัดแรงเกินไปปากใบจะปิด
6. ความชืนสัมพัทธ์ ถ้าความชืนสัมพัทธ์ในอากาศลดลง ปริมาณน้าในใบและในอากาศแตกต่างกันมากขึน จึง
ท้าให้น้าระเหยออกจากปากใบเพิ่มขึน การคายน้าเกิดเพิ่มขึน
เครื่องมือวัดอัตราการคายน้า
หรืออัตราการดูดน้าของพืช
By Thanyamon Chaturavitkul
- 8. ความส้าคัญของน้าต่อพืช
1. น้าเป็นส่วนประกอบที่ส้าคัญในเซลล์พืช ใบพืชล้มลุกจะมีน้าประกอบ
อยู่มากกว่า พืชยืนต้น
2. น้าช่วยให้เซลล์พืชเต่ง ท้าให้เซลล์มีรูปร่างคงตัว เมื่อพืชขาดน้าท้าให้
เหี่ยวเฉาในพืชยังช่วยให้เกิดการเปิดปิดของปากใบ และการเคลื่อนไหว
ของพืชด้วย
3. น้าเป็นตัวท้าละลาย เช่น ละลายแร่ธาตุต่าง ๆ เกิดการล้าเลียงแร่ธาตุ
ของพืช
4. น้าเป็นตัวร่วมในปฏิกิริยาเคมีในเซลล์ ซึ่งมีความส้าคัญในกระบวนการ
เมแทบอลิซึม เช่น การย่อยแป้งเป็นน้าตาล การสังเคราะห์ด้วยแสง
5. น้าท้าหน้าที่ควบคุมอุณหภูมิของเซลล์ และล้าต้นพืช โดยทั่วไปพืชอยู่
กลางแจ้งตลอดเวลา ดังนันจึงได้รับความร้อนจากแสงอาทิตย์จ้านวนมาก
การคายน้าของพืชช่วยในการระบายความร้อนให้พืช
By Thanyamon Chaturavitkul
- 9. • ส่วนใหญ่พืชจะสูญเสียน้าโดยการระเหยออกทางปากใบ
80-90 %
• พืชทนต่อการขาดคาร์บอนไดออกไซด์ได้นานกว่าการขาด
น้า ในพืชบางชนิดจะมีล้าต้นและใบอวบน้า
(Succulent) เพื่อสะสมน้า เช่น กุหลาบหิน
• พืชบางชนิดที่อยู่ในพืนที่แห้งแล้งมาก อาจมีการปิดเปิด
ของปากใบแตกต่างจากพืชชนิดอื่น คือ ปากใบจะเปิด
เวลากลางคืนและปิดในตอนกลางวันเพื่อลดการคายน้า
เช่น กระบองเพชร
• ใบมีสารคิวทินเคลือบ ท้าให้การระเหยของน้าออกทาง
ผิวใบเกิดได้น้อยแต่ก็ยังมีการเสียน้าออกทาง เลนทิเซล
(Lenticel) ซึ่งเป็นรอยแตกที่ผิวล้าต้นซึ่งพบในพืช
บางชนิดเท่านัน การสูญเสียน้าทางเลนทิเซลมีเพียง
10 % เท่านัน
By Thanyamon Chaturavitkul
- 14. 2. เลนทิเซล (lenticel) ที่ผิวของลาต้นพื้นบางชนิด เมื่ออายุมากขึ้น
จะมีรอยแตกเป็นทางยาว หรือแตกตามรอยขวาง
3. ขนราก (Root hair)
มีการแลกเปลี่ยนแก๊ส
ระหว่างอากาศที่อยู่ใน
ช่องว่างของเม็ดดินกับ
เซลล์ของราก
By Thanyamon Chaturavitkul
- 15. • เมื่อตัดชิ้นส่วนของพืชออกจากต้น ชิ้นส่วนเหล่านั้นยังไม่ตาย
ผิดกับตัดชิ้นส่วนของสัตว์ ที่ส่วนใหญ่ออกจากร่างกาย แล้ว
ชิ้นส่วนเหล่านั้นมักจะตาย
• การเก็บเกี่ยวและรักษาผลผลิตทางการเกษตร อาจมีการใช้
ความรู้เพื่อลดการคายน้า ทาให้ผลผลิตมีปริมาณน้าในเซลล์
สูง ซึ่งจะช่วยยืดระยะเวลาความสดของผลิตภัณฑ์ เช่น
เก็บเกี่ยวในเวลาเช้ามืด(ความเข้มแสงต่า, อุณหภูมิต่า และ
ความชื้นสัมพัทธ์สูง), ควบคุมอุณหภูมิให้ต่าในขณะขนส่ง,
ใช้สารเคลือบผิวของผลไม้เพื่อปิดรูปากใบที่ผล, ใช้พลาสติก
หุ้ม, นาผลไม้มาชุบสารละลายกรดซาลิไซลิก ซึ่งช่วยให้ปาก
ใบปิดก่อนขนส่ง
การหายใจหลังการเก็บเกี่ยว
By Thanyamon Chaturavitkul
- 16. • พืชที่เก็บเกี่ยวผลผลิตแล้ว อัตราการหายใจของเซลล์จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับการสุก เรียกว่า
“climacteric” เช่น กล้วย มะม่วง มะละกอ ทุเรียน
• อัตราการหายใจของเซลล์จะลดลงเรื่อยๆหลังเก็บเกี่ยว เรียกว่า “non-climacteric” เช่น
แตงกวา ลิ้นจี่ ลาไย ส้ม องุ่น มะนาว
เมื่อเก็บเกี่ยวผลผลิตออกจากต้นพืชแล้ว พืชยังมีการหายใจอยู่จนกระทั่งสิ้นอายุของเซลล์
อัตราการหายใจของพืชหลังการเก็บเกี่ยวจะแตกต่างกันในพืชแต่ละชนิด
พืชผักผลไม้หรือดอกไม้ที่มีอัตราการหายใจสูง จะมีอายุสั้น
By Thanyamon Chaturavitkul