More Related Content
Similar to โครงสร้างและหน้าที่ของราก
Similar to โครงสร้างและหน้าที่ของราก (20)
More from Thanyamon Chat.
More from Thanyamon Chat. (20)
โครงสร้างและหน้าที่ของราก
- 5. บริเวณเซลล์แบ่งตัว
(Region of cell division)
• เป็นบริเวณที่อยู่ถัดจากหมวกราก
ขึ้นมา
• ผนังเซลล์บาง ภายในมี
protoplasm ปริมาณมาก
• ประกอบด้วย apical
meristem
• มีการแบ่งเซลล์แบบ mitosis
อย่างรวดเร็ว
• สร้างเซลล์หมวกราก
• เจริญเป็นเซลล์ที่มีรูปร่างยาวขึ้น
- 26. รากที่เปลี่ยนแปลงรูปร่างและทาหน้าที่พิเศษ
(modified root)
1. รากสะสมอาหาร (storage root or tuberous root) เป็นรากที่สะสมอาหารในรูป
ของเมด็แป้ง อาจสะสมอาหารไวท้ รากแกว้ รากแขนงหรือรากพิเศษกได้จงึทาให้รากอวบอ้วน
เช่น มันเทศ หัวไชเท้า หัวผักกาดหวาน แครอต กระชาย ต้อยติ่ง
2. รากฝอย (fibrous root) เป็นรากเส้นเล็กที่โตสม่าเสมอ งอกออกจากโคนต้นรอบรากแก้ว
ต่อมารากแก้วจะตายไป รากฝอยจึงทาหน้าที่ดูดน้า ธาตุอาหารและพยุง ลาต้นแทนรากแก้ว พบ
ในพืชใบเลี้ยงเดี่ยว เช่น ข้าวโพด มะพร้าว
3. รากสังเคราะห์แสง (photosynthetic root) รากชนิดนี้มักอยู่ในอากาศ (ariel root)
จึงเป็นรากอากาศด้วย รากมีคลอโรฟิลล์จึงทาหน้าที่สังเคราะห์แสงได้ รากประเภทนี้ พบได้ในพืช
อิงอาศัย (epiphyte) เป็นรากของพืชที่ไม่ได้เบียดเบียนพืชให้อาศัย เช่น กล้วยไม้ ไทร
- 27. 4. รากยึดเกาะ (climbing root) เป็นรากที่แตกตามข้อของลาต้น พบในพืชทอดเลื้อย
ทาหน้าที่ยึดเกาะตามหลักให้ลาต้นทอดไปได้ เช่น พลู พลูด่าง พริกไทย
5. รากช่วยพยุงให้ลอยน้า (floating root or vescicle) รากชนิดนี้มีลักษณะเป็น
กระเปาะเล็กช่วย พยุงให้พืชลอยน้าได้ เช่น รากของแพงพวยน้า เป็นต้น
6. รากปรสิต (parasitic root) หรือรากกาฝาก (haustoial root) เป็นรากของพืชที่
งอกแทงลงไปบนพืชที่ให้อาศัยเพื่อดูดสารอาหารจากพืชนั้น เช่น รากของประทัดทอง
กาฝากต้นเต็ง เป็นต้น
7. รากหายใจ (pneumatophore or aerating root) ทาหน้าที่จะหายใจได้มากเป็น
พิเศษ เกิดจากรากที่อยู่ใต้ดินงอกออกและตั้งตรงขึ้นมาเหนือดินช่วยในการหายใจ พบมาก
ในพืชชายเลน เช่น รากของโกงกาง แสม ลาพู
8. รากค้าจุน (prop root or stilt root) เป็นรากที่งอกออกจากข้อบริเวณส่วนโคน
ของลาต้นเหนือดินและเจริญทแยงลงสู่ดิน ทาหน้าที่ค้าจุนลาต้น เช่น เตยหอม โกงกาง
ข้าวโพด