SlideShare a Scribd company logo
1 of 31
Download to read offline
1
คำชี้แจงสำหรับกำรใช้ชุดกิจกรรม
เรื่อง กำรแก้โจทย์ปัญหำควำมสัมพันธ์เชิงฟังก์ชันระหว่ำงข้อมูล
ชุดกิจกรรมชุดที่ 4 เรื่อง ความสัมพันธ์เชิงฟังก์ชันระหว่างข้อมูลอยู่ในรูปอนุกรมเวลา
และที่กราฟเป็นเส้นตรงมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เพื่อพัฒนา
ความสามารถในเรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาความสัมพันธ์เชิงฟังก์ชันระหว่างข้อมูล สาหรับ
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้กระบวนการแก้ปัญหาของโพลยามี 4 ขั้น คือ
ขั้นที่หนึ่ง การทาความเข้าใจกับปัญหา (Understanding the problem) ขั้นที่สอง วางแผนแก้ปัญหา
(Devising a plan) ขั้นที่สาม ดาเนินการตามแผน (Carring out plan) ขั้นที่สี่ ตรวจสอบผล
( Looking back ) เพื่อให้นักเรียนมีความรู้ มีทักษะในการแก้โจทย์ปัญหา สามารถตีความโจทย์
ปัญหาได้ สามารถวางแผนในการแก้ปัญหาได้ สามารถดาเนินการแก้ปัญหาตามแผนได้ รู้จักคิด
อย่างมีเหตุผล รู้จักคิดวางแผนในการทางาน และให้นักเรียนสามารถนาความรู้ไปใช้ในการดาเนิน
ชีวิตประจาวัน โดยนาโจทย์ปัญหาหรือสถานการณ์ต่างๆ ที่ใช้ภาษาง่าย เหมาะสมกับความสามารถ
ของนักเรียน เป็นภาษาที่นักเรียนคุ้นเคย มีนักเรียนเคยฝึกแก้ปัญหา โดยจัดกิจกรรมการเรียนรู้ไว้
อย่างเป็นลาดับขั้นตอน เพื่อความสะดวกแก่ครูผู้สอน และเปิดโอกาสให้นักเรียนมีส่วนร่วมใน
การเรียนโดยใช้กิจกรรมที่หลากหลายให้สอดคล้องกับธรรมชาติและลักษณะของผู้เรียน
องค์ประกอบของชุดกิจกรรม
ผลการเรียนรู้
สาระการเรียนรู้
จุดประสงค์การเรียนรู้
คู่มือกำรใช้ชุดกิจกรรม
บทบาทของครู
สิ่งที่ต้องเตรียม
การจัดสถานที่เรียน
การประเมินผล
สื่อประกอบชุดกิจกรรม
ใบความรู้
ใบกิจกรรม
เฉลยกิจกรรม
แบบประเมินผล
2
องค์ประกอบของชุดกิจกรรม
ชุดกิจกรรมนี้เป็นชุดกิจกรรมเพื่อแก้โจทย์ปัญหาความสัมพันธ์เชิงฟังก์ชันระหว่างข้อมูล
โดยใช้กระบวนการแก้ปัญหาของโพลยา ตรวจสอบโดยใช้การวิเคราะห์การถดถอยด้วย
โปรแกรมสาเร็จรูป สาหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
1. ผลกำรเรียนรู้
1. สร้างความสัมพันธ์ของข้อมูลที่ประกอบด้วยตัวแปรสองตัว
2. ใช้ความสัมพันธ์เชิงฟังก์ชันของข้อมูลทานายค่าตัวแปรตามเมื่อกาหนดตัวแปรอิสระให้
3. สร้างความสัมพันธ์เชิงฟังก์ชันของข้อมูลที่ประกอบด้วยสองตัวแปรที่อยู่ในรูป
อนุกรมเวลา โดยใช้เครื่องคานวณ
2. สำระกำรเรียนรู้
2.1 ข้อมูลที่อยู่ในรูปอนุกรมเวลา Y = f(t)
2.2 การกาหนดระยะเวลา (t)
2.3 ความสัมพันธ์เชิงฟังก์ชันที่กราฟเป็นเส้นตรง
3. จุดประสงค์กำรเรียนรู้
1. นักเรียนสามารถทาความเข้าใจโจทย์ปัญหาของความสัมพันธ์เชิงฟังก์ชัน
ที่กราฟเป็นเส้นตรงได้
2. นักเรียนสามารถวางแผนการแก้ปัญหาได้
3. นักเรียนสามารถดาเนินการแก้ปัญหาตามแผนได้
4. นักเรียนสามารถตรวจสอบคาตอบโดยใช้โปรแกรมสาเร็จรูปได้
3
คู่มือกำรใช้ชุดกิจกรรม
กำรแก้โจทย์ปัญหำควำมสัมพันธ์เชิงฟังก์ชันระหว่ำงข้อมูล
ชุดที่ 4 เรื่อง ความสัมพันธ์เชิงฟังก์ชันระหว่างข้อมูลอยู่ในรูปอนุกรมเวลา
และที่กราฟเป็นเส้นตรง
1. บทบำทของครูผู้สอน
1.1 ครูผู้สอนเตรียมตัวให้พร้อม โดยศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับการใช้ชุดกิจกรรมและ
เตรียมสื่อการเรียนที่ใช้ประกอบการจัดการเรียนรู้
1.2 การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ครูต้องจัดกิจกรรมให้ครบตามที่กาหนดไว้ เพื่อให้
กิจกรรมนั้นเป็นอย่างต่อเนื่องและบรรลุตามวัตถุประสงค์
1.3 ก่อนจัดกิจกรรมการเรียนรู้ทุกครั้ง ครูต้องอธิบาย ชี้แจงการปฏิบัติกิจกรรมให้
ชัดเจนให้นักเรียนได้เข้าใจตรงกัน จึงจะทาให้การจัดกิจกรรมการเรียนรู้บรรลุตามเป้ าหมายและมี
ประสิทธิภาพ
1.4 ครูควรกระตุ้นให้นักเรียนทุกคนมีส่วนร่วมในการทากิจกรรม เพื่อเป็นการฝึกให้
นักเรียนรู้จักทางานร่วมกัน ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน รับผิดชอบในหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย
1.5 ก่อนจัดกิจกรรมการเรียนรู้เสร็จสิ้นลง ในแต่ละกิจกรรมให้นักเรียนแต่ละกลุ่มส่ง
ตัวแทนมานาเสนอผลงาน ครูและนักเรียนร่วมกันประเมินผลการเรียนรู้ของนักเรียนแต่ละกลุ่ม
2. สิ่งที่ครูต้องเตรียม
ครูต้องเตรียมสื่อการจัดการเรียนรู้ให้ครบตามขั้นตอนของชุดกิจกรรม ดังนี้
2.1 ใบความรู้
2.2 ใบกิจกรรม
2.3 เครื่องคอมพิวเตอร์
2.4 โปรแกรมสาเร็จรูป
3. การจัดชั้นเรียน(สถานที่เรียน)
ในการเรียนแต่ละครั้ง ครูจะแบ่งกลุ่มนักเรียนออกเป็นกลุ่มๆละ 4 คน โดยแต่ละกลุ่มให้มี
ทั้งนักเรียนเก่ง อ่อน อย่างละ1 คน ปานกลาง 2 คน คละกัน แล้วให้สมาชิกในแต่ละกลุ่มเลือก
ประธานกลุ่มและเลขาของกลุ่ม แบ่งหน้าที่ในการทากิจกรรมและหมุนเวียนหน้าที่กันในกลุ่ม
ช่วยกันทางานกลุ่ม ซึ่งนักเรียนจะอยู่กลุ่มเดียวกันจนสิ้นสุดการสอน
4
ผังกำรจัดสถำนที่เรียน
ห้องคอมพิวเตอร์
ครู
กลุ่ม 1 กลุ่ม 2 กลุ่ม 3 กลุ่ม 4
กลุ่ม 5 กลุ่ม 6 กลุ่ม 7
กลุ่ม 8 กลุ่ม 9 กลุ่ม 10
4. กำรประเมินผล
4.1 การประเมินผลการปฏิบัติกิจกรรมในกลุ่ม
4.2 การประเมินผลการปฏิบัติกิจกรรมรายบุคคล
5
ใบควำมรู้ 4.1
ควำมสัมพันธ์เชิงฟังก์ชันระหว่ำงข้อมูลที่อยู่ในรูปอนุกรมเวลำ
4.1 ข้อมูลที่อยู่ในรูปอนุกรมเวลำ (time series) คือ ข้อมูลที่แสดงความเปลี่ยนแปลงตามลาดับเวลา
ที่เกิดขึ้นก่อนหลังของช่วงเวลาที่ข้อมูลชุดนั้นเกิดขึ้น ซึ่งปกติแล้วข้อมูลนั้นๆมักจะเกิดขึ้นใน
ช่วงเวลาเท่าๆกัน เช่น ปริมาณข้าวที่ประเทศไทยผลิตได้ในแต่ละปี จานวนเงินที่ร้านค่าแห่งหนึ่ง
ขายได้ในแต่ละเดือน หรืออุณหภูมิเฉลี่ยในแต่ละวันของจังหวัดกาญจนบุรี แล้วข้อมูลนั้นๆจะปกติ
ความสัมพันธ์อยู่ในรูป Y = f(t) โดยที่ t แทนเวลา เช่น วัน เดือน ปี พ.ศ. เป็นต้น
เมื่อ t เป็นตัวแปรอิสระ และ Y เป็นตัวแปรตาม
กำรกำหนดระยะเวลำ (t)
ก. ถ้ำจำนวนระยะเวลำ (t) ที่กำหนดให้เป็นจำนวนคี่ *** ให้ระยะเวลำที่อยู่ตรงกลำงเป็น 0
โดยเรียงตามลาดับก่อนหลังดังนี้ … , - 3 , - 2 , - 1 , 0 , 1 , 2 , 3 , …
กำรสร้ำงควำมสัมพันธ์เชิงฟังก์ชันระหว่ำงข้อมูลกรำฟเป็นรูปเส้นตรง
เมื่อ y เป็นตัวแปรตำม และ t เป็นตัวแปรอิสระ a และ b เป็นค่ำคงตัวที่ต้องกำรหำ
มีสมการเป็น Y = at + b
สมการปกติคือ 
n
i
iy
1
= a 
n
i
it
1
+ bn ………………(1)

n
i
ii yt
1
= a 
n
i
it
1
2
+ b 
n
i
it
1
………………(2)
ข้อสังเกต 
n
i
it
1
= 0
จาก สมการ(1) จะได้ b =
n
y
n
i
i1
จาก สมการ(2) จะได้ a =




n
i
i
n
i
ii
t
yt
1
2
1
6
ตัวอย่ำงที่ 4.1 มูลค่าอุตสาหกรรมสิ่งทอการส่งออกที่ประเทศไทยส่งออกไปขายยังต่างประเทศ
มีความสัมพันธ์กับเวลาในรูปเส้นตรง ระหว่าง ปี 2546 – 2550 ดังนี้
ปี พ.ศ. 2546 2547 2548 2549 2550
มูลค่า (ล้านบาท) 6 8 12 15 19
จงใช้ประบวนการแก้ปัญหาของโพลยาประมาณค่า
1. จงหาสมการเพื่อใช้ประมาณมูลค่าการส่งออกในเวลาต่างๆ
2. จงประมาณมูลค่าการส่งออกในปี พ.ศ. 2558
ขั้นที่ 1 ทาความเข้าใจกับปัญหา
1.1 สิ่งที่โจทย์กาหนด มูลค่าอุตสาหกรรมสิ่งทอการส่งออกที่ประเทศไทยส่งออกไปขาย
ยังต่างประเทศมีความสัมพันธ์กับเวลา( บอกค่า t )
1.2 สิ่งที่โจทย์ถามหาอะไร จงประมาณมูลค่าการส่งออกในปี พ.ศ. 2558 (หาค่า y )
ขั้นที่ 2 วางแผนในการแก้ปัญหา
2.1 เขียนแผนภาพการกระจาย
2.2 สร้างตาราง
2.3 สร้างสมการปกติ
2.4 แก้สมการ หาค่าคงตัว คือ a และ b
ขั้นที่ 3 ดาเนินการตามแผน เขียนแผนภาพการกระจายและกราฟที่เป็นตัวแทนของความสัมพันธ์
T
3210-1-2-3
Y
20
18
16
14
12
10
8
6
4
Y
T
3210-1-2-3
20
18
16
14
12
10
8
6
4
Observed
Linear
7
ตาราง 4.1 ก
ปี พ.ศ. มูลค่า (y ) t t2
ty
2546 6 - 2 4 - 12
2547 8 - 1 1 - 8
2548 12 0 0 0
2549 15 1 1 15
2550 19 2 4 38
รวม y = 60 t = 0  2
t = 10 ty = 33
ความสัมพันธ์อยู่ในรูปเส้นตรง
สมการ Y = at + b
สมการปกติคือ 
n
i
iy
1
= a 
n
i
it
1
+ bn ………………(1)

n
i
ii yt
1
= a 
n
i
it
1
2
+ b 
n
i
it
1
………………(2)
แทนค่า 60 = 0 + 5 b ………………..(1)
33 = 10 a + 0 …………………(2)
จาก (1) b =
5
60
= 12
จาก (2) a =
10
33
= 3.3
ดังนั้นสมการที่ใช้ประมาณคือ Y = 3.3 t + 12
2. จงประมาณมูลค่าการส่งออกในปี พ.ศ. 2558 ( t = 10 )
แทนค่า t = 10 ในสมการประมาณค่า
Y = 3.3 (10 ) + 12
= 33 + 12 = 45
ดังนั้น มูลค่าการส่งออกในปี พ.ศ. 2558 เท่ากับ 45 ล้านบาท
8
ขั้นที่ 4 ตรวจสอบผลที่ได้โดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูป
ขั้นตอนกำรใช้โปรแกรมสำเร็จรูป
วิเคราะห์ข้อมูล Analyze เลือก Regresion และ Curve Estimate
จะปรากฏหน้าต่าง Curve Estimate
เลือกให้ y เป็น dependent และ t เป็น independent
Models และเลือก Linear
5. คลิก OK จะได้ Output ดังนี้
Independent: T
Dependent Mth Rsq d.f. F Sigf b0 b1
Y LIN .990 3 297.00 .000 12.0000 3.3000
ผลกำรตรวจคำตอบ ได้คาตอบตรงกัน
9
ใบกิจกรรมที่ 4.1
คำสั่ง จงใช้กระบวนกำรแก้ปัญหำของโพลยำแก้โจทย์ปัญหำต่อไปนี้
1. ข้อมูลต่อไปนี้แสดงความสัมพันธ์ระหว่างเวลากับเงินเดือนของชายคนหนึ่งในรูปเส้นตรง
ตั้งแต่ พ.ศ. 2546 – 2550 ดังนี้
ปี พ.ศ. 2546 2547 2548 2549 2550
เงินเดือน(พันบาท) 7.5 8 9.5 11.2 12.8
1. จงเขียนแผนภาพการกระจาย
2. จงหาสมการของความสัมพันธ์ระหว่างเวลากับเงินเดือน
3. จงประมาณเงินเดือนของชายคนนี้ในปี 2555
ขั้นที่ 1 ทาความเข้าใจกับปัญหา
1.1 สิ่งที่โจทย์กาหนด ...........................................................................................................
1.2 สิ่งที่โจทย์ถามหาอะไร ....................................................................................................
ขั้นที่ 2 วางแผนในการแก้ปัญหา
2.1 เขียนแผนภาพการกระจาย
2.2 สร้างตาราง
2.3 สร้างสมการปกติ
2.4 แก้สมการ หาค่าคงตัว คือ a , b และ c
ขั้นที่ 3 ดาเนินการตามแผน เขียนแผนภาพการกระจาย
ตาราง 4.1 ข
ปี พ.ศ. เงินเดือน (y ) t t2
ty
2546 7.5
2547 8
2548 9.5
2549 11.2
2550 12.8
รวม y = t =  2
t = ty =
ขั้นที่ 4 ตรวจสอบผลที่ได้โดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูป
10
ใบควำมรู้ 4.2
ข้อมูลที่อยู่ในรูปอนุกรมเวลำ ถ้ำควำมสัมพันธ์เชิงฟังก์ชันที่เป็นเส้นตรง
กำรกำหนดระยะเวลำ (t)
ถ้ำจำนวนระยะเวลำ (t) ที่กำหนดให้เป็นจำนวนคู่ *** ให้ระยะเวลำที่อยู่คู่กลำงเป็น
- 1 และ 1 โดยเรียงตามลาดับก่อนหลังดังนี้ … , - 5 , - 3 , - 1 , 1 , 3 , 5 , …
กำรสร้ำงควำมสัมพันธ์เชิงฟังก์ชันระหว่ำงข้อมูลกรำฟเป็นรูปเส้นตรง
เมื่อ y เป็นตัวแปรตำม และ t เป็นตัวแปรอิสระ a และ b เป็นค่ำคงตัวที่ต้องกำรหำ
มีสมการเป็น Y = at + b
สมการปกติคือ 
n
i
iy
1
= a 
n
i
it
1
+ bn ………………(1)

n
i
ii yt
1
= a 
n
i
it
1
2
+ b 
n
i
it
1
………………(2)
ข้อสังเกต 
n
i
it
1
= 0
จาก สมการ(1) จะได้ b =
n
y
n
i
i1
จาก สมการ(2) จะได้ a =




n
i
i
n
i
ii
t
yt
1
2
1
11
ตัวอย่ำงที่ 4.2 จานวนสินค้าที่โรงงานแห่งหนึ่งผลิตได้ความสัมพันธ์กับเวลาในรูปเส้นตรง
ระหว่าง ปี พ.ศ. 2547 – 2552
ปี พ.ศ. 2547 2548 2549 2550 2551 2552
จานวนสินค้า(ร้อยชิ้น) 170 184 200 210 216 220
จงใช้ประบวนการแก้ปัญหาของโพลยาประมาณค่า
1. จงหาสมการเพื่อใช้ประมาณจานวนสินค้าที่โรงงานอุตสาหกรรมแห่งนี้ผลิตได้ในเวลาต่างๆ
2. จงประมาณจานวนสินค้าที่โรงงานอุตสาหกรรมแห่งนี้ผลิตได้ในปี พ.ศ. 2554
ขั้นที่ 1 ทาความเข้าใจกับปัญหา
1.1 สิ่งที่โจทย์กาหนด จานวนสินค้าที่โรงงานแห่งหนึ่งผลิตได้ความสัมพันธ์กับเวลา
( บอกค่า t )
1.2 สิ่งที่โจทย์ถามหาอะไร จงประมาณจานวนสินค้าที่โรงงานอุตสาหกรรมแห่งนี้ผลิตได้
ในปี พ.ศ. 2554 (หาค่า y )
ขั้นที่ 2 วางแผนในการแก้ปัญหา
2.1 เขียนแผนภาพการกระจาย
2.2 สร้างตาราง
2.3 สร้างสมการปกติ
2.4 แก้สมการ หาค่าคงตัว คือ a และ b
ขั้นที่ 3 ดาเนินการตามแผน เขียนแผนภาพการกระจายและกราฟที่เป็นตัวแทนของความสัมพันธ์
T
6420-2-4-6
Y
230
220
210
200
190
180
170
160
Y
T
6420-2-4-6
230
220
210
200
190
180
170
160
Observed
Linear
12
ตาราง 4.2 ก
ปี พ.ศ. จานวนสินค้า (Y) t t2
tY
2547 170 - 5 25 - 850
2548 184 - 3 9 - 552
2549 200 - 1 1 - 200
2550 210 1 1 210
2551 216 3 9 648
2552 220 5 25 1100
รวม Y = 1200 t = 0  2
t = 70 tY = 356
ความสัมพันธ์อยู่ในรูปเส้นตรง
สมการคือ Y = at + b
สมการปกติคือ 
n
i
iy
1
= a 
n
i
it
1
+ bn ………………(1)

n
i
ii yt
1
= a 
n
i
it
1
2
+ b 
n
i
it
1
………………(2)
แทนค่า 1200 = 0 + 6 b ………………..(1)
356 = 70 a + 0 …………………(2)
จาก (1) b =
6
1200
= 200
จาก (2) a =
70
356
= 5.09
ดังนั้นสมการที่ใช้ประมาณคือ Y = 5.09 t + 200
2. จงประมาณจานวนสินค้าที่ผลิตได้ในปี พ.ศ. 2554 ( t = 9 )
แทนค่า t = 9 ในสมการทานาย
Y = 5.09 (9 ) + 200
= 45.81 + 200 = 245.81 ร้อยชิ้น
ดังนั้น มูลค่าการส่งออกในปี พ.ศ. 2554 เท่ากับ 24,581 ชิ้น
13
ขั้นที่ 4 ตรวจสอบผลที่ได้โดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูป
5. คลิก OK จะได้ Output ดังนี้
Independent: T
Dependent Mth Rsq d.f. F Sigf b0 b1
Y LIN .947 4 71.36 .001 200.000 5.0857
ผลกำรตรวจคำตอบ ได้คาตอบตรงกัน
14
ใบกิจกรรมที่ 4.2
คำสั่ง จงใช้กระบวนกำรแก้ปัญหำของโพลยำแก้โจทย์ปัญหำต่อไปนี้
1. จานวนรถยนต์ที่บริษัทแห่งหนึ่งขายได้ ( ร้อยคัน ) มีความสัมพันธ์กับเวลาในรูปเส้นตรง ระหว่าง
ปี 2547 – 2552 ดังนี้
ปี พ.ศ. 2547 2548 2549 2550 2551 2552
จานวนรถยนต์(ร้อยคัน) 12 16 20 22 24 26
จงหา 1. จงเขียนแผนภาพการกระจาย
2. จงหาสมการเพื่อใช้ประมาณจานวนรถยนต์ที่ขายได้ในเวลาต่างๆ
3. จงประมาณจานวนรถยนต์ที่ขายได้ในปี พ.ศ. 2555
ขั้นที่ 1 ทาความเข้าใจกับปัญหา
1.1 สิ่งที่โจทย์กาหนด ...........................................................................................................
1.2 สิ่งที่โจทย์ถามหาอะไร ....................................................................................................
ขั้นที่ 2 วางแผนในการแก้ปัญหา
2.1 เขียนแผนภาพการกระจาย
2.2 สร้างตาราง
2.3 สร้างสมการปกติ
2.4 แก้สมการ หาค่าคงตัว คือ a และ b
ขั้นที่ 3 ดาเนินการตามแผน เขียนแผนภาพการกระจาย
ตาราง 4.3 ก
ปี พ.ศ. จานวนรถยนต์ (Y) t t2
tY
2547 12
2548 16
2549 20
2550 22
2551 24
2552 26
รวม Y = t =  2
t = tY =
ขั้นที่ 4 ตรวจสอบผลที่ได้โดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูป
15
แบบทดสอบท้ำยชุดกิจกรรมชุดที่ 4
วิชำคณิตศำสตร์รอบรู้ 5 (ค 43201) ชั้น ม. 6 วิทย์ เรื่องควำมสัมพันธ์เชิงฟังก์ชัน
ชื่อ .................................................................ชั้น ..........................เลขที่ ...............................
คำสั่ง จงใช้กระบวนการแก้ปัญหาของโพลยาแก้โจทย์ปัญหาต่อไปนี้
1. ข้อมูลต่อไปนี้แสดงเงินเดือนของชายคนหนึ่ง มีความสัมพันธ์กับเวลาในรูปเส้นตรง
ตั้งแต่ พ.ศ. 2548 – 2552 เป็นดังนี้
พ.ศ. 2548 2549 2550 2551 2552
เงินเดือน (พันบาท) 18 19.8 20.2 21.4 22.5
1. จงหาสมการของความสัมพันธ์เชิงฟังก์ชันระหว่างเงินเดือนในเวลาต่างๆ
2. จงประมาณเงินเดือนของชายคนนี้ในปี พ.ศ. 2555 เป็นเงินกี่บาท
ขั้นที่ 1 ทาความเข้าใจกับปัญหา
1.1 สิ่งที่โจทย์กาหนด ...........................................................................................................
1.2 สิ่งที่โจทย์ถามหาอะไร ....................................................................................................
ขั้นที่ 2 วางแผนในการแก้ปัญหา
2.1 เขียนแผนภาพการกระจาย
2.2 สร้างตาราง
2.3 สร้างสมการปกติ
2.4 แก้สมการ หาค่าคงตัว คือ a และ b
ขั้นที่ 3 ดาเนินการตามแผน เขียนแผนภาพการกระจาย
ตาราง 4.3 ก
ปี พ.ศ. เงินเดือน(Y) t t2
tY
2548 18
2549 19.8
2550 20.2
2551 21.4
2552 22.5
รวม Y = t =  2
t = Yt =
ขั้นที่ 4 ตรวจสอบผลที่ได้โดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูป
16
2. จานวนรถยนต์ที่บริษัทแห่งหนึ่งขายได้(ร้อยคัน) มีความสัมพันธ์กับเวลาในรูปเส้นตรงระหว่าง
ปี พ.ศ. 2547 – 2552 ดังนี้
ปี พ.ศ. 2547 2548 2549 2550 2551 2552
จานวนรถยนต์(ร้อยคัน) 12 14 20 24 30 32
1. จงหาสมการของความสัมพันธ์เชิงฟังก์ชันระหว่างรถยนต์ที่ขายได้ในเวลาต่างๆ
2. จงประมาณจานวนรถยนต์ที่ขายได้ในปี พ.ศ. 2557
ขั้นที่ 1 ทาความเข้าใจกับปัญหา
1.1 สิ่งที่โจทย์กาหนด ...........................................................................................................
1.2 สิ่งที่โจทย์ถามหาอะไร ....................................................................................................
ขั้นที่ 2 วางแผนในการแก้ปัญหา
2.1 เขียนแผนภาพการกระจาย
2.2 สร้างตาราง
2.3 สร้างสมการปกติ
2.4 แก้สมการ หาค่าคงตัว คือ a และ b
ขั้นที่ 3 ดาเนินการตามแผน เขียนแผนภาพการกระจาย
ตาราง 4.3 ข
ปี พ.ศ. จำนวนรถยนต์ (y) t t2
ty
2547 12
2548 14
2549 20
2550 24
2551 30
2552 32
รวม Y = t =  2
t = ty =
ขั้นที่ 4 ตรวจสอบผลที่ได้โดยใช้โปรแกรมสาเร็จรูป
17
บรรณำนุกรม
กรมวิชาการ. (2544 ). หลักสูตรกำรศึกษำขั้นพื้นฐำนพุทธศักรำช 2544 . กรุงเทพมหานคร :
โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว.
. (2545 ). คู่มือกำรจัดกำรเรียนรู้กลุ่มสำระคณิตศำสตร์ . กรุงเทพมหานคร :
โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว.
จักรินทร์ วรรณโพธิ์กลาง. (2553). คัมภีร์คณิตศำสตร์ ENTRANCE ม.4 - ม.6 ฉบับสมบูรณ์.
นนทบุรี: โรงพิมพ์เพิ่มทรัพย์การพิมพ์.
ประกายรัตน์ สุวรรณ. (2548). คู่มือกำรใช้โปรแกรมSPSS เวอร์ชัน12 สำหรับ Window.
กรุงเทพมหานคร: บริษัท ซีเอ็ดยูเคชั่นจากัด มหาชน.
ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, สถาบัน. (2549). คู่มือครูสำระกำรเรียนรู้
เพิ่มเติมคณิตศำสตร์เล่ม 1 กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ คณิตศำสตร์ ชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 6
ตำมหลักสูตรกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน พุทธศักรำช 2544. กรุงเทพมหานคร:
โรงพิมพ์คุรุสภา ลาดพร้าว.
. (2550). หนังสือเรียนสำระกำรเรียนรู้เพิ่มเติมคณิตศำสตร์เล่ม 1 กลุ่มสำระกำรเรียนรู้
คณิตศำสตร์ ชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 6 ตำมหลักสูตรกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน พุทธศักรำช
2544. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์คุรุสภา ลาดพร้าว.
สมัย เหล่าวานิชย์และพัวพรรณ เหล่าวานิชย์. (2547). คณิตศำสตร์ ม.6 เล่ม 5. กรุงเทพมหานคร:
บริษัทไฮเอ็ดพับลิชชิ่งจากัด.
18
เฉลยใบกิจกรรมที่ 4.1
ข้อมูลต่อไปนี้แสดงความสัมพันธ์ระหว่างเวลากับเงินเดือนของชายคนหนึ่งในรูปเส้นตรง
ตั้งแต่ พ.ศ. 2546 – 2550 ดังนี้
ปี พ.ศ. : t 2546 2547 2548 2549 2550
เงินเดือน(พันบาท) : Y 7.5 8 9.5 11.2 12.8
1. จงเขียนแผนภาพการกระจาย
2. จงหาสมการของความสัมพันธ์ระหว่างเวลากับเงินเดือน
ถ้า y เป็นตัวแปรตาม(เงินเดือน) และ t เป็นตัวแปรอิสระ (ระยะเวลา)
ตอบ สมกำรประมำณค่ำ คือ Yˆ = 1.38 t + 9.8
3. จงประมาณเงินเดือนของชายคนนี้ในปี 2555
ในปี พ.ศ. 2555 ค่ำ t = 7
ตอบ เงินเดือนของชายคนนี้ประมาณ 19.46 พันบำทหรือ 19,460 บำท
Independent: T
Dependent Mth Rsq d.f. F Sigf b0 b1
Y LIN .973 3 106.59 .002 9.8000 1.3800
เฉลยใบกิจกรรมที่ 4.2
1. จานวนรถยนต์ที่บริษัทแห่งหนึ่งขายได้(ร้อยคัน) มีความสัมพันธ์กับเวลาในรูปเส้นตรงระหว่าง
ปี พ.ศ. 2547 – 2552 ดังนี้
ปี พ.ศ. 2547 2548 2549 2550 2551 2552
จานวนรถยนต์(ร้อยคัน) 12 16 20 22 24 26
1. จงหาสมการของความสัมพันธ์เชิงฟังก์ชันระหว่างรถยนต์ที่ขายได้ในเวลาต่างๆ
ถ้า y เป็นตัวแปรตาม(จานวนรถยนต์) และ t เป็นตัวแปรอิสระ (ระยะเวลา)
ตอบ สมกำรประมำณค่ำ คือ Yˆ = 1.37 t + 20
2. จงประมาณจานวนรถยนต์ที่ขายได้ในปี พ.ศ. 2555
ในปี พ.ศ. 2555 ค่ำ t = 11
ตอบ จานวนรถยนต์ที่ขายได้ประมาณ 35.07 ร้อยคันหรือ 3507 คัน
Independent: T
Dependent Mth Rsq d.f. F Sigf b0 b1
Y LIN .968 4 121.26 .000 20.0000 1.3714
19
เฉลยแบบทดสอบท้ำยชุดกิจกรรมชุดที่ 4
1. ข้อมูลต่อไปนี้แสดงเงินเดือนของชายคนหนึ่ง ตั้งแต่ พ.ศ. 2548 – 2552 เป็นดังนี้
พ.ศ. 2548 2549 2550 2551 2552
เงินเดือน (พันบาท) 18 19.8 20.2 21.4 22.5
1. จงหาสมการของความสัมพันธ์เชิงฟังก์ชันระหว่างเงินเดือนในเวลาต่างๆ
ตอบ สมกำรประมำณค่ำ คือ Yˆ = 1.06 t + 20.38
2. จงประมาณเงินเดือนของชายคนนี้ในปี พ.ศ. 2555 เป็นเงินกี่บาท
จงประมาณเงินเดือนของชายคนนี้ในปี พ.ศ. 2555
ในปี พ.ศ. 2555 ค่ำ t = 5
ตอบ เงินเดือนของชายคนนี้ในปี พ.ศ. 2555 ประมาณ 2.68 พันบาท หรือ 26,800 บาท
Independent: T
Dependent Mth Rsq d.f. F Sigf b0 b1
Y LIN .971 3 101.53 .002 20.3800 1.0600
2. จานวนรถยนต์ที่บริษัทแห่งหนึ่งขายได้(ร้อยคัน) มีความสัมพันธ์กับเวลาในรูปเส้นตรงระหว่าง
ปี พ.ศ. 2547 – 2552 ดังนี้
ปี พ.ศ. 2547 2548 2549 2550 2551 2552
จานวนรถยนต์(ร้อยคัน) 12 14 20 24 30 32
1. จงหาสมการของความสัมพันธ์เชิงฟังก์ชันระหว่างรถยนต์ที่ขายได้ในเวลาต่างๆ
ถ้า y เป็นตัวแปรตาม(จานวนรถยนต์) และ t เป็นตัวแปรอิสระ (ระยะเวลา)
ตอบ สมกำรประมำณค่ำ คือ Yˆ = 2.17 t + 22
2. จงประมาณจานวนรถยนต์ที่ขายได้ในปี พ.ศ. 2557
ในปี พ.ศ. 2557 ค่ำ t = 15
ตอบ จานวนรถยนต์ที่ขายได้ประมาณ 54.55 ร้อยคันหรือ 5,455 คัน
Independent: T
Dependent Mth Rsq d.f. F Sigf b0 b1
Y LIN .982 4 222.15 .000 22.0000 2.1714
20
แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ 4
วิชำคณิตศำสตร์รอบรู้ 5 รหัสวิชำ ค43201 ชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 6
หน่วยกำรเรียนรู้ที่ 4 เวลำ 3 ชั่วโมง
เรื่อง ควำมสัมพันธ์เชิงฟังก์ชันระหว่ำงข้อมูลที่อยู่ในรูปอนุกรมเวลำและ กรำฟเป็นเส้นตรง
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
มำตรฐำน ค 5.2 ใช้วิธีการทางสถิติและความรู้เกี่ยวกับความน่าจะเป็นในการคาดการณ์ได้อย่าง
สมเหตุสมผล
1. ผลกำรเรียนรู้ที่คำดหวัง
1. สร้างความสัมพันธ์ของข้อมูลที่ประกอบด้วยตัวแปรสองตัว
2. ใช้ความสัมพันธ์เชิงฟังก์ชันของข้อมูลทานายค่าตัวแปรตามเมื่อกาหนดตัวแปรอิสระให้
ด้ำนควำมรู้ นักเรียนสามารถ
1. สร้างความสัมพันธ์ของข้อมูลที่ประกอบด้วยตัวแปรสองตัว
2. ใช้ความสัมพันธ์เชิงฟังก์ชันของข้อมูลทานายค่าตัวแปรตามเมื่อกาหนดตัวแปรอิสระให้
ด้ำนทักษะ / กระบวนกำร นักเรียนสามารถ
1. ทาความเข้าใจโจทย์ปัญหาของความสัมพันธ์เชิงฟังก์ชันระหว่างข้อมูลที่อยู่ในรูป
อนุกรมเวลาและ กราฟเป็นเส้นตรงได้
2. วางแผนการแก้ปัญหาได้
3. ดาเนินการแก้ปัญหาตามแผนได้
4. ตรวจสอบคาตอบโดยใช้โปรแกรมสาเร็จรูปได้
ด้ำนคุณลักษณะ
1. มีความรับผิดชอบ
2. ความมีระเบียบ
3. มีความรอบคอบ
4. การให้เหตุผล
2. สำระกำรเรียนรู้
ข้อมูลที่อยู่ในรูปอนุกรมเวลำ คือ ข้อมูลที่แสดงความเปลี่ยนแปลงตามลาดับเวลาที่
เกิดขึ้นซึ่งความสัมพันธ์อยู่ในรูป Y = f(t) โดยที่ t แทนเวลา เช่น วัน เดือน ปี พ.ศ. เป็นต้น
เมื่อ t เป็นตัวแปรอิสระ แทนค่าของข้อมูล Y เป็นตัวแปรตาม
21
กำรกำหนดระยะเวลำ (t)
ก. ถ้ำจำนวนระยะเวลำ (t) ที่กำหนดให้เป็นจำนวนคี่ *** ให้ระยะเวลำที่อยู่ตรงกลำงเป็น 0
โดยเรียงตามลาดับก่อนหลังดังนี้ … , - 3 , - 2 , - 1 , 0 , 1 , 2 , 3 , …
ข. ถ้ำจำนวนระยะเวลำ (t) ที่กำหนดให้เป็นจำนวนคู่ *** ให้ระยะเวลำที่อยู่คู่กลำงเป็น – 1
และ 1 โดยเรียงตามลาดับก่อนหลังดังนี้ … , - 5 , - 3 , - 1 , 1 , 3 , 5 , …
กำรสร้ำงควำมสัมพันธ์เชิงฟังก์ชันระหว่ำงข้อมูลกรำฟเป็นรูปเส้นตรง
เมื่อ y เป็นตัวแปรตำม และ t เป็นตัวแปรอิสระ a และ b เป็นค่ำคงตัวที่ต้องกำรหำ
มีสมการเป็น Y = at + b
สมการปกติคือ 
n
i
iy
1
= a 
n
i
it
1
+ bn ………………(1)

n
i
ii yt
1
= a 
n
i
it
1
2
+ b 
n
i
it
1
………………(2)
ข้อสังเกต 
n
i
it
1
= 0
จาก สมการ(1) จะได้ b =
n
y
n
i
i1
จาก สมการ(2) จะได้ a =




n
i
i
n
i
ii
t
yt
1
2
1
3. กิจกรรมกำรเรียนกำรสอน
ชั่วโมงที่ 1
1. ครูทบทวนความสัมพันธ์เชิงฟังก์ชันระหว่างข้อมูลที่กราฟเป็นเส้นตรง
2. แบ่งนักเรียนเป็นกลุ่มๆละ 4 คน โดยแต่ละกลุ่มให้มีทั้งนักเรียนเก่ง อ่อน อย่างละ1 คน
ปานกลาง 2 คน คละกัน แล้วให้สมาชิกในแต่ละกลุ่มเลือกประธานกลุ่มและเลขาของกลุ่ม
แบ่งหน้าที่ในการทากิจกรรมและหมุนเวียนหน้าที่กันในกลุ่มช่วยกันทางานกลุ่ม
3. นักเรียนแต่ละกลุ่มๆ ศึกษา ใบความรู้ที่ 4.1 ความสัมพันธ์เชิงฟังก์ชันระหว่างข้อมูลที่อยู่
ในรูปอนุกรมเวลาและ กราฟเป็นเส้นตรง ถ้าจานวนระยะเวลา (t) ที่กาหนดให้เป็นจานวนคี่
โดยนักเรียนแต่ละกลุ่มมีคอมพิวเตอร์ 1 เครื่อง เพื่อฝึกการตรวจสอบคาตอบโดยใช้การวิเคราะห์
การถดถอยด้วยโปรแกรมสาเร็จรูป
22
4. ให้นักเรียนแต่ละคนทาใบกิจกรรมที่ 4.1 โดยใช้กระบวนการแก้ปัญหาของโพลยา
มี 4 ขั้นตอน
ขั้นที่ 1 ทาความเข้าใจกับปัญหา
1.1 สิ่งที่โจทย์กาหนด ...................................................................................................
1.2 สิ่งที่โจทย์ถามหาอะไร ...................................................................................................
ขั้นที่ 2 วางแผนในการแก้ปัญหา
2.1 เขียนแผนภาพการกระจาย
2.2 สร้างตาราง
2.3 สร้างสมการปกติ
2.4 แก้สมการ หาค่าคงตัว คือ a และ b
ขั้นที่ 3 ดาเนินการตามแผน
ขั้นที่ 4 ตรวจสอบผลที่ได้โดยใช้โปรแกรมสาเร็จรูป
5. ครูและนักเรียนช่วยกันเฉลย ใบกิจกรรมที่ 4.1 โดยการสุ่มนักเรียนนาเสนอคาตอบที่
คานวณได้ฝึกนักเรียนตรวจคาตอบโดยใช้คอมพิวเตอร์ตามขั้นตอนไปพร้อมๆกับครู ฝึกอ่านค่า
จากตารางผลการวิเคราะห์ข้อมูล (output) ซึ่งมีครูคอยให้คาแนะนาและตรวจสอบความถูกต้อง
6. ให้นักเรียนช่วยกันสรุปสาระสาคัญเกี่ยวกับความสัมพันธ์เชิงฟังก์ชันระหว่างข้อมูลที่อยู่
ในรูปอนุกรมเวลาและ กราฟเป็นเส้นตรง ถ้าจานวนระยะเวลา (t) ที่กาหนดให้เป็นจานวนคี่
โดยการถาม-ตอบและสรุปร่วมกัน
ชั่วโมงที่ 2
1. ครูทบทวน การกาหนดระยะเวลา (t)
ก. ถ้าจานวนระยะเวลา (t) ที่กาหนดให้เป็นจานวนคี่ ให้ระยะเวลาที่อยู่ตรงกลางเป็น 0
โดยเรียงตามลาดับก่อนหลังดังนี้ … , - 3 , - 2 , - 1 , 0 , 1 , 2 , 3 , …
2. นักเรียนแต่ละกลุ่มๆ ศึกษา ใบความรู้ที่ 4.2 ถ้าจานวนระยะเวลา (t) ที่กาหนดให้เป็น
จานวนคู่ โดยนักเรียนแต่ละกลุ่มมีคอมพิวเตอร์ 1 เครื่อง เพื่อฝึกการตรวจสอบคาตอบโดยใช้การ
วิเคราะห์การถดถอยด้วยโปรแกรมสาเร็จรูป
3. ให้นักเรียนแต่ละคนทาใบกิจกรรมที่ 4.2 โดยใช้กระบวนการแก้ปัญหาของโพลยา
4. ครูและนักเรียนช่วยกันเฉลย โดยการสุ่มนักเรียนนาเสนอคาตอบที่คานวณได้
ฝึกนักเรียนตรวจคาตอบโดยใช้คอมพิวเตอร์ตามขั้นตอนไปพร้อมๆกับครู ฝึกอ่านค่าจากตารางผล
การวิเคราะห์ข้อมูล (output) ซึ่งมีครูคอยให้คาแนะนาและตรวจสอบความถูกต้อง
23
5. ให้นักเรียนช่วยกันสรุปสาระสาคัญเกี่ยวกับความสัมพันธ์เชิงฟังก์ชันระหว่างข้อมูลที่อยู่
ในรูปอนุกรมเวลาและ กราฟเป็นเส้นตรง ถ้าจานวนระยะเวลา (t) ที่กาหนดให้เป็นจานวนคู่
โดยการถาม-ตอบและสรุปร่วมกัน
ชั่วโมงที่ 3
นักเรียนทาแบบทดสอบท้ายชุดกิจกรรมชุดที่ 4
4. สื่อกำรเรียน
1. หนังสือเรียนสาระการเรียนรู้เพิ่มเติมคณิตศาสตร์ เล่ม 1 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
ของสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงศึกษาธิการ
2. เครื่องฉายทึบแสง (Projecter)
3. เครื่องคอมพิวเตอร์และโปรแกรมสาเร็จรูป
4. ใบความรู้ที่ 4.1ใบความรู้ที่ 4.2 ใบกิจกรรมที่ 4.1และ ใบกิจกรรมที่ 4.2
5. แบบทดสอบท้ายชุดกิจกรรมชุดที่ 4
5. กำรวัดผลและกำรประเมินผลกำรเรียนรู้
รำยละเอียด วิธีกำร เครื่องมือ เกณฑ์
ด้านความรู้(K) ตรวจใบกิจกรรม/
แบบทดสอบชุดที่ 4
ใบกิจกรรมที่ 4.1 และ
ใบกิจกรรมที่ 4.2
แบบทดสอบท้ายชุดที่ 4
ได้คะแนนร้อยละ 75
หรือระดับดีขึ้นไป
ทักษะการแก้ปัญหา
(P)
ตรวจแบบประเมิน
การแก้ปัญหา
แบบประเมินการ
แก้ปัญหา
ได้คะแนน ระดับดีขึ้นไป
คุณลักษณะ (A) สังเกตคุณลักษณะ แบบสังเกตคุณลักษณะ ได้คะแนน ระดับดี ขึ้นไป
เกณฑ์กำรวัดผลและประเมินผล ใช้เกณฑ์การประเมินการแก้ปัญหาของโพลยาที่พัฒนาปรับปรุงมา
จากแนวทางของกรมวิชาการ (2544)
เกณฑ์กำรให้คะแนนกระบวนกำรแก้ปัญหำของโพลยำ (10 คะแนน)
ขั้นที่ 1 ทาความเข้าใจกับปัญหา ( 2 คะแนน )
ขั้นที่ 2 วางแผนในการแก้ปัญหา ( 2 คะแนน )
ขั้นที่ 3 ดาเนินการตามแผน ( 4 คะแนน )
ขั้นที่ 4 ตรวจสอบโดยใช้โปรแกรมสาเร็จรูป ( 2 คะแนน )
24
6. กิจกรรมเสนอแนะ
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
7. ข้อเสนอแนะของหัวหน้ำสถำนศึกษำ/ผู้ได้รับมอบหมำย
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
ลงชื่อ…………………………
(นางมุกดา อองกุลนะ)
รองผู้อานวยการกลุ่มบริหารงานวิชาการ
วันที่………เดือน……………..พ.ศ………
1. บันทึกผลหลังการสอน
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
2. ปัญหา/อุปสรรค
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………….
3. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
ลงชื่อ………………………… ผู้สอน
( นางรัศมี ธัญน้อม)
ครู ชานาญการ
วันที่……….เดือน………………พ.ศ………..
25
เกณฑ์กำรประเมิน หรือแนวทำงกำรให้คะแนน
สาหรับการวิจัยในครั้งนี้ จะใช้เกณฑ์การประเมินการแก้ปัญหาของโพลยา
ที่พัฒนาปรับปรุงมาจากแนวทางของกรมวิชาการ (2544) ดังนี้
กระบวนกำรแก้ปัญหำของโพลยำ
เกณฑ์กำรให้คะแนนกระบวนกำรแก้ปัญหำของโพลยำ (10 คะแนน)
ขั้นที่ 1 ทาความเข้าใจกับปัญหา ( 2 คะแนน )
ขั้นที่ 2 วางแผนในการแก้ปัญหา ( 2 คะแนน )
ขั้นที่ 3 ดาเนินการตามแผน ( 4 คะแนน )
ขั้นที่ 4 ตรวจสอบโดยใช้โปรแกรมสาเร็จรูป ( 2 คะแนน )
ขั้นที่ 1 ทาความเข้าใจกับปัญหา
ให้ 0 คะแนน ถ้าเข้าใจผิดพลาด
ให้ 1 คะแนน ถ้ามีบางส่วนเข้าใจผิดพลาด แต่มีบางส่วนเข้าใจถูกต้อง
ให้ 2 คะแนน ถ้าเข้าใจปัญหาอย่างถูกต้อง
ขั้นที่ 2 วางแผนในการแก้ปัญหา
ให้ 0 คะแนน ถ้าไม่มีการวางแผนในการแก้ปัญหาหรือมีแผนการแก้ปัญหาไม่
เหมาะสม
ให้ 1 คะแนน ถ้ามีแผนการแก้ปัญหาที่ถูกต้องบางส่วนแต่มีบางส่วนไม่ถูกต้อง
ให้ 2 คะแนน ถ้ามีแผนการแก้ปัญหาที่สามารถนาไปใช้แก้ปัญหาได้อย่าง
เหมาะสม
ขั้นที่ 3 ดาเนินการตามแผน
ให้ 0 คะแนน ถ้าไม่มีคาตอบหรือคาตอบผิด
ให้ 1 คะแนน ใช้วิธีการแก้ปัญหาบางส่วนถูกต้อง ข้อมูลบางส่วนผิดพลาด
จึงทาให้การคานวณผิดพลาด คาตอบผิด
ให้ 2 คะแนน ใช้วิธีการแก้ปัญหาถูกต้อง ข้อมูลบางส่วนผิดพลาด
จึงทาให้การคานวณผิดพลาด แต่มีบางส่วนคานวณถูกต้อง
ให้ 3 คะแนน ใช้วิธีการแก้ปัญหาถูกต้อง ข้อมูลบางส่วนผิดพลาด ส่วนใหญ่
คานวณถูกต้อง ได้คาตอบถูกต้อง
ให้ 4 คะแนน ใช้ยุทธวิธีการแก้ปัญหาสาเร็จอย่างมีประสิทธิภาพ
ได้คาตอบถูกต้อง
ขั้นที่ 4 ตรวจสอบโดยใช้โปรแกรมสาเร็จรูป
26
ให้ 0 คะแนน ใช้โปรแกรมสาเร็จรูป ตรวจสอบคาตอบได้ แต่ผลการวิเคราะห์
ไม่ตรงกับที่คานวณได้
ให้ 1 คะแนน ใช้โปรแกรมสาเร็จรูป ตรวจสอบคาตอบได้และผลการวิเคราะห์
ตรงกับที่คานวณได้ ตั้งสมการปกติผิด
ให้ 2 คะแนน ใช้โปรแกรมสาเร็จรูป ตรวจสอบคาตอบได้ ผลการวิเคราะห์
ตรงกับที่คานวณได้ ตั้งสมการปกติได้ถูกต้อง
สรุปผลกำรประเมินกระบวนกำรแก้ปัญหำของโพลยำ
ระดับคุณภาพ ดีมาก ได้คะแนน 8 - 10
ระดับคุณภาพ ดี ได้คะแนน 6 - 7
ระดับคุณภาพ พอใช้ ได้คะแนน 3 - 5
ระดับคุณภาพ ปรับปรุงได้คะแนน 1 – 2
เกณฑ์กำรประเมินด้ำนคุณลักษณะ
มีควำมรับผิดชอบ
4 หมายถึง ส่งงานก่อนกาหนด รับผิดชอบงานที่ได้รับมอบหมายและปฏิบัติเองจน
เป็นนิสัย เป็นระบบ ช่วยเหลือผู้อื่นและแนะนาชักชวนผู้อื่นปฏิบัติ
3 หมายถึง ส่งงานตรงตามกาหนด รับผิดชอบงานที่ได้รับมอบหมายและปฏิบัติเอง
จนเป็นนิสัย เป็นระบบ ช่วยเหลือผู้อื่นและแนะนาชักชวนผู้อื่นปฏิบัติ
2 หมายถึง ส่งงานตรงตามกาหนดรับผิดชอบงานที่ได้รับมอบหมายและปฏิบัติเองจน
เป็นนิสัย เป็นระบบ
1 หมายถึง ส่งงานล่าช้ากว่ากาหนด รับผิดชอบงานที่ได้รับมอบหมายและปฏิบัติเอง
ได้บางส่วนต้องคอยแนะนา ตักเตือน
ควำมมีระเบียบ
4 หมายถึง ชิ้นงานสะอาดเรียบร้อยปฏิบัติงานอยู่ในข้อตกลงที่กาหนดร่วมกันทุกครั้ง
3 หมายถึง ชิ้นงานส่วนใหญ่สะอาดเรียบร้อยปฏิบัติงานอยู่ในข้อตกลงที่กาหนด
ร่วมกันเป็นส่วนใหญ่
2 หมายถึง ชิ้นงานไม่ค่อยเรียบร้อยปฏิบัติงานอยู่ในข้อตกลงที่กาหนดร่วมกัน
บางครั้ง
1 หมายถึง ชิ้นงานไม่เรียบร้อยปฏิบัติงานอยู่ในข้อตกลงที่กาหนดร่วมกันโดยอาศัย
การแนะนา
มีควำมรอบคอบ
27
4 หมายถึง มีความรอบคอบในการแก้ปัญหาทาให้ได้คาตอบที่ถูกต้อง
3 หมายถึง มีความรอบคอบในการแก้ปัญหาแต่ได้คาตอบผิดเล็กน้อย
2 หมายถึง มีความรอบคอบในการแก้ปัญหาปานกลางแต่ได้คาตอบผิดพลาดเล็กน้อย
1 หมายถึง มีความรอบคอบในการแก้ปัญหาเล็กน้อยได้คาตอบไม่ถูกต้อง
กำรให้เหตุผล
4 หมายถึง มีการอ้างอิง เสนอแนวคิดประกอบการตัดสินใจอย่างสมเหตุสมผล
3 หมายถึง มีการอ้างอิงถูกต้องบางส่วนและเสนอแนวคิดประกอบการตัดสินใจ
2 หมายถึง เสนอแนวคิดไม่สมเหตุสมผลในการประกอบการตัดสินใจ
1 หมายถึง มีความพยายามเสนอแนวคิดประกอบการตัดสินใจ
สรุปผลกำรประเมินด้ำนคุณลักษณะ
ระดับคุณภาพ ดีมาก ได้คะแนน 13 - 16
ระดับคุณภาพ ดี ได้คะแนน 9 - 12
ระดับคุณภาพ พอใช้ ได้คะแนน 5 - 8
ระดับคุณภาพ ปรับปรุงได้คะแนน 1 - 4
เกณฑ์กำรประเมินของคะแนนกลุ่ม
กำรวำงแผนกำรทำงำน
4 หมายถึง มีการวางแผนการทางานทุกขั้นตอน มีข้อเสนอที่เป็นประโยชน์ใน
การวางแผนงานดีมาก
3 หมายถึง มีการวางแผนการทางานเกือบครบทุกขั้นตอน มีข้อเสนอที่เป็น
ประโยชน์ในการวางแผนงานดี
2 หมายถึง มีการวางแผนการทางานบ้าง มีข้อเสนอที่เป็นประโยชน์ใน
การวางแผนงานดีพอสมควร
1 หมายถึง มีการวางแผนการทางานน้อยมาก หรือไม่มีข้อเสนอแนะที่เป็น
ประโยชน์ใน การวางแผนงาน
แสดงควำมคิดเห็นอย่ำงมีเหตุผล
28
4 หมายถึง ใช้เหตุผลในการแสดงความคิดเห็นได้ดีมาก และมุ่งประโยชน์เพื่อ
พัฒนาคุณภาพงานเป็นสาคัญ
3 หมายถึง ใช้เหตุผลในการแสดงความคิดเห็นได้ดี
2 หมายถึง ใช้เหตุผลในการแสดงความคิดเห็นได้บ้างพอสมควร
1 หมายถึง ใช้ความรู้สึกส่วนตัวในการแสดงความคิดเห็นมากกว่าใช้เหตุผล
ยอมรับข้อสรุปและผลงำนของกลุ่ม
4 หมายถึง สมาชิกทุกคนมีส่วนร่วมในการสรุป ยอมรับข้อสรุปของกลุ่ม
ร่วมรับผิดชอบ ปรับปรุง แก้ไขงานของกลุ่มทั้งหมดด้วยความเต็มใจ
3 หมายถึง สมาชิกทุกคนมีส่วนร่วมในการสรุป ยอมรับข้อสรุปของกลุ่ม
ร่วมรับผิดชอบ ปรับปรุง แก้ไขงานส่วนใหญ่ของกลุ่ม
2 หมายถึง สมาชิกบางคนไม่มีส่วนร่วมในการสรุป แต่ยอมรับข้อสรุปของกลุ่ม
ร่วมรับผิดชอบ และปรับปรุง แก้ไขงานของกลุ่มพอสมควร
1 หมายถึง สมาชิกส่วนใหญ่จะไม่มีส่วนร่วมในการสรุป แต่ยอมรับข้อสรุปของกลุ่ม
ร่วมรับผิดชอบ และปรับปรุง แก้ไขงานของกลุ่มเพียงเล็กน้อย
ควำมสำมัคคี
4 หมายถึง ให้ความร่วมมือช่วยเหลือกันในการทางานอย่างสม่าเสมอ
3 หมายถึง ให้ความร่วมมือช่วยเหลือกันในการทางานพอสมควร
2 หมายถึง ให้ความร่วมมือช่วยเหลือกันในการทางานเป็นบางขั้นตอน
1 หมายถึง ไมค่อยให้ความร่วมมือไม่ช่วยเหลือกันในการทางาน
ทักษะกำรแก้ปัญหำ
4 หมายถึง ถ้านักเรียนแก้ปัญหาผิดพลาดเล็กน้อย และความผิดพลาดไม่ส่งผล
กระทบต่อข้อมูลอื่นๆ นักเรียนแก้ปัญหาได้ถูกต้องสมบูรณ์ได้คาตอบถูกต้อง
3 หมายถึง ถ้ามีเครื่องมือที่จะนาไปใช้แก้ปัญหา สามารถแสดงวิธีการแก้ปัญหาได้
ถูกต้องแต่เข้าใจผิดพลาดในบางส่วนจึงทาให้คาตอบผิด มียุทธวิธีในการแก้ปัญหาอย่างเหมาะสมแต่
คาตอบผิดโดยไม่ปรากฏเหตุผล หรือมีคาตอบบางส่วนถูกต้อง แสดงวิธีการแก้ปัญหาถูกต้อง เลือก
ยุทธวิธีแก้ปัญหาได้ถูกต้องแต่การแก้ปัญหาไม่สมบูรณ์
2 หมายถึง ถ้าแสดงยุทธวิธีการแก้ปัญหาได้ถูกต้องแต่การคานวณผิดพลาด
29
และมีร่องรอยปรากฏว่ามีความเข้าใจในปัญหา แต่ไม่ได้แสดงการแก้ปัญหาเพียงพอที่จะค้นพบ
คาตอบได้หรือใช้วิธีการคานวณผิดพลาดในบางส่วนจึงทาให้คาตอบผิด นักเรียนค้นพบคาตอบของ
ปัญหาย่อยแสดงวิธีทาได้ถูกต้องแต่กระบวนการทางานไม่ถูกต้องหรือไม้ได้แสดงให้เห็น
กระบวนการทางาน
1 หมายถึง ถ้ามีร่อยรอยปรากฏว่าพบวิธีการแก้ปัญหาที่ถูกต้องและคัดลอกข้อมูลที่
จาเป็นในการแก้ปัญหาแสดงให้เห็นว่ามีความเข้าใจในปัญหา มีร่องรอยการแสดงยุทธวิธีในการ
อย่างเหมาะสมแต่ทาไม่สาเร็จ
สรุปผลกำรประเมิน
ระดับคุณภาพ ดีมาก ได้คะแนน 16 - 20
ระดับคุณภาพ ดี ได้คะแนน 11 - 15
ระดับคุณภาพ พอใช้ ได้คะแนน 6 - 10
ระดับคุณภาพ ปรับปรุงได้คะแนน 1 – 5
แบบสังเกตคุณลักษณะ
เลขที่
รำยกำรประเมิน
รวมควำมรับผิดชอบ
4
ควำมมีระเบียบ
4
ควำมรอบคอบ
4
กำรให้เหตุผล
4
1
30
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
ผู้ประเมิน ตนเอง
ผู้เรียนกลุ่มที่....................................................
ผู้สอน..............................................................
….............../.............../.................
แบบประเมินกำรทำงำนกลุ่ม
กลุ่มที่
รำยกำรประเมิน
รวม
20
กำรวำงแผน
กำรทำงำน
แสดงควำมคิด
อย่ำงมีเหตุผล
ยอมรับข้อสรุป
ผลงำนของกลุ่ม
ควำมสำมัคคี ทักษะกำร
แก้ปัญหำ
31
4 4 4 4 4
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
ผู้ประเมิน ตนเอง
ผู้เรียนกลุ่มที่....................................................
ผู้สอน..............................................................
….............../.............../.................

More Related Content

What's hot

2. บันได 5 ขั้นqsccs
2. บันได 5 ขั้นqsccs2. บันได 5 ขั้นqsccs
2. บันได 5 ขั้นqsccskrurutsamee
 
เอกสารค่ากลางของข้อมูล
เอกสารค่ากลางของข้อมูลเอกสารค่ากลางของข้อมูล
เอกสารค่ากลางของข้อมูลkrurutsamee
 
การวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้นคืออะไร
การวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้นคืออะไรการวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้นคืออะไร
การวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้นคืออะไรAomJi Math-ed
 
1. เศรษฐกิจพอเพียง
1. เศรษฐกิจพอเพียง1. เศรษฐกิจพอเพียง
1. เศรษฐกิจพอเพียงkrurutsamee
 
หลักการเบื้องต้นแก้ปัญหาป.6
หลักการเบื้องต้นแก้ปัญหาป.6หลักการเบื้องต้นแก้ปัญหาป.6
หลักการเบื้องต้นแก้ปัญหาป.6yosawat1089
 
แผนการจัดการเรียนรู้เรื่องระยะระหว่างจุด
แผนการจัดการเรียนรู้เรื่องระยะระหว่างจุดแผนการจัดการเรียนรู้เรื่องระยะระหว่างจุด
แผนการจัดการเรียนรู้เรื่องระยะระหว่างจุดlookgade
 
แผนการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์บูรณาการการใช้สื่อเทคโนโลยีสารสนเทศ
แผนการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์บูรณาการการใช้สื่อเทคโนโลยีสารสนเทศแผนการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์บูรณาการการใช้สื่อเทคโนโลยีสารสนเทศ
แผนการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์บูรณาการการใช้สื่อเทคโนโลยีสารสนเทศchaimate
 
บทที่ 1 สถิติและการวิเคราะห์ข้อมูล
บทที่ 1 สถิติและการวิเคราะห์ข้อมูลบทที่ 1 สถิติและการวิเคราะห์ข้อมูล
บทที่ 1 สถิติและการวิเคราะห์ข้อมูลsawed kodnara
 
ใบความรู้ เรื่องสถิติ
ใบความรู้ เรื่องสถิติใบความรู้ เรื่องสถิติ
ใบความรู้ เรื่องสถิติพัน พัน
 
2.91 แบบฝึกหัด การวัดการกระจายสัมพัทธ์
2.91  แบบฝึกหัด การวัดการกระจายสัมพัทธ์2.91  แบบฝึกหัด การวัดการกระจายสัมพัทธ์
2.91 แบบฝึกหัด การวัดการกระจายสัมพัทธ์othanatoso
 
สถิติ ม.6 เรื่องการวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้น
สถิติ ม.6 เรื่องการวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้นสถิติ ม.6 เรื่องการวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้น
สถิติ ม.6 เรื่องการวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้นParn Parai
 
ชุดที่ 6 การแก้โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับอัตราส่วน
ชุดที่ 6 การแก้โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับอัตราส่วนชุดที่ 6 การแก้โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับอัตราส่วน
ชุดที่ 6 การแก้โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับอัตราส่วนพิทักษ์ ทวี
 
การวัดการกระจายสัมพัทธ์
การวัดการกระจายสัมพัทธ์การวัดการกระจายสัมพัทธ์
การวัดการกระจายสัมพัทธ์KruGift Girlz
 
การวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้นคืออะไร
การวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้นคืออะไรการวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้นคืออะไร
การวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้นคืออะไรAomJi Math-ed
 
คำอธิบายรายวิชาม.2ปรับอ.สมนึก
คำอธิบายรายวิชาม.2ปรับอ.สมนึกคำอธิบายรายวิชาม.2ปรับอ.สมนึก
คำอธิบายรายวิชาม.2ปรับอ.สมนึกทับทิม เจริญตา
 

What's hot (20)

2. บันได 5 ขั้นqsccs
2. บันได 5 ขั้นqsccs2. บันได 5 ขั้นqsccs
2. บันได 5 ขั้นqsccs
 
เอกสารค่ากลางของข้อมูล
เอกสารค่ากลางของข้อมูลเอกสารค่ากลางของข้อมูล
เอกสารค่ากลางของข้อมูล
 
การวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้นคืออะไร
การวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้นคืออะไรการวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้นคืออะไร
การวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้นคืออะไร
 
1. เศรษฐกิจพอเพียง
1. เศรษฐกิจพอเพียง1. เศรษฐกิจพอเพียง
1. เศรษฐกิจพอเพียง
 
หลักการเบื้องต้นแก้ปัญหาป.6
หลักการเบื้องต้นแก้ปัญหาป.6หลักการเบื้องต้นแก้ปัญหาป.6
หลักการเบื้องต้นแก้ปัญหาป.6
 
แผนการจัดการเรียนรู้เรื่องระยะระหว่างจุด
แผนการจัดการเรียนรู้เรื่องระยะระหว่างจุดแผนการจัดการเรียนรู้เรื่องระยะระหว่างจุด
แผนการจัดการเรียนรู้เรื่องระยะระหว่างจุด
 
แผนการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์บูรณาการการใช้สื่อเทคโนโลยีสารสนเทศ
แผนการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์บูรณาการการใช้สื่อเทคโนโลยีสารสนเทศแผนการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์บูรณาการการใช้สื่อเทคโนโลยีสารสนเทศ
แผนการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์บูรณาการการใช้สื่อเทคโนโลยีสารสนเทศ
 
บทที่ 1 สถิติและการวิเคราะห์ข้อมูล
บทที่ 1 สถิติและการวิเคราะห์ข้อมูลบทที่ 1 สถิติและการวิเคราะห์ข้อมูล
บทที่ 1 สถิติและการวิเคราะห์ข้อมูล
 
ใบความรู้ เรื่องสถิติ
ใบความรู้ เรื่องสถิติใบความรู้ เรื่องสถิติ
ใบความรู้ เรื่องสถิติ
 
2.91 แบบฝึกหัด การวัดการกระจายสัมพัทธ์
2.91  แบบฝึกหัด การวัดการกระจายสัมพัทธ์2.91  แบบฝึกหัด การวัดการกระจายสัมพัทธ์
2.91 แบบฝึกหัด การวัดการกระจายสัมพัทธ์
 
Final test
Final testFinal test
Final test
 
Final test
Final testFinal test
Final test
 
สถิติ ม.6 เรื่องการวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้น
สถิติ ม.6 เรื่องการวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้นสถิติ ม.6 เรื่องการวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้น
สถิติ ม.6 เรื่องการวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้น
 
บทเรียน1 สถิติ
บทเรียน1  สถิติบทเรียน1  สถิติ
บทเรียน1 สถิติ
 
ชุดที่ 6 การแก้โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับอัตราส่วน
ชุดที่ 6 การแก้โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับอัตราส่วนชุดที่ 6 การแก้โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับอัตราส่วน
ชุดที่ 6 การแก้โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับอัตราส่วน
 
การวัดการกระจายสัมพัทธ์
การวัดการกระจายสัมพัทธ์การวัดการกระจายสัมพัทธ์
การวัดการกระจายสัมพัทธ์
 
การวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้นคืออะไร
การวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้นคืออะไรการวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้นคืออะไร
การวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้นคืออะไร
 
คำอธิบายรายวิชาม.2ปรับอ.สมนึก
คำอธิบายรายวิชาม.2ปรับอ.สมนึกคำอธิบายรายวิชาม.2ปรับอ.สมนึก
คำอธิบายรายวิชาม.2ปรับอ.สมนึก
 
Learning management plan 1
Learning management plan 1Learning management plan 1
Learning management plan 1
 
Eq7.1
Eq7.1Eq7.1
Eq7.1
 

Viewers also liked

มาตรการส่งเสริมการลงทุนในปัจจุบัน
มาตรการส่งเสริมการลงทุนในปัจจุบันมาตรการส่งเสริมการลงทุนในปัจจุบัน
มาตรการส่งเสริมการลงทุนในปัจจุบันThailand Board of Investment North America
 
คู่มือการขอรับการส่งเสริมการลงทุน 2559
คู่มือการขอรับการส่งเสริมการลงทุน 2559คู่มือการขอรับการส่งเสริมการลงทุน 2559
คู่มือการขอรับการส่งเสริมการลงทุน 2559Thailand Board of Investment North America
 
powerpoint อุตสาหกรรมกับผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม
powerpoint อุตสาหกรรมกับผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมpowerpoint อุตสาหกรรมกับผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม
powerpoint อุตสาหกรรมกับผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมJunjira Wuttiwitchai
 

Viewers also liked (7)

มาตรการส่งเสริมการลงทุนในปัจจุบัน
มาตรการส่งเสริมการลงทุนในปัจจุบันมาตรการส่งเสริมการลงทุนในปัจจุบัน
มาตรการส่งเสริมการลงทุนในปัจจุบัน
 
อุตสาหกรรม
อุตสาหกรรมอุตสาหกรรม
อุตสาหกรรม
 
คู่มือการขอรับการส่งเสริมการลงทุน 2559
คู่มือการขอรับการส่งเสริมการลงทุน 2559คู่มือการขอรับการส่งเสริมการลงทุน 2559
คู่มือการขอรับการส่งเสริมการลงทุน 2559
 
New Investment Promotion Measures
New Investment Promotion MeasuresNew Investment Promotion Measures
New Investment Promotion Measures
 
A Business Guide to Thailand (2016)
A Business Guide to Thailand (2016)A Business Guide to Thailand (2016)
A Business Guide to Thailand (2016)
 
powerpoint อุตสาหกรรมกับผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม
powerpoint อุตสาหกรรมกับผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมpowerpoint อุตสาหกรรมกับผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม
powerpoint อุตสาหกรรมกับผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม
 
งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1
 

Similar to ชุดที่4

ใบความรู้ที่2
ใบความรู้ที่2ใบความรู้ที่2
ใบความรู้ที่2Orapan Chamnan
 
ใบความรู้ที่1.2
ใบความรู้ที่1.2ใบความรู้ที่1.2
ใบความรู้ที่1.2Orapan Chamnan
 
ใบความรู้ที่1.2
ใบความรู้ที่1.2ใบความรู้ที่1.2
ใบความรู้ที่1.2Orapan Chamnan
 
แผนเรื่องหลักการแก้ปัญหา
แผนเรื่องหลักการแก้ปัญหาแผนเรื่องหลักการแก้ปัญหา
แผนเรื่องหลักการแก้ปัญหาwichudaaon
 
ใบความรู้ที่ 9
ใบความรู้ที่ 9ใบความรู้ที่ 9
ใบความรู้ที่ 9Rattana Wongphu-nga
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์Rung Sensabe
 
ใบความรู้ที่ 1 การแก้ปัญหาด้วยกระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ
ใบความรู้ที่ 1 การแก้ปัญหาด้วยกระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศใบความรู้ที่ 1 การแก้ปัญหาด้วยกระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ
ใบความรู้ที่ 1 การแก้ปัญหาด้วยกระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศNattapon
 
โครงร่าง งานคอม
โครงร่าง งานคอมโครงร่าง งานคอม
โครงร่าง งานคอมVisarut Keatnima
 
การแก้ปัญหาด้วยกระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ
การแก้ปัญหาด้วยกระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศการแก้ปัญหาด้วยกระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ
การแก้ปัญหาด้วยกระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศณัฐพล บัวพันธ์
 
งานคอมพิวเตอร์
งานคอมพิวเตอร์งานคอมพิวเตอร์
งานคอมพิวเตอร์prang00
 
โครงร่าง งานคอม
โครงร่าง งานคอมโครงร่าง งานคอม
โครงร่าง งานคอมVisarut Keatnima
 
แบบเสนอหัวข้อโครงงาน
แบบเสนอหัวข้อโครงงานแบบเสนอหัวข้อโครงงาน
แบบเสนอหัวข้อโครงงานKrooIndy Csaru
 
พหุปัญญา แผนการจัดกาเรียนรู้ที่ 2 เงิน
พหุปัญญา แผนการจัดกาเรียนรู้ที่ 2 เงินพหุปัญญา แผนการจัดกาเรียนรู้ที่ 2 เงิน
พหุปัญญา แผนการจัดกาเรียนรู้ที่ 2 เงินDolonk
 
รายงานการปฏิบัติงานสหกิจศึกษา
รายงานการปฏิบัติงานสหกิจศึกษารายงานการปฏิบัติงานสหกิจศึกษา
รายงานการปฏิบัติงานสหกิจศึกษาAttaporn Ninsuwan
 
น.ส ยุภารัตน์
น.ส ยุภารัตน์น.ส ยุภารัตน์
น.ส ยุภารัตน์Yuparat ORn
 

Similar to ชุดที่4 (20)

ใบความรู้ที่2
ใบความรู้ที่2ใบความรู้ที่2
ใบความรู้ที่2
 
ใบความรู้ที่1.2
ใบความรู้ที่1.2ใบความรู้ที่1.2
ใบความรู้ที่1.2
 
ใบความรู้ที่1.2
ใบความรู้ที่1.2ใบความรู้ที่1.2
ใบความรู้ที่1.2
 
111111
111111111111
111111
 
แผนเรื่องหลักการแก้ปัญหา
แผนเรื่องหลักการแก้ปัญหาแผนเรื่องหลักการแก้ปัญหา
แผนเรื่องหลักการแก้ปัญหา
 
ใบความรู้ที่ 9
ใบความรู้ที่ 9ใบความรู้ที่ 9
ใบความรู้ที่ 9
 
Unit6
Unit6Unit6
Unit6
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
 
ใบความรู้ที่ 1 การแก้ปัญหาด้วยกระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ
ใบความรู้ที่ 1 การแก้ปัญหาด้วยกระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศใบความรู้ที่ 1 การแก้ปัญหาด้วยกระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ
ใบความรู้ที่ 1 การแก้ปัญหาด้วยกระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ
 
โครงร่าง งานคอม
โครงร่าง งานคอมโครงร่าง งานคอม
โครงร่าง งานคอม
 
การแก้ปัญหาด้วยกระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ
การแก้ปัญหาด้วยกระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศการแก้ปัญหาด้วยกระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ
การแก้ปัญหาด้วยกระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ
 
งานคอมพิวเตอร์
งานคอมพิวเตอร์งานคอมพิวเตอร์
งานคอมพิวเตอร์
 
โครงร่าง งานคอม
โครงร่าง งานคอมโครงร่าง งานคอม
โครงร่าง งานคอม
 
แบบเสนอหัวข้อโครงงาน
แบบเสนอหัวข้อโครงงานแบบเสนอหัวข้อโครงงาน
แบบเสนอหัวข้อโครงงาน
 
พหุปัญญา แผนการจัดกาเรียนรู้ที่ 2 เงิน
พหุปัญญา แผนการจัดกาเรียนรู้ที่ 2 เงินพหุปัญญา แผนการจัดกาเรียนรู้ที่ 2 เงิน
พหุปัญญา แผนการจัดกาเรียนรู้ที่ 2 เงิน
 
Pbl6
Pbl6Pbl6
Pbl6
 
รายงานการปฏิบัติงานสหกิจศึกษา
รายงานการปฏิบัติงานสหกิจศึกษารายงานการปฏิบัติงานสหกิจศึกษา
รายงานการปฏิบัติงานสหกิจศึกษา
 
น.ส ยุภารัตน์
น.ส ยุภารัตน์น.ส ยุภารัตน์
น.ส ยุภารัตน์
 
Projectm6 2-2554
Projectm6 2-2554Projectm6 2-2554
Projectm6 2-2554
 
03activity1
03activity103activity1
03activity1
 

More from krurutsamee

คำบรรยายและรูปสรุปวิจัยบทเรียน
คำบรรยายและรูปสรุปวิจัยบทเรียน คำบรรยายและรูปสรุปวิจัยบทเรียน
คำบรรยายและรูปสรุปวิจัยบทเรียน krurutsamee
 
รายงานการวิจัยบทเรียนแก้ไข
รายงานการวิจัยบทเรียนแก้ไข รายงานการวิจัยบทเรียนแก้ไข
รายงานการวิจัยบทเรียนแก้ไข krurutsamee
 
งานนำเสนอสรุปวิจัยบทเรียน
งานนำเสนอสรุปวิจัยบทเรียนงานนำเสนอสรุปวิจัยบทเรียน
งานนำเสนอสรุปวิจัยบทเรียนkrurutsamee
 
ชุดที่ 3
ชุดที่ 3 ชุดที่ 3
ชุดที่ 3 krurutsamee
 
ชุดที่ 4
ชุดที่ 4 ชุดที่ 4
ชุดที่ 4 krurutsamee
 
ชุดที่ 5
ชุดที่ 5 ชุดที่ 5
ชุดที่ 5 krurutsamee
 
ชุดที่ 6
ชุดที่ 6 ชุดที่ 6
ชุดที่ 6 krurutsamee
 
ประวัติครูรัมี ธัญน้อม
ประวัติครูรัมี  ธัญน้อมประวัติครูรัมี  ธัญน้อม
ประวัติครูรัมี ธัญน้อมkrurutsamee
 
อินทิเกรต
อินทิเกรตอินทิเกรต
อินทิเกรตkrurutsamee
 
เฉลยอินทิเกรต
เฉลยอินทิเกรตเฉลยอินทิเกรต
เฉลยอินทิเกรตkrurutsamee
 
เฉลยอนุพันธ์
เฉลยอนุพันธ์เฉลยอนุพันธ์
เฉลยอนุพันธ์krurutsamee
 
อนุพันธ์
อนุพันธ์อนุพันธ์
อนุพันธ์krurutsamee
 
เฉลยลิมิต
เฉลยลิมิตเฉลยลิมิต
เฉลยลิมิตkrurutsamee
 
เฉลยพื้นที่ใต้โค้ง
เฉลยพื้นที่ใต้โค้งเฉลยพื้นที่ใต้โค้ง
เฉลยพื้นที่ใต้โค้งkrurutsamee
 
เฉลยแคลคูลัส
เฉลยแคลคูลัสเฉลยแคลคูลัส
เฉลยแคลคูลัสkrurutsamee
 
เอกสารแคลคูลัส
เอกสารแคลคูลัสเอกสารแคลคูลัส
เอกสารแคลคูลัสkrurutsamee
 
เฉลยลำดับและอนุกรมอนันต์
เฉลยลำดับและอนุกรมอนันต์เฉลยลำดับและอนุกรมอนันต์
เฉลยลำดับและอนุกรมอนันต์krurutsamee
 
เอกสารลำดับอนันต์กำหนดการเชิงเส้น57
เอกสารลำดับอนันต์กำหนดการเชิงเส้น57เอกสารลำดับอนันต์กำหนดการเชิงเส้น57
เอกสารลำดับอนันต์กำหนดการเชิงเส้น57krurutsamee
 
พื้นที่ใต้โค้ง
พื้นที่ใต้โค้งพื้นที่ใต้โค้ง
พื้นที่ใต้โค้งkrurutsamee
 

More from krurutsamee (20)

คำบรรยายและรูปสรุปวิจัยบทเรียน
คำบรรยายและรูปสรุปวิจัยบทเรียน คำบรรยายและรูปสรุปวิจัยบทเรียน
คำบรรยายและรูปสรุปวิจัยบทเรียน
 
รายงานการวิจัยบทเรียนแก้ไข
รายงานการวิจัยบทเรียนแก้ไข รายงานการวิจัยบทเรียนแก้ไข
รายงานการวิจัยบทเรียนแก้ไข
 
งานนำเสนอสรุปวิจัยบทเรียน
งานนำเสนอสรุปวิจัยบทเรียนงานนำเสนอสรุปวิจัยบทเรียน
งานนำเสนอสรุปวิจัยบทเรียน
 
ชุดที่ 3
ชุดที่ 3 ชุดที่ 3
ชุดที่ 3
 
ชุดที่ 4
ชุดที่ 4 ชุดที่ 4
ชุดที่ 4
 
ชุดที่ 5
ชุดที่ 5 ชุดที่ 5
ชุดที่ 5
 
ชุดที่ 6
ชุดที่ 6 ชุดที่ 6
ชุดที่ 6
 
ประวัติครูรัมี ธัญน้อม
ประวัติครูรัมี  ธัญน้อมประวัติครูรัมี  ธัญน้อม
ประวัติครูรัมี ธัญน้อม
 
อินทิเกรต
อินทิเกรตอินทิเกรต
อินทิเกรต
 
เฉลยอินทิเกรต
เฉลยอินทิเกรตเฉลยอินทิเกรต
เฉลยอินทิเกรต
 
เฉลยอนุพันธ์
เฉลยอนุพันธ์เฉลยอนุพันธ์
เฉลยอนุพันธ์
 
อนุพันธ์
อนุพันธ์อนุพันธ์
อนุพันธ์
 
เฉลยลิมิต
เฉลยลิมิตเฉลยลิมิต
เฉลยลิมิต
 
ลิมิต
ลิมิตลิมิต
ลิมิต
 
เฉลยพื้นที่ใต้โค้ง
เฉลยพื้นที่ใต้โค้งเฉลยพื้นที่ใต้โค้ง
เฉลยพื้นที่ใต้โค้ง
 
เฉลยแคลคูลัส
เฉลยแคลคูลัสเฉลยแคลคูลัส
เฉลยแคลคูลัส
 
เอกสารแคลคูลัส
เอกสารแคลคูลัสเอกสารแคลคูลัส
เอกสารแคลคูลัส
 
เฉลยลำดับและอนุกรมอนันต์
เฉลยลำดับและอนุกรมอนันต์เฉลยลำดับและอนุกรมอนันต์
เฉลยลำดับและอนุกรมอนันต์
 
เอกสารลำดับอนันต์กำหนดการเชิงเส้น57
เอกสารลำดับอนันต์กำหนดการเชิงเส้น57เอกสารลำดับอนันต์กำหนดการเชิงเส้น57
เอกสารลำดับอนันต์กำหนดการเชิงเส้น57
 
พื้นที่ใต้โค้ง
พื้นที่ใต้โค้งพื้นที่ใต้โค้ง
พื้นที่ใต้โค้ง
 

ชุดที่4

  • 1. 1 คำชี้แจงสำหรับกำรใช้ชุดกิจกรรม เรื่อง กำรแก้โจทย์ปัญหำควำมสัมพันธ์เชิงฟังก์ชันระหว่ำงข้อมูล ชุดกิจกรรมชุดที่ 4 เรื่อง ความสัมพันธ์เชิงฟังก์ชันระหว่างข้อมูลอยู่ในรูปอนุกรมเวลา และที่กราฟเป็นเส้นตรงมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เพื่อพัฒนา ความสามารถในเรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาความสัมพันธ์เชิงฟังก์ชันระหว่างข้อมูล สาหรับ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้กระบวนการแก้ปัญหาของโพลยามี 4 ขั้น คือ ขั้นที่หนึ่ง การทาความเข้าใจกับปัญหา (Understanding the problem) ขั้นที่สอง วางแผนแก้ปัญหา (Devising a plan) ขั้นที่สาม ดาเนินการตามแผน (Carring out plan) ขั้นที่สี่ ตรวจสอบผล ( Looking back ) เพื่อให้นักเรียนมีความรู้ มีทักษะในการแก้โจทย์ปัญหา สามารถตีความโจทย์ ปัญหาได้ สามารถวางแผนในการแก้ปัญหาได้ สามารถดาเนินการแก้ปัญหาตามแผนได้ รู้จักคิด อย่างมีเหตุผล รู้จักคิดวางแผนในการทางาน และให้นักเรียนสามารถนาความรู้ไปใช้ในการดาเนิน ชีวิตประจาวัน โดยนาโจทย์ปัญหาหรือสถานการณ์ต่างๆ ที่ใช้ภาษาง่าย เหมาะสมกับความสามารถ ของนักเรียน เป็นภาษาที่นักเรียนคุ้นเคย มีนักเรียนเคยฝึกแก้ปัญหา โดยจัดกิจกรรมการเรียนรู้ไว้ อย่างเป็นลาดับขั้นตอน เพื่อความสะดวกแก่ครูผู้สอน และเปิดโอกาสให้นักเรียนมีส่วนร่วมใน การเรียนโดยใช้กิจกรรมที่หลากหลายให้สอดคล้องกับธรรมชาติและลักษณะของผู้เรียน องค์ประกอบของชุดกิจกรรม ผลการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ จุดประสงค์การเรียนรู้ คู่มือกำรใช้ชุดกิจกรรม บทบาทของครู สิ่งที่ต้องเตรียม การจัดสถานที่เรียน การประเมินผล สื่อประกอบชุดกิจกรรม ใบความรู้ ใบกิจกรรม เฉลยกิจกรรม แบบประเมินผล
  • 2. 2 องค์ประกอบของชุดกิจกรรม ชุดกิจกรรมนี้เป็นชุดกิจกรรมเพื่อแก้โจทย์ปัญหาความสัมพันธ์เชิงฟังก์ชันระหว่างข้อมูล โดยใช้กระบวนการแก้ปัญหาของโพลยา ตรวจสอบโดยใช้การวิเคราะห์การถดถอยด้วย โปรแกรมสาเร็จรูป สาหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 1. ผลกำรเรียนรู้ 1. สร้างความสัมพันธ์ของข้อมูลที่ประกอบด้วยตัวแปรสองตัว 2. ใช้ความสัมพันธ์เชิงฟังก์ชันของข้อมูลทานายค่าตัวแปรตามเมื่อกาหนดตัวแปรอิสระให้ 3. สร้างความสัมพันธ์เชิงฟังก์ชันของข้อมูลที่ประกอบด้วยสองตัวแปรที่อยู่ในรูป อนุกรมเวลา โดยใช้เครื่องคานวณ 2. สำระกำรเรียนรู้ 2.1 ข้อมูลที่อยู่ในรูปอนุกรมเวลา Y = f(t) 2.2 การกาหนดระยะเวลา (t) 2.3 ความสัมพันธ์เชิงฟังก์ชันที่กราฟเป็นเส้นตรง 3. จุดประสงค์กำรเรียนรู้ 1. นักเรียนสามารถทาความเข้าใจโจทย์ปัญหาของความสัมพันธ์เชิงฟังก์ชัน ที่กราฟเป็นเส้นตรงได้ 2. นักเรียนสามารถวางแผนการแก้ปัญหาได้ 3. นักเรียนสามารถดาเนินการแก้ปัญหาตามแผนได้ 4. นักเรียนสามารถตรวจสอบคาตอบโดยใช้โปรแกรมสาเร็จรูปได้
  • 3. 3 คู่มือกำรใช้ชุดกิจกรรม กำรแก้โจทย์ปัญหำควำมสัมพันธ์เชิงฟังก์ชันระหว่ำงข้อมูล ชุดที่ 4 เรื่อง ความสัมพันธ์เชิงฟังก์ชันระหว่างข้อมูลอยู่ในรูปอนุกรมเวลา และที่กราฟเป็นเส้นตรง 1. บทบำทของครูผู้สอน 1.1 ครูผู้สอนเตรียมตัวให้พร้อม โดยศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับการใช้ชุดกิจกรรมและ เตรียมสื่อการเรียนที่ใช้ประกอบการจัดการเรียนรู้ 1.2 การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ครูต้องจัดกิจกรรมให้ครบตามที่กาหนดไว้ เพื่อให้ กิจกรรมนั้นเป็นอย่างต่อเนื่องและบรรลุตามวัตถุประสงค์ 1.3 ก่อนจัดกิจกรรมการเรียนรู้ทุกครั้ง ครูต้องอธิบาย ชี้แจงการปฏิบัติกิจกรรมให้ ชัดเจนให้นักเรียนได้เข้าใจตรงกัน จึงจะทาให้การจัดกิจกรรมการเรียนรู้บรรลุตามเป้ าหมายและมี ประสิทธิภาพ 1.4 ครูควรกระตุ้นให้นักเรียนทุกคนมีส่วนร่วมในการทากิจกรรม เพื่อเป็นการฝึกให้ นักเรียนรู้จักทางานร่วมกัน ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน รับผิดชอบในหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย 1.5 ก่อนจัดกิจกรรมการเรียนรู้เสร็จสิ้นลง ในแต่ละกิจกรรมให้นักเรียนแต่ละกลุ่มส่ง ตัวแทนมานาเสนอผลงาน ครูและนักเรียนร่วมกันประเมินผลการเรียนรู้ของนักเรียนแต่ละกลุ่ม 2. สิ่งที่ครูต้องเตรียม ครูต้องเตรียมสื่อการจัดการเรียนรู้ให้ครบตามขั้นตอนของชุดกิจกรรม ดังนี้ 2.1 ใบความรู้ 2.2 ใบกิจกรรม 2.3 เครื่องคอมพิวเตอร์ 2.4 โปรแกรมสาเร็จรูป 3. การจัดชั้นเรียน(สถานที่เรียน) ในการเรียนแต่ละครั้ง ครูจะแบ่งกลุ่มนักเรียนออกเป็นกลุ่มๆละ 4 คน โดยแต่ละกลุ่มให้มี ทั้งนักเรียนเก่ง อ่อน อย่างละ1 คน ปานกลาง 2 คน คละกัน แล้วให้สมาชิกในแต่ละกลุ่มเลือก ประธานกลุ่มและเลขาของกลุ่ม แบ่งหน้าที่ในการทากิจกรรมและหมุนเวียนหน้าที่กันในกลุ่ม ช่วยกันทางานกลุ่ม ซึ่งนักเรียนจะอยู่กลุ่มเดียวกันจนสิ้นสุดการสอน
  • 4. 4 ผังกำรจัดสถำนที่เรียน ห้องคอมพิวเตอร์ ครู กลุ่ม 1 กลุ่ม 2 กลุ่ม 3 กลุ่ม 4 กลุ่ม 5 กลุ่ม 6 กลุ่ม 7 กลุ่ม 8 กลุ่ม 9 กลุ่ม 10 4. กำรประเมินผล 4.1 การประเมินผลการปฏิบัติกิจกรรมในกลุ่ม 4.2 การประเมินผลการปฏิบัติกิจกรรมรายบุคคล
  • 5. 5 ใบควำมรู้ 4.1 ควำมสัมพันธ์เชิงฟังก์ชันระหว่ำงข้อมูลที่อยู่ในรูปอนุกรมเวลำ 4.1 ข้อมูลที่อยู่ในรูปอนุกรมเวลำ (time series) คือ ข้อมูลที่แสดงความเปลี่ยนแปลงตามลาดับเวลา ที่เกิดขึ้นก่อนหลังของช่วงเวลาที่ข้อมูลชุดนั้นเกิดขึ้น ซึ่งปกติแล้วข้อมูลนั้นๆมักจะเกิดขึ้นใน ช่วงเวลาเท่าๆกัน เช่น ปริมาณข้าวที่ประเทศไทยผลิตได้ในแต่ละปี จานวนเงินที่ร้านค่าแห่งหนึ่ง ขายได้ในแต่ละเดือน หรืออุณหภูมิเฉลี่ยในแต่ละวันของจังหวัดกาญจนบุรี แล้วข้อมูลนั้นๆจะปกติ ความสัมพันธ์อยู่ในรูป Y = f(t) โดยที่ t แทนเวลา เช่น วัน เดือน ปี พ.ศ. เป็นต้น เมื่อ t เป็นตัวแปรอิสระ และ Y เป็นตัวแปรตาม กำรกำหนดระยะเวลำ (t) ก. ถ้ำจำนวนระยะเวลำ (t) ที่กำหนดให้เป็นจำนวนคี่ *** ให้ระยะเวลำที่อยู่ตรงกลำงเป็น 0 โดยเรียงตามลาดับก่อนหลังดังนี้ … , - 3 , - 2 , - 1 , 0 , 1 , 2 , 3 , … กำรสร้ำงควำมสัมพันธ์เชิงฟังก์ชันระหว่ำงข้อมูลกรำฟเป็นรูปเส้นตรง เมื่อ y เป็นตัวแปรตำม และ t เป็นตัวแปรอิสระ a และ b เป็นค่ำคงตัวที่ต้องกำรหำ มีสมการเป็น Y = at + b สมการปกติคือ  n i iy 1 = a  n i it 1 + bn ………………(1)  n i ii yt 1 = a  n i it 1 2 + b  n i it 1 ………………(2) ข้อสังเกต  n i it 1 = 0 จาก สมการ(1) จะได้ b = n y n i i1 จาก สมการ(2) จะได้ a =     n i i n i ii t yt 1 2 1
  • 6. 6 ตัวอย่ำงที่ 4.1 มูลค่าอุตสาหกรรมสิ่งทอการส่งออกที่ประเทศไทยส่งออกไปขายยังต่างประเทศ มีความสัมพันธ์กับเวลาในรูปเส้นตรง ระหว่าง ปี 2546 – 2550 ดังนี้ ปี พ.ศ. 2546 2547 2548 2549 2550 มูลค่า (ล้านบาท) 6 8 12 15 19 จงใช้ประบวนการแก้ปัญหาของโพลยาประมาณค่า 1. จงหาสมการเพื่อใช้ประมาณมูลค่าการส่งออกในเวลาต่างๆ 2. จงประมาณมูลค่าการส่งออกในปี พ.ศ. 2558 ขั้นที่ 1 ทาความเข้าใจกับปัญหา 1.1 สิ่งที่โจทย์กาหนด มูลค่าอุตสาหกรรมสิ่งทอการส่งออกที่ประเทศไทยส่งออกไปขาย ยังต่างประเทศมีความสัมพันธ์กับเวลา( บอกค่า t ) 1.2 สิ่งที่โจทย์ถามหาอะไร จงประมาณมูลค่าการส่งออกในปี พ.ศ. 2558 (หาค่า y ) ขั้นที่ 2 วางแผนในการแก้ปัญหา 2.1 เขียนแผนภาพการกระจาย 2.2 สร้างตาราง 2.3 สร้างสมการปกติ 2.4 แก้สมการ หาค่าคงตัว คือ a และ b ขั้นที่ 3 ดาเนินการตามแผน เขียนแผนภาพการกระจายและกราฟที่เป็นตัวแทนของความสัมพันธ์ T 3210-1-2-3 Y 20 18 16 14 12 10 8 6 4 Y T 3210-1-2-3 20 18 16 14 12 10 8 6 4 Observed Linear
  • 7. 7 ตาราง 4.1 ก ปี พ.ศ. มูลค่า (y ) t t2 ty 2546 6 - 2 4 - 12 2547 8 - 1 1 - 8 2548 12 0 0 0 2549 15 1 1 15 2550 19 2 4 38 รวม y = 60 t = 0  2 t = 10 ty = 33 ความสัมพันธ์อยู่ในรูปเส้นตรง สมการ Y = at + b สมการปกติคือ  n i iy 1 = a  n i it 1 + bn ………………(1)  n i ii yt 1 = a  n i it 1 2 + b  n i it 1 ………………(2) แทนค่า 60 = 0 + 5 b ………………..(1) 33 = 10 a + 0 …………………(2) จาก (1) b = 5 60 = 12 จาก (2) a = 10 33 = 3.3 ดังนั้นสมการที่ใช้ประมาณคือ Y = 3.3 t + 12 2. จงประมาณมูลค่าการส่งออกในปี พ.ศ. 2558 ( t = 10 ) แทนค่า t = 10 ในสมการประมาณค่า Y = 3.3 (10 ) + 12 = 33 + 12 = 45 ดังนั้น มูลค่าการส่งออกในปี พ.ศ. 2558 เท่ากับ 45 ล้านบาท
  • 8. 8 ขั้นที่ 4 ตรวจสอบผลที่ได้โดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูป ขั้นตอนกำรใช้โปรแกรมสำเร็จรูป วิเคราะห์ข้อมูล Analyze เลือก Regresion และ Curve Estimate จะปรากฏหน้าต่าง Curve Estimate เลือกให้ y เป็น dependent และ t เป็น independent Models และเลือก Linear 5. คลิก OK จะได้ Output ดังนี้ Independent: T Dependent Mth Rsq d.f. F Sigf b0 b1 Y LIN .990 3 297.00 .000 12.0000 3.3000 ผลกำรตรวจคำตอบ ได้คาตอบตรงกัน
  • 9. 9 ใบกิจกรรมที่ 4.1 คำสั่ง จงใช้กระบวนกำรแก้ปัญหำของโพลยำแก้โจทย์ปัญหำต่อไปนี้ 1. ข้อมูลต่อไปนี้แสดงความสัมพันธ์ระหว่างเวลากับเงินเดือนของชายคนหนึ่งในรูปเส้นตรง ตั้งแต่ พ.ศ. 2546 – 2550 ดังนี้ ปี พ.ศ. 2546 2547 2548 2549 2550 เงินเดือน(พันบาท) 7.5 8 9.5 11.2 12.8 1. จงเขียนแผนภาพการกระจาย 2. จงหาสมการของความสัมพันธ์ระหว่างเวลากับเงินเดือน 3. จงประมาณเงินเดือนของชายคนนี้ในปี 2555 ขั้นที่ 1 ทาความเข้าใจกับปัญหา 1.1 สิ่งที่โจทย์กาหนด ........................................................................................................... 1.2 สิ่งที่โจทย์ถามหาอะไร .................................................................................................... ขั้นที่ 2 วางแผนในการแก้ปัญหา 2.1 เขียนแผนภาพการกระจาย 2.2 สร้างตาราง 2.3 สร้างสมการปกติ 2.4 แก้สมการ หาค่าคงตัว คือ a , b และ c ขั้นที่ 3 ดาเนินการตามแผน เขียนแผนภาพการกระจาย ตาราง 4.1 ข ปี พ.ศ. เงินเดือน (y ) t t2 ty 2546 7.5 2547 8 2548 9.5 2549 11.2 2550 12.8 รวม y = t =  2 t = ty = ขั้นที่ 4 ตรวจสอบผลที่ได้โดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูป
  • 10. 10 ใบควำมรู้ 4.2 ข้อมูลที่อยู่ในรูปอนุกรมเวลำ ถ้ำควำมสัมพันธ์เชิงฟังก์ชันที่เป็นเส้นตรง กำรกำหนดระยะเวลำ (t) ถ้ำจำนวนระยะเวลำ (t) ที่กำหนดให้เป็นจำนวนคู่ *** ให้ระยะเวลำที่อยู่คู่กลำงเป็น - 1 และ 1 โดยเรียงตามลาดับก่อนหลังดังนี้ … , - 5 , - 3 , - 1 , 1 , 3 , 5 , … กำรสร้ำงควำมสัมพันธ์เชิงฟังก์ชันระหว่ำงข้อมูลกรำฟเป็นรูปเส้นตรง เมื่อ y เป็นตัวแปรตำม และ t เป็นตัวแปรอิสระ a และ b เป็นค่ำคงตัวที่ต้องกำรหำ มีสมการเป็น Y = at + b สมการปกติคือ  n i iy 1 = a  n i it 1 + bn ………………(1)  n i ii yt 1 = a  n i it 1 2 + b  n i it 1 ………………(2) ข้อสังเกต  n i it 1 = 0 จาก สมการ(1) จะได้ b = n y n i i1 จาก สมการ(2) จะได้ a =     n i i n i ii t yt 1 2 1
  • 11. 11 ตัวอย่ำงที่ 4.2 จานวนสินค้าที่โรงงานแห่งหนึ่งผลิตได้ความสัมพันธ์กับเวลาในรูปเส้นตรง ระหว่าง ปี พ.ศ. 2547 – 2552 ปี พ.ศ. 2547 2548 2549 2550 2551 2552 จานวนสินค้า(ร้อยชิ้น) 170 184 200 210 216 220 จงใช้ประบวนการแก้ปัญหาของโพลยาประมาณค่า 1. จงหาสมการเพื่อใช้ประมาณจานวนสินค้าที่โรงงานอุตสาหกรรมแห่งนี้ผลิตได้ในเวลาต่างๆ 2. จงประมาณจานวนสินค้าที่โรงงานอุตสาหกรรมแห่งนี้ผลิตได้ในปี พ.ศ. 2554 ขั้นที่ 1 ทาความเข้าใจกับปัญหา 1.1 สิ่งที่โจทย์กาหนด จานวนสินค้าที่โรงงานแห่งหนึ่งผลิตได้ความสัมพันธ์กับเวลา ( บอกค่า t ) 1.2 สิ่งที่โจทย์ถามหาอะไร จงประมาณจานวนสินค้าที่โรงงานอุตสาหกรรมแห่งนี้ผลิตได้ ในปี พ.ศ. 2554 (หาค่า y ) ขั้นที่ 2 วางแผนในการแก้ปัญหา 2.1 เขียนแผนภาพการกระจาย 2.2 สร้างตาราง 2.3 สร้างสมการปกติ 2.4 แก้สมการ หาค่าคงตัว คือ a และ b ขั้นที่ 3 ดาเนินการตามแผน เขียนแผนภาพการกระจายและกราฟที่เป็นตัวแทนของความสัมพันธ์ T 6420-2-4-6 Y 230 220 210 200 190 180 170 160 Y T 6420-2-4-6 230 220 210 200 190 180 170 160 Observed Linear
  • 12. 12 ตาราง 4.2 ก ปี พ.ศ. จานวนสินค้า (Y) t t2 tY 2547 170 - 5 25 - 850 2548 184 - 3 9 - 552 2549 200 - 1 1 - 200 2550 210 1 1 210 2551 216 3 9 648 2552 220 5 25 1100 รวม Y = 1200 t = 0  2 t = 70 tY = 356 ความสัมพันธ์อยู่ในรูปเส้นตรง สมการคือ Y = at + b สมการปกติคือ  n i iy 1 = a  n i it 1 + bn ………………(1)  n i ii yt 1 = a  n i it 1 2 + b  n i it 1 ………………(2) แทนค่า 1200 = 0 + 6 b ………………..(1) 356 = 70 a + 0 …………………(2) จาก (1) b = 6 1200 = 200 จาก (2) a = 70 356 = 5.09 ดังนั้นสมการที่ใช้ประมาณคือ Y = 5.09 t + 200 2. จงประมาณจานวนสินค้าที่ผลิตได้ในปี พ.ศ. 2554 ( t = 9 ) แทนค่า t = 9 ในสมการทานาย Y = 5.09 (9 ) + 200 = 45.81 + 200 = 245.81 ร้อยชิ้น ดังนั้น มูลค่าการส่งออกในปี พ.ศ. 2554 เท่ากับ 24,581 ชิ้น
  • 13. 13 ขั้นที่ 4 ตรวจสอบผลที่ได้โดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูป 5. คลิก OK จะได้ Output ดังนี้ Independent: T Dependent Mth Rsq d.f. F Sigf b0 b1 Y LIN .947 4 71.36 .001 200.000 5.0857 ผลกำรตรวจคำตอบ ได้คาตอบตรงกัน
  • 14. 14 ใบกิจกรรมที่ 4.2 คำสั่ง จงใช้กระบวนกำรแก้ปัญหำของโพลยำแก้โจทย์ปัญหำต่อไปนี้ 1. จานวนรถยนต์ที่บริษัทแห่งหนึ่งขายได้ ( ร้อยคัน ) มีความสัมพันธ์กับเวลาในรูปเส้นตรง ระหว่าง ปี 2547 – 2552 ดังนี้ ปี พ.ศ. 2547 2548 2549 2550 2551 2552 จานวนรถยนต์(ร้อยคัน) 12 16 20 22 24 26 จงหา 1. จงเขียนแผนภาพการกระจาย 2. จงหาสมการเพื่อใช้ประมาณจานวนรถยนต์ที่ขายได้ในเวลาต่างๆ 3. จงประมาณจานวนรถยนต์ที่ขายได้ในปี พ.ศ. 2555 ขั้นที่ 1 ทาความเข้าใจกับปัญหา 1.1 สิ่งที่โจทย์กาหนด ........................................................................................................... 1.2 สิ่งที่โจทย์ถามหาอะไร .................................................................................................... ขั้นที่ 2 วางแผนในการแก้ปัญหา 2.1 เขียนแผนภาพการกระจาย 2.2 สร้างตาราง 2.3 สร้างสมการปกติ 2.4 แก้สมการ หาค่าคงตัว คือ a และ b ขั้นที่ 3 ดาเนินการตามแผน เขียนแผนภาพการกระจาย ตาราง 4.3 ก ปี พ.ศ. จานวนรถยนต์ (Y) t t2 tY 2547 12 2548 16 2549 20 2550 22 2551 24 2552 26 รวม Y = t =  2 t = tY = ขั้นที่ 4 ตรวจสอบผลที่ได้โดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูป
  • 15. 15 แบบทดสอบท้ำยชุดกิจกรรมชุดที่ 4 วิชำคณิตศำสตร์รอบรู้ 5 (ค 43201) ชั้น ม. 6 วิทย์ เรื่องควำมสัมพันธ์เชิงฟังก์ชัน ชื่อ .................................................................ชั้น ..........................เลขที่ ............................... คำสั่ง จงใช้กระบวนการแก้ปัญหาของโพลยาแก้โจทย์ปัญหาต่อไปนี้ 1. ข้อมูลต่อไปนี้แสดงเงินเดือนของชายคนหนึ่ง มีความสัมพันธ์กับเวลาในรูปเส้นตรง ตั้งแต่ พ.ศ. 2548 – 2552 เป็นดังนี้ พ.ศ. 2548 2549 2550 2551 2552 เงินเดือน (พันบาท) 18 19.8 20.2 21.4 22.5 1. จงหาสมการของความสัมพันธ์เชิงฟังก์ชันระหว่างเงินเดือนในเวลาต่างๆ 2. จงประมาณเงินเดือนของชายคนนี้ในปี พ.ศ. 2555 เป็นเงินกี่บาท ขั้นที่ 1 ทาความเข้าใจกับปัญหา 1.1 สิ่งที่โจทย์กาหนด ........................................................................................................... 1.2 สิ่งที่โจทย์ถามหาอะไร .................................................................................................... ขั้นที่ 2 วางแผนในการแก้ปัญหา 2.1 เขียนแผนภาพการกระจาย 2.2 สร้างตาราง 2.3 สร้างสมการปกติ 2.4 แก้สมการ หาค่าคงตัว คือ a และ b ขั้นที่ 3 ดาเนินการตามแผน เขียนแผนภาพการกระจาย ตาราง 4.3 ก ปี พ.ศ. เงินเดือน(Y) t t2 tY 2548 18 2549 19.8 2550 20.2 2551 21.4 2552 22.5 รวม Y = t =  2 t = Yt = ขั้นที่ 4 ตรวจสอบผลที่ได้โดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูป
  • 16. 16 2. จานวนรถยนต์ที่บริษัทแห่งหนึ่งขายได้(ร้อยคัน) มีความสัมพันธ์กับเวลาในรูปเส้นตรงระหว่าง ปี พ.ศ. 2547 – 2552 ดังนี้ ปี พ.ศ. 2547 2548 2549 2550 2551 2552 จานวนรถยนต์(ร้อยคัน) 12 14 20 24 30 32 1. จงหาสมการของความสัมพันธ์เชิงฟังก์ชันระหว่างรถยนต์ที่ขายได้ในเวลาต่างๆ 2. จงประมาณจานวนรถยนต์ที่ขายได้ในปี พ.ศ. 2557 ขั้นที่ 1 ทาความเข้าใจกับปัญหา 1.1 สิ่งที่โจทย์กาหนด ........................................................................................................... 1.2 สิ่งที่โจทย์ถามหาอะไร .................................................................................................... ขั้นที่ 2 วางแผนในการแก้ปัญหา 2.1 เขียนแผนภาพการกระจาย 2.2 สร้างตาราง 2.3 สร้างสมการปกติ 2.4 แก้สมการ หาค่าคงตัว คือ a และ b ขั้นที่ 3 ดาเนินการตามแผน เขียนแผนภาพการกระจาย ตาราง 4.3 ข ปี พ.ศ. จำนวนรถยนต์ (y) t t2 ty 2547 12 2548 14 2549 20 2550 24 2551 30 2552 32 รวม Y = t =  2 t = ty = ขั้นที่ 4 ตรวจสอบผลที่ได้โดยใช้โปรแกรมสาเร็จรูป
  • 17. 17 บรรณำนุกรม กรมวิชาการ. (2544 ). หลักสูตรกำรศึกษำขั้นพื้นฐำนพุทธศักรำช 2544 . กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว. . (2545 ). คู่มือกำรจัดกำรเรียนรู้กลุ่มสำระคณิตศำสตร์ . กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว. จักรินทร์ วรรณโพธิ์กลาง. (2553). คัมภีร์คณิตศำสตร์ ENTRANCE ม.4 - ม.6 ฉบับสมบูรณ์. นนทบุรี: โรงพิมพ์เพิ่มทรัพย์การพิมพ์. ประกายรัตน์ สุวรรณ. (2548). คู่มือกำรใช้โปรแกรมSPSS เวอร์ชัน12 สำหรับ Window. กรุงเทพมหานคร: บริษัท ซีเอ็ดยูเคชั่นจากัด มหาชน. ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, สถาบัน. (2549). คู่มือครูสำระกำรเรียนรู้ เพิ่มเติมคณิตศำสตร์เล่ม 1 กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ คณิตศำสตร์ ชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 6 ตำมหลักสูตรกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน พุทธศักรำช 2544. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์คุรุสภา ลาดพร้าว. . (2550). หนังสือเรียนสำระกำรเรียนรู้เพิ่มเติมคณิตศำสตร์เล่ม 1 กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ คณิตศำสตร์ ชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 6 ตำมหลักสูตรกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน พุทธศักรำช 2544. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์คุรุสภา ลาดพร้าว. สมัย เหล่าวานิชย์และพัวพรรณ เหล่าวานิชย์. (2547). คณิตศำสตร์ ม.6 เล่ม 5. กรุงเทพมหานคร: บริษัทไฮเอ็ดพับลิชชิ่งจากัด.
  • 18. 18 เฉลยใบกิจกรรมที่ 4.1 ข้อมูลต่อไปนี้แสดงความสัมพันธ์ระหว่างเวลากับเงินเดือนของชายคนหนึ่งในรูปเส้นตรง ตั้งแต่ พ.ศ. 2546 – 2550 ดังนี้ ปี พ.ศ. : t 2546 2547 2548 2549 2550 เงินเดือน(พันบาท) : Y 7.5 8 9.5 11.2 12.8 1. จงเขียนแผนภาพการกระจาย 2. จงหาสมการของความสัมพันธ์ระหว่างเวลากับเงินเดือน ถ้า y เป็นตัวแปรตาม(เงินเดือน) และ t เป็นตัวแปรอิสระ (ระยะเวลา) ตอบ สมกำรประมำณค่ำ คือ Yˆ = 1.38 t + 9.8 3. จงประมาณเงินเดือนของชายคนนี้ในปี 2555 ในปี พ.ศ. 2555 ค่ำ t = 7 ตอบ เงินเดือนของชายคนนี้ประมาณ 19.46 พันบำทหรือ 19,460 บำท Independent: T Dependent Mth Rsq d.f. F Sigf b0 b1 Y LIN .973 3 106.59 .002 9.8000 1.3800 เฉลยใบกิจกรรมที่ 4.2 1. จานวนรถยนต์ที่บริษัทแห่งหนึ่งขายได้(ร้อยคัน) มีความสัมพันธ์กับเวลาในรูปเส้นตรงระหว่าง ปี พ.ศ. 2547 – 2552 ดังนี้ ปี พ.ศ. 2547 2548 2549 2550 2551 2552 จานวนรถยนต์(ร้อยคัน) 12 16 20 22 24 26 1. จงหาสมการของความสัมพันธ์เชิงฟังก์ชันระหว่างรถยนต์ที่ขายได้ในเวลาต่างๆ ถ้า y เป็นตัวแปรตาม(จานวนรถยนต์) และ t เป็นตัวแปรอิสระ (ระยะเวลา) ตอบ สมกำรประมำณค่ำ คือ Yˆ = 1.37 t + 20 2. จงประมาณจานวนรถยนต์ที่ขายได้ในปี พ.ศ. 2555 ในปี พ.ศ. 2555 ค่ำ t = 11 ตอบ จานวนรถยนต์ที่ขายได้ประมาณ 35.07 ร้อยคันหรือ 3507 คัน Independent: T Dependent Mth Rsq d.f. F Sigf b0 b1 Y LIN .968 4 121.26 .000 20.0000 1.3714
  • 19. 19 เฉลยแบบทดสอบท้ำยชุดกิจกรรมชุดที่ 4 1. ข้อมูลต่อไปนี้แสดงเงินเดือนของชายคนหนึ่ง ตั้งแต่ พ.ศ. 2548 – 2552 เป็นดังนี้ พ.ศ. 2548 2549 2550 2551 2552 เงินเดือน (พันบาท) 18 19.8 20.2 21.4 22.5 1. จงหาสมการของความสัมพันธ์เชิงฟังก์ชันระหว่างเงินเดือนในเวลาต่างๆ ตอบ สมกำรประมำณค่ำ คือ Yˆ = 1.06 t + 20.38 2. จงประมาณเงินเดือนของชายคนนี้ในปี พ.ศ. 2555 เป็นเงินกี่บาท จงประมาณเงินเดือนของชายคนนี้ในปี พ.ศ. 2555 ในปี พ.ศ. 2555 ค่ำ t = 5 ตอบ เงินเดือนของชายคนนี้ในปี พ.ศ. 2555 ประมาณ 2.68 พันบาท หรือ 26,800 บาท Independent: T Dependent Mth Rsq d.f. F Sigf b0 b1 Y LIN .971 3 101.53 .002 20.3800 1.0600 2. จานวนรถยนต์ที่บริษัทแห่งหนึ่งขายได้(ร้อยคัน) มีความสัมพันธ์กับเวลาในรูปเส้นตรงระหว่าง ปี พ.ศ. 2547 – 2552 ดังนี้ ปี พ.ศ. 2547 2548 2549 2550 2551 2552 จานวนรถยนต์(ร้อยคัน) 12 14 20 24 30 32 1. จงหาสมการของความสัมพันธ์เชิงฟังก์ชันระหว่างรถยนต์ที่ขายได้ในเวลาต่างๆ ถ้า y เป็นตัวแปรตาม(จานวนรถยนต์) และ t เป็นตัวแปรอิสระ (ระยะเวลา) ตอบ สมกำรประมำณค่ำ คือ Yˆ = 2.17 t + 22 2. จงประมาณจานวนรถยนต์ที่ขายได้ในปี พ.ศ. 2557 ในปี พ.ศ. 2557 ค่ำ t = 15 ตอบ จานวนรถยนต์ที่ขายได้ประมาณ 54.55 ร้อยคันหรือ 5,455 คัน Independent: T Dependent Mth Rsq d.f. F Sigf b0 b1 Y LIN .982 4 222.15 .000 22.0000 2.1714
  • 20. 20 แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ 4 วิชำคณิตศำสตร์รอบรู้ 5 รหัสวิชำ ค43201 ชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 6 หน่วยกำรเรียนรู้ที่ 4 เวลำ 3 ชั่วโมง เรื่อง ควำมสัมพันธ์เชิงฟังก์ชันระหว่ำงข้อมูลที่อยู่ในรูปอนุกรมเวลำและ กรำฟเป็นเส้นตรง ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- มำตรฐำน ค 5.2 ใช้วิธีการทางสถิติและความรู้เกี่ยวกับความน่าจะเป็นในการคาดการณ์ได้อย่าง สมเหตุสมผล 1. ผลกำรเรียนรู้ที่คำดหวัง 1. สร้างความสัมพันธ์ของข้อมูลที่ประกอบด้วยตัวแปรสองตัว 2. ใช้ความสัมพันธ์เชิงฟังก์ชันของข้อมูลทานายค่าตัวแปรตามเมื่อกาหนดตัวแปรอิสระให้ ด้ำนควำมรู้ นักเรียนสามารถ 1. สร้างความสัมพันธ์ของข้อมูลที่ประกอบด้วยตัวแปรสองตัว 2. ใช้ความสัมพันธ์เชิงฟังก์ชันของข้อมูลทานายค่าตัวแปรตามเมื่อกาหนดตัวแปรอิสระให้ ด้ำนทักษะ / กระบวนกำร นักเรียนสามารถ 1. ทาความเข้าใจโจทย์ปัญหาของความสัมพันธ์เชิงฟังก์ชันระหว่างข้อมูลที่อยู่ในรูป อนุกรมเวลาและ กราฟเป็นเส้นตรงได้ 2. วางแผนการแก้ปัญหาได้ 3. ดาเนินการแก้ปัญหาตามแผนได้ 4. ตรวจสอบคาตอบโดยใช้โปรแกรมสาเร็จรูปได้ ด้ำนคุณลักษณะ 1. มีความรับผิดชอบ 2. ความมีระเบียบ 3. มีความรอบคอบ 4. การให้เหตุผล 2. สำระกำรเรียนรู้ ข้อมูลที่อยู่ในรูปอนุกรมเวลำ คือ ข้อมูลที่แสดงความเปลี่ยนแปลงตามลาดับเวลาที่ เกิดขึ้นซึ่งความสัมพันธ์อยู่ในรูป Y = f(t) โดยที่ t แทนเวลา เช่น วัน เดือน ปี พ.ศ. เป็นต้น เมื่อ t เป็นตัวแปรอิสระ แทนค่าของข้อมูล Y เป็นตัวแปรตาม
  • 21. 21 กำรกำหนดระยะเวลำ (t) ก. ถ้ำจำนวนระยะเวลำ (t) ที่กำหนดให้เป็นจำนวนคี่ *** ให้ระยะเวลำที่อยู่ตรงกลำงเป็น 0 โดยเรียงตามลาดับก่อนหลังดังนี้ … , - 3 , - 2 , - 1 , 0 , 1 , 2 , 3 , … ข. ถ้ำจำนวนระยะเวลำ (t) ที่กำหนดให้เป็นจำนวนคู่ *** ให้ระยะเวลำที่อยู่คู่กลำงเป็น – 1 และ 1 โดยเรียงตามลาดับก่อนหลังดังนี้ … , - 5 , - 3 , - 1 , 1 , 3 , 5 , … กำรสร้ำงควำมสัมพันธ์เชิงฟังก์ชันระหว่ำงข้อมูลกรำฟเป็นรูปเส้นตรง เมื่อ y เป็นตัวแปรตำม และ t เป็นตัวแปรอิสระ a และ b เป็นค่ำคงตัวที่ต้องกำรหำ มีสมการเป็น Y = at + b สมการปกติคือ  n i iy 1 = a  n i it 1 + bn ………………(1)  n i ii yt 1 = a  n i it 1 2 + b  n i it 1 ………………(2) ข้อสังเกต  n i it 1 = 0 จาก สมการ(1) จะได้ b = n y n i i1 จาก สมการ(2) จะได้ a =     n i i n i ii t yt 1 2 1 3. กิจกรรมกำรเรียนกำรสอน ชั่วโมงที่ 1 1. ครูทบทวนความสัมพันธ์เชิงฟังก์ชันระหว่างข้อมูลที่กราฟเป็นเส้นตรง 2. แบ่งนักเรียนเป็นกลุ่มๆละ 4 คน โดยแต่ละกลุ่มให้มีทั้งนักเรียนเก่ง อ่อน อย่างละ1 คน ปานกลาง 2 คน คละกัน แล้วให้สมาชิกในแต่ละกลุ่มเลือกประธานกลุ่มและเลขาของกลุ่ม แบ่งหน้าที่ในการทากิจกรรมและหมุนเวียนหน้าที่กันในกลุ่มช่วยกันทางานกลุ่ม 3. นักเรียนแต่ละกลุ่มๆ ศึกษา ใบความรู้ที่ 4.1 ความสัมพันธ์เชิงฟังก์ชันระหว่างข้อมูลที่อยู่ ในรูปอนุกรมเวลาและ กราฟเป็นเส้นตรง ถ้าจานวนระยะเวลา (t) ที่กาหนดให้เป็นจานวนคี่ โดยนักเรียนแต่ละกลุ่มมีคอมพิวเตอร์ 1 เครื่อง เพื่อฝึกการตรวจสอบคาตอบโดยใช้การวิเคราะห์ การถดถอยด้วยโปรแกรมสาเร็จรูป
  • 22. 22 4. ให้นักเรียนแต่ละคนทาใบกิจกรรมที่ 4.1 โดยใช้กระบวนการแก้ปัญหาของโพลยา มี 4 ขั้นตอน ขั้นที่ 1 ทาความเข้าใจกับปัญหา 1.1 สิ่งที่โจทย์กาหนด ................................................................................................... 1.2 สิ่งที่โจทย์ถามหาอะไร ................................................................................................... ขั้นที่ 2 วางแผนในการแก้ปัญหา 2.1 เขียนแผนภาพการกระจาย 2.2 สร้างตาราง 2.3 สร้างสมการปกติ 2.4 แก้สมการ หาค่าคงตัว คือ a และ b ขั้นที่ 3 ดาเนินการตามแผน ขั้นที่ 4 ตรวจสอบผลที่ได้โดยใช้โปรแกรมสาเร็จรูป 5. ครูและนักเรียนช่วยกันเฉลย ใบกิจกรรมที่ 4.1 โดยการสุ่มนักเรียนนาเสนอคาตอบที่ คานวณได้ฝึกนักเรียนตรวจคาตอบโดยใช้คอมพิวเตอร์ตามขั้นตอนไปพร้อมๆกับครู ฝึกอ่านค่า จากตารางผลการวิเคราะห์ข้อมูล (output) ซึ่งมีครูคอยให้คาแนะนาและตรวจสอบความถูกต้อง 6. ให้นักเรียนช่วยกันสรุปสาระสาคัญเกี่ยวกับความสัมพันธ์เชิงฟังก์ชันระหว่างข้อมูลที่อยู่ ในรูปอนุกรมเวลาและ กราฟเป็นเส้นตรง ถ้าจานวนระยะเวลา (t) ที่กาหนดให้เป็นจานวนคี่ โดยการถาม-ตอบและสรุปร่วมกัน ชั่วโมงที่ 2 1. ครูทบทวน การกาหนดระยะเวลา (t) ก. ถ้าจานวนระยะเวลา (t) ที่กาหนดให้เป็นจานวนคี่ ให้ระยะเวลาที่อยู่ตรงกลางเป็น 0 โดยเรียงตามลาดับก่อนหลังดังนี้ … , - 3 , - 2 , - 1 , 0 , 1 , 2 , 3 , … 2. นักเรียนแต่ละกลุ่มๆ ศึกษา ใบความรู้ที่ 4.2 ถ้าจานวนระยะเวลา (t) ที่กาหนดให้เป็น จานวนคู่ โดยนักเรียนแต่ละกลุ่มมีคอมพิวเตอร์ 1 เครื่อง เพื่อฝึกการตรวจสอบคาตอบโดยใช้การ วิเคราะห์การถดถอยด้วยโปรแกรมสาเร็จรูป 3. ให้นักเรียนแต่ละคนทาใบกิจกรรมที่ 4.2 โดยใช้กระบวนการแก้ปัญหาของโพลยา 4. ครูและนักเรียนช่วยกันเฉลย โดยการสุ่มนักเรียนนาเสนอคาตอบที่คานวณได้ ฝึกนักเรียนตรวจคาตอบโดยใช้คอมพิวเตอร์ตามขั้นตอนไปพร้อมๆกับครู ฝึกอ่านค่าจากตารางผล การวิเคราะห์ข้อมูล (output) ซึ่งมีครูคอยให้คาแนะนาและตรวจสอบความถูกต้อง
  • 23. 23 5. ให้นักเรียนช่วยกันสรุปสาระสาคัญเกี่ยวกับความสัมพันธ์เชิงฟังก์ชันระหว่างข้อมูลที่อยู่ ในรูปอนุกรมเวลาและ กราฟเป็นเส้นตรง ถ้าจานวนระยะเวลา (t) ที่กาหนดให้เป็นจานวนคู่ โดยการถาม-ตอบและสรุปร่วมกัน ชั่วโมงที่ 3 นักเรียนทาแบบทดสอบท้ายชุดกิจกรรมชุดที่ 4 4. สื่อกำรเรียน 1. หนังสือเรียนสาระการเรียนรู้เพิ่มเติมคณิตศาสตร์ เล่ม 1 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ของสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงศึกษาธิการ 2. เครื่องฉายทึบแสง (Projecter) 3. เครื่องคอมพิวเตอร์และโปรแกรมสาเร็จรูป 4. ใบความรู้ที่ 4.1ใบความรู้ที่ 4.2 ใบกิจกรรมที่ 4.1และ ใบกิจกรรมที่ 4.2 5. แบบทดสอบท้ายชุดกิจกรรมชุดที่ 4 5. กำรวัดผลและกำรประเมินผลกำรเรียนรู้ รำยละเอียด วิธีกำร เครื่องมือ เกณฑ์ ด้านความรู้(K) ตรวจใบกิจกรรม/ แบบทดสอบชุดที่ 4 ใบกิจกรรมที่ 4.1 และ ใบกิจกรรมที่ 4.2 แบบทดสอบท้ายชุดที่ 4 ได้คะแนนร้อยละ 75 หรือระดับดีขึ้นไป ทักษะการแก้ปัญหา (P) ตรวจแบบประเมิน การแก้ปัญหา แบบประเมินการ แก้ปัญหา ได้คะแนน ระดับดีขึ้นไป คุณลักษณะ (A) สังเกตคุณลักษณะ แบบสังเกตคุณลักษณะ ได้คะแนน ระดับดี ขึ้นไป เกณฑ์กำรวัดผลและประเมินผล ใช้เกณฑ์การประเมินการแก้ปัญหาของโพลยาที่พัฒนาปรับปรุงมา จากแนวทางของกรมวิชาการ (2544) เกณฑ์กำรให้คะแนนกระบวนกำรแก้ปัญหำของโพลยำ (10 คะแนน) ขั้นที่ 1 ทาความเข้าใจกับปัญหา ( 2 คะแนน ) ขั้นที่ 2 วางแผนในการแก้ปัญหา ( 2 คะแนน ) ขั้นที่ 3 ดาเนินการตามแผน ( 4 คะแนน ) ขั้นที่ 4 ตรวจสอบโดยใช้โปรแกรมสาเร็จรูป ( 2 คะแนน )
  • 24. 24 6. กิจกรรมเสนอแนะ ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… 7. ข้อเสนอแนะของหัวหน้ำสถำนศึกษำ/ผู้ได้รับมอบหมำย ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ………………………… (นางมุกดา อองกุลนะ) รองผู้อานวยการกลุ่มบริหารงานวิชาการ วันที่………เดือน……………..พ.ศ……… 1. บันทึกผลหลังการสอน ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… 2. ปัญหา/อุปสรรค ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………. 3. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ………………………… ผู้สอน ( นางรัศมี ธัญน้อม) ครู ชานาญการ วันที่……….เดือน………………พ.ศ………..
  • 25. 25 เกณฑ์กำรประเมิน หรือแนวทำงกำรให้คะแนน สาหรับการวิจัยในครั้งนี้ จะใช้เกณฑ์การประเมินการแก้ปัญหาของโพลยา ที่พัฒนาปรับปรุงมาจากแนวทางของกรมวิชาการ (2544) ดังนี้ กระบวนกำรแก้ปัญหำของโพลยำ เกณฑ์กำรให้คะแนนกระบวนกำรแก้ปัญหำของโพลยำ (10 คะแนน) ขั้นที่ 1 ทาความเข้าใจกับปัญหา ( 2 คะแนน ) ขั้นที่ 2 วางแผนในการแก้ปัญหา ( 2 คะแนน ) ขั้นที่ 3 ดาเนินการตามแผน ( 4 คะแนน ) ขั้นที่ 4 ตรวจสอบโดยใช้โปรแกรมสาเร็จรูป ( 2 คะแนน ) ขั้นที่ 1 ทาความเข้าใจกับปัญหา ให้ 0 คะแนน ถ้าเข้าใจผิดพลาด ให้ 1 คะแนน ถ้ามีบางส่วนเข้าใจผิดพลาด แต่มีบางส่วนเข้าใจถูกต้อง ให้ 2 คะแนน ถ้าเข้าใจปัญหาอย่างถูกต้อง ขั้นที่ 2 วางแผนในการแก้ปัญหา ให้ 0 คะแนน ถ้าไม่มีการวางแผนในการแก้ปัญหาหรือมีแผนการแก้ปัญหาไม่ เหมาะสม ให้ 1 คะแนน ถ้ามีแผนการแก้ปัญหาที่ถูกต้องบางส่วนแต่มีบางส่วนไม่ถูกต้อง ให้ 2 คะแนน ถ้ามีแผนการแก้ปัญหาที่สามารถนาไปใช้แก้ปัญหาได้อย่าง เหมาะสม ขั้นที่ 3 ดาเนินการตามแผน ให้ 0 คะแนน ถ้าไม่มีคาตอบหรือคาตอบผิด ให้ 1 คะแนน ใช้วิธีการแก้ปัญหาบางส่วนถูกต้อง ข้อมูลบางส่วนผิดพลาด จึงทาให้การคานวณผิดพลาด คาตอบผิด ให้ 2 คะแนน ใช้วิธีการแก้ปัญหาถูกต้อง ข้อมูลบางส่วนผิดพลาด จึงทาให้การคานวณผิดพลาด แต่มีบางส่วนคานวณถูกต้อง ให้ 3 คะแนน ใช้วิธีการแก้ปัญหาถูกต้อง ข้อมูลบางส่วนผิดพลาด ส่วนใหญ่ คานวณถูกต้อง ได้คาตอบถูกต้อง ให้ 4 คะแนน ใช้ยุทธวิธีการแก้ปัญหาสาเร็จอย่างมีประสิทธิภาพ ได้คาตอบถูกต้อง ขั้นที่ 4 ตรวจสอบโดยใช้โปรแกรมสาเร็จรูป
  • 26. 26 ให้ 0 คะแนน ใช้โปรแกรมสาเร็จรูป ตรวจสอบคาตอบได้ แต่ผลการวิเคราะห์ ไม่ตรงกับที่คานวณได้ ให้ 1 คะแนน ใช้โปรแกรมสาเร็จรูป ตรวจสอบคาตอบได้และผลการวิเคราะห์ ตรงกับที่คานวณได้ ตั้งสมการปกติผิด ให้ 2 คะแนน ใช้โปรแกรมสาเร็จรูป ตรวจสอบคาตอบได้ ผลการวิเคราะห์ ตรงกับที่คานวณได้ ตั้งสมการปกติได้ถูกต้อง สรุปผลกำรประเมินกระบวนกำรแก้ปัญหำของโพลยำ ระดับคุณภาพ ดีมาก ได้คะแนน 8 - 10 ระดับคุณภาพ ดี ได้คะแนน 6 - 7 ระดับคุณภาพ พอใช้ ได้คะแนน 3 - 5 ระดับคุณภาพ ปรับปรุงได้คะแนน 1 – 2 เกณฑ์กำรประเมินด้ำนคุณลักษณะ มีควำมรับผิดชอบ 4 หมายถึง ส่งงานก่อนกาหนด รับผิดชอบงานที่ได้รับมอบหมายและปฏิบัติเองจน เป็นนิสัย เป็นระบบ ช่วยเหลือผู้อื่นและแนะนาชักชวนผู้อื่นปฏิบัติ 3 หมายถึง ส่งงานตรงตามกาหนด รับผิดชอบงานที่ได้รับมอบหมายและปฏิบัติเอง จนเป็นนิสัย เป็นระบบ ช่วยเหลือผู้อื่นและแนะนาชักชวนผู้อื่นปฏิบัติ 2 หมายถึง ส่งงานตรงตามกาหนดรับผิดชอบงานที่ได้รับมอบหมายและปฏิบัติเองจน เป็นนิสัย เป็นระบบ 1 หมายถึง ส่งงานล่าช้ากว่ากาหนด รับผิดชอบงานที่ได้รับมอบหมายและปฏิบัติเอง ได้บางส่วนต้องคอยแนะนา ตักเตือน ควำมมีระเบียบ 4 หมายถึง ชิ้นงานสะอาดเรียบร้อยปฏิบัติงานอยู่ในข้อตกลงที่กาหนดร่วมกันทุกครั้ง 3 หมายถึง ชิ้นงานส่วนใหญ่สะอาดเรียบร้อยปฏิบัติงานอยู่ในข้อตกลงที่กาหนด ร่วมกันเป็นส่วนใหญ่ 2 หมายถึง ชิ้นงานไม่ค่อยเรียบร้อยปฏิบัติงานอยู่ในข้อตกลงที่กาหนดร่วมกัน บางครั้ง 1 หมายถึง ชิ้นงานไม่เรียบร้อยปฏิบัติงานอยู่ในข้อตกลงที่กาหนดร่วมกันโดยอาศัย การแนะนา มีควำมรอบคอบ
  • 27. 27 4 หมายถึง มีความรอบคอบในการแก้ปัญหาทาให้ได้คาตอบที่ถูกต้อง 3 หมายถึง มีความรอบคอบในการแก้ปัญหาแต่ได้คาตอบผิดเล็กน้อย 2 หมายถึง มีความรอบคอบในการแก้ปัญหาปานกลางแต่ได้คาตอบผิดพลาดเล็กน้อย 1 หมายถึง มีความรอบคอบในการแก้ปัญหาเล็กน้อยได้คาตอบไม่ถูกต้อง กำรให้เหตุผล 4 หมายถึง มีการอ้างอิง เสนอแนวคิดประกอบการตัดสินใจอย่างสมเหตุสมผล 3 หมายถึง มีการอ้างอิงถูกต้องบางส่วนและเสนอแนวคิดประกอบการตัดสินใจ 2 หมายถึง เสนอแนวคิดไม่สมเหตุสมผลในการประกอบการตัดสินใจ 1 หมายถึง มีความพยายามเสนอแนวคิดประกอบการตัดสินใจ สรุปผลกำรประเมินด้ำนคุณลักษณะ ระดับคุณภาพ ดีมาก ได้คะแนน 13 - 16 ระดับคุณภาพ ดี ได้คะแนน 9 - 12 ระดับคุณภาพ พอใช้ ได้คะแนน 5 - 8 ระดับคุณภาพ ปรับปรุงได้คะแนน 1 - 4 เกณฑ์กำรประเมินของคะแนนกลุ่ม กำรวำงแผนกำรทำงำน 4 หมายถึง มีการวางแผนการทางานทุกขั้นตอน มีข้อเสนอที่เป็นประโยชน์ใน การวางแผนงานดีมาก 3 หมายถึง มีการวางแผนการทางานเกือบครบทุกขั้นตอน มีข้อเสนอที่เป็น ประโยชน์ในการวางแผนงานดี 2 หมายถึง มีการวางแผนการทางานบ้าง มีข้อเสนอที่เป็นประโยชน์ใน การวางแผนงานดีพอสมควร 1 หมายถึง มีการวางแผนการทางานน้อยมาก หรือไม่มีข้อเสนอแนะที่เป็น ประโยชน์ใน การวางแผนงาน แสดงควำมคิดเห็นอย่ำงมีเหตุผล
  • 28. 28 4 หมายถึง ใช้เหตุผลในการแสดงความคิดเห็นได้ดีมาก และมุ่งประโยชน์เพื่อ พัฒนาคุณภาพงานเป็นสาคัญ 3 หมายถึง ใช้เหตุผลในการแสดงความคิดเห็นได้ดี 2 หมายถึง ใช้เหตุผลในการแสดงความคิดเห็นได้บ้างพอสมควร 1 หมายถึง ใช้ความรู้สึกส่วนตัวในการแสดงความคิดเห็นมากกว่าใช้เหตุผล ยอมรับข้อสรุปและผลงำนของกลุ่ม 4 หมายถึง สมาชิกทุกคนมีส่วนร่วมในการสรุป ยอมรับข้อสรุปของกลุ่ม ร่วมรับผิดชอบ ปรับปรุง แก้ไขงานของกลุ่มทั้งหมดด้วยความเต็มใจ 3 หมายถึง สมาชิกทุกคนมีส่วนร่วมในการสรุป ยอมรับข้อสรุปของกลุ่ม ร่วมรับผิดชอบ ปรับปรุง แก้ไขงานส่วนใหญ่ของกลุ่ม 2 หมายถึง สมาชิกบางคนไม่มีส่วนร่วมในการสรุป แต่ยอมรับข้อสรุปของกลุ่ม ร่วมรับผิดชอบ และปรับปรุง แก้ไขงานของกลุ่มพอสมควร 1 หมายถึง สมาชิกส่วนใหญ่จะไม่มีส่วนร่วมในการสรุป แต่ยอมรับข้อสรุปของกลุ่ม ร่วมรับผิดชอบ และปรับปรุง แก้ไขงานของกลุ่มเพียงเล็กน้อย ควำมสำมัคคี 4 หมายถึง ให้ความร่วมมือช่วยเหลือกันในการทางานอย่างสม่าเสมอ 3 หมายถึง ให้ความร่วมมือช่วยเหลือกันในการทางานพอสมควร 2 หมายถึง ให้ความร่วมมือช่วยเหลือกันในการทางานเป็นบางขั้นตอน 1 หมายถึง ไมค่อยให้ความร่วมมือไม่ช่วยเหลือกันในการทางาน ทักษะกำรแก้ปัญหำ 4 หมายถึง ถ้านักเรียนแก้ปัญหาผิดพลาดเล็กน้อย และความผิดพลาดไม่ส่งผล กระทบต่อข้อมูลอื่นๆ นักเรียนแก้ปัญหาได้ถูกต้องสมบูรณ์ได้คาตอบถูกต้อง 3 หมายถึง ถ้ามีเครื่องมือที่จะนาไปใช้แก้ปัญหา สามารถแสดงวิธีการแก้ปัญหาได้ ถูกต้องแต่เข้าใจผิดพลาดในบางส่วนจึงทาให้คาตอบผิด มียุทธวิธีในการแก้ปัญหาอย่างเหมาะสมแต่ คาตอบผิดโดยไม่ปรากฏเหตุผล หรือมีคาตอบบางส่วนถูกต้อง แสดงวิธีการแก้ปัญหาถูกต้อง เลือก ยุทธวิธีแก้ปัญหาได้ถูกต้องแต่การแก้ปัญหาไม่สมบูรณ์ 2 หมายถึง ถ้าแสดงยุทธวิธีการแก้ปัญหาได้ถูกต้องแต่การคานวณผิดพลาด
  • 29. 29 และมีร่องรอยปรากฏว่ามีความเข้าใจในปัญหา แต่ไม่ได้แสดงการแก้ปัญหาเพียงพอที่จะค้นพบ คาตอบได้หรือใช้วิธีการคานวณผิดพลาดในบางส่วนจึงทาให้คาตอบผิด นักเรียนค้นพบคาตอบของ ปัญหาย่อยแสดงวิธีทาได้ถูกต้องแต่กระบวนการทางานไม่ถูกต้องหรือไม้ได้แสดงให้เห็น กระบวนการทางาน 1 หมายถึง ถ้ามีร่อยรอยปรากฏว่าพบวิธีการแก้ปัญหาที่ถูกต้องและคัดลอกข้อมูลที่ จาเป็นในการแก้ปัญหาแสดงให้เห็นว่ามีความเข้าใจในปัญหา มีร่องรอยการแสดงยุทธวิธีในการ อย่างเหมาะสมแต่ทาไม่สาเร็จ สรุปผลกำรประเมิน ระดับคุณภาพ ดีมาก ได้คะแนน 16 - 20 ระดับคุณภาพ ดี ได้คะแนน 11 - 15 ระดับคุณภาพ พอใช้ ได้คะแนน 6 - 10 ระดับคุณภาพ ปรับปรุงได้คะแนน 1 – 5 แบบสังเกตคุณลักษณะ เลขที่ รำยกำรประเมิน รวมควำมรับผิดชอบ 4 ควำมมีระเบียบ 4 ควำมรอบคอบ 4 กำรให้เหตุผล 4 1
  • 31. 31 4 4 4 4 4 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 ผู้ประเมิน ตนเอง ผู้เรียนกลุ่มที่.................................................... ผู้สอน.............................................................. ….............../.............../.................