SlideShare a Scribd company logo
บทที่ 9

ระบบต่ อมไร้ ท่อ
(ENDOCRINE SYSTEM)

1
ระบบต่ อมไร้ ท่อ
(ENDOCRINE SYSTEM)

2
ระบบต่ อมไร้ ท่อ
(ENDOCRINE SYSTEM)
ต่ อมไร้ ท่อ (endocrine gland) ต่ อมที่
หลั่งสารและไปมีผลต่ อเซลล์ เปาหมาย
้
โดยผ่ าน extracellular fluid เช่ นกระแส
เลือด โดยมี 9 ชนิดในคน
ต่ อมมีท่อ(exocrine gland) ต่ อมที่หลั่ง
สารและไปมีผลต่ อเซลล์ เปาหมายโดย
้
ผ่ านท่ อ
3
ฮอร์ โมน หมายถึงสารเคมีท่ สร้ างมาจาก
ี
เซลล์ ของต่ อมไร้ ท่อ(endocrine cell) และ
ไปมีผลควบคุมการทํางานของเซลล์
เปาหมายที่อยู่ห่างออกไป โดยขนส่ งไป
้
ตามกระเสเลือด

การทํางานของร่ างกายที่ควบคุม
โดยฮอร์ โมนหรื อสารเคมี เรี ยก
chemical control และเรี ยกกลุ่ม
สารเคมีดังกล่ าวว่ า chemical
messenger หรื อ molecular
messenger

4
5

ระบบประสานงาน(co-ordinating system)
หน้ าทีของฮอร์ โมนแบ่ งออกได้ เป็ น 3 กลุ่มใหญ่
่
1. ควบคุมการเจริญเติบโต (growth)
2. ควบคุมและรักษาสภาพแวดล ้อมภายใน
ร่างกายให ้เป็ นปกติ
3. ควบคุมการทํางานของร่างกายอย่างอัตโนมัต ิ

6
Chemical messengerหรื อmolecular messenger แบ่ งเป็ น 5 ชนิดดังนี ้
1. Paracrine (local regulator) 2. Neurotransmitter 3. Neurohormone
4. Hormone 5. Pheromone

7
ฮอร์ โมนแบ่ งตามโครงสร้ างทางเคมีได้ เป็ น 4 ชนิด คือ
1. ฮอร์ โมนเปปไทด์ หรื อโปรตีน
(Polypeptide hormone)
2. ฮอร์ โมนสเตียรอยด์
(Steroid hormone)
3. ฮอร์ โมนเอมีน
(Amine hormone)
4.ฮอร์ โมนกรดไขมัน
(Fatty acid hormone)

8
กลไกการออกฤทธิ์ของchemical messenger และฮอร์ โมน
-ออกฤทธิ์ ได้ โดยการจับกับตัวรั บสัญญาณ(receptor)

สารเคมีตัวเดียวกันสามารถมีผลต่ อ
เซลล์ ชนิดต่ างๆ ได้ ต่างกันโดยขึนกับ
้
1.ตัวรั บต่ างกัน (a กับb&c)
2.ตัวถ่ ายทอดสัญญาณในเซลล์
ต่ างกัน (bกับc)
9
การออกฤทธิ์ของฮอร์ โมน แบ่ งตามโครงสร้ างได้ เป็ น 2 แบบ
1.พวกที่ มีตัวรั บอยู่ท่ ผนังเซลล์ (cell membrane receptor)ได้ แก่ ฮอร์ โมนที่มีขนาดใหญ่
ี
ผ่ านเข้ าเซลล์ ไม่ ได้ ไม่ ละลายในไขมัน เช่ น ฮอร์ โมนโปรตีน

10
2.พวกที่ มีตัวรั บอยู่ภายในเซลล์ ได้ แก่ ฮอร์ โมนที่มีขนาดเล็กและละลายในไขมันได้
เช่ น ฮอร์ โมนสเตียรอยด์ , ฮอร์ โมนไทรอยด์ , Vitamin D3, NO

-ตัวรั บอาจอยู่ในไซโตพลาสม
หรื อนิวเคลียส

-ตัวรั บเมื่อจับกับฮอร์ โมน
(hormone-receptor complex)
จะทําหน้ าที่เป็ น transcription factor
11
ฮอร์โมนจากต่อมไร ้ท่อทีสําคัญของร่างกาย
่
ั้
ต่อมไร ้ท่อมีการเปลียนแปลงมาจากเนือเยือทัง 3 ชน คือ
่
้
่ ้
1. พวกที่เปลี่ยนแปลงมาจากเนือเยื่อชันกลาง
้
้
* สร้างสารพวกสเตอรอยด์
- ต่อมหมวกไตส่วนนอก (adrenal cortex)
- รังไข่ (ovary)
- อัณฑะ (testis)
2. พวกที่เปลี่ยนแปลงมาจากเนือเยื่อชันนอก และเนือเยื่อชันใน
้
้
้
้
* สร้างสารพวกเปปไทด์ โปรตีน
- ต่อมไทรอยด์(thyroid gland)
- ต่อมใต้ สมอง(hypophysis หรือ pituitary)
- ต่อมหมวกไตส่วนใน(adrenal medulla)
12
ความสํ าคัญของต่ อมไร้ ท่อต่ อร่ างกาย
1. พวกที่ร่างกายขาดไม่ ได้ (essential endocrine gland)
- ต่อมไทรอยด์ (thyroid gland)
- ต่อมพาราไทรอยด์(parathyriod gland)
- ต่อมหมวกไตส่วนนอก (adrenal cortex)
- ไอส์เลตออฟแลงเกอร์ ฮานส์
2. พวกที่ร่างกายขาดได้ (non-essential endocrine gland)
- ต่อมใต้ สมองส่วนหน้ า (pituitary)
- ต่อมไพเนียล(pineal gland)
- ต่อมหมวกไตส่วนใน (adrenal medulla)
- รังไข่ (ovary)
- อัณฑะ(testis)
13
กลไกการควบคุมการหลั่งฮอร์ โมน
การควบคุมการหลั่ง
ฮอร์ โมน ส่ วนใหญ่
เป็ นกลไกการควบคุม
ย้ อนกลับแบบ
negative feedback

14
การควบคุม homeostasis ของแคลเซียมโดย PTH และ Calcitonin

การทํางานแบบตรงข้ ามกัน(antagonistic) ของฮอร์ โมน 2 ชนิด

15
ระบบต่ อมไร้ ท่อในสัตว์ ไม่ มีกระดูกสันหลัง
1.Brain hormone(BH) หลังจาก
่
neurosecretory cells มาเก็บไว้ ที่
corpus cardiacum
2.BHกระตุ้ นprothoracic
gl. ให้ หลังฮอร์ โมน
่
ecdysone

4.Juvenile hormone(JH) หลังจากcorpus
่
allatum ยับยังการเกิด metamorphosis
้
เมื่อ JH ลดลงแมลงสามารถพัฒนาไปสู่
ระยะต่อไปได้

3.ecdysone กระตุ้น
การลอกคราบ

16
ระบบต่ อมไร้ ท่อในสัตว์ มีกระดูกสันหลัง(คน)
-ในร่ างกายคนเรามีต่อมไร้ ท่อ
ทังหมด 9 ต่ อม
้
-Tropic hormones:
ฮอร์ โมนที่ไปมีบทบาท
ควบคุมการหลั่งฮอร์ โมน
ของต่ อมไร้ ท่ออื่น ๆ

17
การทํางานร่ วมกันระหว่ างระบบประสาทและระบบต่ อมไร้ ท่อ
(ไฮโปทาลามัสและต่ อมใต้ สมอง)
-ไฮโปทาลามัสทําหน้ าที่เชื่อมโยง
ระหว่ างระบบต่ อมไร้ ท่อและ
ระบบประสาท
-เซลล์ ประสาท(neurosecretory cell)
จากไฮโปทาลามัสไปควบคุมการ
หลั่งฮอร์ โมนจากต่ อมใต้ สมองส่ วน
หน้ า ทังแบบกระตุ้น(releasing
้
homrone) และยับยัง(inhibiting
้
hormone)
18
ฮอร์โมนจากต่อมใต้สมอง
pituitary
ต่อมใต ้สมองเป็ นต่อมไร ้ท่อ อยูบริเวณตรง
่
่
กลางสมองแบ่งได ้ เป็ น 3 สวน คือ

1.

2.

3.

ต่อมใต ้สมอง
่
สวนหน ้า
(Anterior
pituitary)
ต่อมใต ้สมอง
่
สวนกลาง
(intermidiate )
ต่อมใต ้สมอง
่
สวนหลัง
(Posterior
pituitary)

19
ต่ อมใต้ สมองส่ วนหน้ า(anterior pituitary gland or adenohypophysis)
-ควบคุมการหลั่งฮอร์ โมนโดยไฮโปทาลามัส โดยหลั่ง releasing/inhibiting
ผ่ านทางเส้ นเลือด portal vessel

20
ฮอร์ โมนโกรท (Growth hormone,GH)
- ฮอร์ โมนโกรท (Growth hormone,GH) เป็ นสารพวกโปรตีน
ควบคุมการเจริญเติบโต ของร่างกาย
น้อยไป

มากไป

เด็ก

dwarfism

giantism

ผูใหญ่
้

acromegaly

simmon’s disease

21
giantism
• เนื่องจากในวัยเด็กมีการสร้ าง GH มาก
เกินไปจะมีผลกระตุ้นการเจริญเติบโต
มากกว่าปกติ เรี ยกว่า สภาวะยักษ์
(giantism)

22
13 years old

21 years old
18 years old

18 years old
High School
Graduation

Entering his car,
front seat had
to be removed

23
http://www.altonweb.com/history/wadlow/
dwarfism
• เนื่องจากในวัยเด็กมีการขาด
ฮอร์ โมน GH น้ อยทําให้ เกิด
อาการร่างกายมีขนาดเล็ก แคระ
แกร็ น เนื่องจากการเจริญเติบโต
ของกระดูกถูกยับยัง้ ระบบสืบ
พันธ์ไม่เจริญ

24
acromegaly
• เนื่องจากในวัยผู้ใหญ่มีฮอร์ โมน GH มากเกินไปจะมีผลต่อ
การกระตุ้นการเจริ ญของกระดูกในด้ านกว้ าง เนื่องจาก
กระดูกทางด้ านยาวบิดไปแล้ ว ยาวอีกไม่ได้ และยับยัง้
เนื ้อเยื่อเกี่ยวพันด้ วย ทําให้ กระดูกที่คางขยายขนาดกว้ าง
ขึ ้นฟั นห่างใบหน้ าเป็ นรูปสี่เหลี่ยมคางหมู นิ ้วมือ นิ ้วเท้ ามี
ขนาดใหญ่ขึ ้น ผิวหนังหนาและหยาบ

25
simmon’s disease
• เนื่องจากในผู้ใหญ่ที่มีฮอร์ โมนโกรธ
น้ อยมักไม่แสดงลักษณะอาการให้
เห็นแต่พบว่านํ ้าตาลในเลือดตํ่าจึง
ทนต่อความเครี ยดทางอารมณ์ได้
น้ อยกว่าคนปกติ และมักจะเป็ นลม
หน้ ามืดง่าย อาจเป็ นโรคผอมแห้ ง

26
ฮอร์ โมนโกนาโดโทรฟิ น
(gonadotrophin หรือ gonadotrophic hormone,Gn )

1. ฮอร์ โมนกระตุ้นฟอลลิเคิล หรื อ ฟอลลิเคิลสติมิวเลติงฮอร์ โมน(follicle
stimulating hormone,FSH)

เป็ นฮอร์ โมนพวกโปรตีนที่รวมอยูกบคาร์ โบไฮเดรต(glycoprotein) ทําหน้ าที่
่ ั
- กระต้ นฟอลลิเคิลของรังไข่ให้ เจริญเติบโต
่
- ออกฤทธิ์ร่วมกับฮอร์ โมนลูทิไนท์(LH)ในการกระต้ นให้ มีการสร้ างและหลังฮอร์ โมนอีสโทร
เจน
- FSH ในเพศชายจะกระตุ้นเนื ้อเยื่อสืบพันธุ์(germinal epithelium) ภายในหลอด
สร้ างอสุจิในอัณฑะ ให้ สร้ างอสุจิ(spermatogenesis)
27
- ฮอร์ โมน LH กระตุ้นกลุมเซลล์
่
อินเตอร์ สติเชียลให้ หลัง
่
- ฮอร์ โมนเทสโทสเตอโรน (testosterone)
28
ฮอร์ โมนโพรแลกติน (prolactin) หรือ (lactogenic hormone)
• เป็ นฮอร์ โมนประเภทโปรตีน กระตุ้นการเจริ ญ
ของท่อของการผลิตนํ ้านมกระตุ้นการสร้ าง
และผลิตนํ ้านม
• ในขณะตังครรภ์และตอนคลอดจะมีโพรแลก
้
ตินสูง
• โพรแลกตินในเพศชายไม่ทราบหน้ าที่แน่ชด
ั
แต่มีผ้ รายงานว่าโพรแลกตินจะทําหน้ าที่
ู
ร่วมกับฮอร์ โมนเพศชายในการกระตุ้นอวัยวะที่
เกี่ยวข้ องกับการสืบพันธุ์ เช่น ต่อมลูกหมาก
ท่อนําอสุจิ และต่อมสร้ างนํ ้าเลี ้ยงอสุจิ
29
• เป็ นฮอร์ โมนประเภทโปรตีน กระตุ้นการเจริ ญของท่อของการผลิต
นํ ้านมกระตุ้นการสร้ างและผลิตนํ ้านม
• ในขณะตังครรภ์และตอนคลอดจะมีโพรแลกตินสูง
้
• โพรแลกตินในเพศชายไม่ทราบหน้ าที่แน่ชด แต่มีผ้ รายงานว่าโพรแลก
ั
ู
ตินจะทําหน้ าที่ร่วมกับฮอร์ โมนเพศชายในการกระตุ้นอวัยวะที่
เกี่ยวข้ องกับการสืบพันธุ์ เช่น ต่อมลูกหมาก ท่อนําอสุจิ และต่อมสร้ าง
นํ ้าเลี ้ยงอสุจิ

30
ฮอร์ โมนอะดรี โนคอร์ ตโคโทรฟิ น
ิ

(adrenocorticotrophin hormone) หรื อ ACTH

ทําหน้ าที่กระตุ้นอะดรี นลคอร์ เทก ของต่อมหมวกไตให้ สร้ างฮอร์ โมนตามปกติ
ั

31
ACTH
•
•
•
•
•

กระตุ้นการเติบโตและการสร้ างฮอร์ โมนของต่อมหมวกไตส่วนนอก
กระต้ นการปลดปล่อยกรดไขมันออกจากเนื ้อเยื่อ
กระตุ้นการหลังอินซูลนจากตับอ่อน
่
ิ
กระตุ้นการหลัง GH จากต่อมใต้ สมองส่วนหน้ า
่
ACTH ยังมีลกษณะบางอย่างเหมือนฮอร์ โมนจากต่อมใต้ สมอง
ั
ส่วนกลาง(MSH)จึงกระตุ้นเมลานินภายในสัตว์เลือดเย็น เช่น กบ ทําให้ มี
สีเข้ มขึ ้น

32
ฮอร์ โมนกระตุ้นไทรอยด์
(thyroid stimulating hormone)

หรื อ TSH ทําหน้ าที่กระตุ้นต่อมไทรอยด์ให้ หลังฮอร์ โมนตาม
่
ปกติ ฮอร์ โมนจากต่อมใต้ สมองส่วนหน้ าจะควบคุมโดยฮอร์ โมน
ประสาทที่สร้ างมาจากไฮโพทาลามัส

33
ไฮโพทาลามัสกับการสร้ างและหลังฮอร์ โมนของต่อมใต้ สมองส่วนหน้ า
่

34
• ฮอร์ โมนกระตุ้นการหลัง GH (GH releasing hormone,GHRH)
่
• ฮอร์ โมนยับยังการหลัง GH (GH inhibiting hormone,GHIH)
้
่
• ฮอร์ โมนกระตุ้นการหลังโพรแลกติน(prolactin releasing
่
hormone,PRH)

• ฮอร์ โมนกระตุ้นการหลังของต่อมไทรอยด์ (thyroid releasing
่
hormone,TRH)กระตุ้นการหลัง TSH
่
• ฮอร์ โมนกระตุ้นการหลัง Gn (gonadotrophin releasing
่
hormone,GnRH)กระตุ้นการหลัง FSH
่
และ LH
35
ต่ อมใต้ สมองส่ วนกลาง ทําหน้ าที่ผลิตฮอร์ โมน ดังนี ้
- ฮอร์ โมนเมลาโนไซต์ (Melanocyte
stimulating hormone) หรื อ MSH
ทําหน้ าที่ทําให้ รงควัตถุภายในเซลล์
ผิวหนังกระจายไปทัว เซลล์
่

36
ต่ อมใต้ สมองส่ วนหลัง(Posterior pituitary gland or neurohypophysis)
-ฮอร์ โมนที่หลั่งจากต่ อมใต้
สมองส่ วนหลังสร้ างมาจาก
เซลล์ ประสาทของไฮโปทา
ลามัส
-โดยเซลล์ ประสาทจะยื่น
ส่ วน axon เข้ ามาในต่ อม
ใต้ สมองส่ วนหลัง

37
• ต่อมใต้สมองส่ วนหลัง
หรื อนิวโรไฮโพไฟซีส
ไม่ได้สร้างฮอร์โมนเอง
แต่ฮอร์โมนถูกสร้างมา
จาก นิวโรซีครี ทอรี
Portal
เซลล์ของไฮโพทาลามัส
venules
โดยกลุ่มเซลล์เหล่านี้จะ
มีแอกซอนมาสิ้ นสุ ดอยู่
ภายในต่อมใต้สมอง
ส่ วนหลัง และเข้าสู่ Secondary
capillaries
กระแสเลือด

Axons to
primary
capillaries

Primary
capillaries
Pituitary stalk

Posterior pituitary
Anterior pituitary

38
วาโซเพรสซิน(Vasopressin)
หรื อ ฮอร์ โมนแอนติได
- ยูเรติก ADH มีหน้ าที่ดดนํ ้า
ู
กลับของหลอดไต และ
กระตุ้นให้ หลอด เลือดบีบตัว
ถ้ าขาดฮอร์ โมนนี ้จะเกิดการ
เบาจืดทําให้ ปัสสาวะ บ่อย

39
ADH
• มีผลให้มีการดูดนํ้ากลับที่ท่อหน่วยไต
• ฮอร์โมนนี้จะมีการหลังออกมาเมื่อ กระหายนํ้า และขาดนํ้า
่
ความเครี ยดสูง ความดันเลือดสู ง
• ยาที่มีผลต่อการกระตุนประสาทส่ วนกลาง ฝิ่ น เฮโรอีนจะมีผลในการ
้
กระตุนการหลังฮอร์โมนด้วย
้
่
• ถ้ามี ADH น้อยมากๆจะทําให้เกิดโรคเบาจืด(diabetes insipidus)
มีปัสสาวะออกมามากถึงวันละ 20 ลิตรต่อวัน

40
ออกซีโทซิน (Oxytocin)
ทําหน้าที่กระตุนกล้ามเนื้อเรี ยบ
้
และ อวัยวะภายใน กระตุน
้
กล้ามเนื้อรอบ ๆ ต่อมนํ้านม
ให้ขบนํ้านม ฮอร์โมนนี้จะ
ั
หลังออกมามากตอนคลอด
่
เพื่อช่วยให้กล้ามเนื้อ มดลูก
บีบตัวขณะคลอด

41
ตับอ่ อน (pancreas)

-ตับอ่ อนประกอบด้ วยendocrine
gland (islets of Langerhans) และ
exocrine gland(หลั่งเอนไซม์ )
-Islet of Langerhans ประกอบด้ วย
alpha cells(หลั่ง glucagon) และ beta
cells (หลั่ ง insulin)

42
-insulin และ glucagon จะทําหน้ าที่ตรงข้ ามกัน(antagonistic)
:insulin ลดระดับนําตาลในเลือด โดยไปกระตุ้นให้ มีการนํากลูโคสเข้ าสู่เซลล์
้
(ยกเว้ นเซลล์ สมอง), ลดการสลายไกลโคเจนที่ตับ, และลดการเปลี่ยนกรดอะมิ
โนและกลีเซอรอลไปเป็ นนําตาล
้
:glucagon เพิ่มระดับนําตาลในเลือด โดยกระตุ้นเซลล์ ตับให้ สลายไกลโคเจนมา
้
เป็ นกลูโคส เปลี่ยนกรดอะมิโนและกลีเซอรอลมาเป็ นกลูโคส
Diabetes mellitus (โรคเบาหวาน) สภาวะที่ระดับนําตาลในเลือดสูงกว่ าปกติ (คน
้
ปกติ = 90mg/100ml) อาจเกิดเนื่องจากร่ างกายขาด insulin หรื อเซลล์ เปาหมาย
้
ไม่ ตอบสนองต่ อinsulin

43
ต่ อมหมวกไต (adrenal gland)
-mineralocorticoid ควบคุม
สมดุลของเกลือและนํ ้า
เช่น aldosterone กระตุ้นให้ มี
การดูดกลับของNa+และนํ ้าที่
ท่อไต

-หลังเมื่อร่างกายอยู่
่
ในสภาวะเครี ยด

-กระตุ้ นการสลายไกลโค
เจนได้ เป็ นกลูโคสจากตับ
และกล้ ามเนื ้อและกระตุ้น
การปล่อย fatty acidจาก
เซลล์ไขมัน
-กระตุ้ นcardiovascular
และ respiratory system

autonomic
nervous system
(sympathetic)
-glucocorticoid กระตุ้น
การสังเคราะห์กลูโคสจาก
noncarbohydrate
source เช่นจากโปรตีน

-ต่ อมหมวกไตแบ่ งเป็ น 2 ส่ วนคือ adrenal cortex(ด้ านนอก)และadrenal medulla(ตรงกลาง)
44
ฮอร์ โมนจากต่ อมหมวกไต
ต่อมหมวกไต (adrenal gland) ประกอบด้ วยเนื ้อเยื่อ 2 ชนิดคือ
1. อะดรี นลคอร์ เทกซ์ (adrenal cortex) เป็ นเนื ้อเยื่อชันนอก
ั
้
2. อะดรี นลเมดุลลา (adrenal medulla) เป็ นเนื ้อเยื่อชันใน
ั
้
อะดรี นลคอร์ เทกซ์
ั
ผลิตฮอร์ โมนได้ มาก สามารถแบ่งออกเป็ น 2 กลุมใหญ่ คือ
่

45
อะดรีนัลคอร์ เทกซ์ (adrenal cortex)
1. ฮอร์ โมนกลูโคคอร์ ตคอยด์ (Glucocorticoid hormone)
ิ
ทําหน้ าที่ควบคุมเมตาโบลิซมของคาร์ โบไฮเดรต กระตุ้นการ
ึ
เปลี่ยนคาร์ โบไฮเดรตและไกลโคเจนเป็ นกลูโคส และยังควบ
คุมสมดุลของเกลือแร่
2. ฮอร์ โมนมิเนราโลคอทิคอยด์ (mineralocorticoid) ทําหน้ าที่
ควบคุมสมดุลของนํ ้าและเกลือแร่ในร่างกาย เช่น อัลโดสเตอโรน
(aldosterone) ทําหน้ าที่ดดโซเดียมกลับท่อหน่วยไต
ู

46
อะดรีนัลเมดุลลา (adrenal medulla)
อะดรี นัลเมดุลลา ผลิตฮอร์ โมนดังนี ้
1. อะดรีนาลิน (adrenalin)
ทําให้ นํ ้าตาลในเลือดเพิ่มขึ ้น และ กระตุ้นการเต้ นของหัวใจ
2. นอร์ อะดรีนาลิน (noradrenalin)
ทําหน้ าที่หลังจากเส้ นประสาทซิมพาเทติก ทําให้ ความดันเลือดสูง
่

47
ต่ อมไทรอยด์ (Thyroid gland)
-ต่ อมไทรอยด์ ในสัตว์ เลียง
้
ลูกด้ วยนมมี 2 พู วางตัวอยู่
บนหลอดลม
-สร้ างฮอร์ โมน
triiodothyronine (T3) และ
thyroxine (T4)
-ทําหน้ าที่ควบคุม
กระบวนการเมตาบอลิสม
-ควบคุมการสร้ างโดย TSH

48
ฮอร์ โมนจากต่ อมพาราไทรอยด์ (Parathyriod gland)
ฮอร์ โมนจากต่ อมพาราไทรอยด์
- พาราทอร์ โมน (parathormone,PTH) ทําหน้ าที่รักษาสมดุลและ
ฟอสฟอรัสในร่างกายให้ คงที่
- มีผลกระตุ้นให้ มีการเพิ่มแคลเซียมและฟอสฟอรัส
- ถ้ ามีระดับแคลเซียมตํ่าในเลือดจะกระตุ้นให้ มีการหลังฮอร์ โมนมาก
่
ขึ ้น
- ถ้ าหลังฮอร์ โมนมากเกินไปจะทําให้ มีการสะสมแคลเซียมที่ไตที่เส้ น
่
เลือด กระดูกเสียแคลเซียมมากเกินไป หักง่ายเป็ นโรคกระดูกพรุน
49
50
ฮอร์ โมนจากอวัยวะเพศ
เพศชาย
ฮอร์ โมนแอนโดรเจน
(androgens)ประกอบไปด้ วย
เทสโทสเตอโรน (testosteron)
มีหน้ าที่ควบคุมลักษณะเกี่ยวกับ
การเปลี่ยนแปลงของเพศชายใน
ช่วงวัยรุ่น
51
เพศหญิง

- เอสโทรเจน (estrogens) สร้ างจากเซลล์ฟอลลิเคิลในรังไข่ ฮอร์ โมนนี ้จะตํ่าในขณะมี
ประจําเดือน
- ฮอร์ โมนโปรเจสเทอโรน (progesterone) สร้ างจาก คอร์ ปัสลูเทียม ควบคุมลักษณะ
เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของร่าง กายในช่วงวัยรุ่น

52
ต่ อมไพเนียล(pineal gland)
ฮอร์ โมนจากต่อมไพเนียล ต่อมไพเนียลอยูบริเวณกึงกลางของ
่
่
สมองส่วนเซรี บรัมพูซ้ายและพูขวา ต่อมนี ้ไม่ได้ ทําหน้ าที่สร้ าง
ฮอร์ โมน ต่อมนี ้จะสร้ างเมลาโทนิน (melatonin) ในคนและสัตว์
ชันสูงในช่วงวัยรุ่นและยับยังการเจริญเติบของอวัยวะสืบพันธุ์
้
้
ถ้ าขาดจะทําให้ เด็กเป็ นหนุ่มสาวเร็วกว่าปกติ

53
ต่ อมไร้ ท่อที่เกี่ยวกับการปรั บตัวของสัตว์
MSH
- ต่อมใต้ สมองส่วนกลาง
- ต่อมไพเนียล
melatonin
ต่ อมไร้ ท่อที่เกี่ยวข้ องกับภูมิค้ ุมกัน
- Thymus gland
ต่ อมไร้ ท่อที่ทาหน้ าที่ควบคุมพฤติกรรม Biological clock
ํ
- pineal gland

54
55
56
57
ตําแหน่งของต่อมทีผลิตฟี โรโมนในสุนัข
่
1. Labial glands.
2. Auricular glands.
3. Perianal glands.
4. Vulva หรือ Preputial glands.
5. Interdigitous glands.

58

More Related Content

What's hot

การลำเลียงสารผ่านเซลล์
การลำเลียงสารผ่านเซลล์การลำเลียงสารผ่านเซลล์
การลำเลียงสารผ่านเซลล์Peangjit Chamnan
 
ระบบประสาทส่วนกลางและรอบนอก
ระบบประสาทส่วนกลางและรอบนอกระบบประสาทส่วนกลางและรอบนอก
ระบบประสาทส่วนกลางและรอบนอกThanyamon Chat.
 
แบบทดสอบระบบประสาท
แบบทดสอบระบบประสาทแบบทดสอบระบบประสาท
แบบทดสอบระบบประสาท
Wichai Likitponrak
 
แบบทดสอบความหลากหลายทางชีวภาพ
แบบทดสอบความหลากหลายทางชีวภาพแบบทดสอบความหลากหลายทางชีวภาพ
แบบทดสอบความหลากหลายทางชีวภาพyangclang22
 
ระบบย่อยอาหารของสัตว์
ระบบย่อยอาหารของสัตว์ระบบย่อยอาหารของสัตว์
ระบบย่อยอาหารของสัตว์Anissa Aromsawa
 
Kingdom Animalia
Kingdom AnimaliaKingdom Animalia
Kingdom Animalia
Thanyamon Chat.
 
วิวัฒนาการ
วิวัฒนาการวิวัฒนาการ
วิวัฒนาการWichai Likitponrak
 
การรับรู้และการตอบสนอง
การรับรู้และการตอบสนองการรับรู้และการตอบสนอง
การรับรู้และการตอบสนอง
sukanya petin
 
ฮอร์โมนพืช ( Plant hormones )
ฮอร์โมนพืช ( Plant hormones )ฮอร์โมนพืช ( Plant hormones )
ฮอร์โมนพืช ( Plant hormones )พัน พัน
 
บทที่ 3 ระบบประสาทและอวัยวะรับความรู้สึก
บทที่ 3 ระบบประสาทและอวัยวะรับความรู้สึกบทที่ 3 ระบบประสาทและอวัยวะรับความรู้สึก
บทที่ 3 ระบบประสาทและอวัยวะรับความรู้สึก
Ta Lattapol
 
อวัยวะรับความรู้สึก
อวัยวะรับความรู้สึกอวัยวะรับความรู้สึก
อวัยวะรับความรู้สึก
สุรินทร์ ดีแก้วเกษ
 
ระบบย่อยอาหาร (Digestive System)
ระบบย่อยอาหาร (Digestive System)ระบบย่อยอาหาร (Digestive System)
ระบบย่อยอาหาร (Digestive System)
ครูเสกสรรค์ สุวรรณสุข
 
ระบบขับถ่าย (T) 1 2560
ระบบขับถ่าย (T) 1 2560ระบบขับถ่าย (T) 1 2560
ระบบขับถ่าย (T) 1 2560
Thitaree Samphao
 
บทที่ 3 ระบบร่างกาย ม.2
บทที่ 3 ระบบร่างกาย ม.2บทที่ 3 ระบบร่างกาย ม.2
บทที่ 3 ระบบร่างกาย ม.2
Wichai Likitponrak
 
Lec การแบ่งเซลล์
Lec การแบ่งเซลล์Lec การแบ่งเซลล์
Lec การแบ่งเซลล์bio2014-5
 
Ppt ระบบประสาท (nervous system) ชีววิทยา ม.5
Ppt ระบบประสาท (nervous system) ชีววิทยา ม.5Ppt ระบบประสาท (nervous system) ชีววิทยา ม.5
Ppt ระบบประสาท (nervous system) ชีววิทยา ม.5สำเร็จ นางสีคุณ
 
บรรยากาศ
บรรยากาศบรรยากาศ
บรรยากาศ
Supaluk Juntap
 

What's hot (20)

การลำเลียงสารผ่านเซลล์
การลำเลียงสารผ่านเซลล์การลำเลียงสารผ่านเซลล์
การลำเลียงสารผ่านเซลล์
 
ระบบต่อมไร้ท่อ
ระบบต่อมไร้ท่อระบบต่อมไร้ท่อ
ระบบต่อมไร้ท่อ
 
ระบบประสาทส่วนกลางและรอบนอก
ระบบประสาทส่วนกลางและรอบนอกระบบประสาทส่วนกลางและรอบนอก
ระบบประสาทส่วนกลางและรอบนอก
 
แบบทดสอบระบบประสาท
แบบทดสอบระบบประสาทแบบทดสอบระบบประสาท
แบบทดสอบระบบประสาท
 
ใบงานการย่อยอาหาร Version คุณครู
ใบงานการย่อยอาหาร Version คุณครูใบงานการย่อยอาหาร Version คุณครู
ใบงานการย่อยอาหาร Version คุณครู
 
แบบทดสอบความหลากหลายทางชีวภาพ
แบบทดสอบความหลากหลายทางชีวภาพแบบทดสอบความหลากหลายทางชีวภาพ
แบบทดสอบความหลากหลายทางชีวภาพ
 
ระบบย่อยอาหารของสัตว์
ระบบย่อยอาหารของสัตว์ระบบย่อยอาหารของสัตว์
ระบบย่อยอาหารของสัตว์
 
Kingdom Animalia
Kingdom AnimaliaKingdom Animalia
Kingdom Animalia
 
วิวัฒนาการ
วิวัฒนาการวิวัฒนาการ
วิวัฒนาการ
 
การรับรู้และการตอบสนอง
การรับรู้และการตอบสนองการรับรู้และการตอบสนอง
การรับรู้และการตอบสนอง
 
ฮอร์โมนพืช ( Plant hormones )
ฮอร์โมนพืช ( Plant hormones )ฮอร์โมนพืช ( Plant hormones )
ฮอร์โมนพืช ( Plant hormones )
 
บทที่ 3 ระบบประสาทและอวัยวะรับความรู้สึก
บทที่ 3 ระบบประสาทและอวัยวะรับความรู้สึกบทที่ 3 ระบบประสาทและอวัยวะรับความรู้สึก
บทที่ 3 ระบบประสาทและอวัยวะรับความรู้สึก
 
อวัยวะรับความรู้สึก
อวัยวะรับความรู้สึกอวัยวะรับความรู้สึก
อวัยวะรับความรู้สึก
 
ระบบย่อยอาหาร (Digestive System)
ระบบย่อยอาหาร (Digestive System)ระบบย่อยอาหาร (Digestive System)
ระบบย่อยอาหาร (Digestive System)
 
ระบบขับถ่าย (T) 1 2560
ระบบขับถ่าย (T) 1 2560ระบบขับถ่าย (T) 1 2560
ระบบขับถ่าย (T) 1 2560
 
บทที่ 3 ระบบร่างกาย ม.2
บทที่ 3 ระบบร่างกาย ม.2บทที่ 3 ระบบร่างกาย ม.2
บทที่ 3 ระบบร่างกาย ม.2
 
Endocrine system
Endocrine systemEndocrine system
Endocrine system
 
Lec การแบ่งเซลล์
Lec การแบ่งเซลล์Lec การแบ่งเซลล์
Lec การแบ่งเซลล์
 
Ppt ระบบประสาท (nervous system) ชีววิทยา ม.5
Ppt ระบบประสาท (nervous system) ชีววิทยา ม.5Ppt ระบบประสาท (nervous system) ชีววิทยา ม.5
Ppt ระบบประสาท (nervous system) ชีววิทยา ม.5
 
บรรยากาศ
บรรยากาศบรรยากาศ
บรรยากาศ
 

Viewers also liked

บทที่ 9 ระบบต่อมไร้ท่อ
บทที่ 9 ระบบต่อมไร้ท่อบทที่ 9 ระบบต่อมไร้ท่อ
บทที่ 9 ระบบต่อมไร้ท่อ
waratree wanapanubese
 
เรื่อง ระบบต่อมไร้ท่อ hormone
เรื่อง ระบบต่อมไร้ท่อ hormoneเรื่อง ระบบต่อมไร้ท่อ hormone
เรื่อง ระบบต่อมไร้ท่อ hormonekasidid20309
 
Hormone
HormoneHormone
ต่อมไร้ท่อ
ต่อมไร้ท่อ ต่อมไร้ท่อ
ต่อมไร้ท่อ
Thitaree Samphao
 
ต่อมไร้ท่อ
ต่อมไร้ท่อต่อมไร้ท่อ
ต่อมไร้ท่อWan Ngamwongwan
 
เฉลยแบบฝึกหัดเรื่องฮอร์โมน
เฉลยแบบฝึกหัดเรื่องฮอร์โมนเฉลยแบบฝึกหัดเรื่องฮอร์โมน
เฉลยแบบฝึกหัดเรื่องฮอร์โมนWan Ngamwongwan
 

Viewers also liked (10)

บทที่ 9 ระบบต่อมไร้ท่อ
บทที่ 9 ระบบต่อมไร้ท่อบทที่ 9 ระบบต่อมไร้ท่อ
บทที่ 9 ระบบต่อมไร้ท่อ
 
ระบบต่อมไร้ท่อ
ระบบต่อมไร้ท่อระบบต่อมไร้ท่อ
ระบบต่อมไร้ท่อ
 
Doc8
Doc8Doc8
Doc8
 
Hormone blank
Hormone blankHormone blank
Hormone blank
 
เรื่อง ระบบต่อมไร้ท่อ hormone
เรื่อง ระบบต่อมไร้ท่อ hormoneเรื่อง ระบบต่อมไร้ท่อ hormone
เรื่อง ระบบต่อมไร้ท่อ hormone
 
Hormone
HormoneHormone
Hormone
 
บทที่ 9
บทที่ 9บทที่ 9
บทที่ 9
 
ต่อมไร้ท่อ
ต่อมไร้ท่อ ต่อมไร้ท่อ
ต่อมไร้ท่อ
 
ต่อมไร้ท่อ
ต่อมไร้ท่อต่อมไร้ท่อ
ต่อมไร้ท่อ
 
เฉลยแบบฝึกหัดเรื่องฮอร์โมน
เฉลยแบบฝึกหัดเรื่องฮอร์โมนเฉลยแบบฝึกหัดเรื่องฮอร์โมน
เฉลยแบบฝึกหัดเรื่องฮอร์โมน
 

Similar to บทที่ 9 ระบบต่อมไร้ท่อ

ต่อมไร้ท่อ54
ต่อมไร้ท่อ54ต่อมไร้ท่อ54
ต่อมไร้ท่อ54Oui Nuchanart
 
Biology Computer Project
Biology Computer ProjectBiology Computer Project
Biology Computer Project
Bee Attarit
 
ต่อมไร้ท่อ
ต่อมไร้ท่อต่อมไร้ท่อ
ต่อมไร้ท่อWichai Likitponrak
 
9789740330530
97897403305309789740330530
9789740330530CUPress
 
ชีทสรุประบบสืบพันธุ์และการเจริญ 2011
ชีทสรุประบบสืบพันธุ์และการเจริญ 2011ชีทสรุประบบสืบพันธุ์และการเจริญ 2011
ชีทสรุประบบสืบพันธุ์และการเจริญ 2011Namthip Theangtrong
 
6.ดุลกับฮอร์โมน
6.ดุลกับฮอร์โมน6.ดุลกับฮอร์โมน
6.ดุลกับฮอร์โมน
Wichai Likitponrak
 
เนื้อหาเล่ม 2
เนื้อหาเล่ม 2เนื้อหาเล่ม 2
เนื้อหาเล่ม 2
Aon Narinchoti
 
ระบบสืบพันธุ์
ระบบสืบพันธุ์ระบบสืบพันธุ์
ระบบสืบพันธุ์
Lilrat Witsawachatkun
 
ติวสอบเตรียมประสาทฮอร์โมนพฤติ
ติวสอบเตรียมประสาทฮอร์โมนพฤติติวสอบเตรียมประสาทฮอร์โมนพฤติ
ติวสอบเตรียมประสาทฮอร์โมนพฤติ
Wichai Likitponrak
 
ติวสอบเตรียมสืบพันธุ์และเจริญสัตว์
ติวสอบเตรียมสืบพันธุ์และเจริญสัตว์ติวสอบเตรียมสืบพันธุ์และเจริญสัตว์
ติวสอบเตรียมสืบพันธุ์และเจริญสัตว์
Wichai Likitponrak
 
ระบบสืบพันธุ์
ระบบสืบพันธุ์ระบบสืบพันธุ์
ระบบสืบพันธุ์
ssuser48f3f3
 
พื้นฐานทางสรีรวิทยาของพฤติกรรม Present2
พื้นฐานทางสรีรวิทยาของพฤติกรรม Present2พื้นฐานทางสรีรวิทยาของพฤติกรรม Present2
พื้นฐานทางสรีรวิทยาของพฤติกรรม Present2Kobchai Khamboonruang
 
ระบบต่อมไร้ท่อกับการเจริญเติบโตและภาวะสุขภาพของวัยรุ่น
ระบบต่อมไร้ท่อกับการเจริญเติบโตและภาวะสุขภาพของวัยรุ่นระบบต่อมไร้ท่อกับการเจริญเติบโตและภาวะสุขภาพของวัยรุ่น
ระบบต่อมไร้ท่อกับการเจริญเติบโตและภาวะสุขภาพของวัยรุ่น
พัน พัน
 
เรื่องต่อม
เรื่องต่อมเรื่องต่อม
เรื่องต่อม
Computer ITSWKJ
 
1.3 endocrine system
1.3 endocrine system1.3 endocrine system
1.3 endocrine system
Piro Jnn
 
Biopsychology final unit 9-16
Biopsychology final unit 9-16Biopsychology final unit 9-16
Biopsychology final unit 9-16
Kanyaphat Sarunratchatanon
 
2 hormone p_lan
2 hormone p_lan2 hormone p_lan
2 hormone p_lan
Wichai Likitponrak
 

Similar to บทที่ 9 ระบบต่อมไร้ท่อ (20)

Endocrine system
Endocrine systemEndocrine system
Endocrine system
 
ต่อมไร้ท่อ54
ต่อมไร้ท่อ54ต่อมไร้ท่อ54
ต่อมไร้ท่อ54
 
Biology Computer Project
Biology Computer ProjectBiology Computer Project
Biology Computer Project
 
ต่อมไร้ท่อ
ต่อมไร้ท่อต่อมไร้ท่อ
ต่อมไร้ท่อ
 
9789740330530
97897403305309789740330530
9789740330530
 
ฮอร์โมน
ฮอร์โมนฮอร์โมน
ฮอร์โมน
 
ชีทสรุประบบสืบพันธุ์และการเจริญ 2011
ชีทสรุประบบสืบพันธุ์และการเจริญ 2011ชีทสรุประบบสืบพันธุ์และการเจริญ 2011
ชีทสรุประบบสืบพันธุ์และการเจริญ 2011
 
6.ดุลกับฮอร์โมน
6.ดุลกับฮอร์โมน6.ดุลกับฮอร์โมน
6.ดุลกับฮอร์โมน
 
เนื้อหาเล่ม 2
เนื้อหาเล่ม 2เนื้อหาเล่ม 2
เนื้อหาเล่ม 2
 
ระบบสืบพันธุ์
ระบบสืบพันธุ์ระบบสืบพันธุ์
ระบบสืบพันธุ์
 
ติวสอบเตรียมประสาทฮอร์โมนพฤติ
ติวสอบเตรียมประสาทฮอร์โมนพฤติติวสอบเตรียมประสาทฮอร์โมนพฤติ
ติวสอบเตรียมประสาทฮอร์โมนพฤติ
 
ติวสอบเตรียมสืบพันธุ์และเจริญสัตว์
ติวสอบเตรียมสืบพันธุ์และเจริญสัตว์ติวสอบเตรียมสืบพันธุ์และเจริญสัตว์
ติวสอบเตรียมสืบพันธุ์และเจริญสัตว์
 
ระบบสืบพันธุ์
ระบบสืบพันธุ์ระบบสืบพันธุ์
ระบบสืบพันธุ์
 
พื้นฐานทางสรีรวิทยาของพฤติกรรม Present2
พื้นฐานทางสรีรวิทยาของพฤติกรรม Present2พื้นฐานทางสรีรวิทยาของพฤติกรรม Present2
พื้นฐานทางสรีรวิทยาของพฤติกรรม Present2
 
ระบบต่อมไร้ท่อกับการเจริญเติบโตและภาวะสุขภาพของวัยรุ่น
ระบบต่อมไร้ท่อกับการเจริญเติบโตและภาวะสุขภาพของวัยรุ่นระบบต่อมไร้ท่อกับการเจริญเติบโตและภาวะสุขภาพของวัยรุ่น
ระบบต่อมไร้ท่อกับการเจริญเติบโตและภาวะสุขภาพของวัยรุ่น
 
เรื่องต่อม
เรื่องต่อมเรื่องต่อม
เรื่องต่อม
 
รักษาดุลม.5
รักษาดุลม.5รักษาดุลม.5
รักษาดุลม.5
 
1.3 endocrine system
1.3 endocrine system1.3 endocrine system
1.3 endocrine system
 
Biopsychology final unit 9-16
Biopsychology final unit 9-16Biopsychology final unit 9-16
Biopsychology final unit 9-16
 
2 hormone p_lan
2 hormone p_lan2 hormone p_lan
2 hormone p_lan
 

More from ฟลุ๊ค ลำพูน

บทที่ 23 มนุษย์กับความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม
บทที่ 23 มนุษย์กับความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อมบทที่ 23 มนุษย์กับความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม
บทที่ 23 มนุษย์กับความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อมฟลุ๊ค ลำพูน
 
บทที่ 23 มนุษย์กับความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม
บทที่ 23 มนุษย์กับความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อมบทที่ 23 มนุษย์กับความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม
บทที่ 23 มนุษย์กับความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อมฟลุ๊ค ลำพูน
 
บทที่20 ความหลากหลายทางชีวภาพ
บทที่20 ความหลากหลายทางชีวภาพบทที่20 ความหลากหลายทางชีวภาพ
บทที่20 ความหลากหลายทางชีวภาพฟลุ๊ค ลำพูน
 
บทที่ 19 วิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต
บทที่ 19 วิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตบทที่ 19 วิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต
บทที่ 19 วิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตฟลุ๊ค ลำพูน
 
บทที่ 18 พันธุศาสตร์และเทคโนโลยีชีวภาพ
บทที่ 18 พันธุศาสตร์และเทคโนโลยีชีวภาพบทที่ 18 พันธุศาสตร์และเทคโนโลยีชีวภาพ
บทที่ 18 พันธุศาสตร์และเทคโนโลยีชีวภาพฟลุ๊ค ลำพูน
 
บทที่ 17 ยีนและโครโมโซม
บทที่ 17 ยีนและโครโมโซมบทที่ 17 ยีนและโครโมโซม
บทที่ 17 ยีนและโครโมโซมฟลุ๊ค ลำพูน
 
บทที่ 16 การถ่ายทอดทางพันธุกรรม
บทที่ 16 การถ่ายทอดทางพันธุกรรมบทที่ 16 การถ่ายทอดทางพันธุกรรม
บทที่ 16 การถ่ายทอดทางพันธุกรรมฟลุ๊ค ลำพูน
 
บทที่ 15 การตอบสนองของพืช
บทที่ 15 การตอบสนองของพืชบทที่ 15 การตอบสนองของพืช
บทที่ 15 การตอบสนองของพืชฟลุ๊ค ลำพูน
 
บทที่ 14 การสืบพันธ์ของพืชดอก
บทที่ 14  การสืบพันธ์ของพืชดอกบทที่ 14  การสืบพันธ์ของพืชดอก
บทที่ 14 การสืบพันธ์ของพืชดอกฟลุ๊ค ลำพูน
 
บทที่ 13 การสังเคราะห์ด้วยแสง
บทที่ 13 การสังเคราะห์ด้วยแสงบทที่ 13 การสังเคราะห์ด้วยแสง
บทที่ 13 การสังเคราะห์ด้วยแสงฟลุ๊ค ลำพูน
 
บทที่ 12 โครงสร้างหน้าที่ของพืชดอก
บทที่ 12 โครงสร้างหน้าที่ของพืชดอกบทที่ 12 โครงสร้างหน้าที่ของพืชดอก
บทที่ 12 โครงสร้างหน้าที่ของพืชดอกฟลุ๊ค ลำพูน
 

More from ฟลุ๊ค ลำพูน (20)

Biology
BiologyBiology
Biology
 
ช วะ ม
ช วะ มช วะ ม
ช วะ ม
 
ช วะ ม
ช วะ มช วะ ม
ช วะ ม
 
ช วะ ม
ช วะ มช วะ ม
ช วะ ม
 
4
44
4
 
บทที่ 3
บทที่ 3บทที่ 3
บทที่ 3
 
แบบทดสอบ บทที่ 1
แบบทดสอบ บทที่ 1แบบทดสอบ บทที่ 1
แบบทดสอบ บทที่ 1
 
บทที่ 23 มนุษย์กับความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม
บทที่ 23 มนุษย์กับความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อมบทที่ 23 มนุษย์กับความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม
บทที่ 23 มนุษย์กับความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม
 
บทที่ 23 มนุษย์กับความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม
บทที่ 23 มนุษย์กับความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อมบทที่ 23 มนุษย์กับความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม
บทที่ 23 มนุษย์กับความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม
 
บทที่ 22 ประชากร
บทที่ 22 ประชากรบทที่ 22 ประชากร
บทที่ 22 ประชากร
 
บทที่ 21 ระบบนิเวศ
บทที่ 21 ระบบนิเวศบทที่ 21 ระบบนิเวศ
บทที่ 21 ระบบนิเวศ
 
บทที่20 ความหลากหลายทางชีวภาพ
บทที่20 ความหลากหลายทางชีวภาพบทที่20 ความหลากหลายทางชีวภาพ
บทที่20 ความหลากหลายทางชีวภาพ
 
บทที่ 19 วิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต
บทที่ 19 วิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตบทที่ 19 วิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต
บทที่ 19 วิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต
 
บทที่ 18 พันธุศาสตร์และเทคโนโลยีชีวภาพ
บทที่ 18 พันธุศาสตร์และเทคโนโลยีชีวภาพบทที่ 18 พันธุศาสตร์และเทคโนโลยีชีวภาพ
บทที่ 18 พันธุศาสตร์และเทคโนโลยีชีวภาพ
 
บทที่ 17 ยีนและโครโมโซม
บทที่ 17 ยีนและโครโมโซมบทที่ 17 ยีนและโครโมโซม
บทที่ 17 ยีนและโครโมโซม
 
บทที่ 16 การถ่ายทอดทางพันธุกรรม
บทที่ 16 การถ่ายทอดทางพันธุกรรมบทที่ 16 การถ่ายทอดทางพันธุกรรม
บทที่ 16 การถ่ายทอดทางพันธุกรรม
 
บทที่ 15 การตอบสนองของพืช
บทที่ 15 การตอบสนองของพืชบทที่ 15 การตอบสนองของพืช
บทที่ 15 การตอบสนองของพืช
 
บทที่ 14 การสืบพันธ์ของพืชดอก
บทที่ 14  การสืบพันธ์ของพืชดอกบทที่ 14  การสืบพันธ์ของพืชดอก
บทที่ 14 การสืบพันธ์ของพืชดอก
 
บทที่ 13 การสังเคราะห์ด้วยแสง
บทที่ 13 การสังเคราะห์ด้วยแสงบทที่ 13 การสังเคราะห์ด้วยแสง
บทที่ 13 การสังเคราะห์ด้วยแสง
 
บทที่ 12 โครงสร้างหน้าที่ของพืชดอก
บทที่ 12 โครงสร้างหน้าที่ของพืชดอกบทที่ 12 โครงสร้างหน้าที่ของพืชดอก
บทที่ 12 โครงสร้างหน้าที่ของพืชดอก
 

Recently uploaded

ภาษาอังกฤษเพื่อการปฏิบัติกรรมฐานในพระพุทธศาสนา
ภาษาอังกฤษเพื่อการปฏิบัติกรรมฐานในพระพุทธศาสนาภาษาอังกฤษเพื่อการปฏิบัติกรรมฐานในพระพุทธศาสนา
ภาษาอังกฤษเพื่อการปฏิบัติกรรมฐานในพระพุทธศาสนา
Faculty of BuddhismMahachulalongkornrajavidyalaya Roi Et Buddhist College
 
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
สุเมธี​​​​ ตี่พนมโอรัล / សុមេធី ទីភ្នំឱរ៉ាល់ (Sumedhi TyPhnomAoral)
 
การเขียนข้อเสนอโครงการวิจัย (Research Proposal)
การเขียนข้อเสนอโครงการวิจัย (Research Proposal)การเขียนข้อเสนอโครงการวิจัย (Research Proposal)
การเขียนข้อเสนอโครงการวิจัย (Research Proposal)
Prachyanun Nilsook
 
แนวความเชื่อ วิธีการปฎิบัติ พระพุทธศาสนามหายาน.pdf
แนวความเชื่อ วิธีการปฎิบัติ พระพุทธศาสนามหายาน.pdfแนวความเชื่อ วิธีการปฎิบัติ พระพุทธศาสนามหายาน.pdf
แนวความเชื่อ วิธีการปฎิบัติ พระพุทธศาสนามหายาน.pdf
Faculty of BuddhismMahachulalongkornrajavidyalaya Roi Et Buddhist College
 
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค 1-2 (2510-2567).pdf
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค 1-2 (2510-2567).pdf1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค 1-2 (2510-2567).pdf
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค 1-2 (2510-2567).pdf
สุเมธี​​​​ ตี่พนมโอรัล / សុមេធី ទីភ្នំឱរ៉ាល់ (Sumedhi TyPhnomAoral)
 
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา บาลีไวยากรณ์ ประโยค 1-2 (2511-2567).pdf
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา บาลีไวยากรณ์ ประโยค 1-2 (2511-2567).pdf1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา บาลีไวยากรณ์ ประโยค 1-2 (2511-2567).pdf
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา บาลีไวยากรณ์ ประโยค 1-2 (2511-2567).pdf
สุเมธี​​​​ ตี่พนมโอรัล / សុមេធី ទីភ្នំឱរ៉ាល់ (Sumedhi TyPhnomAoral)
 
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา สัมพันธ์ไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา สัมพันธ์ไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา สัมพันธ์ไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา สัมพันธ์ไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
สุเมธี​​​​ ตี่พนมโอรัล / សុមេធី ទីភ្នំឱរ៉ាល់ (Sumedhi TyPhnomAoral)
 
รายงานโครงงานการออกแบบลายเสื่อโดยใช้รูปเรขาคณิต ระดับประเทศ.pdf
รายงานโครงงานการออกแบบลายเสื่อโดยใช้รูปเรขาคณิต ระดับประเทศ.pdfรายงานโครงงานการออกแบบลายเสื่อโดยใช้รูปเรขาคณิต ระดับประเทศ.pdf
รายงานโครงงานการออกแบบลายเสื่อโดยใช้รูปเรขาคณิต ระดับประเทศ.pdf
NitayataNuansri
 
4_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลไทยเป็นมคธ ประโยค ป.ธ.4 (2505-2567).pdf
4_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลไทยเป็นมคธ ประโยค ป.ธ.4 (2505-2567).pdf4_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลไทยเป็นมคธ ประโยค ป.ธ.4 (2505-2567).pdf
4_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลไทยเป็นมคธ ประโยค ป.ธ.4 (2505-2567).pdf
สุเมธี​​​​ ตี่พนมโอรัล / សុមេធី ទីភ្នំឱរ៉ាល់ (Sumedhi TyPhnomAoral)
 

Recently uploaded (9)

ภาษาอังกฤษเพื่อการปฏิบัติกรรมฐานในพระพุทธศาสนา
ภาษาอังกฤษเพื่อการปฏิบัติกรรมฐานในพระพุทธศาสนาภาษาอังกฤษเพื่อการปฏิบัติกรรมฐานในพระพุทธศาสนา
ภาษาอังกฤษเพื่อการปฏิบัติกรรมฐานในพระพุทธศาสนา
 
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
 
การเขียนข้อเสนอโครงการวิจัย (Research Proposal)
การเขียนข้อเสนอโครงการวิจัย (Research Proposal)การเขียนข้อเสนอโครงการวิจัย (Research Proposal)
การเขียนข้อเสนอโครงการวิจัย (Research Proposal)
 
แนวความเชื่อ วิธีการปฎิบัติ พระพุทธศาสนามหายาน.pdf
แนวความเชื่อ วิธีการปฎิบัติ พระพุทธศาสนามหายาน.pdfแนวความเชื่อ วิธีการปฎิบัติ พระพุทธศาสนามหายาน.pdf
แนวความเชื่อ วิธีการปฎิบัติ พระพุทธศาสนามหายาน.pdf
 
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค 1-2 (2510-2567).pdf
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค 1-2 (2510-2567).pdf1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค 1-2 (2510-2567).pdf
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค 1-2 (2510-2567).pdf
 
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา บาลีไวยากรณ์ ประโยค 1-2 (2511-2567).pdf
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา บาลีไวยากรณ์ ประโยค 1-2 (2511-2567).pdf1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา บาลีไวยากรณ์ ประโยค 1-2 (2511-2567).pdf
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา บาลีไวยากรณ์ ประโยค 1-2 (2511-2567).pdf
 
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา สัมพันธ์ไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา สัมพันธ์ไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา สัมพันธ์ไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา สัมพันธ์ไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
 
รายงานโครงงานการออกแบบลายเสื่อโดยใช้รูปเรขาคณิต ระดับประเทศ.pdf
รายงานโครงงานการออกแบบลายเสื่อโดยใช้รูปเรขาคณิต ระดับประเทศ.pdfรายงานโครงงานการออกแบบลายเสื่อโดยใช้รูปเรขาคณิต ระดับประเทศ.pdf
รายงานโครงงานการออกแบบลายเสื่อโดยใช้รูปเรขาคณิต ระดับประเทศ.pdf
 
4_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลไทยเป็นมคธ ประโยค ป.ธ.4 (2505-2567).pdf
4_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลไทยเป็นมคธ ประโยค ป.ธ.4 (2505-2567).pdf4_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลไทยเป็นมคธ ประโยค ป.ธ.4 (2505-2567).pdf
4_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลไทยเป็นมคธ ประโยค ป.ธ.4 (2505-2567).pdf
 

บทที่ 9 ระบบต่อมไร้ท่อ

  • 3. ระบบต่ อมไร้ ท่อ (ENDOCRINE SYSTEM) ต่ อมไร้ ท่อ (endocrine gland) ต่ อมที่ หลั่งสารและไปมีผลต่ อเซลล์ เปาหมาย ้ โดยผ่ าน extracellular fluid เช่ นกระแส เลือด โดยมี 9 ชนิดในคน ต่ อมมีท่อ(exocrine gland) ต่ อมที่หลั่ง สารและไปมีผลต่ อเซลล์ เปาหมายโดย ้ ผ่ านท่ อ 3
  • 4. ฮอร์ โมน หมายถึงสารเคมีท่ สร้ างมาจาก ี เซลล์ ของต่ อมไร้ ท่อ(endocrine cell) และ ไปมีผลควบคุมการทํางานของเซลล์ เปาหมายที่อยู่ห่างออกไป โดยขนส่ งไป ้ ตามกระเสเลือด การทํางานของร่ างกายที่ควบคุม โดยฮอร์ โมนหรื อสารเคมี เรี ยก chemical control และเรี ยกกลุ่ม สารเคมีดังกล่ าวว่ า chemical messenger หรื อ molecular messenger 4
  • 6. หน้ าทีของฮอร์ โมนแบ่ งออกได้ เป็ น 3 กลุ่มใหญ่ ่ 1. ควบคุมการเจริญเติบโต (growth) 2. ควบคุมและรักษาสภาพแวดล ้อมภายใน ร่างกายให ้เป็ นปกติ 3. ควบคุมการทํางานของร่างกายอย่างอัตโนมัต ิ 6
  • 7. Chemical messengerหรื อmolecular messenger แบ่ งเป็ น 5 ชนิดดังนี ้ 1. Paracrine (local regulator) 2. Neurotransmitter 3. Neurohormone 4. Hormone 5. Pheromone 7
  • 8. ฮอร์ โมนแบ่ งตามโครงสร้ างทางเคมีได้ เป็ น 4 ชนิด คือ 1. ฮอร์ โมนเปปไทด์ หรื อโปรตีน (Polypeptide hormone) 2. ฮอร์ โมนสเตียรอยด์ (Steroid hormone) 3. ฮอร์ โมนเอมีน (Amine hormone) 4.ฮอร์ โมนกรดไขมัน (Fatty acid hormone) 8
  • 9. กลไกการออกฤทธิ์ของchemical messenger และฮอร์ โมน -ออกฤทธิ์ ได้ โดยการจับกับตัวรั บสัญญาณ(receptor) สารเคมีตัวเดียวกันสามารถมีผลต่ อ เซลล์ ชนิดต่ างๆ ได้ ต่างกันโดยขึนกับ ้ 1.ตัวรั บต่ างกัน (a กับb&c) 2.ตัวถ่ ายทอดสัญญาณในเซลล์ ต่ างกัน (bกับc) 9
  • 10. การออกฤทธิ์ของฮอร์ โมน แบ่ งตามโครงสร้ างได้ เป็ น 2 แบบ 1.พวกที่ มีตัวรั บอยู่ท่ ผนังเซลล์ (cell membrane receptor)ได้ แก่ ฮอร์ โมนที่มีขนาดใหญ่ ี ผ่ านเข้ าเซลล์ ไม่ ได้ ไม่ ละลายในไขมัน เช่ น ฮอร์ โมนโปรตีน 10
  • 11. 2.พวกที่ มีตัวรั บอยู่ภายในเซลล์ ได้ แก่ ฮอร์ โมนที่มีขนาดเล็กและละลายในไขมันได้ เช่ น ฮอร์ โมนสเตียรอยด์ , ฮอร์ โมนไทรอยด์ , Vitamin D3, NO -ตัวรั บอาจอยู่ในไซโตพลาสม หรื อนิวเคลียส -ตัวรั บเมื่อจับกับฮอร์ โมน (hormone-receptor complex) จะทําหน้ าที่เป็ น transcription factor 11
  • 12. ฮอร์โมนจากต่อมไร ้ท่อทีสําคัญของร่างกาย ่ ั้ ต่อมไร ้ท่อมีการเปลียนแปลงมาจากเนือเยือทัง 3 ชน คือ ่ ้ ่ ้ 1. พวกที่เปลี่ยนแปลงมาจากเนือเยื่อชันกลาง ้ ้ * สร้างสารพวกสเตอรอยด์ - ต่อมหมวกไตส่วนนอก (adrenal cortex) - รังไข่ (ovary) - อัณฑะ (testis) 2. พวกที่เปลี่ยนแปลงมาจากเนือเยื่อชันนอก และเนือเยื่อชันใน ้ ้ ้ ้ * สร้างสารพวกเปปไทด์ โปรตีน - ต่อมไทรอยด์(thyroid gland) - ต่อมใต้ สมอง(hypophysis หรือ pituitary) - ต่อมหมวกไตส่วนใน(adrenal medulla) 12
  • 13. ความสํ าคัญของต่ อมไร้ ท่อต่ อร่ างกาย 1. พวกที่ร่างกายขาดไม่ ได้ (essential endocrine gland) - ต่อมไทรอยด์ (thyroid gland) - ต่อมพาราไทรอยด์(parathyriod gland) - ต่อมหมวกไตส่วนนอก (adrenal cortex) - ไอส์เลตออฟแลงเกอร์ ฮานส์ 2. พวกที่ร่างกายขาดได้ (non-essential endocrine gland) - ต่อมใต้ สมองส่วนหน้ า (pituitary) - ต่อมไพเนียล(pineal gland) - ต่อมหมวกไตส่วนใน (adrenal medulla) - รังไข่ (ovary) - อัณฑะ(testis) 13
  • 14. กลไกการควบคุมการหลั่งฮอร์ โมน การควบคุมการหลั่ง ฮอร์ โมน ส่ วนใหญ่ เป็ นกลไกการควบคุม ย้ อนกลับแบบ negative feedback 14
  • 15. การควบคุม homeostasis ของแคลเซียมโดย PTH และ Calcitonin การทํางานแบบตรงข้ ามกัน(antagonistic) ของฮอร์ โมน 2 ชนิด 15
  • 16. ระบบต่ อมไร้ ท่อในสัตว์ ไม่ มีกระดูกสันหลัง 1.Brain hormone(BH) หลังจาก ่ neurosecretory cells มาเก็บไว้ ที่ corpus cardiacum 2.BHกระตุ้ นprothoracic gl. ให้ หลังฮอร์ โมน ่ ecdysone 4.Juvenile hormone(JH) หลังจากcorpus ่ allatum ยับยังการเกิด metamorphosis ้ เมื่อ JH ลดลงแมลงสามารถพัฒนาไปสู่ ระยะต่อไปได้ 3.ecdysone กระตุ้น การลอกคราบ 16
  • 17. ระบบต่ อมไร้ ท่อในสัตว์ มีกระดูกสันหลัง(คน) -ในร่ างกายคนเรามีต่อมไร้ ท่อ ทังหมด 9 ต่ อม ้ -Tropic hormones: ฮอร์ โมนที่ไปมีบทบาท ควบคุมการหลั่งฮอร์ โมน ของต่ อมไร้ ท่ออื่น ๆ 17
  • 18. การทํางานร่ วมกันระหว่ างระบบประสาทและระบบต่ อมไร้ ท่อ (ไฮโปทาลามัสและต่ อมใต้ สมอง) -ไฮโปทาลามัสทําหน้ าที่เชื่อมโยง ระหว่ างระบบต่ อมไร้ ท่อและ ระบบประสาท -เซลล์ ประสาท(neurosecretory cell) จากไฮโปทาลามัสไปควบคุมการ หลั่งฮอร์ โมนจากต่ อมใต้ สมองส่ วน หน้ า ทังแบบกระตุ้น(releasing ้ homrone) และยับยัง(inhibiting ้ hormone) 18
  • 19. ฮอร์โมนจากต่อมใต้สมอง pituitary ต่อมใต ้สมองเป็ นต่อมไร ้ท่อ อยูบริเวณตรง ่ ่ กลางสมองแบ่งได ้ เป็ น 3 สวน คือ 1. 2. 3. ต่อมใต ้สมอง ่ สวนหน ้า (Anterior pituitary) ต่อมใต ้สมอง ่ สวนกลาง (intermidiate ) ต่อมใต ้สมอง ่ สวนหลัง (Posterior pituitary) 19
  • 20. ต่ อมใต้ สมองส่ วนหน้ า(anterior pituitary gland or adenohypophysis) -ควบคุมการหลั่งฮอร์ โมนโดยไฮโปทาลามัส โดยหลั่ง releasing/inhibiting ผ่ านทางเส้ นเลือด portal vessel 20
  • 21. ฮอร์ โมนโกรท (Growth hormone,GH) - ฮอร์ โมนโกรท (Growth hormone,GH) เป็ นสารพวกโปรตีน ควบคุมการเจริญเติบโต ของร่างกาย น้อยไป มากไป เด็ก dwarfism giantism ผูใหญ่ ้ acromegaly simmon’s disease 21
  • 22. giantism • เนื่องจากในวัยเด็กมีการสร้ าง GH มาก เกินไปจะมีผลกระตุ้นการเจริญเติบโต มากกว่าปกติ เรี ยกว่า สภาวะยักษ์ (giantism) 22
  • 23. 13 years old 21 years old 18 years old 18 years old High School Graduation Entering his car, front seat had to be removed 23 http://www.altonweb.com/history/wadlow/
  • 24. dwarfism • เนื่องจากในวัยเด็กมีการขาด ฮอร์ โมน GH น้ อยทําให้ เกิด อาการร่างกายมีขนาดเล็ก แคระ แกร็ น เนื่องจากการเจริญเติบโต ของกระดูกถูกยับยัง้ ระบบสืบ พันธ์ไม่เจริญ 24
  • 25. acromegaly • เนื่องจากในวัยผู้ใหญ่มีฮอร์ โมน GH มากเกินไปจะมีผลต่อ การกระตุ้นการเจริ ญของกระดูกในด้ านกว้ าง เนื่องจาก กระดูกทางด้ านยาวบิดไปแล้ ว ยาวอีกไม่ได้ และยับยัง้ เนื ้อเยื่อเกี่ยวพันด้ วย ทําให้ กระดูกที่คางขยายขนาดกว้ าง ขึ ้นฟั นห่างใบหน้ าเป็ นรูปสี่เหลี่ยมคางหมู นิ ้วมือ นิ ้วเท้ ามี ขนาดใหญ่ขึ ้น ผิวหนังหนาและหยาบ 25
  • 26. simmon’s disease • เนื่องจากในผู้ใหญ่ที่มีฮอร์ โมนโกรธ น้ อยมักไม่แสดงลักษณะอาการให้ เห็นแต่พบว่านํ ้าตาลในเลือดตํ่าจึง ทนต่อความเครี ยดทางอารมณ์ได้ น้ อยกว่าคนปกติ และมักจะเป็ นลม หน้ ามืดง่าย อาจเป็ นโรคผอมแห้ ง 26
  • 27. ฮอร์ โมนโกนาโดโทรฟิ น (gonadotrophin หรือ gonadotrophic hormone,Gn ) 1. ฮอร์ โมนกระตุ้นฟอลลิเคิล หรื อ ฟอลลิเคิลสติมิวเลติงฮอร์ โมน(follicle stimulating hormone,FSH) เป็ นฮอร์ โมนพวกโปรตีนที่รวมอยูกบคาร์ โบไฮเดรต(glycoprotein) ทําหน้ าที่ ่ ั - กระต้ นฟอลลิเคิลของรังไข่ให้ เจริญเติบโต ่ - ออกฤทธิ์ร่วมกับฮอร์ โมนลูทิไนท์(LH)ในการกระต้ นให้ มีการสร้ างและหลังฮอร์ โมนอีสโทร เจน - FSH ในเพศชายจะกระตุ้นเนื ้อเยื่อสืบพันธุ์(germinal epithelium) ภายในหลอด สร้ างอสุจิในอัณฑะ ให้ สร้ างอสุจิ(spermatogenesis) 27
  • 28. - ฮอร์ โมน LH กระตุ้นกลุมเซลล์ ่ อินเตอร์ สติเชียลให้ หลัง ่ - ฮอร์ โมนเทสโทสเตอโรน (testosterone) 28
  • 29. ฮอร์ โมนโพรแลกติน (prolactin) หรือ (lactogenic hormone) • เป็ นฮอร์ โมนประเภทโปรตีน กระตุ้นการเจริ ญ ของท่อของการผลิตนํ ้านมกระตุ้นการสร้ าง และผลิตนํ ้านม • ในขณะตังครรภ์และตอนคลอดจะมีโพรแลก ้ ตินสูง • โพรแลกตินในเพศชายไม่ทราบหน้ าที่แน่ชด ั แต่มีผ้ รายงานว่าโพรแลกตินจะทําหน้ าที่ ู ร่วมกับฮอร์ โมนเพศชายในการกระตุ้นอวัยวะที่ เกี่ยวข้ องกับการสืบพันธุ์ เช่น ต่อมลูกหมาก ท่อนําอสุจิ และต่อมสร้ างนํ ้าเลี ้ยงอสุจิ 29
  • 30. • เป็ นฮอร์ โมนประเภทโปรตีน กระตุ้นการเจริ ญของท่อของการผลิต นํ ้านมกระตุ้นการสร้ างและผลิตนํ ้านม • ในขณะตังครรภ์และตอนคลอดจะมีโพรแลกตินสูง ้ • โพรแลกตินในเพศชายไม่ทราบหน้ าที่แน่ชด แต่มีผ้ รายงานว่าโพรแลก ั ู ตินจะทําหน้ าที่ร่วมกับฮอร์ โมนเพศชายในการกระตุ้นอวัยวะที่ เกี่ยวข้ องกับการสืบพันธุ์ เช่น ต่อมลูกหมาก ท่อนําอสุจิ และต่อมสร้ าง นํ ้าเลี ้ยงอสุจิ 30
  • 31. ฮอร์ โมนอะดรี โนคอร์ ตโคโทรฟิ น ิ (adrenocorticotrophin hormone) หรื อ ACTH ทําหน้ าที่กระตุ้นอะดรี นลคอร์ เทก ของต่อมหมวกไตให้ สร้ างฮอร์ โมนตามปกติ ั 31
  • 32. ACTH • • • • • กระตุ้นการเติบโตและการสร้ างฮอร์ โมนของต่อมหมวกไตส่วนนอก กระต้ นการปลดปล่อยกรดไขมันออกจากเนื ้อเยื่อ กระตุ้นการหลังอินซูลนจากตับอ่อน ่ ิ กระตุ้นการหลัง GH จากต่อมใต้ สมองส่วนหน้ า ่ ACTH ยังมีลกษณะบางอย่างเหมือนฮอร์ โมนจากต่อมใต้ สมอง ั ส่วนกลาง(MSH)จึงกระตุ้นเมลานินภายในสัตว์เลือดเย็น เช่น กบ ทําให้ มี สีเข้ มขึ ้น 32
  • 33. ฮอร์ โมนกระตุ้นไทรอยด์ (thyroid stimulating hormone) หรื อ TSH ทําหน้ าที่กระตุ้นต่อมไทรอยด์ให้ หลังฮอร์ โมนตาม ่ ปกติ ฮอร์ โมนจากต่อมใต้ สมองส่วนหน้ าจะควบคุมโดยฮอร์ โมน ประสาทที่สร้ างมาจากไฮโพทาลามัส 33
  • 35. • ฮอร์ โมนกระตุ้นการหลัง GH (GH releasing hormone,GHRH) ่ • ฮอร์ โมนยับยังการหลัง GH (GH inhibiting hormone,GHIH) ้ ่ • ฮอร์ โมนกระตุ้นการหลังโพรแลกติน(prolactin releasing ่ hormone,PRH) • ฮอร์ โมนกระตุ้นการหลังของต่อมไทรอยด์ (thyroid releasing ่ hormone,TRH)กระตุ้นการหลัง TSH ่ • ฮอร์ โมนกระตุ้นการหลัง Gn (gonadotrophin releasing ่ hormone,GnRH)กระตุ้นการหลัง FSH ่ และ LH 35
  • 36. ต่ อมใต้ สมองส่ วนกลาง ทําหน้ าที่ผลิตฮอร์ โมน ดังนี ้ - ฮอร์ โมนเมลาโนไซต์ (Melanocyte stimulating hormone) หรื อ MSH ทําหน้ าที่ทําให้ รงควัตถุภายในเซลล์ ผิวหนังกระจายไปทัว เซลล์ ่ 36
  • 37. ต่ อมใต้ สมองส่ วนหลัง(Posterior pituitary gland or neurohypophysis) -ฮอร์ โมนที่หลั่งจากต่ อมใต้ สมองส่ วนหลังสร้ างมาจาก เซลล์ ประสาทของไฮโปทา ลามัส -โดยเซลล์ ประสาทจะยื่น ส่ วน axon เข้ ามาในต่ อม ใต้ สมองส่ วนหลัง 37
  • 38. • ต่อมใต้สมองส่ วนหลัง หรื อนิวโรไฮโพไฟซีส ไม่ได้สร้างฮอร์โมนเอง แต่ฮอร์โมนถูกสร้างมา จาก นิวโรซีครี ทอรี Portal เซลล์ของไฮโพทาลามัส venules โดยกลุ่มเซลล์เหล่านี้จะ มีแอกซอนมาสิ้ นสุ ดอยู่ ภายในต่อมใต้สมอง ส่ วนหลัง และเข้าสู่ Secondary capillaries กระแสเลือด Axons to primary capillaries Primary capillaries Pituitary stalk Posterior pituitary Anterior pituitary 38
  • 39. วาโซเพรสซิน(Vasopressin) หรื อ ฮอร์ โมนแอนติได - ยูเรติก ADH มีหน้ าที่ดดนํ ้า ู กลับของหลอดไต และ กระตุ้นให้ หลอด เลือดบีบตัว ถ้ าขาดฮอร์ โมนนี ้จะเกิดการ เบาจืดทําให้ ปัสสาวะ บ่อย 39
  • 40. ADH • มีผลให้มีการดูดนํ้ากลับที่ท่อหน่วยไต • ฮอร์โมนนี้จะมีการหลังออกมาเมื่อ กระหายนํ้า และขาดนํ้า ่ ความเครี ยดสูง ความดันเลือดสู ง • ยาที่มีผลต่อการกระตุนประสาทส่ วนกลาง ฝิ่ น เฮโรอีนจะมีผลในการ ้ กระตุนการหลังฮอร์โมนด้วย ้ ่ • ถ้ามี ADH น้อยมากๆจะทําให้เกิดโรคเบาจืด(diabetes insipidus) มีปัสสาวะออกมามากถึงวันละ 20 ลิตรต่อวัน 40
  • 41. ออกซีโทซิน (Oxytocin) ทําหน้าที่กระตุนกล้ามเนื้อเรี ยบ ้ และ อวัยวะภายใน กระตุน ้ กล้ามเนื้อรอบ ๆ ต่อมนํ้านม ให้ขบนํ้านม ฮอร์โมนนี้จะ ั หลังออกมามากตอนคลอด ่ เพื่อช่วยให้กล้ามเนื้อ มดลูก บีบตัวขณะคลอด 41
  • 42. ตับอ่ อน (pancreas) -ตับอ่ อนประกอบด้ วยendocrine gland (islets of Langerhans) และ exocrine gland(หลั่งเอนไซม์ ) -Islet of Langerhans ประกอบด้ วย alpha cells(หลั่ง glucagon) และ beta cells (หลั่ ง insulin) 42
  • 43. -insulin และ glucagon จะทําหน้ าที่ตรงข้ ามกัน(antagonistic) :insulin ลดระดับนําตาลในเลือด โดยไปกระตุ้นให้ มีการนํากลูโคสเข้ าสู่เซลล์ ้ (ยกเว้ นเซลล์ สมอง), ลดการสลายไกลโคเจนที่ตับ, และลดการเปลี่ยนกรดอะมิ โนและกลีเซอรอลไปเป็ นนําตาล ้ :glucagon เพิ่มระดับนําตาลในเลือด โดยกระตุ้นเซลล์ ตับให้ สลายไกลโคเจนมา ้ เป็ นกลูโคส เปลี่ยนกรดอะมิโนและกลีเซอรอลมาเป็ นกลูโคส Diabetes mellitus (โรคเบาหวาน) สภาวะที่ระดับนําตาลในเลือดสูงกว่ าปกติ (คน ้ ปกติ = 90mg/100ml) อาจเกิดเนื่องจากร่ างกายขาด insulin หรื อเซลล์ เปาหมาย ้ ไม่ ตอบสนองต่ อinsulin 43
  • 44. ต่ อมหมวกไต (adrenal gland) -mineralocorticoid ควบคุม สมดุลของเกลือและนํ ้า เช่น aldosterone กระตุ้นให้ มี การดูดกลับของNa+และนํ ้าที่ ท่อไต -หลังเมื่อร่างกายอยู่ ่ ในสภาวะเครี ยด -กระตุ้ นการสลายไกลโค เจนได้ เป็ นกลูโคสจากตับ และกล้ ามเนื ้อและกระตุ้น การปล่อย fatty acidจาก เซลล์ไขมัน -กระตุ้ นcardiovascular และ respiratory system autonomic nervous system (sympathetic) -glucocorticoid กระตุ้น การสังเคราะห์กลูโคสจาก noncarbohydrate source เช่นจากโปรตีน -ต่ อมหมวกไตแบ่ งเป็ น 2 ส่ วนคือ adrenal cortex(ด้ านนอก)และadrenal medulla(ตรงกลาง) 44
  • 45. ฮอร์ โมนจากต่ อมหมวกไต ต่อมหมวกไต (adrenal gland) ประกอบด้ วยเนื ้อเยื่อ 2 ชนิดคือ 1. อะดรี นลคอร์ เทกซ์ (adrenal cortex) เป็ นเนื ้อเยื่อชันนอก ั ้ 2. อะดรี นลเมดุลลา (adrenal medulla) เป็ นเนื ้อเยื่อชันใน ั ้ อะดรี นลคอร์ เทกซ์ ั ผลิตฮอร์ โมนได้ มาก สามารถแบ่งออกเป็ น 2 กลุมใหญ่ คือ ่ 45
  • 46. อะดรีนัลคอร์ เทกซ์ (adrenal cortex) 1. ฮอร์ โมนกลูโคคอร์ ตคอยด์ (Glucocorticoid hormone) ิ ทําหน้ าที่ควบคุมเมตาโบลิซมของคาร์ โบไฮเดรต กระตุ้นการ ึ เปลี่ยนคาร์ โบไฮเดรตและไกลโคเจนเป็ นกลูโคส และยังควบ คุมสมดุลของเกลือแร่ 2. ฮอร์ โมนมิเนราโลคอทิคอยด์ (mineralocorticoid) ทําหน้ าที่ ควบคุมสมดุลของนํ ้าและเกลือแร่ในร่างกาย เช่น อัลโดสเตอโรน (aldosterone) ทําหน้ าที่ดดโซเดียมกลับท่อหน่วยไต ู 46
  • 47. อะดรีนัลเมดุลลา (adrenal medulla) อะดรี นัลเมดุลลา ผลิตฮอร์ โมนดังนี ้ 1. อะดรีนาลิน (adrenalin) ทําให้ นํ ้าตาลในเลือดเพิ่มขึ ้น และ กระตุ้นการเต้ นของหัวใจ 2. นอร์ อะดรีนาลิน (noradrenalin) ทําหน้ าที่หลังจากเส้ นประสาทซิมพาเทติก ทําให้ ความดันเลือดสูง ่ 47
  • 48. ต่ อมไทรอยด์ (Thyroid gland) -ต่ อมไทรอยด์ ในสัตว์ เลียง ้ ลูกด้ วยนมมี 2 พู วางตัวอยู่ บนหลอดลม -สร้ างฮอร์ โมน triiodothyronine (T3) และ thyroxine (T4) -ทําหน้ าที่ควบคุม กระบวนการเมตาบอลิสม -ควบคุมการสร้ างโดย TSH 48
  • 49. ฮอร์ โมนจากต่ อมพาราไทรอยด์ (Parathyriod gland) ฮอร์ โมนจากต่ อมพาราไทรอยด์ - พาราทอร์ โมน (parathormone,PTH) ทําหน้ าที่รักษาสมดุลและ ฟอสฟอรัสในร่างกายให้ คงที่ - มีผลกระตุ้นให้ มีการเพิ่มแคลเซียมและฟอสฟอรัส - ถ้ ามีระดับแคลเซียมตํ่าในเลือดจะกระตุ้นให้ มีการหลังฮอร์ โมนมาก ่ ขึ ้น - ถ้ าหลังฮอร์ โมนมากเกินไปจะทําให้ มีการสะสมแคลเซียมที่ไตที่เส้ น ่ เลือด กระดูกเสียแคลเซียมมากเกินไป หักง่ายเป็ นโรคกระดูกพรุน 49
  • 50. 50
  • 51. ฮอร์ โมนจากอวัยวะเพศ เพศชาย ฮอร์ โมนแอนโดรเจน (androgens)ประกอบไปด้ วย เทสโทสเตอโรน (testosteron) มีหน้ าที่ควบคุมลักษณะเกี่ยวกับ การเปลี่ยนแปลงของเพศชายใน ช่วงวัยรุ่น 51
  • 52. เพศหญิง - เอสโทรเจน (estrogens) สร้ างจากเซลล์ฟอลลิเคิลในรังไข่ ฮอร์ โมนนี ้จะตํ่าในขณะมี ประจําเดือน - ฮอร์ โมนโปรเจสเทอโรน (progesterone) สร้ างจาก คอร์ ปัสลูเทียม ควบคุมลักษณะ เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของร่าง กายในช่วงวัยรุ่น 52
  • 53. ต่ อมไพเนียล(pineal gland) ฮอร์ โมนจากต่อมไพเนียล ต่อมไพเนียลอยูบริเวณกึงกลางของ ่ ่ สมองส่วนเซรี บรัมพูซ้ายและพูขวา ต่อมนี ้ไม่ได้ ทําหน้ าที่สร้ าง ฮอร์ โมน ต่อมนี ้จะสร้ างเมลาโทนิน (melatonin) ในคนและสัตว์ ชันสูงในช่วงวัยรุ่นและยับยังการเจริญเติบของอวัยวะสืบพันธุ์ ้ ้ ถ้ าขาดจะทําให้ เด็กเป็ นหนุ่มสาวเร็วกว่าปกติ 53
  • 54. ต่ อมไร้ ท่อที่เกี่ยวกับการปรั บตัวของสัตว์ MSH - ต่อมใต้ สมองส่วนกลาง - ต่อมไพเนียล melatonin ต่ อมไร้ ท่อที่เกี่ยวข้ องกับภูมิค้ ุมกัน - Thymus gland ต่ อมไร้ ท่อที่ทาหน้ าที่ควบคุมพฤติกรรม Biological clock ํ - pineal gland 54
  • 55. 55
  • 56. 56
  • 57. 57
  • 58. ตําแหน่งของต่อมทีผลิตฟี โรโมนในสุนัข ่ 1. Labial glands. 2. Auricular glands. 3. Perianal glands. 4. Vulva หรือ Preputial glands. 5. Interdigitous glands. 58