SlideShare a Scribd company logo
แบบทดสอบวัดความรอบรู้
บทที่ 4 เรื่อง เซลล์ ของสิ่ งมีชีวต
ิ
1. โรงงานไฟฟาเปรียบเทียบการทางานได้ กบส่ วนใด
้
ั
ก ribosome
ข mitochondria
ค lysosome
ง centrosome
2. เราจะไม่ พบนิวเคลียสจากเซลล์ชนิดไหน
ก เซลล์ประสาท
ข เซลล์กล้ามเนื้อ
ค เซลล์เม็ดเลือดแดงของแมว
ง เซลล์อสุ จิ
3. organell ทีมีขนาดเล็กไม่ มี membrane หุ้มและเป็ นสารประกอบ nucleoprotein คือ
่
ก endoplasmic reticulum
ข golgi body
ค chloroplast
ง ribosome
4. สมการ
C6 H12 O6 + 6O2
6CO2 + 6H2O + 36ATP
เกิดทีส่วนใดของเซลล์
่
ก chloroplast
ข centrosome
ค mitochondria
ง ribosome
5. สมการ
6CO2 + 12H2O
C6 H12 O6 + 6H2O + 6O2
เกิดทีส่วนใดของเซลล์
่
ก chloroplast
ข centrosome
ค mitochondria
ง ribosome
6. สี แดงของดอกไม้ เกิดจากอะไร
ก redoplast
ข chloroplast
ค leucoplast
ง chromoplast
7. เซลล์ชนิดใดมีผนังเซลล์
ก สาหร่ ายยูกลีนา
ข plasmodium
ค แบคทีเรี ย
ง paramecium
8. prokaryotic cell คือข้ อใด
ก oscillatoria
ข fungi
ค amoeba
ง plasmodium
9. ข้ อใดไม่ พบในเซลล์พช
ื
ก spindle fiber
ข vacuole
ค ribosome
ง เซลล์เมมเบรน
10. จะไม่ มีขบวน selective permeable ใน organell ใด
ก mitochondria
ข endoplasmic reticulum
ค vacuole
ง ribosome
11. เซลล์เม็ดเลือดแดงของคนมีขนาดประมาณ 4 ไมครอน เมื่อเทียบเป็ นมิลลิเมตรจะได้ เท่าไร
ก 1 / 1,000 ม.ม.
ข 1 / 250 ม.ม.
ค 4 / 250 ม.ม.
ง 1 / 10,000 ม.ม.
12. เซลล์พวกไหนควรมี chromosome และ monoploid หรือ haploid
ก เซลล์ร่างกาย
ข เซลล์ไซโกต
ค เซลล์ผนังรังไข่
ง เซลลืไข่
13. ข้ อที่แตกต่ างจากข้ ออืนๆ มากทีสุด คือ
่
่
ก inclusion
ข mitochondria
ค chloroplast
ง ribosome
14. organell ใดทีเ่ ชื่ อว่ ามีความสั มพันธ์ กบการหดหายไปของหางลูกอ๊ อด
ั
ก centrosome
ข lysosome
ค golgi body
ง vacuole
15. ผลทีเ่ กิดจากการกินแบบอะมีบา (phagocytosis) คือข้ อใด
ก contractile vacuole ข food vacuole ค lysosome
ง centrosome
16. ถ้ าหากเยือหุ้ม lysosome แตกออกผลที่เกิดขึนคือ
่
้
ก plasmolysis
ข osmosis
ค glycolysis
ง autolysis
17. มีผ้ ูเชื่ อกันว่ า mitochondria เป็ นสิ่ งมีชีวตหนึ่งทีเ่ ข้ ามาอาศัยกับเซลล์ของสิ่ งมีชีวตอืนแบบซิม
ิ
ิ ่
ไบโอซีสทีว่า mitochondria เป็ นสิ่ งมีชีวตหนึ่งนั้น หมายถึงสิ่ งมีชีวตชนิดใด
่
ิ
ิ
ก สาหร่ าย
ข รา
ค แบคทีเรี ย
ง โพรโทซัว
18. มีผ้ ูเชื่ อกันว่ า chloroplast เป็ นสิ่ งมีชีวตหนึ่งทีเ่ ข้ ามาอาศัยกับเซลล์ของสิ่ งมีชีวตอืนแบบซิม
ิ
ิ ่
ไบโอซีสทีว่า chloroplast เป็ นสิ่ งมีชีวตหนึ่งนั้น หมายถึงสิ่ งมีชีวตชนิดใด
่
ิ
ิ
ก สาหร่ ายสี เขียวแกมน้ าเงิน
ข สาหร่ ายสี เขียว
ค สาหร่ ายยูกลีนา
ง สาหร่ ายสี เขียวแกมทอง
19. สารทีเ่ ป็ นองค์ ประกอบที่สาคัญของเซลล์เมมเบรนคือ
ก กรดนิวคลีอิก
ข คาร์โบไฮเดรต
ค phospholipids
ง triglyceride
20. ผู้ประดิษฐ์ กล้ องจุลทรรศน์ อเิ ล็กตรอน คือ
ก Leeuwenhoek
ข Purkinje
ค Schwann และ Schleiden
ง Maxkhnoll และ E.R.uska
21. ทีเ่ ลนส์ ตาเขียนว่า 10 X และทีเ่ ลนส์ วตถุเขียนว่ า 40 X แสดงว่ามีกาลังขยายเท่ากับเท่าไร
ั
ก 400 เท่า
ข 800 เท่า
ค 40 เท่า
ง 80 เท่า
22. DNA เป็ นสารทีพบได้ ในนิวเคลียสแต่ กสามารถพบได้ ในไซโทพลาซึมด้ วย โดยอยู่ภายใน
่
็
organell
ก centriole
ข ribosome
ค mitochondria
ง golgi body
23. สิ่ งมีชีวตทีเ่ ป็ นสาร nucleoprotein เช่ นเดียวกับ ribosome คือ
ิ
ก แบคทีเรี ย
ข ไวรัส
ค รา
ง ยีสต์
24. ไวรัสจัดเป็ นสิ่ งมีชีวตทั้งๆ ทีไวรัสไม่ เป็ นเซลล์ เหตุผลทีจัดไวรัสเป็ นสิ่ งมีชีวตคือ
ิ
่
่
ิ
ก สื บพันธุ์ได้
ข กินอาหารได้
ค ปรับตัวได้ ง สร้างอาหารได้
25. สิ่ งทีเ่ ราสามรถพบได้ ในเซลล์พช แต่ ไม่ สามารถพบได้ เซลล์สัตว์คือ
ื
ก cell membrane , chloroplast
ข cell wall , cell membrane
ค cell wall , vacuole
ง cell wall , chloroplast
26. cellular respiration เกิดที่ organell ใด
ก mitochondria
ข centrosome
ค chloroplast
ง lysosome
27. สารประกอบ RNA นอกจากจะพบที่ ribosome แล้วยังพบทีส่วนใด
่
ก โครโมโซม
ข นิวคลีโอลัส
ค เยือหุมนิวเคลียส
่ ้
ง เยือหุมเซลล์
่ ้
28. ส่ วนของไม้ คอร์ กทีมีลกษณะเป็ นห้ องๆ ที่ Robert Hooke เป็ นผู้ค้นพบให้ ชื่อเซลล์ คือ
่ ั
ก เยือหุมเซลล์
่ ้
ข protoplasm
ค ผนังเซลล์
ง cytoplasm
29. ส่ วนของเซลล์ ททาหน้ าทีเ่ ป็ นท่อทางผ่านของสารต่ างๆ ในเซลล์คือ
ี่
ก endoplasmic reticulum
ข microsome
ค centrosome
ง lysosome
30. ข้ อใดถูกต้ อง
ก ไมโทคอนเดรี ยพบมากในเซลล์ไข่เม่นทะเล ไม่พบเลยในเซลล์เยือบุผว
่ ิ
ข ไมโทคอนเดรี ยพบมากในเซลล์แบคทีเรี ย ไม่พบเลยในเซลล์ไข่เม่นทะเล
ค ไมโทคอนเดรี ยพบมากในเซลล์ไข่เม่นทะเล ไม่พบเลยในเซลล์แบคทีเรี ย
ง ไมโทคอนเดรี ยพบมากในเซลล์ตบและเซลล์แบคทีเรี ยที่กาลังแบ่งตัว
ั
31. ส่ วนอะโครโซมของอสุ จิเปลียนแปลงมาจาก organell ใด
่
ก lysosome
ข centrosome
ค golgi complex ง endoplasmic reticulum
32. suicide bag of cell หรือถุงฆ่ าตัวตายหมายถึงอะไร
ก vacuole
ข lysosome
ค golgi complex
ง vesicle
33. golgi complex ควรพบมากในอวัยวะส่ วนใด
ก ตับ กระเพาะปัสสาวะ
ข เซลล์ประสาท เซลล์ผวหนัง
ิ
ค เซลล์ต่อมหมวกไต เซลล์ต่อมน้ าตา
ง เซลล์ต่อมน้ าลาย และเซลล์ต่อมน้ านม
34. สารเคลือบเซลล์มีหน้ าที่สาคัญคือข้ อใด
ก ควบคุมการเข้าออกและการลาเลียงสาร
่
ข คุมครองเซลล์ทาให้เซลล์อยูรอดปลอดภัย
้
ค ทาหน้าที่จากัดขนาดเซลล์ไม่ให้ใหญ่หรื อเล็กเกินไป
ง ทาให้เซลล์พวกเดียวกันรวมเป็ นเนื้อเยือและอวัยวะ
่
35. โครงสร้ างที่ทาหน้ าทีเ่ ป็ นศูนย์ รวมของ RNA และทาหน้ าทีสร้ างไรโบโซมคือโครงสร้ างใด
่
ก โครโมโซม
ข นิวคลีโอโปรตีน
ค นิวคลีโอลัส
ง เอ็นโดพลาสมิก เรติคูลม
ั
36. organell ทีไม่ มีเยือหุ้มคือ organell ใด
่
่
ก ไรโบโซมและไลโซโซม
ข ไลโซโซมและเซนทริ โอล
ค เซนทริ โอลและกอลจิคอมเพล็กซ์
ง ไรโบโซมและเซนทริ โอล
37. ข้ อใดถูกต้ องในเรื่องของเอนโดพลาสมิก เรติคูลม
ั
ก ชนิดผิวขรุ ขระมีไรโบโซมเกาะชนิดเรี ยบกาจัดสารพิษ
ข ชนิดผิวเรี ยบสร้างโปรตีนชนิดขรุ ขระสร้างสเตอรอยด์
ค ชนิดผิวขรุ ขระเท่านั้นที่ทาหน้าที่ลาเลียงสาร
ง ทั้งสองชนิดทาหน้าที่เหมือนกันแต่ชนิ ดผิวขรุ ขระทาได้ดีและเร็ วกว่า
38. เซลล์ ของยูกลีนาแตกต่ างจากเซลล์ ของสาหร่ ายทัวไปในข้ อใด
่
1. ไม่มี cell wall
2. มี contractile vacuole
3. มี photosynthetic pigments แบบเดียวกับสาหร่ ายเกลัยวทอง
4. สามารถดารงชีวิตแบบ heterotroph ได้
39. สาเหตุที่ทาให้ เห็ดราต้ องดารงชี วตแบบภาวะย่ อยสลาย (saprophytism) คืออะไร
ิ
ก ไม่มีราก
ข ไม่มีผนังเซลล์
ค ไม่มีคลอโรพลาสต์
ง ไม่มีนิวเคลียสที่แท้จริ ง
40. โครงสร้ างใดทาหน้ าทีสร้ างโครโมโซม
่
ก ดี เอ็น เอ
ข กอลจิคอมเพล็กซ์
ค ร่ างแหเอนโดพลาซึ ม
ง นิวคลีโอลัส
41. เซลล์ทมีการสั งเคราะห์ โปรตีนขึนมาใช้ เฉพาะภายในเซลล์เท่านั้น เราจะพบไรโบโซมส่ วนมาก
ี่
้
ในบริเวณใด
ก กอลจิคอมเพล็กซ์
ข ร่ างแหเอนโดพลาซึ ม
่
ค เยือหุมนิวเคลียส
่ ้
ง ลอยอยูอิสระในไซโทพลาซึ ม
42. ลักษณะทีแยกสาหร่ ายสี เขียวแกมนาเงินออกจากสาหร่ ายสี เขียวคือ
่
้
ก ปริ มาณเม็ดคลอโรพลาส
ข ขนาดลาต้น
ค ลักษณะนิวเคลียส
ง การสื บพันธุ์แบบอาศัยเพศ
43. สารเคลือบเซลล์สัตว์คือสารตัวใด
ก เพกติน
ข คิวทิน
ค ซูเบอลิน
ง ไกลโคโปรตีน
44. เยือหุ้มเซลล์ มีคุณสมบัติเป็ นเยือเลือกผ่ าน หมายถึง
่
่
่
ก ไม่ยอมให้สารที่มีโมเลกุลใหญ่ผาน
ข ไม่ยอมให้สารอินทรี ยทุกชนิดผ่าน
์
ค ยอมให้สารต่างชนิดกันผ่านได้ดวยอัตราไม่เท่ากัน
้
ง ยอมให้น้ าผ่านได้อย่างเดียว
45. ข้ อใดกล่ าวถึงไรโบโซมอย่ างถูกต้ อง
ก ทาหน้าที่ในการแบ่งเซลล์
ข เป็ นส่ วนที่เป็ น DNA
ค เป็ นแหล่งสร้างคาร์ โบไฮเดรต
ง เป็ นแหล่งสร้างโปรตีน
46. จากการศึกษาสารเคลือบเซลล์ นักเรียนทราบไหมว่าข้ อใดเป็ นสารเคลือบเซลล์ของเซลล์สัตว์
ก เซลลูโลส คิวทิน
ข ซูเบอลิน เพกทิน
ค ไกลโคโปรตีน ไคทิน
ง ไกลโคโปรตีน คิวทิน
47. นักวิทยาศาสตร์ แบ่ งสิ่ งมีชีวตออกเป็ นกลุ่มโพรทิสตาและโมนีราโดยใช้ ลกษณะของข้ อใด
ิ
ั
ก ขนาดของเซลล์
ข ขนาดของนิวเคลียส
ค ลักษณะการดารงชีวต
ิ
ง ลักษณะของนิวเคลียส
48. ข้ อใดแสดงความสั มพันธ์ ระหว่ างโครงสร้ างและหน้ าทีอย่ างไม่ ถูกต้ อง
่
ก ไรโบโซม - แหล่งสังเคราะห์โปรตีน
ข เซนทริ โอล - การเคลื่อนที่ของโครโมโซม
ค นิวคลีโอลัส - แหล่งสังเคราะห์ DNA
ง ร่ างแหเอนโดพลาซึ มที่ไม่มีไรโบโซมเกาะที่ผวสังเคราะห์ไขมันบางชนิ ด
ิ
49. ถ้ าเรานายีนสายพันธุ์หนึ่งไปแยกเลียงในสภาพทีมีออกซิเจนและไม่ มีออกซิเจนเป็ นเวลา 24
้
่
ชั่ วโมง ผลการศึกษาข้ อใดทีไม่ ถูกต้ อง
่
ก อัตราการสังเคราะห์โปรตีนของยีนที่เลี้ยงในสภาพที่มีออกซิ เจนจะสู งกว่า
ข ยีนที่เลี้ยงในสภาพที่มีออกซิ เจนจะมีอตราการเจริ ญสู งกว่า
ั
ค ขนาดของเซลล์ยนที่เลี้ยงในสภาพที่มีออกซิ เจนจะมีขนาดเล็กกว่า
ี
ง ยีนที่เลี้ยงในที่ไม่มีออกซิ เจนจะมีจานวนไมโทคอนเดรี ยต่อเซลล์สูง
50. สิ่ งมีชีวตทั้งหมดนีจัดอยู่ในอาณาจักรโพรทิสตา ถ้ าเราจะใช้ ลกษณะของเซลล์ เป็ นเกณฑ์ ในการ
ิ
้
ั
จาแนกกลุ่มเสี ยใหม่ ท่ านคิดว่ าสิ่ งมีชีวตข้ อใดทีน่าจะแยกมาอยู่ในกลุ่มเดียวได้ ด้วยเกณฑ์ นี้
ิ
่
ก แบคทีเรี ย ยูกลีนา
ข พารามีเซียม สไปรู ไรนา
ค แบคทีเรี ย ยีสต์
ง แบคทีเรี ย ออสซิลลาทอเรี ย
51. การเคลือนไหวของตัวอะมีบาเกิดจากอะไร
่
ก การเคลื่อนไหวของไมโครทูบูล
ข การทางานของไคนีโตโซม
ค การใช้ทิวป์ ฟี ต
ง การเลื่อนของแอกตินและไมโอซิน
52. เซลล์ กล้ ามเนือหัวใจมีออร์ แกเนลชนิดใดมากทีสุด
้
่
ก ไมโทคอนเดรี ย
ข กอลจิคอมเพล็กซ์
ค ไรโบโซม
ง ร่ างแหเอนโดพลาซึ ม
53. ลักษณะข้ อใดของเซลล์ พชทาให้ แตกต่ างจากเซลล์สัตว์
ื
ก ส่ วนใหญ่ไม่มีเซนทริ โอล
ข ส่ วนใหญ่ไม่มีเซนทริ โอลและไลโซโซม
ค มีไมโทคอนเดรี ยน้อยกว่า
ง มีคลอโรพลาสต์มากกว่า
54. 9 + 2 คือออร์ แกเนลใด
ก เซนทริ โอลและเบซอลบอดี
ข ซีเลียและแฟลเจลลา
ค เซนทริ โอลและซีเลีย
ง เซนทริ โอลและแฟลเจลลา
55. 9 + 0 คือออร์ แกเนลใด
ก เซนทริ โอลและแฟลเจลลา
ข ซีเลียและเบซอลบอดี
ค เซนทริ โอลและเบซอลบอดี
ง แฟลเจลลาและซีเลีย
56. ข้ อใดกล่ าวถูกต้ อง
ก 9 กลุ่มของเซนทริ โอลมีหน่วยไมโครทูบูลกลุ่มละ 2 หน่วย
ข 9 กลุ่มของซี เลียมีหน่วยไมโครทูบูลกลุ่มละ 3 หน่วย
ค เบซอลบอดีและเซนทริ โอลมี 9 กลุ่มด้านนอก แต่ละกลุ่มมี 3 หน่วยของไมโครทูบูล
ง แฟลเจลลาและซีเลียมี 9 กลุ่ม โดยแต่ละกลุ่มมี 3 หน่วยของไมโครทูบูลและ 2 หน่วยของ
ไมโครทูบูลตรงกลาง
57. ในการศึกษาสิ่ งมีชีวตด้ วยกล้ องจุลทรรศน์ ธรรมดาแบบใช้ กระจกปรับแสง ถ้ าท่ านต้ องการ
ิ
ปรับแสงให้ พอเหมาะทาได้ จาก
ก ใช้หลอดไฟภายในห้อง เพิ่มแสงให้มากขึ้น
ข ปรับกระจกเงาใต้แท่นวางวัตถุและหมุนปุ่ มปรับภาพชนิดหยาบและชนิดละเอียด
ค ปรับไดอะแฟรมให้ได้แสงเต็มที่และหมุนปรับภาพชนิดหยาบและชนิดละเอียด
ง ปรับกระจกเงาใต้แท่นวางวัตถุและปรับไดอะแฟรม
58. สารทีพบมากในผนังเซลล์ของเห็ดคือสารชนิดใด
่
ก เพกทิน
ข เซลลูโลส
ค ไคทิน
ง ซูเบอลิน
59. ออร์ แกเนลทีสามารถสร้ างสารพลังงานสู ง ATP ได้ คือออร์ แกเนลชนิดใด
่
ก ไมโทคอนเดรี ย
ข ไมโทคอนเดรี ยและกอลจิคอมเพล็กซ์
ค ไมโทคอนเดรี ยและเอนโดพลาสมิก เรติคูลม
ั
ง ไมโทคอนเดรี ยและคลอโรพลาสต์
60. ข้ อใดเป็ นคุณสมบัติของคลอโรพลาสต์
ก เป็ นโครงสร้างที่พบในพืชและสาหร่ าย
ข เป็ นส่ วนสาคัญในการสังเคราะห์แสง
ค เป็ นกลุ่มอนุภาคของคลอโรฟิ ลล์ที่ไม่มีเยือหุ ม
่ ้
ง คลอโรฟิ ลล์และคาโรทีนอยด์เป็ นรงควัตถุภายใน
61. การแพร่ (diffusion) เกิดจาก
ก พลังงานจลน์ของโมเลกุล และการเคลื่อนที่มีทิศทางไม่แน่นอน
ข พลังงานศักย์ของโมเลกุล และการเคลื่อนที่มีทิศทางไม่แน่นอน
ค พลังงานจลน์ของโมเลกุล และการเคลื่อนที่มีทิศทางที่แน่นอน
ง พลังงานศักย์ของโมเลกุล และการเคลื่อนที่มีทิศทางที่แน่นอน
62. ความเร็วในการเคลือนที่แบบการแพร่ จะขึนอยู่กบ
่
้
ั
ก อุณหภูมิ
ข ความแตกต่างของความเข้มข้น
ค ขนาดของโมเลกุล
ง ถูกทุกข้อ
63. นาจะ osmosis เข้ าสู่ เซลล์ เมื่อสารละลายภายนอกเซลล์ เป็ นชนิด
้
ก isotonic solution
ข hypertonic solution
ค Saturated solution
ง hypotonic solution
64. เยือเซลล์ทสามารถที่ทาให้ เกิดขบวนการ osmosis ได้ จะต้ องมีคุณสมบัติ
่
ี่
ก semipermeable membrane
ข selective permeable membrane
ค spongy permeable membrane
ง ข้อ ก และ ข ถูก
65. การดูดนาของเปลือกหุ้มเมล็ดทาให้ เมล็ดพองโตขึนเรียกว่า
้
้
ก osmosis
ข diffusion
ค absorbtion
ง imbibition
66. ส่ วนของเซลล์ ททาให้ ปริมาณนาภายในเซลล์ของพวกโพรโทซัวคงที่ คือ
ี่
้
ก cell membrane
ข nucleus
ค contractile vacuole
ง food vacuole
67. สารละลายที่ทาให้ เกิด plasmolysis คือ
ก isotonic solution
ข hypotonic solution
ค hypertonic solution
ง saturated solution
68. สารละลายชนิดหนึ่งเมื่อนาเซลล์เม็ดเลือดแดงใส่ ลงไปเซลล์เม็ดเลือดแดงจะแตกสลาย แต่ เมื่อ
เอาเซลล์ของสาหร่ ายใส่ ลงไปเซลล์จะไม่ แตกเป็ นเพราะ
ก สารละลายนั้นเป็ น hypotonic ต่อเม็ดเลือดแดง แต่เป็ น isotonic ต่อเซลล์สาหร่ าย
ข สารละลายนั้นเป็ น hypotonic ต่อเม็ดเลือดแดง แต่เป็ น hypertonic ต่อเซลล์สาหร่ าย
ค สารละลายนั้นเป็ น hypotonic ต่อเม็ดเลือดแดง แต่สาหร่ ายมีผนังเซลล์ เซลล์จึงไม่แตก
ง สารละลายนั้นเป็ น hypotonic ต่อเม็ดเลือดแดง แต่เซลล์สาหร่ ายมีความเข้มขเนสู งกว่า
เซลล์จึงไม่แตก
69. การทีสาร X ภายในเซลล์มีมากกว่าภายนอกเซลล์ แต่ สาร X ภายนอกเซลล์ กสามารถเข้ าสู่
่
็
เซลล์ได้ แสดงว่าเกิดขบวนนาเข้ าแบบ
ก diffusion
ข osmosis
ค active transport
ง passive transport
70. Brownian movement หมายถึง
ก การเคลื่อนที่แบบบราวน์
ข การเคลื่อนที่อย่างไร้ทิศทางของอนุ ภาค
ค การเคลื่อนที่โดยแรงธรรมชาติ
ง การเคลื่อนที่ดวยพลังงานจลน์
้
71. ภาวะสมดุลของการแพร่ หมายถึง
ก ภาวะที่ไม่เกิดการแพร่ อีกแล้ว
ข ภาวะที่การแพร่ มีทิศทางเดียวเท่านั้น
ค ภาวะที่สารทุกชนิดมีโมเลกุลเท่ากัน
ง ภาวะที่มีการเคลื่อนที่ของสารเข้าหรื อออกในจานวนเท่าๆ กัน
72. ส่ วนประกอบของเยือเซลล์ทสาคัญ คือ
่
ี่
ก โปรตีน ไขมัน กรดนิวคลีอิก
ข โปรตีน ไขมัน คาร์โบไฮเดรต กรดนิวคลีอิก
ค โปรตีน ไขมัน คาร์ โบไฮเดรต
ง ไขมัน กรดนิวคลีอิก คาร์ โบไฮเดรต
73. สารต่ างๆ ทีผ่านเยือเซลล์ได้ ตามลาดับความเร็ว คือ
่
่
ก น้ า สารละลายน้ า สารอินทรี ย ์ สารประจุลบ สารประจุบวก
ข น้ า สารอินทรี ย ์ ก๊าซละลายน้ า สารประจุบวก สารประจุลบ
ค น้ า ก๊าซละลายน้ า สารอินทรี ย ์ สารประจุบวก สารประจุลบ
ง น้ า ก๊าซละลายน้ า สารประจุลบ สารประจุบวก สารอินทรี ย ์
74. การเคลือนทีโดยอาศัยตัวพามักพบได้ ในข้ อใด
่ ่
ก การเกิด Na+ K+ Pump
ข การดูดซึมกลูโคสและไขมัน
ค การดูดเกลือกลับที่หลอดไต
ง การกาจัดยูเรี ยที่กระเพาะปั สสาวะ
75. พิโนไซโทซิส (pinocytosis) มักพบกับการนาสารพวกไหน
ก สารพวกไขมันและสารที่ละลายในไขมันได้ดี ข สารพวกเกลือแร่ ที่มีประจุเช่น Na+ K+
ค สารพวกโปรตีนซึ่ งละลายไม่ได้ในไขมัน
ง สารพวกวิตามินต่างๆ
76. การแพร่ แบบฟาซิลเิ ทตต้ องอาศัยตัวพา ตัวพานีเ้ ป็ นสารชนิดใด
ก ไขมัน
ข คาร์โบไฮเดรต
ค กรดนิวคลีอิก
ง โปรตีน
77. เมื่อนาเซลล์เม็ดเลือดแดงและเซลล์เยือหอมใส่ ลงในสารละลาย NaCl 5 % ปรากฏการณ์ที่
่
เรียกว่าพลาสโมไลซิศเกิดกับเซลล์ชนิดใด
ก เซลล์เม็ดเลือดแดง
ข เซลล์เยือหอม
่
ค เซลล์ท้ งสองชนิด
ั
ง ไม่เกิดทั้งสองชนิด
78. ข้ อใดกล่ าวถึงกระบวนการลาเลียงสารแบบทีต้องใช้ พลังงานอย่ างถูกต้ อง
่
ก การดูดซึ มแร่ ธาตุของเซลล์ขนรากพืช
ข การดูดซึมโมเลกุลของสารที่ลาไส้เล็ก
ค การดูดซึ มกลูโคสและกรดอะมิโนกลับที่บริ เวณผนังท่อของหน่วยไต
ง ถูกทุกข้อ
79. สารในข้ อใดมีแรงดันออสโมซิสน้ อยทีสุด
่
ก น้ าปลา
ข น้ าทะเล
ค น้ าเชื่อม
ง น้ าแป้ ง
80. การเกิด pinocytosis พบได้ ในเซลล์ชนิดใด
ก เซลล์เม็ดเลือดขาว
ข เซลล์เม็ดเลือดแดง
ค เซลล์ของท่อหน่วยไต
ง เซลล์ตบอ่อน
ั
81. เซลล์ เม็ดเลือดแดงจะแตกเมื่ออยู่ในสารละลายชนิดใด
ก น้ าเกลือ 0.85 %
ข น้ าดื่ม
ค น้ าหวาน
ง น้ าส้ม
82. ถ้ าต้ องการศึกษาผนังเซลล์และเยือเซลล์ของสาหร่ ายหางกระรอกจะแยกองค์ ประกอบทั้งสอง
่
ออกจากกันได้ อย่างไร
ก ใส่ น้ าประปา
ข ใส่ ในสารละลายน้ าเกลือ 0.85 %
ค ใส่ ในสารละลายน้ าเกลือ 5 %
ง ใส่ ในน้ าแป้ ง
83. เอนโดโซโทซิส คือข้ อใด
ก ฟิ โนไซโทซิส
ข ฟาโกไซโทซิส
ค ทั้งข้อ ก และ ข
ง ไม่มีขอถูก
้
84. การนาสารเข้ าสู่ เซลล์ โดยอาศัยตัวรับ ใช้ สารชนิดใด (1) ทีบริเวณใด (2)
่
ก (1) โปรตีน (2) ที่เยือเซลล์
่
ข (1) ไขมัน (2) ที่เยือเซลล์
่
ค (1) โปรตีน (2) ที่ผนังเซลล์
ง (1) ไขมัน (2) ที่ผนังเซลล์
85. การเคลือนทีของไอออนต่ างๆ จากทีมีความเข้ มข้ นต่าเข้ าสู่ เซลล์หรือออร์ แกเนลล์ ของเซลล์ซึ่ง
่ ่
่
มีความเข้ มข้ นของไอออนสู งเรียกกระบวนการนีว่า แอกทิฟทรานสปอร์ ต ข้ อใดไม่ ถือว่ าเป็ น
้
แอกทิฟทรานสปอร์ ต
ก คาร์ บอนไดออกไซด์เข้าสู่ เซลล์
ข กลูโคสถูกดูดเข้าสู่ กระแสเลือด
ค โพแทสเซี ยมอิออนถูกดูดเข้าสู่ เซลล์
ง ฟอสฟอรัสจากดินเข้าสู่ เซลล์พืช
86. ถ้ านาเซลล์สาหร่ ายหางกระรอกไปแช่ นาเกลือทีมีความเข้ มข้ น 10 % ซึ่งความเข้ มข้ นนีสูงกว่ า
้
่
้
ไซโทพลาซึมของเซลล์จะเกิดปรากฏการณ์ ทเี่ รียกว่า
ก ออสโมซิส
ข ฟิ โนไซโทซิส
ค พลาสโมไลซิส
ง ฟาโกไซโทซิส
87. เม็ดเลือดขาวมีการเคลือนทีแบบใด
่ ่
ก amoeboid movement
ข Brownian movement ค turgor movement ง cyclosis
88. กระบวนการทีทาให้ เกิดการนากระแสประสาท
่
ก กระบวนการโซเดียม โพแทสเซี ยมปั๊ ม
ข กระบวนการ passive transport
ค กระบวนการปฏิกิริยาเคมี
ง กระบวนการปฏิกิริยาเคมี
89. แร่ ธาตุในดินถูกนาเข้ าสู่ รากพืชได้ โดยวิธีใด
ก ทรานสพิเรชันพูล
ข แอกทิฟทรานสปอร์ ต
ค แรงดันราก
ง ถูกทั้ง ก และ ค
90. การแลกเปลียนแก๊สในอัลวิโอลัสในปอดอาศัยวิธีใด
่
ก การแพร่
ข ออสโมซิส
ค แอกทิฟทรานสปอร์ ต
ง แรงดันจากอากาศภายนอกที่เราหายใจเข้าไป
ใช้ คาตอบต่ อไปนีตอบคาถามข้ อ 91 - 93
้
ก prophase
ข metaphase
ค anaphase
ง telophase
91. ระยะทีโครโมโซมมาเรียงตัวกันอยู่บริเวณกลางเซลล์
่
92. ระยะทีเ่ ยื่อหุ้มนิวเคลียสสลายไปและเซนทริโอลแบ่ งออกเป็ น 2 ส่ วน
93. ระยะทีโครโมโซมถูกดึงโดยสายใย spindle fiber ทาให้ แยกออกจากกัน
่
94. ข้ อใดถูกต้ อง
ก เซลล์พืชไม่มี spindle fiber แต่เซลล์พืชมีการสร้าง cell plate
ข เซลล์พืชมี spindle fiber และเซลล์พืชมีการสร้าง cell plate
ค เซลล์สัตว์มี spindle fiber และเซลล์สัตว์มีการสร้าง cell plate
ง เซลล์สัตว์ไม่มี spindle fiber และไม่มีการสร้าง cell plate
95. ผลการแบ่ งเซลล์แบบ meiosis ทาให้ ได้
ก 2 เซลล์ โครโมโซม n
ข 4 เซลล์ โครโมโซม 2n
ค 2 เซลล์ โครโมโซม 3n
ง 4 เซลล์ โครโมโซม n
96. ผลการแบ่ งเซลล์แบบ mitosis ทาให้ ได้
ก 2 เซลล์ โครโมโซม 2n
ข 2 เซลล์ โครโมโซม n
ค 2 เซลล์ โครโมโซม 3n
ง 4 เซลล์ โครโมโซม 2n
97. การแบ่ งเซลล์ แบบ meiosis จะพบได้ ที่
ก เซลล์ไต
ข เซลล์หลอดอสุ จิ
ค เซลล์ประสาท
ง เซลล์มดลูก
98. ไข่ แดง (yolk) คือส่ วนของ
ก อาหารสะสมที่เก็บไว้ใน vacuole
ข อาหารสะสมที่เก็บไว้ที่ lysosome
ค นิวเคลียสของเซลล์ไข่
ง นิวคลีโอโซมของไข่
99. การสั งเคราะห์ โปรตีนเกิดขึนโดย
้
ก DNA
ข RNA
ค ribosome
ง chromosome
100. คุณสมบัติเฉพาะข้ อหนึ่งของ DNA คือ
ก reproduce
ข catalyse
ค replicate
ง metabolize
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------เฉลยแบบทดสอบวัดความรอบรู้ บทที่ 4 เรื่อง เซลล์ ของสิ่ งมีชีวต
ิ
1. ข
2. ค
3. ง
4. ค
5. ก
6. ง
7. ค
8. ก
9. ก
10. ง
11. ข
12. ง
13. ก
14. ข
15. ข
16. ง
17. ค
18. ก
19. ค
20. ง
21. ก
22. ค
23. ข
24. ก
25. ง
26. ก
27. ข
28. ค
29. ก
30. ค
31. ค
32. ข
33. ง
34. ง
35. ค
36. ง
37. ก
38. ง
39. ค
40. ก
41. ง
42. ค
43. ง
44. ค
45. ง
46. ค
47. ง
48. ค
49. ค
50. ง
51. ง
52. ก
53. ข
54. ข
55. ค
56. ค
57. ง
58. ค
59. ง
60. ง
61. ก
62. ง
63. ง
64. ง
65. ง
66. ค
67. ค
68. ค
69. ค
70. ข
71. ง
72. ค
73. ก
74. ข
75. ค
76. ง
77. ค
78. ง
79. ง
80. ค
81. ข
82. ค
83. ค
84. ก
85. ข
86. ค
87. ก
88. ก
89. ข
90. ก
91. ข
92. ก
93. ค
94. ก
95. ง
96. ก
97. ข
98. ก
99. ข
100. ค

More Related Content

What's hot

7.ชุดที่ 4 การสังเคราะห์แสง
7.ชุดที่ 4 การสังเคราะห์แสง7.ชุดที่ 4 การสังเคราะห์แสง
7.ชุดที่ 4 การสังเคราะห์แสง
เอเดียน คุณาสิทธิ์
 
มัธยฐาน F
มัธยฐาน  Fมัธยฐาน  F
มัธยฐาน FBangon Suyana
 
การฟื้นฟูศิลปวิทยาการ (Renaissance)
การฟื้นฟูศิลปวิทยาการ (Renaissance)การฟื้นฟูศิลปวิทยาการ (Renaissance)
การฟื้นฟูศิลปวิทยาการ (Renaissance)
sudoooooo
 
บทที่ 1 พันธุกรรมกับหมู่เลือด
บทที่ 1 พันธุกรรมกับหมู่เลือดบทที่ 1 พันธุกรรมกับหมู่เลือด
บทที่ 1 พันธุกรรมกับหมู่เลือด
Pinutchaya Nakchumroon
 
สมัยจักรวรรดินิยม
สมัยจักรวรรดินิยมสมัยจักรวรรดินิยม
สมัยจักรวรรดินิยม
Female'PiAtip BoOn Paeng
 
กากกาแฟสครับผิว
กากกาแฟสครับผิวกากกาแฟสครับผิว
กากกาแฟสครับผิวJitrapron Tongon
 
โครงงานวิทยาศาสตร์ ชุดโซฟาจากกระป๋องนม
โครงงานวิทยาศาสตร์  ชุดโซฟาจากกระป๋องนมโครงงานวิทยาศาสตร์  ชุดโซฟาจากกระป๋องนม
โครงงานวิทยาศาสตร์ ชุดโซฟาจากกระป๋องนมChok Ke
 
ปริมาณกระแสไฟฟ้าในผลไม้
ปริมาณกระแสไฟฟ้าในผลไม้ปริมาณกระแสไฟฟ้าในผลไม้
ปริมาณกระแสไฟฟ้าในผลไม้ดีโด้ ดีโด้
 
พืชใบเลี้ยงเดี่ยวและพืชใบเลี้ยงคู่
พืชใบเลี้ยงเดี่ยวและพืชใบเลี้ยงคู่พืชใบเลี้ยงเดี่ยวและพืชใบเลี้ยงคู่
พืชใบเลี้ยงเดี่ยวและพืชใบเลี้ยงคู่
Benjapron Seesukong
 
โครงงานวิชาไอเอส เรื่องความพึงพอใจในการใช้ห้องน้ำของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท...
โครงงานวิชาไอเอส เรื่องความพึงพอใจในการใช้ห้องน้ำของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท...โครงงานวิชาไอเอส เรื่องความพึงพอใจในการใช้ห้องน้ำของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท...
โครงงานวิชาไอเอส เรื่องความพึงพอใจในการใช้ห้องน้ำของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท...
Suricha Phichan
 
เค้าโครงโครงงานวิทยาศาสตร์
เค้าโครงโครงงานวิทยาศาสตร์เค้าโครงโครงงานวิทยาศาสตร์
เค้าโครงโครงงานวิทยาศาสตร์
โทโต๊ะ บินไกล
 
แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ 2 ชั้น ม.1 ชุดที่ 2
แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ 2 ชั้น ม.1 ชุดที่ 2แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ 2 ชั้น ม.1 ชุดที่ 2
แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ 2 ชั้น ม.1 ชุดที่ 2
dnavaroj
 
โครงงานการทำขนมเค้ก
โครงงานการทำขนมเค้กโครงงานการทำขนมเค้ก
โครงงานการทำขนมเค้ก
Ploy Siriwanna
 
ฐานการเรียนรู้สวนถาด
ฐานการเรียนรู้สวนถาดฐานการเรียนรู้สวนถาด
ฐานการเรียนรู้สวนถาด
Phonpimon Misuwan
 
ระบบย่อยอาหารของสัตว์
ระบบย่อยอาหารของสัตว์ระบบย่อยอาหารของสัตว์
ระบบย่อยอาหารของสัตว์Anissa Aromsawa
 
ชีทสรุป ม.4 เทอม 2 โดยครูเนยวิภา.pdf
ชีทสรุป ม.4 เทอม 2 โดยครูเนยวิภา.pdfชีทสรุป ม.4 เทอม 2 โดยครูเนยวิภา.pdf
ชีทสรุป ม.4 เทอม 2 โดยครูเนยวิภา.pdf
NoeyWipa
 
บทที่ 12 การสังเคราะห์แสง
บทที่ 12  การสังเคราะห์แสงบทที่ 12  การสังเคราะห์แสง
บทที่ 12 การสังเคราะห์แสง
Pinutchaya Nakchumroon
 
ถอดคำประพันธ์มหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรี
ถอดคำประพันธ์มหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรีถอดคำประพันธ์มหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรี
ถอดคำประพันธ์มหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรี
Warodom Techasrisutee
 
การลำเลียงน้ำและอาหารของพืช
การลำเลียงน้ำและอาหารของพืชการลำเลียงน้ำและอาหารของพืช
การลำเลียงน้ำและอาหารของพืช
Thanyamon Chat.
 

What's hot (20)

7.ชุดที่ 4 การสังเคราะห์แสง
7.ชุดที่ 4 การสังเคราะห์แสง7.ชุดที่ 4 การสังเคราะห์แสง
7.ชุดที่ 4 การสังเคราะห์แสง
 
มัธยฐาน F
มัธยฐาน  Fมัธยฐาน  F
มัธยฐาน F
 
ส่วนประกอบของดอก
ส่วนประกอบของดอกส่วนประกอบของดอก
ส่วนประกอบของดอก
 
การฟื้นฟูศิลปวิทยาการ (Renaissance)
การฟื้นฟูศิลปวิทยาการ (Renaissance)การฟื้นฟูศิลปวิทยาการ (Renaissance)
การฟื้นฟูศิลปวิทยาการ (Renaissance)
 
บทที่ 1 พันธุกรรมกับหมู่เลือด
บทที่ 1 พันธุกรรมกับหมู่เลือดบทที่ 1 พันธุกรรมกับหมู่เลือด
บทที่ 1 พันธุกรรมกับหมู่เลือด
 
สมัยจักรวรรดินิยม
สมัยจักรวรรดินิยมสมัยจักรวรรดินิยม
สมัยจักรวรรดินิยม
 
กากกาแฟสครับผิว
กากกาแฟสครับผิวกากกาแฟสครับผิว
กากกาแฟสครับผิว
 
โครงงานวิทยาศาสตร์ ชุดโซฟาจากกระป๋องนม
โครงงานวิทยาศาสตร์  ชุดโซฟาจากกระป๋องนมโครงงานวิทยาศาสตร์  ชุดโซฟาจากกระป๋องนม
โครงงานวิทยาศาสตร์ ชุดโซฟาจากกระป๋องนม
 
ปริมาณกระแสไฟฟ้าในผลไม้
ปริมาณกระแสไฟฟ้าในผลไม้ปริมาณกระแสไฟฟ้าในผลไม้
ปริมาณกระแสไฟฟ้าในผลไม้
 
พืชใบเลี้ยงเดี่ยวและพืชใบเลี้ยงคู่
พืชใบเลี้ยงเดี่ยวและพืชใบเลี้ยงคู่พืชใบเลี้ยงเดี่ยวและพืชใบเลี้ยงคู่
พืชใบเลี้ยงเดี่ยวและพืชใบเลี้ยงคู่
 
โครงงานวิชาไอเอส เรื่องความพึงพอใจในการใช้ห้องน้ำของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท...
โครงงานวิชาไอเอส เรื่องความพึงพอใจในการใช้ห้องน้ำของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท...โครงงานวิชาไอเอส เรื่องความพึงพอใจในการใช้ห้องน้ำของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท...
โครงงานวิชาไอเอส เรื่องความพึงพอใจในการใช้ห้องน้ำของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท...
 
เค้าโครงโครงงานวิทยาศาสตร์
เค้าโครงโครงงานวิทยาศาสตร์เค้าโครงโครงงานวิทยาศาสตร์
เค้าโครงโครงงานวิทยาศาสตร์
 
แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ 2 ชั้น ม.1 ชุดที่ 2
แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ 2 ชั้น ม.1 ชุดที่ 2แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ 2 ชั้น ม.1 ชุดที่ 2
แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ 2 ชั้น ม.1 ชุดที่ 2
 
โครงงานการทำขนมเค้ก
โครงงานการทำขนมเค้กโครงงานการทำขนมเค้ก
โครงงานการทำขนมเค้ก
 
ฐานการเรียนรู้สวนถาด
ฐานการเรียนรู้สวนถาดฐานการเรียนรู้สวนถาด
ฐานการเรียนรู้สวนถาด
 
ระบบย่อยอาหารของสัตว์
ระบบย่อยอาหารของสัตว์ระบบย่อยอาหารของสัตว์
ระบบย่อยอาหารของสัตว์
 
ชีทสรุป ม.4 เทอม 2 โดยครูเนยวิภา.pdf
ชีทสรุป ม.4 เทอม 2 โดยครูเนยวิภา.pdfชีทสรุป ม.4 เทอม 2 โดยครูเนยวิภา.pdf
ชีทสรุป ม.4 เทอม 2 โดยครูเนยวิภา.pdf
 
บทที่ 12 การสังเคราะห์แสง
บทที่ 12  การสังเคราะห์แสงบทที่ 12  การสังเคราะห์แสง
บทที่ 12 การสังเคราะห์แสง
 
ถอดคำประพันธ์มหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรี
ถอดคำประพันธ์มหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรีถอดคำประพันธ์มหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรี
ถอดคำประพันธ์มหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรี
 
การลำเลียงน้ำและอาหารของพืช
การลำเลียงน้ำและอาหารของพืชการลำเลียงน้ำและอาหารของพืช
การลำเลียงน้ำและอาหารของพืช
 

Viewers also liked

ชีววิทยาเรื่อง การหายใจระดับเซลล์ cellular respiration (t)
 ชีววิทยาเรื่อง การหายใจระดับเซลล์ cellular respiration (t) ชีววิทยาเรื่อง การหายใจระดับเซลล์ cellular respiration (t)
ชีววิทยาเรื่อง การหายใจระดับเซลล์ cellular respiration (t)
kasidid20309
 
ธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต
ธรรมชาติของสิ่งมีชีวิตธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต
ธรรมชาติของสิ่งมีชีวิตฟลุ๊ค ลำพูน
 
การแลกเปลี่ยนแก๊ส การคายน้ำ และการลำเลียงสารในพืช
การแลกเปลี่ยนแก๊ส การคายน้ำ และการลำเลียงสารในพืชการแลกเปลี่ยนแก๊ส การคายน้ำ และการลำเลียงสารในพืช
การแลกเปลี่ยนแก๊ส การคายน้ำ และการลำเลียงสารในพืช
Li Yu Ling
 
บทที่ 11 การสืบพันธ์และการเจริญเติบโต
บทที่ 11 การสืบพันธ์และการเจริญเติบโตบทที่ 11 การสืบพันธ์และการเจริญเติบโต
บทที่ 11 การสืบพันธ์และการเจริญเติบโตฟลุ๊ค ลำพูน
 
1วิวัฒนาการ
1วิวัฒนาการ1วิวัฒนาการ
1วิวัฒนาการWan Ngamwongwan
 
ชีวเคมี
ชีวเคมีชีวเคมี
ชีวเคมี
Wichai Likitponrak
 
ข้อสอบวิชาชีววิทยา
ข้อสอบวิชาชีววิทยาข้อสอบวิชาชีววิทยา
ข้อสอบวิชาชีววิทยาNuttarika Kornkeaw
 
ข้อสอบวิชาชีววิทยา+เฉลย By: Meriya Lertsirikarn
ข้อสอบวิชาชีววิทยา+เฉลย By: Meriya Lertsirikarnข้อสอบวิชาชีววิทยา+เฉลย By: Meriya Lertsirikarn
ข้อสอบวิชาชีววิทยา+เฉลย By: Meriya Lertsirikarnflimgold
 
ข้อสอบพร้อมเฉลยอย่างละเอียด O net - วิทยาศาสตร์
ข้อสอบพร้อมเฉลยอย่างละเอียด O net - วิทยาศาสตร์ข้อสอบพร้อมเฉลยอย่างละเอียด O net - วิทยาศาสตร์
ข้อสอบพร้อมเฉลยอย่างละเอียด O net - วิทยาศาสตร์Suriyawaranya Asatthasonthi
 

Viewers also liked (12)

บทที่ 3
บทที่ 3บทที่ 3
บทที่ 3
 
ชีววิทยาเรื่อง การหายใจระดับเซลล์ cellular respiration (t)
 ชีววิทยาเรื่อง การหายใจระดับเซลล์ cellular respiration (t) ชีววิทยาเรื่อง การหายใจระดับเซลล์ cellular respiration (t)
ชีววิทยาเรื่อง การหายใจระดับเซลล์ cellular respiration (t)
 
ช วะ ม
ช วะ มช วะ ม
ช วะ ม
 
ธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต
ธรรมชาติของสิ่งมีชีวิตธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต
ธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต
 
Biology
BiologyBiology
Biology
 
การแลกเปลี่ยนแก๊ส การคายน้ำ และการลำเลียงสารในพืช
การแลกเปลี่ยนแก๊ส การคายน้ำ และการลำเลียงสารในพืชการแลกเปลี่ยนแก๊ส การคายน้ำ และการลำเลียงสารในพืช
การแลกเปลี่ยนแก๊ส การคายน้ำ และการลำเลียงสารในพืช
 
บทที่ 11 การสืบพันธ์และการเจริญเติบโต
บทที่ 11 การสืบพันธ์และการเจริญเติบโตบทที่ 11 การสืบพันธ์และการเจริญเติบโต
บทที่ 11 การสืบพันธ์และการเจริญเติบโต
 
1วิวัฒนาการ
1วิวัฒนาการ1วิวัฒนาการ
1วิวัฒนาการ
 
ชีวเคมี
ชีวเคมีชีวเคมี
ชีวเคมี
 
ข้อสอบวิชาชีววิทยา
ข้อสอบวิชาชีววิทยาข้อสอบวิชาชีววิทยา
ข้อสอบวิชาชีววิทยา
 
ข้อสอบวิชาชีววิทยา+เฉลย By: Meriya Lertsirikarn
ข้อสอบวิชาชีววิทยา+เฉลย By: Meriya Lertsirikarnข้อสอบวิชาชีววิทยา+เฉลย By: Meriya Lertsirikarn
ข้อสอบวิชาชีววิทยา+เฉลย By: Meriya Lertsirikarn
 
ข้อสอบพร้อมเฉลยอย่างละเอียด O net - วิทยาศาสตร์
ข้อสอบพร้อมเฉลยอย่างละเอียด O net - วิทยาศาสตร์ข้อสอบพร้อมเฉลยอย่างละเอียด O net - วิทยาศาสตร์
ข้อสอบพร้อมเฉลยอย่างละเอียด O net - วิทยาศาสตร์
 

Similar to 4

เซลล์ของสิ่งมีชีวิต(สอน)
เซลล์ของสิ่งมีชีวิต(สอน)เซลล์ของสิ่งมีชีวิต(สอน)
เซลล์ของสิ่งมีชีวิต(สอน)Thanyamon Chat.
 
หน่วยของสิ่งมีชีวิต
หน่วยของสิ่งมีชีวิตหน่วยของสิ่งมีชีวิต
หน่วยของสิ่งมีชีวิตTakky Pinkgirl
 
หน่วยของสิ่งมีชีวิต
หน่วยของสิ่งมีชีวิตหน่วยของสิ่งมีชีวิต
หน่วยของสิ่งมีชีวิตsupreechafkk
 
Pont มุนี
Pont มุนีPont มุนี
Pont มุนีmu_nin
 
สิ่งเล็กๆที่เรียกว่าเซลล์
สิ่งเล็กๆที่เรียกว่าเซลล์ สิ่งเล็กๆที่เรียกว่าเซลล์
สิ่งเล็กๆที่เรียกว่าเซลล์
Dom ChinDom
 
4.ข้อสอบ a net วิชาชีววิทยา ปีการศึกษา 2549 new
4.ข้อสอบ a net วิชาชีววิทยา ปีการศึกษา 2549 new4.ข้อสอบ a net วิชาชีววิทยา ปีการศึกษา 2549 new
4.ข้อสอบ a net วิชาชีววิทยา ปีการศึกษา 2549 newเลิกเสี่ยง. ป่าน
 
9789740330530
97897403305309789740330530
9789740330530CUPress
 
2ติวสสวทเซลล์
2ติวสสวทเซลล์2ติวสสวทเซลล์
2ติวสสวทเซลล์
Wichai Likitponrak
 
โครงงานคอม
โครงงานคอมโครงงานคอม
โครงงานคอมPrangwadee Sriket
 
โครงงานคอม
โครงงานคอมโครงงานคอม
โครงงานคอมPrangwadee Sriket
 
Cell
CellCell
โครงงานคอม
โครงงานคอมโครงงานคอม
โครงงานคอมPrangwadee Sriket
 
M.4 สอนเสริมติว
M.4 สอนเสริมติวM.4 สอนเสริมติว
M.4 สอนเสริมติวWeeraphon Parawach
 

Similar to 4 (20)

เซลล์ของสิ่งมีชีวิต(สอน)
เซลล์ของสิ่งมีชีวิต(สอน)เซลล์ของสิ่งมีชีวิต(สอน)
เซลล์ของสิ่งมีชีวิต(สอน)
 
หน่วยของสิ่งมีชีวิต
หน่วยของสิ่งมีชีวิตหน่วยของสิ่งมีชีวิต
หน่วยของสิ่งมีชีวิต
 
4
44
4
 
4
44
4
 
หน่วยของสิ่งมีชีวิต
หน่วยของสิ่งมีชีวิตหน่วยของสิ่งมีชีวิต
หน่วยของสิ่งมีชีวิต
 
Cell2
Cell2Cell2
Cell2
 
Gene2003
Gene2003Gene2003
Gene2003
 
เซลล์
เซลล์เซลล์
เซลล์
 
Pont มุนี
Pont มุนีPont มุนี
Pont มุนี
 
B03
B03B03
B03
 
สิ่งเล็กๆที่เรียกว่าเซลล์
สิ่งเล็กๆที่เรียกว่าเซลล์ สิ่งเล็กๆที่เรียกว่าเซลล์
สิ่งเล็กๆที่เรียกว่าเซลล์
 
4.ข้อสอบ a net วิชาชีววิทยา ปีการศึกษา 2549 new
4.ข้อสอบ a net วิชาชีววิทยา ปีการศึกษา 2549 new4.ข้อสอบ a net วิชาชีววิทยา ปีการศึกษา 2549 new
4.ข้อสอบ a net วิชาชีววิทยา ปีการศึกษา 2549 new
 
9789740330530
97897403305309789740330530
9789740330530
 
2ติวสสวทเซลล์
2ติวสสวทเซลล์2ติวสสวทเซลล์
2ติวสสวทเซลล์
 
โครงงานคอม
โครงงานคอมโครงงานคอม
โครงงานคอม
 
โครงงานคอม
โครงงานคอมโครงงานคอม
โครงงานคอม
 
Cell
CellCell
Cell
 
Genetics
GeneticsGenetics
Genetics
 
โครงงานคอม
โครงงานคอมโครงงานคอม
โครงงานคอม
 
M.4 สอนเสริมติว
M.4 สอนเสริมติวM.4 สอนเสริมติว
M.4 สอนเสริมติว
 

More from ฟลุ๊ค ลำพูน

บทที่ 23 มนุษย์กับความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม
บทที่ 23 มนุษย์กับความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อมบทที่ 23 มนุษย์กับความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม
บทที่ 23 มนุษย์กับความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อมฟลุ๊ค ลำพูน
 
บทที่ 23 มนุษย์กับความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม
บทที่ 23 มนุษย์กับความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อมบทที่ 23 มนุษย์กับความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม
บทที่ 23 มนุษย์กับความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อมฟลุ๊ค ลำพูน
 
บทที่20 ความหลากหลายทางชีวภาพ
บทที่20 ความหลากหลายทางชีวภาพบทที่20 ความหลากหลายทางชีวภาพ
บทที่20 ความหลากหลายทางชีวภาพฟลุ๊ค ลำพูน
 
บทที่ 19 วิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต
บทที่ 19 วิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตบทที่ 19 วิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต
บทที่ 19 วิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตฟลุ๊ค ลำพูน
 
บทที่ 18 พันธุศาสตร์และเทคโนโลยีชีวภาพ
บทที่ 18 พันธุศาสตร์และเทคโนโลยีชีวภาพบทที่ 18 พันธุศาสตร์และเทคโนโลยีชีวภาพ
บทที่ 18 พันธุศาสตร์และเทคโนโลยีชีวภาพฟลุ๊ค ลำพูน
 
บทที่ 17 ยีนและโครโมโซม
บทที่ 17 ยีนและโครโมโซมบทที่ 17 ยีนและโครโมโซม
บทที่ 17 ยีนและโครโมโซมฟลุ๊ค ลำพูน
 
บทที่ 16 การถ่ายทอดทางพันธุกรรม
บทที่ 16 การถ่ายทอดทางพันธุกรรมบทที่ 16 การถ่ายทอดทางพันธุกรรม
บทที่ 16 การถ่ายทอดทางพันธุกรรมฟลุ๊ค ลำพูน
 
บทที่ 15 การตอบสนองของพืช
บทที่ 15 การตอบสนองของพืชบทที่ 15 การตอบสนองของพืช
บทที่ 15 การตอบสนองของพืชฟลุ๊ค ลำพูน
 
บทที่ 14 การสืบพันธ์ของพืชดอก
บทที่ 14  การสืบพันธ์ของพืชดอกบทที่ 14  การสืบพันธ์ของพืชดอก
บทที่ 14 การสืบพันธ์ของพืชดอกฟลุ๊ค ลำพูน
 
บทที่ 13 การสังเคราะห์ด้วยแสง
บทที่ 13 การสังเคราะห์ด้วยแสงบทที่ 13 การสังเคราะห์ด้วยแสง
บทที่ 13 การสังเคราะห์ด้วยแสงฟลุ๊ค ลำพูน
 
บทที่ 12 โครงสร้างหน้าที่ของพืชดอก
บทที่ 12 โครงสร้างหน้าที่ของพืชดอกบทที่ 12 โครงสร้างหน้าที่ของพืชดอก
บทที่ 12 โครงสร้างหน้าที่ของพืชดอกฟลุ๊ค ลำพูน
 
บทที่ 16 การถ่ายทอดทางพันธุกรรม
บทที่ 16 การถ่ายทอดทางพันธุกรรมบทที่ 16 การถ่ายทอดทางพันธุกรรม
บทที่ 16 การถ่ายทอดทางพันธุกรรมฟลุ๊ค ลำพูน
 
บทที่ 9 ระบบต่อมไร้ท่อ
บทที่ 9 ระบบต่อมไร้ท่อบทที่ 9 ระบบต่อมไร้ท่อ
บทที่ 9 ระบบต่อมไร้ท่อฟลุ๊ค ลำพูน
 

More from ฟลุ๊ค ลำพูน (20)

ช วะ ม
ช วะ มช วะ ม
ช วะ ม
 
ช วะ ม
ช วะ มช วะ ม
ช วะ ม
 
บทที่ 23 มนุษย์กับความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม
บทที่ 23 มนุษย์กับความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อมบทที่ 23 มนุษย์กับความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม
บทที่ 23 มนุษย์กับความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม
 
บทที่ 23 มนุษย์กับความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม
บทที่ 23 มนุษย์กับความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อมบทที่ 23 มนุษย์กับความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม
บทที่ 23 มนุษย์กับความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม
 
บทที่ 22 ประชากร
บทที่ 22 ประชากรบทที่ 22 ประชากร
บทที่ 22 ประชากร
 
บทที่ 21 ระบบนิเวศ
บทที่ 21 ระบบนิเวศบทที่ 21 ระบบนิเวศ
บทที่ 21 ระบบนิเวศ
 
บทที่20 ความหลากหลายทางชีวภาพ
บทที่20 ความหลากหลายทางชีวภาพบทที่20 ความหลากหลายทางชีวภาพ
บทที่20 ความหลากหลายทางชีวภาพ
 
บทที่ 19 วิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต
บทที่ 19 วิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตบทที่ 19 วิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต
บทที่ 19 วิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต
 
บทที่ 18 พันธุศาสตร์และเทคโนโลยีชีวภาพ
บทที่ 18 พันธุศาสตร์และเทคโนโลยีชีวภาพบทที่ 18 พันธุศาสตร์และเทคโนโลยีชีวภาพ
บทที่ 18 พันธุศาสตร์และเทคโนโลยีชีวภาพ
 
บทที่ 17 ยีนและโครโมโซม
บทที่ 17 ยีนและโครโมโซมบทที่ 17 ยีนและโครโมโซม
บทที่ 17 ยีนและโครโมโซม
 
บทที่ 16 การถ่ายทอดทางพันธุกรรม
บทที่ 16 การถ่ายทอดทางพันธุกรรมบทที่ 16 การถ่ายทอดทางพันธุกรรม
บทที่ 16 การถ่ายทอดทางพันธุกรรม
 
บทที่ 15 การตอบสนองของพืช
บทที่ 15 การตอบสนองของพืชบทที่ 15 การตอบสนองของพืช
บทที่ 15 การตอบสนองของพืช
 
บทที่ 14 การสืบพันธ์ของพืชดอก
บทที่ 14  การสืบพันธ์ของพืชดอกบทที่ 14  การสืบพันธ์ของพืชดอก
บทที่ 14 การสืบพันธ์ของพืชดอก
 
บทที่ 13 การสังเคราะห์ด้วยแสง
บทที่ 13 การสังเคราะห์ด้วยแสงบทที่ 13 การสังเคราะห์ด้วยแสง
บทที่ 13 การสังเคราะห์ด้วยแสง
 
บทที่ 12 โครงสร้างหน้าที่ของพืชดอก
บทที่ 12 โครงสร้างหน้าที่ของพืชดอกบทที่ 12 โครงสร้างหน้าที่ของพืชดอก
บทที่ 12 โครงสร้างหน้าที่ของพืชดอก
 
บทที่ 16 การถ่ายทอดทางพันธุกรรม
บทที่ 16 การถ่ายทอดทางพันธุกรรมบทที่ 16 การถ่ายทอดทางพันธุกรรม
บทที่ 16 การถ่ายทอดทางพันธุกรรม
 
Doc11
Doc11Doc11
Doc11
 
บทที่ 10 พฤติกรรม
บทที่ 10 พฤติกรรมบทที่ 10 พฤติกรรม
บทที่ 10 พฤติกรรม
 
Doc10
Doc10Doc10
Doc10
 
บทที่ 9 ระบบต่อมไร้ท่อ
บทที่ 9 ระบบต่อมไร้ท่อบทที่ 9 ระบบต่อมไร้ท่อ
บทที่ 9 ระบบต่อมไร้ท่อ
 

Recently uploaded

1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา บาลีไวยากรณ์ ประโยค 1-2 (2511-2567).pdf
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา บาลีไวยากรณ์ ประโยค 1-2 (2511-2567).pdf1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา บาลีไวยากรณ์ ประโยค 1-2 (2511-2567).pdf
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา บาลีไวยากรณ์ ประโยค 1-2 (2511-2567).pdf
สุเมธี​​​​ ตี่พนมโอรัล / សុមេធី ទីភ្នំឱរ៉ាល់ (Sumedhi TyPhnomAoral)
 
แนวความเชื่อ วิธีการปฎิบัติ พระพุทธศาสนามหายาน.pdf
แนวความเชื่อ วิธีการปฎิบัติ พระพุทธศาสนามหายาน.pdfแนวความเชื่อ วิธีการปฎิบัติ พระพุทธศาสนามหายาน.pdf
แนวความเชื่อ วิธีการปฎิบัติ พระพุทธศาสนามหายาน.pdf
Faculty of BuddhismMahachulalongkornrajavidyalaya Roi Et Buddhist College
 
4_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลไทยเป็นมคธ ประโยค ป.ธ.4 (2505-2567).pdf
4_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลไทยเป็นมคธ ประโยค ป.ธ.4 (2505-2567).pdf4_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลไทยเป็นมคธ ประโยค ป.ธ.4 (2505-2567).pdf
4_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลไทยเป็นมคธ ประโยค ป.ธ.4 (2505-2567).pdf
สุเมธี​​​​ ตี่พนมโอรัล / សុមេធី ទីភ្នំឱរ៉ាល់ (Sumedhi TyPhnomAoral)
 
งานนำเสนอ ภาษากับการสื่อสาร เพื่อการพัฒนา.pdf
งานนำเสนอ ภาษากับการสื่อสาร เพื่อการพัฒนา.pdfงานนำเสนอ ภาษากับการสื่อสาร เพื่อการพัฒนา.pdf
งานนำเสนอ ภาษากับการสื่อสาร เพื่อการพัฒนา.pdf
Faculty of BuddhismMahachulalongkornrajavidyalaya Roi Et Buddhist College
 
atwordfamily words with Thai translationtx
atwordfamily words with Thai translationtxatwordfamily words with Thai translationtx
atwordfamily words with Thai translationtx
Bangkok, Thailand
 
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค 1-2 (2510-2567).pdf
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค 1-2 (2510-2567).pdf1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค 1-2 (2510-2567).pdf
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค 1-2 (2510-2567).pdf
สุเมธี​​​​ ตี่พนมโอรัล / សុមេធី ទីភ្នំឱរ៉ាល់ (Sumedhi TyPhnomAoral)
 
การเขียนข้อเสนอโครงการวิจัย (Research Proposal)
การเขียนข้อเสนอโครงการวิจัย (Research Proposal)การเขียนข้อเสนอโครงการวิจัย (Research Proposal)
การเขียนข้อเสนอโครงการวิจัย (Research Proposal)
Prachyanun Nilsook
 
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
สุเมธี​​​​ ตี่พนมโอรัล / សុមេធី ទីភ្នំឱរ៉ាល់ (Sumedhi TyPhnomAoral)
 
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา สัมพันธ์ไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา สัมพันธ์ไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา สัมพันธ์ไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา สัมพันธ์ไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
สุเมธี​​​​ ตี่พนมโอรัล / សុមេធី ទីភ្នំឱរ៉ាល់ (Sumedhi TyPhnomAoral)
 
ภาษาอังกฤษเพื่อการปฏิบัติกรรมฐานในพระพุทธศาสนา
ภาษาอังกฤษเพื่อการปฏิบัติกรรมฐานในพระพุทธศาสนาภาษาอังกฤษเพื่อการปฏิบัติกรรมฐานในพระพุทธศาสนา
ภาษาอังกฤษเพื่อการปฏิบัติกรรมฐานในพระพุทธศาสนา
Faculty of BuddhismMahachulalongkornrajavidyalaya Roi Et Buddhist College
 

Recently uploaded (10)

1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา บาลีไวยากรณ์ ประโยค 1-2 (2511-2567).pdf
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา บาลีไวยากรณ์ ประโยค 1-2 (2511-2567).pdf1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา บาลีไวยากรณ์ ประโยค 1-2 (2511-2567).pdf
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา บาลีไวยากรณ์ ประโยค 1-2 (2511-2567).pdf
 
แนวความเชื่อ วิธีการปฎิบัติ พระพุทธศาสนามหายาน.pdf
แนวความเชื่อ วิธีการปฎิบัติ พระพุทธศาสนามหายาน.pdfแนวความเชื่อ วิธีการปฎิบัติ พระพุทธศาสนามหายาน.pdf
แนวความเชื่อ วิธีการปฎิบัติ พระพุทธศาสนามหายาน.pdf
 
4_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลไทยเป็นมคธ ประโยค ป.ธ.4 (2505-2567).pdf
4_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลไทยเป็นมคธ ประโยค ป.ธ.4 (2505-2567).pdf4_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลไทยเป็นมคธ ประโยค ป.ธ.4 (2505-2567).pdf
4_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลไทยเป็นมคธ ประโยค ป.ธ.4 (2505-2567).pdf
 
งานนำเสนอ ภาษากับการสื่อสาร เพื่อการพัฒนา.pdf
งานนำเสนอ ภาษากับการสื่อสาร เพื่อการพัฒนา.pdfงานนำเสนอ ภาษากับการสื่อสาร เพื่อการพัฒนา.pdf
งานนำเสนอ ภาษากับการสื่อสาร เพื่อการพัฒนา.pdf
 
atwordfamily words with Thai translationtx
atwordfamily words with Thai translationtxatwordfamily words with Thai translationtx
atwordfamily words with Thai translationtx
 
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค 1-2 (2510-2567).pdf
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค 1-2 (2510-2567).pdf1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค 1-2 (2510-2567).pdf
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค 1-2 (2510-2567).pdf
 
การเขียนข้อเสนอโครงการวิจัย (Research Proposal)
การเขียนข้อเสนอโครงการวิจัย (Research Proposal)การเขียนข้อเสนอโครงการวิจัย (Research Proposal)
การเขียนข้อเสนอโครงการวิจัย (Research Proposal)
 
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
 
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา สัมพันธ์ไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา สัมพันธ์ไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา สัมพันธ์ไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา สัมพันธ์ไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
 
ภาษาอังกฤษเพื่อการปฏิบัติกรรมฐานในพระพุทธศาสนา
ภาษาอังกฤษเพื่อการปฏิบัติกรรมฐานในพระพุทธศาสนาภาษาอังกฤษเพื่อการปฏิบัติกรรมฐานในพระพุทธศาสนา
ภาษาอังกฤษเพื่อการปฏิบัติกรรมฐานในพระพุทธศาสนา
 

4

  • 1. แบบทดสอบวัดความรอบรู้ บทที่ 4 เรื่อง เซลล์ ของสิ่ งมีชีวต ิ 1. โรงงานไฟฟาเปรียบเทียบการทางานได้ กบส่ วนใด ้ ั ก ribosome ข mitochondria ค lysosome ง centrosome 2. เราจะไม่ พบนิวเคลียสจากเซลล์ชนิดไหน ก เซลล์ประสาท ข เซลล์กล้ามเนื้อ ค เซลล์เม็ดเลือดแดงของแมว ง เซลล์อสุ จิ 3. organell ทีมีขนาดเล็กไม่ มี membrane หุ้มและเป็ นสารประกอบ nucleoprotein คือ ่ ก endoplasmic reticulum ข golgi body ค chloroplast ง ribosome 4. สมการ C6 H12 O6 + 6O2 6CO2 + 6H2O + 36ATP เกิดทีส่วนใดของเซลล์ ่ ก chloroplast ข centrosome ค mitochondria ง ribosome 5. สมการ 6CO2 + 12H2O C6 H12 O6 + 6H2O + 6O2 เกิดทีส่วนใดของเซลล์ ่ ก chloroplast ข centrosome ค mitochondria ง ribosome 6. สี แดงของดอกไม้ เกิดจากอะไร ก redoplast ข chloroplast ค leucoplast ง chromoplast 7. เซลล์ชนิดใดมีผนังเซลล์ ก สาหร่ ายยูกลีนา ข plasmodium ค แบคทีเรี ย ง paramecium 8. prokaryotic cell คือข้ อใด ก oscillatoria ข fungi ค amoeba ง plasmodium 9. ข้ อใดไม่ พบในเซลล์พช ื ก spindle fiber ข vacuole ค ribosome ง เซลล์เมมเบรน 10. จะไม่ มีขบวน selective permeable ใน organell ใด ก mitochondria ข endoplasmic reticulum ค vacuole ง ribosome
  • 2. 11. เซลล์เม็ดเลือดแดงของคนมีขนาดประมาณ 4 ไมครอน เมื่อเทียบเป็ นมิลลิเมตรจะได้ เท่าไร ก 1 / 1,000 ม.ม. ข 1 / 250 ม.ม. ค 4 / 250 ม.ม. ง 1 / 10,000 ม.ม. 12. เซลล์พวกไหนควรมี chromosome และ monoploid หรือ haploid ก เซลล์ร่างกาย ข เซลล์ไซโกต ค เซลล์ผนังรังไข่ ง เซลลืไข่ 13. ข้ อที่แตกต่ างจากข้ ออืนๆ มากทีสุด คือ ่ ่ ก inclusion ข mitochondria ค chloroplast ง ribosome 14. organell ใดทีเ่ ชื่ อว่ ามีความสั มพันธ์ กบการหดหายไปของหางลูกอ๊ อด ั ก centrosome ข lysosome ค golgi body ง vacuole 15. ผลทีเ่ กิดจากการกินแบบอะมีบา (phagocytosis) คือข้ อใด ก contractile vacuole ข food vacuole ค lysosome ง centrosome 16. ถ้ าหากเยือหุ้ม lysosome แตกออกผลที่เกิดขึนคือ ่ ้ ก plasmolysis ข osmosis ค glycolysis ง autolysis 17. มีผ้ ูเชื่ อกันว่ า mitochondria เป็ นสิ่ งมีชีวตหนึ่งทีเ่ ข้ ามาอาศัยกับเซลล์ของสิ่ งมีชีวตอืนแบบซิม ิ ิ ่ ไบโอซีสทีว่า mitochondria เป็ นสิ่ งมีชีวตหนึ่งนั้น หมายถึงสิ่ งมีชีวตชนิดใด ่ ิ ิ ก สาหร่ าย ข รา ค แบคทีเรี ย ง โพรโทซัว 18. มีผ้ ูเชื่ อกันว่ า chloroplast เป็ นสิ่ งมีชีวตหนึ่งทีเ่ ข้ ามาอาศัยกับเซลล์ของสิ่ งมีชีวตอืนแบบซิม ิ ิ ่ ไบโอซีสทีว่า chloroplast เป็ นสิ่ งมีชีวตหนึ่งนั้น หมายถึงสิ่ งมีชีวตชนิดใด ่ ิ ิ ก สาหร่ ายสี เขียวแกมน้ าเงิน ข สาหร่ ายสี เขียว ค สาหร่ ายยูกลีนา ง สาหร่ ายสี เขียวแกมทอง 19. สารทีเ่ ป็ นองค์ ประกอบที่สาคัญของเซลล์เมมเบรนคือ ก กรดนิวคลีอิก ข คาร์โบไฮเดรต ค phospholipids ง triglyceride 20. ผู้ประดิษฐ์ กล้ องจุลทรรศน์ อเิ ล็กตรอน คือ ก Leeuwenhoek ข Purkinje ค Schwann และ Schleiden ง Maxkhnoll และ E.R.uska 21. ทีเ่ ลนส์ ตาเขียนว่า 10 X และทีเ่ ลนส์ วตถุเขียนว่ า 40 X แสดงว่ามีกาลังขยายเท่ากับเท่าไร ั ก 400 เท่า ข 800 เท่า ค 40 เท่า ง 80 เท่า 22. DNA เป็ นสารทีพบได้ ในนิวเคลียสแต่ กสามารถพบได้ ในไซโทพลาซึมด้ วย โดยอยู่ภายใน ่ ็ organell ก centriole ข ribosome ค mitochondria ง golgi body
  • 3. 23. สิ่ งมีชีวตทีเ่ ป็ นสาร nucleoprotein เช่ นเดียวกับ ribosome คือ ิ ก แบคทีเรี ย ข ไวรัส ค รา ง ยีสต์ 24. ไวรัสจัดเป็ นสิ่ งมีชีวตทั้งๆ ทีไวรัสไม่ เป็ นเซลล์ เหตุผลทีจัดไวรัสเป็ นสิ่ งมีชีวตคือ ิ ่ ่ ิ ก สื บพันธุ์ได้ ข กินอาหารได้ ค ปรับตัวได้ ง สร้างอาหารได้ 25. สิ่ งทีเ่ ราสามรถพบได้ ในเซลล์พช แต่ ไม่ สามารถพบได้ เซลล์สัตว์คือ ื ก cell membrane , chloroplast ข cell wall , cell membrane ค cell wall , vacuole ง cell wall , chloroplast 26. cellular respiration เกิดที่ organell ใด ก mitochondria ข centrosome ค chloroplast ง lysosome 27. สารประกอบ RNA นอกจากจะพบที่ ribosome แล้วยังพบทีส่วนใด ่ ก โครโมโซม ข นิวคลีโอลัส ค เยือหุมนิวเคลียส ่ ้ ง เยือหุมเซลล์ ่ ้ 28. ส่ วนของไม้ คอร์ กทีมีลกษณะเป็ นห้ องๆ ที่ Robert Hooke เป็ นผู้ค้นพบให้ ชื่อเซลล์ คือ ่ ั ก เยือหุมเซลล์ ่ ้ ข protoplasm ค ผนังเซลล์ ง cytoplasm 29. ส่ วนของเซลล์ ททาหน้ าทีเ่ ป็ นท่อทางผ่านของสารต่ างๆ ในเซลล์คือ ี่ ก endoplasmic reticulum ข microsome ค centrosome ง lysosome 30. ข้ อใดถูกต้ อง ก ไมโทคอนเดรี ยพบมากในเซลล์ไข่เม่นทะเล ไม่พบเลยในเซลล์เยือบุผว ่ ิ ข ไมโทคอนเดรี ยพบมากในเซลล์แบคทีเรี ย ไม่พบเลยในเซลล์ไข่เม่นทะเล ค ไมโทคอนเดรี ยพบมากในเซลล์ไข่เม่นทะเล ไม่พบเลยในเซลล์แบคทีเรี ย ง ไมโทคอนเดรี ยพบมากในเซลล์ตบและเซลล์แบคทีเรี ยที่กาลังแบ่งตัว ั 31. ส่ วนอะโครโซมของอสุ จิเปลียนแปลงมาจาก organell ใด ่ ก lysosome ข centrosome ค golgi complex ง endoplasmic reticulum 32. suicide bag of cell หรือถุงฆ่ าตัวตายหมายถึงอะไร ก vacuole ข lysosome ค golgi complex ง vesicle 33. golgi complex ควรพบมากในอวัยวะส่ วนใด ก ตับ กระเพาะปัสสาวะ ข เซลล์ประสาท เซลล์ผวหนัง ิ ค เซลล์ต่อมหมวกไต เซลล์ต่อมน้ าตา ง เซลล์ต่อมน้ าลาย และเซลล์ต่อมน้ านม
  • 4. 34. สารเคลือบเซลล์มีหน้ าที่สาคัญคือข้ อใด ก ควบคุมการเข้าออกและการลาเลียงสาร ่ ข คุมครองเซลล์ทาให้เซลล์อยูรอดปลอดภัย ้ ค ทาหน้าที่จากัดขนาดเซลล์ไม่ให้ใหญ่หรื อเล็กเกินไป ง ทาให้เซลล์พวกเดียวกันรวมเป็ นเนื้อเยือและอวัยวะ ่ 35. โครงสร้ างที่ทาหน้ าทีเ่ ป็ นศูนย์ รวมของ RNA และทาหน้ าทีสร้ างไรโบโซมคือโครงสร้ างใด ่ ก โครโมโซม ข นิวคลีโอโปรตีน ค นิวคลีโอลัส ง เอ็นโดพลาสมิก เรติคูลม ั 36. organell ทีไม่ มีเยือหุ้มคือ organell ใด ่ ่ ก ไรโบโซมและไลโซโซม ข ไลโซโซมและเซนทริ โอล ค เซนทริ โอลและกอลจิคอมเพล็กซ์ ง ไรโบโซมและเซนทริ โอล 37. ข้ อใดถูกต้ องในเรื่องของเอนโดพลาสมิก เรติคูลม ั ก ชนิดผิวขรุ ขระมีไรโบโซมเกาะชนิดเรี ยบกาจัดสารพิษ ข ชนิดผิวเรี ยบสร้างโปรตีนชนิดขรุ ขระสร้างสเตอรอยด์ ค ชนิดผิวขรุ ขระเท่านั้นที่ทาหน้าที่ลาเลียงสาร ง ทั้งสองชนิดทาหน้าที่เหมือนกันแต่ชนิ ดผิวขรุ ขระทาได้ดีและเร็ วกว่า 38. เซลล์ ของยูกลีนาแตกต่ างจากเซลล์ ของสาหร่ ายทัวไปในข้ อใด ่ 1. ไม่มี cell wall 2. มี contractile vacuole 3. มี photosynthetic pigments แบบเดียวกับสาหร่ ายเกลัยวทอง 4. สามารถดารงชีวิตแบบ heterotroph ได้ 39. สาเหตุที่ทาให้ เห็ดราต้ องดารงชี วตแบบภาวะย่ อยสลาย (saprophytism) คืออะไร ิ ก ไม่มีราก ข ไม่มีผนังเซลล์ ค ไม่มีคลอโรพลาสต์ ง ไม่มีนิวเคลียสที่แท้จริ ง 40. โครงสร้ างใดทาหน้ าทีสร้ างโครโมโซม ่ ก ดี เอ็น เอ ข กอลจิคอมเพล็กซ์ ค ร่ างแหเอนโดพลาซึ ม ง นิวคลีโอลัส 41. เซลล์ทมีการสั งเคราะห์ โปรตีนขึนมาใช้ เฉพาะภายในเซลล์เท่านั้น เราจะพบไรโบโซมส่ วนมาก ี่ ้ ในบริเวณใด ก กอลจิคอมเพล็กซ์ ข ร่ างแหเอนโดพลาซึ ม ่ ค เยือหุมนิวเคลียส ่ ้ ง ลอยอยูอิสระในไซโทพลาซึ ม
  • 5. 42. ลักษณะทีแยกสาหร่ ายสี เขียวแกมนาเงินออกจากสาหร่ ายสี เขียวคือ ่ ้ ก ปริ มาณเม็ดคลอโรพลาส ข ขนาดลาต้น ค ลักษณะนิวเคลียส ง การสื บพันธุ์แบบอาศัยเพศ 43. สารเคลือบเซลล์สัตว์คือสารตัวใด ก เพกติน ข คิวทิน ค ซูเบอลิน ง ไกลโคโปรตีน 44. เยือหุ้มเซลล์ มีคุณสมบัติเป็ นเยือเลือกผ่ าน หมายถึง ่ ่ ่ ก ไม่ยอมให้สารที่มีโมเลกุลใหญ่ผาน ข ไม่ยอมให้สารอินทรี ยทุกชนิดผ่าน ์ ค ยอมให้สารต่างชนิดกันผ่านได้ดวยอัตราไม่เท่ากัน ้ ง ยอมให้น้ าผ่านได้อย่างเดียว 45. ข้ อใดกล่ าวถึงไรโบโซมอย่ างถูกต้ อง ก ทาหน้าที่ในการแบ่งเซลล์ ข เป็ นส่ วนที่เป็ น DNA ค เป็ นแหล่งสร้างคาร์ โบไฮเดรต ง เป็ นแหล่งสร้างโปรตีน 46. จากการศึกษาสารเคลือบเซลล์ นักเรียนทราบไหมว่าข้ อใดเป็ นสารเคลือบเซลล์ของเซลล์สัตว์ ก เซลลูโลส คิวทิน ข ซูเบอลิน เพกทิน ค ไกลโคโปรตีน ไคทิน ง ไกลโคโปรตีน คิวทิน 47. นักวิทยาศาสตร์ แบ่ งสิ่ งมีชีวตออกเป็ นกลุ่มโพรทิสตาและโมนีราโดยใช้ ลกษณะของข้ อใด ิ ั ก ขนาดของเซลล์ ข ขนาดของนิวเคลียส ค ลักษณะการดารงชีวต ิ ง ลักษณะของนิวเคลียส 48. ข้ อใดแสดงความสั มพันธ์ ระหว่ างโครงสร้ างและหน้ าทีอย่ างไม่ ถูกต้ อง ่ ก ไรโบโซม - แหล่งสังเคราะห์โปรตีน ข เซนทริ โอล - การเคลื่อนที่ของโครโมโซม ค นิวคลีโอลัส - แหล่งสังเคราะห์ DNA ง ร่ างแหเอนโดพลาซึ มที่ไม่มีไรโบโซมเกาะที่ผวสังเคราะห์ไขมันบางชนิ ด ิ 49. ถ้ าเรานายีนสายพันธุ์หนึ่งไปแยกเลียงในสภาพทีมีออกซิเจนและไม่ มีออกซิเจนเป็ นเวลา 24 ้ ่ ชั่ วโมง ผลการศึกษาข้ อใดทีไม่ ถูกต้ อง ่ ก อัตราการสังเคราะห์โปรตีนของยีนที่เลี้ยงในสภาพที่มีออกซิ เจนจะสู งกว่า ข ยีนที่เลี้ยงในสภาพที่มีออกซิ เจนจะมีอตราการเจริ ญสู งกว่า ั ค ขนาดของเซลล์ยนที่เลี้ยงในสภาพที่มีออกซิ เจนจะมีขนาดเล็กกว่า ี ง ยีนที่เลี้ยงในที่ไม่มีออกซิ เจนจะมีจานวนไมโทคอนเดรี ยต่อเซลล์สูง
  • 6. 50. สิ่ งมีชีวตทั้งหมดนีจัดอยู่ในอาณาจักรโพรทิสตา ถ้ าเราจะใช้ ลกษณะของเซลล์ เป็ นเกณฑ์ ในการ ิ ้ ั จาแนกกลุ่มเสี ยใหม่ ท่ านคิดว่ าสิ่ งมีชีวตข้ อใดทีน่าจะแยกมาอยู่ในกลุ่มเดียวได้ ด้วยเกณฑ์ นี้ ิ ่ ก แบคทีเรี ย ยูกลีนา ข พารามีเซียม สไปรู ไรนา ค แบคทีเรี ย ยีสต์ ง แบคทีเรี ย ออสซิลลาทอเรี ย 51. การเคลือนไหวของตัวอะมีบาเกิดจากอะไร ่ ก การเคลื่อนไหวของไมโครทูบูล ข การทางานของไคนีโตโซม ค การใช้ทิวป์ ฟี ต ง การเลื่อนของแอกตินและไมโอซิน 52. เซลล์ กล้ ามเนือหัวใจมีออร์ แกเนลชนิดใดมากทีสุด ้ ่ ก ไมโทคอนเดรี ย ข กอลจิคอมเพล็กซ์ ค ไรโบโซม ง ร่ างแหเอนโดพลาซึ ม 53. ลักษณะข้ อใดของเซลล์ พชทาให้ แตกต่ างจากเซลล์สัตว์ ื ก ส่ วนใหญ่ไม่มีเซนทริ โอล ข ส่ วนใหญ่ไม่มีเซนทริ โอลและไลโซโซม ค มีไมโทคอนเดรี ยน้อยกว่า ง มีคลอโรพลาสต์มากกว่า 54. 9 + 2 คือออร์ แกเนลใด ก เซนทริ โอลและเบซอลบอดี ข ซีเลียและแฟลเจลลา ค เซนทริ โอลและซีเลีย ง เซนทริ โอลและแฟลเจลลา 55. 9 + 0 คือออร์ แกเนลใด ก เซนทริ โอลและแฟลเจลลา ข ซีเลียและเบซอลบอดี ค เซนทริ โอลและเบซอลบอดี ง แฟลเจลลาและซีเลีย 56. ข้ อใดกล่ าวถูกต้ อง ก 9 กลุ่มของเซนทริ โอลมีหน่วยไมโครทูบูลกลุ่มละ 2 หน่วย ข 9 กลุ่มของซี เลียมีหน่วยไมโครทูบูลกลุ่มละ 3 หน่วย ค เบซอลบอดีและเซนทริ โอลมี 9 กลุ่มด้านนอก แต่ละกลุ่มมี 3 หน่วยของไมโครทูบูล ง แฟลเจลลาและซีเลียมี 9 กลุ่ม โดยแต่ละกลุ่มมี 3 หน่วยของไมโครทูบูลและ 2 หน่วยของ ไมโครทูบูลตรงกลาง 57. ในการศึกษาสิ่ งมีชีวตด้ วยกล้ องจุลทรรศน์ ธรรมดาแบบใช้ กระจกปรับแสง ถ้ าท่ านต้ องการ ิ ปรับแสงให้ พอเหมาะทาได้ จาก ก ใช้หลอดไฟภายในห้อง เพิ่มแสงให้มากขึ้น ข ปรับกระจกเงาใต้แท่นวางวัตถุและหมุนปุ่ มปรับภาพชนิดหยาบและชนิดละเอียด ค ปรับไดอะแฟรมให้ได้แสงเต็มที่และหมุนปรับภาพชนิดหยาบและชนิดละเอียด ง ปรับกระจกเงาใต้แท่นวางวัตถุและปรับไดอะแฟรม
  • 7. 58. สารทีพบมากในผนังเซลล์ของเห็ดคือสารชนิดใด ่ ก เพกทิน ข เซลลูโลส ค ไคทิน ง ซูเบอลิน 59. ออร์ แกเนลทีสามารถสร้ างสารพลังงานสู ง ATP ได้ คือออร์ แกเนลชนิดใด ่ ก ไมโทคอนเดรี ย ข ไมโทคอนเดรี ยและกอลจิคอมเพล็กซ์ ค ไมโทคอนเดรี ยและเอนโดพลาสมิก เรติคูลม ั ง ไมโทคอนเดรี ยและคลอโรพลาสต์ 60. ข้ อใดเป็ นคุณสมบัติของคลอโรพลาสต์ ก เป็ นโครงสร้างที่พบในพืชและสาหร่ าย ข เป็ นส่ วนสาคัญในการสังเคราะห์แสง ค เป็ นกลุ่มอนุภาคของคลอโรฟิ ลล์ที่ไม่มีเยือหุ ม ่ ้ ง คลอโรฟิ ลล์และคาโรทีนอยด์เป็ นรงควัตถุภายใน 61. การแพร่ (diffusion) เกิดจาก ก พลังงานจลน์ของโมเลกุล และการเคลื่อนที่มีทิศทางไม่แน่นอน ข พลังงานศักย์ของโมเลกุล และการเคลื่อนที่มีทิศทางไม่แน่นอน ค พลังงานจลน์ของโมเลกุล และการเคลื่อนที่มีทิศทางที่แน่นอน ง พลังงานศักย์ของโมเลกุล และการเคลื่อนที่มีทิศทางที่แน่นอน 62. ความเร็วในการเคลือนที่แบบการแพร่ จะขึนอยู่กบ ่ ้ ั ก อุณหภูมิ ข ความแตกต่างของความเข้มข้น ค ขนาดของโมเลกุล ง ถูกทุกข้อ 63. นาจะ osmosis เข้ าสู่ เซลล์ เมื่อสารละลายภายนอกเซลล์ เป็ นชนิด ้ ก isotonic solution ข hypertonic solution ค Saturated solution ง hypotonic solution 64. เยือเซลล์ทสามารถที่ทาให้ เกิดขบวนการ osmosis ได้ จะต้ องมีคุณสมบัติ ่ ี่ ก semipermeable membrane ข selective permeable membrane ค spongy permeable membrane ง ข้อ ก และ ข ถูก 65. การดูดนาของเปลือกหุ้มเมล็ดทาให้ เมล็ดพองโตขึนเรียกว่า ้ ้ ก osmosis ข diffusion ค absorbtion ง imbibition 66. ส่ วนของเซลล์ ททาให้ ปริมาณนาภายในเซลล์ของพวกโพรโทซัวคงที่ คือ ี่ ้ ก cell membrane ข nucleus ค contractile vacuole ง food vacuole
  • 8. 67. สารละลายที่ทาให้ เกิด plasmolysis คือ ก isotonic solution ข hypotonic solution ค hypertonic solution ง saturated solution 68. สารละลายชนิดหนึ่งเมื่อนาเซลล์เม็ดเลือดแดงใส่ ลงไปเซลล์เม็ดเลือดแดงจะแตกสลาย แต่ เมื่อ เอาเซลล์ของสาหร่ ายใส่ ลงไปเซลล์จะไม่ แตกเป็ นเพราะ ก สารละลายนั้นเป็ น hypotonic ต่อเม็ดเลือดแดง แต่เป็ น isotonic ต่อเซลล์สาหร่ าย ข สารละลายนั้นเป็ น hypotonic ต่อเม็ดเลือดแดง แต่เป็ น hypertonic ต่อเซลล์สาหร่ าย ค สารละลายนั้นเป็ น hypotonic ต่อเม็ดเลือดแดง แต่สาหร่ ายมีผนังเซลล์ เซลล์จึงไม่แตก ง สารละลายนั้นเป็ น hypotonic ต่อเม็ดเลือดแดง แต่เซลล์สาหร่ ายมีความเข้มขเนสู งกว่า เซลล์จึงไม่แตก 69. การทีสาร X ภายในเซลล์มีมากกว่าภายนอกเซลล์ แต่ สาร X ภายนอกเซลล์ กสามารถเข้ าสู่ ่ ็ เซลล์ได้ แสดงว่าเกิดขบวนนาเข้ าแบบ ก diffusion ข osmosis ค active transport ง passive transport 70. Brownian movement หมายถึง ก การเคลื่อนที่แบบบราวน์ ข การเคลื่อนที่อย่างไร้ทิศทางของอนุ ภาค ค การเคลื่อนที่โดยแรงธรรมชาติ ง การเคลื่อนที่ดวยพลังงานจลน์ ้ 71. ภาวะสมดุลของการแพร่ หมายถึง ก ภาวะที่ไม่เกิดการแพร่ อีกแล้ว ข ภาวะที่การแพร่ มีทิศทางเดียวเท่านั้น ค ภาวะที่สารทุกชนิดมีโมเลกุลเท่ากัน ง ภาวะที่มีการเคลื่อนที่ของสารเข้าหรื อออกในจานวนเท่าๆ กัน 72. ส่ วนประกอบของเยือเซลล์ทสาคัญ คือ ่ ี่ ก โปรตีน ไขมัน กรดนิวคลีอิก ข โปรตีน ไขมัน คาร์โบไฮเดรต กรดนิวคลีอิก ค โปรตีน ไขมัน คาร์ โบไฮเดรต ง ไขมัน กรดนิวคลีอิก คาร์ โบไฮเดรต 73. สารต่ างๆ ทีผ่านเยือเซลล์ได้ ตามลาดับความเร็ว คือ ่ ่ ก น้ า สารละลายน้ า สารอินทรี ย ์ สารประจุลบ สารประจุบวก ข น้ า สารอินทรี ย ์ ก๊าซละลายน้ า สารประจุบวก สารประจุลบ ค น้ า ก๊าซละลายน้ า สารอินทรี ย ์ สารประจุบวก สารประจุลบ ง น้ า ก๊าซละลายน้ า สารประจุลบ สารประจุบวก สารอินทรี ย ์ 74. การเคลือนทีโดยอาศัยตัวพามักพบได้ ในข้ อใด ่ ่ ก การเกิด Na+ K+ Pump ข การดูดซึมกลูโคสและไขมัน ค การดูดเกลือกลับที่หลอดไต ง การกาจัดยูเรี ยที่กระเพาะปั สสาวะ
  • 9. 75. พิโนไซโทซิส (pinocytosis) มักพบกับการนาสารพวกไหน ก สารพวกไขมันและสารที่ละลายในไขมันได้ดี ข สารพวกเกลือแร่ ที่มีประจุเช่น Na+ K+ ค สารพวกโปรตีนซึ่ งละลายไม่ได้ในไขมัน ง สารพวกวิตามินต่างๆ 76. การแพร่ แบบฟาซิลเิ ทตต้ องอาศัยตัวพา ตัวพานีเ้ ป็ นสารชนิดใด ก ไขมัน ข คาร์โบไฮเดรต ค กรดนิวคลีอิก ง โปรตีน 77. เมื่อนาเซลล์เม็ดเลือดแดงและเซลล์เยือหอมใส่ ลงในสารละลาย NaCl 5 % ปรากฏการณ์ที่ ่ เรียกว่าพลาสโมไลซิศเกิดกับเซลล์ชนิดใด ก เซลล์เม็ดเลือดแดง ข เซลล์เยือหอม ่ ค เซลล์ท้ งสองชนิด ั ง ไม่เกิดทั้งสองชนิด 78. ข้ อใดกล่ าวถึงกระบวนการลาเลียงสารแบบทีต้องใช้ พลังงานอย่ างถูกต้ อง ่ ก การดูดซึ มแร่ ธาตุของเซลล์ขนรากพืช ข การดูดซึมโมเลกุลของสารที่ลาไส้เล็ก ค การดูดซึ มกลูโคสและกรดอะมิโนกลับที่บริ เวณผนังท่อของหน่วยไต ง ถูกทุกข้อ 79. สารในข้ อใดมีแรงดันออสโมซิสน้ อยทีสุด ่ ก น้ าปลา ข น้ าทะเล ค น้ าเชื่อม ง น้ าแป้ ง 80. การเกิด pinocytosis พบได้ ในเซลล์ชนิดใด ก เซลล์เม็ดเลือดขาว ข เซลล์เม็ดเลือดแดง ค เซลล์ของท่อหน่วยไต ง เซลล์ตบอ่อน ั 81. เซลล์ เม็ดเลือดแดงจะแตกเมื่ออยู่ในสารละลายชนิดใด ก น้ าเกลือ 0.85 % ข น้ าดื่ม ค น้ าหวาน ง น้ าส้ม 82. ถ้ าต้ องการศึกษาผนังเซลล์และเยือเซลล์ของสาหร่ ายหางกระรอกจะแยกองค์ ประกอบทั้งสอง ่ ออกจากกันได้ อย่างไร ก ใส่ น้ าประปา ข ใส่ ในสารละลายน้ าเกลือ 0.85 % ค ใส่ ในสารละลายน้ าเกลือ 5 % ง ใส่ ในน้ าแป้ ง 83. เอนโดโซโทซิส คือข้ อใด ก ฟิ โนไซโทซิส ข ฟาโกไซโทซิส ค ทั้งข้อ ก และ ข ง ไม่มีขอถูก ้ 84. การนาสารเข้ าสู่ เซลล์ โดยอาศัยตัวรับ ใช้ สารชนิดใด (1) ทีบริเวณใด (2) ่ ก (1) โปรตีน (2) ที่เยือเซลล์ ่ ข (1) ไขมัน (2) ที่เยือเซลล์ ่ ค (1) โปรตีน (2) ที่ผนังเซลล์ ง (1) ไขมัน (2) ที่ผนังเซลล์
  • 10. 85. การเคลือนทีของไอออนต่ างๆ จากทีมีความเข้ มข้ นต่าเข้ าสู่ เซลล์หรือออร์ แกเนลล์ ของเซลล์ซึ่ง ่ ่ ่ มีความเข้ มข้ นของไอออนสู งเรียกกระบวนการนีว่า แอกทิฟทรานสปอร์ ต ข้ อใดไม่ ถือว่ าเป็ น ้ แอกทิฟทรานสปอร์ ต ก คาร์ บอนไดออกไซด์เข้าสู่ เซลล์ ข กลูโคสถูกดูดเข้าสู่ กระแสเลือด ค โพแทสเซี ยมอิออนถูกดูดเข้าสู่ เซลล์ ง ฟอสฟอรัสจากดินเข้าสู่ เซลล์พืช 86. ถ้ านาเซลล์สาหร่ ายหางกระรอกไปแช่ นาเกลือทีมีความเข้ มข้ น 10 % ซึ่งความเข้ มข้ นนีสูงกว่ า ้ ่ ้ ไซโทพลาซึมของเซลล์จะเกิดปรากฏการณ์ ทเี่ รียกว่า ก ออสโมซิส ข ฟิ โนไซโทซิส ค พลาสโมไลซิส ง ฟาโกไซโทซิส 87. เม็ดเลือดขาวมีการเคลือนทีแบบใด ่ ่ ก amoeboid movement ข Brownian movement ค turgor movement ง cyclosis 88. กระบวนการทีทาให้ เกิดการนากระแสประสาท ่ ก กระบวนการโซเดียม โพแทสเซี ยมปั๊ ม ข กระบวนการ passive transport ค กระบวนการปฏิกิริยาเคมี ง กระบวนการปฏิกิริยาเคมี 89. แร่ ธาตุในดินถูกนาเข้ าสู่ รากพืชได้ โดยวิธีใด ก ทรานสพิเรชันพูล ข แอกทิฟทรานสปอร์ ต ค แรงดันราก ง ถูกทั้ง ก และ ค 90. การแลกเปลียนแก๊สในอัลวิโอลัสในปอดอาศัยวิธีใด ่ ก การแพร่ ข ออสโมซิส ค แอกทิฟทรานสปอร์ ต ง แรงดันจากอากาศภายนอกที่เราหายใจเข้าไป ใช้ คาตอบต่ อไปนีตอบคาถามข้ อ 91 - 93 ้ ก prophase ข metaphase ค anaphase ง telophase 91. ระยะทีโครโมโซมมาเรียงตัวกันอยู่บริเวณกลางเซลล์ ่ 92. ระยะทีเ่ ยื่อหุ้มนิวเคลียสสลายไปและเซนทริโอลแบ่ งออกเป็ น 2 ส่ วน 93. ระยะทีโครโมโซมถูกดึงโดยสายใย spindle fiber ทาให้ แยกออกจากกัน ่ 94. ข้ อใดถูกต้ อง ก เซลล์พืชไม่มี spindle fiber แต่เซลล์พืชมีการสร้าง cell plate ข เซลล์พืชมี spindle fiber และเซลล์พืชมีการสร้าง cell plate ค เซลล์สัตว์มี spindle fiber และเซลล์สัตว์มีการสร้าง cell plate ง เซลล์สัตว์ไม่มี spindle fiber และไม่มีการสร้าง cell plate 95. ผลการแบ่ งเซลล์แบบ meiosis ทาให้ ได้ ก 2 เซลล์ โครโมโซม n ข 4 เซลล์ โครโมโซม 2n
  • 11. ค 2 เซลล์ โครโมโซม 3n ง 4 เซลล์ โครโมโซม n 96. ผลการแบ่ งเซลล์แบบ mitosis ทาให้ ได้ ก 2 เซลล์ โครโมโซม 2n ข 2 เซลล์ โครโมโซม n ค 2 เซลล์ โครโมโซม 3n ง 4 เซลล์ โครโมโซม 2n 97. การแบ่ งเซลล์ แบบ meiosis จะพบได้ ที่ ก เซลล์ไต ข เซลล์หลอดอสุ จิ ค เซลล์ประสาท ง เซลล์มดลูก 98. ไข่ แดง (yolk) คือส่ วนของ ก อาหารสะสมที่เก็บไว้ใน vacuole ข อาหารสะสมที่เก็บไว้ที่ lysosome ค นิวเคลียสของเซลล์ไข่ ง นิวคลีโอโซมของไข่ 99. การสั งเคราะห์ โปรตีนเกิดขึนโดย ้ ก DNA ข RNA ค ribosome ง chromosome 100. คุณสมบัติเฉพาะข้ อหนึ่งของ DNA คือ ก reproduce ข catalyse ค replicate ง metabolize -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------เฉลยแบบทดสอบวัดความรอบรู้ บทที่ 4 เรื่อง เซลล์ ของสิ่ งมีชีวต ิ 1. ข 2. ค 3. ง 4. ค 5. ก 6. ง 7. ค 8. ก 9. ก 10. ง 11. ข 12. ง 13. ก 14. ข 15. ข 16. ง 17. ค 18. ก 19. ค 20. ง 21. ก 22. ค 23. ข 24. ก 25. ง 26. ก 27. ข 28. ค 29. ก 30. ค 31. ค 32. ข 33. ง 34. ง 35. ค 36. ง 37. ก 38. ง 39. ค 40. ก 41. ง 42. ค 43. ง 44. ค 45. ง 46. ค 47. ง 48. ค 49. ค 50. ง 51. ง 52. ก 53. ข 54. ข 55. ค 56. ค 57. ง 58. ค 59. ง 60. ง 61. ก 62. ง 63. ง 64. ง 65. ง 66. ค 67. ค 68. ค 69. ค 70. ข 71. ง 72. ค 73. ก 74. ข 75. ค 76. ง 77. ค 78. ง 79. ง 80. ค 81. ข 82. ค 83. ค 84. ก 85. ข 86. ค 87. ก 88. ก 89. ข 90. ก 91. ข 92. ก 93. ค 94. ก 95. ง 96. ก 97. ข 98. ก 99. ข 100. ค