SlideShare a Scribd company logo
1 of 41
Download to read offline
บทที่ 18
พันธุศาสตร์และ
เทคโนโลยีทางชีวภาพ
เทคโนโลยีชีวภาพ (Biotechnology)
• การใช้เทคโนโลยีเพื่อทําให้สิ่งมีชีวิต หรือองค์ประกอบของ
สิ่งมีชีวิตมีสมบัติตามต้องการ ยกตัวอย่างเช่น
– การใช้จลินทรียในการหมัก
ุ
์
– การพัฒนาปรับปรุงพันธุพืชและสัตว์
์
– เทคโนโลยีชีวภาพที่เกี่ยวกับ DNA (DNA Technology)
พันธุวิศวกรรม (Genetic Engineering)
• พันธุวิศวกรรม (genetic engineering) หมายถึง เทคโนโลยีที่ทา
ํ
การเคลื่อนย้ายยีน (gene) จากสิ่งมีชีวิตสปี ชีสหนึ่ งไปสู่สิ่งมีชีวิต
์
อีกสปี ชีสหนึ่ ง เป็ นการสร้าง DNA สายผสม (recombinant DNA)
์
• สร้างสิ่งมีชีวิตรูปแบบใหม่ (novel) ที่มีคณลักษณะแบบใหม่ ซึ่ง
ุ
ไม่เคยปรากฏในธรรมชาติมาก่อน
• เปลี่ยนแปลงหน่ วยพันธุกรรม
หรือ DNA ของสิ่งมีชีวิต
• เคลื่อนย้ายยีนที่อยู่เหนื อกฎเกณฑ์
ธรรมชาติ สิ่งมีชีวิตที่เกิดขึนอาจมียีน
้
ลูกผสมแบบใหม่
การโคลนยีน
Cloning : หมายถึง กระบวนการสร้างสิ่งที่มีลกษณะทางพันธุกรรม
ั
เหมือนกันกับสิ่งที่มีอยู่ก่อน
มนุษย์ร้จกโคลนนิ่งมาแต่สมัยโบราณแล้ว แต่เป็ นการรู้จกโคลนนิ่ง
ู ั
ั
ที่เกิดกับพืช นันคือ การขยายพันธุพืชโดย ไม่อาศัยเพศ เช่น การ
่
์
แตกหน่ อ
http://www.youtube.com/watch?v=OCro5zfc3uc&feature=player
_embedded#at=42
กระบวนการในพันธุวิศวกรรม
ประกอบด้วยกระบวนการโดยรวมคือ

1. การเตรียมยีน (gene)หรือ DNA ที่สนใจ
2. การตัด DNA อย่างจําเพาะด้วยเอนไซม์ตดจําเพาะ
ั
3. การเชื่อมต่อชิ้นส่วนของ DNA ที่แยกได้กบ DNA พาหะ (vector) เช่น
ั
พลาสมิด (plasmid), phage, cosmid
4. การนําพาหะ (vector) ที่มียีนที่สนใจแทรกอยู่ หรือ DNA สายผสม ใส่
เข้าไปในเซลล์ผรบ (host)
ู้ ั
–

หลังจากนันเลี้ยงเซลล์ผรบให้แบ่งเซลล์หลายๆครัง ทําให้เพิ่มจํานวนเซลล์
้
ู้ ั
้
หรือเพิ่มปริมาณยีนที่น่าสนใจ กระบวนการนี้ เรียกว่าการโคลนยีน (gene
cloning)

5. การคัดเลือกเซลล์ที่มี DNA สายผสมตามที่ต้องการ
การโคลนยีน
1.การเตรียมยีน (gene)หรือ DNA ที่น่าสนใจ
การเตรียมชิ้นส่วนยีนหรือ DNA ที่น่าสนใจมีหลายวิธีดงนี้
ั
1.

การสกัดจากเซลล์หรือเนื้ อเยื่อของสิ่งมีชีวิตที่ต้องการศึกษา ซึ่งเป็ น DNA ทังหมด
้
ในจีโนมของสิ่งมีชีวิตชนิดนัน เรียกว่า genomic DNA
้

2.

การเตรียม DNA จาก mRNA
–

โดยใช้เอนไซม์ reverse transcriptase

–

จะได้ DNA ที่สงเคราะห์ขึนหรือถอดรหัสจาก mRNA เรียกว่า complementary
ั
้
DNA (cDNA)
การสังเคราะห์ DNA โดยวิธีทางเคมี

3.
–

สามารถสังเคราะห์ oligonucleotide ให้มีลาดับเบสที่ต้องการโดยเครื่อง
ํ
สังเคราะห์อตโนมัติ
ั

–

มี 2 วิธีที่ใช้กนอย่างกว้างขวางคือ วิธี phosphate triester และวิธี phosphite
ั
triester
2. การตัด DNA อย่างจําเพาะด้วยเอนไซม์ตดจําเพาะ
ั
• เอนไซม์ตดจําเพาะ (Restriction enzyme or
ั
restriction endonuclease)
• แบบที่ 2 (type II) เป็ นเอนไซม์ที่ใช้กนมากในการ
ั
ตัดต่อยีน
• ประกอบด้วยโพลีเพพไทด์เพียงชนิดเดียว
• การตัด DNA จะเกิดที่ตาแหน่ งจําเพาะในบริเวณจดจํา
ํ
(recognition site) หรือจุดใกล้กบบริเวณจดจํา ทําให้
ั
ได้ชิ้นขนาด DNA ที่มีขนาดแน่ นอน
ตัวอย่างเอนไซม์ตดจําเพาะ
ั
(restriction enzyme)
Blunt end vs. sticky end
3. การเชื่อมต่อชิ้นส่วนของ DNA ที่แยกได้กบ
ั
DNA พาหะ (vector)
• การเชื่อมต่ออาศัยเอนไซม์ ligase
• การทําพันธุวิศวกรรมต้องนํา DNA ที่สนใจเข้าสู่ภายในเซลล์ผรบ โดยอาศัย DNA พาหะ
ู้ ั
(vector)
• คุณสมบัติของ DNA พาหะ (vector)มีดงนี้
ั
– มีส่วนของ DNA ที่เป็ นจุดเริ่มในการจําลองตัว (origin of replication,ORI) ทําให้
สามารถเพิ่มจํานวนตัวเองได้พร้อมๆ กับ DNA ที่ใส่เข้าไป
– มียีนเครื่องหมาย (marker gene) สําหรับใช้ในการคัดเลือก เช่น ยีนที่ดือยา
้
ปฏิชีวนะ ยีนที่เกี่ยวกับการสร้างหรือสลายกรดอะมิโนและนํ้าตาลบางชนิด
– มีบริเวณจดจําของเอนไซม์ชนิดใดชนิดหนึ่ งหรือหลายชนิดเพียง ตําแหน่ งเดียวใน
โมเลกุลของ DNA พาหะ (unique or polylinker site)
ชนิดของ DNA พาหะ(vector)
ขึนอยู่กบขนาดของ DNA ที่นํามาเชื่อมและเซลล์ผรบ
้
ั
ู้ ั

ตารางแสดง DNA พาหะ(vector)ชนิดต่างๆและขนาดของชิ้น DNA ที่แทรกในพาหะได้

DNA พาหะ (vector)

รูปร่าง

เซลล์ผรบ
ู้ ั
(host)

ขนาดของชิ้น DNA ที่แทรกได้

Plasmid

DNA สายคู่, วงกลม

E. coli

ยาวได้ถึง 10 กิโลเบส

Bacteriophage

DNA สายตรง, ไวรัส

Cosmid

DNA สายคู่, วงกลม

Yeast Artificial
Chromosome-YACs

โครโมโซมเทียม
,ยีสต์

E. coli
E. coli
yeast

ยาวได้ถึง 20 กิโลเบส
30-50 กิโลเบส
250-1000 กิโลเบส (1 เมกะ
เบส)
pBR322, 4.36kb
Plasmid
Fig. 14-9: Cloning by cosmids. The cosmid is cut at a BglII site next to the cos site. Donor genomic DNA is cut
using Sau3A, which gives sticky ends compatible with BglII. A tandem array of donor and vector DNA results from
mixing. Phage is packaged in vitro by cutting at the cos site. The cosmid with inserts recircularizes once in the
bacterial cell.
4. การนําพาหะ (vector) ที่มียีนที่สนใจแทรกอยู่ หรือ DNA สายผสม ใส่เข้าไป
ในเซลล์ผรบ
ู้ ั
• ขันตอนการนํา DNA สายผสม ใส่เข้าไปในเซลล์ผรบมีหลายวิธี คือ
้
ู้ ั
4.1 Transformation
• เป็ นการนํา DNA ในรูปplasmidเข้าสู่เซลล์ผรบ
ู้ ั
• เซลล์ผรบที่นิยมใช้กนมากคือ E. Coli
ู้ ั
ั
• โดยทําให้เซลล์ผรบเป็ น competent cell ก่อน มีสองวิธีคือ
ู้ ั
– การใช้สารเคมี เช่น dimethyl sulfoxide-DMSO, CaCl2,
MgCl2
– Electroporation- ใช้กระแสไฟฟ้ าทําให้เกิดรูที่เยื่อหุ้มเซลล์
ทําให้ DNA หรือพลาสมิดเข้าสู่เซลล์ได้
– การใช้แสงlaser ทําให้เกิดรูที่เยื่อหุ้มเซลล์
4.2 Transfection
– เป็ นการนํา DNA ของphageที่มีขนาดเล็ก เช่น M13 เข้าสู่เซลล์ผรบ
ู้ ั
– เมื่อแบคทีเรียได้รบ DNA ของphageจํานวนมาก เซลล์จะแตกและ
ั
phage จะบุกรุกเซลล์อื่นต่อไปทําให้เกิดจุดใส (clear plaque)
– จุดใส (clear plaque)คือจํานวน DNA ของphageที่เข้าสู่เซลล์
แบคทีเรีย

4.3 Transduction
– เป็ นการนํา DNA ของcosmid,lamda phage ที่มีขนาดใหญ่เข้าสู่
เซลล์ผรบ
ู้ ั
– โดยบรรจุลงในอนุภาคของ phage ก่อนแล้วจึงนําเข้าเซลล์
– วิธีนี้มีประสิทธิภาพสูงกว่า Transformation
จุดใส (clear plaque)
คือจํานวน DNA ของphageที่เข้าสู่เซลล์แบคทีเรีย
5.การคัดเลือกเซลล์ที่มี DNA สายผสมตามที่ต้องการ
5.1 การคัดเลือกโดยอาศัยลักษณะ (phenotype)
– เป็ นการอาศัยการแสดงออกของยีนเครืองหมาย
่
(marker gene) และมีการสร้างโปรตีนออกมา
– เช่น การสร้างเอนไซม์บางชนิดที่ทาให้เกิด clear
ํ
zone ในอาหารเลี้ยงเชื้อที่มี substrate (IPTG) อยู่
– หรือพบลักษณะการดือยาในเซลล์ผรบที่ได้รบมา
้
ู้ ั
ั
จากพลาสมิด
5.2 การคัดเลือกโดย DNA hybridization
– อาศัยการจับคู่กนของสาย DNA ที่เป็ นตัวติดตาม
ั
(probe) กับ DNA เป้ าหมายที่ต้องการตรวจหาที่มี
ลําดับเบสคู่สมกัน บน membrane
– โดย probe จะติดฉลากด้วยสารไอโซโทปหรือเอนไซม์
5.3 การคัดเลือกโดยวิธีทางอิมมิวโนวิทยา
– ทําได้เมื่อโคลนที่ต้องการแสดงออกได้ โดยผลิต
โปรตีน แต่โปรตีนไม่แสดงลักษณะหรือ phenotype
ที่ชดเจน
ั
– เป็ นการตรวจสอบโปรตีนที่เซลล์ผลิตขึนโดยใช้
้
แอนติบอดีที่จาเพาะกับโปรตีนที่ต้องการนัน
ํ
้
การคัดเลือกโดยอาศัยลักษณะ (phenotype)

• Plasmid/phageที่มีส่วนของยีนที่สร้าง b-galactosidase จะสร้างเฉพาะ afragment
• เมื่อ Plasmid/phage ถูกนําเข้าสู่แบคทีเรีย ภายใต้ภาวะที่ถกกระตุ้นด้วย IPTG
ู
จะทําให้มีการสร้าง b-galactosidaseในแต่ละ fragment ซึ่งสามารถเปลี่ยน Xgal ให้เป็ นสีนํ้าเงินได้
• แต่ถ้ามี foreign DNA มาเชื่อมจะทําให้เกิดการทํางานของยีนดังกล่าวบกพร่อง
• ไม่มีการสร้าง b-galactosidase ไม่สามารถเปลี่ยน X-gal ได้จึงให้โคโลนี สีขาว
Polymerase Chain Reaction (PCR)
• เพิ่มจํานวน DNA ในหลอดทดลอง
• เครื่องมือ thermocycler
ขันตอนของกระบวนการ PCR
้
1. การแยกสายดีเอ็นเอเกลียวคู่ออกจากกัน (Denaturation) ใช้
อุณหภูมิ ประมาณ 94 องศาเซลเซียส เมื่อเริ่มต้นดีเอ็นเอ
แม่แบบ จะอยู่ในลักษณะที่เป็ นเกลียวคู่ เมื่อเพิ่มอุณหภูมิถึง
ประมาณ 94 องศาเซลเซียส จะทําให้พนธะไฮโดรเจนระหว่างคู่
ั
เบสของดีเอ็นเอถูกทําลาย ทําให้เส้นดีเอ็นเอแยกออกจากกัน
2. การจับของไพรเมอร์กบ DNA แม่แบบ (Annealing) เมื่อแยกสาย
ั
ดีเอ็นเอออกจากกันแล้ว จะลดอุณหภูมิลงเหลือ 40 - 62 องศา
เซลเซียส เพื่อให้ดีเอ็นเอสังเคราะห์ขนาดสันประมาณ 15 - 25
้
คู่เบส ที่เรียกว่า ไพร์เมอร์ (Primer) เข้ามาจับบริเวณที่มีลาดับ
ํ
เบสคู่สมกัน ในการสังเคราะห์ดีเอ็นเอ
3. การสังเคราะห์ DNA สายใหม่ต่อจากไพรเมอร์
(Extension) ใช้อณหภูมิ ประมาณ 68-72 องศาเซลเซียส
ุ
ในขันตอนนี้ จะเป็ นการสร้างสายดีเอ็นเอต่อจาก
้
ไพร์เมอร์ โดยอุณหภูมิที่ใช้จะพอเหมาะกับ การทํางาน
ของ Taq DNA polymerase
• http://www.maxanim.com/genetics/PCR/pcr.swf
• http://www.sciencemedia.com/website/demos/biochem/PCRMuta
genesis.swf
ลายพิมพ์ DNA (DNA Fingerprint)
ลายพิมพ์ DNA (DNA Fingerprint)

DNA ทังหมดของสิ่งมีชีวิตนันประกอบด้วย 2 ส่วน
้
้
• coding DNA ทําหน้ าที่ควบคุมการสร้างโปรตีนที่
มีความสําคัญต่อกลไกต่างๆ ภายในร่างกาย ซึ่งจะ
มีอยู่เพียงร้อยละ 5 ของชุด DNAทังหมด
้
• noncoding DNA ร้อยละ 95 มีส่วนหนึ่ งที่เป็ นเบส
ซําต่อเนื่ อง (tandem repeat) อยู่หลายตําแหน่ ง
้
Tandem Repeat
เบสซําต่อเนื่ องนี้ เองที่นํามาทําเป็ นลายพิมพ์ดีเอ็นซึ่งเป็ น
้
เครื่องหมายพันธุกรรม ทําให้สามารถรู้ลกษณะของจํานวนการ
ั
ซําของท่อน DNA แต่ละชุดในแต่ละตําแหน่ งบนสาย DNA ของ
้
สิ่งมีชีวิตและบุคคลได้

สามารถใช้ความแตกต่างกันของขนาดและจํานวนการซํา
้
ของท่อน DNA แต่ละชุดนี้ บ่งบอกถึงข้อมูลพันธุกรรม
เฉพาะของแต่ละบุคคลได้
หลักการทํางานของเทคโนโลยีลายพิมพ์ DNA
1. เก็บตัวอย่างเซลล์ ตัวอย่างต้องมี DNA ที่มีคณภาพ ไม่เสื่อม
ุ
สลาย (ปัจจัยที่ทาให้ DNA เสื่อมสลายคือ ระยะเวลา อุณหภูมิ
ํ
ความชื้น แสงแดด สารเคมี จุลินทรีย์ ฯลฯ)
2. สกัด DNA จากเซลล์ของตัวอย่าง
3. ตรวจลายพิมพ์ดีเอ็นเอ หลักการคือ เลือกตัด DNA ในส่วนที่
แสดงเอกลักษณ์เฉพาะบุคคล โดยใช้ restriction enzyme
จากนันนําชิ้นส่วน DNA ที่ถกตัดมาวิเคราะห์ตามขนาดด้วยวิธี
้
ู
Gel Electrophoresi
4. แปลผลลายพิมพ์ DNA โดยการอ่านผลจากลักษณะตําแหน่ ง
ของแถบดีเอ็น หรือกราฟที่ได้
ประโยชน์ ของลายพิมพ์ DNA
• ใช้พิสจน์ ความสัมพันธ์ทางสายเลือด
ู
• ใช้ในการติดตามการรักษาผูป่วยที่ได้รบการปลูก
้
ั
ถ่ายไขกระดูก ในการรักษาลูคีเมีย ผูป่วยต้องรับ
้
การปลูกถ่ายไขกระดูกจากผูให้ หากลายพิมพ์ดี
้
เอ็นเอเลือดผูป่วยเปลี่ยนไป แต่ลายพิมพ์เซลล์อื่น
้
ๆ เหมือนเดิม แสดงว่าร่างกายไม่ปฏิริริยาต่อต้าน
ไขกระดูกจากผูให้
้
• ใช้พิสจน์ หลักฐานทางนิติเวชศาสตร์
ู
Gel Electrophoresis
Electrophoresis เป็ นเทคนิคที่ใช้แยกโมเลกุลของ
สารที่มีประจุออกจากกันโดยใช้กระแสไฟฟ้ า
่
สารที่มีประจุนันเคลื่อนที่ผานตัวกลางชนิดหนึ่ งใน
้
สารละลาย สารที่ประจุต่างกันจะเคลื่อนที่ไปใน
ทิศทางตรงกันข้าม
อัตราการเคลื่อนที่ยงขึนอยู่กบขนาด รูปร่างโมเลกุล
ั ้
ั
แรงเคลื่อนไฟฟ้ าและตัวกลางที่ใช้ด้วย
โมเลกุลของ DNA ประกอบด้วยหมู่ฟอสเฟตจํานวน
มาก สารละลายของ DNA จึงมีประจุเป็ นลบที่ pH
เป็ นกลาง
เมื่ออยู่ในสนามไฟฟ้ าโมเลกุลของ DNA จะเคลื่อนที่
จากขัวลบไปยังขัวบวก
้
้
ความเร็วในการเคลื่อนที่ของโมเลกุล DNA จึงขึนอยู่
้
กับขนาดเป็ นส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตามมีปัจจัยอื่นที่มี
ผลต่อการเคลื่อนที่ของโมเลกุล DNA ด้วยดังนี้
การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีของ DNA
1. เชิงการแพทย์และเภสัชกรรม
• การวินิจฉัยโรค
• การบําบัดด้วยยีน
• การสร้างผลิตภัณฑ์ทางเภสัชกรรม
2. เชิงนิติวิทยาศาสตร์
3. เชิงการเกษตร
• การทําฟาร์มสัตว์เพื่อสุขภาพมนุษย์
• การสร้างสิ่งมีชีวิตดัดแปลงพันธุกรรม
(transgenic organisms)
4. การใช้พนธุศาสตร์เพื่อศึกษาค้นคว้าหายีน
ั
และหน้ าที่ของยีน
5. การประยุกต์ใช้เพื่อสิ่งแวดล้อม

More Related Content

What's hot

ข้อสอบกลางภาค ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2553 ชั้น ม.6
ข้อสอบกลางภาค ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2553 ชั้น ม.6ข้อสอบกลางภาค ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2553 ชั้น ม.6
ข้อสอบกลางภาค ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2553 ชั้น ม.6Nattapong Boonpong
 
บทที่ 15 การถ่ายทอดทางพันธุกรรม
บทที่ 15 การถ่ายทอดทางพันธุกรรมบทที่ 15 การถ่ายทอดทางพันธุกรรม
บทที่ 15 การถ่ายทอดทางพันธุกรรมPinutchaya Nakchumroon
 
แบบทดสอบก่อนเรียนความหลากหลายทางชีวภาพ
แบบทดสอบก่อนเรียนความหลากหลายทางชีวภาพแบบทดสอบก่อนเรียนความหลากหลายทางชีวภาพ
แบบทดสอบก่อนเรียนความหลากหลายทางชีวภาพSirintip Arunmuang
 
ใบงานที่ 14สารพันธุกรรม
ใบงานที่ 14สารพันธุกรรมใบงานที่ 14สารพันธุกรรม
ใบงานที่ 14สารพันธุกรรมAomiko Wipaporn
 
Gene and chromosome update
Gene and chromosome updateGene and chromosome update
Gene and chromosome updateThanyamon Chat.
 
แบบทดสอบ บทที่ 5 มนุษย์กับสิ่งแวดล้อม
แบบทดสอบ บทที่ 5 มนุษย์กับสิ่งแวดล้อมแบบทดสอบ บทที่ 5 มนุษย์กับสิ่งแวดล้อม
แบบทดสอบ บทที่ 5 มนุษย์กับสิ่งแวดล้อมdnavaroj
 
บทที่ 1 พันธุกรรมกับหมู่เลือด
บทที่ 1 พันธุกรรมกับหมู่เลือดบทที่ 1 พันธุกรรมกับหมู่เลือด
บทที่ 1 พันธุกรรมกับหมู่เลือดPinutchaya Nakchumroon
 
ชีทสรุป ม.4 เทอม 2 โดยครูเนยวิภา.pdf
ชีทสรุป ม.4 เทอม 2 โดยครูเนยวิภา.pdfชีทสรุป ม.4 เทอม 2 โดยครูเนยวิภา.pdf
ชีทสรุป ม.4 เทอม 2 โดยครูเนยวิภา.pdfNoeyWipa
 
ขนาดอะตอมและขนาดไอออน
ขนาดอะตอมและขนาดไอออนขนาดอะตอมและขนาดไอออน
ขนาดอะตอมและขนาดไอออนkkrunuch
 
Aแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การถ่ายโอนพลังงานความร้อน
Aแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การถ่ายโอนพลังงานความร้อนAแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การถ่ายโอนพลังงานความร้อน
Aแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การถ่ายโอนพลังงานความร้อนkrupornpana55
 
แบบทดสอบ บทที่ 6 การถ่ายทอดลักษณะทางพันธูกรรม
แบบทดสอบ บทที่  6  การถ่ายทอดลักษณะทางพันธูกรรมแบบทดสอบ บทที่  6  การถ่ายทอดลักษณะทางพันธูกรรม
แบบทดสอบ บทที่ 6 การถ่ายทอดลักษณะทางพันธูกรรมdnavaroj
 
บทที่ 6 เทคโนโลยีดีเอ็นเอ
บทที่ 6 เทคโนโลยีดีเอ็นเอบทที่ 6 เทคโนโลยีดีเอ็นเอ
บทที่ 6 เทคโนโลยีดีเอ็นเอYaovaree Nornakhum
 
บทที่ 2 พันธะเคมี
บทที่ 2 พันธะเคมีบทที่ 2 พันธะเคมี
บทที่ 2 พันธะเคมีoraneehussem
 

What's hot (20)

ข้อสอบกลางภาค ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2553 ชั้น ม.6
ข้อสอบกลางภาค ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2553 ชั้น ม.6ข้อสอบกลางภาค ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2553 ชั้น ม.6
ข้อสอบกลางภาค ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2553 ชั้น ม.6
 
15แบบทดสอบเทคโนโลยีชีวภาพ
15แบบทดสอบเทคโนโลยีชีวภาพ15แบบทดสอบเทคโนโลยีชีวภาพ
15แบบทดสอบเทคโนโลยีชีวภาพ
 
บทที่ 15 การถ่ายทอดทางพันธุกรรม
บทที่ 15 การถ่ายทอดทางพันธุกรรมบทที่ 15 การถ่ายทอดทางพันธุกรรม
บทที่ 15 การถ่ายทอดทางพันธุกรรม
 
Keydesign
KeydesignKeydesign
Keydesign
 
แบบทดสอบก่อนเรียนความหลากหลายทางชีวภาพ
แบบทดสอบก่อนเรียนความหลากหลายทางชีวภาพแบบทดสอบก่อนเรียนความหลากหลายทางชีวภาพ
แบบทดสอบก่อนเรียนความหลากหลายทางชีวภาพ
 
12แบบทดสอบการแบ่งเซลล์
12แบบทดสอบการแบ่งเซลล์12แบบทดสอบการแบ่งเซลล์
12แบบทดสอบการแบ่งเซลล์
 
ใบงานที่ 14สารพันธุกรรม
ใบงานที่ 14สารพันธุกรรมใบงานที่ 14สารพันธุกรรม
ใบงานที่ 14สารพันธุกรรม
 
Gene and chromosome update
Gene and chromosome updateGene and chromosome update
Gene and chromosome update
 
ไฟฟ้าสถิตPpt
ไฟฟ้าสถิตPptไฟฟ้าสถิตPpt
ไฟฟ้าสถิตPpt
 
14แบบทดสอบสารพันธุกรรม
14แบบทดสอบสารพันธุกรรม14แบบทดสอบสารพันธุกรรม
14แบบทดสอบสารพันธุกรรม
 
สรุปเซลล์
สรุปเซลล์สรุปเซลล์
สรุปเซลล์
 
Genetics
GeneticsGenetics
Genetics
 
แบบทดสอบ บทที่ 5 มนุษย์กับสิ่งแวดล้อม
แบบทดสอบ บทที่ 5 มนุษย์กับสิ่งแวดล้อมแบบทดสอบ บทที่ 5 มนุษย์กับสิ่งแวดล้อม
แบบทดสอบ บทที่ 5 มนุษย์กับสิ่งแวดล้อม
 
บทที่ 1 พันธุกรรมกับหมู่เลือด
บทที่ 1 พันธุกรรมกับหมู่เลือดบทที่ 1 พันธุกรรมกับหมู่เลือด
บทที่ 1 พันธุกรรมกับหมู่เลือด
 
ชีทสรุป ม.4 เทอม 2 โดยครูเนยวิภา.pdf
ชีทสรุป ม.4 เทอม 2 โดยครูเนยวิภา.pdfชีทสรุป ม.4 เทอม 2 โดยครูเนยวิภา.pdf
ชีทสรุป ม.4 เทอม 2 โดยครูเนยวิภา.pdf
 
ขนาดอะตอมและขนาดไอออน
ขนาดอะตอมและขนาดไอออนขนาดอะตอมและขนาดไอออน
ขนาดอะตอมและขนาดไอออน
 
Aแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การถ่ายโอนพลังงานความร้อน
Aแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การถ่ายโอนพลังงานความร้อนAแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การถ่ายโอนพลังงานความร้อน
Aแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การถ่ายโอนพลังงานความร้อน
 
แบบทดสอบ บทที่ 6 การถ่ายทอดลักษณะทางพันธูกรรม
แบบทดสอบ บทที่  6  การถ่ายทอดลักษณะทางพันธูกรรมแบบทดสอบ บทที่  6  การถ่ายทอดลักษณะทางพันธูกรรม
แบบทดสอบ บทที่ 6 การถ่ายทอดลักษณะทางพันธูกรรม
 
บทที่ 6 เทคโนโลยีดีเอ็นเอ
บทที่ 6 เทคโนโลยีดีเอ็นเอบทที่ 6 เทคโนโลยีดีเอ็นเอ
บทที่ 6 เทคโนโลยีดีเอ็นเอ
 
บทที่ 2 พันธะเคมี
บทที่ 2 พันธะเคมีบทที่ 2 พันธะเคมี
บทที่ 2 พันธะเคมี
 

Viewers also liked

พันธุศาสตร์และเทคโนโลยีทาง Dna
พันธุศาสตร์และเทคโนโลยีทาง Dnaพันธุศาสตร์และเทคโนโลยีทาง Dna
พันธุศาสตร์และเทคโนโลยีทาง DnaChotiros Thongngoen
 
การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีDna
การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีDnaการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีDna
การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีDnaWan Ngamwongwan
 
Microsoft power point พันธุศาสตร์และเทคโนโลยีทาง dna
Microsoft power point   พันธุศาสตร์และเทคโนโลยีทาง dnaMicrosoft power point   พันธุศาสตร์และเทคโนโลยีทาง dna
Microsoft power point พันธุศาสตร์และเทคโนโลยีทาง dnaThanyamon Chat.
 
พันธุเทคโน
พันธุเทคโนพันธุเทคโน
พันธุเทคโนWichai Likitponrak
 
การเคลื่อนที่ของสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง
การเคลื่อนที่ของสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังการเคลื่อนที่ของสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง
การเคลื่อนที่ของสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังสุรินทร์ ดีแก้วเกษ
 
ใบงานการย่อยอาหาร Version นักเรียนค่ะ
ใบงานการย่อยอาหาร Version นักเรียนค่ะใบงานการย่อยอาหาร Version นักเรียนค่ะ
ใบงานการย่อยอาหาร Version นักเรียนค่ะกมลรัตน์ ฉิมพาลี
 
แนวคิดเกี่ยวกับวิวัฒนาการ
แนวคิดเกี่ยวกับวิวัฒนาการแนวคิดเกี่ยวกับวิวัฒนาการ
แนวคิดเกี่ยวกับวิวัฒนาการWan Ngamwongwan
 
กำเนิดสปีชีส์
กำเนิดสปีชีส์กำเนิดสปีชีส์
กำเนิดสปีชีส์Wan Ngamwongwan
 
การแลกเปลี่ยนแก๊ส การคายน้ำ และการลำเลียงสารในพืช
การแลกเปลี่ยนแก๊ส การคายน้ำ และการลำเลียงสารในพืชการแลกเปลี่ยนแก๊ส การคายน้ำ และการลำเลียงสารในพืช
การแลกเปลี่ยนแก๊ส การคายน้ำ และการลำเลียงสารในพืชLi Yu Ling
 
มิวเทชัน (Mutation)
มิวเทชัน (Mutation)มิวเทชัน (Mutation)
มิวเทชัน (Mutation)Wan Ngamwongwan
 
transduction and transfection
transduction and transfectiontransduction and transfection
transduction and transfectionkiran singh
 
1วิวัฒนาการ
1วิวัฒนาการ1วิวัฒนาการ
1วิวัฒนาการWan Ngamwongwan
 
ปัจจัยที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแอลลีล
ปัจจัยที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแอลลีลปัจจัยที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแอลลีล
ปัจจัยที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแอลลีลWan Ngamwongwan
 
วิวัฒนาการ
วิวัฒนาการวิวัฒนาการ
วิวัฒนาการsupreechafkk
 
3พันธุศาสตร์ประชากร
3พันธุศาสตร์ประชากร3พันธุศาสตร์ประชากร
3พันธุศาสตร์ประชากรWan Ngamwongwan
 
Preparation and isolation of genomic
Preparation and isolation of genomicPreparation and isolation of genomic
Preparation and isolation of genomicMubashar Ali
 

Viewers also liked (20)

พันธุศาสตร์และเทคโนโลยีทาง Dna
พันธุศาสตร์และเทคโนโลยีทาง Dnaพันธุศาสตร์และเทคโนโลยีทาง Dna
พันธุศาสตร์และเทคโนโลยีทาง Dna
 
การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีDna
การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีDnaการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีDna
การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีDna
 
Microsoft power point พันธุศาสตร์และเทคโนโลยีทาง dna
Microsoft power point   พันธุศาสตร์และเทคโนโลยีทาง dnaMicrosoft power point   พันธุศาสตร์และเทคโนโลยีทาง dna
Microsoft power point พันธุศาสตร์และเทคโนโลยีทาง dna
 
1 พันธุวิศกรรม
1 พันธุวิศกรรม1 พันธุวิศกรรม
1 พันธุวิศกรรม
 
พันธุเทคโน
พันธุเทคโนพันธุเทคโน
พันธุเทคโน
 
การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิต
การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิตการเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิต
การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิต
 
การเคลื่อนที่ของสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง
การเคลื่อนที่ของสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังการเคลื่อนที่ของสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง
การเคลื่อนที่ของสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง
 
ใบงานการย่อยอาหาร Version นักเรียนค่ะ
ใบงานการย่อยอาหาร Version นักเรียนค่ะใบงานการย่อยอาหาร Version นักเรียนค่ะ
ใบงานการย่อยอาหาร Version นักเรียนค่ะ
 
Lecture 1,2,3
Lecture 1,2,3Lecture 1,2,3
Lecture 1,2,3
 
แนวคิดเกี่ยวกับวิวัฒนาการ
แนวคิดเกี่ยวกับวิวัฒนาการแนวคิดเกี่ยวกับวิวัฒนาการ
แนวคิดเกี่ยวกับวิวัฒนาการ
 
กำเนิดสปีชีส์
กำเนิดสปีชีส์กำเนิดสปีชีส์
กำเนิดสปีชีส์
 
การแลกเปลี่ยนแก๊ส การคายน้ำ และการลำเลียงสารในพืช
การแลกเปลี่ยนแก๊ส การคายน้ำ และการลำเลียงสารในพืชการแลกเปลี่ยนแก๊ส การคายน้ำ และการลำเลียงสารในพืช
การแลกเปลี่ยนแก๊ส การคายน้ำ และการลำเลียงสารในพืช
 
มิวเทชัน (Mutation)
มิวเทชัน (Mutation)มิวเทชัน (Mutation)
มิวเทชัน (Mutation)
 
transduction and transfection
transduction and transfectiontransduction and transfection
transduction and transfection
 
1วิวัฒนาการ
1วิวัฒนาการ1วิวัฒนาการ
1วิวัฒนาการ
 
ปัจจัยที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแอลลีล
ปัจจัยที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแอลลีลปัจจัยที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแอลลีล
ปัจจัยที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแอลลีล
 
วิวัฒนาการ
วิวัฒนาการวิวัฒนาการ
วิวัฒนาการ
 
3พันธุศาสตร์ประชากร
3พันธุศาสตร์ประชากร3พันธุศาสตร์ประชากร
3พันธุศาสตร์ประชากร
 
Preparation and isolation of genomic
Preparation and isolation of genomicPreparation and isolation of genomic
Preparation and isolation of genomic
 
Recombinant protein
Recombinant proteinRecombinant protein
Recombinant protein
 

More from ฟลุ๊ค ลำพูน

บทที่ 23 มนุษย์กับความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม
บทที่ 23 มนุษย์กับความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อมบทที่ 23 มนุษย์กับความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม
บทที่ 23 มนุษย์กับความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อมฟลุ๊ค ลำพูน
 
บทที่ 23 มนุษย์กับความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม
บทที่ 23 มนุษย์กับความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อมบทที่ 23 มนุษย์กับความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม
บทที่ 23 มนุษย์กับความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อมฟลุ๊ค ลำพูน
 
บทที่20 ความหลากหลายทางชีวภาพ
บทที่20 ความหลากหลายทางชีวภาพบทที่20 ความหลากหลายทางชีวภาพ
บทที่20 ความหลากหลายทางชีวภาพฟลุ๊ค ลำพูน
 
บทที่ 19 วิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต
บทที่ 19 วิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตบทที่ 19 วิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต
บทที่ 19 วิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตฟลุ๊ค ลำพูน
 
บทที่ 17 ยีนและโครโมโซม
บทที่ 17 ยีนและโครโมโซมบทที่ 17 ยีนและโครโมโซม
บทที่ 17 ยีนและโครโมโซมฟลุ๊ค ลำพูน
 
บทที่ 16 การถ่ายทอดทางพันธุกรรม
บทที่ 16 การถ่ายทอดทางพันธุกรรมบทที่ 16 การถ่ายทอดทางพันธุกรรม
บทที่ 16 การถ่ายทอดทางพันธุกรรมฟลุ๊ค ลำพูน
 
บทที่ 15 การตอบสนองของพืช
บทที่ 15 การตอบสนองของพืชบทที่ 15 การตอบสนองของพืช
บทที่ 15 การตอบสนองของพืชฟลุ๊ค ลำพูน
 
บทที่ 14 การสืบพันธ์ของพืชดอก
บทที่ 14  การสืบพันธ์ของพืชดอกบทที่ 14  การสืบพันธ์ของพืชดอก
บทที่ 14 การสืบพันธ์ของพืชดอกฟลุ๊ค ลำพูน
 
บทที่ 13 การสังเคราะห์ด้วยแสง
บทที่ 13 การสังเคราะห์ด้วยแสงบทที่ 13 การสังเคราะห์ด้วยแสง
บทที่ 13 การสังเคราะห์ด้วยแสงฟลุ๊ค ลำพูน
 
บทที่ 12 โครงสร้างหน้าที่ของพืชดอก
บทที่ 12 โครงสร้างหน้าที่ของพืชดอกบทที่ 12 โครงสร้างหน้าที่ของพืชดอก
บทที่ 12 โครงสร้างหน้าที่ของพืชดอกฟลุ๊ค ลำพูน
 
บทที่ 16 การถ่ายทอดทางพันธุกรรม
บทที่ 16 การถ่ายทอดทางพันธุกรรมบทที่ 16 การถ่ายทอดทางพันธุกรรม
บทที่ 16 การถ่ายทอดทางพันธุกรรมฟลุ๊ค ลำพูน
 

More from ฟลุ๊ค ลำพูน (20)

Biology
BiologyBiology
Biology
 
ช วะ ม
ช วะ มช วะ ม
ช วะ ม
 
ช วะ ม
ช วะ มช วะ ม
ช วะ ม
 
ช วะ ม
ช วะ มช วะ ม
ช วะ ม
 
4
44
4
 
บทที่ 3
บทที่ 3บทที่ 3
บทที่ 3
 
แบบทดสอบ บทที่ 1
แบบทดสอบ บทที่ 1แบบทดสอบ บทที่ 1
แบบทดสอบ บทที่ 1
 
บทที่ 23 มนุษย์กับความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม
บทที่ 23 มนุษย์กับความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อมบทที่ 23 มนุษย์กับความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม
บทที่ 23 มนุษย์กับความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม
 
บทที่ 23 มนุษย์กับความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม
บทที่ 23 มนุษย์กับความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อมบทที่ 23 มนุษย์กับความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม
บทที่ 23 มนุษย์กับความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม
 
บทที่ 22 ประชากร
บทที่ 22 ประชากรบทที่ 22 ประชากร
บทที่ 22 ประชากร
 
บทที่ 21 ระบบนิเวศ
บทที่ 21 ระบบนิเวศบทที่ 21 ระบบนิเวศ
บทที่ 21 ระบบนิเวศ
 
บทที่20 ความหลากหลายทางชีวภาพ
บทที่20 ความหลากหลายทางชีวภาพบทที่20 ความหลากหลายทางชีวภาพ
บทที่20 ความหลากหลายทางชีวภาพ
 
บทที่ 19 วิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต
บทที่ 19 วิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตบทที่ 19 วิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต
บทที่ 19 วิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต
 
บทที่ 17 ยีนและโครโมโซม
บทที่ 17 ยีนและโครโมโซมบทที่ 17 ยีนและโครโมโซม
บทที่ 17 ยีนและโครโมโซม
 
บทที่ 16 การถ่ายทอดทางพันธุกรรม
บทที่ 16 การถ่ายทอดทางพันธุกรรมบทที่ 16 การถ่ายทอดทางพันธุกรรม
บทที่ 16 การถ่ายทอดทางพันธุกรรม
 
บทที่ 15 การตอบสนองของพืช
บทที่ 15 การตอบสนองของพืชบทที่ 15 การตอบสนองของพืช
บทที่ 15 การตอบสนองของพืช
 
บทที่ 14 การสืบพันธ์ของพืชดอก
บทที่ 14  การสืบพันธ์ของพืชดอกบทที่ 14  การสืบพันธ์ของพืชดอก
บทที่ 14 การสืบพันธ์ของพืชดอก
 
บทที่ 13 การสังเคราะห์ด้วยแสง
บทที่ 13 การสังเคราะห์ด้วยแสงบทที่ 13 การสังเคราะห์ด้วยแสง
บทที่ 13 การสังเคราะห์ด้วยแสง
 
บทที่ 12 โครงสร้างหน้าที่ของพืชดอก
บทที่ 12 โครงสร้างหน้าที่ของพืชดอกบทที่ 12 โครงสร้างหน้าที่ของพืชดอก
บทที่ 12 โครงสร้างหน้าที่ของพืชดอก
 
บทที่ 16 การถ่ายทอดทางพันธุกรรม
บทที่ 16 การถ่ายทอดทางพันธุกรรมบทที่ 16 การถ่ายทอดทางพันธุกรรม
บทที่ 16 การถ่ายทอดทางพันธุกรรม
 

บทที่ 18 พันธุศาสตร์และเทคโนโลยีชีวภาพ

  • 2. เทคโนโลยีชีวภาพ (Biotechnology) • การใช้เทคโนโลยีเพื่อทําให้สิ่งมีชีวิต หรือองค์ประกอบของ สิ่งมีชีวิตมีสมบัติตามต้องการ ยกตัวอย่างเช่น – การใช้จลินทรียในการหมัก ุ ์ – การพัฒนาปรับปรุงพันธุพืชและสัตว์ ์ – เทคโนโลยีชีวภาพที่เกี่ยวกับ DNA (DNA Technology)
  • 3. พันธุวิศวกรรม (Genetic Engineering) • พันธุวิศวกรรม (genetic engineering) หมายถึง เทคโนโลยีที่ทา ํ การเคลื่อนย้ายยีน (gene) จากสิ่งมีชีวิตสปี ชีสหนึ่ งไปสู่สิ่งมีชีวิต ์ อีกสปี ชีสหนึ่ ง เป็ นการสร้าง DNA สายผสม (recombinant DNA) ์ • สร้างสิ่งมีชีวิตรูปแบบใหม่ (novel) ที่มีคณลักษณะแบบใหม่ ซึ่ง ุ ไม่เคยปรากฏในธรรมชาติมาก่อน • เปลี่ยนแปลงหน่ วยพันธุกรรม หรือ DNA ของสิ่งมีชีวิต • เคลื่อนย้ายยีนที่อยู่เหนื อกฎเกณฑ์ ธรรมชาติ สิ่งมีชีวิตที่เกิดขึนอาจมียีน ้ ลูกผสมแบบใหม่
  • 4. การโคลนยีน Cloning : หมายถึง กระบวนการสร้างสิ่งที่มีลกษณะทางพันธุกรรม ั เหมือนกันกับสิ่งที่มีอยู่ก่อน มนุษย์ร้จกโคลนนิ่งมาแต่สมัยโบราณแล้ว แต่เป็ นการรู้จกโคลนนิ่ง ู ั ั ที่เกิดกับพืช นันคือ การขยายพันธุพืชโดย ไม่อาศัยเพศ เช่น การ ่ ์ แตกหน่ อ http://www.youtube.com/watch?v=OCro5zfc3uc&feature=player _embedded#at=42
  • 5. กระบวนการในพันธุวิศวกรรม ประกอบด้วยกระบวนการโดยรวมคือ 1. การเตรียมยีน (gene)หรือ DNA ที่สนใจ 2. การตัด DNA อย่างจําเพาะด้วยเอนไซม์ตดจําเพาะ ั 3. การเชื่อมต่อชิ้นส่วนของ DNA ที่แยกได้กบ DNA พาหะ (vector) เช่น ั พลาสมิด (plasmid), phage, cosmid 4. การนําพาหะ (vector) ที่มียีนที่สนใจแทรกอยู่ หรือ DNA สายผสม ใส่ เข้าไปในเซลล์ผรบ (host) ู้ ั – หลังจากนันเลี้ยงเซลล์ผรบให้แบ่งเซลล์หลายๆครัง ทําให้เพิ่มจํานวนเซลล์ ้ ู้ ั ้ หรือเพิ่มปริมาณยีนที่น่าสนใจ กระบวนการนี้ เรียกว่าการโคลนยีน (gene cloning) 5. การคัดเลือกเซลล์ที่มี DNA สายผสมตามที่ต้องการ
  • 7. 1.การเตรียมยีน (gene)หรือ DNA ที่น่าสนใจ การเตรียมชิ้นส่วนยีนหรือ DNA ที่น่าสนใจมีหลายวิธีดงนี้ ั 1. การสกัดจากเซลล์หรือเนื้ อเยื่อของสิ่งมีชีวิตที่ต้องการศึกษา ซึ่งเป็ น DNA ทังหมด ้ ในจีโนมของสิ่งมีชีวิตชนิดนัน เรียกว่า genomic DNA ้ 2. การเตรียม DNA จาก mRNA – โดยใช้เอนไซม์ reverse transcriptase – จะได้ DNA ที่สงเคราะห์ขึนหรือถอดรหัสจาก mRNA เรียกว่า complementary ั ้ DNA (cDNA) การสังเคราะห์ DNA โดยวิธีทางเคมี 3. – สามารถสังเคราะห์ oligonucleotide ให้มีลาดับเบสที่ต้องการโดยเครื่อง ํ สังเคราะห์อตโนมัติ ั – มี 2 วิธีที่ใช้กนอย่างกว้างขวางคือ วิธี phosphate triester และวิธี phosphite ั triester
  • 8. 2. การตัด DNA อย่างจําเพาะด้วยเอนไซม์ตดจําเพาะ ั • เอนไซม์ตดจําเพาะ (Restriction enzyme or ั restriction endonuclease) • แบบที่ 2 (type II) เป็ นเอนไซม์ที่ใช้กนมากในการ ั ตัดต่อยีน • ประกอบด้วยโพลีเพพไทด์เพียงชนิดเดียว • การตัด DNA จะเกิดที่ตาแหน่ งจําเพาะในบริเวณจดจํา ํ (recognition site) หรือจุดใกล้กบบริเวณจดจํา ทําให้ ั ได้ชิ้นขนาด DNA ที่มีขนาดแน่ นอน
  • 10. Blunt end vs. sticky end
  • 11.
  • 12. 3. การเชื่อมต่อชิ้นส่วนของ DNA ที่แยกได้กบ ั DNA พาหะ (vector) • การเชื่อมต่ออาศัยเอนไซม์ ligase • การทําพันธุวิศวกรรมต้องนํา DNA ที่สนใจเข้าสู่ภายในเซลล์ผรบ โดยอาศัย DNA พาหะ ู้ ั (vector) • คุณสมบัติของ DNA พาหะ (vector)มีดงนี้ ั – มีส่วนของ DNA ที่เป็ นจุดเริ่มในการจําลองตัว (origin of replication,ORI) ทําให้ สามารถเพิ่มจํานวนตัวเองได้พร้อมๆ กับ DNA ที่ใส่เข้าไป – มียีนเครื่องหมาย (marker gene) สําหรับใช้ในการคัดเลือก เช่น ยีนที่ดือยา ้ ปฏิชีวนะ ยีนที่เกี่ยวกับการสร้างหรือสลายกรดอะมิโนและนํ้าตาลบางชนิด – มีบริเวณจดจําของเอนไซม์ชนิดใดชนิดหนึ่ งหรือหลายชนิดเพียง ตําแหน่ งเดียวใน โมเลกุลของ DNA พาหะ (unique or polylinker site)
  • 13. ชนิดของ DNA พาหะ(vector) ขึนอยู่กบขนาดของ DNA ที่นํามาเชื่อมและเซลล์ผรบ ้ ั ู้ ั ตารางแสดง DNA พาหะ(vector)ชนิดต่างๆและขนาดของชิ้น DNA ที่แทรกในพาหะได้ DNA พาหะ (vector) รูปร่าง เซลล์ผรบ ู้ ั (host) ขนาดของชิ้น DNA ที่แทรกได้ Plasmid DNA สายคู่, วงกลม E. coli ยาวได้ถึง 10 กิโลเบส Bacteriophage DNA สายตรง, ไวรัส Cosmid DNA สายคู่, วงกลม Yeast Artificial Chromosome-YACs โครโมโซมเทียม ,ยีสต์ E. coli E. coli yeast ยาวได้ถึง 20 กิโลเบส 30-50 กิโลเบส 250-1000 กิโลเบส (1 เมกะ เบส)
  • 16.
  • 17.
  • 18.
  • 19. Fig. 14-9: Cloning by cosmids. The cosmid is cut at a BglII site next to the cos site. Donor genomic DNA is cut using Sau3A, which gives sticky ends compatible with BglII. A tandem array of donor and vector DNA results from mixing. Phage is packaged in vitro by cutting at the cos site. The cosmid with inserts recircularizes once in the bacterial cell.
  • 20.
  • 21. 4. การนําพาหะ (vector) ที่มียีนที่สนใจแทรกอยู่ หรือ DNA สายผสม ใส่เข้าไป ในเซลล์ผรบ ู้ ั • ขันตอนการนํา DNA สายผสม ใส่เข้าไปในเซลล์ผรบมีหลายวิธี คือ ้ ู้ ั 4.1 Transformation • เป็ นการนํา DNA ในรูปplasmidเข้าสู่เซลล์ผรบ ู้ ั • เซลล์ผรบที่นิยมใช้กนมากคือ E. Coli ู้ ั ั • โดยทําให้เซลล์ผรบเป็ น competent cell ก่อน มีสองวิธีคือ ู้ ั – การใช้สารเคมี เช่น dimethyl sulfoxide-DMSO, CaCl2, MgCl2 – Electroporation- ใช้กระแสไฟฟ้ าทําให้เกิดรูที่เยื่อหุ้มเซลล์ ทําให้ DNA หรือพลาสมิดเข้าสู่เซลล์ได้ – การใช้แสงlaser ทําให้เกิดรูที่เยื่อหุ้มเซลล์
  • 22. 4.2 Transfection – เป็ นการนํา DNA ของphageที่มีขนาดเล็ก เช่น M13 เข้าสู่เซลล์ผรบ ู้ ั – เมื่อแบคทีเรียได้รบ DNA ของphageจํานวนมาก เซลล์จะแตกและ ั phage จะบุกรุกเซลล์อื่นต่อไปทําให้เกิดจุดใส (clear plaque) – จุดใส (clear plaque)คือจํานวน DNA ของphageที่เข้าสู่เซลล์ แบคทีเรีย 4.3 Transduction – เป็ นการนํา DNA ของcosmid,lamda phage ที่มีขนาดใหญ่เข้าสู่ เซลล์ผรบ ู้ ั – โดยบรรจุลงในอนุภาคของ phage ก่อนแล้วจึงนําเข้าเซลล์ – วิธีนี้มีประสิทธิภาพสูงกว่า Transformation
  • 23. จุดใส (clear plaque) คือจํานวน DNA ของphageที่เข้าสู่เซลล์แบคทีเรีย
  • 24. 5.การคัดเลือกเซลล์ที่มี DNA สายผสมตามที่ต้องการ 5.1 การคัดเลือกโดยอาศัยลักษณะ (phenotype) – เป็ นการอาศัยการแสดงออกของยีนเครืองหมาย ่ (marker gene) และมีการสร้างโปรตีนออกมา – เช่น การสร้างเอนไซม์บางชนิดที่ทาให้เกิด clear ํ zone ในอาหารเลี้ยงเชื้อที่มี substrate (IPTG) อยู่ – หรือพบลักษณะการดือยาในเซลล์ผรบที่ได้รบมา ้ ู้ ั ั จากพลาสมิด
  • 25. 5.2 การคัดเลือกโดย DNA hybridization – อาศัยการจับคู่กนของสาย DNA ที่เป็ นตัวติดตาม ั (probe) กับ DNA เป้ าหมายที่ต้องการตรวจหาที่มี ลําดับเบสคู่สมกัน บน membrane – โดย probe จะติดฉลากด้วยสารไอโซโทปหรือเอนไซม์ 5.3 การคัดเลือกโดยวิธีทางอิมมิวโนวิทยา – ทําได้เมื่อโคลนที่ต้องการแสดงออกได้ โดยผลิต โปรตีน แต่โปรตีนไม่แสดงลักษณะหรือ phenotype ที่ชดเจน ั – เป็ นการตรวจสอบโปรตีนที่เซลล์ผลิตขึนโดยใช้ ้ แอนติบอดีที่จาเพาะกับโปรตีนที่ต้องการนัน ํ ้
  • 26. การคัดเลือกโดยอาศัยลักษณะ (phenotype) • Plasmid/phageที่มีส่วนของยีนที่สร้าง b-galactosidase จะสร้างเฉพาะ afragment • เมื่อ Plasmid/phage ถูกนําเข้าสู่แบคทีเรีย ภายใต้ภาวะที่ถกกระตุ้นด้วย IPTG ู จะทําให้มีการสร้าง b-galactosidaseในแต่ละ fragment ซึ่งสามารถเปลี่ยน Xgal ให้เป็ นสีนํ้าเงินได้ • แต่ถ้ามี foreign DNA มาเชื่อมจะทําให้เกิดการทํางานของยีนดังกล่าวบกพร่อง • ไม่มีการสร้าง b-galactosidase ไม่สามารถเปลี่ยน X-gal ได้จึงให้โคโลนี สีขาว
  • 27. Polymerase Chain Reaction (PCR) • เพิ่มจํานวน DNA ในหลอดทดลอง • เครื่องมือ thermocycler
  • 28.
  • 29. ขันตอนของกระบวนการ PCR ้ 1. การแยกสายดีเอ็นเอเกลียวคู่ออกจากกัน (Denaturation) ใช้ อุณหภูมิ ประมาณ 94 องศาเซลเซียส เมื่อเริ่มต้นดีเอ็นเอ แม่แบบ จะอยู่ในลักษณะที่เป็ นเกลียวคู่ เมื่อเพิ่มอุณหภูมิถึง ประมาณ 94 องศาเซลเซียส จะทําให้พนธะไฮโดรเจนระหว่างคู่ ั เบสของดีเอ็นเอถูกทําลาย ทําให้เส้นดีเอ็นเอแยกออกจากกัน 2. การจับของไพรเมอร์กบ DNA แม่แบบ (Annealing) เมื่อแยกสาย ั ดีเอ็นเอออกจากกันแล้ว จะลดอุณหภูมิลงเหลือ 40 - 62 องศา เซลเซียส เพื่อให้ดีเอ็นเอสังเคราะห์ขนาดสันประมาณ 15 - 25 ้ คู่เบส ที่เรียกว่า ไพร์เมอร์ (Primer) เข้ามาจับบริเวณที่มีลาดับ ํ เบสคู่สมกัน ในการสังเคราะห์ดีเอ็นเอ
  • 30. 3. การสังเคราะห์ DNA สายใหม่ต่อจากไพรเมอร์ (Extension) ใช้อณหภูมิ ประมาณ 68-72 องศาเซลเซียส ุ ในขันตอนนี้ จะเป็ นการสร้างสายดีเอ็นเอต่อจาก ้ ไพร์เมอร์ โดยอุณหภูมิที่ใช้จะพอเหมาะกับ การทํางาน ของ Taq DNA polymerase
  • 33. ลายพิมพ์ DNA (DNA Fingerprint) DNA ทังหมดของสิ่งมีชีวิตนันประกอบด้วย 2 ส่วน ้ ้ • coding DNA ทําหน้ าที่ควบคุมการสร้างโปรตีนที่ มีความสําคัญต่อกลไกต่างๆ ภายในร่างกาย ซึ่งจะ มีอยู่เพียงร้อยละ 5 ของชุด DNAทังหมด ้ • noncoding DNA ร้อยละ 95 มีส่วนหนึ่ งที่เป็ นเบส ซําต่อเนื่ อง (tandem repeat) อยู่หลายตําแหน่ ง ้
  • 34. Tandem Repeat เบสซําต่อเนื่ องนี้ เองที่นํามาทําเป็ นลายพิมพ์ดีเอ็นซึ่งเป็ น ้ เครื่องหมายพันธุกรรม ทําให้สามารถรู้ลกษณะของจํานวนการ ั ซําของท่อน DNA แต่ละชุดในแต่ละตําแหน่ งบนสาย DNA ของ ้ สิ่งมีชีวิตและบุคคลได้ สามารถใช้ความแตกต่างกันของขนาดและจํานวนการซํา ้ ของท่อน DNA แต่ละชุดนี้ บ่งบอกถึงข้อมูลพันธุกรรม เฉพาะของแต่ละบุคคลได้
  • 35. หลักการทํางานของเทคโนโลยีลายพิมพ์ DNA 1. เก็บตัวอย่างเซลล์ ตัวอย่างต้องมี DNA ที่มีคณภาพ ไม่เสื่อม ุ สลาย (ปัจจัยที่ทาให้ DNA เสื่อมสลายคือ ระยะเวลา อุณหภูมิ ํ ความชื้น แสงแดด สารเคมี จุลินทรีย์ ฯลฯ) 2. สกัด DNA จากเซลล์ของตัวอย่าง 3. ตรวจลายพิมพ์ดีเอ็นเอ หลักการคือ เลือกตัด DNA ในส่วนที่ แสดงเอกลักษณ์เฉพาะบุคคล โดยใช้ restriction enzyme จากนันนําชิ้นส่วน DNA ที่ถกตัดมาวิเคราะห์ตามขนาดด้วยวิธี ้ ู Gel Electrophoresi 4. แปลผลลายพิมพ์ DNA โดยการอ่านผลจากลักษณะตําแหน่ ง ของแถบดีเอ็น หรือกราฟที่ได้
  • 36. ประโยชน์ ของลายพิมพ์ DNA • ใช้พิสจน์ ความสัมพันธ์ทางสายเลือด ู • ใช้ในการติดตามการรักษาผูป่วยที่ได้รบการปลูก ้ ั ถ่ายไขกระดูก ในการรักษาลูคีเมีย ผูป่วยต้องรับ ้ การปลูกถ่ายไขกระดูกจากผูให้ หากลายพิมพ์ดี ้ เอ็นเอเลือดผูป่วยเปลี่ยนไป แต่ลายพิมพ์เซลล์อื่น ้ ๆ เหมือนเดิม แสดงว่าร่างกายไม่ปฏิริริยาต่อต้าน ไขกระดูกจากผูให้ ้ • ใช้พิสจน์ หลักฐานทางนิติเวชศาสตร์ ู
  • 37. Gel Electrophoresis Electrophoresis เป็ นเทคนิคที่ใช้แยกโมเลกุลของ สารที่มีประจุออกจากกันโดยใช้กระแสไฟฟ้ า ่ สารที่มีประจุนันเคลื่อนที่ผานตัวกลางชนิดหนึ่ งใน ้ สารละลาย สารที่ประจุต่างกันจะเคลื่อนที่ไปใน ทิศทางตรงกันข้าม อัตราการเคลื่อนที่ยงขึนอยู่กบขนาด รูปร่างโมเลกุล ั ้ ั แรงเคลื่อนไฟฟ้ าและตัวกลางที่ใช้ด้วย
  • 38. โมเลกุลของ DNA ประกอบด้วยหมู่ฟอสเฟตจํานวน มาก สารละลายของ DNA จึงมีประจุเป็ นลบที่ pH เป็ นกลาง เมื่ออยู่ในสนามไฟฟ้ าโมเลกุลของ DNA จะเคลื่อนที่ จากขัวลบไปยังขัวบวก ้ ้ ความเร็วในการเคลื่อนที่ของโมเลกุล DNA จึงขึนอยู่ ้ กับขนาดเป็ นส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตามมีปัจจัยอื่นที่มี ผลต่อการเคลื่อนที่ของโมเลกุล DNA ด้วยดังนี้
  • 39.
  • 40. การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีของ DNA 1. เชิงการแพทย์และเภสัชกรรม • การวินิจฉัยโรค • การบําบัดด้วยยีน • การสร้างผลิตภัณฑ์ทางเภสัชกรรม 2. เชิงนิติวิทยาศาสตร์
  • 41. 3. เชิงการเกษตร • การทําฟาร์มสัตว์เพื่อสุขภาพมนุษย์ • การสร้างสิ่งมีชีวิตดัดแปลงพันธุกรรม (transgenic organisms) 4. การใช้พนธุศาสตร์เพื่อศึกษาค้นคว้าหายีน ั และหน้ าที่ของยีน 5. การประยุกต์ใช้เพื่อสิ่งแวดล้อม