More Related Content
Similar to ระบบขับถ่าย (T) 1 2560
Similar to ระบบขับถ่าย (T) 1 2560 (20)
More from Thitaree Samphao
More from Thitaree Samphao (6)
ระบบขับถ่าย (T) 1 2560
- 2. สืบค้นข้อมูล อภิปรายและสรุปเกี่ยวกับความหมายของของเสีย และการขับถ่าย พร้อม
ทั้งอธิบายกระบวนการขับถ่ายของสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียว และของสัตว์
สืบค้นข้อมูล ทดลอง อภิปราย และสรุปเกี่ยวกับโครงสร้างของไต และอวัยวะที่
เกี่ยวข้อง
สืบค้นข้อมูล อภิปราย และสรุปเกี่ยวกับการทางานของไตกับการรักษาดุลยภาพของน้า
และแร่ธาตุในร่างกาย
สืบค้นข้อมูล อภิปราย และอธิบายความผิดปกติที่เกี่ยวเนื่องกับไตและโรคของไต
พร้อมทั้งเสนอแนะแนวทางในการดูแลสุขภาพ
จุดประสงค์การเรียนรู้
- 3. การขับถ่าย (Excretion)
การขับถ่ายของสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียว
การขับถ่ายของสิ่งมีชีวิตหลายเซลล์
การขับถ่ายของสัตว์มีกระดูกสันหลัง
การขับถ่ายของคน
ความผิดปกติเกี่ยวกับไตและโรคของไต
ระบบขับถ่าย
- 4. กระบวนการกาจัดของเสียที่เกิดจาก
กระบวนการเมแทบอลิซึม
CO2 จากระบบหายใจ
น้า และเกลือแร่
Nitrogenous waste : ของเสียที่เกิด
จากกระบวนการสลายโปรตีนและกรด
นิวคลีอิกภายในเซลล์
Ammonia
Urea
Uric acid
การถ่ายอุจจาระไม่เป็น Excretion
เนื่องจากกากอาหารที่ร่างกายขับ
ออกมายังเป็นสารที่มีประโยชน์ แต่
ร่างกายย่อยไม่ได้
การขับถ่าย (EXCRETION)
- 5. Gas
พิษสูงสุด
ใช้น้าในการกาจัดมาก
กาจัดออกในรูป NH+
4
เปลี่ยนรูปเป็น urea/uric acid ได้
พบในสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในน้า
สิ่งมีชีวิตเซลล์เดียว
สัตว์หลายเซลล์ชั้นต่า
สัตว์ขาข้อที่อาศัยอยู่ในน้า
Mollusk ที่อยู่ในน้า
ปลากระดูกแข็ง ปลากัด ปลาดุก
ปลาช่อน ปลาทู ปลาไหล
AMMONIA (NH3)
- 6. Liquid
พิษต่ากว่า NH3
สูญเสียน้าน้อยลงเวลาขับออก
สร้างที่ตับ
ขับทางไตในรูปปัสสาวะ
ปริมาณขึ้นอยู่กับโปรตีนที่กิน
พบในสิ่งมีชีวิตที่อยู่บนบก
ไส้เดือนดิน
สัตว์สะเทินน้าสะเทินบก
ปลากระดูกอ่อน เช่นปลาฉลาม,
ปลากระเบน,
สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม
UREA
- 7. Solid
พิษต่าสุด
ขับทางอุจจาระ
Allantois เป็นที่เก็บของเสีย พบในเอ็มบริโอ
ของสัตว์เลื้อยคลาน/นก
อาจสะสมในข้อในผู้ป่วยโรค gout
มูลจิ้งจกมีสีขาวและสีดา สีขาวของเสียในรูป
กรดยูริก สีดาคือกากอาหาร (อุจจาระ)
พบในสัตว์สงวนน้า
สัตว์ขาข้อที่อาศัยอยู่บนบก/แมลง
Mollusk ที่อยู่บนบก
สัตว์เลื้อยคลาน
นก
URIC ACID
- 10. ขับส่วนที่เกินความต้องการออก
ขับในรูป
ปัสสาวะ (max)
เหงื่อ
ลมหายใจ
อุจจาระ (min)
ขับออกทางปัสสาวะ เหงื่อ อุจจาระ จะ
มีเกลือแร่ปนอยู่ด้วย
ขับออกทางลมหายใจจะมีแต่น้า (gas)
เท่านั้น
สาหรับพืชเก็บสะสมไว้ที่ sap
vacuole
น้าและเกลือแร่
- 11. การขับถ่ายของสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียว
แบคทีเรีย สาหร่ายสีเขียวแกมน้าเงิน: ของเสียแพร่ผ่านเยื่อหุ้มเซลล์ (CO2)
โพรโทซัวน้าเค็ม: ขับของเสียออกจากเยื่อหุ้มเซลล์
อะมีบา พารามีเซียม และโพรโทซัวน้าจืดอื่นๆ :
ของเสียแพร่ออกจากเยื่อหุ้มเซลล์สู่น้ารอบๆ ในรูปของ NH3 และ CO2
contractile vacuole ทาหน้าที่ขับน้าส่วนเกินออกจากเซลล์ ซึ่งทาหน้าที่คล้ายไต
ของสัตว์ชั้นสูง
- 13. เฟลมเซลล์ (Flame cell) : ทาหน้าที่กาจัดของเสีย
กระจายอยู่ 2 ข้างตลอดความยาวของลาตัว เชื่อมต่อกับช่องขับถ่ายที่ผนังลาตัว
ภายในมีซีเลีย โบกพัดน้าและของเสียไหลไปตามท่อและออกสู่ภายนอกทางรูขับถ่าย
ของเหลวที่กรองผ่าน Flame cell เข้าสู่เซลล์ด้วยกระบวนการ pinocytosis
ของเสียที่ถูกกาจัดออกสู่ภายนอกเป็นสารพวกแอมโมเนีย
การขับถ่ายของพลานาเรียหรือหนอนตัวแบน
- 14. อวัยวะขับถ่ายของเสียคือ เนฟริเดียม (Nephridium) พบทุกปล้อง ๆ ละ 1 คู่ เป็นท่อ
ขดไปมา มีปลายเปิดทั้งสองข้าง
ปลายข้างหนึ่งคล้ายปากแตร มีซิเลียติดตามขอบ ทาหน้าที่กรองสารต่างๆ เรียกว่า
เนโฟรสโตรม (nephrostome) อีกข้างเป็นท่อเปิดออกข้างนอกเรียกว่า รูขับถ่าย
(Nephridiopore) รับของเหลวพวกแอมโมเนีย และยูเรีย เพื่อขับออกนอกร่างกาย
ลักษณะการทางานของเนฟริเดียมคล้ายหน่วยไตของสัตว์มีกระดูกสันหลัง
การขับถ่ายของไส้เดือนดิน
ดูดซึมน้าและเกลือแร่
กลับเข้าสู่ระบบเลือด
ของเสียถูกกาจัดออก
หลอดขับถ่าย
หลอดพัก
- 15. อวัยวะขับถ่ายของแมลง: ท่อมัลพิ
เกียน (Malpighian tubule)
ของเสียจากเลือดในโพรงลาตัว+
เกลือแร่แพร่เข้าสู่ Malpighian
tubule ด้วยกระบวนการ active
transport และ passive
transport
ของเหลวที่มีของเสียปนอยู่เคลื่อนเข้า
ทางเดินอาหารโดยการหดตัวของ
กล้ามเนื้อผนังมัลพิเกียนทิวบูล
ที่ทางเดินอาหาร : ดูดซึมน้าและสาร
ต่างๆ กลับเข้าร่างกายโดย เรกตัล
แพด (Rectal pad)
ของเสียที่แมลงขับออกทางทวารหนัก
: กากอาหาร กรดยูริก เกลือแร่
การขับถ่ายของแมลง
- 19. อวัยวะที่ใช้ในการขับถ่ายของสิ่งมีชีวิต
สิ่งมีชีวิต โครงสร้างที่ใช้
โปรโตซัว อะมีบา พารามีเซียม
(สิ่งมีชีวิตเซลล์เดียว)
เยื่อหุ้มเซลล์, Contractile vacuole เพื่อขับน้า
ส่วนเกิน
ฟองน้า (P. Porifera) และ
ไฮดรา (P. Cnidaria)
แพร่โดยตรงเข้าเซลล์
หนอนตัวแบน
(P. Platyhelminthes)
เฟลมเซลล์ (Flame cell) ระบบ Protonephridia
ไส้เดือนดิน (P. Annelida) เนฟริเดีย (Nephridia)
แมลง (P. Arthropoda : Insect) ท่อมัลพิเกียน (Mulphighian Tubule)
สัตว์มีกระดูกสันหลัง, คน
(P. Chordata), P. Mollusca
ไต (Kidney)
- 20. โครงสร้างของไต
โครงสร้างระดับอวัยวะ: ไต, ท่อไต, กระเพาะปัสสาวะ, ท่อปัสสาวะ
โครงสร้างระดับเซลล์: glomerulus, Bowman’s capsule, ท่อหน่วยไตส่วนต้น,
ห่วงเฮนเล, ท่อหน่วยไตส่วนท้าย, ท่อไตรวม, renal blood vessel
การทางานของไต
ความผิดปกติของระบบขับถ่าย
การขับถ่ายของคน
- 21. ไต (KIDNEY)
มี 1 คู่ รูปร่างคล้ายเม็ดถั่ว
อยู่ในช่องท้องทั้งสองข้างของ
กระดูกสันหลังบริเวณเอว
ยาว ≈ 10 cm
กรองของเสียออกจากเลือด
โดยเฉพาะของเสียจากเมแทบอ
ลิซึมของสารโปรตีน
กาจัดสารส่วนเกิน
ควบคุมดุลยภาพของสารใน
เลือด
สร้างฮอร์โมน อิริโทรปอยอิติน
(Erythropoietin) กระตุ้นไข
กระดูกให้สร้างเม็ดเลือดแดง
- 22. Nephron (หน่วยไต) จานวนมาก แต่ละข้าง
มีหน่วยไตประมาณ 1 ล้านหน่วย
ไตชั้นนอก (Cortex): สีจาง โครงสร้างส่วน
ใหญ่ของ Nephron ได้แก่ Bowman’s
capsule, ท่อหน่วยไตส่วนต้น, ท่อหน่วยไต
ส่วนท้าย ทาหน้าที่กรองของเสียออกจาก
เลือด
ไตชั้นใน (Medulla): สีเข้มกว่าชั้น Cortex
ลักษณะคล้ายพีระมิด เป็นส่วนที่ดูดซับของดี
กลับ ประกอบด้วยห่วงเฮนเล
Pelvis (กรวยไต): รวบรวมน้าปัสสาวะให้
ไหลเข้าสู่ท่อไต
ท่อไตรวม (collecting duct): พบทั้งในชั้น
Cortex และ Medulla
papilla
เนื้อไต
- 24. ตั้งอยู่ในช่องท้องน้อย มีผนังยืดหดดี
เป็นที่พักน้าปัสสาวะจากท่อไตทั้งสองข้างไหล
มารวมกัน
ความจุ 500 ml
รูเปิดออกทางท่อปัสสาวะ มี sphincter (หู
รูด) คอยควบคุมการปิด-เปิด
กระเพาะปัสสาวะ (URINARY BLADDER)
- 25. Male (ผู้ชาย) :
ยาว ≈ 25 cm
มีต่อมลูกหมากและท่อนา
น้าเชื้อมาเปิด/ เป็นทางออก
ร่วมกับน้าอสุจิ
เปิดออกสู่ภายนอกที่ปลา
ยองคชาต
Female (ผู้หญิง) :
ยาว ≈ 4 cm ท่อสั้นมาก
โอกาสติดเชื้อง่าย
กระเพาะปัสสาวะอักเสบ
กรวยไตอักเสบ
น้าปัสสาวะเปิดออกสู่
ภายนอกโดยตรง
ท่อปัสสาวะ (URETHRA)
- 27. กลุ่มเส้นเลือดฝอย/ ยื่นเข้าไปใน
Bowman’s capsule
แตกแขนงจาก afferent arteriole
ทาหน้าที่กรองของเสียออกจากเลือด
Glomerulus มีเซลล์ชนิดพิเศษเรียก
podocyte
ช่องว่างระหว่าง podocyte เรียก
filtration slit (slit pore)
สารที่ผ่านมากับเลือดจะถูกกรองผ่าน
filtration slit
ของเหลวที่ถูกกรองได้เรียก filtrate
(น้ากรอง)
เลือดที่ไม่ผ่านการกรองจะลาเลียงออก
ทาง efferent arteriole
โครงสร้างระดับเซลล์ : GLOMERULUS
- 28. กระเปาะรูปถ้วยหุ้มรอบ Glomerulus
Bowman’s space เป็นช่องว่างระหว่าง Bowman’s capsule และ Glomerulus
เป็นที่รองรับ filtrate แล้วไหลสู่ renal tubule (ท่อหน่วยไต)
BOWMAN’S CAPSULE
- 29. ท่อขดสั้นๆ อยู่ในชั้น cortex
ผนังของท่อประกอบด้วย mitochondria มาก (แหล่งพลังงาน) เพราะมี
กระบวนการ active transport ดูดสารที่มีประโยชน์ เช่น กลูโคส กรดอะมิโน
Microvilli มาก ช่วยเพิ่มพื้นที่ดูดสารต่างๆ กลับ
PROXIMAL CONVOLUTED TUBULE (ท่อขดส่วนต้น)
- 30. HENLE’S LOOP (ห่วงเฮนเล)
ห่วงรูปท่อตัว U/ ท่อโค้งลงสู่ medulla
แล้ววกกลับขึ้นสู่ชั้น cortex
ท่อเรียงตัวลึกลงในท่อไต
มี vasa recta เรียงตัวขนานกับห่วง
อาศัย countercurrent mechanism
ในการดูดซึมสารกลับ
ประกอบด้วย
Descending limb (ท่อตัว U ขาลง)
ไม่ยอมให้ NaCl ผ่าน
ยอมให้ H2O ผ่าน
Ascending limb (ท่อตัว U ขาขึ้น)
thin segment : ยอมให้ NaCl
ผ่าน ไม่ยอมให้ H2O ผ่าน
thick segment : ยอมให้ NaCl
ผ่าน ไม่ยอมให้ H O ผ่าน
- 32. ท่อรวมน้าปัสสาวะจาก nephron อื่น
เมื่อของเหลวที่กรองได้ผ่านมาถึงตาแหน่งนี้ เรียกว่า น้าปัสสาวะ (Urine)
น้าปัสสาวะจะเปิดเข้าสู่กรวยไต (Renal pelvis) ไปสู่ท่อไต (Ureter) ซึ่งนาน้าปัสสาวะ
ไปเก็บสะสมในกระเพาะปัสสาวะ เพื่อรอการขับทิ้ง
COLLECTING DUCT (ท่อรวม)
- 34. Abdominal aorta : เป็นส่วนของ aorta อยู่ในช่องท้อง, นาเลือดจากหัวใจไปเลี้ยง
อวัยวะภายในช่องท้อง
Renal artery : แยกไปไตซ้ายและขวา, นาเลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของไต
Afferent arteriole : วิ่งเข้า Bowman’s capsule, มี juxtaglomerular cell ผลิต
renin ที่ควบคุมความดันเลือด, แตกแขนงเป็น glomerulus
Glomerulus : กลุ่มเส้นเลือดฝอย ทาหน้าที่กรองของเสียออกจากเลือด
Efferent arteriole : วิ่งออกจาก Bowman’s capsule, แตกแขนงเป็นเส้นเลือดฝอย
พันรอบหน่วยไต
peritubular capillaries (juxtamedullary nephron vasa recta ) : พันรอบ
renal tubule, ทาหน้าที่ดูด/หลั่งสาร, รักษา hyperosmolarity
renal vein : แยกไปไตซ้ายขวา, รับเลือดจากไตทั้งสองข้างเข้าเส้นเลือดดาใหญ่
Inferior vena cava : รับเลือดจาก renal vein ทั้งสองข้างจากไต, นาเลือดไปยัง
หัวใจ
RENAL BLOOD VESSEL
- 35. กรองของเสียออกจากเลือด และกาจัด
ออกเป็นน้าปัสสาวะ
กระบวนการเกิดน้าปัสสาวะ 3
กระบวนการ
การกรองที่โกลเมอรูลัส
(glomerular filtration)
การดูดกลับที่ท่อของหน่วยไต
(tubular reabsorption)
การหลั่งสารที่ท่อของหน่วยไต
(tubular secretion)
กลไกการทางานของหน่วยไต
- 36. Ultrafiltration (แยกสารเฉพาะที่มีโมเลกุลขนาด
ใหญ่ออกจากสารละลาย)
ความเข้มข้นสูงกว่าเส้นเลือดฝอยทั่วไป 2 เท่า
เลือดจาก afferent arteriole จะถูกกรองผ่าน
glomerulus
เม็ดเลือดและสารโมเลกุลขนาดใหญ่จะไม่ผ่านการ
กรอง
สารที่กรองได้คล้ายกับ plasma
น้ากรอง (filtrate):
พบ: H2O, amino acid, glucose, เกลือแร่ (Na
K Cl), vitamin, hormone, urea, uric acid
ไม่พบ: RBC, Hb, albumin, globulin,
prothrombin, fibrinogen
WBC: เคลื่อนที่แบบอะมีบาลอดผ่าน
glomerulus ได้
การกรองที่โกลเมอรูลัส (GLOMERULAR FILTRATION)
- 37. เซลล์เยื่อบุผิวที่ท่อของหน่วยไตมีบทบาทในการดูดสารกลับเนื่องจากมี microvilli
และมี Mitochondria มาก
proximal tubule: ดูดกลับกลูโคส กรดอะมิโน วิตามิน และ NaCl (Active
transport) ส่วน น้า K+ และ HCO3
- (Passive transport)
ห่วงเฮนเลส่วนวกลง: ดูดน้ากลับโดยวิธี Osmosis
ห่วงเฮนเลส่วนวกขึ้น: ดูด NaCl กลับ ทั้งแบบ Active transport และ Passive
transport
Distal tubule: ดูดน้ากลับ แบบ Passive transport ส่วน NaCl และ HCO3
- ดูด
กลับแบบ Active transport
Collecting Duct: ดูดน้ากลับโดยวิธี Osmosis ยอมให้ยูเรียผ่านออกโดยการแพร่
การดูดสารกลับถูกควบคุมด้วยฮอร์โมน Aldosterone หลั่งจากชั้นคอร์เทกซ์ของต่อม
หมวดไต กระตุ้น Distal tubule และ Collecting Duct ให้เพิ่มการดูด H2O และ
Na+ กลับคืนเลือด
การดูดกลับที่ท่อของหน่วยไต (TUBULAR REABSORPTION)
- 38. สารบางชนิดหลั่งจากเลือดเข้าสู่ของเหลวที่กรองได้ในทิวบูล
proximal tubule: มีการหลั่ง H+, K+, NH+
4
H+: เพื่อรักษาระดับ pH ในของเหลวในร่างกายให้คงที่
K+: เมื่อความเข้มข้นของ K+ สูงเกินไปเพราะทาให้การส่งกระแสประสาทบกพร่อง
และความแรงในการหดตัวของกล้ามเนื้อลดลง
Distal tubule: มีการหลั่ง H+, K+, ยาบางชนิดเช่น เพนิซิลลิน และยาพิษ
K+: ควบคุมระดับความเข้มข้นของ K+ และ Na+ ในร่างกาย แปรผันการหลั่ง K+
และการดูดกลับ Na+
H+: เพื่อควบคุม pH ในเลือด โดยควบคุมการหลั่ง H+ และการดูดกลับ HCO3
-
การหลั่งสารที่ท่อของหน่วยไต (TUBULAR SECRETION)
- 41. องค์ประกอบของสารที่ตรวจพบในบริเวณต่างๆ
ตาแหน่ง องค์ประกอบของสารที่ตรวจพบ
Glomerulus เม็ดเลือด, โปรตีน, กรดอะมิโน, กลูโคส, ยูเรีย, น้าและแร่ธาตุ
Bowman’s capsule กรดอะมิโน, กลูโคส, ยูเรีย, น้าและแร่ธาตุ
Proximal tubule กรดอะมิโน, กลูโคส, ยูเรีย, น้าและแร่ธาตุ
Loop of Henle ยูเรีย, น้าและแร่ธาตุ
Distal tubule ยูเรีย, น้าและแร่ธาตุ
Urine ยูเรีย, น้าและแร่ธาตุ
- 43. รักษาสมดุลน้าในร่างกาย: ขับปัสสาวะเพื่อควบคุมน้า เกิดจากฮอร์โมน Antidiuretic
(ADH) ควบคุมการดูดกลับของน้าที่ท่อหน่วยไตและท่อรวม
ร่างกายขาดน้า: ADH หลั่งมาก ดูดน้ากลับมาก ปัสสาวะสีเหลืองจัด กระหายน้า
ร่างกายมีน้ามาก: ADH หลั่งน้อย ดูดน้ากลับน้อย ปัสสาวะสีจาง
รักษาสมดุลเกลือแร่ของร่างกาย: โดยฮอร์โมน Aldosterone กระตุ้นการดูดกลับของ
แร่ธาตุ ถ้าขาดฮอร์โมนนี้ปัสสาวะมีแร่ธาตุมาก เรียกว่า เบาเค็ม
การรักษาระดับ pH ของร่างกาย: ร่างกายผลิตกรดทุกวัน การคั่งของกรดทาให้เบื่อ
อาหาร ไตเสื่อมสภาพ ปัสสาวะเป็นกรด
ควบคุมความดันโลหิต: ความดันโลหิตสูงเกิดจากความผิดปกติของการควบคุมสมดุล
น้าและเกลือแร่
ผลิตและควบคุมการทางานของฮอร์โมน: เช่น Vitamin D ช่วยสร้างกระดูก
หน้าที่ของไต
- 44. โพรทิสต์ : กาจัดของเสียออกทางเยื่อหุ้มเซลล์
โพรทิสต์น้าจืดบางชนิด : พารามีเซียมน้าจืด และอะมีบาน้าจืด มี contractile
vacuole หดตัวไล่น้าส่วนเกินที่ออสโมซิสเข้ามาให้ออกไป
สัตว์ : ป้องกันการสูญเสียน้าโดยมีเกล็ด และสร้างปัสสาวะปริมาณน้อยและ สังเกตจาก
Bowman’s capsule เล็ก หรือ loop of Henle ยาว
คน : รักษาสมดุลของน้าโดยสมองส่วน hypothalamus และ kidney
การรักษาสมดุลของน้า
- 46. ปลาน้าจืด: สภาพแวดล้อมเป็น hypotonic จึงมีกระบวนการป้องกันน้าเข้าตัว และ
กันเกลือแพร่ออก เช่น มีเกล็ด ปัสสาวะเจือจางและบ่อย มี active transport ที่
เหงือก ทวารหนักดูดเกลือกลับคืน
ปลาน้าเค็ม: สิ่งแวดล้อมเป็น hypertonic จึงมีกระบวนการป้องกันเกลือแพร่เข้ามา
และน้าทะลักออก เช่น มีเกล็ด ปัสสาวะเข้มข้น มี active transport ขับเกลือแร่ออก
ที่เหงือกและทวารหนัก
สัตว์ทะเลอื่น: มีของเหลวในร่างกาย isotonic ต่อน้าทะเล เช่น แมงกะพรุน ปลาดาว
นก: มีต่อมนาสิกหรือต่อมเกลือ (nasal gland, salt gland) ขับเกลือส่วนเกินออก
บริเวณจมูก
การรักษาสมดุลเกลือแร่
- 48. คน: ผิวหนังเป็นเซนเซอร์
รับอุณหภูมิ แล้วส่งข้อมูลไป
ให้สมองส่วนไฮโพทาลามัส
ควบคุม
T สูง: หลอดเลือดฝอยที่
ผิวหนังขยายตัว มีการขับ
เหงื่อ เส้นขนเอนราบ ลด
อัตรา metabolism
T ต่า: หลอดเลือดฝอยที่
ผิวหนังหดตัว ขนลุกชัน
กล้ามเนื้อสั่นเทิ้ม เพิ่มอัตรา
metabolism
การรักษาสมดุลอุณหภูมิ
- 50. รักษา pH พลาสมาให้อยู่ที่ประมาณ 7.4 มี 3 กระบวนการ
ระบบหายใจ: มี CO2 หรือ H+ เป็นตัวกระตุ้นพอนส์และเมดัลลา
ระบบขับถ่าย: ใช้ไต เช่นการขับ H+ ออกหรือดูดกลับ HCO3
- เข้า
ระบบบัฟเฟอร์: สารเคมีในเลือดทาปฏิกิริยาเพื่อปรับ pH เช่น คู่สาร H2CO3 /
HCO3
- คู่สาร H2PO4
- / HPO4
2- หรือโปรตีน เช่น hemoglobin
กาลังในการรักษา pH: ไต (ออกเยอะ) > หายใจ (ออกทีละน้อย) > บัฟเฟอร์
(ปฏิกิริยาเคมี)
ความเร็วในการรักษา pH: บัฟเฟอร์ (วินาที) > หายใจ (นาที) > ไต (ชั่วโมง)
การรักษาสมดุลกรดเบส