คูมือประกอบสื่อการสอน วิชาคณิตศาสตร
                    เรื่อง
           การนับและความนาจะเปน
               (เนือหาตอนที่ 1)
                   ้
                การนับเบืองตน
                         ้

                      โดย
      ผูชวยศาสตราจารย ดร.ณัฐกาญจน ใจดี

      สื่อการสอนชุดนี้ เปนความรวมมือระหวาง
   คณะวิทยาศาสตร จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย กับ
สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.)
               กระทรวงศึกษาธิการ
คูมือสื่อการสอนวิชาคณิตศาสตร โดยความรวมมือระหวาง
              สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย


                          สื่อการสอน เรื่อง การนับและความนาจะเปน

         สื่อการสอน เรื่อง การนับและความนาจะเปน มีจํานวนตอนทั้งหมดรวม 16 ตอน ซึ่งประกอบดวย

 1. บทนํา เรื่อง การนับและความนาจะเปน
 2. เนื้อหาตอนที่ 1 การนับเบื้องตน
                          - กฎเกณฑเบื้องตนเกียวกับการนับ
                                                  ่
                          - วิธีเรียงสับเปลี่ยนเชิงเสน(สิ่งของแตกตางกันทั้งหมด)
 3. เนื้อหาตอนที่ 2 การเรียงสับเปลี่ยน
                          - วิธีเรียงสับเปลี่ยนเชิงเสน (สิ่งของไมแตกตางกันทั้งหมด)
                          - วิธีเรียงสับเปลี่ยนเชิงวงกลม
 4. เนื้อหาตอนที่ 3 การจัดหมู
                          - วิธีจัดหมู
 5. เนื้อหาตอนที่ 4 ทฤษฎีบททวินาม
                          - ทฤษฎีบททวินาม
                          - ทฤษฎีบทอเนกนาม
 6. เนื้อหาตอนที่ 5 การทดลองสุม
                          - การทดลองสุม
                          - ปริภูมิตัวอยาง
                          - เหตุการณและความนาจะเปน
 7. เนื้อหาตอนที่ 6 ความนาจะเปน 1
                          - สมบัติพื้นฐานของความนาจะเปน
                          - การหาความนาจะเปนแบบงาย
 8. เนื้อหาตอนที่ 7 ความนาจะเปน 2
                          - การหาความนาจะเปนโดยใชกฎการนับ
                          - การหาความนาจะเปนโดยแผนภาพเวนน-ออยเลอร
 9. แบบฝกหัด (พื้นฐาน 1)
10. แบบฝกหัด (พื้นฐาน 2)
11. แบบฝกหัด (ขันสูง)
                   ้
12. สื่อปฏิสัมพันธ เรื่อง หลักการบวกและหลักการคูณสําหรับการนับ
13. สื่อปฏิสัมพันธ เรื่อง การเรียงสับเปลี่ยน
                                                    1
คูมือสื่อการสอนวิชาคณิตศาสตร โดยความรวมมือระหวาง
             สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย


14. สื่อปฏิสัมพันธ เรื่อง ทฤษฎีบททวินาม
15. สื่อปฏิสัมพันธ เรื่อง ความนาจะเปน
16. สื่อปฏิสัมพันธ เรื่อง การใสบอลลงกลอง

         คณะผูจัดทําหวังเปนอยางยิ่งวา สื่อการสอนชุดนี้จะเปนประโยชนตอการเรียนการสอนสําหรับ
 ครู และนักเรียนทุกโรงเรียนที่ใชสื่อชุดนี้รวมกับการเรียนการสอนวิชาคณิตศาสตร เรื่อง การนับและ
 ความนาจะเปน นอกจากนี้หากทานสนใจสื่อการสอนวิชาคณิตศาสตรในเรื่องอื่นๆที่คณะผูจัดทําได
 ดําเนินการไปแลว ทานสามารถดูชื่อเรื่อง และชื่อตอนไดจากรายชื่อสื่อการสอนวิชาคณิตศาสตรทั้งหมด
 ในตอนทายของคูมือฉบับนี้




                                                   2
คูมือสื่อการสอนวิชาคณิตศาสตร โดยความรวมมือระหวาง
             สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย


เรื่อง            การนับและความนาจะเปน (การนับเบื้องตน)
หมวด              เนื้อหา
ตอนที่            1 (1/7)

หัวขอยอย        1. กฎเกณฑเบื้องตนเกียวกับการนับ
                                           ่
                  2. วิธีเรียงสับเปลี่ยนเชิงเสน(สิ่งของแตกตางกันทั้งหมด)

จุดประสงคการเรียนรู
    เพื่อใหผูเรียน
    1. เขาใจและสามารถใชหลักการบวกและหลักการคูณในการหาจํานวนวิธีในการนับได
    2. สามารถหาจํานวนวิธีในการเรียงสับเปลี่ยนเชิงเสนในกรณีที่สิ่งของแตกตางกันทั้งหมดได

ผลการเรียนรูที่คาดหวัง
               
   ผูเรียนสามารถ
   1. อธิบายหลักการบวกและหลักการคูณได
   2. ประยุกตใชหลักการบวกและหลักการคูณในการหาจํานวนวิธีในการนับได
   3. อธิบายวิธีหาและหาจํานวนวิธีในการเรียงสับเปลี่ยนเชิงเสนในกรณีที่สิ่งของแตกตางกัน
          ทั้งหมดได




                                                   3
คูมือสื่อการสอนวิชาคณิตศาสตร โดยความรวมมือระหวาง
สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย


                             เนื้อหาในสื่อการสอน




                             เนื้อหาทั้งหมด




                                      4
คูมือสื่อการสอนวิชาคณิตศาสตร โดยความรวมมือระหวาง
สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย




           1. กฎเกณฑเบื้องตนเกี่ยวกับการนับ




                                      5
คูมือสื่อการสอนวิชาคณิตศาสตร โดยความรวมมือระหวาง
                   สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย


                                   1. กฎเกณฑเบื้องตนเกี่ยวกับการนับ
       ในหัวขอนี้ผูเรียนจะไดศกษาเรื่องกฎเกณฑเบื้องตนเกียวกับการนับ ซึ่งประกอบดวยหลักการคูณและ
                                ึ                           ่
หลักการบวก ซึ่งเปนพื้นฐานสําคัญในเรื่องของการนับ




          ตัวอยางที่ผูเรียนไดชมจากสื่อการสอน คือ ตัวอยางการนับการทํางาน ซึ่งประกอบดวย 2 ขันตอน โดยใน
                                                                                                ้
ตัวอยางแรก การแตงตัวสามารถแบงการทํางานไดเปน 2 ขั้นตอน โดยขั้นตอนแรก คือ การเลือกเสือ และขั้นตอน
                                                                                              ้
ที่ 2 คือ การเลือกกระโปรง สวนในตัวอยางที่ 2 การจัดชุดอาหาร สามารถแบงการทํางานไดเปน 2 ขั้นตอนเชนกัน
โดยขั้นตอนแรก คือ การเลือกอาหารคาว และขั้นตอนที่ 2 คือ การเลือกอาหารหวาน ซึ่งสามารถสรุปไดดังนี้

ทฤษฎีบท ถาการทํางานอยางหนึ่งประกอบดวยการทํางาน 2 ขั้นตอน โดยการทํางานขั้นตอนที่ 1 มีวธีทํา n วิธี
                                                                                             ิ
และการทํางานขั้นตอนที่ 2 มีวธีทํา m วิธี จะไดวา จํานวนวิธีของการทํางานนี้เทากับ n × m วิธี
                            ิ                  

       จากทฤษฎีบทขางตน สามารถขยายไปสูกรณีที่การทํางานประกอบดวยการทํางาน k ขั้นตอน
ดังรายละเอียดในสื่อการสอนตอไปนี้




                                                         6
คูมือสื่อการสอนวิชาคณิตศาสตร โดยความรวมมือระหวาง
                   สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย




       เมื่อผูเรียนไดแนวคิดเกียวกับหลักการคูณ พรอมทั้งเห็นตัวอยางการประยุกตใชหลักการคูณแลว ผูสอน
                                  ่                                                                 
อาจยกตัวอยางเพิ่มเติมเพื่อใหผูเรียนไดฝกทักษะในเรื่องนี้ไดดยิ่งขึ้น ดังนี้
                                                                ี

ตัวอยาง จงหาจํานวนวิธีทั้งหมดในการสรางจํานวน 3 หลัก จากเลขโดด 0, 1, 2, 3, 4, 5, 6 และ 7 โดยที่เลขแตละ
หลักจะตองไมซ้ํากัน และจํานวนที่สรางขึนตองเปนจํานวนที่มีคามากกวา 400 แตนอยกวา 700
                                          ้                                     
วิธีทํา
                                     _________ _________ _________
                                      หลักรอย      หลักสิบ หลักหนวย
การสรางจํานวนที่มีคามากกวา 400 แตนอยกวา 700 สามารถแบงการทํางานออกเปน 3 ขั้นตอน ดังนี้
                                        
ขั้นตอนที่ 1 เลือกเลขโดด 1 ตัว เพื่อวางในหลักรอย ซึ่งมีไดทั้งหมด 3 วิธี (เลข 4 หรือ เลข 5 หรือเลข 6)
ขั้นตอนที่ 2 เลือกเลขโดด 1 ตัว เพื่อวางในหลักสิบ ซึ่งมีไดทั้งหมด 7 วิธี
ขั้นตอนที่ 3 เลือกเลขโดด 1 ตัว เพื่อวางในหลักหนวย ซึงมีไดทั้งหมด 6 วิธี
                                                       ่
โดยหลักการคูณ จะไดวา จํานวนวิธีในการสรางจํานวนดังกลาวมีทั้งหมด 3 × 7 × 6 = 126 วิธี




                                                         7
คูมือสื่อการสอนวิชาคณิตศาสตร โดยความรวมมือระหวาง
                   สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย




       เมื่อผูเรียนไดชมสื่อการสอนขางตนแลว ผูสอนอาจใหขอสังเกตผูเรียนเพิ่มเติม ดังนี้
                                                          
       ในกรณีที่การหาจํานวนของเหตุการณที่สนใจโดยตรงทําไดยาก เทคนิคที่สาคัญอยางหนึ่งคือการหา
                                                                                ํ
จํานวนของเหตุการณที่ไมสนใจแทน จากนั้นใชความสัมพันธที่วา

                      จํานวนของเหตุการณที่สนใจ
                      = ( จํานวนของเหตุการณที่ไมมีเงื่อนไข )         −    (จํานวนของเหตุการณทไมสนใจ)
                                                                                                ี่



          ตัวอยางตอไปนี้ เปนตัวอยางที่ประยุกตใชเรื่องการนับในการหาจํานวนฟงกชันและการหาจํานวน
สับเซต ซึ่งผูสอนอาจทบทวนความหมายของฟงกชัน ฟงกชันหนึ่งตอหนึ่งและสับเซต ใหผูเรียนกอน จากนันจึง
                                                                                                    ้
ใหผูเรียนฝกทําตัวอยางตอไปนี้เพิ่มเติม

ตัวอยาง ให A = {1, 2,3, 4} จงหา
        1. จํานวนฟงกชนทั้งหมดจาก A ไป A
                          ั
        2. จํานวนฟงกชนหนึ่งตอหนึ่งทั้งหมดจาก A ไป A
                            ั
        3. จํานวนฟงกชนทั้งหมดทีไมใชฟงกชันหนึงตอหนึ่งจาก A ไป A
                              ั    ่              ่
วิธีทา
     ํ
                                ________ ________ ________ ________
                                    f (1)           f (2)           f (3)           f (4)




                                                         8
คูมือสื่อการสอนวิชาคณิตศาสตร โดยความรวมมือระหวาง
            สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย



1. ในการสรางฟงกชัน f จาก A ไป A สามารถแบงการทํางานไดเปน 4 ขั้นตอน
   ขั้นตอนที่ 1 เลือกสมาชิกใน A จํานวน 1 ตัว เพื่อกําหนดใหเปนคาของ f (1) ซึ่งมีไดทั้งหมด 4 วิธี
   ขั้นตอนที่ 2 เลือกสมาชิกใน A จํานวน 1 ตัว เพื่อกําหนดใหเปนคาของ f (2) ซึ่งมีไดทั้งหมด 4 วิธี
   ขั้นตอนที่ 3 เลือกสมาชิกใน A จํานวน 1 ตัว เพื่อกําหนดใหเปนคาของ f (3) ซึ่งมีไดทั้งหมด 4 วิธี
   ขั้นตอนที่ 4 เลือกสมาชิกใน A จํานวน 1 ตัว เพื่อกําหนดใหเปนคาของ f (4) ซึ่งมีไดทั้งหมด 4 วิธี
   โดยหลักการคูณ จะไดวา จํานวนวิธีในการสรางฟงกชันดังกลาวมีทั้งหมด 4 × 4 × 4 × 4 = 256 วิธี
   ดังนั้น จํานวนฟงกชนจาก A ไป A มีทั้งหมด 256 ฟงกชัน
                       ั

2. ในการสรางฟงกชัน f ซึ่งเปนฟงกชันหนึ่งตอหนึ่ง จาก A ไป A
   สามารถแบงการทํางานไดเปน 4 ขั้นตอน
   ขั้นตอนที่ 1 เลือกสมาชิกใน A จํานวน 1 ตัว เพื่อกําหนดใหเปนคาของ f (1) ซึ่งมีไดทั้งหมด 4 วิธี
   ขั้นตอนที่ 2 เลือกสมาชิกใน A จํานวน 1 ตัว เพื่อกําหนดใหเปนคาของ f (2)
                โดยไมซ้ํากับ f (1) ซึ่งมีไดทั้งหมด 3 วิธี
   ขั้นตอนที่ 3 เลือกสมาชิกใน A จํานวน 1 ตัว เพื่อกําหนดใหเปนคาของ f (3)
                โดยไมซ้ํากับ f (1) และ f (2) ซึ่งมีไดทั้งหมด 2 วิธี
   ขั้นตอนที่ 4 เลือกสมาชิกใน A จํานวน 1 ตัว เพื่อกําหนดใหเปนคาของ f (4)
                โดยไมซ้ํากับ f (1) , f (2) และ f (3) ซึ่งมีไดทั้งหมด 1 วิธี
   โดยหลักการคูณ จะไดวา จํานวนวิธีในการสรางฟงกชันดังกลาวมีทั้งหมด 4 × 3 × 2 ×1 = 24 วิธี
   ดังนั้น จํานวนฟงกชนหนึ่งตอหนึ่งจาก A ไป A มีทั้งหมด 24 ฟงกชัน
                       ั

3. จํานวนฟงกชันทังหมดที่ไมใชฟงกชันหนึ่งตอหนึ่งจาก A ไป A
                   ้
    = (จํานวนฟงกชนทั้งหมดจาก A ไป A ) − (จํานวนฟงกชันหนึ่งตอหนึ่งทั้งหมดจาก A ไป A )
                     ั
    = 256 − 24 = 232 ฟงกชัน




                                                  9
คูมือสื่อการสอนวิชาคณิตศาสตร โดยความรวมมือระหวาง
                     สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย


ตัวอยาง กําหนดใหเซต A มีจํานวนสมาชิก n ตัว จงหาจํานวนสับเซตทั้งหมดของ                     A
วิธีทา กําหนดให A = {a1 , a2 ,… , an }
     ํ
        ในการสรางสับเซต B ของ A สามารถแบงการทํางานไดเปน n ขั้นตอน
         ขั้นตอนที่ 1 เลือกวา a1 ∈ B หรือ a1 ∉ B ซึ่งมีไดทั้งหมด 2 วิธี
         ขั้นตอนที่ 2 เลือกวา a2 ∈ B หรือ a2 ∉ B ซึ่งมีไดทั้งหมด 2 วิธี

        ขั้นตอนที่ n เลือกวา an ∈ B หรือ an ∉ B ซึ่งมีไดทั้งหมด 2 วิธี
        โดยหลักการคูณ จะไดวา จํานวนสับเซตทั้งหมดของ A เทากับ 2n สับเซต


       ตัวอยางในสื่อการสอนตอไปนี้ เปนตัวอยางเพื่อนําเขาสูเรื่องหลักการบวก ซึ่งผูเรียนจะไดศกษาเรื่อง
                                                                                                  ึ
หลักการบวกและตัวอยางการประยุกตใช




                                                          10
คูมือสื่อการสอนวิชาคณิตศาสตร โดยความรวมมือระหวาง
                     สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย


          ผูสอนอาจใหขอสังเกตผูเรียนเพิ่มเติมวา บอยครั้งที่เราตองใชทั้งหลักการคูณและหลักการบวกเพื่อนับ
จํานวนเหตุการณที่สนใจ และเพื่อใหผูเรียนเขาใจหลักการทั้งสองไดดียิ่งขึ้น ผูสอนอาจใหผูเรียนฝกทําตัวอยาง
เพิ่มเติม ดังนี้

ตัวอยาง ในการสรางรหัสจากตัวอักษร A, B, C, D โดยกําหนดใหแตละรหัสอาจมีอกษร 2 ตัว หรืออักษร 3 ตัว
                                                                                  ั
เทานั้น จะสรางรหัสไดทั้งหมดกี่วิธี
วิธีทํา ในการสรางรหัสดังกลาว สามารถแบงพิจารณาไดเปน 2 กรณี
         กรณีที่ 1 รหัสมีอักษร 2 ตัว
                   ขั้นตอนที่ 1 เลือกอักษรตัวแรก ซึ่งมีทั้งหมด 4 วิธี
                   ขั้นตอนที่ 2 เลือกอักษรตัวที่สอง ซึ่งมีทั้งหมด 4 วิธี
                   โดยหลักการคูณ จะไดวา วิธีสรางรหัสที่มอักษร 2 ตัว เทากับ 4 × 4 = 16 วิธี
                                                              ี
         กรณีท่ี 2 รหัสมีอักษร 3 ตัว
                   ขั้นตอนที่ 1 เลือกอักษรตัวแรก ซึ่งมีทั้งหมด 4 วิธี
                   ขั้นตอนที่ 2 เลือกอักษรตัวที่สอง ซึ่งมีทั้งหมด 4 วิธี
                   ขั้นตอนที่ 3 เลือกอักษรตัวที่สอง ซึ่งมีทั้งหมด 4 วิธี
                   โดยหลักการคูณ จะไดวา วิธสรางรหัสที่มีอักษร 3 ตัว เทากับ 4 × 4 × 4 = 64 วิธี
                                               ี
         จากกรณีที่ 1 และกรณีที่ 2 และหลักการบวก จะไดวา
         จํานวนรหัสทีมีอักษร 2 ตัวหรืออักษร 3 ตัว มีทั้งหมด 16 + 64 = 80 วิธี
                        ่

ตัวอยาง จงหาจํานวนวิธีทั้งหมดในการสรางจํานวน 3 หลัก จากเลขโดด 0, 1, 2, 3, 4, 5, 6 และ 7 โดยที่เลขแตละ
หลักจะตองไมซ้ํากัน และจํานวนที่สรางขึนตองเปนจํานวนคี่ที่มีคามากกวา 400 แตนอยกวา 700
                                        ้
วิธีทา
     ํ                                                                                    1, 3, 5, 7
                       4, 5, 6
                                          _________ _________ _________
                                           หลักรอย       หลักสิบ หลักหนวย

จะเห็นวา เลข 5 อยูไดทั้งในตําแหนงหลักรอยและหลักหนวย ดังนั้นจึงแบงพิจารณาเปน 2 กรณี ดังนี้
       กรณีท่ี 1 หลักหนวยเปนเลข 5
                 ขั้นตอนที่ 1 เลือกเลขหลักหนวย ซึ่งมีทั้งหมด 1 วิธี
                 ขั้นตอนที่ 2 เลือกเลขหลักรอย ซึ่งมีทั้งหมด 2 วิธี
                 ขั้นตอนที่ 3 เลือกเลขหลักสิบ ซึ่งมีทั้งหมด 6 วิธี
                 โดยหลักการคูณ จํานวนที่หลักหนวยเปนเลข 5 มีทั้งหมด 1× 2 × 6 = 12 จํานวน
                                                          11
คูมือสื่อการสอนวิชาคณิตศาสตร โดยความรวมมือระหวาง
            สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย


กรณีที่ 2 หลักหนวยไมเปนเลข 5
          ขั้นตอนที่ 1 เลือกเลขหลักหนวย ซึ่งมีทั้งหมด 3 วิธี
          ขั้นตอนที่ 2 เลือกเลขหลักรอย ซึ่งมีทั้งหมด 3 วิธี
          ขั้นตอนที่ 3 เลือกเลขหลักสิบ ซึ่งมีทั้งหมด 6 วิธี
          โดยหลักการคูณ จํานวนที่หลักหนวยเปนเลข 5 มีทั้งหมด 3 × 3 × 6 = 54 จํานวน

จากกรณีที่ 1 และกรณีที่ 2 และหลักการบวก จะไดวา
จํานวน 3 หลักซึ่งเปนจํานวนคี่ที่มีคามากกวา 400 แตนอยกวา 700 มีทั้งหมด 12 + 54 = 66 วิธี
                                                      

       สําหรับตัวอยางขางตน ผูเรียนอาจแบงกรณีแบบอื่นได เชน กรณีหลักรอยเปนเลข 5 และ
กรณีหลักรอยไมเปนเลข 5




                                                 12
คูมือสื่อการสอนวิชาคณิตศาสตร โดยความรวมมือระหวาง
            สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย


                                       แบบฝกหัดเพิ่มเติม
                             เรื่อง กฎเกณฑเบื้องตนเกี่ยวกับการนับ

1. สวนสาธารณะแหงหนึ่งมีประตูทั้งหมด 5 ประตู ถาจะเขาประตูหนึ่งและออกอีกประตูหนึ่ง ซึ่งไม
   ซ้ํากับประตูท่เี ขามา จะมีวิธการเขาและออกจากสวนสาธารณะแหงนีไดทั้งหมดกี่วิธี
                                  ี                                     ้
2. ถาถนนจากกรุงเทพฯ ถึงลพบุรีมี 3 สาย และถนนจากลพบุรีถึงนครราชสีมามี 4 สาย ถาจะขับ
   รถยนตจากกรุงเทพฯ ถึงนครราชสีมาโดยขับผานจังหวัดลพบุรี จะใชเสนทางที่ตางกันไดทั้งหมดกี่
   เสนทาง
3. เมื่อโยนเหรียญ 1 เหรียญ จํานวน 3 ครั้ง จะมีผลลัพธที่แตกตางกันไดทั้งหมดกีวิธี
                                                                                 ่
4. บริษัทผูผลิตเสื้อผาสําเร็จรูปบริษัทหนึ่งผลิตเสื้อ 3 แบบ แตละแบบมี 5 สี และมีขนาดตาง ๆ กัน 3
   ขนาด ถาจะจัดเสื้อที่ผลิตเขาตูโชวหนารานใหครบทุกแบบ ทุกสี และทุกขนาด จะตองใชเสื้อทั้งหมด
   กี่ตัว
5. นักวิ่งแขง 5 คน จะวิ่งเขาเสนชัยในอันดับตาง ๆ กันไดทงหมดกีวธี สมมติวาไมมนกวิ่งสองคนใดวิง
                                                             ั้    ่ิ          ี ั                ่
   เขาเสนชัยพรอมกัน
6. ให A = {1, 2,3, 4,5} จงหาจํานวนฟงกชน f : A → A โดยที่ f ( x) ≥ x ทุก x ∈ A
                                               ั
7. ให A = {1, 2,3} และ B = {a, b, c, d } จงหา
   7.1 จํานวนฟงกชันหนึ่งตอหนึ่งจาก A ไป B
   7.2 จํานวนฟงกชนจาก A ไป B ที่ไมใชฟงกชันหนึ่งตอหนึ่ง
                        ั                         




                                                 13
คูมือสื่อการสอนวิชาคณิตศาสตร โดยความรวมมือระหวาง
     สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย




2. วิธีเรียงสับเปลี่ยนเชิงเสน(สิ่งของแตกตางกันทั้งหมด)




                                          14
คูมือสื่อการสอนวิชาคณิตศาสตร โดยความรวมมือระหวาง
                     สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย


                         2. วิธีเรียงสับเปลี่ยนเชิงเสน (สิ่งของแตกตางกันทั้งหมด)

        ในหัวขอนี้ ผูเรียนจะไดศกษาวิธีการเรียงสับเปลี่ยนเชิงเสนในกรณีที่สิ่งของที่นํามาจัดเรียงแตกตางกัน
                                    ึ
ทั้งหมด โดยเริ่มจากใหผูเรียนรูจกกับ “แฟกทอเรียล” ซึ่งจะมีบทบาทสําคัญในเรื่องของการนับ
                                  ั




        ผูเรียนควรฝกทักษะเรื่องแฟกทอเรียล จากตัวอยางตอไปนี้

ตัวอยาง จงหาคาตอไปนี้
             6!                                      n!                                  (n − 1)!(n + 1)!
        1.                                   2.                                     3.
             3!                                   (n − 3)!                                    (n !) 2




                                                          15
คูมือสื่อการสอนวิชาคณิตศาสตร โดยความรวมมือระหวาง
                      สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย

                   6! 6 × 5 × 4 × 3!
วิธีทํา 1.            =                = 6 × 5 × 4 = 120
                   3!         3!
                     n!       n × (n − 1) × (n − 2) × (n − 3)!
         2.                 =                                  = n(n − 1)(n − 2)
                  (n − 3)!                (n − 3)!
                 (n − 1)!(n + 1)! (n − 1)![(n + 1) × n !] n + 1
        3.                         =                        =
                      (n !) 2           [n × (n − 1)!]n !       n


ตัวอยาง จงเขียนจํานวนตอไปนี้ใหอยูในรูปแฟกทอเรียล
        1. 100 × 99 × 98
        2. 11×12 ×13 ×14 ×15
        3. n(n − 1)(n − 2)
                                100 × 99 × 98 × 97 × 96 × × 2 × 1 100!
วิธทํา 1.
   ี          100 × 99 × 98 =                                    =
                                       97 × 96 × × 2 ×1            97!

                                      1× 2 ×     ×10 × 11× 12 × 13 × 14 × 15 15!
        2.    11×12 ×13 ×14 ×15 =                                           =
                                                  1× 2 × × 10                 10!

                                  n(n − 1)(n − 2)(n − 3) × × 2 ×1      n!
        3.    n(n − 1)(n − 2) =                                   =
                                         (n − 3) × × 2 ×1           (n − 3)!


ตัวอยาง จงหาคา n จากสมการตอไปนี้
                 n!
        1.             = 720
              (n − 3)!
                   n!             n!
        2.                  =
              (n − 10)!10! (n − 8)!8!
                          n!
วิธีทํา 1.                      = 720
                       (n − 3)!
               n(n − 1)(n − 2) = 10 × 9 × 8         ดังนั้น n = 10
                       n!            n!
        2.                     =
                 (n − 10)!10! (n − 8)!8!
                     (n − 8)! 10!
                              =
                    (n − 10)! 8!
                (n − 8)(n − 9) = 10 × 9              ดังนั้น   n = 18




                                                           16
คูมือสื่อการสอนวิชาคณิตศาสตร โดยความรวมมือระหวาง
                     สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย




ทฤษฎีบท จํานวนวิธีในการจัดเรียงสิ่งของ n สิ่งที่แตกตางกันทั้งหมด จะมีได n ! วิธี
                                                                                          n!
พิสจน
   ู       จํานวนวิธในการจัดเรียงสิ่งของ n สิ่งที่แตกตางกันทั้งหมด = Pn,n =
                    ี                                                                           = n ! วิธี
                                                                                       (n − n)!




         เมื่อผูเรียนไดชมตัวอยางขางตนจบแลว ผูสอนอาจใหขอสังเกตผูเรียนเพิ่มเติมวา ในการหาจํานวนวิธีเรียง
สับเปลี่ยนเชิงเสน โดยมีเงื่อนไขเพิ่มเติมวา “สิ่งของ k สิ่งตองอยูติดกัน” มีเทคนิคสําคัญอยางหนึ่งคือ นําสิ่งของ
ที่ตองการใหอยูติดกัน “มัด” รวมไวดวยกัน จากนัน มองสิ่งของที่ “มัด” รวมกันไวเปนเสมือนสิงของเพียงหนึง
                                                        ้                                               ่       ่
สิ่ง แตผูเรียนอยาลืมวา สิ่งของที่ “ มัด” รวมไวดวยกัน สามารถสลับตําแหนงกันไดอีก
         เพื่อใหผูเรียนเขาใจเทคนิคดังกลาวไดดียิ่งขึ้น ผูสอนอาจใหผูเรียนทําตัวอยางตอไปนีเ้ พิ่มเติม




                                                          17
คูมือสื่อการสอนวิชาคณิตศาสตร โดยความรวมมือระหวาง
                    สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย


ตัวอยาง จงหาจํานวนวิธีจดนักเรียนชาย 5 คนและนักเรียนหญิง 3 คนยืนเขาแถว โดยที่
                         ั
         1. ไมมีเงื่อนไขเพิ่มเติม
         2. นักเรียนชายตองอยูตดกันและนักเรียนหญิงตองอยูติดกัน
                                   ิ                         
วิธีทา 1. จํานวนวิธจัดนักเรียนชาย 5 คน นักเรียนหญิง 3 คน ยืนเขาแถว = P8,8 = 8! วิธี
     ํ                 ี
         2. นํานักเรียนชาย 5 คน มัดติดกันไว และนํานักเรียนหญิง 3 คน มัดติดกันไว
            ดังนั้น ในการจัดดังกลาว จึงเปรียบเสมือนการเรียงสับเปลี่ยนสิ่งของ 2 สิ่ง จัดเรียงได 2! วิธี
            นักเรียนชายที่มัดติดกันไว 5 คน เรียงสับเปลี่ยนกันได 5! วิธี
            นักเรียนหญิงที่มัดติดกันไว 3 คน เรียงสับเปลี่ยนกันได 3! วิธี
            ทําใหไดวา จํานวนวิธการจัดที่ตองการมีทั้งหมด = 2!5!3! = 1, 440 วิธี
                                     ี




         เมื่อผูเรียนไดชมสื่อการสอนขางตนแลว ผูสอนอาจใหขอสังเกตผูเรียนเพิ่มเติม ดังนี้
                                                            
         ในการจัดชาย 5 คน หญิง 3 คน ยืนเขาแถว โดยที่ “หญิงหามยืนติดกัน” หมายถึง “ไมมีหญิงสองคนใด
ยืนติดกัน” ไมใช “หามหญิงสามคนยืนติดกัน” ดังนั้น “นิเสธของ หญิงหามยืนติดกัน” จึงไมใช “หญิงทั้งสาม
คนยืนติดกัน” เพราะฉะนั้น

                   จํานวนวิธีจัดชาย 5 คน หญิง 3 คน ยืนเขาแถว โดยที่หญิงหามยืนติดกัน
                    ≠ (จํานวนวิธีจัดชาย 5 คน หญิง 3 คน ยืนเขาแถว)
                       − (จํานวนวิธีจดชาย 5 คน หญิง 3 คน ยืนเขาแถว โดยที่หญิงทั้งสามคนยืนติดกัน)
                                     ั




                                                         18
คูมือสื่อการสอนวิชาคณิตศาสตร โดยความรวมมือระหวาง
                สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย


                                      แบบฝกหัดเพิ่มเติม
              เรื่อง วิธีเรียงสับเปลี่ยนเชิงเสน (สิ่งของแตกตางกันทั้งหมด)

1. จํานวนวิธีในการจัดอักษร A, B, C, D และ E เรียงเปนเสนตรง มีทั้งหมดกี่วธี ิ
2. นําตัวอักษร A, B, C, D และ E มาเรียงสับเปลี่ยนเชิงเสน โดยที่ C และ D ตองอยูติดกัน ไดทั้งหมดกีวิธี
                                                                                                    ่
3. จํานวนวิธีในการจัดเรียงอักษร 3 ตัว จาก A, B, C, D และ E มีทั้งหมดกี่วธีิ
4. ในการแขงขันวิ่งของนักวิ่ง 5 คน จํานวนวิธที่นักวิ่งจะวิ่งเขาเสนชัยสองคนแรกมีทั้งหมดกี่วธี
                                               ี                                              ิ
5. จํานวนวิธีสรางเลขสามหลักจากเลขโดด 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7 โดยหามใชเลขซ้ํา มีทั้งหมดกี่วธี
                                                                                          ิ
6. จงหาจํานวนวิธีที่ผูชาย 3 คนและผูหญิง 4 คน ยืนเขาแถวซื้อตั๋วรถไฟ โดยที่ผูหญิงทั้งหมดตองยืนติดกัน
7. จงหาจํานวนวิธีเลือกหัวหนาหอง รองหัวหนาหองและเหรัญญิก ตําแหนงละ 1 คน จากนักเรียนหองหนึ่ง
   ที่มีทั้งหมด 50 คน
8. จํานวนวิธีในการจัดนักเรียนชาย 4 คน นักเรียนหญิง 4 คน เขาแถวถายรูป มีทั้งหมดกีวิธี ถา
                                                                                       ่
    8.1 ไมมีเงื่อนไขเพิ่มเติม
    8.2 นักเรียนชายยืนสลับกับนักเรียนหญิง
    8.3 นักเรียนชายสองคนยืนสลับกับนักเรียนหญิงสองคน
9. นักเรียนกลุมหนึ่งมีจํานวน 8 คน โดยที่มี ด.ช.สาธิตและ ด.ช.ณัฐ รวมอยูดวย จงหาจํานวนวิธีที่จด ั
   นักเรียนกลุมนี้เขาแถว โดยที่
   9.1 ด.ช.สาธิตและด.ช.ณัฐ ตองยืนติดกัน
   9.2 ด.ช.สาธิตและด.ช.ณัฐ หามยืนติดกัน
                            (n − 1)! 1  (n + 2)!
10. จงหาคา n จากสมการ              = 
                               n!    3  (n + 1)! 
                                                  




                                                     19
คูมือสื่อการสอนวิชาคณิตศาสตร โดยความรวมมือระหวาง
สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย




             สรุปสาระสําคัญประจําตอน




                                     20
คูมือสื่อการสอนวิชาคณิตศาสตร โดยความรวมมือระหวาง
สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย


                        สรุปสาระสําคัญประจําตอน




                                     21
คูมือสื่อการสอนวิชาคณิตศาสตร โดยความรวมมือระหวาง
                  สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย



                                               เอกสารอางอิง

1.   สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี. (2552). หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานคณิตศาสตร
     เลม 2 ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 4 – 6 กลุมสาระการเรียนรูคณิตศาสตร ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้น
     พื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ: สถาบันฯ.

2.   สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี. (2552). หนังสือเรียนรายวิชาเพิ่มเติมคณิตศาสตร
     เลม 4 ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 4 – 6 กลุมสาระการเรียนรูคณิตศาสตร ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้น
     พื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ: สถาบันฯ.




                                                       22
คูมือสื่อการสอนวิชาคณิตศาสตร โดยความรวมมือระหวาง
สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย




                    ภาคผนวกที่ 1
               แบบฝกหัด/เนื้อหาเพิ่มเติม




                                     23
คูมือสื่อการสอนวิชาคณิตศาสตร โดยความรวมมือระหวาง
               สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย


                                               แบบฝกหัดระคน

1. มีหนังสือวิชาคณิตศาสตร 3 เลม หนังสือวิชาวิทยาศาสตร 2 เลม และหนังสือวิชาภาษาอังกฤษ 2 เลม
   โดยหนังสือทุกเลมแตกตางกันทั้งหมด ถาตองการจัดหนังสือทั้งหมดนี้วางบนชันหนังสือ โดยให
                                                                            ้
   หนังสือวิชาเดียวกันอยูตดกัน จะมีจํานวนวิธีการจัดไดทงหมดกีวิธี
                           ิ                            ั้    ่
    1. 6                     2. 72                3. 144                  4. 5,040

2. จากโจทยขอ 1 ถาเพิ่มเงื่อนไขวา หนังสือวิชาคณิตศาสตรตองอยูระหวางหนังสือวิชาวิทยาศาสตรและ
   หนังสือวิชาภาษาอังกฤษ จะมีจํานวนวิธีการจัดไดทั้งหมดกี่วิธี
    1. 24                     2. 48               3. 56                     4. 72

3. ครอบครัวหนึงมีทั้งหมด 4 คน ประกอบดวย พอ แม และลูก 2 คน ตองการขับรถไปชายทะเล โดยใช
                   ่
   รถยนต 4 ที่นั่ง โดยพอหรือแมเปนคนขับรถ จะมีจํานวนวิธีที่สมาชิกในครอบครัวนังรถยนตคันนีได
                                                                                ่           ้
   ทั้งหมดกีวิธี
            ่
    1. 6                    2. 12               3. 18                     4. 24

4. ถามีจานสีขาวลายตางกัน 4 ใบ จานสีฟาลายตางกัน 3 ใบ และจานสีดาลายตางกัน 3 ใบ จะมีจํานวนวิธี
                                                                  ํ
   วางจานทั้ง 10 ใบซอนกัน โดยใหจานสีขาวอยูติดกันทั้งหมดกี่วิธี
                                                                              10!
     1. 4!6!              2. 3!7!               3. 4!7!                  4.
                                                                               4!

5. จํานวนวิธีจดนักเรียนชาย 4 คน นักเรียนหญิง 4 คน เขาแถว โดยที่นกเรียนชายจะอยูในตําแหนงเลขคู
               ั                                                 ั
   เสมอ มีทั้งหมดกี่วธี
                     ิ
     1. 48                2. 144                3. 288                   4. 576

6. จํานวนวิธีสรางจํานวน 3 หลักใหมคามากกวา 300 จากเลขโดด 0, 1, 2, 3, 4 และ 5 โดยหามใชเลขซ้ํา มี
                                   ี
   ไดทั้งหมดกีวธี
               ่ิ
     1. 12                 2. 24                3. 60                      4. 154




                                                    24
คูมือสื่อการสอนวิชาคณิตศาสตร โดยความรวมมือระหวาง
                 สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย


7. จากตัวเลข 0, 1, 2, 3, 4 และ 5 จะสรางจํานวนที่มี 3 หลัก โดยแตละหลักมีตัวเลขซ้ํากันได และจํานวน
   เหลานี้หารดวย 5 ลงตัว ไดทั้งหมดกีจํานวน
                                       ่
     1. 30                  2. 36                 3. 60                      4. 72

8. บริษัทแหงหนึงมีตําแหนงงานวางอยู 2 ตําแหนง ถามีผูมาสมัครเขาทํางาน 5 คน คือ ก, ข, ค, ง และ จ
                  ่
   หลังจากสัมภาษณแลว ปรากฏวาคนที่เหมาะกับตําแหนงที่ 1 คือ ก, ข, ค และ ง สวนคนที่เหมาะสมกับ
   ตําแหนงที่ 2 คือ ค, ง และ จ จงหาจํานวนวิธีทั้งหมดที่บริษัทจะเลือกคนเขาทํางานใหเหมาะสมกับ
   ตําแหนงดังกลาว
     1. 10                   2. 12                 3. 16                       4. 24

9. อักษรภาษาอังกฤษ 5 ตัวทีแตกตางกัน ซึ่งประกอบดวยพยัญชนะ 2 ตัว และสระ 3 ตัว นํามาจัดเรียงโดย
                            ่
   ไมใหพยัญชนะอยูติดกัน แตสระตองอยูติดกัน จํานวนวิธการจัดเทากับขอใดตอไปนี้
                                                         ี
     1. 12                 2. 24                  3. 32                    4. 36

10. ให   A = {1, 2,3, 4,5}และ B = {1, 2,3} จํานวนฟงกชัน           f :A→B       ซึ่ง   f (1) ≠ 1 และ
     f (2) ≠ 2 เทากับขอใดตอไปนี้
     1. 80                  2. 108                3. 125                                  4. 243




                                                      25
คูมือสื่อการสอนวิชาคณิตศาสตร โดยความรวมมือระหวาง
สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย




                         ภาคผนวกที่ 2
                        เฉลยแบบฝกหัด




                                     26
คูมือสื่อการสอนวิชาคณิตศาสตร โดยความรวมมือระหวาง
                สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย


                                                เฉลยแบบฝกหัด
                                เรื่อง กฎเกณฑเบื้องตนเกี่ยวกับการนับ
 1.     20                                          2.     12
 3.     8                                           4.     45
 5.     120                                         6.     120
 7.    7.1 24
       7.2 40

                                                เฉลยแบบฝกหัด
                  เรื่อง การเรียงสับเปลี่ยนเชิงเสน(สิ่งของแตกตางกันทั้งหมด)
 1. 120                                             2. 2!4!, 48
 3.  60                                             4. 20
 5.  210                                            6. 4!4!, 576
 7.  50 x 49 x 48, 117600
 8.   8.1 8!, 40320                                 9. 9.1 2!7!, 10080
     8.2 2!4!4!, 1152                                  9.2 8! − 2!7!, 30240
      8.3 2!4!4!, 1152
 10. 1

                                       เฉลยแบบฝกหัดระคน

1. 3                         2. 2                        3. 2                  4. 3
5. 4                        6. 3                         7. 3                  8. 1
9. 1                       10. 2




                                                     27
คูมือสื่อการสอนวิชาคณิตศาสตร โดยความรวมมือระหวาง
สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย




       รายชื่อสื่อการสอนวิชาคณิตศาสตร
                  จํานวน 92 ตอน




                                     28
คูมือสื่อการสอนวิชาคณิตศาสตร โดยความรวมมือระหวาง
                          สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย


                             รายชื่อสื่อการสอนวิชาคณิตศาสตร จํานวน 92 ตอน
                 เรื่อง                                                              ตอน
เซต                                      บทนํา เรื่อง เซต
                                         ความหมายของเซต
                                         เซตกําลังและการดําเนินการบนเซต
                                         เอกลักษณของการดําเนินการบนเซตและแผนภาพเวนน-ออยเลอร
                                         สื่อปฏิสัมพันธเรื่องแผนภาพเวนน-ออยเลอร
การใหเหตุผลและตรรกศาสตร                บทนํา เรื่อง การใหเหตุผลและตรรกศาสตร
                                         การใหเหตุผล
                                         ประพจนและการสมมูล
                                         สัจนิรันดรและการอางเหตุผล
                                         ประโยคเปดและวลีบงปริมาณ
                                         สื่อปฏิสัมพันธเรื่องหอคอยฮานอย
                                         สื่อปฏิสัมพันธเรื่องตารางคาความจริง
จํานวนจริง                               บทนํา เรื่อง จํานวนจริง
                                         สมบัติของจํานวนจริง
                                         การแยกตัวประกอบ
                                         ทฤษฏีบทตัวประกอบ
                                         สมการพหุนาม
                                         อสมการ
                                         เทคนิคการแกอสมการ
                                         คาสัมบูรณ
                                         การแกอสมการคาสัมบูรณ
                                         กราฟคาสัมบูรณ
                                         สื่อปฏิสัมพันธเรื่องชวงบนเสนจํานวน
                                         สื่อปฏิสัมพันธเรื่องสมการและอสมการพหุนาม
                                         สื่อปฏิสัมพันธเรื่องกราฟคาสัมบูรณ
ทฤษฎีจํานวนเบื้องตน                     บทนํา เรื่อง ทฤษฎีจํานวนเบื้องตน
                                         การหารลงตัวและจํานวนเฉพาะ
                                         ตัวหารรวมมากและตัวคูณรวมนอย
ความสัมพันธและฟงกชัน                  บทนํา เรื่อง ความสัมพันธและฟงกชน  ั
                                         ความสัมพันธ




                                                                   29
คูมือสื่อการสอนวิชาคณิตศาสตร โดยความรวมมือระหวาง
                            สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย


                  เรื่อง                                                                 ตอน
ความสัมพันธและฟงกชัน                       โดเมนและเรนจ
                                              อินเวอรสของความสัมพันธและบทนิยามของฟงกชัน
                                              ฟงกชันเบื้องตน
                                              พีชคณิตของฟงกชน   ั
                                              อินเวอรสของฟงกชันและฟงกชันอินเวอรส
                                              ฟงกชันประกอบ
ฟงกชันชี้กําลังและฟงกชันลอการิทึม         บทนํา เรื่อง ฟงกชันชี้กําลังและฟงกชนลอการิทม
                                                                                     ั       ึ
                                              เลขยกกําลัง
                                              ฟงกชันชี้กําลังและฟงกชันลอการิทึม
                                              ลอการิทึม
                                              อสมการเลขชี้กําลัง
                                              อสมการลอการิทึม
ตรีโกณมิติ                                    บทนํา เรื่อง ตรีโกณมิติ
                                              อัตราสวนตรีโกณมิติ
                                              เอกลักษณของอัตราสวนตรีโกณมิติ และวงกลมหนึ่งหนวย
                                              ฟงกชันตรีโกณมิติ 1
                                              ฟงกชันตรีโกณมิติ 2
                                              ฟงกชันตรีโกณมิติ 3
                                              กฎของไซนและโคไซน
                                              กราฟของฟงกชันตรีโกณมิติ
                                              ฟงกชันตรีโกณมิติผกผัน
                                              สื่อปฏิสัมพันธเรื่องมุมบนวงกลมหนึ่งหนวย
                                              สื่อปฏิสัมพันธเรื่องกราฟของฟงกชันตรีโกณมิติ
                                              สื่อปฏิสัมพันธเรื่องกฎของไซนและกฎของโคไซน
กําหนดการเชิงเสน                             บทนํา เรื่อง กําหนดการเชิงเสน
                                              การสรางแบบจําลองทางคณิตศาสตร
                                              การหาคาสุดขีด
ลําดับและอนุกรม                               บทนํา เรื่อง ลําดับและอนุกรม
                                              ลําดับ
                                              การประยุกตลําดับเลขคณิตและเรขาคณิต
                                              ลิมิตของลําดับ
                                              ผลบวกยอย
                                              อนุกรม
                                              ทฤษฎีบทการลูเขาของอนุกรม




                                                                  30
คูมือสื่อการสอนวิชาคณิตศาสตร โดยความรวมมือระหวาง
                             สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย



                 เรื่อง                                                                     ตอน
การนับและความนาจะเปน                         บทนํา เรื่อง การนับและความนาจะเปน
                     .                         การนับเบื้องตน
                                               การเรียงสับเปลี่ยน
                                               การจัดหมู
                                               ทฤษฎีบททวินาม
                                               การทดลองสุม
                                               ความนาจะเปน 1
                                               ความนาจะเปน 2
สถิติและการวิเคราะหขอมูล                     บทนํา เรื่อง สถิติและการวิเคราะหขอมูล
                                               บทนํา เนื้อหา
                                               แนวโนมเขาสูสวนกลาง 1
                                               แนวโนมเขาสูสวนกลาง 2
                                               แนวโนมเขาสูสวนกลาง 3
                                               การกระจายของขอมูล
                                               การกระจายสัมบูรณ 1
                                               การกระจายสัมบูรณ 2
                                               การกระจายสัมบูรณ 3
                                               การกระจายสัมพัทธ
                                               คะแนนมาตรฐาน
                                               ความสัมพันธระหวางขอมูล 1
                                               ความสัมพันธระหวางขอมูล 2
                                               โปรแกรมการคํานวณทางสถิติ 1
                                               โปรแกรมการคํานวณทางสถิติ 2
โครงงานคณิตศาสตร                              การลงทุน SET50 โดยวิธีการลงทุนแบบถัวเฉลี่ย
                                               ปญหาการวางตัวเบี้ยบนตารางจัตุรัส
                                               การถอดรากที่สาม
                                               เสนตรงลอมเสนโคง
                                               กระเบื้องที่ยืดหดได




                                                                       31

66 การนับและความน่าจะเป็น ตอนที่1_การนับเบื้องต้น

  • 1.
    คูมือประกอบสื่อการสอน วิชาคณิตศาสตร เรื่อง การนับและความนาจะเปน (เนือหาตอนที่ 1) ้ การนับเบืองตน ้ โดย ผูชวยศาสตราจารย ดร.ณัฐกาญจน ใจดี สื่อการสอนชุดนี้ เปนความรวมมือระหวาง คณะวิทยาศาสตร จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย กับ สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กระทรวงศึกษาธิการ
  • 2.
    คูมือสื่อการสอนวิชาคณิตศาสตร โดยความรวมมือระหวาง สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย สื่อการสอน เรื่อง การนับและความนาจะเปน สื่อการสอน เรื่อง การนับและความนาจะเปน มีจํานวนตอนทั้งหมดรวม 16 ตอน ซึ่งประกอบดวย 1. บทนํา เรื่อง การนับและความนาจะเปน 2. เนื้อหาตอนที่ 1 การนับเบื้องตน - กฎเกณฑเบื้องตนเกียวกับการนับ ่ - วิธีเรียงสับเปลี่ยนเชิงเสน(สิ่งของแตกตางกันทั้งหมด) 3. เนื้อหาตอนที่ 2 การเรียงสับเปลี่ยน - วิธีเรียงสับเปลี่ยนเชิงเสน (สิ่งของไมแตกตางกันทั้งหมด) - วิธีเรียงสับเปลี่ยนเชิงวงกลม 4. เนื้อหาตอนที่ 3 การจัดหมู - วิธีจัดหมู 5. เนื้อหาตอนที่ 4 ทฤษฎีบททวินาม - ทฤษฎีบททวินาม - ทฤษฎีบทอเนกนาม 6. เนื้อหาตอนที่ 5 การทดลองสุม - การทดลองสุม - ปริภูมิตัวอยาง - เหตุการณและความนาจะเปน 7. เนื้อหาตอนที่ 6 ความนาจะเปน 1 - สมบัติพื้นฐานของความนาจะเปน - การหาความนาจะเปนแบบงาย 8. เนื้อหาตอนที่ 7 ความนาจะเปน 2 - การหาความนาจะเปนโดยใชกฎการนับ - การหาความนาจะเปนโดยแผนภาพเวนน-ออยเลอร 9. แบบฝกหัด (พื้นฐาน 1) 10. แบบฝกหัด (พื้นฐาน 2) 11. แบบฝกหัด (ขันสูง) ้ 12. สื่อปฏิสัมพันธ เรื่อง หลักการบวกและหลักการคูณสําหรับการนับ 13. สื่อปฏิสัมพันธ เรื่อง การเรียงสับเปลี่ยน 1
  • 3.
    คูมือสื่อการสอนวิชาคณิตศาสตร โดยความรวมมือระหวาง สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย 14. สื่อปฏิสัมพันธ เรื่อง ทฤษฎีบททวินาม 15. สื่อปฏิสัมพันธ เรื่อง ความนาจะเปน 16. สื่อปฏิสัมพันธ เรื่อง การใสบอลลงกลอง คณะผูจัดทําหวังเปนอยางยิ่งวา สื่อการสอนชุดนี้จะเปนประโยชนตอการเรียนการสอนสําหรับ ครู และนักเรียนทุกโรงเรียนที่ใชสื่อชุดนี้รวมกับการเรียนการสอนวิชาคณิตศาสตร เรื่อง การนับและ ความนาจะเปน นอกจากนี้หากทานสนใจสื่อการสอนวิชาคณิตศาสตรในเรื่องอื่นๆที่คณะผูจัดทําได ดําเนินการไปแลว ทานสามารถดูชื่อเรื่อง และชื่อตอนไดจากรายชื่อสื่อการสอนวิชาคณิตศาสตรทั้งหมด ในตอนทายของคูมือฉบับนี้ 2
  • 4.
    คูมือสื่อการสอนวิชาคณิตศาสตร โดยความรวมมือระหวาง สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย เรื่อง การนับและความนาจะเปน (การนับเบื้องตน) หมวด เนื้อหา ตอนที่ 1 (1/7) หัวขอยอย 1. กฎเกณฑเบื้องตนเกียวกับการนับ ่ 2. วิธีเรียงสับเปลี่ยนเชิงเสน(สิ่งของแตกตางกันทั้งหมด) จุดประสงคการเรียนรู เพื่อใหผูเรียน 1. เขาใจและสามารถใชหลักการบวกและหลักการคูณในการหาจํานวนวิธีในการนับได 2. สามารถหาจํานวนวิธีในการเรียงสับเปลี่ยนเชิงเสนในกรณีที่สิ่งของแตกตางกันทั้งหมดได ผลการเรียนรูที่คาดหวัง  ผูเรียนสามารถ 1. อธิบายหลักการบวกและหลักการคูณได 2. ประยุกตใชหลักการบวกและหลักการคูณในการหาจํานวนวิธีในการนับได 3. อธิบายวิธีหาและหาจํานวนวิธีในการเรียงสับเปลี่ยนเชิงเสนในกรณีที่สิ่งของแตกตางกัน ทั้งหมดได 3
  • 5.
    คูมือสื่อการสอนวิชาคณิตศาสตร โดยความรวมมือระหวาง สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และคณะวิทยาศาสตร จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย เนื้อหาในสื่อการสอน เนื้อหาทั้งหมด 4
  • 6.
    คูมือสื่อการสอนวิชาคณิตศาสตร โดยความรวมมือระหวาง สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และคณะวิทยาศาสตร จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย 1. กฎเกณฑเบื้องตนเกี่ยวกับการนับ 5
  • 7.
    คูมือสื่อการสอนวิชาคณิตศาสตร โดยความรวมมือระหวาง สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย 1. กฎเกณฑเบื้องตนเกี่ยวกับการนับ ในหัวขอนี้ผูเรียนจะไดศกษาเรื่องกฎเกณฑเบื้องตนเกียวกับการนับ ซึ่งประกอบดวยหลักการคูณและ ึ ่ หลักการบวก ซึ่งเปนพื้นฐานสําคัญในเรื่องของการนับ ตัวอยางที่ผูเรียนไดชมจากสื่อการสอน คือ ตัวอยางการนับการทํางาน ซึ่งประกอบดวย 2 ขันตอน โดยใน ้ ตัวอยางแรก การแตงตัวสามารถแบงการทํางานไดเปน 2 ขั้นตอน โดยขั้นตอนแรก คือ การเลือกเสือ และขั้นตอน ้ ที่ 2 คือ การเลือกกระโปรง สวนในตัวอยางที่ 2 การจัดชุดอาหาร สามารถแบงการทํางานไดเปน 2 ขั้นตอนเชนกัน โดยขั้นตอนแรก คือ การเลือกอาหารคาว และขั้นตอนที่ 2 คือ การเลือกอาหารหวาน ซึ่งสามารถสรุปไดดังนี้ ทฤษฎีบท ถาการทํางานอยางหนึ่งประกอบดวยการทํางาน 2 ขั้นตอน โดยการทํางานขั้นตอนที่ 1 มีวธีทํา n วิธี ิ และการทํางานขั้นตอนที่ 2 มีวธีทํา m วิธี จะไดวา จํานวนวิธีของการทํางานนี้เทากับ n × m วิธี ิ  จากทฤษฎีบทขางตน สามารถขยายไปสูกรณีที่การทํางานประกอบดวยการทํางาน k ขั้นตอน ดังรายละเอียดในสื่อการสอนตอไปนี้ 6
  • 8.
    คูมือสื่อการสอนวิชาคณิตศาสตร โดยความรวมมือระหวาง สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย เมื่อผูเรียนไดแนวคิดเกียวกับหลักการคูณ พรอมทั้งเห็นตัวอยางการประยุกตใชหลักการคูณแลว ผูสอน ่  อาจยกตัวอยางเพิ่มเติมเพื่อใหผูเรียนไดฝกทักษะในเรื่องนี้ไดดยิ่งขึ้น ดังนี้ ี ตัวอยาง จงหาจํานวนวิธีทั้งหมดในการสรางจํานวน 3 หลัก จากเลขโดด 0, 1, 2, 3, 4, 5, 6 และ 7 โดยที่เลขแตละ หลักจะตองไมซ้ํากัน และจํานวนที่สรางขึนตองเปนจํานวนที่มีคามากกวา 400 แตนอยกวา 700 ้  วิธีทํา _________ _________ _________ หลักรอย หลักสิบ หลักหนวย การสรางจํานวนที่มีคามากกวา 400 แตนอยกวา 700 สามารถแบงการทํางานออกเปน 3 ขั้นตอน ดังนี้  ขั้นตอนที่ 1 เลือกเลขโดด 1 ตัว เพื่อวางในหลักรอย ซึ่งมีไดทั้งหมด 3 วิธี (เลข 4 หรือ เลข 5 หรือเลข 6) ขั้นตอนที่ 2 เลือกเลขโดด 1 ตัว เพื่อวางในหลักสิบ ซึ่งมีไดทั้งหมด 7 วิธี ขั้นตอนที่ 3 เลือกเลขโดด 1 ตัว เพื่อวางในหลักหนวย ซึงมีไดทั้งหมด 6 วิธี ่ โดยหลักการคูณ จะไดวา จํานวนวิธีในการสรางจํานวนดังกลาวมีทั้งหมด 3 × 7 × 6 = 126 วิธี 7
  • 9.
    คูมือสื่อการสอนวิชาคณิตศาสตร โดยความรวมมือระหวาง สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย เมื่อผูเรียนไดชมสื่อการสอนขางตนแลว ผูสอนอาจใหขอสังเกตผูเรียนเพิ่มเติม ดังนี้   ในกรณีที่การหาจํานวนของเหตุการณที่สนใจโดยตรงทําไดยาก เทคนิคที่สาคัญอยางหนึ่งคือการหา ํ จํานวนของเหตุการณที่ไมสนใจแทน จากนั้นใชความสัมพันธที่วา จํานวนของเหตุการณที่สนใจ = ( จํานวนของเหตุการณที่ไมมีเงื่อนไข ) − (จํานวนของเหตุการณทไมสนใจ) ี่ ตัวอยางตอไปนี้ เปนตัวอยางที่ประยุกตใชเรื่องการนับในการหาจํานวนฟงกชันและการหาจํานวน สับเซต ซึ่งผูสอนอาจทบทวนความหมายของฟงกชัน ฟงกชันหนึ่งตอหนึ่งและสับเซต ใหผูเรียนกอน จากนันจึง ้ ใหผูเรียนฝกทําตัวอยางตอไปนี้เพิ่มเติม ตัวอยาง ให A = {1, 2,3, 4} จงหา 1. จํานวนฟงกชนทั้งหมดจาก A ไป A ั 2. จํานวนฟงกชนหนึ่งตอหนึ่งทั้งหมดจาก A ไป A ั 3. จํานวนฟงกชนทั้งหมดทีไมใชฟงกชันหนึงตอหนึ่งจาก A ไป A ั ่ ่ วิธีทา ํ ________ ________ ________ ________ f (1) f (2) f (3) f (4) 8
  • 10.
    คูมือสื่อการสอนวิชาคณิตศาสตร โดยความรวมมือระหวาง สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย 1. ในการสรางฟงกชัน f จาก A ไป A สามารถแบงการทํางานไดเปน 4 ขั้นตอน ขั้นตอนที่ 1 เลือกสมาชิกใน A จํานวน 1 ตัว เพื่อกําหนดใหเปนคาของ f (1) ซึ่งมีไดทั้งหมด 4 วิธี ขั้นตอนที่ 2 เลือกสมาชิกใน A จํานวน 1 ตัว เพื่อกําหนดใหเปนคาของ f (2) ซึ่งมีไดทั้งหมด 4 วิธี ขั้นตอนที่ 3 เลือกสมาชิกใน A จํานวน 1 ตัว เพื่อกําหนดใหเปนคาของ f (3) ซึ่งมีไดทั้งหมด 4 วิธี ขั้นตอนที่ 4 เลือกสมาชิกใน A จํานวน 1 ตัว เพื่อกําหนดใหเปนคาของ f (4) ซึ่งมีไดทั้งหมด 4 วิธี โดยหลักการคูณ จะไดวา จํานวนวิธีในการสรางฟงกชันดังกลาวมีทั้งหมด 4 × 4 × 4 × 4 = 256 วิธี ดังนั้น จํานวนฟงกชนจาก A ไป A มีทั้งหมด 256 ฟงกชัน ั 2. ในการสรางฟงกชัน f ซึ่งเปนฟงกชันหนึ่งตอหนึ่ง จาก A ไป A สามารถแบงการทํางานไดเปน 4 ขั้นตอน ขั้นตอนที่ 1 เลือกสมาชิกใน A จํานวน 1 ตัว เพื่อกําหนดใหเปนคาของ f (1) ซึ่งมีไดทั้งหมด 4 วิธี ขั้นตอนที่ 2 เลือกสมาชิกใน A จํานวน 1 ตัว เพื่อกําหนดใหเปนคาของ f (2) โดยไมซ้ํากับ f (1) ซึ่งมีไดทั้งหมด 3 วิธี ขั้นตอนที่ 3 เลือกสมาชิกใน A จํานวน 1 ตัว เพื่อกําหนดใหเปนคาของ f (3) โดยไมซ้ํากับ f (1) และ f (2) ซึ่งมีไดทั้งหมด 2 วิธี ขั้นตอนที่ 4 เลือกสมาชิกใน A จํานวน 1 ตัว เพื่อกําหนดใหเปนคาของ f (4) โดยไมซ้ํากับ f (1) , f (2) และ f (3) ซึ่งมีไดทั้งหมด 1 วิธี โดยหลักการคูณ จะไดวา จํานวนวิธีในการสรางฟงกชันดังกลาวมีทั้งหมด 4 × 3 × 2 ×1 = 24 วิธี ดังนั้น จํานวนฟงกชนหนึ่งตอหนึ่งจาก A ไป A มีทั้งหมด 24 ฟงกชัน ั 3. จํานวนฟงกชันทังหมดที่ไมใชฟงกชันหนึ่งตอหนึ่งจาก A ไป A ้ = (จํานวนฟงกชนทั้งหมดจาก A ไป A ) − (จํานวนฟงกชันหนึ่งตอหนึ่งทั้งหมดจาก A ไป A ) ั = 256 − 24 = 232 ฟงกชัน 9
  • 11.
    คูมือสื่อการสอนวิชาคณิตศาสตร โดยความรวมมือระหวาง สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย ตัวอยาง กําหนดใหเซต A มีจํานวนสมาชิก n ตัว จงหาจํานวนสับเซตทั้งหมดของ A วิธีทา กําหนดให A = {a1 , a2 ,… , an } ํ ในการสรางสับเซต B ของ A สามารถแบงการทํางานไดเปน n ขั้นตอน ขั้นตอนที่ 1 เลือกวา a1 ∈ B หรือ a1 ∉ B ซึ่งมีไดทั้งหมด 2 วิธี ขั้นตอนที่ 2 เลือกวา a2 ∈ B หรือ a2 ∉ B ซึ่งมีไดทั้งหมด 2 วิธี ขั้นตอนที่ n เลือกวา an ∈ B หรือ an ∉ B ซึ่งมีไดทั้งหมด 2 วิธี โดยหลักการคูณ จะไดวา จํานวนสับเซตทั้งหมดของ A เทากับ 2n สับเซต ตัวอยางในสื่อการสอนตอไปนี้ เปนตัวอยางเพื่อนําเขาสูเรื่องหลักการบวก ซึ่งผูเรียนจะไดศกษาเรื่อง ึ หลักการบวกและตัวอยางการประยุกตใช 10
  • 12.
    คูมือสื่อการสอนวิชาคณิตศาสตร โดยความรวมมือระหวาง สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย ผูสอนอาจใหขอสังเกตผูเรียนเพิ่มเติมวา บอยครั้งที่เราตองใชทั้งหลักการคูณและหลักการบวกเพื่อนับ จํานวนเหตุการณที่สนใจ และเพื่อใหผูเรียนเขาใจหลักการทั้งสองไดดียิ่งขึ้น ผูสอนอาจใหผูเรียนฝกทําตัวอยาง เพิ่มเติม ดังนี้ ตัวอยาง ในการสรางรหัสจากตัวอักษร A, B, C, D โดยกําหนดใหแตละรหัสอาจมีอกษร 2 ตัว หรืออักษร 3 ตัว ั เทานั้น จะสรางรหัสไดทั้งหมดกี่วิธี วิธีทํา ในการสรางรหัสดังกลาว สามารถแบงพิจารณาไดเปน 2 กรณี กรณีที่ 1 รหัสมีอักษร 2 ตัว ขั้นตอนที่ 1 เลือกอักษรตัวแรก ซึ่งมีทั้งหมด 4 วิธี ขั้นตอนที่ 2 เลือกอักษรตัวที่สอง ซึ่งมีทั้งหมด 4 วิธี โดยหลักการคูณ จะไดวา วิธีสรางรหัสที่มอักษร 2 ตัว เทากับ 4 × 4 = 16 วิธี ี กรณีท่ี 2 รหัสมีอักษร 3 ตัว ขั้นตอนที่ 1 เลือกอักษรตัวแรก ซึ่งมีทั้งหมด 4 วิธี ขั้นตอนที่ 2 เลือกอักษรตัวที่สอง ซึ่งมีทั้งหมด 4 วิธี ขั้นตอนที่ 3 เลือกอักษรตัวที่สอง ซึ่งมีทั้งหมด 4 วิธี โดยหลักการคูณ จะไดวา วิธสรางรหัสที่มีอักษร 3 ตัว เทากับ 4 × 4 × 4 = 64 วิธี ี จากกรณีที่ 1 และกรณีที่ 2 และหลักการบวก จะไดวา จํานวนรหัสทีมีอักษร 2 ตัวหรืออักษร 3 ตัว มีทั้งหมด 16 + 64 = 80 วิธี ่ ตัวอยาง จงหาจํานวนวิธีทั้งหมดในการสรางจํานวน 3 หลัก จากเลขโดด 0, 1, 2, 3, 4, 5, 6 และ 7 โดยที่เลขแตละ หลักจะตองไมซ้ํากัน และจํานวนที่สรางขึนตองเปนจํานวนคี่ที่มีคามากกวา 400 แตนอยกวา 700 ้ วิธีทา ํ 1, 3, 5, 7 4, 5, 6 _________ _________ _________ หลักรอย หลักสิบ หลักหนวย จะเห็นวา เลข 5 อยูไดทั้งในตําแหนงหลักรอยและหลักหนวย ดังนั้นจึงแบงพิจารณาเปน 2 กรณี ดังนี้ กรณีท่ี 1 หลักหนวยเปนเลข 5 ขั้นตอนที่ 1 เลือกเลขหลักหนวย ซึ่งมีทั้งหมด 1 วิธี ขั้นตอนที่ 2 เลือกเลขหลักรอย ซึ่งมีทั้งหมด 2 วิธี ขั้นตอนที่ 3 เลือกเลขหลักสิบ ซึ่งมีทั้งหมด 6 วิธี โดยหลักการคูณ จํานวนที่หลักหนวยเปนเลข 5 มีทั้งหมด 1× 2 × 6 = 12 จํานวน 11
  • 13.
    คูมือสื่อการสอนวิชาคณิตศาสตร โดยความรวมมือระหวาง สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย กรณีที่ 2 หลักหนวยไมเปนเลข 5 ขั้นตอนที่ 1 เลือกเลขหลักหนวย ซึ่งมีทั้งหมด 3 วิธี ขั้นตอนที่ 2 เลือกเลขหลักรอย ซึ่งมีทั้งหมด 3 วิธี ขั้นตอนที่ 3 เลือกเลขหลักสิบ ซึ่งมีทั้งหมด 6 วิธี โดยหลักการคูณ จํานวนที่หลักหนวยเปนเลข 5 มีทั้งหมด 3 × 3 × 6 = 54 จํานวน จากกรณีที่ 1 และกรณีที่ 2 และหลักการบวก จะไดวา จํานวน 3 หลักซึ่งเปนจํานวนคี่ที่มีคามากกวา 400 แตนอยกวา 700 มีทั้งหมด 12 + 54 = 66 วิธี  สําหรับตัวอยางขางตน ผูเรียนอาจแบงกรณีแบบอื่นได เชน กรณีหลักรอยเปนเลข 5 และ กรณีหลักรอยไมเปนเลข 5 12
  • 14.
    คูมือสื่อการสอนวิชาคณิตศาสตร โดยความรวมมือระหวาง สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย แบบฝกหัดเพิ่มเติม เรื่อง กฎเกณฑเบื้องตนเกี่ยวกับการนับ 1. สวนสาธารณะแหงหนึ่งมีประตูทั้งหมด 5 ประตู ถาจะเขาประตูหนึ่งและออกอีกประตูหนึ่ง ซึ่งไม ซ้ํากับประตูท่เี ขามา จะมีวิธการเขาและออกจากสวนสาธารณะแหงนีไดทั้งหมดกี่วิธี ี ้ 2. ถาถนนจากกรุงเทพฯ ถึงลพบุรีมี 3 สาย และถนนจากลพบุรีถึงนครราชสีมามี 4 สาย ถาจะขับ รถยนตจากกรุงเทพฯ ถึงนครราชสีมาโดยขับผานจังหวัดลพบุรี จะใชเสนทางที่ตางกันไดทั้งหมดกี่ เสนทาง 3. เมื่อโยนเหรียญ 1 เหรียญ จํานวน 3 ครั้ง จะมีผลลัพธที่แตกตางกันไดทั้งหมดกีวิธี ่ 4. บริษัทผูผลิตเสื้อผาสําเร็จรูปบริษัทหนึ่งผลิตเสื้อ 3 แบบ แตละแบบมี 5 สี และมีขนาดตาง ๆ กัน 3 ขนาด ถาจะจัดเสื้อที่ผลิตเขาตูโชวหนารานใหครบทุกแบบ ทุกสี และทุกขนาด จะตองใชเสื้อทั้งหมด กี่ตัว 5. นักวิ่งแขง 5 คน จะวิ่งเขาเสนชัยในอันดับตาง ๆ กันไดทงหมดกีวธี สมมติวาไมมนกวิ่งสองคนใดวิง ั้ ่ิ  ี ั ่ เขาเสนชัยพรอมกัน 6. ให A = {1, 2,3, 4,5} จงหาจํานวนฟงกชน f : A → A โดยที่ f ( x) ≥ x ทุก x ∈ A ั 7. ให A = {1, 2,3} และ B = {a, b, c, d } จงหา 7.1 จํานวนฟงกชันหนึ่งตอหนึ่งจาก A ไป B 7.2 จํานวนฟงกชนจาก A ไป B ที่ไมใชฟงกชันหนึ่งตอหนึ่ง ั  13
  • 15.
    คูมือสื่อการสอนวิชาคณิตศาสตร โดยความรวมมือระหวาง สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย 2. วิธีเรียงสับเปลี่ยนเชิงเสน(สิ่งของแตกตางกันทั้งหมด) 14
  • 16.
    คูมือสื่อการสอนวิชาคณิตศาสตร โดยความรวมมือระหวาง สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย 2. วิธีเรียงสับเปลี่ยนเชิงเสน (สิ่งของแตกตางกันทั้งหมด) ในหัวขอนี้ ผูเรียนจะไดศกษาวิธีการเรียงสับเปลี่ยนเชิงเสนในกรณีที่สิ่งของที่นํามาจัดเรียงแตกตางกัน ึ ทั้งหมด โดยเริ่มจากใหผูเรียนรูจกกับ “แฟกทอเรียล” ซึ่งจะมีบทบาทสําคัญในเรื่องของการนับ ั ผูเรียนควรฝกทักษะเรื่องแฟกทอเรียล จากตัวอยางตอไปนี้ ตัวอยาง จงหาคาตอไปนี้ 6! n! (n − 1)!(n + 1)! 1. 2. 3. 3! (n − 3)! (n !) 2 15
  • 17.
    คูมือสื่อการสอนวิชาคณิตศาสตร โดยความรวมมือระหวาง สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย 6! 6 × 5 × 4 × 3! วิธีทํา 1. = = 6 × 5 × 4 = 120 3! 3! n! n × (n − 1) × (n − 2) × (n − 3)! 2. = = n(n − 1)(n − 2) (n − 3)! (n − 3)! (n − 1)!(n + 1)! (n − 1)![(n + 1) × n !] n + 1 3. = = (n !) 2 [n × (n − 1)!]n ! n ตัวอยาง จงเขียนจํานวนตอไปนี้ใหอยูในรูปแฟกทอเรียล 1. 100 × 99 × 98 2. 11×12 ×13 ×14 ×15 3. n(n − 1)(n − 2) 100 × 99 × 98 × 97 × 96 × × 2 × 1 100! วิธทํา 1. ี 100 × 99 × 98 = = 97 × 96 × × 2 ×1 97! 1× 2 × ×10 × 11× 12 × 13 × 14 × 15 15! 2. 11×12 ×13 ×14 ×15 = = 1× 2 × × 10 10! n(n − 1)(n − 2)(n − 3) × × 2 ×1 n! 3. n(n − 1)(n − 2) = = (n − 3) × × 2 ×1 (n − 3)! ตัวอยาง จงหาคา n จากสมการตอไปนี้ n! 1. = 720 (n − 3)! n! n! 2. = (n − 10)!10! (n − 8)!8! n! วิธีทํา 1. = 720 (n − 3)! n(n − 1)(n − 2) = 10 × 9 × 8 ดังนั้น n = 10 n! n! 2. = (n − 10)!10! (n − 8)!8! (n − 8)! 10! = (n − 10)! 8! (n − 8)(n − 9) = 10 × 9 ดังนั้น n = 18 16
  • 18.
    คูมือสื่อการสอนวิชาคณิตศาสตร โดยความรวมมือระหวาง สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย ทฤษฎีบท จํานวนวิธีในการจัดเรียงสิ่งของ n สิ่งที่แตกตางกันทั้งหมด จะมีได n ! วิธี n! พิสจน ู จํานวนวิธในการจัดเรียงสิ่งของ n สิ่งที่แตกตางกันทั้งหมด = Pn,n = ี = n ! วิธี (n − n)! เมื่อผูเรียนไดชมตัวอยางขางตนจบแลว ผูสอนอาจใหขอสังเกตผูเรียนเพิ่มเติมวา ในการหาจํานวนวิธีเรียง สับเปลี่ยนเชิงเสน โดยมีเงื่อนไขเพิ่มเติมวา “สิ่งของ k สิ่งตองอยูติดกัน” มีเทคนิคสําคัญอยางหนึ่งคือ นําสิ่งของ ที่ตองการใหอยูติดกัน “มัด” รวมไวดวยกัน จากนัน มองสิ่งของที่ “มัด” รวมกันไวเปนเสมือนสิงของเพียงหนึง  ้ ่ ่ สิ่ง แตผูเรียนอยาลืมวา สิ่งของที่ “ มัด” รวมไวดวยกัน สามารถสลับตําแหนงกันไดอีก เพื่อใหผูเรียนเขาใจเทคนิคดังกลาวไดดียิ่งขึ้น ผูสอนอาจใหผูเรียนทําตัวอยางตอไปนีเ้ พิ่มเติม 17
  • 19.
    คูมือสื่อการสอนวิชาคณิตศาสตร โดยความรวมมือระหวาง สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย ตัวอยาง จงหาจํานวนวิธีจดนักเรียนชาย 5 คนและนักเรียนหญิง 3 คนยืนเขาแถว โดยที่ ั 1. ไมมีเงื่อนไขเพิ่มเติม 2. นักเรียนชายตองอยูตดกันและนักเรียนหญิงตองอยูติดกัน ิ  วิธีทา 1. จํานวนวิธจัดนักเรียนชาย 5 คน นักเรียนหญิง 3 คน ยืนเขาแถว = P8,8 = 8! วิธี ํ ี 2. นํานักเรียนชาย 5 คน มัดติดกันไว และนํานักเรียนหญิง 3 คน มัดติดกันไว ดังนั้น ในการจัดดังกลาว จึงเปรียบเสมือนการเรียงสับเปลี่ยนสิ่งของ 2 สิ่ง จัดเรียงได 2! วิธี นักเรียนชายที่มัดติดกันไว 5 คน เรียงสับเปลี่ยนกันได 5! วิธี นักเรียนหญิงที่มัดติดกันไว 3 คน เรียงสับเปลี่ยนกันได 3! วิธี ทําใหไดวา จํานวนวิธการจัดที่ตองการมีทั้งหมด = 2!5!3! = 1, 440 วิธี ี เมื่อผูเรียนไดชมสื่อการสอนขางตนแลว ผูสอนอาจใหขอสังเกตผูเรียนเพิ่มเติม ดังนี้   ในการจัดชาย 5 คน หญิง 3 คน ยืนเขาแถว โดยที่ “หญิงหามยืนติดกัน” หมายถึง “ไมมีหญิงสองคนใด ยืนติดกัน” ไมใช “หามหญิงสามคนยืนติดกัน” ดังนั้น “นิเสธของ หญิงหามยืนติดกัน” จึงไมใช “หญิงทั้งสาม คนยืนติดกัน” เพราะฉะนั้น จํานวนวิธีจัดชาย 5 คน หญิง 3 คน ยืนเขาแถว โดยที่หญิงหามยืนติดกัน ≠ (จํานวนวิธีจัดชาย 5 คน หญิง 3 คน ยืนเขาแถว) − (จํานวนวิธีจดชาย 5 คน หญิง 3 คน ยืนเขาแถว โดยที่หญิงทั้งสามคนยืนติดกัน) ั 18
  • 20.
    คูมือสื่อการสอนวิชาคณิตศาสตร โดยความรวมมือระหวาง สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย แบบฝกหัดเพิ่มเติม เรื่อง วิธีเรียงสับเปลี่ยนเชิงเสน (สิ่งของแตกตางกันทั้งหมด) 1. จํานวนวิธีในการจัดอักษร A, B, C, D และ E เรียงเปนเสนตรง มีทั้งหมดกี่วธี ิ 2. นําตัวอักษร A, B, C, D และ E มาเรียงสับเปลี่ยนเชิงเสน โดยที่ C และ D ตองอยูติดกัน ไดทั้งหมดกีวิธี ่ 3. จํานวนวิธีในการจัดเรียงอักษร 3 ตัว จาก A, B, C, D และ E มีทั้งหมดกี่วธีิ 4. ในการแขงขันวิ่งของนักวิ่ง 5 คน จํานวนวิธที่นักวิ่งจะวิ่งเขาเสนชัยสองคนแรกมีทั้งหมดกี่วธี ี ิ 5. จํานวนวิธีสรางเลขสามหลักจากเลขโดด 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7 โดยหามใชเลขซ้ํา มีทั้งหมดกี่วธี ิ 6. จงหาจํานวนวิธีที่ผูชาย 3 คนและผูหญิง 4 คน ยืนเขาแถวซื้อตั๋วรถไฟ โดยที่ผูหญิงทั้งหมดตองยืนติดกัน 7. จงหาจํานวนวิธีเลือกหัวหนาหอง รองหัวหนาหองและเหรัญญิก ตําแหนงละ 1 คน จากนักเรียนหองหนึ่ง ที่มีทั้งหมด 50 คน 8. จํานวนวิธีในการจัดนักเรียนชาย 4 คน นักเรียนหญิง 4 คน เขาแถวถายรูป มีทั้งหมดกีวิธี ถา ่ 8.1 ไมมีเงื่อนไขเพิ่มเติม 8.2 นักเรียนชายยืนสลับกับนักเรียนหญิง 8.3 นักเรียนชายสองคนยืนสลับกับนักเรียนหญิงสองคน 9. นักเรียนกลุมหนึ่งมีจํานวน 8 คน โดยที่มี ด.ช.สาธิตและ ด.ช.ณัฐ รวมอยูดวย จงหาจํานวนวิธีที่จด ั นักเรียนกลุมนี้เขาแถว โดยที่ 9.1 ด.ช.สาธิตและด.ช.ณัฐ ตองยืนติดกัน 9.2 ด.ช.สาธิตและด.ช.ณัฐ หามยืนติดกัน (n − 1)! 1  (n + 2)! 10. จงหาคา n จากสมการ =  n! 3  (n + 1)!   19
  • 21.
  • 22.
  • 23.
    คูมือสื่อการสอนวิชาคณิตศาสตร โดยความรวมมือระหวาง สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย เอกสารอางอิง 1. สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี. (2552). หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานคณิตศาสตร เลม 2 ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 4 – 6 กลุมสาระการเรียนรูคณิตศาสตร ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้น พื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ: สถาบันฯ. 2. สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี. (2552). หนังสือเรียนรายวิชาเพิ่มเติมคณิตศาสตร เลม 4 ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 4 – 6 กลุมสาระการเรียนรูคณิตศาสตร ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้น พื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ: สถาบันฯ. 22
  • 24.
    คูมือสื่อการสอนวิชาคณิตศาสตร โดยความรวมมือระหวาง สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และคณะวิทยาศาสตร จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย ภาคผนวกที่ 1 แบบฝกหัด/เนื้อหาเพิ่มเติม 23
  • 25.
    คูมือสื่อการสอนวิชาคณิตศาสตร โดยความรวมมือระหวาง สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย แบบฝกหัดระคน 1. มีหนังสือวิชาคณิตศาสตร 3 เลม หนังสือวิชาวิทยาศาสตร 2 เลม และหนังสือวิชาภาษาอังกฤษ 2 เลม โดยหนังสือทุกเลมแตกตางกันทั้งหมด ถาตองการจัดหนังสือทั้งหมดนี้วางบนชันหนังสือ โดยให ้ หนังสือวิชาเดียวกันอยูตดกัน จะมีจํานวนวิธีการจัดไดทงหมดกีวิธี ิ ั้ ่ 1. 6 2. 72 3. 144 4. 5,040 2. จากโจทยขอ 1 ถาเพิ่มเงื่อนไขวา หนังสือวิชาคณิตศาสตรตองอยูระหวางหนังสือวิชาวิทยาศาสตรและ หนังสือวิชาภาษาอังกฤษ จะมีจํานวนวิธีการจัดไดทั้งหมดกี่วิธี 1. 24 2. 48 3. 56 4. 72 3. ครอบครัวหนึงมีทั้งหมด 4 คน ประกอบดวย พอ แม และลูก 2 คน ตองการขับรถไปชายทะเล โดยใช ่ รถยนต 4 ที่นั่ง โดยพอหรือแมเปนคนขับรถ จะมีจํานวนวิธีที่สมาชิกในครอบครัวนังรถยนตคันนีได ่ ้ ทั้งหมดกีวิธี ่ 1. 6 2. 12 3. 18 4. 24 4. ถามีจานสีขาวลายตางกัน 4 ใบ จานสีฟาลายตางกัน 3 ใบ และจานสีดาลายตางกัน 3 ใบ จะมีจํานวนวิธี ํ วางจานทั้ง 10 ใบซอนกัน โดยใหจานสีขาวอยูติดกันทั้งหมดกี่วิธี 10! 1. 4!6! 2. 3!7! 3. 4!7! 4. 4! 5. จํานวนวิธีจดนักเรียนชาย 4 คน นักเรียนหญิง 4 คน เขาแถว โดยที่นกเรียนชายจะอยูในตําแหนงเลขคู ั ั เสมอ มีทั้งหมดกี่วธี ิ 1. 48 2. 144 3. 288 4. 576 6. จํานวนวิธีสรางจํานวน 3 หลักใหมคามากกวา 300 จากเลขโดด 0, 1, 2, 3, 4 และ 5 โดยหามใชเลขซ้ํา มี ี ไดทั้งหมดกีวธี ่ิ 1. 12 2. 24 3. 60 4. 154 24
  • 26.
    คูมือสื่อการสอนวิชาคณิตศาสตร โดยความรวมมือระหวาง สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย 7. จากตัวเลข 0, 1, 2, 3, 4 และ 5 จะสรางจํานวนที่มี 3 หลัก โดยแตละหลักมีตัวเลขซ้ํากันได และจํานวน เหลานี้หารดวย 5 ลงตัว ไดทั้งหมดกีจํานวน ่ 1. 30 2. 36 3. 60 4. 72 8. บริษัทแหงหนึงมีตําแหนงงานวางอยู 2 ตําแหนง ถามีผูมาสมัครเขาทํางาน 5 คน คือ ก, ข, ค, ง และ จ ่ หลังจากสัมภาษณแลว ปรากฏวาคนที่เหมาะกับตําแหนงที่ 1 คือ ก, ข, ค และ ง สวนคนที่เหมาะสมกับ ตําแหนงที่ 2 คือ ค, ง และ จ จงหาจํานวนวิธีทั้งหมดที่บริษัทจะเลือกคนเขาทํางานใหเหมาะสมกับ ตําแหนงดังกลาว 1. 10 2. 12 3. 16 4. 24 9. อักษรภาษาอังกฤษ 5 ตัวทีแตกตางกัน ซึ่งประกอบดวยพยัญชนะ 2 ตัว และสระ 3 ตัว นํามาจัดเรียงโดย ่ ไมใหพยัญชนะอยูติดกัน แตสระตองอยูติดกัน จํานวนวิธการจัดเทากับขอใดตอไปนี้ ี 1. 12 2. 24 3. 32 4. 36 10. ให A = {1, 2,3, 4,5}และ B = {1, 2,3} จํานวนฟงกชัน f :A→B ซึ่ง f (1) ≠ 1 และ f (2) ≠ 2 เทากับขอใดตอไปนี้ 1. 80 2. 108 3. 125 4. 243 25
  • 27.
  • 28.
    คูมือสื่อการสอนวิชาคณิตศาสตร โดยความรวมมือระหวาง สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย เฉลยแบบฝกหัด เรื่อง กฎเกณฑเบื้องตนเกี่ยวกับการนับ 1. 20 2. 12 3. 8 4. 45 5. 120 6. 120 7. 7.1 24 7.2 40 เฉลยแบบฝกหัด เรื่อง การเรียงสับเปลี่ยนเชิงเสน(สิ่งของแตกตางกันทั้งหมด) 1. 120 2. 2!4!, 48 3. 60 4. 20 5. 210 6. 4!4!, 576 7. 50 x 49 x 48, 117600 8. 8.1 8!, 40320 9. 9.1 2!7!, 10080 8.2 2!4!4!, 1152 9.2 8! − 2!7!, 30240 8.3 2!4!4!, 1152 10. 1 เฉลยแบบฝกหัดระคน 1. 3 2. 2 3. 2 4. 3 5. 4 6. 3 7. 3 8. 1 9. 1 10. 2 27
  • 29.
    คูมือสื่อการสอนวิชาคณิตศาสตร โดยความรวมมือระหวาง สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และคณะวิทยาศาสตร จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย รายชื่อสื่อการสอนวิชาคณิตศาสตร จํานวน 92 ตอน 28
  • 30.
    คูมือสื่อการสอนวิชาคณิตศาสตร โดยความรวมมือระหวาง สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย รายชื่อสื่อการสอนวิชาคณิตศาสตร จํานวน 92 ตอน เรื่อง ตอน เซต บทนํา เรื่อง เซต ความหมายของเซต เซตกําลังและการดําเนินการบนเซต เอกลักษณของการดําเนินการบนเซตและแผนภาพเวนน-ออยเลอร สื่อปฏิสัมพันธเรื่องแผนภาพเวนน-ออยเลอร การใหเหตุผลและตรรกศาสตร บทนํา เรื่อง การใหเหตุผลและตรรกศาสตร การใหเหตุผล ประพจนและการสมมูล สัจนิรันดรและการอางเหตุผล ประโยคเปดและวลีบงปริมาณ สื่อปฏิสัมพันธเรื่องหอคอยฮานอย สื่อปฏิสัมพันธเรื่องตารางคาความจริง จํานวนจริง บทนํา เรื่อง จํานวนจริง สมบัติของจํานวนจริง การแยกตัวประกอบ ทฤษฏีบทตัวประกอบ สมการพหุนาม อสมการ เทคนิคการแกอสมการ คาสัมบูรณ การแกอสมการคาสัมบูรณ กราฟคาสัมบูรณ สื่อปฏิสัมพันธเรื่องชวงบนเสนจํานวน สื่อปฏิสัมพันธเรื่องสมการและอสมการพหุนาม สื่อปฏิสัมพันธเรื่องกราฟคาสัมบูรณ ทฤษฎีจํานวนเบื้องตน บทนํา เรื่อง ทฤษฎีจํานวนเบื้องตน การหารลงตัวและจํานวนเฉพาะ ตัวหารรวมมากและตัวคูณรวมนอย ความสัมพันธและฟงกชัน บทนํา เรื่อง ความสัมพันธและฟงกชน ั ความสัมพันธ 29
  • 31.
    คูมือสื่อการสอนวิชาคณิตศาสตร โดยความรวมมือระหวาง สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย เรื่อง ตอน ความสัมพันธและฟงกชัน โดเมนและเรนจ อินเวอรสของความสัมพันธและบทนิยามของฟงกชัน ฟงกชันเบื้องตน พีชคณิตของฟงกชน ั อินเวอรสของฟงกชันและฟงกชันอินเวอรส ฟงกชันประกอบ ฟงกชันชี้กําลังและฟงกชันลอการิทึม บทนํา เรื่อง ฟงกชันชี้กําลังและฟงกชนลอการิทม ั ึ เลขยกกําลัง ฟงกชันชี้กําลังและฟงกชันลอการิทึม ลอการิทึม อสมการเลขชี้กําลัง อสมการลอการิทึม ตรีโกณมิติ บทนํา เรื่อง ตรีโกณมิติ อัตราสวนตรีโกณมิติ เอกลักษณของอัตราสวนตรีโกณมิติ และวงกลมหนึ่งหนวย ฟงกชันตรีโกณมิติ 1 ฟงกชันตรีโกณมิติ 2 ฟงกชันตรีโกณมิติ 3 กฎของไซนและโคไซน กราฟของฟงกชันตรีโกณมิติ ฟงกชันตรีโกณมิติผกผัน สื่อปฏิสัมพันธเรื่องมุมบนวงกลมหนึ่งหนวย สื่อปฏิสัมพันธเรื่องกราฟของฟงกชันตรีโกณมิติ สื่อปฏิสัมพันธเรื่องกฎของไซนและกฎของโคไซน กําหนดการเชิงเสน บทนํา เรื่อง กําหนดการเชิงเสน การสรางแบบจําลองทางคณิตศาสตร การหาคาสุดขีด ลําดับและอนุกรม บทนํา เรื่อง ลําดับและอนุกรม ลําดับ การประยุกตลําดับเลขคณิตและเรขาคณิต ลิมิตของลําดับ ผลบวกยอย อนุกรม ทฤษฎีบทการลูเขาของอนุกรม 30
  • 32.
    คูมือสื่อการสอนวิชาคณิตศาสตร โดยความรวมมือระหวาง สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ คณะวิทยาศาสตร จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย เรื่อง ตอน การนับและความนาจะเปน บทนํา เรื่อง การนับและความนาจะเปน . การนับเบื้องตน การเรียงสับเปลี่ยน การจัดหมู ทฤษฎีบททวินาม การทดลองสุม ความนาจะเปน 1 ความนาจะเปน 2 สถิติและการวิเคราะหขอมูล บทนํา เรื่อง สถิติและการวิเคราะหขอมูล บทนํา เนื้อหา แนวโนมเขาสูสวนกลาง 1 แนวโนมเขาสูสวนกลาง 2 แนวโนมเขาสูสวนกลาง 3 การกระจายของขอมูล การกระจายสัมบูรณ 1 การกระจายสัมบูรณ 2 การกระจายสัมบูรณ 3 การกระจายสัมพัทธ คะแนนมาตรฐาน ความสัมพันธระหวางขอมูล 1 ความสัมพันธระหวางขอมูล 2 โปรแกรมการคํานวณทางสถิติ 1 โปรแกรมการคํานวณทางสถิติ 2 โครงงานคณิตศาสตร การลงทุน SET50 โดยวิธีการลงทุนแบบถัวเฉลี่ย ปญหาการวางตัวเบี้ยบนตารางจัตุรัส การถอดรากที่สาม เสนตรงลอมเสนโคง กระเบื้องที่ยืดหดได 31