1. Key Performance Indicator
: KPI

3. กติกา :
แบ่งกลุ่ม โดยแต่ละกลุ่มจะมีสมาชิก 7 ท่าน และเข้าแถว เป็นแถวตอน
สมาชิกคนแรกของทุกกลุ่มต้องออกมาเลือกกลุ่มคาศัพท์จากวิทยากร โดยแต่ละกลุ่มจะ
ได้คาศัพท์ที่แตกต่างกัน และมีเวลาในการจดจาคาศัพท์ 1 นาที
ทุกคนต้องทาการสือสารไปยังสมาชิกในกลุ่ม เป็นลาดับต่อไปเรือยๆ โดยทุกคนมีเวลาสือสารคาศัพท์ 20 วินาที
่ ่ ่
ไปยังสมาชิกคนต่อไป
สมาชิกคนสุดท้ายในกลุ่มต้องจะเป็นผู้บอกกล่าวคาศัพท์นั้นๆ ให้ กรรมการฟัง โดยกลุ่มใดที่มีการสื่อสารที่ถกต้อง
ู
และรวดเร็วทีสุด จะเป็นผู้ชนะ
่

4. ความหมายและความสาคัญของการบริหารผลการปฏิบัติงาน
Performance management : Definition
การระบุประสิทธิภาพการทางาน การวัดผลประสิทธิภาพการทางาน
ของบุคคลและทีมงาน ของบุคคลและทีมงาน
(Identifying performance of individual and teams) (Measuring performance of individual and teams)
การพัฒนาประสิทธิภาพการทางาน การเชื่อมโยงผลการปฏับติงาน กับกลยุทธ์
และเป้าหมายขององค์กร
ของบุคคลและทีมงาน
(Aligning performance with the strategic goals of
(Developing performance of individual and teams) the organization)

5. PM is about communication between
manager and employee
เพื่อเพิ่มผลผลิต
เพื่อปรับปรุงขวัญกาลังใจ
และสร้างแรงจูงใจ
เพื่อประสานงาน
ภายในองค์กร

6. Content
Part 1 ความหมายและความสาคัญของ KPI
Part 2 เกณฑ์ในการกาหนดและขันตอนในการสร้าง KPI
้
Part 3 ตัวอย่าง KPI

7. Part 1
KPI คืออะไร ??
KPI มีกี่ระดับ และใครควรกาหนด KPI ??
ความสาคัญของ KPI??
ทาไมพนักงานต้องรู้เรื่อง KPI??
ประโยชน์ของ KPI คืออะไร ??

8. KPI?…Key Performance Indicator
ความหมาย
“เครื่องมือที่ใช้วัดและประเมินผลการดาเนินงานในด้านต่างๆ ที่
สาคัญของหน่วยงาน/องค์กร ซึ่งสามารถแสดงผลเป็นข้อมูลในรูปของตัวเลข
เพื่อสะท้อนประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการทางานของพนักงานที่จะส่งผลต่อ
หน่วยงานหรือองค์กร” อาจแปลง่าย ๆ ว่า
คุณลักษณะที่สาคัญ
1. เน้นการวัดความสาเร็จที่เป็นผลลัพธ์ (Output)
2. สามารถวัดออกมาในเชิงปริมาณได้

9. KPI?…สาคัญอย่างไร
 ผู้ประเมินไม่สามารถจะตัดสินใจในการประเมินผล
งานของสมาชิกในทีมของตนเองได้ เนื่องจาก
เครื่องมือทีใช้ไม่มีความชัดเจน
่
 เกณฑ์ที่ใช้ในการประเมินทีไม่สอดคล้องกับ
่
ลักษณะงานและองค์กร ทาให้ไม่สามารถสะท้อน
ภาพความเป็นจริงของผลงานได้ตามที่มุ่งหวัง
 เกณฑ์ที่ใช้ในการประเมินมีแนวโน้มที่ผู้ประเมินจะ
ใช้ความรู้สึกและอารมณ์เป็นหลักในการตัดสินใจ
 ปัญหาด้านความสัมพันธ์ระหว่างกันระหว่างผู้
ประเมินและผู้ถูกประเมิน

10. KPI… ใช้ได้กับทุกเรื่องจริงหรือ?
เป้าหมายหรือลักษณะผลงานที่คาดหวัง

11. KPI… ใช้ได้กับทุกเรื่องจริงหรือ?
เป้าหมายหรือลักษณะผลงานที่คาดหวัง
เปอร์เซ็นต์ความพึงพอใจของคนดู
จานวนหนังที่เล่น
จานวนรางวัลที่ได้รับ

12. KPI มี 3 ระดับ
การจัดทา KPI อย่างครบวงจร
Corporate KPI
Department KPI
Job KPI

13. KPI…กับการกระจายเป้าหมาย
JOB KPIs
Department
KPIs
JOB KPIs
CEO Department JOB KPIs
: Corporate KPI KPIs
: Revenue
Department JOB KPIs
KPIs
JOB KPIs
Department
KPIs
JOB KPIs

14. ใครควรกาหนด KPI
ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการกาหนด KPIs
Top Down Approach ผู้บริหารระดับสูงของหน่วยงาน
Top Down and ผู้บริหารและพนักงานร่วมกันกาหนด
Bottom Up Approach

15. ดูแลความสะอาด และความ
งานใหม่
เป็นระเบียบภายในฝ่ายฯ ตาม
หลักการ 7ส ที่จะมุ่งเน้น
จัดเก็บข้อมูล รับส่ง
เอกสารผ่านระบบ
คอมพิวเตอร์
งานพัฒนางานประจา
รับส่งเอกสารระหว่างหน่วยงาน
ภายใน หรือ จัดเตรียมเอกสารเพื่อ
ส่งออกภายนอก
งานที่ต้องดาเนินการเป็นปกติ

16.  ไม่เกิดความสับสนว่างานใดสาคัญกว่างานใด
 ลดความซ้าซ้อนของงานระหว่างตาแหน่ง
 สามารถประเมินผลงานตามตัวชี้วัดหลักได้ง่ายขึ้น
 ช่วยตรวจสอบว่าตัวชี้วัดผลงานของแต่ละตาแหน่ง
สอดคล้องกับเป้าหมายหลักหรือไม่
 วัดได้อย่างเป็นรูปธรรมมากขึน
้
 การประเมินผลงานมีความยุติธรรม
 ทาให้เกิดการพัฒนา

17. KPI?…Key Performance Indicator
Where are we now?
ผลงานปัจจุบัน
How will we get there? Where do we want to be?
ทาอย่างไรจะถึงเป้าหมาย เป้าหมาย

18. Part 2
 ขั้นตอนในการสร้าง KPI ในระดับบุคคล
 เกณฑ์การกาหนด KPI (SMART)
 เกณฑ์ในการวัด KPI มาจากไหน ??
 ลักษณะของ KPI ที่ดี

19. 1 2 3

20. 1 2 3
Responsibility PIs
Activity
หน้าที่ ตัวชี้วัด
กิจกรรมหลัก
ความรับผิดชอบในงาน ผลงาน
KPIs 4 เลือกเฉพาะ PIs
ตัวชี้วัดผลงานหลัก ที่สาคัญ

21. การกาหนด KPIs?? (SMART)
 S = Specific ระบุชัดเจน เจาะจง มีขอบเขตที่แน่ชัด ไม่คลุมเครือ
 M = Measurable สามารถวัดได้ (เพื่อจะได้ประเมินผลได้)
 A = Achievable สามารถทาได้ (ไม่ยากหรือง่ายเกินไป)
 R = Reasonable มีเหตุมีผล สอดคล้องกับงานที่ทา
 T = Timeframe มีกรอบของเวลากาหนดไว้ ว่าจะวัดผลเมื่อไหร่

22. การกาหนด KPIs (SMART)
“ KPI ที่ดีต้องเจาะจง ชัดเจน วัดได้ ทาได้ เป็นจริงได้
และมีกาหนดเวลาชัดเจน”
S = ขอบเขตชัดเจน
M = วัดได้ A = ทาได้
ร้อยละของพนักงานที่ได้รบการฝึกอบรม
ั
ตามแผนพัฒนาบุคลากร ประจาปี 2555 ต้องได้ร้อยละ 80
R = เป็นเหตุเป็นผล
สอดคล้องกับงานที่ทา T = มีกรอบเวลา

23. เกณฑ์ในการวัด KPI มาจากไหน ??
1. ข้อมูลในอดีต, จากแนวโน้มทางสถิติ
2. มาตรฐานที่กาหนด
3. การเปรียบเทียบ (Benchmarking)
4. จากผู้เชี่ยวชาญกาหนด
5. จากการคาดการณ์ร่วมกัน

24. สอดคล้องกับเป้าหมายของหน่วยงานและองค์กร
ต้องมีบุคคลหรือหน่วยงานรับผิดชอบ KPI ทุกตัวที่สร้างขึ้น
วัดผลได้ และบุคคลทั่วไปเข้าใจ
ไม่ควรเกิน 10 ตัวต่อคน
ควรควบคุม KPI ได้อย่างน้อย 80%
แสดงผลการดาเนินงาน หรืองานที่สาคัญ
ควรมี KPI ที่เกียวกับด้านการเงิน และไม่เกียวกับด้าน
่ ่
การเงิน
คุ้มค่าต่อการใช้งบประมาณในการจัดเก็บข้อมูล
ต้องไม่ก่อให้เกิดความขัดแย้งภายในองค์กร

25. Part 3

27. Job Description : JD

29. Workshop