OKR ยาแก้ KPI?
ทุกวันนี้บุคลากรทุกคนคงจะขยาดเมื่อได้ยินคำว่า KPI (Key Performance Indicator) หรือตัวชี้วัดความสำเร็จ เพราะคำ ๆ นี้มักตามหลอกหลอนทุกไตรมาส เพราะ KPI คือตัวชี้วัดผลการทำงานของเรานั่นเอง
แต่ในปัจจุบันเหมือนจะมีข่าวดีให้เราไม่ต้องพะวงและผวากันอีกต่อไป กับการโดนวัดผลการดำเนินงาน แต่นั่นมันก็เป็นเพียงข่าวลือที่ทำให้เราดีใจได้ชั่วขณะ เพราะน้องใหม่ไฟแรงของการวัดผล ยังคงเป็นการวัดผลการทำงาน เพียงแต่นำวัตถุประสงค์มาใช้ให้ชาวเราทราบว่า ต้องทำอย่างไรให้บรรลุวัตถุประสงค์ หรือองค์กรมีวัตถุประสงค์การดำเนินงานอย่างไรในแต่ละปี ซึ่งน้องใหม่ไฟแรงของการวัดผลที่กล่าวมาข้างต้นนั้น เราเรียกว่า OKR (Objective and Key Results)
OKR ดีอย่างไร
1. ความสอดคล้อง ทุกคนทำงานเพื่อจุดมุ่งหมายเดียวกัน
2. สร้างวินัย และ การมุ่งเน้นงาน (ทำทีละงาน และทบทวนอย่างสม่ำเสมอ)
3. ช่วยสร้างกระบวนการทำงานที่ชัดเจนและวัดผลได้
4. ทุกคนรู้งานที่สำคัญที่สุด ขององค์กร ทีม และ ทุกคนในองค์กร
5. สร้างความโปร่งใสของงานภายในบริษัท
จุดเด่นของ OKR
ยืดหยุ่นและทันความเปลี่ยนแปลง
เปิดโอกาสให้เกิดการเรียนรู้
ทลายขีดจำกัดความสามารถและความเป็นไปได้
ให้ความสำคัญกับการพัฒนา ‘คน’
เปิดทางสำหรับความคิดสร้างสรรค์
Objectives and Key Results (OKR) is a popular management strategy for goal setting within organizations. The purpose of OKRs are to connect company, team, and personal goals to measurable results while having all team members and leaders work together in one, unified direction.
Originally implemented in the 1970s by Intel President Andy Grove, OKRs spread across many companies, especially when they were introduced to Google by John Doerr. Now, OKRs are used by tens of thousands of companies from SMEs to the Fortune 500. Google, LinkedIn, Intel, Zynga, Sears, Oracle and Twitter are just some well-known OKR users who love and use them.
OKR ยาแก้ KPI?
ทุกวันนี้บุคลากรทุกคนคงจะขยาดเมื่อได้ยินคำว่า KPI (Key Performance Indicator) หรือตัวชี้วัดความสำเร็จ เพราะคำ ๆ นี้มักตามหลอกหลอนทุกไตรมาส เพราะ KPI คือตัวชี้วัดผลการทำงานของเรานั่นเอง
แต่ในปัจจุบันเหมือนจะมีข่าวดีให้เราไม่ต้องพะวงและผวากันอีกต่อไป กับการโดนวัดผลการดำเนินงาน แต่นั่นมันก็เป็นเพียงข่าวลือที่ทำให้เราดีใจได้ชั่วขณะ เพราะน้องใหม่ไฟแรงของการวัดผล ยังคงเป็นการวัดผลการทำงาน เพียงแต่นำวัตถุประสงค์มาใช้ให้ชาวเราทราบว่า ต้องทำอย่างไรให้บรรลุวัตถุประสงค์ หรือองค์กรมีวัตถุประสงค์การดำเนินงานอย่างไรในแต่ละปี ซึ่งน้องใหม่ไฟแรงของการวัดผลที่กล่าวมาข้างต้นนั้น เราเรียกว่า OKR (Objective and Key Results)
OKR ดีอย่างไร
1. ความสอดคล้อง ทุกคนทำงานเพื่อจุดมุ่งหมายเดียวกัน
2. สร้างวินัย และ การมุ่งเน้นงาน (ทำทีละงาน และทบทวนอย่างสม่ำเสมอ)
3. ช่วยสร้างกระบวนการทำงานที่ชัดเจนและวัดผลได้
4. ทุกคนรู้งานที่สำคัญที่สุด ขององค์กร ทีม และ ทุกคนในองค์กร
5. สร้างความโปร่งใสของงานภายในบริษัท
จุดเด่นของ OKR
ยืดหยุ่นและทันความเปลี่ยนแปลง
เปิดโอกาสให้เกิดการเรียนรู้
ทลายขีดจำกัดความสามารถและความเป็นไปได้
ให้ความสำคัญกับการพัฒนา ‘คน’
เปิดทางสำหรับความคิดสร้างสรรค์
Objectives and Key Results (OKR) is a popular management strategy for goal setting within organizations. The purpose of OKRs are to connect company, team, and personal goals to measurable results while having all team members and leaders work together in one, unified direction.
Originally implemented in the 1970s by Intel President Andy Grove, OKRs spread across many companies, especially when they were introduced to Google by John Doerr. Now, OKRs are used by tens of thousands of companies from SMEs to the Fortune 500. Google, LinkedIn, Intel, Zynga, Sears, Oracle and Twitter are just some well-known OKR users who love and use them.
สี่มิติในการบริหารองค์กร
ประพันธ์โดย Frank Buytendijk
ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองประธานฝ่ายยุทธศาสตร์ของ Oracle Corp. และเป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่อง business intelligent และ performance management
ตีพิมพ์โดย The McGraw-Hill Companies ในปี ค.ศ. 2009
เป็นแนวคิดของกรอบในการพัฒนาพฤติกรรมขององค์กร ที่ทำให้เกิดผลการดำเนินการสูงสุด ซึ่งส่งผลกระทบต่อทั้งภายในและภายนอกองค์กร โดยอาศัยยุทธศาสตร์ความสอดคล้องเชื่อมโยงภายในองค์กร
เน้นพฤติกรรมของบุคลากรเพื่อให้เกิดจุดมุ่งหมายร่วมกัน เพื่อประสานวัตถุประสงค์ที่ขัดแย้งกัน เพื่อการบรรลุผลลัพธ์ที่ต้องการ ในสภาวะแวดล้อมที่มีกฎระเบียบที่เข้มงวด มีแรงกดดันจากสังคม และเพื่อการสร้างนวัตกรรมขององค์กร
Performance Leadership: The Next Practices to Motivate Your People, Align Stakeholders, and Lead Your Industry
9. OKR Best Practice
1. Less is more
อัตราส่วนของ Objective ที่แต่ละคนควรถือ คือ 70:20:10 (Case Study จาก Jitta)
70 % On the Job สําหรับทําหน้าที่หลัก :: ประมาณ 3 Objectives
20% Support other ทํางานที่ช่วยคนอื่น :: ประมาณ2 Objectives
10% Improve yourself พัฒนาตนเองเพื่อให้ทํางานได้ดีขึ้น เช่น การเรียนรู้เพิ่มเติม ไปอบรมสัมมนา เป็นต้น
(คนมักละเลยในส่วนนี้)