More Related Content
Similar to วัณโรค (Tuberculosis)
Similar to วัณโรค (Tuberculosis) (20)
More from Wan Ngamwongwan
More from Wan Ngamwongwan (20)
วัณโรค (Tuberculosis)
- 1. ผู้จัดทา
• นายกิตติวฒน์
ั นาวีรัตนวิทยา เลขที่5 ม.4/4
• นางสาวกาญจนา คุมอนุวงศ์
้ เลขที่19 ม.4/4
• นางสาวปภาวี จาเริ ญพานิช เลขที่20 ม.4/4
• นางสาวสุ นิศา เพ็ชร์นิล เลขที่21 ม.4/4
• นางสาวกาญจนา ม่วงคา เลขที่34 ม.4/4
เสนอ
อาจารย์ฉวีวรรณ นาคบุตร
- 2. • วัณโรค
• อาการแสดงของโรค วัณโรค
• สาเหตุอาการของวัณโรค
• วิธีป้องกัน
- 3. วัณโรคเป็ นโรคติดต่อทางเดินหายใจมาตั้งแต่อดีต ปั จจุบนโรคนี้ ได้รับความ
ั
สนใจจากองค์การอนามัยโลก เนื่องจากอัตราการติดเชื้อเริ่ มมากขึ้นและมีเชื้อที่ด้ือยามาก
ขึ้น ประมาณว่าปี หนึ่ งจะมีคนติดเชื้อใหม่ประมาณ 8 ล้านคนและเสี ยชีวิตประมาณ 3
ล้านคนต่อปี เชื้อที่เป็ นสาเหตุ
่
เชื้อวัณโรคมีอยูหลายสายพันธุ์ได้แก่
-M. tuberculosis complex
-M. tuberculosis
-M. bovis
-M africnum
-M. microti
-M. canetti
- 4. คนที่ติดเชื ้อวัณโรคมีอาการได้ หลายรูปแบบ บางคนอาจจะไม่มี
อาการบางคนอาจจะมีอาการมากทังนี ้ขึ ้นกับปั จจัยดังต่อไปนี ้
้
1. ปั จจัยที่ตวผู้ป่วย
ั
-ได้ แก่อายุสาหรับเด็กและคนสูงอายุจะมีความรุนแรงมากกว่าคนหนุมสาว ่
-สภาวะของภูมิค้ มกันของผู้ป่วย เช่นคนที่เป็ นโรคเอดส์ คนที่รับประทาน
ุ
ยากดภูมิ ขาดอาหาร
-โรคที่พบร่วม เช่นโรคถุงลมโป่ งพอง เบาหวาน
-การฉีดวัคซีนปองกันวัณโรค
้
- 5. 2. ปัจจัยด้ านตัวเชื้อโรค
-ความรุ นแรงของตัวเชื้อ
-ตาแหน่งที่เกิดโรค
3.ปฎิกริยาระหว่ างผู้ป่วยและตัวเชื้อโรค มีปฎิกริยามากก็จะเกิดอาการมาก
ิ ิ
เช่ นไข้ หรือไอเป็ นต้ น
-ตาแหน่งที่เกิดโรค
-ความรุ นแรงของโรค
ก่อนหน้าที่จะมีการระบาดของโรคเอดส์เราจะพบว่าวัณโรคจะเป็ น
ที่ปอดประมาณร้อยละ85 ส่ วนอีกร้อยละ15จะเป็ นวัณโรคที่ปอดและนอก
ปอด แต่หลังจากที่มีโรคเอดส์พบว่าร้อยละ 38เป็ นวัณโรคปอด ร้อละ 30
เป็ นวัณโรคนอกปอด ร้อยละ 32 เป็ นทั้งวัณโรคปอดและนอกปอด
- 6. 1.ไข้ เรื อรัง, ผอมลง, เบื่ออาหาร, อ่อนเพลีย
้
2.ไอ, เสมหะ, หอบเหนื่อย, เจ็บอก
3.ไอเป็ นเลือด
4.ต่อมน ้าเหลืองโต คลาได้ ก้อนบริ เวณรักแร้ และคอ
5.ตับ ม้ าม โต, คลาก้ อนได้ ในท้ อง
6.ปวดศีรษะ, หมดสติ ชักเกร็ ง
เกิดจากเชื ้อแบคทีเรี ย Mycobacterium tuberculosis ซึง
่
เป็ น acid fast bacillus (AFB) ย้ อมติดสีแดง ซึงจะมีอยูในปอดของ
่ ่
ผู้ป่วยที่ไม่ได้ รับการรักษา
- 7. การระบาด
เด็ก มักจะได้รับเชื้อจากผูใหญ่ที่เป็ นวัณโรคระยะแพร่ เชื้อ โดยเชื้อจะออกมา
้
กับการไอ จาม ทาให้เชื้อกระจายในอากาศ ในห้องที่ทึบอับแสง เชื้อวัณโรคอาจมีชีวิต
อยูได้ถึง 1 สัปดาห์ ถ้าเสมหะที่มีเชื้อลงสู่ พ้ืนที่ไม่มีแสงแดดส่ อง เชื้ออาจอยูได้ใน
่ ่
เสมหะแห้งได้นานถึง 6 เดือน เชื้อจะกระจายอยูในอากาศ และเข้าสู่ ร่างกายทางการ
่
หายใจเอาเชื้อเข้าไป บางครั้งเชื้ออาจผ่านจากแม่ไปยังลูกในท้องโดยผ่านทางรกได้
่
ส่ วนใหญ่โรคนี้ จะเป็ นกับเด็กที่มีฐานะยากจน อยูในชุมชนแออัด ผูที่ติดเชื้อ
้
แต่ไม่มีอาการ และตรวจไม่พบวัณโรคในปอดโดย X-rays จะ ทราบว่าติดเชื้อวัณ
โรคได้โดยการทดสอบทูเบอร์คิวลินจะให้ผลบวก ผูป่วยวัณโรคในผูใหญ่ส่วนใหญ่จะ
้ ้
เคยติดเชื้อมาในระยะเด็ก ปั จจัยเสี่ ยงที่จะทาให้ผติดเชื้อเกิดมีอาการของโรคได้แก่ การ
ู้
ติดเชื้อในวัยทารก และในวัยหนุ่มสาว การสัมผัสกับผูติดเชื้อ(ได้รับเชื้อเพิมขึ้น) ภาวะ
้ ่
ภูมิคุมกันบกพร่ องโดยเฉพาะการติดเชื้อ HIV ผูติดยาเสพติด และโรคขาดอาหาร
้ ้
- 8. • ่
อยูในที่โล่ง อากาศถ่ายเทสะดวก
• ้ ่
ไม่คลุกคลี สัมผัสใกล้ชิดกับผูป่วยวัณโรคที่อยูในระยะแพร่ เชื้อ
• ฉีดวัคซีน BCG ตั้งแต่แรกคลอด
• ไม่กระจายเชื้อไปสู่ผอื่น เช่น ไม่ไอ จาม รดผูอื่น
ู้ ้
• ไม่ใช้ของใช้ส่วนตัว ได้แก่ ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว ร่ วมกับผูอื่น
้
• ไม่บวนเสมหะลงพื้นที่แสงูแดดส่ องไม่ถึง
้
• มีรายงานผูป่วยเป็ นวัณโรคในระยะติดต่อ สามารถแพร่ เชื้อวัณโรคกับผูร่วม
้ ้
โดยสารเครื่ องบิน flight เดียวกันได้จานวนหลายคน
- 9. ถ้ามีอาการน่าสงสัย หรื อผิดปกติ หรื อสัมผัสใกล้ชิด
ควรปรึ กษาแพทย์ เพื่อพิจารณารับยาป้ องกันวัณโรค
ส่ วนใหญ่ของเด็กที่ติดเชื้อ จะไม่มีอาการของโรคเมื่อทดสอบ
ทูเบอร์คิวลินได้ผลบวก (ซึ่งเป็ นการแสดงว่าเด็กติดเชื้อวัณโรค)
การตรวจ X-rays ของ ปอดก็จะไม่พบผิดปกติในระยะแรก
ถ้าเด็กมีสุขภาพและภาวะโภชนาการดี โรคจะยังไม่เกิดขึ้นทันที
เมื่อได้รับเชื้อ อาการที่จะพบได้เร็ วที่สุดประมาณ 1-6 เดือนหลัง
ติดเชื้อ ที่จะพบได้บ่อย คือ มีต่อมน้ าเหลืองโตที่ข้ วปอด ที่คอ
ั
และที่อื่นๆ แล้วจึงพบผิดปกติที่ปอดและอวัยวะอื่นๆ