ผู้นำแบบคมในฝัก
ผู้นำแบบคมในฝัก (Quiet Leadership) เป็นหนังสือแนะนำแนวทางใหม่ของภาวะผู้นำ ในการพัฒนาบุคลากร ให้มีผลงานที่ดีขึ้น โดยผู้นำไม่ต้องสั่งการ
การพัฒนามี 6 ขั้นตอน ที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของสมอง
เป็นวิธีใหม่ในการคิด ฟัง พูด ที่ผู้นำสามารถนำมาใช้ได้ ในการสนทนากับบุคลากร
ทำไมผู้นำต้องสนใจเรื่องความคิดของบุคลากรด้วย
ผู้ที่เข้ามาทำหน้าที่ในการบริหารงานรุ่นใหม่ มีความต้องการที่แตกต่างจากผู้บริหารงานรุ่นเดิม พวกเขามีความคาดหวังกับองค์กรมากขึ้น ต้องการได้รับการพัฒนาเป็นรายบุคคล ให้คุณค่ากับความเป็นอิสระ ชื่นชมความหลากหลายและการเปลี่ยนแปลง
บุคคลเหล่านี้ไม่ต้องการวัฒนธรรมองค์กร ที่ผู้นำที่สั่งการแล้วควบคุม (command-and-control) พวกเขาต้องการผู้นำที่ช่วยให้เขาเก่งขึ้น ได้ใช้ศักยภาพเต็มที่ในการทำงาน และช่วยพัฒนาพวกเขาด้านความคิด
Quiet Leadership
Help People Think Better— Don’t Tell Them What to Do!
Six Steps to Transforming Performance at Work
The nexus between leadership and neuroscience
2. Help People Think Better—
Don’t Tell Them What to Do!
Six Steps to Transforming
Performance at Work
The nexus between leadership
and neuroscience
7. Part One : Recent Discoveries About the Brain That Change
Everything
Part Two : The Six Steps to Transforming Performance
STEP 1: Think About Thinking
STEP 2: Listen for Potential
STEP 3: Speak with Intent
STEP 4: Dance Toward Insight
STEP 5: CREATE New Thinking
STEP 6: Follow Up
Part Three : Putting the Six Steps to Use
11. การนาแนวคิดมาใช้ประโยชน์
1. ถ้าต้องการให้บุคลากรเกิดความมุ่งมั่น ต้องให้บุคลากรคิดได้เอง
(To take any kind of committed action, people need to think
things through for themselves)
2. การคิดได้เองต้องอาศัยเวลา (People experience a degree of
inertia around thinking for themselves due to the energy
required)
3. เมื่อคิดได้เอง จะมีแรงกระตุ้นให้เกิดการกระทา (The act of
having an aha moment gives off the kind of energy needed for
people to become motivated and willing to take action)
23. สร้างการเชื่อมต่อใหม่เป็นเรื่องง่าย (ต่อ)
เป็นความเชื่อในปัจจุบันว่า สมองของคนเรามีการเชื่อมต่อใหม่
ตลอดเวลาทุกวินาทีไม่ว่าเวลาใด
ดังนั้นเราจึงสามารถเปลี่ยนสิ่งที่เป็นความคิด (a map held in our
working memory) ให้เป็นพฤติกรรมได้ (a map that’s hardwired
in the deeper parts of our brain) โดยการกระทาบ่อย ๆ เพื่อให้
ความคิด ฝังลงในความทรงจาที่ฝังลึก และควรกระทาให้เกิด
แผนที่ใหม่ขึ้น ในหลายส่วนของสมองด้วย เช่น การคิดบ่อย ๆ
การเขียนบ่อย ๆ การพูดบ่อย ๆ การทาบ่อย ๆ (ย้าคิดย้าทา)
24. การนาการเชื่อมต่อใหม่มาใช้ประโยชน์
1. นิสัยใหม่ต้องอาศัยเวลา แต่ไม่นานนัก (New habits take time, but
not that much) : ในทางวิทยาศาสตร์พิสูจน์แล้วว่า สมองมีการ
เปลี่ยนแปลงได้ ทั้งทางด้านเคมีและกายภาพ ได้อย่างรวดเร็ว
2. การป้อนกลับเชิงบวกเป็นสิ่งจาเป็น (Positive feedback is
essential): ถ้าเราต้องการให้บุคลากรมีผลงานดีขึ้น การรายงาน
ป้อนกลับควรเป็นเชิงบวก
3. การมีเวลาน้อย มีเรื่องต้องคิดมาก (Too many thoughts, too little
time): สิ่งต้องทาคือ เตือนตน (remembering) ในสิ่งที่ควรกระทา และ
การมีกัลยาณมิตรคอยช่วยเตือน จะเป็นสิ่งที่มีประโยชน์มาก
35. ขั้นที่ 2 ฟังเพื่อหาศักยภาพ
เป็นการฟังให้รู้ว่า ใจความที่เขาพูดออกมาหมายถึงอะไร
(listening for where people are heading) ไม่ใช่ฟังเพื่อจับผิด
จากรูป จะเห็นว่าผู้นาต้องคงระยะห่าง (The Clarity of Distance)
หมายถึงไม่คลุกวงในด้วย จนไม่เห็นภาพรวม (a clear frame of
mind) และไม่ใช้กรอบความคิดของเรา ในการมองประเด็นนั้น
36. ขั้นที่ 3 ตั้งใจพูดอย่างมีความหมาย
เป็นการพูดที่ช่วยให้ผู้อื่น พัฒนาความคิดขึ้นมาเองได้
จากรูปภาพ แสดงด้วยคาพูดที่ออกจากปากผู้นา (quality of every
word that comes out of the leader’s mouth) คือพูดกระชับ ได้
ความหมาย และมีความจริงใจ
38. ขั้นที่ 5 สร้างความคิดใหม่
อาศัยเครื่องมือที่เรียกว่า CREATE model
เป็นการพัฒนาความคิดให้ก้าวหน้าสูงขึ้นไปอีก เพื่อทาให้การ
สนทนาเกิดประสิทธิภาพสูงสุด
CREATE ประกอบด้วยจานหมุน 3 ใบคือ สถานการณ์ปัจจุบัน
ค้นหาหนทางเลือกใหม่ และทาให้เป็นจริง (Current Reality,
Explore Alternatives, and Tap Their Energy)
39. ขั้นที่ 6 การติดตามผล
เป็นการทาให้ความคิดกลายเป็นจริง (new thinking becomes
reality) เป็นการปิดช่องว่างระหว่างความคิดและอุปนิสัย
มีรูปแบบเรียกว่า FEELING model จากรูปจะเห็นรูปแบบของ
FEELING อยู่ระหว่างการกระทาและอุปนิสัย
40.
41. ขั้นที่ 1 คิดเรื่องความคิด
เป็นพื้นฐานสาคัญที่สุดของหนังสือเล่มนี้ (This is the underlying
and most important principle in the whole book.)
ให้พวกเขาคิดเอง (Let Them Do All the Thinking)
เน้นที่การแก้ปัญหา (Focus on Solutions)
สร้างความท้าทาย (Remember to Stretch)
พูดเน้นเชิงบวก (Accentuate the Positive)
กระบวนการก่อนเนื้ อหา (Put Process Before Content)
72. การตั้งคาถาม
การตั้งคาถามที่ดี เป็นทักษะที่สาคัญที่สุด
การตั้งคาถามที่ถูกต้อง ทาให้คู่สนทนา เกิดปัญญาคิดออกได้เอง
ผู้นาแบบคมในฝัก ให้คาแนะนาน้อยมาก แต่ไม่ได้หมายความว่า
ไม่ให้คาแนะนา เป็นเพียงไม่รีบให้คาแนะนาในทันที
Quiet Leaders, while they respect that people have problems, aren’t
all that interested in discussing them.
Quiet Leaders stay out of the details.
Quiet Leaders don’t rush people into action.
Quiet Leaders don’t tell people how to think differently.
การถามคาถามที่ต้องคิด (Asking thinking questions) แสดงว่าว่าเรา
เน้นให้เขาคิดเอง