SlideShare a Scribd company logo
1 of 11
Download to read offline
Session   หนา
การพัฒนากิจกรรมการเรียนรูโดยใชสื่อสังคมและปญหาเปนฐานเพื่อสงเสริม      B2_4     177
ความสามารถในการเรียนรูโปรแกรม The Geometer’s Sketchpad
ของนิสิตสาขาวิชาการสอนคณิตศาสตร
Development of Activities by Using Social Media and Problem-
Based Learning to Enhance The Geometer’s Sketchpad Program
Learning Ability of Teaching Mathematics Students
ชนิศวรา เลิศอมรพงษ

A Study of Factors that Influence Students’ Intention                      B2_5     188
to Enroll in an Online IELTS Course
ธันยชนก หลอวิริยะนันท

การพัฒนารูปแบบเครือขายสังคมเชิงเสมือนเพื่อการแลกเปลี่ยนเรียนรู           B2_6     196
สําหรับการศึกษาพหุวัฒนธรรม
Development of Virtual network Model for Knowledge Sharing
in Multicultural Education
ปณิตา วรรณพิรุณ, โอภาส เกาไศยาภรณ

พฤติกรรมการใชเครือขายสังคมออนไลน ของนักศึกษาปริญญาบัณฑิต คณะ            B2_7     204
ครุศาสตร ศึกษาศาสตร ในมหาวิทยาลัยของรัฐ
The Social Network Usage behavior of Undergraduate Students
in Faculty of Education, Government University
อรุณรัตน ศรีชูศิลป, อนิรุทธ สติมั่น

การจัดการเรียนการสอนผานเครือขายสังคมออนไลน ในกิจกรรมพัฒนา               B2_8     212
ผูเรียนดาน ICT เรื่อง การสืบคนผาน Search engine เพื่อสงเสริมการคิด
โดยใชแผนผังมโนทัศน พัฒนาการเรียนรูเตรียมสูประชาคมอาเซียน สําหรับ
นักเรียนชวงชั้นที่ 2 โรงเรียนวัดโบสถ
The Development of Instructional Management through Social
Online Media in ICT Activities Entitled “Using Search Engine to
Enhance Thinking through Concept Map” Learning to prepare
for the ASEAN Community for The Second Class Students at
Watbost School
อาทิตติยา ปอมทอง, สุรพล บุญลือ, สรัญญา เชื้อทอง
การพัฒนารูปแบบเครือขายสังคมเชิงเสมือน
               เพื่อการแลกเปลี่ยนเรียนรูสําหรับการศึกษาพหุวัฒนธรรม
           Development of Virtual network Model for Knowledge Sharing
                            in Multicultural Education

                               ดร.ปณิตา วรรณพิรุณ1, ดร.โอภาส เกาไศยาภรณ2
              1
                สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อการศึกษา คณะครุศาสตรอุตสาหกรรม
                              มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกลาพระนครเหนือ
                                           (panitaw@kmutnb.ac.th)
                   2
                       ภาควิชาเทคโนโลยีการศึกษา คณะศึกษาศาสตร มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร
                                             (ophat.k@psu.ac.th)


ABSTRACT                                                   network education, 2) building up congeniality, 3)
                                                           knowledge sharing in multicultural education, and
                                                           4) evaluating learning results with consisted of
The purposes of this research were 1) to develop           three components: 1) people 2) instructional media,
a virtual network model for knowledge sharing              and 3) blended classroom setting.
in multicultural education, and 2) to evaluate a           3. The experts agree that a virtual network model
virtual network model for knowledge sharing in             for knowledge sharing in multicultural education
multicultural education. The study was divided             was appropriateness in an excellent level.
into two stages: 1) developing a virtual network
model for knowledge sharing in multicultural               Keywords: instructional model, virtual network,
education, and 2) evaluating a virtual network             knowledge sharing, multicultural education
model for knowledge sharing in multicultural
education. The sample group in this study
consisted of 50 administrators and instructors
who teach in higher education and 5 experts.
                                                           บทคัดยอ
The research tools were the questionnaire, the             การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงคเพื่อ 1) พัฒนารูปแบบเครือขาย
virtual network model for knowledge sharing in
multicultural education, and the virtual network           สังคมเชิงเสมือนเพื่อการแลกเปลี่ยนเรียนรูสําหรับการศึกษา
model evaluation form. Data were analyzed by
arithmetic mean and standard deviation.
                                                           พหุวัฒนธรรม 2) ประเมินรับรองรูปแบบเครือขายสังคมเชิง
The research findings were as follows:                     เสมื อ นเพื่ อ การแลกเปลี่ ย นเรี ย นรู สํ า หรั บ การศึ ก ษาพหุ
1) A virtual network model for knowledge
sharing in multicultural education components              วัฒนธรรม วิธีดําเนินการวิจัยแบงออกเปน 2 ระยะ คือ 1)
consisted of 11 components as followed: 1)
design of learning activities on a virtual network
                                                           การพั ฒ นารู ป แบบเครื อ ข า ยสั ง คมเชิ ง เสมื อ นเพื่ อ การ
for multicultural education, 2) process of                 แลกเปลี่ยนเรียนรูสําหรับการศึกษาพหุวัฒนธรรม 2) การ
knowledge sharing, 3) scaffolding on virtual
network for multicultural education, 4) factors            ประเมินรับรองรูปแบบเครือขายสังคมเชิงเสมือนเพื่อการ
causing of knowledge sharing, 5) students’                 แลกเปลี่ ย นเรี ย นรู สํ า หรั บ การศึ ก ษาพหุ วัฒ นธรรม กลุ ม
adoptation of cultural awareness on virtual
network for multicultural, 6) reinforcement in             ตัวอยางสําหรับการวิจัย คือ ผูบริหารและอาจารยที่สอนใน
student’s behavior, 7) interaction of students on
virtual network for multicultural education, 8)            ระดับอุดมศึกษา 50 คน และผูทรงคุณวุฒิ 5 คน เครื่องมือที่
support and management of virtual network for              ใชในการวิจัย คือ แบบสอบถามเพื่อพัฒนารูปแบบเครือขาย
multicultural, 9) learning management system
on virtual network for multicultural education,            สังคมเชิงเสมือนเพื่อการแลกเปลี่ ยนเรียนรูสําหรับการศึกษา
10) Communications tools, and 11) Reflective
tools.                                                     พหุวัฒนธรรม และแบบประเมินรับรองรูปแบบเครือขาย
2) A virtual network model for knowledge                   สังคมเชิงเสมือน สถิติที่ใชในการวิจัย คือ คาเฉลี่ยและสวน
sharing in multicultural education components
consisted of four steps: 1) preparing of a virtual         เบี่ยงเบนมาตรฐาน
                                                     196
ผลการวิจัยพบวา                                                        แตงกายและวิถีชีวิตเปนแบบมลายู คนไทยเชื้อสายจีนก็จะ
1) รูปแบบเครือขายสังคมเชิงเสมือนเพื่อการแลกเปลี่ยน                    ปฏิบัติตามขนบธรรมเนียม ประเพณีดั้งเดิมของตน เชน การ
เรียนรูสําหรับการศึกษาพหุวัฒนธรรม ประกอบดวย 11                       ไหวเจา ไหวบรรพบุรุษในชวงเทศกาลตรุษจีน สวนคนไทย
องคประกอบ คือ 1) การออกแบบกิจกรรมการเรียนการ                          พื้ น เมื อ งก็ จ ะมี วัฒ นธรรมเฉพาะของตนเอง เช น คนไทย
สอนบนเครือขายสังคมพหุวัฒนธรรม 2) กระบวนการ                            ภาคเหนือก็จะใชภาษาไทยเหนือในการติดตอสื่อสาร การ
แลกเปลี่ยนเรียนรูและติดตามพฤติกรรมของผูเรียน 3)                      นิยมรับประทานข าวเหนีย ว การแตง กายพื้นเมือง รวมทั้ ง
ฐานการชวยเหลือผูเรียนในการเรียนบนเครือขายสังคม                      ผลงานศิลปะก็จะมีลักษณะเฉพาะเปนของตนเอง (บัญญัติ
เชิงเสมือน 4) ปจจัย ที่กอใหเกิด การแลกเปลี่ยนเรียนรู               ยงยวน, 2551) ดังนั้น นักการศึกษาจึงไมอาจจะมองขาม
สําหรับการศึกษาพหุวัฒนธรรม 5) การยอมรับและการ                          ความแตกตางและความหลากหลายทางวัฒนธรรมนี้ไปได
อยูรวมกันของผูเรียนในสังคมพหุวฒนธรรมบนเครือขาย
                                     ั                                 การจั ด การศึ กษาในสั ง คมพหุ วัฒ นธรรมจึ ง ควรมี รู ป แบบ
สัง คมเชิง เสมื อน 6) การเสริม แรงด านพฤติ กรรมของ                    เฉพาะที่เหมาะสมตอการพัฒนาผูเรียนจากทุกกลุมวัฒนธรรม
ผูเรียน 7) ปฏิสัมพันธของผูเรียนบนเครือขายสังคมเชิง                 โดยจะเรี ย กการจั ด ศึ ก ษาในลั ก ษณะนี้ ว า การศึ ก ษาพหุ
เสมื อ น 8) การจั ด การเครื อ ข า ยบนเครื อ ข ายสั ง คมเชิ ง         วัฒนธรรม (Multicultural Education) การจัดการศึกษาแบบ
เสมือ น 9)ระบบบริห ารจั ดการบนเครือ ขา ยสั งคมเชิ ง                   พหุวัฒนธรรมจึงมีความจําเปนและมีความสําคัญ โดยเปน
เสมือน 10) เครื่องมือที่ติดตอสื่อสารบนสังคมเชิงเสมือน                 รูปแบบการจัดการศึกษาที่ตรงกับความตองการที่แทจริงของ
และ11) เครื่องมือสะทอนความรูของผูเรียน                              ผู เ รี ย นโดยสะท อ นความเป น เอกลั ก ษณ ทั้ ง ด า นศาสนา
2) รูปแบบเครือขายสังคมเชิงเสมือนเพื่อการแลกเปลี่ยน                    ขนบธรรมเนี ย มประเพณี ค า นิ ย มตลอดจนการศึ ก ษา
เรียนรูสําหรับการศึกษาพหุวัฒนธรรม ประกอบดวย 4                        โดยเฉพาะเมื่ อ นํ า มาประยุ ก ต กั บ กระบวนการในการ
ขั้นตอน คือ 1) ขั้นการเตรียมความพรอมของหองเรียน                      แลกเปลี่ยนเรียนรูแลวจะยิ่งทําใหการจัดการศึกษาแบบพหุ
บนเครื อข า ยสั งคมเชิ งเสมื อ น 2) ขั้ น การสร า ง                  วั ฒ นธรรมช ว ยทํ า ให ผู เ รี ย นนอกจากจะได ค วามรู ที่ เ ป น
ความคุ น เคย 3) ขั้ น การแลกเปลี่ ย นเรี ย นรู สํ า หรั บ            เนื้ อ หาสาระทางวิ ช าการแล ว ยั ง ได รั บ ความรู ที่ เ กี่ ย วกั บ
การศึกษาพหุวัฒนธรรม 4) ขั้นตอนดานการวัดและการ                         วัฒนธรรมของผูเรียนคนอื่นๆ อีกดวย
ประเมินผล โดยมีองคประกอบยอย ไดแก 4.1) บุคคล                        ทฤษฏีที่มีความสําคัญเกี่ยวกับหลักของการแลกเปลี่ยนเรียนรู
4.2) สื่ อ การเรี ย นการสอน และ 4.3) ห อ งเรี ย นแบบ                  เพื่อนําไปสูการสรางความรู ก็คือ เกลียวความรู (Knowledge
ผสมผสาน                                                                Spiral: SECI) โดยหลักการคือการมีปฏิสัมพันธระหวาง
3) ผูทรงคุณวุฒิประเมินรับรองรูปแบบเครือขายสังคมเชิง                  ความรู โดยนัย (Tacit Knowledge) กับ ความรูที่ ชัดแจ ง
เสมือนเพื่อการแลกเปลี่ยนเรียนรูสําหรับการศึกษาพหุ                     (Explicit Knowledge) โดยเริ่มตนจากการแลกเปลี่ยนความรู
วัฒนธรรม มีความเหมาะสมอยูในระดับเหมาะสมมาก                            ที่เปนนัย (Socialization) เกิดจากการสื่อสารระหวางกันหรือ
                                                                       ถายทอดจากสมองคนๆ หนึ่งไปสูสมองคนอีกหลายๆ คน
คําสําคัญ: รูปแบบการเรียนการสอน, เครือขายสังคมเชิง                    โดยจัดใหคนมามีปฏิสัมพันธกันในรูปแบบตางๆ จากนั้นเกิด
เสมือน, การแลกเปลี่ยนเรียนรู, การศึกษาพหุวัฒนธรรม                     การเปลี่ ย นความรู ที่ เ ป น นั ย ไปเป น ความรู ที่ ชั ด แจ ง
                                                                       (Externalization) โดยการนําความรูที่เปนนัยออกมานําเสนอ
1) บทนํา                                                               ในรูปของการเลาเรื่อง การเปรียบเทียบและการนําเสนอเปน
สภาพสังคมของประเทศไทยในปจจุบันประกอบไปดวย                            รู ป แบบจนกระทั่ ง เกิ ด การแลกเปลี่ ย นความรู ที่ ชั ด แจ ง
กลุมประชากรที่มีความหลากหลายทางดานชาติพันธุซึ่ง                     (Combination) ในรูปของเอกสาร การประชุม ตํารา ฐาน
แมวาคนไทยเหลานี้จะมีวัฒนธรรมหลักที่เหมือนกันแตก็                   ขอมูลในคอมพิวเตอร ทายที่สุดเกิดการเปลี่ยนความรูที่ ชัด
จะมีที่วัฒนธรรมยอยแตกตางกันออกไป เชน คนไทยเชื้อ                     แจงกลับไปเปนความรูที่เปนนัย (Internalization) อีกครั้ง
สายมลายูจะนับถือศาสนาอิสลาม พูดภาษามลายู มีการ                         Nonaka, Toyama, and Konno เชื่ อ ว ากระบวนการ
                                                                 197
ปรับเปลี่ยนความรูนี้จ ะเปนกุญแจสําคัญของการสรา ง                          โดยการนําทรัพยากรและจุดแข็งของแตละสถาบันมาชวย
ความรู ยิ่งไปกวานั้นการมีปฏิสัมพันธของรูปแบบความรู                       เสริ มซึ่ งกันและกัน รวมไปถึ งเพื่ อพั ฒนาศั กยภาพด านการ
ที่ เ ป น นั ย และความรู ที่ ชั ด แจ ง โดยผ า นกระบวนการ                 เรียนรู การแลกเปลี่ยนเรียนรูของผูเรียนที่มีวัฒนธรรม วิถี
ปรับเปลี่ยนความรูทั้ง 4 ขั้นตอนนี้จะทําใหความรูมีการ                      ชี วิ ต และวิ ธีก ารเรี ย นที่ แ ตกต า งกั น รวมไปถึ ง การเรี ย นรู
ขับเคลื่อนไปสูระดับที่สูงขึ้น สวนการเรียนรูรวมกันใน                      วัฒนธรรมของผูเรียนซึ่งอยูตางสถาบัน รวมไปถึงการพัฒนา
การปฏิบัติที่เรียกวา Interactive learning ถือเปนหัวใจ                      องคความรูในดานตางๆ สรางความเขมแข็งใหสังคมอันจะ
สําคัญของการจัดการความรูเชนกัน เพราะการทําใหเกิด                          นําไปสูการพัฒนาประเทศและเพื่อเตรียมความพรอมในการ
การสรางเครือขายระหวางคนกับคน คนกับกลุมคน กลุม                           ที่จะกาวสูการเปนประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนตอไป
คนกั บ กลุ ม คนจะเป น เป น การกระตุ น ให เ กิ ด การ
แลกเปลี่ยนเรียนรูรวมกัน การสรางเวทีหรือกิจกรรมให                         2) วัตถุประสงคของการวิจัย
สมาชิ ก ได พ บปะพู ด คุ ย เพื่ อ แลกเปลี่ ย นเรี ย นรู จ าก                วัตถุประสงคทั่วไป
ประสบการณที่แตละคนไดรับมา สมาชิกจะตองมีความ                              เพื่ อ พั ฒ นารู ป แบบเครื อ ข า ยสั ง คมเชิ ง เสมื อ นเพื่ อ การ
ขยัน อดทนและพยายามแลกเปลี่ยนเรียนรูซึ่งกันโดยไม                            แลกเปลี่ยนเรียนรู สําหรับการศึกษาพหุวฒนธรรม
                                                                                                                        ั
หวงความรู ผานกระบวนการจัดกิจกรรมที่หลากหลายซึ่ง                            วัตถุประสงคเฉพาะ
จะทําใหเกิดสังคมแหงภูมิปญญาและการเรียนรูมากขึ้น                          2.1) เพื่อ พัฒ นารูป แบบเครื อข ายสั งคมเชิง เสมือ นเพื่อ การ
(ประพนธ ผาสุกยืด, 2547)                                                     แลกเปลี่ยนเรียนรูสําหรับการศึกษาพหุวัฒนธรรม
การพั ฒ นารู ป แบบเครื อ ข า ยสั ง คมเชิ ง เสมื อ นเพื่ อ การ               2.2) เพื่อประเมินรับรองรูปแบบเครือขายสังคมเชิงเสมือน
แลกเปลี่ยนเรียนรูสําหรับการศึกษาพหุวัฒนธรรมขึ้นเพื่อ                        เพื่อการแลกเปลี่ยนเรียนรูสําหรับการศึกษาพหุวัฒนธรรม
ชวยในการจัดการเรียนการสอนในระดับอุดมศึกษาของ
แตสถาบันที่มีผูเรียนที่มีความแตกตางทางดานวัฒนธรรม

         เครือขายสังคมเชิงเสมือน                             การแลกเปลี่ยนเรียนรู                         หองเรียนเชิงพหุวัฒนธรรม
           (Virtual Community)                                (Knowledge Sharing)                        (Joint Classroom in Multicultural
                                                                                                                    Education)
     (Kollock, 1996; Preece, 2000; ใจทิพย             (Marquardt, 1996; Probst, et al,, 2000)                  (Banks, 2002; Casey, 2008)
               ณ สงขลา, 2550)
                                                                                                      รู ป แบบการจั ด สภาพ แวดล อ มสํ า หรั บ
  รู ป แบบในการติ ด ต อ สื่ อ สารซึ่ ง มี ก าร      พฤติกรรมการเผยแพร แลกเปลี่ยนแบงปน             ผู เ รี ย นที่ มี ค วามแตกต า งกั น ในเรื่ อ งของ
  แบ ง ป น ความคิ ด ทั ศ นคติ ผลงานหรื อ           ความรู ทั ก ษะ ประสบการณ ร ะหว า งกั น        ศาสนา สัง คมและวั ฒนธรรม เพื่อให เ กิ ด
  ผลลัพธบางประการ โดยที่บุคคลสามารถจะ               ในขณะเขารวมกิจกรรมตามกระบวนการ 6               การเรียนรูในเนื้อหาวิชาที่เรียนและยอมรับ
  พั ฒ นาความสั ม พั น ธ ร ะหว า งกั น ผ า นทาง   ขั้นตอน ไดแก 1) ขั้นแนะนําแนวทาง สราง         ในเรื่ องความแตกตางทางดานวัฒนธรรม
  ระบบออนไลน โดยมีแรงจูงใจ 4 ประการ                 กลุมสัมพันธ 2) ขั้นกําหนดความรู นําไปสู      สั ม พั น ธ ที่ เ กิ ด ขึ้ น ภายในห อ งเรี ย นฯ แบ ง
  คือ 1)ความตองการในการที่จะไดรับความรู           เปาหมาย 3) ขั้น พบปะแลกเปลี่ยน เพื่อน           ออกเปน 3 ระดับ คือ 1) ปฏิสัมพันธกับตัว
  อื่นกลับมา 2) ความตองการมีชื่อเสียง 3)            เรียนเพื่อนรู 4) ขั้นสืบเสาะแสวงหา 5) ขั้น      ผูเรียนเอง 2) ปฏิสัมพันธกับผูเรียนดวยกัน
  ความรูสึกภาคภูมิใจ และ 4) ความตองการ             สรางสรรคเผยแพร และ 6) ขั้นประเมินผล           และเนื้อ หาสาระ และ 3) ปฏิสั มพั น ธ
  ในการติดตอสื่อสาร                                 งาน                                              ระหวางสาระการสอนกับตัวผูเรียนเอง


                       รูปแบบเครือขายสังคมเชิงเสมือนเพื่อการแลกเปลี่ยนเรียนรู สําหรับการศึกษาพหุวัฒนธรรม


    รูปที่ 1: กรอบแนวคิดการพัฒนารูปแบบเครือขายสังคมเชิงเสมือนเพื่อการแลกเปลี่ยนเรียนรู สําหรับการศึกษาพหุวัฒนธรรม
                                                                       198
3) ขั้นตอนการดําเนินการวิจัย                                                4) สรุปผลการวิจัย
ระยะที่ 1 การพัฒนารูปแบบเครือขายสังคมเชิงเสมือ น                           ตอนที่ 1 รู ป แบบเครื อ ข า ยสั ง คมเชิ ง เสมื อ นเพื่ อ การ
เพื่ อ การแลกเปลี่ ย นเรี ย นรู สํ า หรั บ การศึ ก ษาพหุ                   แลกเปลี่ยนเรียนรูสําหรับการศึกษาพหุวัฒนธรรม
วัฒนธรรม ดําเนินการตามขั้นตอน ดังนี้                                        รูปแบบเครือขายสังคมเชิงเสมือนเพื่อการแลกเปลี่ยนเรียนรู
3.1.1) ศึ ก ษา ค น คว า วิ เ คราะห แ ละสั ง เคราะห ข อ มู ล            สํ า หรั บ การศึ ก ษาพหุ วั ฒ นธรรม ประกอบด ว ย 11
เอกสาร และงานวิ จั ย ที่ เ กี่ย วข อ งกั บ รู ป แบบเครื อ ข า ย           องคประกอบ คือ 1) การออกแบบกิจกรรมการเรียนการสอน
สั ง คมเชิ ง เสมื อ นเพื่ อ การแลกเปลี่ ย นเรี ย นรู สํ า หรั บ            บนเครื อ ข า ยสั ง คมพหุ วั ฒ นธรรม 2)        กระบวนการ
การศึกษาพหุวัฒนธรรม                                                         แลกเปลี่ยนเรียนรูและติดตามพฤติกรรมของผูเรียน 3) ฐาน
3.1.2) ศึกษาขอมูลเกี่ยวกับสภาพปจจุบันของการจัด                            การชวยเหลือผูเรียนในการเรียนบนเครือขายสังคมเชิงเสมือน
การศึ ก ษาในสั ง คมพหุ วั ฒ นธรรม แนวคิ ด เกี่ ย วกั บ                      4) ปจจัยที่กอใหเกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรูสําหรับการศึกษา
รูป แบบเครื อข ายสัง คมเชิ งเสมื อนเพื่ อการแลกเปลี่ ย น                   พหุวัฒนธรรม 5) การยอมรับและการอยูรวมกันของผูเรียน
เรียนรูสําหรับการศึกษาพหุวัฒนธรรม โดยการสัมภาษณ                           ในสังคมพหุวัฒนธรรมบนเครือขายสังคมเชิงเสมือน 6) การ
ผูบริหาร จํานวน 10 คน โดยใชแบบสัมภาษณเชิงลึก                             เสริมแรงดานพฤติกรรมของผูเรียน 7) ปฏิสัมพันธของผูเรียน
และสอบถามอาจารยที่สอนในระดับอุดมศึกษา 40 คน                                บนเครือขายสังคมเชิงเสมือน 8) การจัดการเครือขายบน
โดยใชแบบสอบถาม                                                             เครื อ ข า ยสั ง คมเชิ ง เสมื อ น 9) ระบบบริ ห ารจั ด การบน
3.1.3) พัฒนารูปแบบเครือขายสังคมเชิงเสมือนเพื่อการ                          เครือขายสังคมเชิงเสมือน 10) เครื่องมือที่ติดตอสื่อสารบน
แลกเปลี่ ย นเรี ย นรู สํ า หรั บ การศึ ก ษาพหุ วั ฒ นธรรม                  สังคมเชิงเสมือน และ 11) เครื่องมือสะทอนความรูของ
กําหนดองคประกอบ กระบวนการ ขั้นตอนที่มีความเปน                             ผูเรียน
ระบบ (System Approach) และแสดงความสัมพันธซึ่ง                              รูปแบบเครือขายสังคมเชิงเสมือนเพื่อการแลกเปลี่ยนเรียนรู
กันและกันเปนแผนภาพประกอบความเรียง                                          สําหรับการศึกษาพหุวัฒนธรรม ประกอบดวยการเตรียมดาน
ระยะที่ 2 การประเมินรับรองรูปแบบเครือขายสังคมเชิง                          กิจกรรมการเรี ยนการสอน 4 ขั้น ตอน ไดแ ก 1) ขั้ นการ
เสมื อ นเพื่ อ การแลกเปลี่ ย นเรี ย นรู สํ า หรั บ การศึ ก ษา              เตรียมความพรอมของหองเรียนบนเครือขายสังคมเชิงเสมือน
พหุวัฒนธรรม                                                                 2) ขั้ นการสรา งความคุ นเคย 3) ขั้ น การแลกเปลี่ ย นเรีย นรู
นํ า พั ฒ นารู ป แบบเครื อ ข า ยสั ง คมเชิ ง เสมื อ นเพื่ อ การ            สําหรับการศึกษาพหุวัฒนธรรม 4) ขั้นตอนดานการวัดและ
แลกเปลี่ยนเรียนรูสําหรับการศึกษาพหุ วัฒนธรรม ที่                           การประเมินผล โดยมีองคประกอบยอย ไดแก 4.1) บุคคล
พัฒ นาขึ้ น ไปให ผู ท รงคุ ณวุ ฒิ จํ า นวน 5 คน ทํ า การ                  4.2) สื่ อ การเรี ย นการสอน และ 4.3) ห อ งเรี ย นแบบ
ประเมินรับรองรูปแบบ ไดจากการเลือกแบบเจาะจง โดย                             ผสมผสาน โดยมีลําดับและขั้นตอนในการดําเนินกิจกรรม
เป น ผู บ ริ ห ารในสถาบั น อุ ด มศึ ก ษาหรื อ เป น ผู ที่ มี            ดังนี้
ประสบการณในการสอนระดับอุดมศึกษา อยางนอย 10                               1.1) การเตรียมความพรอมใหกับผูสอนและผูเรียน โดยใน
ป หรือมีผลงานวิจัย ผลงานวิชาการและมีตําแหนงทาง                            ขั้นตอนของการเตรียมความพรอมนี้ นอกจากจะเนนดา น
วิชาการตั้งแตรองศาสตราจารยขึ้นไป                                          เนื้อหาสาระทางวิชาการแลว ผูสอนจะตองมีความเขาใจใน
เครื่ อ งมื อ ที่ ใ ช ใ นการวิ จั ย ได แ ก แบบรั บ รองรู ป แบบ           เรื่องของวัฒนธรรมและกิจกรรมภายในบทเรียน รวมไปถึง
เครื อ ข า ยสั ง คมเชิ ง เสมื อ นเพื่ อ การแลกเปลี่ ย นเรี ย นรู          การสงเสริมและจัดประสบการณในการเรียนที่เหมาะสมเพื่อ
สําหรับการศึกษาพหุวัฒนธรรม                                                  ชวยใหผูเรียนพัฒนาทั้งทางด านทักษะ ความรูความเขาใจ
สถิ ติ ท่ี ใ ช ใ นการวิ จั ย คื อ ค า เฉลี่ ย และส วนเบี่ ย งเบน         และเจตคติที่ดีตอสังคม
มาตรฐาน                                                                     1.2) การรวมกันออกแบบวิธีการจัดการเรียนการสอน สื่อ
                                                                            การสอน วิธีการวัดและประเมินผล เพื่อใหการจัดการเรียน

                                                                      199
การสอน กิ จ กรรมภายในบทเรี ย น วิ ธี ก ารวั ด และ                              1.4) การทําความเขาใจถึงขอตกลง วัตถุประสงค เปาหมาย
ประเมินผลเปนไปในทิศทางเดียวกัน โดยมีรายละเอียด                                การเรียน บทบาทและกิจกรรมในการเรียน เพื่อใหผูสอนและ
ของขั้นตอน ดังนี้                                                              ผูเรียนมีเขาใจที่ตรงกัน
1.2.1) ผูสอนตองรวมกันในการพัฒนาหลักสูตรที่มีความ                            1.5) การแนะนําเครื่องมือและฝกการใชงานเครื่องมือตางๆ
ทาทาย และมีความหมายที่มีความเปนจริงตอผูเรียน                               แก ผู เ รี ย น เพื่ อ ให ผู เ รี ย นเกิ ด ความพร อ มในการใช ง าน
1.2.2) จัดกระบวนการประเมินการเรียนรูตามสภาพจริง                               เครื่องมือตางๆ
ของผูเรียนในระหวางภารกิจ
1.2.3) จัดเตรียมเครื่องมือตางๆ ใหมีความพรอมสําหรับ                          2) ขั้นการสรางความคุนเคยของผูเรียนบนเครือขายสังคมเชิง
การสรางประสบการณความรูใหกับผูเรียน                                        เสมื อ นเพื่ อ การแลกเปลี่ ย นเรี ย นรู สํ า หรั บ การศึ ก ษาพหุ
1.2.4) กําหนดเรื่องราว กรอบระยะเวลาในการจัดการ                                 วัฒนธรรม จะมีองคประกอบที่สําคัญสําหรับขั้นตอนนี้ดังนี้
เรียนการสอนและกิจกรรมที่ผูสอนตองการจะสอดแทรก                                 2.1) หองเรียนปกติ หมายถึง การจัดกิจกรรมการเรียนการ
เรื่องราวเกี่ยวกับวัฒนธรรมเขาไป เนื่องจากระยะเวลา                             สอนปกติในชั้นเรียน
และความถี่ ใ นการรั บ รู เ นื้ อ หาหรื อ เรื่ อ งราวที่ เ กี่ ย วกับ          2.2) การจัดการเรียนการสอนบนเครือขายสังคมเชิงเสมือน
วัฒนธรรมจะสงผลตอความตระหนักทางดานวัฒนธรรม                                   (หองเรียนออนไลน) หมายถึง การจัดกิจกรรมการเรียนการ
ของผูเรี ยนและลั กษณะและรูปแบบของเรื่อ งที่จะรับ รู                          สอนแบบออนไลน บ นห อ งเรี ย นเสมื อ นที่ ถู ก จั ด สภาพ
ของผูเรียนจะสงผลตอความตระหนักทางดานวัฒนธรรม                                แวดลอมทางการศึกษาและกิจกรรมบนเครือขายสังคมเชิง
และยั ง เป น ส ว นที่ ทํ า ให ผู เ รี ย นเกิ ด ประเด็ น ในการ              เสมือนสําหรับหองเรียนพหุวัฒนธรรม
แลกเปลี่ยนเรียนรู                                                             2.3) การสรางความรูจั กและทําความคุนเคยระหวางผูสอน
1.2.5) จั ด เตรี ย มสื่ อ การเรี ย นการสอนที่ มี ค วาม                         และผูเ รียน เนื่ องจากสภาพแวดลอมในการเรียนรู ที่ดีจ ะ
หลากหลายและนาสนใจ                                                             ประกอบดวยสมาชิกที่มีทักษะแตกตางกันทั้งผูที่เริ่มเรียนรู
1.3) การจัดกลุมผูเรียนใหมีความหลากหลายทั้งดานวิถี                          ไปจนถึงผูเชี่ยวชาญ ดังนั้น การที่สมาชิกทั้งผูสอน และ
ชีวิต ขนบธรรมเนียม ประเพณี ศาสนาหรือวัฒนธรรมจะ                                 ผูเรียนไดทําความรูจักหรือคุนเคยกันจะชวยใหเกิดความกลา
ช ว ยให ผู เ รี ย นเกิ ด การเรี ย นรู โดยเฉพาะจากการ                       ที่จะพูดคุยหรือแสดงความคิดเห็น
แลกเปลี่ยนเรียนรูจากเพื่อนสมาชิกดวยกัน โดยการจัด                             2.4) การใชประเด็นคําถามของผูสอนเพื่อใหผูเ รียนไดพูดคุย
กลุมผูเรียนนั้นมีเปาหมายหลักไดแก                                          ผานชองทางสื่อสารที่ไดจัดเตรียมไว เชน กระดานสนทนา
1.3.1) ผูเรียนรวมกันเรียนรูโดยการแลกเปลี่ยนทักษะซึ่ง                        (Forum) หรือหองสนทนา (Chat room) โดยการสราง
กันและกันและมีการสนับสนุนทางสังคม การชวยเหลือ                                 บรรยากาศที่สนับสนุนใหผูเรียนเปดกลุมยอย การสนทนา
ซึ่งกันและกันของสมาชิก                                                         เป น การส ว นตั ว และสร า งทั ก ษะการมี ส ว นร ว มในสั ง คม
1.3.2) ผูเรียนทํางานรวมกัน โดยมีการสรางความรูและ                           เสมือน
การแลกเปลี่ยนทักษะ รวมถึงการชวยเหลือซึ่งกันและกัน                             2.5) การสะทอนความรูของผูเรียนผานกระดานสะทอนคิด
ของสมาชิกในหองเรียน                                                           (Reflective Journal) หรือบล็อก (Blog) โดยการสะทอน
1.3.3) ผูเรียนไดรับรูถึงความแตกตางทางเชื้อชาติและ                          ความรูนี้จะเปนวิธีการที่จะชวยในการกระตุนการเชื่อมโยง
วัฒนธรรมที่เกิดขึ้นในหองเรียนและในสังคม                                       ระหวางความรูเดิมและความรูใหมที่ผูเรียนไดรับเขามา
1.3.4) ปรับทัศนคติของผูเรียนเกี่ยวกับการอยูรวมกับผูอน           ื่         2.6) การติดตามพฤติกรรมผูเรียนโดยผูสอนผานกระดาน
ที่มีความแตกตางทางดานวัฒนธรรม                                                สะทอนคิด (Reflective Journal) หรือ บล็อก (Blog) โดย
1.3.5) ส ง เสริ ม และจั ด ประสบการณ ใ นการเรี ย นที่                         ขั้ น ตอนดั ง กล า วนี้ จ ะช ว ยให ผู ส อนสามารถวางแผนการ
เหมาะสมเพื่ อ ช ว ยให ผู เ รี ย นพั ฒ นาทั้ ง ทางด า นทั ก ษะ              จั ด การเรี ย นการสอน การทํ า กิจ กรรมและความกา วหน า
ความรูความเขาใจและเจตคติที่ดีตอสังคม                                        ทางการเรียนของผูเรียนได
                                                                         200
3) ขั้นการแลกเปลี่ยนเรียนรู หมายถึง เปนกระบวนการที่                      เหมือนรวมและความแตกตางในเรื่องราวนั้น โดยใชความ
ผูสอนและผูเรียนไดทําการแลกเปลี่ยนความรูซึ่งกันและ                      หลากหลายในดานมุมมองของผูเรียน
กัน ทั้งความรูทางดานวิชาการที่เกี่ยวของกับเนื้อหาสาระ                   3.2) การสะทอนความรูของผูเรียนจากประเด็นที่ไดมีการ
ในวิชาและความรูที่เกี่ยวของกับวัฒนธรรม                                   แลกเปลี่ ย นพู ด คุ ย กั น ผ า นกระดานสะท อ นคิ ด (Reflective
3.1) การแลกเปลี่ยนพูดคุยเกี่ยวกับเนื้อหาวิชาที่เรีย น                      Journal) หรือ บล็อก (Blog)
ระหวางผูสอนและผูเรียน โดยอาจจะเปนการแลกเปลี่ยน                         3.3) การติดตามพฤติกรรมผูเรียนของผูสอนผานการพูดคุย
เรื่ องราวในประเด็น ใดประเด็ น หนึ่ งและมองหาความ                          แลกเปลี่ ย นเรี ย นรู ข องผู เ รี ย นจากกระดานสะท อ นคิ ด
                                                                           (Reflective Journal) หรือบล็อก (Blog)




                รูปที่ 2:รูปแบบเครือขายสังคมเชิงเสมือนเพื่อการแลกเปลี่ยนเรียนรู สําหรับการศึกษาพหุวัฒนธรรม

ตอนที่ 2 ผลการประเมินรับรองรูปแบบเครือขายสังคม                            สําหรับการศึกษาพหุวัฒนธรรม สามารถที่จะแยกยอยออก
เชิงเสมือนเพื่อการแลกเปลี่ยนเรียนรูสําหรับการศึกษาพหุ                     ไดเปน 11 องคประกอบ โดยสามารถที่จะสรุปรายละเอียด
วัฒนธรรม                                                                   ของแตละองคประกอบไดดังตอไปนี้
ผลการประเมินโดยผูทรงคุณวุฒิจํานวน 5 คน พบวา                              1) องคประกอบดานการออกแบบกิจกรรมการเรียนการสอน
รูป แบบเครื อข ายสัง คมเชิ งเสมื อนเพื่ อการแลกเปลี่ ย น                  บนเครือขายสังคมพหุวัฒนธรรม เปนองคประกอบที่มุงเนน
เรียนรูสาหรับการศึกษาพหุวฒนธรรมที่พัฒนาขึ้นมีความ
         ํ                   ั                                             ในด า นการจั ด สภาพแวดล อ มเพื่ อ การเรี ย นรู แ ละการทํ า
เหมาะสมอยูในระดับเหมาะสมมาก ( X = 4.30, S.D. =                            กิจกรรมของผูเรียนผานเครือขายสังคมพหุวัฒนธรรม โดย
0.81)                                                                      การจัดสภาพแวดลอมนี้จะมุงเนนและสงเสริมรูปแบบการ
                                                                           เรียนที่มีความหลากหลาย (Accommodate Divers Learning
5) อภิปรายผลการวิจัย                                                       Styles) ทั้ ง การใช รู ป แบบกิ จ กรรมการเรี ย นที่ เ น น ความ
ผลการวิ จั ย ครั้ ง นี้ พบว า องค ป ระกอบของรู ป แบบ                     รวมมือและมีความติดตอสัมพันธกันการใชกิจกรรมการเรียน
เครื อ ข า ยสั ง คมเชิ ง เสมื อ นเพื่ อ การแลกเปลี่ ย นเรี ย นรู         ที่เนนภาระงานหรือปญหา เพื่อใหผูเรียนสามารถที่จะอธิบาย
                                                                     201
ได อ ย า งชั ด เจนว า ตนเองได เ รี ย นรู อ ะไรไปบ า งและ          เสมือน ความตระหนักในคุณคาทางวัฒนธรรมนั้นสวนหนึ่ง
สามารถนํ า มาเชื่ อ มโยงหรื อ ประยุ ก ต กั บ ชี วิ ต จริ ง ได         มี ผ ลมาจากระยะเวลาและความถี่ ใ นการรั บ รู เ นื้ อ หาหรื อ
อย างไรรวมไปถึ งผู เรี ย นสามารถที่จ ะประยุ ก ตค วามรู              เรื่องราวที่เกี่ยวของกับวัฒนธรรม โดยจะสงผลตอพฤติกรรม
ใหมที่ไดรับเขามาจากการทํากิจกรรมผานเครือขายสังคม                   ของผูเรียน การรูจักคิดวิเคราะห สังเคราะห บูรณาการ และ
เชิงเสมือนเขากับความรูเดิมของตนเอง                                    เชื่อมโยงบริบททางวัฒนธรรมเขากับชีวิตประจําวัน เขาใจ
2) องคประกอบดานกระบวนการแลกเปลี่ยนเรียนรูและ                         และยอมรั บ ถึ ง ความแตกต า งในด า นของวั ฒ นธรรม ซึ่ ง
ติดตามพฤติกรรมของผูเรียน เปนกระบวนการที่มุงเนน                      ทั้งหมดจะชวยใหผูเรียนรูจักคิดสรางสรรคโดยไมขัดกับหลัก
การจั ด การเรี ย นรู ใ นสภาพที่ เ ป น จริ ง และบริ บ ทการ             ความเชื่อของสังคม ศาสนาและวัฒนธรรม
แก ป ญ หาที่ ต รงกั บ สภาพจริ ง ของผู เ รี ย น ด ว ยการ             6) องคประกอบดานการเสริมแรงดานพฤติกรรมของผูเรียน
สอดแทรกประสบการณทางสังคมเขาไปในกระบวนการ                              เปนกระบวนที่มุงเนนใหผูเรียนไดรับรูถึงความแตกตางทาง
จั ด การเรี ย นรู ส ง เสริ ม การคิ ด อย า งมี วิ จ ารณญาณ            เชื้อชาติและวัฒนธรรมที่เกิดขึ้นในหองเรียนและในสังคม
(Encourages Critical Thinking) การสรางประสบการณ                       การปรับทัศนคติของผูเรียนเกี่ยวกับการอยูรวมกับผูอื่น ที่มี
อยางลึกซึ้งในรูปแบบที่หลากหลายเพื่อเปดมุมมองใหกับ                    ความแตกตางทางดานวัฒนธรรม รวมไปถึงการสงเสริมและ
ผูเรียน จัดกิจกรรมการแลกเปลี่ยนเรียนรูระหวางผูเรียน                 จัดประสบการณในการเรียนที่เหมาะสมเพื่อชวยใหผูเรียน
และมีการจัดกระบวนการประเมินการเรียนรูตามสภาพ                           พัฒนาทั้งทางดานทักษะ ความรูความเขาใจและเจตคติที่ดีตอ
จริงของผูเรียนในระหวางภารกิจ                                          สังคม
3) องคประกอบดานฐานการชวยเหลือผูเรียนในการเรียน                      7) องคประกอบดานการมีปฏิสัมพันธของผูเรียนบนเครือขาย
บนเครือขายสังคมเชิงเสมือน สามารถแบงลักษณะของ                          สั ง คมเชิ ง เสมื อ น จะมุ ง เน น ไปที่ รู ป แบบการเรี ย นรู ค วร
ฐานความชวยเหลือออกเปน 4 ประเภท ไดแก (1) ฐาน                         เกิดขึ้นในบริบทที่เปนความรูที่ผูเรียนสามารถเชื่อมโยงหรือ
การ ช วย เ ห ลื อ เ กี่ ย วกั บ วิ ธี การคิ ด ( Metacognitive          พัฒนามาจากสภาพชีวิตจริง การเชื่อมโยงประสบการณที่อยู
Scaffolding) (2) ฐานความช ว ยเหลื อ ด า นกลยุ ท ธ                    นอกห อ งเรี ย นของผู เ รี ย นเข า กั บ การจั ด กิ จ กรรมและ
(Strategic Scaffolding) (3) ฐานความช ว ยเหลื อ                         ประสบการณในหองเรียน โดยมีวัตถุประสงคหลักเพื่อให
กระบวนการเรียนรู (Procedural Scaffolding) และ (4)                      ผูเรียนสามารถที่จะแลกเปลี่ยนหรือบูรณาการความรูใหมเขา
ฐานความช ว ยเ หลื อ การสร า งความคิ ด รวบยอด                          กับความรูเดิมของตนเองได
(Conceptual Scaffolding)                                                8) องคประกอบดานการจัดการเครือขายบนเครือขายสังคม
4) องคประกอบดานปจจัยที่กอใหเกิดการแลกเปลี่ยน                       เชิงเสมือน เปนองคประกอบที่จะชวยในการจัดการเครือขาย
เรียนรูสาหรับการศึกษาพหุวัฒนธรรม เปนองคประกอบ
            ํ                                                           ในภาพรวมเพื่อใหผูสอนจะสามารถที่จะวางแผนในการจัด
ที่ชวยสรางบรรยากาศที่สนับสนุนใหผูเรียนเปดกลุมยอย
                                                                       กิจกรรมตางๆ ได
และการสนทนา สรางทักษะการมีสวนรวมดวยการเปด                          9) องคประกอบดานระบบบริหารจัดการบนเครือขายสังคม
โอกาสใหผูเรียนเขียนหรือสรางโครงการที่ผูเรียนแตละ                   เชิงเสมือน เปนระบบที่จะชวยใหผูสอนสามารถที่จะบริหาร
คนสามารถตอเติมเรื่องราวหรือขยายผลไปยังผูเรียนคน                       และจัดการหองเรียนเสมือนบนเครือขายสังคมเชิงเสมือน
อื่ น ๆ ได ผู เ รี ย นแลกเปลี่ ย นเรื่ อ งราวในประเด็ น ใด            10) องคประกอบดานเครื่องมือที่ติดตอสื่อสารบนสังคมเชิง
ประเด็ น หนึ่ ง และมองหาความเหมื อ นร ว มและความ                       เสมือน เปนเครื่องมือที่จะชวยใหผูเรียนสามารถที่จะเขา
แตกต า งในเรื่ อ งราวนั้ น โดยใช ค วามหลากหลายของ                     สังคมออนไลนเพื่อพบปะเพื่อนที่อยูตามสถานที่ตางๆ โดยมี
มุมมองของผูเรียนและการใหความรวมมือของผูเรียนทั้ง                    วั ต ถุ ป ระสงค เ พื่ อ ให ผู เ รี ย นสามารถที่ จ ะสร า งเครื อ ข า ย
ในดานการเรียนและการทํากิจกรรม                                          ทางดานสังคม โดยเครื่องมื อในดานนี้จะประกอบไปดวย
5) องคประกอบดานการยอมรับและการอยูรวมกันของ                          เ ฟ ส บุ ค ( Facebook) แ ล ะ อี เ ม ล ล
ผู เ รี ย นในสั ง คมพหุ วั ฒ นธรรมบนเครื อ ข า ยสั ง คมเชิ ง          (e-Mail)
                                                                  202
11) องคประกอบดานเครื่องมือสะทอนความรูของผูเรียน                       7) เอกสารอางอิง
เป น การจั ด เครื่ อ งมื อ ต า งๆ ภายในเครื อ ข า ยสั ง คมเชิ ง
เสมื อ นเพื่ อ ใหผู เ รี ย นจะสามารถที่ จ ะใชใ นการบั น ทึ ก            ใจทิพย ณ สงขลา. (2550).วิธีวิทยาการออกแบบการเรียนการ
ความรูที่ไดในระหวางเรียน โดยเครื่องมือจะประกอบไป
                                                                                   สอนอิเล็กทรอนิกส. กรุงเทพมหานคร:ศูนยตํารา และ
ดวย กระดานสะทอนคิด (Reflective Journal) บล็อก
                                                                                   เอกสารทางวิ ช าการ คณะครุ ศ าสตร จุ ฬ าลงกรณ
(Blog) และกระดานสนทนา (Forum)
                                                                                   มหาวิทยาลัย.
                                                                           บัญญัติ ยงยวน. (2551). การสงเสริมพัฒนาการเด็กในบริบท
6) ขอเสนอแนะ                                                                      ของความหลากหลายวั ฒนธรรม. สื บค นเมื่อ 12
6.1) ขอเสนอแนะสําหรับการนําผลการวิจัยไปใช                                        พ ฤ ศ จิ ก า ย น       2552,          สื บ ค น จ า ก
องคประกอบของรูปแบบเครือขายสังคมเชิงเสมือนเพื่อ                                   http://www.cf.mahidol.ac.th/autopage/file/
การแลกเปลี่ยนเรียนรูสําหรับการศึกษาพหุวัฒนธรรม นี้                                WedJuly2008-22-18-5-4articel-004.pdf.
สามารถที่จะปรับเปลี่ยนและยืดหยุนตามสถานการณการ                           ประพนธ ผาสุกยืด. (2547). การจัดการความรูฉบับมือใหม
นําไปใชงาน ลักษณะของผูเรียนและวิชาที่เรียนเพื่อความ                              หัดขับ. กรุงเทพฯ: ใยไหม
เหมาะสมและการที่ จะบรรลุ ต ามวั ต ถุป ระสงค ในการ                         Banks, J.A. (2002). An Introduction Multicultural
เรียนของผูเรียน                                                                   Education. Boston: Allyn & Bacon.
6.2) ขอเสนอแนะในการทําวิจัยครั้งตอไป                                     Casey, D.M. (2008). The Historical Development of
6.2.1 เพื่อทําใหองคประกอบของรูปแบบเครือขายสังคม                                 Distance Education through. Technology .
เชิงเสมือนเพื่อการแลกเปลี่ยนเรียนรูสําหรับการศึกษาพหุ                             TechTrends. 52 (2). 45-51.
วัฒนธรรม มีความสมบูรณยิ่งขึ้น จึงควรวิจัยพัฒนาสื่อ                        Kollock, P. (1996). Design Principles for Online
การเรี ย นรู เ พื่ อ ส ง เสริ ม กิ จ กรรมการเรี ย นการสอน                        Communities. Paper presented at the Harvard
ออนไลน ท้ั ง แบบในเวลาเดี ย วกั น (Synchonous) และ                                Conference on the Internet and Society, Cambridge,
แบบตางเวลา (Asynchonous)                                                          MA.
6.2.2 ควรจะพัฒนาองคประกอบของรูปแบบเครือขาย                               Marquardt, M. 1996. Building the Learning Organization.
สั ง คมเชิ ง เสมื อ นเพื่ อ การแลกเปลี่ ย นเรี ย นรู สํ า หรั บ                   New York : McGrawHill,
การศึกษาพหุวัฒนธรรมในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน                              Nonaka, I., and Takeuchi, H. 1995. The knowledge creating
เนื่ อ งจากอาจจะมี บ างบริ บ ทที่ มี ค วามแตกต า งจากใน                           company: How Japanesecompanies create the
การศึกษาในระดับอุดมศึกษา                                                           dynamics of innovation. New York: Oxford
                                                                                   University Press.
                                                                           Probst, G., Raub, S., and Romhardt, K. 2000. Managing
                                                                                   knowledge: Building blocks for success. West
                                                                                   Sussex, England: John Wiley and Sons.
                                                                           Preece, J. (2000). Online Communities: Supporting
                                                                                   Sociability, Designing Usability. Chichester: John
                                                                                   Wiley & Sons Ltd.




                                                                     203
พฤติกรรมการใชเครือขายสังคมออนไลน
       ของนักศึกษาปริญญาบัณฑิต คณะครุศาสตร ศึกษาศาสตร ในมหาวิทยาลัยของรัฐ

               The Social Network Usage behavior of Undergraduate Students
                      in Faculty of Education, Government University

                                             นางสาวอรุณรัตน ศรีชูศิลป ดร.อนิรุทธ สติมั่น
                                                    ภาควิชาเทคโนโลยีการศึกษา
                                                คณะศึกษาศาสตร มหาวิทยาลัยศิลปากร
                                          (E-mail address : arunsri_14@hotmail.com)
                                     (E-mail address : sanirut@su.ac.th, sanirut@yahoo.com)
ABSTACT
        The purpose of this research were to 1) to study
                                                                           ปริญญาบัณฑิต คณะครุศาสตร ศึกษาศาสตร 2) เพื่อศึกษา
social network usage behavior of undergraduate                             พฤติ ก รรมการเป ด รั บ ข อ มู ล ข า วสารบนเครื อ ข า ยสั ง คม
students in faculty of education, government university
2) to study behavior exposure to information on social                     ออนไลน ของนั ก ศึ ก ษา ปริ ญ ญาบั ณ ฑิ ต คณะครุ ศ าสตร
networks of undergraduate students in faculty of                           ศึกษาศาสตร 3) เพื่อเปรียบเทียบพฤติกรรมการใชเครือขาย
education, government university 3) to compare social
network usage behaviors by considering personal and                        สังคมออนไลน จําแนกตามปจจัยสวนบุคคล และพฤติกรรม
behavior exposure to information on social networks of                     การเปดรับขอมูลขาวสาร ของนักศึกษาปริญญาบัณฑิต คณะ
undergraduate students in faculty of education,
government university. The sample size was 382 of                          ครุศาสตร ศึกษาศาสตร ในมหาวิทยาลัยของรัฐ กลุมตัวอยาง
students. The questionnaire was constructed and used
as tool for collected data. Analyzed the statistics of
                                                                           ที่ใชในการศึกษาคนควาครั้งนี้ ไดแก นักศึกษาระดับปริญญา
percentage, mean scores, standard deviation, t-test,                       บัณฑิต ที่กําลังศึกษาอยูใน คณะครุศาสตร ศึกษาศาสตร ใน
one-way ANOVA.
        Analysis results were concluded as follow :
                                                                           มหาวิทยาลัยของรัฐ ภาคการศึกษาที่ 2 ปการศึกษา 2554 ซึ่ง
        1. The social network usage of undergraduate                       ครอบคลุ ม 14 มหาวิ ท ยาลัย จํ านวน 382 คน โดยไดจ าก
students in faculty of education, government university
were at high level in overall.                                             วิธีการสุมหลายขั้นตอน (Multi-stage Random Sampling)
        2. The study of behavior in exposure to                            เครื่ อ งมื อ ที่ ใ ช ใ นการรวบรวมข อ มู ล เป น แบบสอบถาม
information on social networks of undergraduate
students in faculty of education, government university                    (Questionnaire)               แ ล ะ แ บ บ ส อ บ ถ า ม อ อ น ไ ล น
were the most of respondents use to a self-study, the                      (E-Questionnaire) สถิ ติ ที่ ใ ช ใ นการวิ เ คราะห ข อ มู ล ได แ ก
purpose of using for entertainment, applications in
communications, and usage in public identity (Identity                     คาความถี่ คารอยละ คาเฉลี่ย สวนเบี่ยงเบนมาตรฐาน คาสถิติ
Network) maximum, most of them were usefulness and
satisfied in using of each application on social network
                                                                           ทดสอบทีแบบเปนอิสระตอกัน (t-test) และการวิเคราะห
was at a high level in overall.                                            ความแปรปรวนทางเดียว (One way ANOVA) ผลการวิจัย
        3. The comparison of the social network usage                      พบวา
behavior for undergraduate students in faculty of
education, government university which classifying by                               1. พฤติกรรมการใชเครือขายสังคมออนไลน ของ
gender, personal computer, GPA and income of the
parents are not different but the institute and student’s                  นักศึกษาปริญญาบัณฑิต คณะครุศาสตร ศึกษาศาสตร ใน
level were social network usage behavior and behavior                      มหาวิทยาลัยของรัฐ พบวา โดยภาพรวม อยูในระดับมาก
exposure to information was no signification different.
KEY WORD : SOCIAL NETWORK,                                                          2. พฤติกรรมการเปดรับขอมูลขาวสารบนเครือขาย
COMMUNICATION, EDUCATION,                                                  สังคมออนไลน ของนักศึกษา ปริญญาบัณฑิต คณะครุศาสตร
EDUTRAINMENT
                                                                           ศึกษาศาสตร ในมหาวิทยาลัยของรัฐ พบวา มีพฤติกรรมการ
บทคัดยอ                                                                   เปดรับขาวสารดวยการศึกษาดวยตนเอง มีวัตถุประสงคใน
        การศึ ก ษาครั้ ง นี้ มี วั ต ถุ ป ระสงค 1) เพื่ อ ศึ ก ษา         การใชงาน เพื่อความบันเทิง ใชงานในดานการสื่อสาร และ
พฤติ ก รรมการใช เ ครื อ ข า ยสั ง คมออนไลน ของนั ก ศึ ก ษา              ใชงานเว็บไซตเครือขายสังคมออนไลนในประเภทเผยแพร
                                                                     204

More Related Content

What's hot

บทที่ 7
บทที่ 7บทที่ 7
บทที่ 7Pari Za
 
บทที่ 6 เทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษา
บทที่ 6 เทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษาบทที่ 6 เทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษา
บทที่ 6 เทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษาN'Fern White-Choc
 
กลุ่มมี่charpter
กลุ่มมี่charpterกลุ่มมี่charpter
กลุ่มมี่charpterOdosa Kasida
 
การจัดการความรู้และเทคโนโลยี
การจัดการความรู้และเทคโนโลยีการจัดการความรู้และเทคโนโลยี
การจัดการความรู้และเทคโนโลยีChiang Mai University
 
Blended Learning Model for Buddhist Education via DMC Satellite Channel. [NEC...
Blended Learning Model for Buddhist Education via DMC Satellite Channel. [NEC...Blended Learning Model for Buddhist Education via DMC Satellite Channel. [NEC...
Blended Learning Model for Buddhist Education via DMC Satellite Channel. [NEC...Panita Wannapiroon Kmutnb
 
นวัตกรรมบทที่ 7
นวัตกรรมบทที่ 7นวัตกรรมบทที่ 7
นวัตกรรมบทที่ 7Setthawut Ruangbun
 
มุมมองทางจิตวิทยาที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีและสื่อการศึกษา
มุมมองทางจิตวิทยาที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีและสื่อการศึกษามุมมองทางจิตวิทยาที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีและสื่อการศึกษา
มุมมองทางจิตวิทยาที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีและสื่อการศึกษาBLue Artittaya
 
P pt wpp สุราษฎร์ตอนที่2 ก้าวสู่ครูในศตวรรษที่ 21
P pt wpp สุราษฎร์ตอนที่2 ก้าวสู่ครูในศตวรรษที่ 21P pt wpp สุราษฎร์ตอนที่2 ก้าวสู่ครูในศตวรรษที่ 21
P pt wpp สุราษฎร์ตอนที่2 ก้าวสู่ครูในศตวรรษที่ 21Kobwit Piriyawat
 
06 mini thesis-การศีกษาพฤติกรรมการใช้เฟสบุค
06 mini thesis-การศีกษาพฤติกรรมการใช้เฟสบุค06 mini thesis-การศีกษาพฤติกรรมการใช้เฟสบุค
06 mini thesis-การศีกษาพฤติกรรมการใช้เฟสบุคKruBeeKa
 
มุมมองทางจิตวิทยาที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีและสื่อการศึกษา
มุมมองทางจิตวิทยาที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีและสื่อการศึกษามุมมองทางจิตวิทยาที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีและสื่อการศึกษา
มุมมองทางจิตวิทยาที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีและสื่อการศึกษาNisachol Poljorhor
 
ความสัมพันธ์ระหว่างหลักสูตรสาขาวิชาสารสนเทศศึกษากระบวนการการทำงานในห้องสมุด ห...
ความสัมพันธ์ระหว่างหลักสูตรสาขาวิชาสารสนเทศศึกษากระบวนการการทำงานในห้องสมุด ห...ความสัมพันธ์ระหว่างหลักสูตรสาขาวิชาสารสนเทศศึกษากระบวนการการทำงานในห้องสมุด ห...
ความสัมพันธ์ระหว่างหลักสูตรสาขาวิชาสารสนเทศศึกษากระบวนการการทำงานในห้องสมุด ห...Srion Janeprapapong
 

What's hot (20)

E Learning Concept El Yru
E Learning Concept El YruE Learning Concept El Yru
E Learning Concept El Yru
 
บทที่ 7
บทที่ 7บทที่ 7
บทที่ 7
 
บทที่ 6 เทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษา
บทที่ 6 เทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษาบทที่ 6 เทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษา
บทที่ 6 เทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษา
 
Info Study BUU
Info Study BUUInfo Study BUU
Info Study BUU
 
กลุ่มมี่charpter
กลุ่มมี่charpterกลุ่มมี่charpter
กลุ่มมี่charpter
 
Chapter 6
Chapter 6Chapter 6
Chapter 6
 
การจัดการความรู้และเทคโนโลยี
การจัดการความรู้และเทคโนโลยีการจัดการความรู้และเทคโนโลยี
การจัดการความรู้และเทคโนโลยี
 
K M Model
K M  ModelK M  Model
K M Model
 
Blended Learning Model for Buddhist Education via DMC Satellite Channel. [NEC...
Blended Learning Model for Buddhist Education via DMC Satellite Channel. [NEC...Blended Learning Model for Buddhist Education via DMC Satellite Channel. [NEC...
Blended Learning Model for Buddhist Education via DMC Satellite Channel. [NEC...
 
นวัตกรรมบทที่ 7
นวัตกรรมบทที่ 7นวัตกรรมบทที่ 7
นวัตกรรมบทที่ 7
 
บทที่ 3
บทที่ 3บทที่ 3
บทที่ 3
 
Information Literacy
Information LiteracyInformation Literacy
Information Literacy
 
แผนแม่บท Ict ศธ
แผนแม่บท Ict ศธแผนแม่บท Ict ศธ
แผนแม่บท Ict ศธ
 
มุมมองทางจิตวิทยาที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีและสื่อการศึกษา
มุมมองทางจิตวิทยาที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีและสื่อการศึกษามุมมองทางจิตวิทยาที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีและสื่อการศึกษา
มุมมองทางจิตวิทยาที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีและสื่อการศึกษา
 
P pt wpp สุราษฎร์ตอนที่2 ก้าวสู่ครูในศตวรรษที่ 21
P pt wpp สุราษฎร์ตอนที่2 ก้าวสู่ครูในศตวรรษที่ 21P pt wpp สุราษฎร์ตอนที่2 ก้าวสู่ครูในศตวรรษที่ 21
P pt wpp สุราษฎร์ตอนที่2 ก้าวสู่ครูในศตวรรษที่ 21
 
06 mini thesis-การศีกษาพฤติกรรมการใช้เฟสบุค
06 mini thesis-การศีกษาพฤติกรรมการใช้เฟสบุค06 mini thesis-การศีกษาพฤติกรรมการใช้เฟสบุค
06 mini thesis-การศีกษาพฤติกรรมการใช้เฟสบุค
 
บทที่ 1
บทที่ 1บทที่ 1
บทที่ 1
 
บทที่ 6new
บทที่ 6newบทที่ 6new
บทที่ 6new
 
มุมมองทางจิตวิทยาที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีและสื่อการศึกษา
มุมมองทางจิตวิทยาที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีและสื่อการศึกษามุมมองทางจิตวิทยาที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีและสื่อการศึกษา
มุมมองทางจิตวิทยาที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีและสื่อการศึกษา
 
ความสัมพันธ์ระหว่างหลักสูตรสาขาวิชาสารสนเทศศึกษากระบวนการการทำงานในห้องสมุด ห...
ความสัมพันธ์ระหว่างหลักสูตรสาขาวิชาสารสนเทศศึกษากระบวนการการทำงานในห้องสมุด ห...ความสัมพันธ์ระหว่างหลักสูตรสาขาวิชาสารสนเทศศึกษากระบวนการการทำงานในห้องสมุด ห...
ความสัมพันธ์ระหว่างหลักสูตรสาขาวิชาสารสนเทศศึกษากระบวนการการทำงานในห้องสมุด ห...
 

Viewers also liked

เรื่องที่ 1 ปฐมนิเทศ
เรื่องที่ 1 ปฐมนิเทศเรื่องที่ 1 ปฐมนิเทศ
เรื่องที่ 1 ปฐมนิเทศbaifernes
 
ทฤษฎีการเรียนรู้
ทฤษฎีการเรียนรู้ทฤษฎีการเรียนรู้
ทฤษฎีการเรียนรู้Naiyaruk'Oo SJ
 
เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการเรียนรู้
เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการเรียนรู้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการเรียนรู้
เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการเรียนรู้นะนาท นะคะ
 
What is The SAMR Model?
What is The SAMR Model?What is The SAMR Model?
What is The SAMR Model?RColosi
 

Viewers also liked (7)

เรื่องที่ 1 ปฐมนิเทศ
เรื่องที่ 1 ปฐมนิเทศเรื่องที่ 1 ปฐมนิเทศ
เรื่องที่ 1 ปฐมนิเทศ
 
ทฤษฎีการเรียนรู้
ทฤษฎีการเรียนรู้ทฤษฎีการเรียนรู้
ทฤษฎีการเรียนรู้
 
Km cream
Km creamKm cream
Km cream
 
Cyber Education(Pongsak)
Cyber Education(Pongsak)Cyber Education(Pongsak)
Cyber Education(Pongsak)
 
เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการเรียนรู้
เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการเรียนรู้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการเรียนรู้
เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการเรียนรู้
 
What is The SAMR Model?
What is The SAMR Model?What is The SAMR Model?
What is The SAMR Model?
 
นำเสนองานวิจัย บทที่ 1
นำเสนองานวิจัย บทที่ 1นำเสนองานวิจัย บทที่ 1
นำเสนองานวิจัย บทที่ 1
 

Similar to Development of Virtual network Model for Knowledge Sharing in Multicultural Education. [NEC2012]

การพัฒนารูปแบบเครือข่ายสังคมเชิงเสมือนเพื่อการแลกเปลี่ยนเรียนรู้สาหรับการศึกษ...
การพัฒนารูปแบบเครือข่ายสังคมเชิงเสมือนเพื่อการแลกเปลี่ยนเรียนรู้สาหรับการศึกษ...การพัฒนารูปแบบเครือข่ายสังคมเชิงเสมือนเพื่อการแลกเปลี่ยนเรียนรู้สาหรับการศึกษ...
การพัฒนารูปแบบเครือข่ายสังคมเชิงเสมือนเพื่อการแลกเปลี่ยนเรียนรู้สาหรับการศึกษ...Panita Wannapiroon Kmutnb
 
Collaborative Learning Model through Social Media for Supporting Communicatio...
Collaborative Learning Model through Social Media for Supporting Communicatio...Collaborative Learning Model through Social Media for Supporting Communicatio...
Collaborative Learning Model through Social Media for Supporting Communicatio...Panita Wannapiroon Kmutnb
 
The Blended Learning Model using Collaborative and Case-based Learning to Cre...
The Blended Learning Model using Collaborative and Case-based Learning to Cre...The Blended Learning Model using Collaborative and Case-based Learning to Cre...
The Blended Learning Model using Collaborative and Case-based Learning to Cre...Panita Wannapiroon Kmutnb
 
Effects of Integrated Learning using Social Media with e-Learning. [NEC2012]
Effects of Integrated Learning using Social Media with e-Learning. [NEC2012]Effects of Integrated Learning using Social Media with e-Learning. [NEC2012]
Effects of Integrated Learning using Social Media with e-Learning. [NEC2012]Panita Wannapiroon Kmutnb
 
Collaborative Learning Model through Social Media for Supporting Communicatio...
Collaborative Learning Model through Social Media for Supporting Communicatio...Collaborative Learning Model through Social Media for Supporting Communicatio...
Collaborative Learning Model through Social Media for Supporting Communicatio...Panita Wannapiroon Kmutnb
 
หลักการออกแบบสื่อการสอน
หลักการออกแบบสื่อการสอนหลักการออกแบบสื่อการสอน
หลักการออกแบบสื่อการสอนKrookhuean Moonwan
 
การพัฒนากระบวนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้โดยใช้คอมพิวเตอร์สนับสนุนการเรียนรู้อย่างร...
การพัฒนากระบวนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้โดยใช้คอมพิวเตอร์สนับสนุนการเรียนรู้อย่างร...การพัฒนากระบวนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้โดยใช้คอมพิวเตอร์สนับสนุนการเรียนรู้อย่างร...
การพัฒนากระบวนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้โดยใช้คอมพิวเตอร์สนับสนุนการเรียนรู้อย่างร...Wichit Chawaha
 
Model of learning by social media
Model of learning by social mediaModel of learning by social media
Model of learning by social mediaKrit Chanthraphrom
 
The Development of Web-based Training to Develop Job Competencies for Instruc...
The Development of Web-based Training to Develop Job Competencies for Instruc...The Development of Web-based Training to Develop Job Competencies for Instruc...
The Development of Web-based Training to Develop Job Competencies for Instruc...Panita Wannapiroon Kmutnb
 
ผลของการเรียนแบบผสมผสานโดยใช้เครื่องมือทางปัญญาเพื่อพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์...
ผลของการเรียนแบบผสมผสานโดยใช้เครื่องมือทางปัญญาเพื่อพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์...ผลของการเรียนแบบผสมผสานโดยใช้เครื่องมือทางปัญญาเพื่อพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์...
ผลของการเรียนแบบผสมผสานโดยใช้เครื่องมือทางปัญญาเพื่อพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์...Panita Wannapiroon Kmutnb
 
Introduction to Educational Media Production
Introduction to Educational Media ProductionIntroduction to Educational Media Production
Introduction to Educational Media ProductionRachabodin Suwannakanthi
 
Development of Web-based Training on Social Network for Learning and Teaching...
Development of Web-based Training on Social Network for Learning and Teaching...Development of Web-based Training on Social Network for Learning and Teaching...
Development of Web-based Training on Social Network for Learning and Teaching...Panita Wannapiroon Kmutnb
 
Development of Blended Learning Model by Using Cognitive Tools to Develop Cri...
Development of Blended Learning Model by Using Cognitive Tools to Develop Cri...Development of Blended Learning Model by Using Cognitive Tools to Develop Cri...
Development of Blended Learning Model by Using Cognitive Tools to Develop Cri...Panita Wannapiroon Kmutnb
 
Pegagogy-based Hybrid Learning : จากแนวคิดสู่การปฏิบัติ
Pegagogy-based Hybrid Learning : จากแนวคิดสู่การปฏิบัติPegagogy-based Hybrid Learning : จากแนวคิดสู่การปฏิบัติ
Pegagogy-based Hybrid Learning : จากแนวคิดสู่การปฏิบัติTee Lek
 

Similar to Development of Virtual network Model for Knowledge Sharing in Multicultural Education. [NEC2012] (20)

การพัฒนารูปแบบเครือข่ายสังคมเชิงเสมือนเพื่อการแลกเปลี่ยนเรียนรู้สาหรับการศึกษ...
การพัฒนารูปแบบเครือข่ายสังคมเชิงเสมือนเพื่อการแลกเปลี่ยนเรียนรู้สาหรับการศึกษ...การพัฒนารูปแบบเครือข่ายสังคมเชิงเสมือนเพื่อการแลกเปลี่ยนเรียนรู้สาหรับการศึกษ...
การพัฒนารูปแบบเครือข่ายสังคมเชิงเสมือนเพื่อการแลกเปลี่ยนเรียนรู้สาหรับการศึกษ...
 
Collaborative Learning Model through Social Media for Supporting Communicatio...
Collaborative Learning Model through Social Media for Supporting Communicatio...Collaborative Learning Model through Social Media for Supporting Communicatio...
Collaborative Learning Model through Social Media for Supporting Communicatio...
 
The Blended Learning Model using Collaborative and Case-based Learning to Cre...
The Blended Learning Model using Collaborative and Case-based Learning to Cre...The Blended Learning Model using Collaborative and Case-based Learning to Cre...
The Blended Learning Model using Collaborative and Case-based Learning to Cre...
 
Effects of Integrated Learning using Social Media with e-Learning. [NEC2012]
Effects of Integrated Learning using Social Media with e-Learning. [NEC2012]Effects of Integrated Learning using Social Media with e-Learning. [NEC2012]
Effects of Integrated Learning using Social Media with e-Learning. [NEC2012]
 
575050184-1 _201701-learning environment analysis
575050184-1 _201701-learning environment analysis575050184-1 _201701-learning environment analysis
575050184-1 _201701-learning environment analysis
 
Collaborative Learning Model through Social Media for Supporting Communicatio...
Collaborative Learning Model through Social Media for Supporting Communicatio...Collaborative Learning Model through Social Media for Supporting Communicatio...
Collaborative Learning Model through Social Media for Supporting Communicatio...
 
หลักการออกแบบสื่อการสอน
หลักการออกแบบสื่อการสอนหลักการออกแบบสื่อการสอน
หลักการออกแบบสื่อการสอน
 
การพัฒนากระบวนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้โดยใช้คอมพิวเตอร์สนับสนุนการเรียนรู้อย่างร...
การพัฒนากระบวนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้โดยใช้คอมพิวเตอร์สนับสนุนการเรียนรู้อย่างร...การพัฒนากระบวนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้โดยใช้คอมพิวเตอร์สนับสนุนการเรียนรู้อย่างร...
การพัฒนากระบวนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้โดยใช้คอมพิวเตอร์สนับสนุนการเรียนรู้อย่างร...
 
Model of learning by social media
Model of learning by social mediaModel of learning by social media
Model of learning by social media
 
Botkwam
BotkwamBotkwam
Botkwam
 
Botkwam
BotkwamBotkwam
Botkwam
 
Botkwam
BotkwamBotkwam
Botkwam
 
แนวทาง Tok
แนวทาง Tokแนวทาง Tok
แนวทาง Tok
 
The Development of Web-based Training to Develop Job Competencies for Instruc...
The Development of Web-based Training to Develop Job Competencies for Instruc...The Development of Web-based Training to Develop Job Competencies for Instruc...
The Development of Web-based Training to Develop Job Competencies for Instruc...
 
ผลของการเรียนแบบผสมผสานโดยใช้เครื่องมือทางปัญญาเพื่อพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์...
ผลของการเรียนแบบผสมผสานโดยใช้เครื่องมือทางปัญญาเพื่อพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์...ผลของการเรียนแบบผสมผสานโดยใช้เครื่องมือทางปัญญาเพื่อพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์...
ผลของการเรียนแบบผสมผสานโดยใช้เครื่องมือทางปัญญาเพื่อพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์...
 
บทที่ 5
บทที่ 5บทที่ 5
บทที่ 5
 
Introduction to Educational Media Production
Introduction to Educational Media ProductionIntroduction to Educational Media Production
Introduction to Educational Media Production
 
Development of Web-based Training on Social Network for Learning and Teaching...
Development of Web-based Training on Social Network for Learning and Teaching...Development of Web-based Training on Social Network for Learning and Teaching...
Development of Web-based Training on Social Network for Learning and Teaching...
 
Development of Blended Learning Model by Using Cognitive Tools to Develop Cri...
Development of Blended Learning Model by Using Cognitive Tools to Develop Cri...Development of Blended Learning Model by Using Cognitive Tools to Develop Cri...
Development of Blended Learning Model by Using Cognitive Tools to Develop Cri...
 
Pegagogy-based Hybrid Learning : จากแนวคิดสู่การปฏิบัติ
Pegagogy-based Hybrid Learning : จากแนวคิดสู่การปฏิบัติPegagogy-based Hybrid Learning : จากแนวคิดสู่การปฏิบัติ
Pegagogy-based Hybrid Learning : จากแนวคิดสู่การปฏิบัติ
 

More from Panita Wannapiroon Kmutnb

Emerging Trends and Technologies in Education
Emerging Trends and Technologies in EducationEmerging Trends and Technologies in Education
Emerging Trends and Technologies in EducationPanita Wannapiroon Kmutnb
 
Strategy for designing and developing Interactive e-Learning
Strategy for designing and developing Interactive e-LearningStrategy for designing and developing Interactive e-Learning
Strategy for designing and developing Interactive e-LearningPanita Wannapiroon Kmutnb
 
Education 3.0: Interactive e-Learning and Could Learning
Education 3.0: Interactive e-Learning and Could LearningEducation 3.0: Interactive e-Learning and Could Learning
Education 3.0: Interactive e-Learning and Could LearningPanita Wannapiroon Kmutnb
 
USING WEB CONFERENCING FOR INTERNATIONAL MEETING
USING WEB CONFERENCING FOR INTERNATIONAL MEETINGUSING WEB CONFERENCING FOR INTERNATIONAL MEETING
USING WEB CONFERENCING FOR INTERNATIONAL MEETINGPanita Wannapiroon Kmutnb
 
มหาวิทยาลัยธนบุรี
มหาวิทยาลัยธนบุรีมหาวิทยาลัยธนบุรี
มหาวิทยาลัยธนบุรีPanita Wannapiroon Kmutnb
 
ชุดที่3 การเรียนรู้และระดับพฤติกรรม
ชุดที่3 การเรียนรู้และระดับพฤติกรรมชุดที่3 การเรียนรู้และระดับพฤติกรรม
ชุดที่3 การเรียนรู้และระดับพฤติกรรมPanita Wannapiroon Kmutnb
 
ชุดที่4 การเรียนการสอนรูปแบบmiap
ชุดที่4 การเรียนการสอนรูปแบบmiapชุดที่4 การเรียนการสอนรูปแบบmiap
ชุดที่4 การเรียนการสอนรูปแบบmiapPanita Wannapiroon Kmutnb
 
เทคนิคการสอนชุดที่2 ส่วนประกอบของเอกสารการสอน
เทคนิคการสอนชุดที่2 ส่วนประกอบของเอกสารการสอนเทคนิคการสอนชุดที่2 ส่วนประกอบของเอกสารการสอน
เทคนิคการสอนชุดที่2 ส่วนประกอบของเอกสารการสอนPanita Wannapiroon Kmutnb
 
เทคนิคการสอน ชุดที่1 แนะนำโปรแกรมและกิจกรรม
เทคนิคการสอน  ชุดที่1 แนะนำโปรแกรมและกิจกรรมเทคนิคการสอน  ชุดที่1 แนะนำโปรแกรมและกิจกรรม
เทคนิคการสอน ชุดที่1 แนะนำโปรแกรมและกิจกรรมPanita Wannapiroon Kmutnb
 
Interactive e-Learning & cloud learning @ VEC [13-17/08/13]
Interactive e-Learning & cloud learning @ VEC [13-17/08/13]Interactive e-Learning & cloud learning @ VEC [13-17/08/13]
Interactive e-Learning & cloud learning @ VEC [13-17/08/13]Panita Wannapiroon Kmutnb
 
Educational innovation for enhancing student in the 21st century to the asean...
Educational innovation for enhancing student in the 21st century to the asean...Educational innovation for enhancing student in the 21st century to the asean...
Educational innovation for enhancing student in the 21st century to the asean...Panita Wannapiroon Kmutnb
 
Development of total quality management information system (tqmis) for model ...
Development of total quality management information system (tqmis) for model ...Development of total quality management information system (tqmis) for model ...
Development of total quality management information system (tqmis) for model ...Panita Wannapiroon Kmutnb
 
Development of an edutainment instructional model using learning object for e...
Development of an edutainment instructional model using learning object for e...Development of an edutainment instructional model using learning object for e...
Development of an edutainment instructional model using learning object for e...Panita Wannapiroon Kmutnb
 
Development of a collaborative learning with creative problem solving process...
Development of a collaborative learning with creative problem solving process...Development of a collaborative learning with creative problem solving process...
Development of a collaborative learning with creative problem solving process...Panita Wannapiroon Kmutnb
 

More from Panita Wannapiroon Kmutnb (20)

Emerging Trends and Technologies in Education
Emerging Trends and Technologies in EducationEmerging Trends and Technologies in Education
Emerging Trends and Technologies in Education
 
Strategy for designing and developing Interactive e-Learning
Strategy for designing and developing Interactive e-LearningStrategy for designing and developing Interactive e-Learning
Strategy for designing and developing Interactive e-Learning
 
Education 3.0: Interactive e-Learning and Could Learning
Education 3.0: Interactive e-Learning and Could LearningEducation 3.0: Interactive e-Learning and Could Learning
Education 3.0: Interactive e-Learning and Could Learning
 
USING WEB CONFERENCING FOR INTERNATIONAL MEETING
USING WEB CONFERENCING FOR INTERNATIONAL MEETINGUSING WEB CONFERENCING FOR INTERNATIONAL MEETING
USING WEB CONFERENCING FOR INTERNATIONAL MEETING
 
มหาวิทยาลัยธนบุรี
มหาวิทยาลัยธนบุรีมหาวิทยาลัยธนบุรี
มหาวิทยาลัยธนบุรี
 
Interactive e learning_etech
Interactive e learning_etechInteractive e learning_etech
Interactive e learning_etech
 
ชุดที่3 การเรียนรู้และระดับพฤติกรรม
ชุดที่3 การเรียนรู้และระดับพฤติกรรมชุดที่3 การเรียนรู้และระดับพฤติกรรม
ชุดที่3 การเรียนรู้และระดับพฤติกรรม
 
ชุดที่4 การเรียนการสอนรูปแบบmiap
ชุดที่4 การเรียนการสอนรูปแบบmiapชุดที่4 การเรียนการสอนรูปแบบmiap
ชุดที่4 การเรียนการสอนรูปแบบmiap
 
เทคนิคการสอนชุดที่2 ส่วนประกอบของเอกสารการสอน
เทคนิคการสอนชุดที่2 ส่วนประกอบของเอกสารการสอนเทคนิคการสอนชุดที่2 ส่วนประกอบของเอกสารการสอน
เทคนิคการสอนชุดที่2 ส่วนประกอบของเอกสารการสอน
 
เทคนิคการสอน ชุดที่1 แนะนำโปรแกรมและกิจกรรม
เทคนิคการสอน  ชุดที่1 แนะนำโปรแกรมและกิจกรรมเทคนิคการสอน  ชุดที่1 แนะนำโปรแกรมและกิจกรรม
เทคนิคการสอน ชุดที่1 แนะนำโปรแกรมและกิจกรรม
 
Ctu 1 intro_analyze_the_issue
Ctu 1 intro_analyze_the_issueCtu 1 intro_analyze_the_issue
Ctu 1 intro_analyze_the_issue
 
Interactive e leraning_ctu
Interactive e leraning_ctuInteractive e leraning_ctu
Interactive e leraning_ctu
 
Interactive e leraning_vec5
Interactive e leraning_vec5Interactive e leraning_vec5
Interactive e leraning_vec5
 
Interactive e-Learning & cloud learning @ VEC [13-17/08/13]
Interactive e-Learning & cloud learning @ VEC [13-17/08/13]Interactive e-Learning & cloud learning @ VEC [13-17/08/13]
Interactive e-Learning & cloud learning @ VEC [13-17/08/13]
 
Interactive e leraning_vec2
Interactive e leraning_vec2Interactive e leraning_vec2
Interactive e leraning_vec2
 
Educational innovation for enhancing student in the 21st century to the asean...
Educational innovation for enhancing student in the 21st century to the asean...Educational innovation for enhancing student in the 21st century to the asean...
Educational innovation for enhancing student in the 21st century to the asean...
 
Interactive e leraning
Interactive e leraningInteractive e leraning
Interactive e leraning
 
Development of total quality management information system (tqmis) for model ...
Development of total quality management information system (tqmis) for model ...Development of total quality management information system (tqmis) for model ...
Development of total quality management information system (tqmis) for model ...
 
Development of an edutainment instructional model using learning object for e...
Development of an edutainment instructional model using learning object for e...Development of an edutainment instructional model using learning object for e...
Development of an edutainment instructional model using learning object for e...
 
Development of a collaborative learning with creative problem solving process...
Development of a collaborative learning with creative problem solving process...Development of a collaborative learning with creative problem solving process...
Development of a collaborative learning with creative problem solving process...
 

Development of Virtual network Model for Knowledge Sharing in Multicultural Education. [NEC2012]

  • 1.
  • 2. Session หนา การพัฒนากิจกรรมการเรียนรูโดยใชสื่อสังคมและปญหาเปนฐานเพื่อสงเสริม B2_4 177 ความสามารถในการเรียนรูโปรแกรม The Geometer’s Sketchpad ของนิสิตสาขาวิชาการสอนคณิตศาสตร Development of Activities by Using Social Media and Problem- Based Learning to Enhance The Geometer’s Sketchpad Program Learning Ability of Teaching Mathematics Students ชนิศวรา เลิศอมรพงษ A Study of Factors that Influence Students’ Intention B2_5 188 to Enroll in an Online IELTS Course ธันยชนก หลอวิริยะนันท การพัฒนารูปแบบเครือขายสังคมเชิงเสมือนเพื่อการแลกเปลี่ยนเรียนรู B2_6 196 สําหรับการศึกษาพหุวัฒนธรรม Development of Virtual network Model for Knowledge Sharing in Multicultural Education ปณิตา วรรณพิรุณ, โอภาส เกาไศยาภรณ พฤติกรรมการใชเครือขายสังคมออนไลน ของนักศึกษาปริญญาบัณฑิต คณะ B2_7 204 ครุศาสตร ศึกษาศาสตร ในมหาวิทยาลัยของรัฐ The Social Network Usage behavior of Undergraduate Students in Faculty of Education, Government University อรุณรัตน ศรีชูศิลป, อนิรุทธ สติมั่น การจัดการเรียนการสอนผานเครือขายสังคมออนไลน ในกิจกรรมพัฒนา B2_8 212 ผูเรียนดาน ICT เรื่อง การสืบคนผาน Search engine เพื่อสงเสริมการคิด โดยใชแผนผังมโนทัศน พัฒนาการเรียนรูเตรียมสูประชาคมอาเซียน สําหรับ นักเรียนชวงชั้นที่ 2 โรงเรียนวัดโบสถ The Development of Instructional Management through Social Online Media in ICT Activities Entitled “Using Search Engine to Enhance Thinking through Concept Map” Learning to prepare for the ASEAN Community for The Second Class Students at Watbost School อาทิตติยา ปอมทอง, สุรพล บุญลือ, สรัญญา เชื้อทอง
  • 3. การพัฒนารูปแบบเครือขายสังคมเชิงเสมือน เพื่อการแลกเปลี่ยนเรียนรูสําหรับการศึกษาพหุวัฒนธรรม Development of Virtual network Model for Knowledge Sharing in Multicultural Education ดร.ปณิตา วรรณพิรุณ1, ดร.โอภาส เกาไศยาภรณ2 1 สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อการศึกษา คณะครุศาสตรอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกลาพระนครเหนือ (panitaw@kmutnb.ac.th) 2 ภาควิชาเทคโนโลยีการศึกษา คณะศึกษาศาสตร มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร (ophat.k@psu.ac.th) ABSTRACT network education, 2) building up congeniality, 3) knowledge sharing in multicultural education, and 4) evaluating learning results with consisted of The purposes of this research were 1) to develop three components: 1) people 2) instructional media, a virtual network model for knowledge sharing and 3) blended classroom setting. in multicultural education, and 2) to evaluate a 3. The experts agree that a virtual network model virtual network model for knowledge sharing in for knowledge sharing in multicultural education multicultural education. The study was divided was appropriateness in an excellent level. into two stages: 1) developing a virtual network model for knowledge sharing in multicultural Keywords: instructional model, virtual network, education, and 2) evaluating a virtual network knowledge sharing, multicultural education model for knowledge sharing in multicultural education. The sample group in this study consisted of 50 administrators and instructors who teach in higher education and 5 experts. บทคัดยอ The research tools were the questionnaire, the การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงคเพื่อ 1) พัฒนารูปแบบเครือขาย virtual network model for knowledge sharing in multicultural education, and the virtual network สังคมเชิงเสมือนเพื่อการแลกเปลี่ยนเรียนรูสําหรับการศึกษา model evaluation form. Data were analyzed by arithmetic mean and standard deviation. พหุวัฒนธรรม 2) ประเมินรับรองรูปแบบเครือขายสังคมเชิง The research findings were as follows: เสมื อ นเพื่ อ การแลกเปลี่ ย นเรี ย นรู สํ า หรั บ การศึ ก ษาพหุ 1) A virtual network model for knowledge sharing in multicultural education components วัฒนธรรม วิธีดําเนินการวิจัยแบงออกเปน 2 ระยะ คือ 1) consisted of 11 components as followed: 1) design of learning activities on a virtual network การพั ฒ นารู ป แบบเครื อ ข า ยสั ง คมเชิ ง เสมื อ นเพื่ อ การ for multicultural education, 2) process of แลกเปลี่ยนเรียนรูสําหรับการศึกษาพหุวัฒนธรรม 2) การ knowledge sharing, 3) scaffolding on virtual network for multicultural education, 4) factors ประเมินรับรองรูปแบบเครือขายสังคมเชิงเสมือนเพื่อการ causing of knowledge sharing, 5) students’ แลกเปลี่ ย นเรี ย นรู สํ า หรั บ การศึ ก ษาพหุ วัฒ นธรรม กลุ ม adoptation of cultural awareness on virtual network for multicultural, 6) reinforcement in ตัวอยางสําหรับการวิจัย คือ ผูบริหารและอาจารยที่สอนใน student’s behavior, 7) interaction of students on virtual network for multicultural education, 8) ระดับอุดมศึกษา 50 คน และผูทรงคุณวุฒิ 5 คน เครื่องมือที่ support and management of virtual network for ใชในการวิจัย คือ แบบสอบถามเพื่อพัฒนารูปแบบเครือขาย multicultural, 9) learning management system on virtual network for multicultural education, สังคมเชิงเสมือนเพื่อการแลกเปลี่ ยนเรียนรูสําหรับการศึกษา 10) Communications tools, and 11) Reflective tools. พหุวัฒนธรรม และแบบประเมินรับรองรูปแบบเครือขาย 2) A virtual network model for knowledge สังคมเชิงเสมือน สถิติที่ใชในการวิจัย คือ คาเฉลี่ยและสวน sharing in multicultural education components consisted of four steps: 1) preparing of a virtual เบี่ยงเบนมาตรฐาน 196
  • 4. ผลการวิจัยพบวา แตงกายและวิถีชีวิตเปนแบบมลายู คนไทยเชื้อสายจีนก็จะ 1) รูปแบบเครือขายสังคมเชิงเสมือนเพื่อการแลกเปลี่ยน ปฏิบัติตามขนบธรรมเนียม ประเพณีดั้งเดิมของตน เชน การ เรียนรูสําหรับการศึกษาพหุวัฒนธรรม ประกอบดวย 11 ไหวเจา ไหวบรรพบุรุษในชวงเทศกาลตรุษจีน สวนคนไทย องคประกอบ คือ 1) การออกแบบกิจกรรมการเรียนการ พื้ น เมื อ งก็ จ ะมี วัฒ นธรรมเฉพาะของตนเอง เช น คนไทย สอนบนเครือขายสังคมพหุวัฒนธรรม 2) กระบวนการ ภาคเหนือก็จะใชภาษาไทยเหนือในการติดตอสื่อสาร การ แลกเปลี่ยนเรียนรูและติดตามพฤติกรรมของผูเรียน 3) นิยมรับประทานข าวเหนีย ว การแตง กายพื้นเมือง รวมทั้ ง ฐานการชวยเหลือผูเรียนในการเรียนบนเครือขายสังคม ผลงานศิลปะก็จะมีลักษณะเฉพาะเปนของตนเอง (บัญญัติ เชิงเสมือน 4) ปจจัย ที่กอใหเกิด การแลกเปลี่ยนเรียนรู ยงยวน, 2551) ดังนั้น นักการศึกษาจึงไมอาจจะมองขาม สําหรับการศึกษาพหุวัฒนธรรม 5) การยอมรับและการ ความแตกตางและความหลากหลายทางวัฒนธรรมนี้ไปได อยูรวมกันของผูเรียนในสังคมพหุวฒนธรรมบนเครือขาย ั การจั ด การศึ กษาในสั ง คมพหุ วัฒ นธรรมจึ ง ควรมี รู ป แบบ สัง คมเชิง เสมื อน 6) การเสริม แรงด านพฤติ กรรมของ เฉพาะที่เหมาะสมตอการพัฒนาผูเรียนจากทุกกลุมวัฒนธรรม ผูเรียน 7) ปฏิสัมพันธของผูเรียนบนเครือขายสังคมเชิง โดยจะเรี ย กการจั ด ศึ ก ษาในลั ก ษณะนี้ ว า การศึ ก ษาพหุ เสมื อ น 8) การจั ด การเครื อ ข า ยบนเครื อ ข ายสั ง คมเชิ ง วัฒนธรรม (Multicultural Education) การจัดการศึกษาแบบ เสมือ น 9)ระบบบริห ารจั ดการบนเครือ ขา ยสั งคมเชิ ง พหุวัฒนธรรมจึงมีความจําเปนและมีความสําคัญ โดยเปน เสมือน 10) เครื่องมือที่ติดตอสื่อสารบนสังคมเชิงเสมือน รูปแบบการจัดการศึกษาที่ตรงกับความตองการที่แทจริงของ และ11) เครื่องมือสะทอนความรูของผูเรียน ผู เ รี ย นโดยสะท อ นความเป น เอกลั ก ษณ ทั้ ง ด า นศาสนา 2) รูปแบบเครือขายสังคมเชิงเสมือนเพื่อการแลกเปลี่ยน ขนบธรรมเนี ย มประเพณี ค า นิ ย มตลอดจนการศึ ก ษา เรียนรูสําหรับการศึกษาพหุวัฒนธรรม ประกอบดวย 4 โดยเฉพาะเมื่ อ นํ า มาประยุ ก ต กั บ กระบวนการในการ ขั้นตอน คือ 1) ขั้นการเตรียมความพรอมของหองเรียน แลกเปลี่ยนเรียนรูแลวจะยิ่งทําใหการจัดการศึกษาแบบพหุ บนเครื อข า ยสั งคมเชิ งเสมื อ น 2) ขั้ น การสร า ง วั ฒ นธรรมช ว ยทํ า ให ผู เ รี ย นนอกจากจะได ค วามรู ที่ เ ป น ความคุ น เคย 3) ขั้ น การแลกเปลี่ ย นเรี ย นรู สํ า หรั บ เนื้ อ หาสาระทางวิ ช าการแล ว ยั ง ได รั บ ความรู ที่ เ กี่ ย วกั บ การศึกษาพหุวัฒนธรรม 4) ขั้นตอนดานการวัดและการ วัฒนธรรมของผูเรียนคนอื่นๆ อีกดวย ประเมินผล โดยมีองคประกอบยอย ไดแก 4.1) บุคคล ทฤษฏีที่มีความสําคัญเกี่ยวกับหลักของการแลกเปลี่ยนเรียนรู 4.2) สื่ อ การเรี ย นการสอน และ 4.3) ห อ งเรี ย นแบบ เพื่อนําไปสูการสรางความรู ก็คือ เกลียวความรู (Knowledge ผสมผสาน Spiral: SECI) โดยหลักการคือการมีปฏิสัมพันธระหวาง 3) ผูทรงคุณวุฒิประเมินรับรองรูปแบบเครือขายสังคมเชิง ความรู โดยนัย (Tacit Knowledge) กับ ความรูที่ ชัดแจ ง เสมือนเพื่อการแลกเปลี่ยนเรียนรูสําหรับการศึกษาพหุ (Explicit Knowledge) โดยเริ่มตนจากการแลกเปลี่ยนความรู วัฒนธรรม มีความเหมาะสมอยูในระดับเหมาะสมมาก ที่เปนนัย (Socialization) เกิดจากการสื่อสารระหวางกันหรือ ถายทอดจากสมองคนๆ หนึ่งไปสูสมองคนอีกหลายๆ คน คําสําคัญ: รูปแบบการเรียนการสอน, เครือขายสังคมเชิง โดยจัดใหคนมามีปฏิสัมพันธกันในรูปแบบตางๆ จากนั้นเกิด เสมือน, การแลกเปลี่ยนเรียนรู, การศึกษาพหุวัฒนธรรม การเปลี่ ย นความรู ที่ เ ป น นั ย ไปเป น ความรู ที่ ชั ด แจ ง (Externalization) โดยการนําความรูที่เปนนัยออกมานําเสนอ 1) บทนํา ในรูปของการเลาเรื่อง การเปรียบเทียบและการนําเสนอเปน สภาพสังคมของประเทศไทยในปจจุบันประกอบไปดวย รู ป แบบจนกระทั่ ง เกิ ด การแลกเปลี่ ย นความรู ที่ ชั ด แจ ง กลุมประชากรที่มีความหลากหลายทางดานชาติพันธุซึ่ง (Combination) ในรูปของเอกสาร การประชุม ตํารา ฐาน แมวาคนไทยเหลานี้จะมีวัฒนธรรมหลักที่เหมือนกันแตก็ ขอมูลในคอมพิวเตอร ทายที่สุดเกิดการเปลี่ยนความรูที่ ชัด จะมีที่วัฒนธรรมยอยแตกตางกันออกไป เชน คนไทยเชื้อ แจงกลับไปเปนความรูที่เปนนัย (Internalization) อีกครั้ง สายมลายูจะนับถือศาสนาอิสลาม พูดภาษามลายู มีการ Nonaka, Toyama, and Konno เชื่ อ ว ากระบวนการ 197
  • 5. ปรับเปลี่ยนความรูนี้จ ะเปนกุญแจสําคัญของการสรา ง โดยการนําทรัพยากรและจุดแข็งของแตละสถาบันมาชวย ความรู ยิ่งไปกวานั้นการมีปฏิสัมพันธของรูปแบบความรู เสริ มซึ่ งกันและกัน รวมไปถึ งเพื่ อพั ฒนาศั กยภาพด านการ ที่ เ ป น นั ย และความรู ที่ ชั ด แจ ง โดยผ า นกระบวนการ เรียนรู การแลกเปลี่ยนเรียนรูของผูเรียนที่มีวัฒนธรรม วิถี ปรับเปลี่ยนความรูทั้ง 4 ขั้นตอนนี้จะทําใหความรูมีการ ชี วิ ต และวิ ธีก ารเรี ย นที่ แ ตกต า งกั น รวมไปถึ ง การเรี ย นรู ขับเคลื่อนไปสูระดับที่สูงขึ้น สวนการเรียนรูรวมกันใน วัฒนธรรมของผูเรียนซึ่งอยูตางสถาบัน รวมไปถึงการพัฒนา การปฏิบัติที่เรียกวา Interactive learning ถือเปนหัวใจ องคความรูในดานตางๆ สรางความเขมแข็งใหสังคมอันจะ สําคัญของการจัดการความรูเชนกัน เพราะการทําใหเกิด นําไปสูการพัฒนาประเทศและเพื่อเตรียมความพรอมในการ การสรางเครือขายระหวางคนกับคน คนกับกลุมคน กลุม ที่จะกาวสูการเปนประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนตอไป คนกั บ กลุ ม คนจะเป น เป น การกระตุ น ให เ กิ ด การ แลกเปลี่ยนเรียนรูรวมกัน การสรางเวทีหรือกิจกรรมให 2) วัตถุประสงคของการวิจัย สมาชิ ก ได พ บปะพู ด คุ ย เพื่ อ แลกเปลี่ ย นเรี ย นรู จ าก วัตถุประสงคทั่วไป ประสบการณที่แตละคนไดรับมา สมาชิกจะตองมีความ เพื่ อ พั ฒ นารู ป แบบเครื อ ข า ยสั ง คมเชิ ง เสมื อ นเพื่ อ การ ขยัน อดทนและพยายามแลกเปลี่ยนเรียนรูซึ่งกันโดยไม แลกเปลี่ยนเรียนรู สําหรับการศึกษาพหุวฒนธรรม ั หวงความรู ผานกระบวนการจัดกิจกรรมที่หลากหลายซึ่ง วัตถุประสงคเฉพาะ จะทําใหเกิดสังคมแหงภูมิปญญาและการเรียนรูมากขึ้น 2.1) เพื่อ พัฒ นารูป แบบเครื อข ายสั งคมเชิง เสมือ นเพื่อ การ (ประพนธ ผาสุกยืด, 2547) แลกเปลี่ยนเรียนรูสําหรับการศึกษาพหุวัฒนธรรม การพั ฒ นารู ป แบบเครื อ ข า ยสั ง คมเชิ ง เสมื อ นเพื่ อ การ 2.2) เพื่อประเมินรับรองรูปแบบเครือขายสังคมเชิงเสมือน แลกเปลี่ยนเรียนรูสําหรับการศึกษาพหุวัฒนธรรมขึ้นเพื่อ เพื่อการแลกเปลี่ยนเรียนรูสําหรับการศึกษาพหุวัฒนธรรม ชวยในการจัดการเรียนการสอนในระดับอุดมศึกษาของ แตสถาบันที่มีผูเรียนที่มีความแตกตางทางดานวัฒนธรรม เครือขายสังคมเชิงเสมือน การแลกเปลี่ยนเรียนรู หองเรียนเชิงพหุวัฒนธรรม (Virtual Community) (Knowledge Sharing) (Joint Classroom in Multicultural Education) (Kollock, 1996; Preece, 2000; ใจทิพย (Marquardt, 1996; Probst, et al,, 2000) (Banks, 2002; Casey, 2008) ณ สงขลา, 2550) รู ป แบบการจั ด สภาพ แวดล อ มสํ า หรั บ รู ป แบบในการติ ด ต อ สื่ อ สารซึ่ ง มี ก าร พฤติกรรมการเผยแพร แลกเปลี่ยนแบงปน ผู เ รี ย นที่ มี ค วามแตกต า งกั น ในเรื่ อ งของ แบ ง ป น ความคิ ด ทั ศ นคติ ผลงานหรื อ ความรู ทั ก ษะ ประสบการณ ร ะหว า งกั น ศาสนา สัง คมและวั ฒนธรรม เพื่อให เ กิ ด ผลลัพธบางประการ โดยที่บุคคลสามารถจะ ในขณะเขารวมกิจกรรมตามกระบวนการ 6 การเรียนรูในเนื้อหาวิชาที่เรียนและยอมรับ พั ฒ นาความสั ม พั น ธ ร ะหว า งกั น ผ า นทาง ขั้นตอน ไดแก 1) ขั้นแนะนําแนวทาง สราง ในเรื่ องความแตกตางทางดานวัฒนธรรม ระบบออนไลน โดยมีแรงจูงใจ 4 ประการ กลุมสัมพันธ 2) ขั้นกําหนดความรู นําไปสู สั ม พั น ธ ที่ เ กิ ด ขึ้ น ภายในห อ งเรี ย นฯ แบ ง คือ 1)ความตองการในการที่จะไดรับความรู เปาหมาย 3) ขั้น พบปะแลกเปลี่ยน เพื่อน ออกเปน 3 ระดับ คือ 1) ปฏิสัมพันธกับตัว อื่นกลับมา 2) ความตองการมีชื่อเสียง 3) เรียนเพื่อนรู 4) ขั้นสืบเสาะแสวงหา 5) ขั้น ผูเรียนเอง 2) ปฏิสัมพันธกับผูเรียนดวยกัน ความรูสึกภาคภูมิใจ และ 4) ความตองการ สรางสรรคเผยแพร และ 6) ขั้นประเมินผล และเนื้อ หาสาระ และ 3) ปฏิสั มพั น ธ ในการติดตอสื่อสาร งาน ระหวางสาระการสอนกับตัวผูเรียนเอง รูปแบบเครือขายสังคมเชิงเสมือนเพื่อการแลกเปลี่ยนเรียนรู สําหรับการศึกษาพหุวัฒนธรรม รูปที่ 1: กรอบแนวคิดการพัฒนารูปแบบเครือขายสังคมเชิงเสมือนเพื่อการแลกเปลี่ยนเรียนรู สําหรับการศึกษาพหุวัฒนธรรม 198
  • 6. 3) ขั้นตอนการดําเนินการวิจัย 4) สรุปผลการวิจัย ระยะที่ 1 การพัฒนารูปแบบเครือขายสังคมเชิงเสมือ น ตอนที่ 1 รู ป แบบเครื อ ข า ยสั ง คมเชิ ง เสมื อ นเพื่ อ การ เพื่ อ การแลกเปลี่ ย นเรี ย นรู สํ า หรั บ การศึ ก ษาพหุ แลกเปลี่ยนเรียนรูสําหรับการศึกษาพหุวัฒนธรรม วัฒนธรรม ดําเนินการตามขั้นตอน ดังนี้ รูปแบบเครือขายสังคมเชิงเสมือนเพื่อการแลกเปลี่ยนเรียนรู 3.1.1) ศึ ก ษา ค น คว า วิ เ คราะห แ ละสั ง เคราะห ข อ มู ล สํ า หรั บ การศึ ก ษาพหุ วั ฒ นธรรม ประกอบด ว ย 11 เอกสาร และงานวิ จั ย ที่ เ กี่ย วข อ งกั บ รู ป แบบเครื อ ข า ย องคประกอบ คือ 1) การออกแบบกิจกรรมการเรียนการสอน สั ง คมเชิ ง เสมื อ นเพื่ อ การแลกเปลี่ ย นเรี ย นรู สํ า หรั บ บนเครื อ ข า ยสั ง คมพหุ วั ฒ นธรรม 2) กระบวนการ การศึกษาพหุวัฒนธรรม แลกเปลี่ยนเรียนรูและติดตามพฤติกรรมของผูเรียน 3) ฐาน 3.1.2) ศึกษาขอมูลเกี่ยวกับสภาพปจจุบันของการจัด การชวยเหลือผูเรียนในการเรียนบนเครือขายสังคมเชิงเสมือน การศึ ก ษาในสั ง คมพหุ วั ฒ นธรรม แนวคิ ด เกี่ ย วกั บ 4) ปจจัยที่กอใหเกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรูสําหรับการศึกษา รูป แบบเครื อข ายสัง คมเชิ งเสมื อนเพื่ อการแลกเปลี่ ย น พหุวัฒนธรรม 5) การยอมรับและการอยูรวมกันของผูเรียน เรียนรูสําหรับการศึกษาพหุวัฒนธรรม โดยการสัมภาษณ ในสังคมพหุวัฒนธรรมบนเครือขายสังคมเชิงเสมือน 6) การ ผูบริหาร จํานวน 10 คน โดยใชแบบสัมภาษณเชิงลึก เสริมแรงดานพฤติกรรมของผูเรียน 7) ปฏิสัมพันธของผูเรียน และสอบถามอาจารยที่สอนในระดับอุดมศึกษา 40 คน บนเครือขายสังคมเชิงเสมือน 8) การจัดการเครือขายบน โดยใชแบบสอบถาม เครื อ ข า ยสั ง คมเชิ ง เสมื อ น 9) ระบบบริ ห ารจั ด การบน 3.1.3) พัฒนารูปแบบเครือขายสังคมเชิงเสมือนเพื่อการ เครือขายสังคมเชิงเสมือน 10) เครื่องมือที่ติดตอสื่อสารบน แลกเปลี่ ย นเรี ย นรู สํ า หรั บ การศึ ก ษาพหุ วั ฒ นธรรม สังคมเชิงเสมือน และ 11) เครื่องมือสะทอนความรูของ กําหนดองคประกอบ กระบวนการ ขั้นตอนที่มีความเปน ผูเรียน ระบบ (System Approach) และแสดงความสัมพันธซึ่ง รูปแบบเครือขายสังคมเชิงเสมือนเพื่อการแลกเปลี่ยนเรียนรู กันและกันเปนแผนภาพประกอบความเรียง สําหรับการศึกษาพหุวัฒนธรรม ประกอบดวยการเตรียมดาน ระยะที่ 2 การประเมินรับรองรูปแบบเครือขายสังคมเชิง กิจกรรมการเรี ยนการสอน 4 ขั้น ตอน ไดแ ก 1) ขั้ นการ เสมื อ นเพื่ อ การแลกเปลี่ ย นเรี ย นรู สํ า หรั บ การศึ ก ษา เตรียมความพรอมของหองเรียนบนเครือขายสังคมเชิงเสมือน พหุวัฒนธรรม 2) ขั้ นการสรา งความคุ นเคย 3) ขั้ น การแลกเปลี่ ย นเรีย นรู นํ า พั ฒ นารู ป แบบเครื อ ข า ยสั ง คมเชิ ง เสมื อ นเพื่ อ การ สําหรับการศึกษาพหุวัฒนธรรม 4) ขั้นตอนดานการวัดและ แลกเปลี่ยนเรียนรูสําหรับการศึกษาพหุ วัฒนธรรม ที่ การประเมินผล โดยมีองคประกอบยอย ไดแก 4.1) บุคคล พัฒ นาขึ้ น ไปให ผู ท รงคุ ณวุ ฒิ จํ า นวน 5 คน ทํ า การ 4.2) สื่ อ การเรี ย นการสอน และ 4.3) ห อ งเรี ย นแบบ ประเมินรับรองรูปแบบ ไดจากการเลือกแบบเจาะจง โดย ผสมผสาน โดยมีลําดับและขั้นตอนในการดําเนินกิจกรรม เป น ผู บ ริ ห ารในสถาบั น อุ ด มศึ ก ษาหรื อ เป น ผู ที่ มี ดังนี้ ประสบการณในการสอนระดับอุดมศึกษา อยางนอย 10 1.1) การเตรียมความพรอมใหกับผูสอนและผูเรียน โดยใน ป หรือมีผลงานวิจัย ผลงานวิชาการและมีตําแหนงทาง ขั้นตอนของการเตรียมความพรอมนี้ นอกจากจะเนนดา น วิชาการตั้งแตรองศาสตราจารยขึ้นไป เนื้อหาสาระทางวิชาการแลว ผูสอนจะตองมีความเขาใจใน เครื่ อ งมื อ ที่ ใ ช ใ นการวิ จั ย ได แ ก แบบรั บ รองรู ป แบบ เรื่องของวัฒนธรรมและกิจกรรมภายในบทเรียน รวมไปถึง เครื อ ข า ยสั ง คมเชิ ง เสมื อ นเพื่ อ การแลกเปลี่ ย นเรี ย นรู การสงเสริมและจัดประสบการณในการเรียนที่เหมาะสมเพื่อ สําหรับการศึกษาพหุวัฒนธรรม ชวยใหผูเรียนพัฒนาทั้งทางด านทักษะ ความรูความเขาใจ สถิ ติ ท่ี ใ ช ใ นการวิ จั ย คื อ ค า เฉลี่ ย และส วนเบี่ ย งเบน และเจตคติที่ดีตอสังคม มาตรฐาน 1.2) การรวมกันออกแบบวิธีการจัดการเรียนการสอน สื่อ การสอน วิธีการวัดและประเมินผล เพื่อใหการจัดการเรียน 199
  • 7. การสอน กิ จ กรรมภายในบทเรี ย น วิ ธี ก ารวั ด และ 1.4) การทําความเขาใจถึงขอตกลง วัตถุประสงค เปาหมาย ประเมินผลเปนไปในทิศทางเดียวกัน โดยมีรายละเอียด การเรียน บทบาทและกิจกรรมในการเรียน เพื่อใหผูสอนและ ของขั้นตอน ดังนี้ ผูเรียนมีเขาใจที่ตรงกัน 1.2.1) ผูสอนตองรวมกันในการพัฒนาหลักสูตรที่มีความ 1.5) การแนะนําเครื่องมือและฝกการใชงานเครื่องมือตางๆ ทาทาย และมีความหมายที่มีความเปนจริงตอผูเรียน แก ผู เ รี ย น เพื่ อ ให ผู เ รี ย นเกิ ด ความพร อ มในการใช ง าน 1.2.2) จัดกระบวนการประเมินการเรียนรูตามสภาพจริง เครื่องมือตางๆ ของผูเรียนในระหวางภารกิจ 1.2.3) จัดเตรียมเครื่องมือตางๆ ใหมีความพรอมสําหรับ 2) ขั้นการสรางความคุนเคยของผูเรียนบนเครือขายสังคมเชิง การสรางประสบการณความรูใหกับผูเรียน เสมื อ นเพื่ อ การแลกเปลี่ ย นเรี ย นรู สํ า หรั บ การศึ ก ษาพหุ 1.2.4) กําหนดเรื่องราว กรอบระยะเวลาในการจัดการ วัฒนธรรม จะมีองคประกอบที่สําคัญสําหรับขั้นตอนนี้ดังนี้ เรียนการสอนและกิจกรรมที่ผูสอนตองการจะสอดแทรก 2.1) หองเรียนปกติ หมายถึง การจัดกิจกรรมการเรียนการ เรื่องราวเกี่ยวกับวัฒนธรรมเขาไป เนื่องจากระยะเวลา สอนปกติในชั้นเรียน และความถี่ ใ นการรั บ รู เ นื้ อ หาหรื อ เรื่ อ งราวที่ เ กี่ ย วกับ 2.2) การจัดการเรียนการสอนบนเครือขายสังคมเชิงเสมือน วัฒนธรรมจะสงผลตอความตระหนักทางดานวัฒนธรรม (หองเรียนออนไลน) หมายถึง การจัดกิจกรรมการเรียนการ ของผูเรี ยนและลั กษณะและรูปแบบของเรื่อ งที่จะรับ รู สอนแบบออนไลน บ นห อ งเรี ย นเสมื อ นที่ ถู ก จั ด สภาพ ของผูเรียนจะสงผลตอความตระหนักทางดานวัฒนธรรม แวดลอมทางการศึกษาและกิจกรรมบนเครือขายสังคมเชิง และยั ง เป น ส ว นที่ ทํ า ให ผู เ รี ย นเกิ ด ประเด็ น ในการ เสมือนสําหรับหองเรียนพหุวัฒนธรรม แลกเปลี่ยนเรียนรู 2.3) การสรางความรูจั กและทําความคุนเคยระหวางผูสอน 1.2.5) จั ด เตรี ย มสื่ อ การเรี ย นการสอนที่ มี ค วาม และผูเ รียน เนื่ องจากสภาพแวดลอมในการเรียนรู ที่ดีจ ะ หลากหลายและนาสนใจ ประกอบดวยสมาชิกที่มีทักษะแตกตางกันทั้งผูที่เริ่มเรียนรู 1.3) การจัดกลุมผูเรียนใหมีความหลากหลายทั้งดานวิถี ไปจนถึงผูเชี่ยวชาญ ดังนั้น การที่สมาชิกทั้งผูสอน และ ชีวิต ขนบธรรมเนียม ประเพณี ศาสนาหรือวัฒนธรรมจะ ผูเรียนไดทําความรูจักหรือคุนเคยกันจะชวยใหเกิดความกลา ช ว ยให ผู เ รี ย นเกิ ด การเรี ย นรู โดยเฉพาะจากการ ที่จะพูดคุยหรือแสดงความคิดเห็น แลกเปลี่ยนเรียนรูจากเพื่อนสมาชิกดวยกัน โดยการจัด 2.4) การใชประเด็นคําถามของผูสอนเพื่อใหผูเ รียนไดพูดคุย กลุมผูเรียนนั้นมีเปาหมายหลักไดแก ผานชองทางสื่อสารที่ไดจัดเตรียมไว เชน กระดานสนทนา 1.3.1) ผูเรียนรวมกันเรียนรูโดยการแลกเปลี่ยนทักษะซึ่ง (Forum) หรือหองสนทนา (Chat room) โดยการสราง กันและกันและมีการสนับสนุนทางสังคม การชวยเหลือ บรรยากาศที่สนับสนุนใหผูเรียนเปดกลุมยอย การสนทนา ซึ่งกันและกันของสมาชิก เป น การส ว นตั ว และสร า งทั ก ษะการมี ส ว นร ว มในสั ง คม 1.3.2) ผูเรียนทํางานรวมกัน โดยมีการสรางความรูและ เสมือน การแลกเปลี่ยนทักษะ รวมถึงการชวยเหลือซึ่งกันและกัน 2.5) การสะทอนความรูของผูเรียนผานกระดานสะทอนคิด ของสมาชิกในหองเรียน (Reflective Journal) หรือบล็อก (Blog) โดยการสะทอน 1.3.3) ผูเรียนไดรับรูถึงความแตกตางทางเชื้อชาติและ ความรูนี้จะเปนวิธีการที่จะชวยในการกระตุนการเชื่อมโยง วัฒนธรรมที่เกิดขึ้นในหองเรียนและในสังคม ระหวางความรูเดิมและความรูใหมที่ผูเรียนไดรับเขามา 1.3.4) ปรับทัศนคติของผูเรียนเกี่ยวกับการอยูรวมกับผูอน  ื่ 2.6) การติดตามพฤติกรรมผูเรียนโดยผูสอนผานกระดาน ที่มีความแตกตางทางดานวัฒนธรรม สะทอนคิด (Reflective Journal) หรือ บล็อก (Blog) โดย 1.3.5) ส ง เสริ ม และจั ด ประสบการณ ใ นการเรี ย นที่ ขั้ น ตอนดั ง กล า วนี้ จ ะช ว ยให ผู ส อนสามารถวางแผนการ เหมาะสมเพื่ อ ช ว ยให ผู เ รี ย นพั ฒ นาทั้ ง ทางด า นทั ก ษะ จั ด การเรี ย นการสอน การทํ า กิจ กรรมและความกา วหน า ความรูความเขาใจและเจตคติที่ดีตอสังคม ทางการเรียนของผูเรียนได 200
  • 8. 3) ขั้นการแลกเปลี่ยนเรียนรู หมายถึง เปนกระบวนการที่ เหมือนรวมและความแตกตางในเรื่องราวนั้น โดยใชความ ผูสอนและผูเรียนไดทําการแลกเปลี่ยนความรูซึ่งกันและ หลากหลายในดานมุมมองของผูเรียน กัน ทั้งความรูทางดานวิชาการที่เกี่ยวของกับเนื้อหาสาระ 3.2) การสะทอนความรูของผูเรียนจากประเด็นที่ไดมีการ ในวิชาและความรูที่เกี่ยวของกับวัฒนธรรม แลกเปลี่ ย นพู ด คุ ย กั น ผ า นกระดานสะท อ นคิ ด (Reflective 3.1) การแลกเปลี่ยนพูดคุยเกี่ยวกับเนื้อหาวิชาที่เรีย น Journal) หรือ บล็อก (Blog) ระหวางผูสอนและผูเรียน โดยอาจจะเปนการแลกเปลี่ยน 3.3) การติดตามพฤติกรรมผูเรียนของผูสอนผานการพูดคุย เรื่ องราวในประเด็น ใดประเด็ น หนึ่ งและมองหาความ แลกเปลี่ ย นเรี ย นรู ข องผู เ รี ย นจากกระดานสะท อ นคิ ด (Reflective Journal) หรือบล็อก (Blog) รูปที่ 2:รูปแบบเครือขายสังคมเชิงเสมือนเพื่อการแลกเปลี่ยนเรียนรู สําหรับการศึกษาพหุวัฒนธรรม ตอนที่ 2 ผลการประเมินรับรองรูปแบบเครือขายสังคม สําหรับการศึกษาพหุวัฒนธรรม สามารถที่จะแยกยอยออก เชิงเสมือนเพื่อการแลกเปลี่ยนเรียนรูสําหรับการศึกษาพหุ ไดเปน 11 องคประกอบ โดยสามารถที่จะสรุปรายละเอียด วัฒนธรรม ของแตละองคประกอบไดดังตอไปนี้ ผลการประเมินโดยผูทรงคุณวุฒิจํานวน 5 คน พบวา 1) องคประกอบดานการออกแบบกิจกรรมการเรียนการสอน รูป แบบเครื อข ายสัง คมเชิ งเสมื อนเพื่ อการแลกเปลี่ ย น บนเครือขายสังคมพหุวัฒนธรรม เปนองคประกอบที่มุงเนน เรียนรูสาหรับการศึกษาพหุวฒนธรรมที่พัฒนาขึ้นมีความ ํ ั ในด า นการจั ด สภาพแวดล อ มเพื่ อ การเรี ย นรู แ ละการทํ า เหมาะสมอยูในระดับเหมาะสมมาก ( X = 4.30, S.D. = กิจกรรมของผูเรียนผานเครือขายสังคมพหุวัฒนธรรม โดย 0.81) การจัดสภาพแวดลอมนี้จะมุงเนนและสงเสริมรูปแบบการ เรียนที่มีความหลากหลาย (Accommodate Divers Learning 5) อภิปรายผลการวิจัย Styles) ทั้ ง การใช รู ป แบบกิ จ กรรมการเรี ย นที่ เ น น ความ ผลการวิ จั ย ครั้ ง นี้ พบว า องค ป ระกอบของรู ป แบบ รวมมือและมีความติดตอสัมพันธกันการใชกิจกรรมการเรียน เครื อ ข า ยสั ง คมเชิ ง เสมื อ นเพื่ อ การแลกเปลี่ ย นเรี ย นรู ที่เนนภาระงานหรือปญหา เพื่อใหผูเรียนสามารถที่จะอธิบาย 201
  • 9. ได อ ย า งชั ด เจนว า ตนเองได เ รี ย นรู อ ะไรไปบ า งและ เสมือน ความตระหนักในคุณคาทางวัฒนธรรมนั้นสวนหนึ่ง สามารถนํ า มาเชื่ อ มโยงหรื อ ประยุ ก ต กั บ ชี วิ ต จริ ง ได มี ผ ลมาจากระยะเวลาและความถี่ ใ นการรั บ รู เ นื้ อ หาหรื อ อย างไรรวมไปถึ งผู เรี ย นสามารถที่จ ะประยุ ก ตค วามรู เรื่องราวที่เกี่ยวของกับวัฒนธรรม โดยจะสงผลตอพฤติกรรม ใหมที่ไดรับเขามาจากการทํากิจกรรมผานเครือขายสังคม ของผูเรียน การรูจักคิดวิเคราะห สังเคราะห บูรณาการ และ เชิงเสมือนเขากับความรูเดิมของตนเอง เชื่อมโยงบริบททางวัฒนธรรมเขากับชีวิตประจําวัน เขาใจ 2) องคประกอบดานกระบวนการแลกเปลี่ยนเรียนรูและ และยอมรั บ ถึ ง ความแตกต า งในด า นของวั ฒ นธรรม ซึ่ ง ติดตามพฤติกรรมของผูเรียน เปนกระบวนการที่มุงเนน ทั้งหมดจะชวยใหผูเรียนรูจักคิดสรางสรรคโดยไมขัดกับหลัก การจั ด การเรี ย นรู ใ นสภาพที่ เ ป น จริ ง และบริ บ ทการ ความเชื่อของสังคม ศาสนาและวัฒนธรรม แก ป ญ หาที่ ต รงกั บ สภาพจริ ง ของผู เ รี ย น ด ว ยการ 6) องคประกอบดานการเสริมแรงดานพฤติกรรมของผูเรียน สอดแทรกประสบการณทางสังคมเขาไปในกระบวนการ เปนกระบวนที่มุงเนนใหผูเรียนไดรับรูถึงความแตกตางทาง จั ด การเรี ย นรู ส ง เสริ ม การคิ ด อย า งมี วิ จ ารณญาณ เชื้อชาติและวัฒนธรรมที่เกิดขึ้นในหองเรียนและในสังคม (Encourages Critical Thinking) การสรางประสบการณ การปรับทัศนคติของผูเรียนเกี่ยวกับการอยูรวมกับผูอื่น ที่มี อยางลึกซึ้งในรูปแบบที่หลากหลายเพื่อเปดมุมมองใหกับ ความแตกตางทางดานวัฒนธรรม รวมไปถึงการสงเสริมและ ผูเรียน จัดกิจกรรมการแลกเปลี่ยนเรียนรูระหวางผูเรียน จัดประสบการณในการเรียนที่เหมาะสมเพื่อชวยใหผูเรียน และมีการจัดกระบวนการประเมินการเรียนรูตามสภาพ พัฒนาทั้งทางดานทักษะ ความรูความเขาใจและเจตคติที่ดีตอ จริงของผูเรียนในระหวางภารกิจ สังคม 3) องคประกอบดานฐานการชวยเหลือผูเรียนในการเรียน 7) องคประกอบดานการมีปฏิสัมพันธของผูเรียนบนเครือขาย บนเครือขายสังคมเชิงเสมือน สามารถแบงลักษณะของ สั ง คมเชิ ง เสมื อ น จะมุ ง เน น ไปที่ รู ป แบบการเรี ย นรู ค วร ฐานความชวยเหลือออกเปน 4 ประเภท ไดแก (1) ฐาน เกิดขึ้นในบริบทที่เปนความรูที่ผูเรียนสามารถเชื่อมโยงหรือ การ ช วย เ ห ลื อ เ กี่ ย วกั บ วิ ธี การคิ ด ( Metacognitive พัฒนามาจากสภาพชีวิตจริง การเชื่อมโยงประสบการณที่อยู Scaffolding) (2) ฐานความช ว ยเหลื อ ด า นกลยุ ท ธ นอกห อ งเรี ย นของผู เ รี ย นเข า กั บ การจั ด กิ จ กรรมและ (Strategic Scaffolding) (3) ฐานความช ว ยเหลื อ ประสบการณในหองเรียน โดยมีวัตถุประสงคหลักเพื่อให กระบวนการเรียนรู (Procedural Scaffolding) และ (4) ผูเรียนสามารถที่จะแลกเปลี่ยนหรือบูรณาการความรูใหมเขา ฐานความช ว ยเ หลื อ การสร า งความคิ ด รวบยอด กับความรูเดิมของตนเองได (Conceptual Scaffolding) 8) องคประกอบดานการจัดการเครือขายบนเครือขายสังคม 4) องคประกอบดานปจจัยที่กอใหเกิดการแลกเปลี่ยน เชิงเสมือน เปนองคประกอบที่จะชวยในการจัดการเครือขาย เรียนรูสาหรับการศึกษาพหุวัฒนธรรม เปนองคประกอบ ํ ในภาพรวมเพื่อใหผูสอนจะสามารถที่จะวางแผนในการจัด ที่ชวยสรางบรรยากาศที่สนับสนุนใหผูเรียนเปดกลุมยอย  กิจกรรมตางๆ ได และการสนทนา สรางทักษะการมีสวนรวมดวยการเปด 9) องคประกอบดานระบบบริหารจัดการบนเครือขายสังคม โอกาสใหผูเรียนเขียนหรือสรางโครงการที่ผูเรียนแตละ เชิงเสมือน เปนระบบที่จะชวยใหผูสอนสามารถที่จะบริหาร คนสามารถตอเติมเรื่องราวหรือขยายผลไปยังผูเรียนคน และจัดการหองเรียนเสมือนบนเครือขายสังคมเชิงเสมือน อื่ น ๆ ได ผู เ รี ย นแลกเปลี่ ย นเรื่ อ งราวในประเด็ น ใด 10) องคประกอบดานเครื่องมือที่ติดตอสื่อสารบนสังคมเชิง ประเด็ น หนึ่ ง และมองหาความเหมื อ นร ว มและความ เสมือน เปนเครื่องมือที่จะชวยใหผูเรียนสามารถที่จะเขา แตกต า งในเรื่ อ งราวนั้ น โดยใช ค วามหลากหลายของ สังคมออนไลนเพื่อพบปะเพื่อนที่อยูตามสถานที่ตางๆ โดยมี มุมมองของผูเรียนและการใหความรวมมือของผูเรียนทั้ง วั ต ถุ ป ระสงค เ พื่ อ ให ผู เ รี ย นสามารถที่ จ ะสร า งเครื อ ข า ย ในดานการเรียนและการทํากิจกรรม ทางดานสังคม โดยเครื่องมื อในดานนี้จะประกอบไปดวย 5) องคประกอบดานการยอมรับและการอยูรวมกันของ เ ฟ ส บุ ค ( Facebook) แ ล ะ อี เ ม ล ล ผู เ รี ย นในสั ง คมพหุ วั ฒ นธรรมบนเครื อ ข า ยสั ง คมเชิ ง (e-Mail) 202
  • 10. 11) องคประกอบดานเครื่องมือสะทอนความรูของผูเรียน 7) เอกสารอางอิง เป น การจั ด เครื่ อ งมื อ ต า งๆ ภายในเครื อ ข า ยสั ง คมเชิ ง เสมื อ นเพื่ อ ใหผู เ รี ย นจะสามารถที่ จ ะใชใ นการบั น ทึ ก ใจทิพย ณ สงขลา. (2550).วิธีวิทยาการออกแบบการเรียนการ ความรูที่ไดในระหวางเรียน โดยเครื่องมือจะประกอบไป สอนอิเล็กทรอนิกส. กรุงเทพมหานคร:ศูนยตํารา และ ดวย กระดานสะทอนคิด (Reflective Journal) บล็อก เอกสารทางวิ ช าการ คณะครุ ศ าสตร จุ ฬ าลงกรณ (Blog) และกระดานสนทนา (Forum) มหาวิทยาลัย. บัญญัติ ยงยวน. (2551). การสงเสริมพัฒนาการเด็กในบริบท 6) ขอเสนอแนะ ของความหลากหลายวั ฒนธรรม. สื บค นเมื่อ 12 6.1) ขอเสนอแนะสําหรับการนําผลการวิจัยไปใช พ ฤ ศ จิ ก า ย น 2552, สื บ ค น จ า ก องคประกอบของรูปแบบเครือขายสังคมเชิงเสมือนเพื่อ http://www.cf.mahidol.ac.th/autopage/file/ การแลกเปลี่ยนเรียนรูสําหรับการศึกษาพหุวัฒนธรรม นี้ WedJuly2008-22-18-5-4articel-004.pdf. สามารถที่จะปรับเปลี่ยนและยืดหยุนตามสถานการณการ ประพนธ ผาสุกยืด. (2547). การจัดการความรูฉบับมือใหม นําไปใชงาน ลักษณะของผูเรียนและวิชาที่เรียนเพื่อความ หัดขับ. กรุงเทพฯ: ใยไหม เหมาะสมและการที่ จะบรรลุ ต ามวั ต ถุป ระสงค ในการ Banks, J.A. (2002). An Introduction Multicultural เรียนของผูเรียน Education. Boston: Allyn & Bacon. 6.2) ขอเสนอแนะในการทําวิจัยครั้งตอไป Casey, D.M. (2008). The Historical Development of 6.2.1 เพื่อทําใหองคประกอบของรูปแบบเครือขายสังคม Distance Education through. Technology . เชิงเสมือนเพื่อการแลกเปลี่ยนเรียนรูสําหรับการศึกษาพหุ TechTrends. 52 (2). 45-51. วัฒนธรรม มีความสมบูรณยิ่งขึ้น จึงควรวิจัยพัฒนาสื่อ Kollock, P. (1996). Design Principles for Online การเรี ย นรู เ พื่ อ ส ง เสริ ม กิ จ กรรมการเรี ย นการสอน Communities. Paper presented at the Harvard ออนไลน ท้ั ง แบบในเวลาเดี ย วกั น (Synchonous) และ Conference on the Internet and Society, Cambridge, แบบตางเวลา (Asynchonous) MA. 6.2.2 ควรจะพัฒนาองคประกอบของรูปแบบเครือขาย Marquardt, M. 1996. Building the Learning Organization. สั ง คมเชิ ง เสมื อ นเพื่ อ การแลกเปลี่ ย นเรี ย นรู สํ า หรั บ New York : McGrawHill, การศึกษาพหุวัฒนธรรมในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน Nonaka, I., and Takeuchi, H. 1995. The knowledge creating เนื่ อ งจากอาจจะมี บ างบริ บ ทที่ มี ค วามแตกต า งจากใน company: How Japanesecompanies create the การศึกษาในระดับอุดมศึกษา dynamics of innovation. New York: Oxford University Press. Probst, G., Raub, S., and Romhardt, K. 2000. Managing knowledge: Building blocks for success. West Sussex, England: John Wiley and Sons. Preece, J. (2000). Online Communities: Supporting Sociability, Designing Usability. Chichester: John Wiley & Sons Ltd. 203
  • 11. พฤติกรรมการใชเครือขายสังคมออนไลน ของนักศึกษาปริญญาบัณฑิต คณะครุศาสตร ศึกษาศาสตร ในมหาวิทยาลัยของรัฐ The Social Network Usage behavior of Undergraduate Students in Faculty of Education, Government University นางสาวอรุณรัตน ศรีชูศิลป ดร.อนิรุทธ สติมั่น ภาควิชาเทคโนโลยีการศึกษา คณะศึกษาศาสตร มหาวิทยาลัยศิลปากร (E-mail address : arunsri_14@hotmail.com) (E-mail address : sanirut@su.ac.th, sanirut@yahoo.com) ABSTACT The purpose of this research were to 1) to study ปริญญาบัณฑิต คณะครุศาสตร ศึกษาศาสตร 2) เพื่อศึกษา social network usage behavior of undergraduate พฤติ ก รรมการเป ด รั บ ข อ มู ล ข า วสารบนเครื อ ข า ยสั ง คม students in faculty of education, government university 2) to study behavior exposure to information on social ออนไลน ของนั ก ศึ ก ษา ปริ ญ ญาบั ณ ฑิ ต คณะครุ ศ าสตร networks of undergraduate students in faculty of ศึกษาศาสตร 3) เพื่อเปรียบเทียบพฤติกรรมการใชเครือขาย education, government university 3) to compare social network usage behaviors by considering personal and สังคมออนไลน จําแนกตามปจจัยสวนบุคคล และพฤติกรรม behavior exposure to information on social networks of การเปดรับขอมูลขาวสาร ของนักศึกษาปริญญาบัณฑิต คณะ undergraduate students in faculty of education, government university. The sample size was 382 of ครุศาสตร ศึกษาศาสตร ในมหาวิทยาลัยของรัฐ กลุมตัวอยาง students. The questionnaire was constructed and used as tool for collected data. Analyzed the statistics of ที่ใชในการศึกษาคนควาครั้งนี้ ไดแก นักศึกษาระดับปริญญา percentage, mean scores, standard deviation, t-test, บัณฑิต ที่กําลังศึกษาอยูใน คณะครุศาสตร ศึกษาศาสตร ใน one-way ANOVA. Analysis results were concluded as follow : มหาวิทยาลัยของรัฐ ภาคการศึกษาที่ 2 ปการศึกษา 2554 ซึ่ง 1. The social network usage of undergraduate ครอบคลุ ม 14 มหาวิ ท ยาลัย จํ านวน 382 คน โดยไดจ าก students in faculty of education, government university were at high level in overall. วิธีการสุมหลายขั้นตอน (Multi-stage Random Sampling) 2. The study of behavior in exposure to เครื่ อ งมื อ ที่ ใ ช ใ นการรวบรวมข อ มู ล เป น แบบสอบถาม information on social networks of undergraduate students in faculty of education, government university (Questionnaire) แ ล ะ แ บ บ ส อ บ ถ า ม อ อ น ไ ล น were the most of respondents use to a self-study, the (E-Questionnaire) สถิ ติ ที่ ใ ช ใ นการวิ เ คราะห ข อ มู ล ได แ ก purpose of using for entertainment, applications in communications, and usage in public identity (Identity คาความถี่ คารอยละ คาเฉลี่ย สวนเบี่ยงเบนมาตรฐาน คาสถิติ Network) maximum, most of them were usefulness and satisfied in using of each application on social network ทดสอบทีแบบเปนอิสระตอกัน (t-test) และการวิเคราะห was at a high level in overall. ความแปรปรวนทางเดียว (One way ANOVA) ผลการวิจัย 3. The comparison of the social network usage พบวา behavior for undergraduate students in faculty of education, government university which classifying by 1. พฤติกรรมการใชเครือขายสังคมออนไลน ของ gender, personal computer, GPA and income of the parents are not different but the institute and student’s นักศึกษาปริญญาบัณฑิต คณะครุศาสตร ศึกษาศาสตร ใน level were social network usage behavior and behavior มหาวิทยาลัยของรัฐ พบวา โดยภาพรวม อยูในระดับมาก exposure to information was no signification different. KEY WORD : SOCIAL NETWORK, 2. พฤติกรรมการเปดรับขอมูลขาวสารบนเครือขาย COMMUNICATION, EDUCATION, สังคมออนไลน ของนักศึกษา ปริญญาบัณฑิต คณะครุศาสตร EDUTRAINMENT ศึกษาศาสตร ในมหาวิทยาลัยของรัฐ พบวา มีพฤติกรรมการ บทคัดยอ เปดรับขาวสารดวยการศึกษาดวยตนเอง มีวัตถุประสงคใน การศึ ก ษาครั้ ง นี้ มี วั ต ถุ ป ระสงค 1) เพื่ อ ศึ ก ษา การใชงาน เพื่อความบันเทิง ใชงานในดานการสื่อสาร และ พฤติ ก รรมการใช เ ครื อ ข า ยสั ง คมออนไลน ของนั ก ศึ ก ษา ใชงานเว็บไซตเครือขายสังคมออนไลนในประเภทเผยแพร 204