More Related Content Similar to ๒การจำแนกจุดมุ่งหมายการศึกษา
Similar to ๒การจำแนกจุดมุ่งหมายการศึกษา (20) ๒การจำแนกจุดมุ่งหมายการศึกษา5. • Benjamin Samuel Bloom Born
February 21, 1913
Lansford, Pennsylvania
• Died September 13,
1999 (aged 86) Chicago
Nationality American Education
Ph.D. in Education
• Alma mater Pennsylvania State
University, University of Chicago
• Occupation Educational
psychologist
• Employer American Educational
Research Association
สวก.สพฐ. 5
Benjamin Samuel Bloom’s taxonomy
6. สวก.สพฐ. 6
Robert Mills Gagne learned capabilities
–ทักษะทางปัญญา (Intellectual skill)
–กลวิธีทางปัญญา (Cognitive strategy)
–ภาษาหรือคาพูด (verbal information)
-ทักษะการเคลื่อนไหว (motor skills)
-เจตคติ (attitude)
ขั้นการออกแบบของกาเย่
เร่งเร้าความสนใจ (Gain Attention)
บอกวัตถุประสงค์ (Specify Objective)
ทบทวนความรู้เดิม
(Activate Prior Knowledge)
นาเสนอเนื้อหาใหม่
(Present New Information)
ชี้แนะแนวทางการเรียนรู้(Guide Learning)
กระตุ้นการตอบสนองบทเรียน
(Elicit Response)
ให้ข้อมูลย้อนกลับ (Provide Feedback)
ทดสอบความรู้ใหม่
(Assess Performance)
7. 7
David Merrill and Ruth Clark's
Performance/Content Matrix
I like distinction between knowing
and doing.
David Merrill
Ruth Clark's
9. Benjamin S. Bloom & Others (1956)
ได้จาแนกเป็น 3 ด้าน
1. พฤติกรรมด้านสมอง:พุทธพิสัย
(Cognitive Domain)
2. พฤติกรรมด้านจิตใจ:จิตพิสัย
(Affective Domain)
3. พฤติกรรมด้านการใช้กล้ามเนื้อ:ทักษะพิสัย
(Psycho – motor Domain)
พฤติกรรมทางการศึกษา
ทักษะพิสัย
จิตพิสัย พุทธิพิสัย
QiuZ5
13. สวก.สพฐ. 13
1. ความรู้ความจา ความสามารถในการเก็บรักษามวลประสบการณ์ต่าง ๆ
จากการที่ได้รับรู้ไว้และระลึกสิ่งนั้นได้เมื่อต้องการเปรียบดังเทปบันทึกเสียง
หรือวีดิทัศน์ที่สามารถเก็บเสียงและภาพของเรื่องราวต่างๆได้ สามารถเปิด
ฟังหรือ ดูภาพเหล่านั้นได้ เมื่อต้องการ
2. ความเข้าใจเป็นความสามารถในการจับใจความสาคัญของสื่อ และ
สามารถแสดงออกมาในรูปของการแปลความ ตีความ คาดคะเน ขยายความ
หรือ การกระทาอื่น ๆ
พฤติกรรมทางพุทธิพิสัย 6 ระดับ
14. สวก.สพฐ. 14
3. การนาความรู้ไปใช้ เป็นขั้นที่ผู้เรียนสามารถนาความรู้ ประสบการณ์ไปใช้
ในกาแก้ปัญหาในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ ซึ่งจะต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจ
จึงจะสามารถนาไปใช้ได้
4. การวิเคราะห์
ผู้เรียนสามารถคิด หรือ แยกแยะเรื่องราวสิ่งต่าง ๆ ออกเป็นส่วนย่อย เป็น
องค์ประกอบที่สาคัญได้ และมองเห็นความสัมพันธ์ของส่วนที่เกี่ยวข้องกัน
ความสามารถในการวิเคราะห์จะแตกต่างกันไปแล้วแต่ความคิดของแต่ละคน
พฤติกรรมทางพุทธิพิสัย 6 ระดับ
15. สวก.สพฐ. 15
5. การสังเคราะห์
ความสามารถในการที่ผสมผสานส่วนย่อย ๆ เข้าเป็นเรื่องราวเดียวกันอย่างมี
ระบบ เพื่อให้เกิดสิ่งใหม่ที่สมบูรณ์และดีกว่าเดิม อาจเป็นการถ่ายทอด
ความคิดให้เข้าใจง่าย วางแผนวิธีการดาเนินงานขึ้นใหม่ หรือความคิดในอัน
ที่จะสร้างความสัมพันธ์ของสิ่งที่เป็นนามธรรมในรูปแบบหรือแนวคิดใหม่
6. การประเมินค่า
เป็นความสามารถในการตัดสิน ตีราคาหรือ สรุปเกี่ยวกับคุณค่าของสิ่งต่างๆ
ออกมาในรูปของคุณธรรมอย่างมีกฎเกณฑ์ที่เหมาะสม ซึ่งอาจเป็นไปตาม
เนื้อหาสาระในเรื่องนั้น ๆ หรืออาจเป็นกฎเกณฑ์ที่สังคมยอมรับก็ได้
พฤติกรรมทางพุทธิพิสัย 6 ระดับ
16. Bloom’s Taxonamy Revised (2001)
• Lorin Anderson และ David
Krathwohl ได้ปรับปรุงแนวคิดการแบ่ง
ประเภทการเรียนรู้ทางปัญญา 6 ขั้น
(Cognitive Processes) และ
ออกแบบการกา หนดวัตถุประสงค์การ
เรียนรู้ (Learning Objective) ให้
พิจารณาเป็น 2 มิติ ได้แก่
• พิจารณาลักษณะของความรู้
(Knowledge Dimension) และ
• พิจารณาการเรียนรู้ทางปัญญา 6 ขั้น
(Cognitive Processes)
24. พฤติกรรมทักษะพิสัย 5 ด้าน (Harrow, 1972: 96-99)
สวก.สพฐ. 24
1. การรับรู้
เป็นการให้ผู้เรียนได้รับรู้หลักการปฏิบัติที่ถูกต้องหรือเลือกหาตัวแบบที่สนใจ
2. กระทาตามแบบ หรือ เครื่องชี้แนะ
เป็นพฤติกรรมที่ผู้เรียนพยายามฝึกตามแบบที่ตนสนใจและพยายามทาซ้า
เพื่อที่จะให้เกิดทักษะตามแบบที่ตนสนใจให้ได้ หรือ สามารถปฏิบัติงานได้
ตามข้อแนะนา
3. การหาความถูกต้อง
พฤติกรรมสามารถปฏิบัติได้ด้วยตนเอง โดยไม่ต้องอาศัยเครื่องชี้แนะ เมื่อ
ได้กระทาซ้าแล้ว ก็พยายามหาความถูกต้องในการปฏิบัติ
26. พฤติกรรมทักษะพิสัย 7 ด้าน (Simpson, 1972)
26
1 การรับรู้
เป็นขั้นการให้ผู้เรียนรับรู้ในสิ่งที่จะทา โดยการให้ผู้เรียนสังเกตการทางาน
นั้นอย่างตั้งใจ
2 การเตรียมความพร้อม
เป็นขั้นการปรับตัวให้พร้อมเพื่อการทางานหรือแสดงพฤติกรรมนั้น ทั้ง
ทางด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ โดยการปรับตัวให้พร้อมที่จะเคลื่อนไหว
หรือแสดงทักษะนั้น ๆ และมีจิตใจและสภาวะอารมณ์ที่ดีต่อการที่จะทาหรือ
แสดงทักษะนั้น ๆ
27. พฤติกรรมทักษะพิสัย 7 ด้าน (Simpson, 1972)
27
3 การสนองตอบภายใต้การควบคุม
เป็นขั้นที่ให้โอกาสแก่ผู้เรียนในการตอบสนองต่อสิ่งที่รับรู้ ซึ่งอาจใช้วิธีการ
ให้ผู้เรียนเลียนแบบการกระทา หรือการแสดงทักษะนั้น หรืออาจใช้วิธีการ
ให้ผู้เรียนลองผิดลองถูก จนกระทั่งสามารถตอบสนองได้อย่างถูกต้อง
4 การให้ลงมือกระทาจนกลายเป็นกลไกที่สามารถกระทาได้เอง
เป็นขั้นที่ช่วยให้ผู้เรียนประสบผลสาเร็จในการปฏิบัติ และเกิดความเชื่อมั่นใน
การทาสิ่งนั้น ๆ
28. พฤติกรรมทักษะพิสัย 7 ด้าน (Simpson, 1972)
28
5 การกระทาอย่างชานาญ
เป็นขั้นที่ช่วยให้ผู้เรียนได้ฝึกฝนการกระทานั้น ๆ จนผู้เรียนสามารถทาได้
อย่างคล่องแคล่ว ชานาญ เป็นไปโดยอัตโนมัติ และด้วยความเชื่อมั่นใน
ตนเอง
6 การปรับปรุงและประยุกต์ใช้
เป็นขั้นที่ช่วยให้ผู้เรียนปรับปรุงทักษะหรือการปฏิบัติของตนให้ดียิ่งขึ้น และ
ประยุกต์ใช้ทักษะที่ตนได้รับการพัฒนาในสถานการณ์ต่าง ๆ
29. พฤติกรรมทักษะพิสัย 7 ด้าน (Simpson, 1972)
29
7 การคิดริเริ่ม
เมื่อผู้เรียนสามารถปฏิบัติหรือกระทาสิ่งใดสิ่งหนึ่งอย่างชานาญ และสามารถ
ประยุกต์ใช้ในสถานการณ์ที่หลากหลายแล้ว ผู้ปฏิบัติจะเริ่มเกิดความคิดใหม่
ๆ ในการกระทา หรือปรับการกระทานั้นให้เป็นไปตามที่ตนต้องการ
33. “เป้าหมายคุณภาพผู้เรียน”
สวก.สพฐ. 33
วิสัยทัศน์ แสดงเจตนารมณ์ของหลักสูตร
จุดมุ่งหมาย ขยายรายละเอียดจากวิสัยทัศน์ เพื่อให้เห็นคุณภาพผู้เรียน
สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน กาหนดความสามารถของผู้เรียน
คุณลักษณะอันพึงประสงค์ กาหนดคุณภาพผู้เรียนด้านจริยธรรมและคุณธรรม
มาตรฐานการเรียนรู้ ใช้มาตรฐานการเรียนรู้ใน 8 กลุ่มสาระ
ตัวชี้วัดผลการเรียนรู้ กาหนดเป็นช่วงชั้นและชั้นปี
จุดประสงค์การเรียนรู้ กาหนดเพื่อออกแบบการสอน
ระดับผลการเรียนรู้ที่คาดหวังในหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน 2551
36. ตัวอย่างจุดประสงค์เชิงพฤติกรรม
1. เมื่อกาหนดชื่อสัตว์ต่าง ๆ ให้ 10 ชื่อ นักเรียนจาแนกชื่อสัตว์
เลื้อยคลานได้ถูกต้องทั้ง 3 ชื่อ
2. เมื่อกาหนดชื่อสัตว์ต่าง ๆ ให้ 10 ชื่อ นักเรียนจาแนกชื่อสัตว์ตาม
ประเภทได้ถูกต้องทุกชื่อ
3. เมื่อครูกาหนดโจทย์ปัญหาการหารเลขไม่ลงตัวให้นักเรียนหาผลหาร
ได้ถูกต้องถึงทศนิยม 6 ตาแหน่ง
4. เมื่อกาหนดชื่อโรคติดต่อในท้องถิ่นให้ 2 โรค นักเรียนบอกสาเหตุ
และวิธีป้องกันโรคได้อย่างถูกต้อง
37. ตัวอย่างจุดประสงค์เชิงพฤติกรรม
5. เมื่อกาหนดชื่อเพลงไทยให้เลือกร้องคนละ 2 เพลง นักเรียนร้อง
เพลงได้ถูกต้องตามทานองและจังหวะ
6. เมื่อกาหนดบทร้อยกรองประเภทกลอนสี่ให้ นักเรียนอ่านเป็น
ทานองเสนาะได้ถูกต้องตามหลักเกณฑ์และข้อบังคับการประพันธ์
7. เมื่อเตรียมวัสดุที่จาเป็นให้นักเรียนประดิษฐ์หุ่นตุ๊กตาสัตว์ได้เสร็จ
เรียบร้อยในเวลา 40 นาที
8. นักเรียนหาคาที่กาหนดให้ได้ จากประมวลคาหรือพจนานุกรมที่ครู
เตรียมไว้ได้ ในเวลาที่กาหนด
38. ข้อจากัดของจุดประสงค์เชิงพฤติกรรม
1. ทาให้ผลของการศึกษาอื่น ๆ ที่ไม่อาจวัดออกมาเป็นพฤติกรรมได้
แต่มีความสาคัญมากถูกละเลย
2. การเปลี่ยนแปลงเจตคติด้านความคิด ความรู้สึกและจิตใจ ซึ่งไม่
อาจแสดงออกมาเป็นพฤติกรรมอย่างทันทีทันใด
3. บางวิชาไม่สามารถนาหลักเกณฑ์ของจุดประสงค์เชิงพฤติกรรมไป
ใช้ได้ เช่น วิชาศิลปะ ดนตรี
4. เน้นให้เกิดผลเฉพาะสิ่งที่กาหนดให้เท่านั้น แต่สิ่งอื่น ๆ ที่ไม่ได้
กาหนดไว้จะถูกละเลย ในการสอนแต่ละครั้ง
41. พฤติกรรมด้านพุทธิพิสัย
ระดับ คากริยาที่ชี้บ่งการกระทา
ความรู้-ความจา บอก เล่า บรรยาย ชี้บ่ง ระบุ ให้นิยาม แยกประเภท
เรียกชื่อ จับคู่ ฯลฯ
ความเข้าใจ อธิบาย แปล เปลี่ยนรูป คาดหมาย ทานาย ขยายความ
ตีความหมาย ยกตัวอย่าง (ใหม่) สรุป เรียบเรียงใหม่ ฯลฯ
การนาหลักวิชาไป
ประยุกต์ใช้
แก้ปัญหาใหม่ หาสิ่งทดแทน ปรับปรุง ดัดแปลงแก้ไข สาธิต
ผลิต สร้าง เลือกใช้ คานวณหา เตรียม จัดการ ฯลฯ
42. พฤติกรรมด้านพุทธิพิสัย
ระดับ คากริยาที่ชี้บ่งการกระทา
การวิเคราะห์ จาแนก แยกย่อย จัดประเภท หาส่วนประกอบหาหลักการร่วม
หาความสัมพันธ์ หาส่วนสาคัญ (บอก) หาสาเหตุ บอกความ
คล้ายคลึง บอกความแตกต่าง ฯลฯ
การสังเคราะห์ แต่ง เขียน สร้าง ประดิษฐ์ ออกแบบ ปรับปรุง วางแผน
วางโครงการ ตรวจสอบ พิสูจน์ แสดงเหตุผล เสนอแนะวิธี
ใหม่ ฯลฯ
การประเมิน สรุปผล ตัดสิน ลงความเห็น ให้เหตุผล สนับสนุน หรือโต้แย้ง
(วิจารณ์) จัดลาดับ (ตามคุณค่า/ความสาคัญ) ฯลฯ
43. ตัวอย่างของจุดประสงค์ด้านพุทธิพิสัย
1. บอกความหมายของคาต่าง ๆ ในเนื้อเรื่องได้ถูกต้อง
2. บอกขั้นตอนของการตอนกิ่งไม้ได้
3. บอกหลักการบวกลบเศษส่วนแท้
4. แปลความหมายของกลุ่มคาที่เป็นสานวนภาษาไทยได้
5. คาดหมายผลเสียที่เกิดจากการทาลายป่าไม้ได้
6. แก้ไขคาที่ผิดในประโยคข้อความให้ถูกต้องได้
7. ดัดแปลงสูตรอาหารคาวแบบใหม่ที่น่ารับประทานได้
46. สร้าง ประดิษฐ์ ผสม ผนึก เย็บ ปะ แต่ง ซ่อมแซม ห่อ
เลื่อย ทา เล่น ใช้เครื่องมือ แสดงท่าทาง รา ร้อง
เลียนแบบ ออกเสียง วาดภาพ ฯลฯ
พฤติกรรมด้านทักษะพิสัย