งานนำเสนอการสืบค้นความหลากหลายทางพันธุกรรมของพืชในสวนพฤกษศาสตร์ รายวิชาชีววิทยา 6 (ว 30246) ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560ของนักเรียนม.6ห้อง126โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ครูผู้สอน นายวิชัย ลิขิตพรรักษ์ ตำแหน่งครู คศ.1 เอกวิชาชีววิทยา กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ประวัติการศึกษา : พ.ศ. 2549 วิทยาศาสตรบัณฑิต (เกรียตินิยมอันดับ 2) สาขาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล พ.ศ. 2551 ศึกษาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาศึกษาศาสตร์ เอกเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช พ.ศ. 2552 ประกาศนียบัตรบัณฑิตวิชาชีพครู คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต พ.ศ. 2555 สาธารณสุขศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาวิทยาศาสตร์สุขภาพ เอกสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช พ.ศ. 2558 ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการประเมินและการวิจัยทางการศึกษา เอกวิจัยทางการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง

1. งานนาเสนอการสืบค้นความหลากหลายทางพันธุกรรมของพืชสวน
พฤกษศาสตร์โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา
รายวิชาชีววิทยา 6 (ว 30246) ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560
ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 แผนการเรียนวิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์ ห้อง 126
กลุ่ม 4
พืชที่นาเสนอ คือพืช Family SAPOTACEAE จานวน 15 ชนิด

2. นำเสนอ
นำยวิชัย ลิขิตพรรักษ์
ครู คศ.1 สำขำวิชำชีววิทยำ
กลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์

3. สมำชิกกลุ่ม 4
1. นำยชวกรณ์ สโมสร ชั้น ม.6 ห้อง 126 เลขที่ 30
2. นำยนำมภูมิ ศิริคติธรรม ชั้น ม.6 ห้อง 126 เลขที่ 37
3. นำยพณภูมิ ตวงสุวรรณ ชั้น ม.6 ห้อง 126 เลขที่ 38
4. นำยภูริญ สุขพณิชนันท์ ชั้น ม.6 ห้อง 126 เลขที่ 39
5. นำยวิชญ์รัชญ์ พันธุ์อุดม ชั้น ม.6 ห้อง 126 เลขที่ 41

4. รูปภำพสมำชิกในกลุ่ม

5. คำนำ
เนื่องจากในภาคเรียนนี้ทางโรงเรียนได้มีการจัดการเรียนการสอนวิชาชีววิทยาเกี่ยวกับ
เรื่องวิวัฒนาการและความหลากหลายทางชีวภาพ กลุ่มของพวกเราจึงได้เล็งเห็นความสาคัญ
ในการที่จะสามารถอธิบายองค์ประกอบของความหลากหลายทางชีวภาพรวมไปถึงการ
ตระหนักรู้ถึงคุณค่าของความหลากหลายทางชีวภาพ กลุ่มของพวกเราจึงเลือกศึกษาจาก
พรรณไม้ที่อยู่ในโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาว่าวงศ์ของพรรณไม้นี้มีวิวัฒนาการร่วมกันอย่างไร
รวมไปถึงสรรพคุณต่างๆที่พิเศษในแต่ละพรรณไม้เพื่อแสดงถึงความหลากหลายทางชีวภาพ
ของพืชในวงศ์นี้
คณะผู้จัดทา
1 มกราคม 2561

6. สำรบัญ
1.พิกุล 9.โกงกางบก
2.เกด 10.ตานเสี้ยน
3.ตานนม 11.ขนุนนก
4.ละมุด 12.เดือยไก่
5.ลูกน้านม 13.มะซาง
6.ม่อนไข่ 14.จิกนม
7.ต้นอาร์กัน 15.จิกเขา
8.ต้นอะบิว

7. พิกุล
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Minusops elengi L.
ชื่อพ้อง : Minusops elengi L. ; var parvifolla (R.Br) H.J.Lam.
ชื่อสามัญ : Bullet wood
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์:
ไม้ต้น (T) สูงประมาณ 8-15 เมตร เปลือกต้นสีเทาปนดา แตกเป็นร่องลึกและเป็นสะเก็ด
เปลือกในเป็นเส้นใยนุ่ม สีชมพู ลาต้นและกิ่งมักคดงอเป็นปุ่มปม ไม้ผลัดใบ เรือนยอดสีเขียว
เข้มรูปเจดีย์เป็นพุ่มกลมแน่นทึบ
ใบ เป็นใบเดี่ยว ออกเรียงสลับกัน ลักษณะใบรูปขอบขนานแกมรูปไข่กลับ ปลายใบแหลม
โคนใบมน ขอบใบเรียบ เนื้อใบหนากรอบ ผิวใบเรียบมัน ใบมีสีเขียวเข้ม
ดอก ออกดอกเดี่ยวหรือออกเป็นกระจุกครั้งละ 2-6 ดอก ตามส่วนยอดและซอกใบ ดอกย่อยมี
สีขาวปนเหลือง กลิ่นหอม กลีบเลี้ยงมี 8 กลีบ แบ่งเป็น 2 ชั้น กลีบดอกประมาณ 24 กลีบ ออก
ดอกเกือบตลอดปี
ผล ลักษณะรูปไข่กว้าง 1.5 ซม. ยาว 2.5 ซม. ผลสุกมีสีส้ม รสหวาน และมักมีเมล็ดเดียว

8. พิกุล
สรรพคุณ: ตารายาไทย ดอก มีกลิ่นหอมเย็น ใช้แต่งกลิ่นเครื่องสาอาง เข้ายา
หอม ยานัตถุ์แก้ลม แก้ไข้บารุงหัวใจ แก้ปวดหัว แก้เจ็บคอ แก้ร้อนใน ฝาด
สมาน แก้ท้องเสีย บารุงโลหิต แก้ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ดอกพิกุลตาม
สรรพคุณยาไทย จัดเข้าเครื่องยาพิกัดเกสรทั้ง 5 หรือใช้ผสมกับดอกไม้อื่น ที่
มีกลิ่นหอมเพื่อทาบุหงา ผลดิบและเปลือก ฝาดสมาน แก้ไข้แก้ท้องเสีย
เปลือกต้น รสฝาด ใช้ปรุงเป็นยาแก้เหงือกอักเสบ ใบ รสเบื่อฝาด แก้กามโรค
แก้หืด ฆ่าพยาธิ เมล็ด ช่วยขับปัสสาวะ รักษาท้องผูก ราก มีรสขมเฝื่อน เข้า
ยาบารุงโลหิต แก้เสมหะ แก้ลม แก่น มีรสขมเฝื่อน เข้ายาบารุงโลหิต ยาแก้
ไข้ขอนดอก เป็นเครื่องยาไทย อาจได้จากต้นพิกุลหรือตะแบกต้นแก่ๆ มีเชื้อ
ราเจริญเข้าไปในเนื้อไม้แต่โบราณว่าขอนดอกที่ได้จากต้นพิกุลจะมีคุณภาพ
ดีกว่า ขอนดอกมีกลิ่นหอม รสจืด มีสรรพคุณบารุงตับ ปอด และหัวใจ บารุง
ทารกในครรภ์ (ครรภรักษา) ทาให้หัวใจชุ่มชื่น
ผู้รับผิดชอบ : นายพณภูมิ ตวงสุวรรณ

9. เกด
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Manikara hexandra Dub.
ชื่อพ้อง : Mimusops hexandra Roxb.
ชื่อสามัญ : Milkey Tree
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : ไม้ต้นขนาดใหญ่ มีน้ายางขาว ลาต้น เปลาค่อนข้างตรง เปลือกแตก
ร่อนเป็นสะเก็ดสีดา เนื้อไม้สีน้าตาลแดง เหนียว แข็งมาก กิ่งมักคดงอเป็นข้อศอก ไม่ผลัดใบ ถ้าต้น
ยังเล็กอยู่ ปลายกิ่งและกิ่งจะมีลักษณะคล้ายหนามขนาดใหญ่และมีใบออกที่ปลายกิ่ง ใบ เดี่ยว ออก
เวียนสลับ รูปไข่กลับ ใบจะเรียวสอบมาทางโคนใบ ผิวใบด้านบนเป็นมัน ผิวใบด้านล่างมีคราบขาว
เส้นใบจะนานกันและค่อนข้างถี่ เนื้อใบหนา ดอก ช่อ ออกเป็นกระจุก 3-5 ดอก ตามใบ ดอกสีเหลือง
อ่อน มีกลิ่นหอม ผล กลมรี โดยประมาณ 1-1.5 เซนติเมตร สุกสีเหลืองแสด ผลรับประทานได้รส
หวาน
สรรพคุณ : ผล กินเป็นยาฝาดสมาน และบารุงกาลัง , ผลและเมล็ด ทาให้ผิวหนังอ่อนนุ่ม , เมล็ด
บรรเทาอาการระคายเคือง รักษาแผลเปื่อย และแผลพุพอง , เปลือก เป็นยาแก้เลือดออกตามไรฟัน
แก้เหงือกอักเสบ แก้ไข้เป็นยาฝาดสมาน และเป็นยาต้านพิษ
ผู้รับผิดชอบ : นายพณภูมิ ตวงสุวรรณ

10. ตานนม
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Xantolis cambodiana (Pierre ex Dubarb) P.Royen
ชื่อท้องถิ่น : หมากกะทันช้าง,มะตันดง,หมากมา,หมากคอม,หนามตะคอง,อังโกรง
ชื่อสามัญ : ตะครอง,นมนาง
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ :
เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง เกิดตามป่าโปร่งทั่วไป ทางภาคเหนือและภาคอีสาน ใบเป็น
ลักษณะใบเดี่ยว รูปไข่ยาว ปลายใบแหลม ผิวใบและขอบใบเรียบ เนื้อใบค่อนข้างหนา ดกหนาทึบ
ดอกเป็นดอกสีขาวออกที่ซอกใบ ผลเป็นผลรูปไข่
สรรพคุณ :
เปลือกต้น รสฝาดมันเฝื่อน บารุงน้านม เสริมน้านม แก้ร้อนใน แก้ไข้หัว
เนื้อไม้และราก รสขมเย็น ระงับความร้อน แก้ไข้พิษ แก้ไข้หัว เหือด หัด สุกใส ดาแดง
ราก รสเฝื่อนเย็น แก้คลื่นเหียนอาเจียน แก้เจ็บหลังเจ็บเอว
ใบ รสเฝื่อนเย็น ตาผสมน้าทาหรือพ่น แก้ร้อนภายใน
ลูก รสเฝื่อนเย็น ต้มเอาน้ารับประทานแล้วอาบ แก้ซาง แก้เด็กตัวร้อน
ผู้รับผิดชอบ : นายพณภูมิ ตวงสุวรรณ

11. ละมุด
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Manilkara zapota
ชื่อท้องถิ่น เช่น ชวานิลอ
ชื่อสามัญ : Zapote , Sapodilla
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : ละมุดเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง เป็นพุ่มทึบ กิ่งก้าน
แตกออกรอบลาต้นเป็นชั้น ๆ ใบเดี่ยว ท้องใบมีสีน้าตาลอมเขียว มักออกเป็น
กระจุก ตามปลายกิ่ง ดอกเดี่ยว ออกตามง่ามกิ่ง กลีบรองดอกเรียงกัน เป็น 2 ชั้น
กลีบดอกเชื่อมกันและยกตั้งขึ้น มี 6 กลีบ มีสีเหลืองนวล ผลรูปไข่ หรือรูปปลาย
ข้างหนึ่งแหลมเล็กน้อย มีสีน้าตาล ผลยังไม่สุกมียางสีขาว รสฝาด แข็ง เมื่อสุกจะ
นิ่ม หวาน ไม่มียาง มีเมล็ดรูปยาว รี ผิวสีดาฝังอยู่ในเนื้อ ผลละ 2-6 เมล็ด
สรรพคุณ : ผลมีรสหวานหอมนิยมรับประทานเป็นอาหารว่างมีน้าตาลสูง
ประกอบไปด้วย วิตามินเอและซี ธาตุแคลเซียม ฟอสฟอรัส
ผู้รับผิดชอบ : นายนามภูมิ ศิริคติธรรม

12. ลูกน้านม
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Chrysophyllum cainito
ชื่ออื่นๆ เช่น แพรตึกเดาะ
ชื่อสามัญ : cainito, caimito, star apple, golden leaf tree
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : เป็นไม้ยืนต้น ใบเดี่ยว ยาวรี หน้าใบเป็นมัน
เขียวเข้ม หลังใบเป็นสีแดง เป็นมัน ดอกออกเป็นช่อ ตามซอกใบ สีเขียว
อมเหลือง หรือชมพูอมขาว กลิ่นหอม ผลทรงกลม มีทั้งพันธุ์สีเขียว พันธุ์
สีเหลืองและพันธุ์สีม่วงแดง พันธุ์เปลือกเขียว เนื้อสีขาวส่วนพันธุ์เปลือก
ม่วง เนื้อสีขาวอมม่วง รสหวานหอม เมล็ดสีน้าตาลอ่อน กินเป็นผลไม้สด
สรรพคุณ : ผลของลูกน้านมมีสารต้านอนุมูลอิสระ เปลือกต้นเป็นยาบารุง
และยาชูกาลัง ยาต้มจากเปลือกใช้เป็นยาแก้ไอ
ผู้รับผิดชอบ : นายนามภูมิ ศิริคติธรรม

13. ม่อนไข่
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Pouteria campechiana
ชื่ออื่นๆ เช่น ลูกท้อพื้นบ้าน ท้อเขมร ทิสซา
ชื่อสามัญ : Canistel, Egg fruit, Tiesa, Yellow sapote
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง ใบบาง มัน
เรียวแหลม ลาต้นมียางสีขาว ก้านอ่อนเป็นสีน้าตาล ดอกสีครีม มี
กลิ่นหอม ผลสุกสีเหลืองอ่อน เปลือกบาง เนื้อผลสีเหลืองสด เหนียว
คล้ายแป้งทาขนม ภายในผลมีเมล็ดขนาดใหญ่ รสหวาน เนื้อผลนิ่ม
คล้ายไข่แดง
สรรพคุณ : ผลสุกใช้รักษาโรคเลือดออกตามไรฟัน เมล็ดใช้รักษา
แผลเน่าเปื่อย เปลือกต้นรักษาอาการไข้ตัวร้อน ผื่นคัน
ผู้รับผิดชอบ : นายนามภูมิ ศิริคติธรรม

14. ต้นอาร์กัน / อาร์แกน
ชื่อวิทยาศาสตร์: Argania spinosa
ชื่อสามัญ : Argan Oil
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : ลาต้นแผ่ขยายมีหนาม ลักษณะตะปุ่มตะป่ า สูง
ประมาณ 9 เมตร มีใบเล็กรูปกลมเรียงติดกัน ดอกมีลักษณะเล็กสีเหลือง
เขียว ผลมีเปลือกหนาแข็งอุ้มน้ามันสีเขียวอ่อน เมื่อแก่มีสีน้าตาล
สรรพคุณ: ผลสามารถสกัดน้ามันมาใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น โลชั่น
ทาผิว ผลิตภัณฑ์บารุงเส้นผม นอกจากนี้ยังช่วยบารุงมือ เท้า เล็บ กันริม
ฝีปากแห้งกร้าน
ผู้รับผิดชอบ: นายชวกรณ์ สโมสร

15. ต้นอะบิว
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Pouteria caimito
ชื่อสามัญ : yellow star apple
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : ต้นสูง 10 เมตร ใบมีลักษณะรี เปลือกสี
น้าตาลเทาเรียว ดอกเป็นดอกเดี่ยวหรือออกดอกเป็นกลุ่มย่อย ดอก
อวบสีครีม ผลสีเหลืองออกเขียว ออกผล 100 ถึง 1000 ลูกต่อปี
สรรพคุณ : ผลมีรสชาติหวานนิยมนามาผสมในไอศกรีมหรือสลัด
เพื่อเพิ่มรสชาติ
ผู้รับผิดชอบ : นายชวกรณ์ สโมสร

16. ต้นโกงกางบก
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Pouteria obovate
ชื่อสามัญ : ราไซ พังกาบก สันขวาน
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : ไม้ยืนต้น เปลือกต้นสีเทาแดงทรงพุ่ม
เป็นทรงกรวย ใบเดี่ยว ไม่ผลัดใบ ผิวใบเรียบมันสีเขียว ก้านใบสี
น้าตาลอมแดง ดอกช่อกระจุกขนาดเล็ก ผลเดี่ยวกลมรีมีขั้ว
เล็กน้อย สีเขียวเป็นมัน กลีบเลี้ยงติดทนกับผล มีเมล็ดเดียว
สรรพคุณ: นาใบมาบดใช้พอกรักษาอาการปวดศีรษะ
ผู้รับผิดชอบ: นายชวกรณ์ สโมสร

17. ตานเสี้ยน
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Xantolis burmanica (Collett & Hemsl.) P. Royen
ชื่อสามัญ : ตานเสี้ยน
ชื่อพื้นเมือง :นมพระสี มะนมนาง
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ :ไม้ต้นขนาดกลาง ใบเดี่ยว เรียงตรงข้าม
ดอกออกเป็นช่อสีเหลือง ผลสีเหลือง
สรรพคุณ : เปลือกต้นและเนื้อไม้รสจืดเบื่อเมาเล็กน้อย แก้เสมหะ
แก้อุจจาระธาตุพิการเป็นฟองเป็นเมล็ดสีเขียว ขาว เป็นเสมหะ แก้
ตานซาง แก้ตานขโมย
ราก รสจืดเบื่อเมา ขับพยาธิทุกชนิด แก้พิษตานซาง กล่อมอาจม
แก้อุจจาระธาตุพิการเป็นสีต่างๆ
ผู้รับผิดชอบ : นายภูริญ สุขพณิชนันท์

18. ขนุนนก
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Palaquium obovatum
ชื่อพื้นเมือง :ซาง, เตียวพรุ, ยักเต็ง, ยือราโก๊ะ, ยาตู
ชื่อสามัญ :ขนุนนก
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : ไม้ยืนต้น ใบเดี่ยว ดอกช่อตามซอก
ใบและกิ่งก้าน ผลเดี่ยวสีน้าตาล
สรรพคุณ: ยางจากลาต้น-สามารถนามาใช้เป็นส่วนประกอบ
ในอุตสาหกรรมทาสารหุ้มสายเคเบิลใต้น้า หรือทาเป็นลูก
กอล์ฟได้
เนื้อไม้-มีความแข็งแรงทนทาน สามารถนามาใช้ในการ
ก่อสร้างอาคารบ้านเรือนได้
ผู้รับผิดชอบ : นายภูริญ สุขพณิชนันท์

19. เดือยไก่
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Madhuca thorelii (Dubard) H.J.Lam
ชื่อสามัญ : เดือยไก่
ชื่อพื้นเมือง : บักเดือยไก่ เดือยไก่ ปาเกี้ยม สะกา กุ่ม
ลักษณะทางพันธุศาสตร์: ไม้ยืนต้น ใบเดี่ยวสีเขียวเข้ม
ดอกช่อ ผลสีเหลือง
สรรพคุณ : ราก จะมีรสขมเมาปร่า ใช้รักษาพิษฝีภายใน
รักษาโรคไตพิการ รักษากษัย และปัสสาวะพิการ
ผู้รับผิดชอบ : นายภูริญ สุขพณิชนันท์

20. มะซาง
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Madhuca pierrei (William) H.J. Lam.
ชื่อสามัญ : ซาง ,มะเค็ด ,มะซาง
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ :
ไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่สูง 15-25 เมตร ไม่ผลัดใบ ลาต้นเปลาตรง
เปลือกต้นสีน้าตาลดา แตกเป็นสะเก็ดสี่เหลี่ยมและเป็นร่องลึก ใบเดี่ยว เรียง
สลับ รูปไข่กลับ กว้าง 5-10 ซม. ยาว 12-21 ซม. โคนใบสอบ ปลายใบป้าน
เนื้อใบหนา ผิวใบเกลี้ยง ท้องใบมีขนสีเทา ดอกช่อออกเป็นกระจุกที่ปลายกิ่ง
กลีบดอกสีขาวนวล ผลสด รูปทรงกลม เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 3 ซม.
สรรพคุณ : ตาราสรรพคุณยาโบราณว่า แก่นมะซางมีรสหวานเย็น มีสรรพคุณ
แก้คุดทะราด แก้เสมหะ แก้โลหิต แก้กาเดา ,ดอกมีกลิ่นหอมรสเย็น เป็นยาชู
กาลัง ทาให้หัวใจชุ่มชื่น ส่วนรากมีรสหวานเย็น มีสรรพคุณแก้โลหิตและ
กาเดา
ผู้รับผิดชอบ : นายวิชญ์รัชญ์ พันธุ์อุดม

21. จิกนม
ชื่อวิทยาศาสตร์: Barringtonia macrostachya (Jack) Kurz
ชื่อสามัญ : จิกนม
ชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ : นมยาน (หนองคาย), จิกนุ่ม (นครศรีธรรมราช), จิก (ภาคใต้)
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์: ลาต้นเป็นไม้ต้น ขนาดเล็กจนถึงขนาดกลาง แตกกิ่งก้านสาขาออกรอบต้น แต่ก็ไม่
มากนัก ลาต้นสูงประมาณ 4-20 เมตร ใบเป็นใบเดี่ยวออกเรียงสลับกันไปตามข้อต้น ลักษณะของใบเป็นรูป
ยาวรี ปลายใบ และโคนใบแหลม ขอบใบมีจักเล็กๆ ทั่วทั้งใบ เนื้อใบบางคล้ายกรดาษมีสีขาวใบกว้าง
ประมาณ 2.5-3 นิ้ว ยาว 6-9 นิ้ว ก้านใบยาว 1-3 นิ้ว ดอกออกเป็นช่อยาวอยู่ตรงส่วนยอดของต้น ลักษณะของ
ช่อดอกจะห้อยช่อ ยาวประมาณ 9-18 นิ้วในแต่ละช่อนั้นจะประกอบด้วยดอกเป็นจานวนมาก ดอกสีชมพูเข้ม
สีแดงหรือสีเขียวขอบแดง มีอยู่ 4 กลีบมีเกสรเป็นจานวนมากอยู่ใน ดอก กลีบรองดอกจะเชื่อมติดกันเป็นรูป
ถ้วย ผลเป็นรูปมนรี และจะมีสันอยู่ 4 สันตามแนวยาว ผลมีสีเขียวกว้างประมาณ 1-1.5 นิ้วยาว 2-3.5 นิ้ว
ภายในผลจะมีเมล็ดเป็นรูปไข่
สรรพคุณ :รากนามาล้างให้สะอาด แล้วตากให้แห้ง นามาบดให้เป็นผงใช้ทาแก้ขี้กลาก (ราก)
ผงจากรากใช้เป็นยาแก้ตาเจ็บ (ราก) ใบนาไปตากให้แห้ง แล้วนามาต้มกับน้าดื่มเป็นยารักษาโรคแก้ปวดท้อง
(ใบ)
ผู้รับผิดชอบ : นายวิชญ์รัชญ์ พันธุ์อุดม

22. จิกเขา
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Barringtonia pendula King.
ชื่ออื่น : ตองหมอง
ชื่อสามัญ : จิกเขา
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ :จิกเขา เป็นไม้ยืนขนาดเล็กสูงประมาณ 5 – 13 เมตร
ใบจิกเขา ใบใหญ่ยาวเรียวคล้ายชมพู่ ใบโตประมาณ 3 นิ้วมือ ยอดอ่อนมีสีชมพูปนเขียว
ดอกจิกเขา ดอกออกเป็นช่อห้อยยาว เกสรสีแดงปลายมีสีเหลือง
สรรพคุณ:ราก รสขม แก้หวัด ขับเสมหะ ,เปลือกต้น ร้อนเมา สมานแผล แก้ไข้ปวดท้อง
เนื้อไม้รสขื่น ขับระดูขาว ,ใบ รสฝาดมัน แก้ท้องร่วง ,เมล็ด รสร้อน แก้จุกเสียด
ผู้รับผิดชอบ : นายวิชญ์รัชญ์ พันธุ์อุดม

23. บรรณานุกรม
 http://www.dnp.go.th/flora/plant_pages.php?varname=144
 https://www.samunpri.com/%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8
%B5%E0%B9%89%E0%B8%A2%E0%B8%99/
 http://www.vichakaset.com/%E0%B8%82%E0%B8%99%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B8%
81/
 file:///C:/Users/Administrator/Downloads/Dueikai_CS15.pdf
 www.wikipedia.org
 www.puechkaset.com
 www.medthai.com
 www.vichakaset.com

24. Thank you for your attention!!!
The end