Plant ser 125_60_10
•
0 likes•390 views
งานนำเสนอการสืบค้นความหลากหลายทางพันธุกรรมของพืชในสวนพฤกษศาสตร์ รายวิชาชีววิทยา 6 (ว 30246) ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560ของนักเรียนม.6ห้อง125โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ครูผู้สอน นายวิชัย ลิขิตพรรักษ์ ตำแหน่งครู คศ.1 เอกวิชาชีววิทยา กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ประวัติการศึกษา : พ.ศ. 2549 วิทยาศาสตรบัณฑิต (เกรียตินิยมอันดับ 2) สาขาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล พ.ศ. 2551 ศึกษาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาศึกษาศาสตร์ เอกเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช พ.ศ. 2552 ประกาศนียบัตรบัณฑิตวิชาชีพครู คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต พ.ศ. 2555 สาธารณสุขศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาวิทยาศาสตร์สุขภาพ เอกสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช พ.ศ. 2558 ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการประเมินและการวิจัยทางการศึกษา เอกวิจัยทางการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
Recommended
More Related Content
What's hot
What's hot (20)
Similar to Plant ser 125_60_10
Similar to Plant ser 125_60_10 (20)
More from Wichai Likitponrak
More from Wichai Likitponrak (20)
Plant ser 125_60_10
- 1. งานนาเสนอการสืบค้นความหลากหลายทางพันธุกรรม ของพืชในสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา มัธยมศึกษาปีที่ 6 ห้อง 125 กลุ่ม10 งานนาเสนอเป็นส่วนหนึ่งของรายวิชาชีววิทยา 6 (ว 30246)
- 2. นาเสนอ ครู วิชัย ลิขิตพรรักษ์ ครู คศ. 1 สาขาวิชาชีววิทยา กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
- 3. สมาชิกในกลุ่ม (ลาดับจากซ้ายไปขวา) นายพงศธร สัมมาวิวัฒน์ เลขที่ 35 นายกิตติพัฑฒ์ จรณโยธิน เลขที่ 26 นายณัชพล นาควิจิตร เลขที่ 32 นายธนดล สิริจันทกุล เลขที่ 33
- 4. คานา สืบเนื่องจากโครงงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนเรื่องการทดลอง ฮอร์โมนพืชใน ภาคเรียนที่หนึ่ง กลุ่มของข้าพเจ้าได้ทาการสืบค้นข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับพืชในวงศ์ของพุ ด ซ้อน (family RUBIACEA) เพื่อให้ได้ความรู้เพิ่มเติมในส่วนที่สาคัญได้แก่ ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ และสรรพคุณ โดยได้สืบค้นพืชจานวน 12 ชนิดแล้วรวบรวม เป็ นงานนาเสนอนี้ กลุ่มของข้าพเจ้าหวังเป็ นอย่างยิ่งว่างานนาเสนอนี่จะให้ความรู้เกี่ยวกับ พืชในวงศ์ของพุ ดซ้อนแก่ผู้ที่สนใจไม่มากก็น้อย
- 7. ยอ ■ ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : เป็นไม้พุ่มหรือไม้ยืนต้น อาจสูงได้ถึง 10 เมตร หูใบรูปไข่ ใบรูปรีหรือ รูปไข่ ปลายแหลมเรียวหรือมน โคนแหลมหรือเรียวสอบ เส้นแขนงใบข้างละ 5-7 เส้น มักมีตุ่มใบ เป็นขน ก้านใบยาว 0.5 - 3.5 เซนติเมตร ก้านช่อยาว 1 - 1.5 เซนติเมตร บางครั้งมีแผ่นคล้ายใบ ประดับสีขาว 1 - 3 ใบ รูปรี ยาว 0.5 - 1.5 เซนติเมตร ดอกรูปแตรแคบ ๆ หลอดกลีบดอกดอก ยาว 0.8-1.5 เซนติเมตร ด้านในมีขนหนาแน่น มี 5-6 กลีบ รูปใบหอกแกมรูปไข่ ช่อผลแก่สีขาว รูปไข่หรือกลม เส้นผ่านศูนย์กลาง 2.5-5 เซนติเมตร ผลย่อยจานวนมากเชื่อมติดกัน ■ ประโยชน์และสรรพคุณต่าง ๆ : ใบและผลมีสรรพคุณหลายอย่าง โดยเฉพาะนาลูกยอที่เรียกว่า noni juice เชื่อว่ามีสรรพคุณรักษาโรคมะเร็งได้
- 9. กระท่อม ■ ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : เป็นไม้ต้น สูงได้ถึง 25 เมตร หูใบรูปหอก ยาวได้ถึง 4 เซนติเมตร ใบ รูปรีหรือรูปไข่ เส้นใบย่อยแบบขั้นบันได ช่อดอกแบบกระจุกแน่นออกเดี่ยว ๆ ที่ปลายกิ่ง ใบ ประดับรูปช้อนหุ้มกลีบเลี้ยง ยาว 4-6 มิลลิเมตร หลอดกลีบยาวประมาณ 2 มิลลิเมตร ดอกรูปเข็ม สีชมพู หลอดกลีบยาวประมาณ 5 มิลลิเมตร กลีบยาวประมาณ 3 มิลลิเมตร รังไข่เกลี้ยง ยอดเกสร รูปกระบอง ยาว 1-2 มิลลิเมตร ผลรวมแข็งเส้นผ่านศูนย์กลาง 2-3 เซนติเมตร ผลย่อยรูปรี ยาว 7- 9 มิลลิเมตร เมล็ดรูปรี ยาวประมาณ 1 มิลลิเมตร มีปีกบางที่ปลายทังสองด้าน ■ ประโยชน์และสรรพคุณต่าง ๆ : ใบกระท่อมมีสารเสพติด มีฤทธิ์ทาให้เคลิบเคลิม เคียวใบสดหรือ สูบใบแห้ง มีผลทาให้กระปรีกระเปร่า ทนแดดและฝน
- 11. ข้าวตอก ■ ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : ไม้พุ่ม สูงเกือบถึง 1 เมตร หูติดก้านใบ รูปสามเหลี่ยมขนาดเล็ก ปลายมีขนแข็ง ใบเรียงตรงข้าม รูปรี รูปไข่ หรือแกมรูปขอบขนาน เส้นแขนงข้างใบข้างละ 2-4 เส้น ช่อดอกแบบช่อกระจุกแน่น ออกตามปลายกิ่ง มักมีดอกเดียว ไร้ก้าน ใบประดับรูปลิ่มแคบ กลีบเลี้ยงและกลีบดอกจานวนอย่างละ 4-6 กลีบ กลีบเลียงรูปสามเหลี่ยมแคบ ขยายในผลคล้าย หนาม ดอกรูปแตร สีขาวหรืออมชมพู หลอดกลีบดอกยาว 4-8 มิลลิเมตร ด้านในมีขน รังไข่ใต้วง กลีบ มี 2 ช่อง แต่ละช่องมีโอวุล 1 เม็ด เกสรเพศเมียมีทังแบบสันและแบบยาว ยอดเกสรเป็น 2 พู ผลแห้งคล้ายผลผนังชั้นในแข็ง เปิดด้านบน เส้นผ่านศูนย์กลาง 2-3 มิลลิเมตร มี 2 ไพรีน ■ ประโยชน์และสรรพคุณต่าง ๆ : นิยมทาเป็นไม้แคระ ไม้พุ่มรัว มีทังกลีบซ้อนและใบด่าง ไม่ติดผล ใบขยีมีกลิ่นเหม็นคล้ายพืชในสกุล Paederia และ Leptodermis
- 13. มะคังแดง ■ ลักษณะทางพันธุศาสตร์: เป็นไม้พุ่มกึ่งไม้ยืนต้นขนาดเล็ก มีความสูงของต้นประมาณ 6-12 เมตร ใบดกหนาทึบ เปลือกลาต้นและกิ่งก้านเป็นสีนาตาลแดงเข้ม มีขนนุ่มคล้ายกามะหยี่สี นาตาลแดงขึนปกคลุมทั่วไป ตามโคนต้น ลาต้น และกิ่งมีหนามขนาดใหญ่โดยรอบ ■ สรรพคุณ: - เนือไม้ใช้ทาหน้าไม้สาหรับล่าสัตว์ ทาเครื่องมือทางการเกษตร
- 15. แก้มขาว ■ ลักษณะทางพันธุศาสตร์: ไม้พุ่ม สูง 1-2 เมตร ใบ เป็นใบเดี่ยว ดอก รูปปรี กว้าง 4-5 ซม. ยาว 5-8 ซม. ปลายแหลม มีหูใบชัดเจน ดอกสีเหลืองสดถึงเหลืองส้ม ออกเป็นช่อสัน ๆ ที่ปลายกิ่ง กลีบเลียง ส่วนโคนเชื่อมกันเป็นรูปถ้วย ปลายแยกเป็น 5 แฉก กลีบดอกเป็นหลอดยาวประมาณ 2 ซม. เกสรตัว ผู้ 5 อัน อยู่ในหลอดดอก ผลรูปไข่ขนาดเล็ก เมล็ดจานวนมาก ■ สรรพคุณ: - เปลือก เนือไม้ และเหง้าแก้มขาว มีสรรพคุณเป็นยากระจายโลหิต - ใช้เป็นยาขับนานิ่วในไต
- 17. หัวร้อยรู ■ ลักษณะทางพันธุศาสตร์: ไม้พุ่ม อิงอาศัยบนคาคบของต้นไม้อื่น ลาต้นสูง 30-60 ซม. โคนต้นขยายใหญ่ เป็นรูปกลมป้อมสีนาตาลเทา ผ่านศูนย์กลาง 15-40 ซม. ภายในเป็นโพรงจานวนมาก มักเป็นที่ อาศัย ของมด ใบเดี่ยว เรียงตรงข้าม รูปรี กว้าง 2-5 ซม. ยาว 4-10 ซม. ปลายใบมน ดอก สีขาว ออกเป็น กระจุก 2-5 ดอก ตามซอกใบ ดอกย่อย ขนาดเล็ก 2-4 เมตร โคนกลีบดอกเชื่อมติดกัน ปลายกลีบแยก เป็น 4 แฉก ผล เป็นผลสดฉ่านา รูปรีถึงรูปไข่กลับ ผลแก่สีส้มถึงแดง ■ สรรพคุณ: - หัวใช้ตากินเป็นยาขับพยาธิ - ว่านหัวร้อยรูช่วยบารุงหัวใจ
- 19. เข็มแดง ■ ลักษณะทางพฤกษศาสตร์: ไม้พุ่ม ขนาดเล็กหรือขนาดกลาง สูง 0.3-5.0 ม. ใบ ใบเรียงตรงข้ามหรือเรียงรอบข้อ ใบเดี่ยว รูปหอก ปลายใบแหลม เนือใบหนาและแข็ง สีเขียวสด ก้านใบสันมากหรือไม่มีก้านใบ ดอกช่อออกรวมกันเป็นช่อใหญ่ที่ปลาย ยอดหรือกิ่งข้าง ดอกย่อยสีแดง กลีบดอกเชื่อมกันเป็นหลอดยาว ปลายหลอดกลีบแยกเป็น 4-6 กลีบ เกสรเพศผู้สี เหลือง 4 อัน ติดอยู่ที่หลอดดอกด้านบนและอยู่สลับกับกลีบ เกสรเพศเมียยื่นเลยหลอดดอก มี 2 แฉก ผล ผลกลม เนือนุ่ม ภายในมีเมล็ด 1 เมล็ด เมื่อสุกสีดา นิ่ม ■ สรรพคุณของเข็มแดง รากใช้เป็นยารักษาตาพิการ รากใช้เป็นยาแก้เสมหะและกาเดา รากใช้เป็นยาบรรเทาอาการบวม
- 21. เข็มป่า ■ ลักษณะของเข็มป่า ต้นเข็มป่า จัดเป็นไม้พุ่ม มีความสูงของต้นได้ถึง 5 เมตร ใบเข็มป่า ใบเป็นใบเดี่ยว ออกตรงข้ามแบบสลับกัน ลักษณะ ของใบเป็นรูปรี ปลายใบแหลม โคนใบสอบ ส่วนขอบใบเรียบ ดอกเข็มป่า ออกดอกเป็นช่อตัง โดยจะออกที่ปลายยอด ช่อดอกเป็น ช่อแบบหลวม ๆ ดอกย่อยเป็นสีขาวและมีกลิ่นหอม มีขนาดประมาณ 1.5-2.5 เซนติเมตร ผลเข็มป่า ลักษณะของผลเป็นรูปทรง กลมหรือแบนเล็กน้อย มี 2 พู ผลมีขนาดประมาณ 0.5-0.7 เซนติเมตร ผิวผลเรียบเกลียงและเป็นมัน เนือผลบาง ผลเป็นสีเขียวและ จะเปลี่ยนเป็นสีดาเมื่อแก่ ภายในผลมีเมล็ดสีนาตาล 2 เมล็ด ■ สรรพคุณของเข็มป่า ดอกมีรสฝาดเย็น ช่วยแก้ตาแดง ตาแฉะ เปลือกต้นมีรสเมาเบื่อ นามาตาคันเอาแต่นาใช้เป็นยาหยอดหูฆ่าแมงคาเข้าหู ใบใช้เป็นยารักษาโรคในจมูก ผลมีรสเมาเบื่อ เป็นยาแก้ริดสีดวงงอกในจมูก
- 23. เข็มเศรษฐี ■ ลักษณะของเข็มเศรษฐี ต้นเข็มเศรษฐี จัดเป็นพรรณไม้พุ่ม มีความสูงได้ประมาณ 2-4 เมตร แตกกิ่งก้านเป็นพุ่มเตีย ๆ ใบ เข็มเศรษฐี ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงตรงข้ามกัน ลักษณะของใบเป็นรูปรีแกมขอบขนาน ปลายใบแหลม โคน ใบมน ส่วนขอบใบเรียบ ดอกเข็มเศรษฐี ออกดอกเป็นช่อ โดยจะออกที่ปลายยอด ดอกย่อยเป็นสีแดง ผลเข็ม เศรษฐี ลักษณะของผลเป็นรูปทรงกลม ผิวผลเรียบ ผลอ่อนเป็นสีเขียว เมื่อสุกแล้วจะเปลี่ยนเป็นสีม่วงดา ภายในผลมีเมล็ด 1 เมล็ด ■ สรรพคุณของเข็มเศรษฐี รากใช้เป็นยาแก้โรคตา ใช้เป็นยาแก้เสมหะและกาเดา
- 25. พุดน้าบุษย์ ■ ลักษณะทางพฤกษศาสตร์: ไม้ต้น สูงได้ถึง 15 ม. ตรงยอดมีนายางเหนียวสีเหลือง มีขนสันนุ่มตามหูใบ แผ่นใบด้านล่าง และก้านใบ หูใบเชื่อมติดกันเป็นวงรอบกิ่ง ยาว 0.5-1 ซม. ร่วงเร็ว ทิงรอยชัดเจน ใบเรียง ตรงข้าม รูปรีถึงรูปขอบขนาน หรือแกมรูปไข่กลับ ยาว 10-30 ซม. ก้านใบยาว 0.5-1.2 ซม. ดอกออกเดี่ยว ๆ ที่ซอกใบใกล้ปลายกิ่ง ก้านดอกยาว 1-1.5 ซม. หลอดกลีบเลียงยาว 1-2 ซม. ปลายแยกเป็นแฉกตืน ๆ 5 แฉก แยกเกือบจรดโคนด้านเดียว ดอกสีเหลืองหรือขาว หลอดกลีบดอกยาว 5-7 ซม. ปลายแยกเป็น 5 กลีบ รูปไข่กลับ ยาว 3-5 ซม. เกสรเพศผู้ 5 อัน ติดใต้ปากหลอดกลีบดอกระหว่างกลีบดอก ไร้ก้านชูอับเรณู เกสรเพศเมียยื่นพ้นปากหลอดกลีบดอก ยอดเกสรรูปกระบอง ผลสดมีหลายเมล็ดรูปรี ยาว 2.5-5 ซม. มี 5- 6 สัน ■ สรรพคุณ: ใช้รากแก้ไข้ หรือใช้ใบตาพอกแก้อาการปวดศีรษะ
- 27. กาแฟใบใหญ่ ■ ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ลาต้น โดยธรรมชาติแล้วกาแฟมีลักษณะลาต้นตรงในระยะแรกของการเจริญเติบโตจะไม่แตกกิ่ง แต่มีใบแตก ออกตรงข้ออยู่ตรงข้ามกันเป็นคู่ ๆ มีการแตกกิ่งออกจากลาต้นในลักษณะที่แยกออกจากกันและอยู่ตรงข้ามกัน กิ่งที่แตกออกมาใหม่จะมีใบแตกออกเป็นคู่ ๆ อยู่ตรงข้อมีการแตกกิ่งออกจากตาของลาต้นอีกเป็นจานวนมาก ดอก ดอกกาแฟมีสีขาวบริสุทธิ์ กลิ่นหอมคล้ายมะลิป่า รูปคล้ายดาวมีก้านสัน ส่วนใหญ่ดอกกาแฟจะออกจากข้อ ของกิ่ง ดอกกาแฟเป็นดอกสมบูรณ์เพศมีทังเกสรตัวผู้และเกสรตัวเมียรวมอยู่ในดอกเดียวกัน เกสรตัวเมียจะมีอยู่ สองส่วน เกสรตัวเมียจะมีอยู่สองส่วน เกสรตัวผู้มีอยู่จานวนเท่ากับกลีบดอกคือประมาณ 2-4 อัน กาแฟบางพันธุ์ อาจจะมีการผสมพันธุ์ข้ามสายพันธุ์กันโดยง่ายหากอยู่ใกล้กัน เวลาการออกดอกของกาแฟขึนอยู่กับปริมาณนา ถ้าในท้องถิ่นที่มีฝนตกเป็นฤดู ดอกจะออกหลังจากฝนตกประมาณ 1 เดือน แต่ถ้าหากอากาศชุ่มชื่นอยู่ตลอดปี หรือมรการชลประทานเพียงพอออกดอกสม่าเสมอตลอดทังปี
- 28. กาแฟใบใหญ่ ผล แม้ว่าดอกกาแฟจดออกเป็นจานวนมากแต่การติดผลจะมีเพียง16-26% เมื่อกลีบดอกล่วงแล้ว กาแฟจะติดเป็นผลมีลักษณะคล้ายลูกหว้า ซึ่งภายในผลกาแฟแบ่งออกเป็นสองส่วน ส่วนยาวจะมีรูปโค้งเป็นรูป กระบอกตัด เมล็ดที่สุกจะมีสีนาตาลปนแดง เมล็ดกาแฟ เป็นส่วนที่อยู่ในกะลาซึ่งห่อหุ้มด้วยเยื่อบางๆส่วนเนือกาแฟที่ห่อหุ้มกะลาเมื่อสุกเต็มที่มี รสหวานเล็กน้อย ลักษณะเป็นยาวเหนียวๆ ผลกาแฟเมื่อสุกเต็มที่ปอกเอาเปลือกและเนือทิงนาเมล็ดกาแฟทัง กะลาไปตากแห้งจะเสียนาหนักไปประมาณ 7% และเมื่อกะเทาะเปลือกและเนือทิงนาเมล็ดกาแฟและกาแฟไป ตากแห้งจะเสียนาหนักไปประมาณ 14.78%
- 29. กาแฟใบใหญ่ ■ สรรพคุณ มีงานวิจัยหลายงานที่ระบุว่า เมล็ดกาแฟมีสารกาเฟอีนที่มีฤทธิ์กระตุ้นหัวใจและกระตุ้นประสาทส่วนกลาง ทาให้ร่างกายสดชื่น ขจัดความเซื่องซึมและอ่อนล้าได้ ปริมาณกาเฟอีนในกาแฟที่เหมาะสมสามารถช่วยลดอาการ หงุดหงิด อารมณ์ซึมเศร้า รวมถึงความเครียดได้ การดื่มกาแฟจึงทาให้ผู้ดื่มรู้สึกพึงพอใจและมีความสุข โดยมีรายงาน ผลวิจัยที่ระบุว่า ผู้ที่ดื่มกาแฟวันละ 2-3 แก้ว จะสามารถช่วยลดความเครียดได้ประมาณ 15% แต่ถ้าหากดื่มถึงวันละ 4 แก้ว ก็จะช่วยลดความเครียดได้ถึง 20% ช่วยลดความเสี่ยงของโรคอัลไซเมอร์ โดยมีงานวิจัยของมหาวิทยาลัยเซาท์ฟลอริดา ที่เปิดเผยว่าผู้ที่มีอายุ ล่วงเข้าสู่วัยกลางคน ควรดื่มกาแฟวันละ 4-5 แก้ว เพื่อช่วยเพิ่มระดับฮอร์โมน GCSF เนื่องจากฮอร์โมนชนิดนีสามารถ ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคอัลไซเมอร์ได้
- 31. ยอดิน ■ ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ไม้พุ่ม ลาต้นตังตรง ใบเดี่ยว ผิวใบด้านบนสีเขียวเข้มเรียบเป็นมัน ผิวใบด้านล่างสากมือเล็กน้อย ดอกช่อ ออกตามปลายยอด ดอกย่อยเป็นดอกสมบูรณ์เพศ กลีบดอกสีขาว เชื่อมติดกันเป็นหลอด ปลายแยกเป็น 5 กลีบ อับละอองเรณูสีเหลืองอ่อน ■ สรรพคุณ ใบ สดใช้ต้มนาดื่มหรือนามาบดตากแห้งชงเป็นชาดื่ม รวมถึงใส่แคปซูลรับประทาน ช่วยแก้กระษัย แก้ปวดเมื่อยตามข้อมือข้อเท้า รักษาวัณโรค แก้ท้องร่วง ลดไข้ แก้ไอ ขับเสมหะ แก้จุกเสียดแน่นท้อง แก้โรคเบาหวาน ป้องกันโรคในระบบหัวใจ และหลอดเลือด แก้โรคมะเร็ง แก้โรคเกาต์ ช่วยขับประจาเดือน แก้ อาการคลื่นไส้ วิงเวียนศีรษะ นอกจากนัน นาใบสดมาคันเอานามาสระผมฆ่าเหา นามาทารักษาแผล แผลติดเชือ เป็นหนอง ดอก ดอกใช้ต้มนาดื่มหรือนามาตากแห้งชงเป็นชาดื่ม แก้วัณโรค โรคเบาหวาน ป้องกันโรคหัวใจ และหลอดเลือด ต้านโรคมะเร็ง แก้ไอ ลดเสมหะ แก้ท้องร่วง ผล เนือผลมีรสเผ็ดร้อน มีสารออกฤทธิ์คือ asperuloside ใช้แก้อาเจียน ช่วยขับลมในกระเพาะอาหาร และลาไส้ ช่วยขับประจาเดือน แก้ประจาเดือนมาไม่ ปกติ ช่วยลดไข้ แก้ไอ ขับเสมหะ ช่วยเจริญอาหาร ช่วยขับนาคาวปลา แก้เสียงแหบแห้ง แก้ร้อนใน แก้กระษัย แก้อาเจียน แก้โรคเบาหวาน ลดนาตาลในเลือด ป้องกันโรคระบบหัวใจ และหลอดเลือด ป้องกันโรคมะเร็ง ส่วนเมล็ดใช้เป็นยาระบาย ราก รากนามาต้มหรือดองเหล้ารับประทานเป็นยาระบาย แก้กระษัย ช่วยเจริญอาหาร ใช้รักษาวัณโรค แก้โรคเบาหวาน ป้องกันโรคมะเร็ง โรคในระบบหัวใจ และหลอดเลือด
- 32. SUMMARY สรุป