More Related Content
More from SRINAKARIN MOTHER PRINCESS SCHOOL
More from SRINAKARIN MOTHER PRINCESS SCHOOL (20)
หมอลำ
- 1. คาว่า "ลา" มีความหมายสองอย่าง อย่างหนึ่งเป็ นชื่อของเรื่ อง อีกอย่างหนึ่งเป็ นชื่อของ การขับ
ร้องหรื อการลา ที่เป็ นชื่อของเรื่ องได้แก่เรื่ องต่าง ๆ
เช่น เรื่ องนกจอกน้อย เรื่ อง ท้าวก่ากาดา เรื่ องขูลู
นางอั้ว เป็ นต้น เรื่ องเหล่านี้โบราณแต่งไว้เป็ น
กลอน แทนที่จะเรี ยกว่า เรื่ องก็เรี ยกว่าลา กลอนที่
เอามาจากหนังสื อลา เรี ยกว่ากลอนลา
อีกอย่างหนึ่งหมายถึงการขับร้อง หรื อการลา การนาเอาเรื่ องในวรรณคดีอีสานมา ขับร้อง
หรื อมาลา เรี ยกว่า ลา ผูที่มีความชานาญในการขับร้องวรรณคดีอีสาน โดยการท่องจาเอากลอน
้
มาขับร้อง หรื อผูที่ชานาญในการเล่านิทานเรื่ องนั้น เรื่ องนี้ หลายๆ เรื่ องเรี ยกว่า "หมอลา"
้
วิวฒนาการของหมอลา
ั
ความเจริ ญก้าวหน้าของหมอลาก็คงเหมือนกับความเจริ ญก้าวหน้าของสิ่ งอื่นๆ เริ่ มแรก คง
เกิดจากผูเ้ ฒ่าผูแก่เล่านิทาน นิทานที่นามาเล่าเกี่ยวกับจารี ตประเพณี และศีลธรรม โดยเรี ยก
้
ลูกหลานให้มาชุมนุมกัน ทีแรกนังเล่า เมื่อลูกหลานมาฟังกันมากจะนังเล่าไม่เหมาะ ต้องยืนขึ้น
่ ่
เล่า เรื่ องที่นามาเล่าต้องเป็ นเรื่ องที่มีในวรรณคดี เช่น เรื่ องกาฬเกษ สิ นชัย เป็ นต้น ผูเ้ ล่าเพียงแต่
เล่า ไม่ออกท่าออกทางก็ไม่สนุก ผูเ้ ล่าจึงจาเป็ นต้องยกไม้ยกมือแสดงท่าทางเป็ น พระเอก
นางเอก เป็ นนักรบ เป็ นต้น
เพียงแต่เล่าอย่างเดียวไม่สนุก จึงจาเป็ นต้องใช้สาเนียงสั้นยาว ใช้เสี ยงสูงต่า ประกอบ
และหาเครื่ องดนตรี ประกอบ เช่น ซุง ซอ ปี่ แคน เพื่อให้เกิดความสนุกครึ กครื้ น ผูแสดง มี ้
เพียงแต่ผชายอย่างเดียวดูไม่มีรสชาติเผ็ดมัน จึงจาเป็ นต้องหา ผูหญิงมาแสดงประกอบ เมื่อ
ู้ ้
ผูหญิงมาแสดงประกอบจึงเป็ นการลาแบบสมบูร ณ์ เมื่อผูหญิงเข้ามาเกี่ยวข้องเรื่ องต่างๆ ก็ตามมา
้ ้
เช่น เรื่ องเกี้ยวพาราสี เรื่ องชิงดีชิงเด่น ยาด (แย่ง) ชูยาดผัวกัน เรื่ องโจทย์ เรื่ องแก้ เรื่ องประชัน
้
ขันท้า เรื่ องตลกโปกฮาก็ตามมา จึงเป็ นการลาสมบูรณ์แบบ
- 2. จากการมีหมอลาชายเพียงคนเดียวค่อยๆ พัฒนาต่อมาจนมีหมอลาฝ่ ายหญิง มีเครื่ อง ดนตรี
ประกอบจังหวะเพื่อความสนุกสนาน จนกระทังเพิ่มผูแสดงให้มีจานวนเท่ากับตัวละครที่มีใน
่ ้
เรื่ อง มีพระเอก นางเอก ตัวโกง ตัวตลก เสนา ครบถ้วน ซึ่ งพอจะแบ่งยุคของวิวฒนาการได้ดงนี้
ั ั
ลา
โบรา เป็ นการเล่านิทานของผูเ้ ฒ่าผูแก่ให้ลูกหลานฟัง ไม่มีท่าทาง และดนตรี ประกอบ
้
ณ
ลาคู่ เป็ นการลาที่มีหมอลาชายหญิงสองคนลาสลับกัน มีเครื่ องดนตรี ประกอบ คือ แคน การ
หรือ ลามีท้งลาเรื่ องนิทานโบราณคดีอีสาน เรี ยกว่า ลาเรื่ องต่อกลอน ลาทวย (ทายโจทย์)
ั
ลา ปัญหา ซึ่ งผูลาจะต้องมี ปฏิภาณไหวพริ บที่ดี สามารถตอบโต้ ยกเหตุผลมาหักล้างฝ่ าย
้
กลอน ตรงข้ามได้ ต่อมามีการเพิ่มผูลา ขึ้นอีกหนึ่งคน อาจเป็ นชายหรื อหญิง ก็ได้ การลาจะ
้
เปลี่ยนเป็ นเรื่ อง ชิงรัก หักสวาท ยาดชูยาดผัว เรี ยกว่า ลาชิงชู้
้
ลาหมู่ เป็ นการลาที่มีผแสดงเพิ่มมากขึ้น จนเกือบจะครบตามจานวนตัวละครที่มีในเรื่ อง มี
ู้
เครื่ องดนตรี ประกอบเพิ่มขึ้น เช่น พิณ (ซุง หรื อ ซึ ง) กลอง การลาจะมี 2 แนวทาง
คือ ลาเวียง จะเป็ นการลาแบบลากลอน หมอลาแสดง เป็ นตัวละครตามบทบาทในเรื่ อง
การดาเนินเรื่ องค่อนข้างช้า แต่ก็ได้อรรถรสของละครพื้นบ้าน หมอลาได้ใช้พรสวรรค์
ของตัวเองในการลา ทั้งทางด้านเสี ยงร้อง ปฏิภาณไหวพริ บ และความจาเป็ นที่นิยมใน
หมู่ผสูงอายุ ต่อมาเมื่อดนตรี ลูกทุ่งมีอิทธิพลมากขึ้นจึงเกิดวิวฒนาการของลาหมู่อีกครั้ง
ู้ ั
หนึ่ง กลายเป็ น ลาเพลิน ซึ่ งจะมีจงหวะที่เร้าใจชวนให้สนุกสนาน ก่อนการลาเรื่ อง
ั
ในช่วงหัวค่าจะมีการนาเอารู ปแบบของ วงดนตรี ลกทุ่งมาใช้เรี ยกคนดู กล่าวคือ จะมี
ู
่
นักร้อง (หมอลา) มาร้อง เพลงลูกทุงที่กาลังฮิตในขณะนั้น มีหางเครื่ องเต้นประกอบ
นาเอาเครื่ องดนตรี สมัยใหม่มาประยุกต์ใช้ เช่น กีตาร์ คียบอร์ ด แซ็กโซโฟน ทรัมเปต
์
และกลองชุด โดยนามาผสมผสานเข้ากับเครื่ องดนตรี เดิมได้แก่ พิณ แคน ทาให้ได้
รสชาติของดนตรี ที่แปลกออกไป ยุคนี้นบว่า หมอลาเฟื่ องฟูมากที่สุด คณะหมอลาดังๆ
ั
่
ส่วนใหญ่จะอยูในแถบจังหวัด ขอนแก่น มหาสารคาม อุบลราชธานี
ลาซิ่ง หลังจากที่หมอลาคู่และหมอลาเพลิน ค่อยๆ เสื่ อมความนิยมลงไป อันเนื่องมาจากการ
ก้าวเข้ามาของเทคโนโลยีวิทยุโทรทัศน์ ทาให้ดนตรี สตริ งเข้ามาแทรกในวิถีชีวิตของ
ผูคนอีสาน ความนิยมของการชมหมอลา ค่อนข้างจะลดลงอย่างเห็นได้ชด จนเกิดความ
้ ั
- 3. วิตกกังวลกันมากในกลุ่มนักอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน แต่แล้วมนต์ขลังของหมอ
ลาก็ได้กลับมาอีกครั้ง ด้วยรู ปแบบที่สะเทือนวงการด้วยการแสดงที่เรี ยกว่า ลาซิ่ง ซึ่ ง
เป็ นวิวฒนาการของลาคู่ (เพราะใช้หมอลา 2-3 คน) ใช้เครื่ องดนตรี สากลเข้าร่ วมให้
ั
จังหวะเหมือนลาเพลิน มีหางเครื่ องเหมือนดนตรี ลูกทุ่ง กลอนลาสนุกสนานมีจงหวะอัน
ั
เร้าใจ ทาให้ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ ว จนกระทังระบาดไปสู่การแสดงพื้นบ้านอื่นให้
่
ต้องประยุกต์ปรับตัว เช่น เพลงโคราชกลายมาเป็ นเพลงโคราชซิ่ ง กันตรึ มก็กลายเป็ น
กันตรึ มร็ อค หนังปราโมทัย (หนังตะลุงอีสาน) กลายเป็ นปราโมทัยซิ่ ง ถึงกับมีการจัด
ประกวดแข่งขัน บันทึกเทปโทรทัศน์จาหน่ายกันอย่างแพร่ หลาย จนถึงกับ มีบางท่าน
ถึงกับกล่าวว่า"หมอลาไม่มีวนตาย จากลมหายใจชาวอีสาน"
ั
กลอนลาแบบต่างๆ
กลอนที่นามาเสนอ ณ ที่น้ ี มีหลายกลอนที่มีคาหยาบโลนจานวนมาก บางท่านอาจจะทา
ใจยอมรับไม่ได้ก็ตองกราบขออภัย เพราะผูจดทามีเจตนาที่จะเผยแพร่ ไว้เพื่อเป็ นการสื บสาน
้ ้ั
วัฒนธรรมประเพณี มิได้มีเจตนาที่จะเสนอให้เป็ นเรื่ องลามกอนาจาร ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่า นี่
คือวิถีชีวิตของคนอีสาน กลอนลาทั้งหลายทั้งปวงผูลามีเจตนาจะทาให้เกิดความสนุกสนาน ตลก
้
่
โปกฮาเป็ นที่ต้ง ท่านที่อยูในท้องถิ่นอื่นๆ ขอได้เข้าใจในเจตนาด้วยครับ สนใจในกลอนลาหัวข้อ
ั
ใดคลิกที่หวข้อนั้นเพื่อเข้าชมได้ครับ
ั
กลอนที่นามาร้องมาลามีมากมายหลายอย่าง จนไม่สามารถจะกล่าวนับหรื อแยกแยะได้
่
หมด แต่เมื่อย่อรวมลงแล้วจะมีอยูสองประเภท คือ กลอนสั้นและกลอนยาว
กลอน คือ คากลอนที่ส้ นๆ ใช้สาหรับลาเวลามีงานเล็กๆ น้อยๆ เช่น งานทาบุญบ้าน
ั
สั้ น หรื องานประจาปี เช่น งานบุญเดือนหก เป็ นต้น กลอนสั้น มีดงต่อไปนี้
ั
1. กลอนขึนลา
้ 2. กลอนลงลา 3. กลอนลาเหมิดคืน
4. กลอนโต้น 5. กลอนติง
่ 6. กลอนต่ง
7. กลอนอัศจรรย์ 8. กลอนสอย 9. กลอนหนังสื อเจียง
10. กลอนเต้ยหรือผญา 11. ลาสี พนดอน 12. ลาสั้ น เรื่อง ติดเสน่ ห์
ั
- 4. กลอน คือ กลอนสาหรับใช้ลาในงานการกุศล งานมหรสพต่างๆ กลอนยาวนี้ใช้เวลาลา
ยาว เป็ นชัวโมงบ้าง ครึ่ งชัวโมงบ้าง หรื อแล้วแต่กรณี ถ้าลาคนเดียวเช่น ลาพื้น หรื อ
่ ่
ลาเรื่ อง ต้องใช้เวลาลาเป็ นวันๆ คืนๆ ทั้งนี้แล้วแต่เรื่ องที่จะลาสั้นหรื อยาวแค่
ไหน แบ่งออกเป็ นหลายชนิดดังนี้
1. กลอนประวัตศาสตร์ 2. กลอนลาพืนหรือลาเรื่อง 3. กลอนเซิ้ง
ิ ้
4. กลอนส้ อง 5. กลอนเพอะ 6. กลอนล่ องของ
7. กลอนเว้าสาว 8. กลอนฟอนแบบต่างๆ
้