Art
- 2. ทีมาของราวงมาตรฐาน
่
ราวง (Ramwong) เป็ นการละเลนของ
่
ชาวบานทีรวมเลนกันเพือความสนุ กสนานและ
้ ่ ่ ่ ่
ความสามัคคี แตเดิมเรียกวา “ราโทน” เนื่อง
่ ่
จากใช้โทนตีประกอบจังหวะในการรา ตอมา ่
เพิมกรับและ ฉิ่ ง แตยังไมมีการขับร้อง
่ ่ ่
ประกอบในการรา คงราไปตามจังหวะโทน
อยางเดียว ลักษณะการราโทนราเป็ นคู่ ๆ
่
เดินเป็ นวงกลม ใช้ทารางาย ๆ สุดแทแต่
่ ่ ้
ใครจะราหรือทาทาใด ไมมีกาหนดกฎเกณฑ ์
่ ่
ขอเพียงแตยาเทาให้ลงตามจังหวะโทน
่ ่ ้
- 3. ตอมาการเลน “ราโทน” ไดพัฒนามาเป็ น “ราวง” ลักษณะ
่ ่ ้
การราวง คือ มีโต๊ะตังกลางวง ชาย – หญิงราเป็ น
้
คู่ ๆ เดินเป็ นวงกลมอยางมีระเบียบ แตยังคงยึด
่ ่
จังหวะโทนเป็ นหลัก มีการ ขับร้องเพลงประกอบใน
การรา เรียกวา “ราวงพืนบาน” การ ราวงนี้นยมเลน
่ ้ ้ ิ ่
ในงานเทศกาล หรือเลนกันเองดวยความสนุ กสนาน
่ ้
เนื้อหาสาระของเพลงราวงพืนเมือง นอกจากให้ความ
้
บันเทิงแลวยังสอดแทรกอารมณ ์ ความรู้
้
ขนบธรรมเนียมประเพณี เช่น เพลงช่อมาลี เธอรา
ช่างน่าดู หลอจริงนะดารา ตามองตา ยวนยาเหล
่
ใกลเขาไปอีกนิด ฯลฯ
้ ้
- 4. ตอมาในสมัยรัฐบาล จอมพล ป. พิบล
่ ู
สงคราม พ.ศ. 2487 ไดมอบหมายให้กรม
้
ศิ ลปากร ปรับปรุงการเลนราวงพืนบาน ให้มี
่ ้ ้
ระเบียบเรียบรอย เป็ นแบบฉบับอันดีงามของ
้
นาฏศิ ลป์ไทยและเพือเป็ นการอนุ รกษศิ ลปะ
่ ั ์
การละเลน พืนเมือง กรมศิ ลปากรจึงแตงบท
่ ้ ่
รองและทานองเพลงขึนใหม่ 4 เพลง
้ ้
คือ 1.งามแสงเดือน 2.ชาวไทย 3.คืนเดือน
หงาย 4.รามาซิมารา พรอมทังปรับปรุง
้ ้
เครืองดนตรีทใช้บรรเลงประกอบการเลนราวง
่ ี่ ่
มาเป็ นวงปี่ พาทยหรือวงดนตรีสากล
์
- 6. ผูคิดประดิษฐทาราประกอบเพลงราวงทัง 10 เพลง
้ ์ ่ ้
นั้น คือ
คณะอาจารยดานนาฏศิ ลป์ของกรมศิ ลปากร ได้
์ ้
ช่วยกันคิดประดิษฐทาราให้งดงามถูกต้องตาม
์ ่
หลักนาฏศิ ลป์ กาหนดให้เป็ นแบบมาตรฐาน ผู้
คิดประดิษฐทาราของราวงมาตรฐาน
์ ่
คือ หมอมตวน (นางศุภลักษณ ์ ภัทรนาวิก) ครูมล
่ ่ ั
ลี คงประภัทร ์ ครูลมุล ยมะคุปต ์ และครูผน
ั
โมรากุล ตอมาไดมีการนาราวงนี้ไปสลับกับวง
่ ้
ลีลาศ ทาให้ชาวตางประเทศรูจักราวง เพือให้
่ ้ ่
ประชาชนชาวไทยไดเลนกันแพรหลาย และมี
้ ่ ่
แบบแผนอันเดียวกัน กรมศิ ลปากรจึงเรียกวา ่
“ราวงมาตรฐาน”
- 7. วิธเลนราวงมาตรฐาน
ี ่
1. แสดงเป็ นคู่ ชาย – หญิง จะใช้กีคก็ไดขึนอยูกับ
่ ู่ ้ ้ ่
สถานที่
2. กอนเริมรา หญิง – ชาย ทาความเคารพกันดวย
่ ่ ้
การไหว้
หรือ หญิงพนมมือไหว้ ชายโคง ้
3. กอนราแตละเพลง ดนตรีนา 1 วรรค เพือให้การ
่ ่ ่
เดินเทาในจังหวะแรกพร้อมเพรียงกัน
้
4. มีความพรอมเพรียงในการรา ระยะคูไมหางหรือชิด
้ ่ ่ ่
กันเกินไป
5. ใช้ทาราตามทีกาหนดไวในแตละเพลง
่ ่ ้ ่
6. พนมมือไหวซึงกันและกัน กอนทีจะออกจากวงรา
้ ่ ่ ่
- 8. การแตงกายราวงมาตรฐาน มี 3 แบบ
่
1. แบบพืนเมือง
้
ชาย นุ่ งผ้าโจงกระเบน
สวมเสื้ อคอกลม
มีผ้าคาดเอว
หญิง นุ่ งผ้าโจงกระเบน
หมสไบอัดจีบ
่
คาดเข็มขัด
- 9. 2. แบบไทยพระราชนิยม
ชาย สวมกางเกงขายาว ใส่เสื้ อ
พระราชทาน (แขนยาวหรือสั้ นก็ได) สวม
้
รองเทา (แบบที่ 1)
้
ชาย นุ่ งผาโจงกระเบน ใส่เสื้ อราชประ
้
แตน สวมรองเทา ถุงเทายาว (แบบที่
้ ้
2)
หญิง แตงชุดไทยเรือนต้น และชุดไทย
่
สมัยรัชกาลที่ 5 สวมรองเทา
้
- 11. 3. แบบสากลนิยม
ชาย แตงชุดสูทสากล
่
สวมเสื้ อเชิตแขนยาว
้
ผูกเนคไท สวมรองเท้า
หญิง ชุดไทย