SlideShare a Scribd company logo
1 of 28
Download to read offline
รสวรรณคดี หมายถึง อารมณ์ ความรู้ สึกทีผู้อ่าน บท
                                                     ่
ประพันธ์ ได้ รับจากการอ่ าน โดยสั มผัสด้ วยใจ เช่ น อารมณ์ รัก
โศก ทุกข์ แค้ น ขบขัน ตืนเต้ น ชื่นชมความงามต่ างๆ ฯลฯ
                           ่
รสวรรณคดีไทย มี ๔ รส ดังนี้


๑. เสาวรจนี ได้ แก่ บทชมความงาม เช่ นชมความงามของ
ตัวละคร ความงามของธรรมชาติ บ้ านเมืองปราสาท ราช
วัง สถานที่ สิ่ งของ ซึ่งกวีนิยมเล่ นอักษร เล่ นคํา เพือเน้ น
                                                       ่
ความไพเราะ
ตัวอย่ าง เสาวรจนี
ถึงโคกฆ้องหนองสะพานบ้านกะเหรี่ ยง เห็นโรงเรี ยงไร่ ฝ้ายทั้งซ้ายขวา
พริ กมะเขือเหลืองงามอร่ ามตา               สาลิกาแก้วกินแล้วบินฮือ
เห็นไก่เตี้ยเขี่ยคุยที่ขยไผ่
                   ้ ุ                     กระโชกไล่ลดเลี้ยวมันเปรี ยวปรื๋ อ
พบนกยูงฝูงใหญ่ไล่กระพือ                    มันบินหวือโห่ ร้องคะนองใจ.
                             (จากเรื่ องขุนช้างขุนแผน ตอนพลายงามพบพ่อ)
๒. นารีปราโมทย์ ได้ แก่ บทเกียวโอ้ โลม
                              ้
เป็ นบททีฝ่ายชายเกียวฝ่ ายหญิงแสดงความพึงพอใจ
           ่       ้
ในสิ่ งทีพบเห็น
         ่
ตัวอย่ าง นารีปราโมทย์
แต่ความรักหนักเท่าพระเมรุ มาศ ทั้งดินฟ้ าอากาศสักแสนส่ วน
จงปลงจิตเถิดหนาแม่อย่าแปรปรวน      จะประมวลเสน่ห์ไว้ที่ในห้อง
(จากเรื่ อง กากี)

ถึงม้วยดินสิ้ นฟ้ ามหาสมุทร ไม่สิ้นสุ ดความรักสมัครสมาน
       ่
แม้นอยูในใต้หล้าสุ ธาธาร ขอพบพานพิศวาสไม่คลาดคลา
(บทประพันธ์ของสุ นทรภู่)
๓. พิโรธวาทัง เป็ นบทโกรธ แค้ น ตัดพ้อ ประชด
เสี ยดสี เปรียบเปรย และบริภาษ (ติเตียน ,ด่ าว่ า) ซึ่ง
เกิดขึนเมือตัวละครประสบกับความไม่ สมหวัง
       ้ ่
ไม่ ยนดี และไม่ พอใจ
     ิ
ตัวอย่ าง พิโรธวาทัง

ไอ้ เจ้ าชู้ ลอมปอมกระหม่ อมบาง ลอยชายลากหางเทียวเกียวหมา
                                                        ่ ้
ชิชะแปงจันทร์ นํามันทา
          ้         ้                  หย่ งหน้ าสองแคมเหมือนหางเปี ย
หมามันจะเกิดชิงหมาเกิด                 มึงไปตายเสี ยเถิดอ้ ายห้ าเบีย
                                                                    ้
หน้ าตาเช่ นนีจะมีเมีย
                 ้                     อ้ ายมะม่ วงหมาเลียไม่ เจียมใจ
               (จากเรื่องขุนช้ างขุนแผน)
๔. สัลลาปังคพิสย เป็ นบทพรรณนาความเศร้าโศก
                ั
การครํ่าครวญ รําพันความทุกข์ยากที่ได้รับซึ่ งมักเป็ นการ
สูญเสี ยของรักหรื อต้องพลัดพรากจากผูที่รัก
                                    ้
ตัวอย่ าง สั ลลาปังคพิสัย


ลูกก็แลดูแม่ แม่ ดูลูก               ต่ างพันผูกเพียงว่ าเลือดตาไหล
สะอืนรํ่าอําลาด้ วยอาลัย
     ้                               แล้ วแข็งใจจากนางตามทางมา
เหลียวหลังยังเห็นแม่ แลเขม้ น        แม่ กเ็ ห็นลูกน้ อยละห้ อยหา
แต่ เหลียวเหลียวเลียวลับวับวิญญาณ์
                     ้               โอ้ เปล่ าตาต่ างสะอืนยืนตะลึง
                                                          ้

                       (จากเรื่อง ขุนช้ างขุนแผน)
แบบทดสอบ
อ่ านข้ อความต่ อไปนีแล้ วพิจารณาว่ าเป็ นรสวรรณคดีชนิดใด
                     ้
 ๑. สิ นสมุทรสุ ดแสนสงสารแม่       ด้ วยรู้ แน่ ว่าบิดาจะพาหนี
 ให้ ห่วงหลังกังวลด้ วยชนนี    เจ้ าโศกีกราบก้มบังคมคัล
        ก. เสาวรจนี                ข. นารีปราโมทย์
        ค. พิโรธวาทัง              ง. สั ลลาปังคพิสัย
๒. ด้ วยหน่ อนาถชาติเชื้อผีเสื้อสมุทร ดําไม่ ผดเลยทั้งวันก็กลั้นได้
                                              ุ
ยิงถูกนํากําลังยิงเกรียงไกร
  ่     ้        ่                    เที่ยวเลียวไล่ ขี่ปลาในสาชล
                                                ้

       ก. เสาวรจนี             ข. นารีปราโมทย์
       ค. พิโรธวาทัง           ง. สั ลลาปังคพิสัย
๓. นางผีเสื้ อเหลือโกรธโลดทะลึ่ง โตดังหนึ่งยุคนธร์ขนไศล      ุ
ลุยทะเลโครมครามออกตามไป สมุทรไทยแทบจะล่มถล่มทลาย
เหล่าละเมาะเกาะขวางหนทางยักษ์ ภูเขาหักหิ นหลุดฉุดฉลาย
เสี ยงครึ กครื้ นคลื่นคลุมขึ้นกลุมกาย ผีเสื้ อร้ายรี บรุ ดไม่หยุดยืน ฯ
                         ้       ้
           ก. เสาวรจนี              ข. นารีปราโมทย์
           ค. พิโรธวาทัง            ง. สั ลลาปังคพิสัย
๔. เสี ยงเจ้ าสิ เพราะกว่ า ดุริยางคะดีตใน
ฟากฟาสุ ราลัย
       ้                    สุ รศัพทะเริงรมย์
ยามเดินบเขินขัด             กละนัจจะน่ าชม
กรายกรก็เร้ ารม             ยะประหนึ่งระบําสวย
ยามนั่งก็นั่งเรียบ          และระเบียบ บ เขินขวย
แขนอ่ อน ฤ เปรียบด้ วย ธนุก่งกระชับไว้
พิศโฉมและฟังเสี ยง          ละก็เพียงจะขาดใจ ...
(พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้ าเจ้ าอยู่หัว)

        ก. เสาวรจนี              ข. นารีปราโมทย์
        ค. พิโรธวาทัง            ง. สั ลลาปังคพิสัย
๕. บทกษัตริ ยทศนานางเงือกน้อย ดูแช่มช้อยโฉมเฉลาทั้งเผ้าผม
              ์ ั
ประไพพักตร์ลกษณ์ล้ าล้วนขําคม ทั้งเนื้อนมนวลเปลงอกเต่งทรวง
               ั     ํ
ขนงเนตรเกศกรอ่อนสะอาด           ดังสุ รางค์นางนาฏในวังหลวง
พระเพลินพิศคิดหมายเสี ยดายดวง แล้วหนักหน่วงนึกที่จะหนีไป
(พระสุ นทรโวหาร(ภู่)
        ก. เสาวรจนี          ข. นารีปราโมทย์
        ค. พิโรธวาทัง        ง. สั ลลาปังคพิสัย
๖. เหลือบเห็นกวางขําดําขลับ   งามสรรพสะพรั่งดังเลขา
งามเขาเห็นเป็ นกิ่งกาญจนา     งามตานิลรัตน์รูจี
คอก่งเป็ นวงราววาด            รู ปสะอาดราวนางสําอางศรี
เหลียวหน้ามาดูภมี ู           งามดังนารี ชาเลืองอาย
                                           ํ
         ก. เสาวรจนี          ข. นารีปราโมทย์
         ค. พิโรธวาทัง        ง. สั ลลาปังคพิสัย
๗. แม้นเนื้อเย็นเป็ นห้วงมหรรณพ            พี่ขอพบศรี สวัสดิ์เป็ นมัจฉา
แม้นเป็ นบัวตัวพี่เป็ นภุมรา               เชยผกาโกสุ มปทุมทอง
แม้เป็ นถํ้าอําไพใคร่ เป็ นหงส์            จะร่ อนลงสิ งสู่ เป็ นคู่สอง
ขอติดตามทรามสงวนนวลละออง                   เป็ นคู่ครองพิศวาสทุกชาติไป
             (พระสุ นทรโวหาร(ภู่)
         ก. เสาวรจนี              ข. นารีปราโมทย์
         ค. พิโรธวาทัง            ง. สั ลลาปังคพิสัย
๘. นํ้าใจนางเหมือนนํ้าค้างบนไพรพฤกษ์ เมื่อยามดึกดังจะรองเข้าดื่มได้
ครั้งรุ่ งแสงสุ รียฉายก็หายไป
                   ์                        เพิ่งเห็นใจเสี ยเมื่อใจจะขาดรอน
                 (ไม่ปรากฏนามผูแต่ง)
                               ้
           ก. เสาวรจนี             ข. นารีปราโมทย์
           ค. พิโรธวาทัง           ง. สั ลลาปังคพิสัย
๙. ครั้งนี้เสี ยรักก็ได้รู้                           ็
                                          ถึงเสี ยรู้กได้เชาวน์ที่เฉาฉงน
เป็ นชายหมิ่นชายต้องอายคน                 จําจนจําจากอาลัยลาน
           (เจ้ าพระยาพระคลัง(หน))
         ก. เสาวรจนี             ข. นารีปราโมทย์
         ค. พิโรธวาทัง           ง. สั ลลาปังคพิสัย
็
๑๐. เมื่อรักกันไม่ได้กไม่รัก    ไม่เห็นจักเกรงการสถานไหน
ไม่รักเราเราจักไม่รักใคร        เอ๊ะนํ้าตาเราไหลทําไมฤา
           (สุ จิตต์ วงษ์เทศ)
         ก. เสาวรจนี            ข. นารีปราโมทย์
         ค. พิโรธวาทัง          ง. สั ลลาปังคพิสัย
๑๑. ลําดวนเอยจะด่วนไปก่อนแล้ว       ทั้งเกดแก้วพิกลยีสุ่นสี
                                                      ุ ่
จะโรยร้างห่างกลิ่นมาลี              จําปี เอ๋ ยกี่ปีจะมาพบ
       (พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย)
        ก. เสาวรจนี        ข. นารีปราโมทย์
        ค. พิโรธวาทัง      ง. สั ลลาปังคพิสัย
๑๒. เคยหมอบใกล้ ได้ กลินสุ คนธ์ ตรลบ ละอองอบรสรื่นชื่นนาสา
                        ่
สิ้นแผ่ นดินสิ้นรสสุ คนธา               วาสนาเราก็สิ้นเหมือนกลินสุ คนธ์
                                                               ่
             (พระสุ นทรโวหาร(ภู่)
         ก. เสาวรจนี              ข. นารีปราโมทย์
         ค. พิโรธวาทัง            ง. สั ลลาปังคพิสัย
๑๓. ร่ มรื่นพืนพรรณบุปผา
                ้                       สะอาดตาช่ อชู ดูไสว
ขุนแผนชักม้ าคลาไคล                     บัดใจถึงเขาธรรมเธียร
ทีเ่ ชิงเขาเหล่ าพรรณมิงไม้
                       ่                ลมพัดกวัดไกวอยู่หันเหียน
รกฟาขานางยางตะเคียน
       ้                                กันเกราตระเบาตระเบียนแลชิงชัน
                     (ขุนช้ างขุนแผน)

        ก. เสาวรจนี               ข. นารีปราโมทย์
        ค. พิโรธวาทัง             ง. สั ลลาปังคพิสัย
๑๔. แม้นเจ้าคร้ามเคราะห์กาจ จงอย่ายาตรยุทธนา
    เอาพัสตราสตรี สวมอินทรี ยสร่ างเคราะห์
                              ์
          (ลิลิตตะเลงพ่าย)
     ก. เสาวรจนี                ข. นารีปราโมทย์
     ค. พิโรธวาทัง     ง. สั ลลาปังคพิสัย
่
๑๕. มืดสิ้ นแสงเทียนประทีปส่ อง ก็ผองแสงจันทร์กระจ่างสว่างส่ ง
บุปผชาติสาดเกสรขจรลง                       บุษบงเบิกแบ่งระบัดบาน
เรณูนวลหวนหอมมารวยริ น                     พระพายพัดประทิ่นกลิ่นหวาน
เฉื่ อยฉิ วปลิวรสสุ มามาลย์                ประสานสอดกอดหลับระงับไป
                         (ขุนช้างขุนแผน)
           ก. เสาวรจนี            ข. นารีปราโมทย์
           ค. พิโรธวาทัง          ง. สั ลลาปังคพิสัย
จบการนําเสนอแล้ ว
หวังว่ าคงจะได้ ความรู้ เรื่อง รสวรรณคดีไทย นะคะ
คําตอบข้ อนีไม่ ถูกต้ องค่ ะ
               ้
ไม่ เป็ นไร ทําข้ อต่ อไปนะจ๊ ะ
คําตอบข้ อนีถูกต้ อง ไชโย !
            ้
      ได้ ๑ คะแนน

More Related Content

What's hot

วรรณคดีไทยกับบริบททางสังคม
วรรณคดีไทยกับบริบททางสังคมวรรณคดีไทยกับบริบททางสังคม
วรรณคดีไทยกับบริบททางสังคมmayavee16
 
ประโยคสามัญ ประโยคซ้อน ประโยครวม
ประโยคสามัญ ประโยคซ้อน ประโยครวมประโยคสามัญ ประโยคซ้อน ประโยครวม
ประโยคสามัญ ประโยคซ้อน ประโยครวมthinnakornsripho
 
PPT รามเกียรติ์ตอนนารายณ์ปราบนนทก
PPT รามเกียรติ์ตอนนารายณ์ปราบนนทกPPT รามเกียรติ์ตอนนารายณ์ปราบนนทก
PPT รามเกียรติ์ตอนนารายณ์ปราบนนทกKruBowbaro
 
ติวก่อนสอบ ม.2
ติวก่อนสอบ ม.2ติวก่อนสอบ ม.2
ติวก่อนสอบ ม.2ssuser456899
 
ใบงานที่1เรื่อง ลิลิตตะเลงพ่าย
ใบงานที่1เรื่อง ลิลิตตะเลงพ่ายใบงานที่1เรื่อง ลิลิตตะเลงพ่าย
ใบงานที่1เรื่อง ลิลิตตะเลงพ่ายkrunoree.wordpress.com
 
แบบทดสอบมัทนะพาธา
แบบทดสอบมัทนะพาธาแบบทดสอบมัทนะพาธา
แบบทดสอบมัทนะพาธาkrudow14
 
สื่อการสอนอาจารย์มารินทร์ ม5มหาเวสสันดร
สื่อการสอนอาจารย์มารินทร์ ม5มหาเวสสันดรสื่อการสอนอาจารย์มารินทร์ ม5มหาเวสสันดร
สื่อการสอนอาจารย์มารินทร์ ม5มหาเวสสันดรComputer ITSWKJ
 
คำยืมภาษาต่างประเทศในภาษาไทย
คำยืมภาษาต่างประเทศในภาษาไทยคำยืมภาษาต่างประเทศในภาษาไทย
คำยืมภาษาต่างประเทศในภาษาไทยพัน พัน
 
๑๐. ฉันทลักษณ์และคำประพันธ์ประเภทกาพย์[1]
๑๐. ฉันทลักษณ์และคำประพันธ์ประเภทกาพย์[1]๑๐. ฉันทลักษณ์และคำประพันธ์ประเภทกาพย์[1]
๑๐. ฉันทลักษณ์และคำประพันธ์ประเภทกาพย์[1]นิตยา ทองดียิ่ง
 
แบบฝึกทักษะเรื่องคำสมาสสนธิ
แบบฝึกทักษะเรื่องคำสมาสสนธิแบบฝึกทักษะเรื่องคำสมาสสนธิ
แบบฝึกทักษะเรื่องคำสมาสสนธิSurapong Klamboot
 
เฉลยแบบฝึกหัดชนิดของคำ
เฉลยแบบฝึกหัดชนิดของคำเฉลยแบบฝึกหัดชนิดของคำ
เฉลยแบบฝึกหัดชนิดของคำKu'kab Ratthakiat
 
วิชชุมมาลา ฉันท์ ๘ เสร็จ
วิชชุมมาลา ฉันท์ ๘ เสร็จวิชชุมมาลา ฉันท์ ๘ เสร็จ
วิชชุมมาลา ฉันท์ ๘ เสร็จNat Ty
 
กัณฑ์มัทรี2๕๗
กัณฑ์มัทรี2๕๗กัณฑ์มัทรี2๕๗
กัณฑ์มัทรี2๕๗Milky' __
 
PPT คำราชาศัพท์
PPT คำราชาศัพท์PPT คำราชาศัพท์
PPT คำราชาศัพท์KruBowbaro
 

What's hot (20)

ไทย
ไทยไทย
ไทย
 
การสร้างคำ
การสร้างคำการสร้างคำ
การสร้างคำ
 
วรรณคดีไทยกับบริบททางสังคม
วรรณคดีไทยกับบริบททางสังคมวรรณคดีไทยกับบริบททางสังคม
วรรณคดีไทยกับบริบททางสังคม
 
ประโยคสามัญ ประโยคซ้อน ประโยครวม
ประโยคสามัญ ประโยคซ้อน ประโยครวมประโยคสามัญ ประโยคซ้อน ประโยครวม
ประโยคสามัญ ประโยคซ้อน ประโยครวม
 
คำประสม
คำประสมคำประสม
คำประสม
 
PPT รามเกียรติ์ตอนนารายณ์ปราบนนทก
PPT รามเกียรติ์ตอนนารายณ์ปราบนนทกPPT รามเกียรติ์ตอนนารายณ์ปราบนนทก
PPT รามเกียรติ์ตอนนารายณ์ปราบนนทก
 
ติวก่อนสอบ ม.2
ติวก่อนสอบ ม.2ติวก่อนสอบ ม.2
ติวก่อนสอบ ม.2
 
ลิลิตตะเลงพ่าย (สอน Ppt)[1]
ลิลิตตะเลงพ่าย (สอน Ppt)[1]ลิลิตตะเลงพ่าย (สอน Ppt)[1]
ลิลิตตะเลงพ่าย (สอน Ppt)[1]
 
ใบงานที่1เรื่อง ลิลิตตะเลงพ่าย
ใบงานที่1เรื่อง ลิลิตตะเลงพ่ายใบงานที่1เรื่อง ลิลิตตะเลงพ่าย
ใบงานที่1เรื่อง ลิลิตตะเลงพ่าย
 
แบบทดสอบมัทนะพาธา
แบบทดสอบมัทนะพาธาแบบทดสอบมัทนะพาธา
แบบทดสอบมัทนะพาธา
 
สื่อการสอนอาจารย์มารินทร์ ม5มหาเวสสันดร
สื่อการสอนอาจารย์มารินทร์ ม5มหาเวสสันดรสื่อการสอนอาจารย์มารินทร์ ม5มหาเวสสันดร
สื่อการสอนอาจารย์มารินทร์ ม5มหาเวสสันดร
 
คำนาม
คำนามคำนาม
คำนาม
 
คำบุพบท
คำบุพบทคำบุพบท
คำบุพบท
 
คำยืมภาษาต่างประเทศในภาษาไทย
คำยืมภาษาต่างประเทศในภาษาไทยคำยืมภาษาต่างประเทศในภาษาไทย
คำยืมภาษาต่างประเทศในภาษาไทย
 
๑๐. ฉันทลักษณ์และคำประพันธ์ประเภทกาพย์[1]
๑๐. ฉันทลักษณ์และคำประพันธ์ประเภทกาพย์[1]๑๐. ฉันทลักษณ์และคำประพันธ์ประเภทกาพย์[1]
๑๐. ฉันทลักษณ์และคำประพันธ์ประเภทกาพย์[1]
 
แบบฝึกทักษะเรื่องคำสมาสสนธิ
แบบฝึกทักษะเรื่องคำสมาสสนธิแบบฝึกทักษะเรื่องคำสมาสสนธิ
แบบฝึกทักษะเรื่องคำสมาสสนธิ
 
เฉลยแบบฝึกหัดชนิดของคำ
เฉลยแบบฝึกหัดชนิดของคำเฉลยแบบฝึกหัดชนิดของคำ
เฉลยแบบฝึกหัดชนิดของคำ
 
วิชชุมมาลา ฉันท์ ๘ เสร็จ
วิชชุมมาลา ฉันท์ ๘ เสร็จวิชชุมมาลา ฉันท์ ๘ เสร็จ
วิชชุมมาลา ฉันท์ ๘ เสร็จ
 
กัณฑ์มัทรี2๕๗
กัณฑ์มัทรี2๕๗กัณฑ์มัทรี2๕๗
กัณฑ์มัทรี2๕๗
 
PPT คำราชาศัพท์
PPT คำราชาศัพท์PPT คำราชาศัพท์
PPT คำราชาศัพท์
 

Similar to สื่อ Powerpoint รสวรรณคดีใหม่.ppt1

สื่อฯช่วยสอน เรื่องรามเกียรติ์ตอนนารายณ์ปราบนนทก(ปรับ) [โหมดความเข้ากันได้]
สื่อฯช่วยสอน เรื่องรามเกียรติ์ตอนนารายณ์ปราบนนทก(ปรับ) [โหมดความเข้ากันได้]สื่อฯช่วยสอน เรื่องรามเกียรติ์ตอนนารายณ์ปราบนนทก(ปรับ) [โหมดความเข้ากันได้]
สื่อฯช่วยสอน เรื่องรามเกียรติ์ตอนนารายณ์ปราบนนทก(ปรับ) [โหมดความเข้ากันได้]Nongkran Jarurnphong
 
Presentation1
Presentation1Presentation1
Presentation1kutoyseta
 
แหล่ให้ทานช้าง
แหล่ให้ทานช้างแหล่ให้ทานช้าง
แหล่ให้ทานช้างTongsamut vorasan
 
สามัคคีเภทคำฉันท1
สามัคคีเภทคำฉันท1สามัคคีเภทคำฉันท1
สามัคคีเภทคำฉันท1Sirisak Promtip
 
โตฎก ฉันท์ 12
โตฎก ฉันท์ 12โตฎก ฉันท์ 12
โตฎก ฉันท์ 12MilkOrapun
 
ยานี ๑๑ แม่ก กา
ยานี ๑๑ แม่ก กายานี ๑๑ แม่ก กา
ยานี ๑๑ แม่ก กาCHANIN111
 
สามัคคีเภทคำฉันท์
สามัคคีเภทคำฉันท์สามัคคีเภทคำฉันท์
สามัคคีเภทคำฉันท์Nakkarin Keesun
 
ความงามกับภาษา ม. ๔ นิราศนรินทร์คำโคลง
ความงามกับภาษา ม. ๔  นิราศนรินทร์คำโคลงความงามกับภาษา ม. ๔  นิราศนรินทร์คำโคลง
ความงามกับภาษา ม. ๔ นิราศนรินทร์คำโคลงnarongsak kalong
 
อภัย
อภัยอภัย
อภัยkutoyseta
 
9789740336389
97897403363899789740336389
9789740336389CUPress
 
สามัคคีเภทคำฉันท์ (อินทรวิเชียร)2
สามัคคีเภทคำฉันท์ (อินทรวิเชียร)2สามัคคีเภทคำฉันท์ (อินทรวิเชียร)2
สามัคคีเภทคำฉันท์ (อินทรวิเชียร)2B'Ben Rattanarat
 
กาพย์เห่เรือ พระนิพนธ์เจ้าฟ้าธรรมธิเบศร
กาพย์เห่เรือ พระนิพนธ์เจ้าฟ้าธรรมธิเบศรกาพย์เห่เรือ พระนิพนธ์เจ้าฟ้าธรรมธิเบศร
กาพย์เห่เรือ พระนิพนธ์เจ้าฟ้าธรรมธิเบศรkruthai40
 
งานนำเสนอไทยหมิว23256bbb
งานนำเสนอไทยหมิว23256bbbงานนำเสนอไทยหมิว23256bbb
งานนำเสนอไทยหมิว23256bbbอิ่' เฉิ่ม
 
สุนทรียรสในเสภาขุนช้างขุนแผน ตอนฆ่านางวันทอง
สุนทรียรสในเสภาขุนช้างขุนแผน ตอนฆ่านางวันทองสุนทรียรสในเสภาขุนช้างขุนแผน ตอนฆ่านางวันทอง
สุนทรียรสในเสภาขุนช้างขุนแผน ตอนฆ่านางวันทองChinnakorn Pawannay
 
กวีพเนจร เล่มที่ 1
กวีพเนจร เล่มที่ 1กวีพเนจร เล่มที่ 1
กวีพเนจร เล่มที่ 1Kalasin University
 
แหล่กลับชาติ
แหล่กลับชาติแหล่กลับชาติ
แหล่กลับชาติTongsamut vorasan
 
โวหารภาพพจน์
โวหารภาพพจน์โวหารภาพพจน์
โวหารภาพพจน์krubuatoom
 
คำสดุดีในหลวง
คำสดุดีในหลวงคำสดุดีในหลวง
คำสดุดีในหลวงniralai
 

Similar to สื่อ Powerpoint รสวรรณคดีใหม่.ppt1 (20)

สื่อฯช่วยสอน เรื่องรามเกียรติ์ตอนนารายณ์ปราบนนทก(ปรับ) [โหมดความเข้ากันได้]
สื่อฯช่วยสอน เรื่องรามเกียรติ์ตอนนารายณ์ปราบนนทก(ปรับ) [โหมดความเข้ากันได้]สื่อฯช่วยสอน เรื่องรามเกียรติ์ตอนนารายณ์ปราบนนทก(ปรับ) [โหมดความเข้ากันได้]
สื่อฯช่วยสอน เรื่องรามเกียรติ์ตอนนารายณ์ปราบนนทก(ปรับ) [โหมดความเข้ากันได้]
 
Presentation1
Presentation1Presentation1
Presentation1
 
แหล่ให้ทานช้าง
แหล่ให้ทานช้างแหล่ให้ทานช้าง
แหล่ให้ทานช้าง
 
สามัคคีเภทคำฉันท1
สามัคคีเภทคำฉันท1สามัคคีเภทคำฉันท1
สามัคคีเภทคำฉันท1
 
โตฎก ฉันท์ 12
โตฎก ฉันท์ 12โตฎก ฉันท์ 12
โตฎก ฉันท์ 12
 
ยานี ๑๑ แม่ก กา
ยานี ๑๑ แม่ก กายานี ๑๑ แม่ก กา
ยานี ๑๑ แม่ก กา
 
สามัคคีเภทคำฉันท์
สามัคคีเภทคำฉันท์สามัคคีเภทคำฉันท์
สามัคคีเภทคำฉันท์
 
ความงามกับภาษา ม. ๔ นิราศนรินทร์คำโคลง
ความงามกับภาษา ม. ๔  นิราศนรินทร์คำโคลงความงามกับภาษา ม. ๔  นิราศนรินทร์คำโคลง
ความงามกับภาษา ม. ๔ นิราศนรินทร์คำโคลง
 
อภัย
อภัยอภัย
อภัย
 
แหล่ลา
แหล่ลาแหล่ลา
แหล่ลา
 
9789740336389
97897403363899789740336389
9789740336389
 
สามัคคีเภทคำฉันท์ (อินทรวิเชียร)2
สามัคคีเภทคำฉันท์ (อินทรวิเชียร)2สามัคคีเภทคำฉันท์ (อินทรวิเชียร)2
สามัคคีเภทคำฉันท์ (อินทรวิเชียร)2
 
กาพย์เห่เรือ พระนิพนธ์เจ้าฟ้าธรรมธิเบศร
กาพย์เห่เรือ พระนิพนธ์เจ้าฟ้าธรรมธิเบศรกาพย์เห่เรือ พระนิพนธ์เจ้าฟ้าธรรมธิเบศร
กาพย์เห่เรือ พระนิพนธ์เจ้าฟ้าธรรมธิเบศร
 
งานนำเสนอไทยหมิว23256bbb
งานนำเสนอไทยหมิว23256bbbงานนำเสนอไทยหมิว23256bbb
งานนำเสนอไทยหมิว23256bbb
 
สุนทรียรสในเสภาขุนช้างขุนแผน ตอนฆ่านางวันทอง
สุนทรียรสในเสภาขุนช้างขุนแผน ตอนฆ่านางวันทองสุนทรียรสในเสภาขุนช้างขุนแผน ตอนฆ่านางวันทอง
สุนทรียรสในเสภาขุนช้างขุนแผน ตอนฆ่านางวันทอง
 
กวีพเนจร เล่มที่ 1
กวีพเนจร เล่มที่ 1กวีพเนจร เล่มที่ 1
กวีพเนจร เล่มที่ 1
 
แหล่กลับชาติ
แหล่กลับชาติแหล่กลับชาติ
แหล่กลับชาติ
 
โวหารภาพพจน์
โวหารภาพพจน์โวหารภาพพจน์
โวหารภาพพจน์
 
คำสดุดีในหลวง
คำสดุดีในหลวงคำสดุดีในหลวง
คำสดุดีในหลวง
 
โตฎก ฉ นท
โตฎก ฉ นท โตฎก ฉ นท
โตฎก ฉ นท
 

สื่อ Powerpoint รสวรรณคดีใหม่.ppt1

  • 1.
  • 2. รสวรรณคดี หมายถึง อารมณ์ ความรู้ สึกทีผู้อ่าน บท ่ ประพันธ์ ได้ รับจากการอ่ าน โดยสั มผัสด้ วยใจ เช่ น อารมณ์ รัก โศก ทุกข์ แค้ น ขบขัน ตืนเต้ น ชื่นชมความงามต่ างๆ ฯลฯ ่
  • 3. รสวรรณคดีไทย มี ๔ รส ดังนี้ ๑. เสาวรจนี ได้ แก่ บทชมความงาม เช่ นชมความงามของ ตัวละคร ความงามของธรรมชาติ บ้ านเมืองปราสาท ราช วัง สถานที่ สิ่ งของ ซึ่งกวีนิยมเล่ นอักษร เล่ นคํา เพือเน้ น ่ ความไพเราะ
  • 4. ตัวอย่ าง เสาวรจนี ถึงโคกฆ้องหนองสะพานบ้านกะเหรี่ ยง เห็นโรงเรี ยงไร่ ฝ้ายทั้งซ้ายขวา พริ กมะเขือเหลืองงามอร่ ามตา สาลิกาแก้วกินแล้วบินฮือ เห็นไก่เตี้ยเขี่ยคุยที่ขยไผ่ ้ ุ กระโชกไล่ลดเลี้ยวมันเปรี ยวปรื๋ อ พบนกยูงฝูงใหญ่ไล่กระพือ มันบินหวือโห่ ร้องคะนองใจ. (จากเรื่ องขุนช้างขุนแผน ตอนพลายงามพบพ่อ)
  • 5. ๒. นารีปราโมทย์ ได้ แก่ บทเกียวโอ้ โลม ้ เป็ นบททีฝ่ายชายเกียวฝ่ ายหญิงแสดงความพึงพอใจ ่ ้ ในสิ่ งทีพบเห็น ่
  • 6. ตัวอย่ าง นารีปราโมทย์ แต่ความรักหนักเท่าพระเมรุ มาศ ทั้งดินฟ้ าอากาศสักแสนส่ วน จงปลงจิตเถิดหนาแม่อย่าแปรปรวน จะประมวลเสน่ห์ไว้ที่ในห้อง (จากเรื่ อง กากี) ถึงม้วยดินสิ้ นฟ้ ามหาสมุทร ไม่สิ้นสุ ดความรักสมัครสมาน ่ แม้นอยูในใต้หล้าสุ ธาธาร ขอพบพานพิศวาสไม่คลาดคลา (บทประพันธ์ของสุ นทรภู่)
  • 7. ๓. พิโรธวาทัง เป็ นบทโกรธ แค้ น ตัดพ้อ ประชด เสี ยดสี เปรียบเปรย และบริภาษ (ติเตียน ,ด่ าว่ า) ซึ่ง เกิดขึนเมือตัวละครประสบกับความไม่ สมหวัง ้ ่ ไม่ ยนดี และไม่ พอใจ ิ
  • 8. ตัวอย่ าง พิโรธวาทัง ไอ้ เจ้ าชู้ ลอมปอมกระหม่ อมบาง ลอยชายลากหางเทียวเกียวหมา ่ ้ ชิชะแปงจันทร์ นํามันทา ้ ้ หย่ งหน้ าสองแคมเหมือนหางเปี ย หมามันจะเกิดชิงหมาเกิด มึงไปตายเสี ยเถิดอ้ ายห้ าเบีย ้ หน้ าตาเช่ นนีจะมีเมีย ้ อ้ ายมะม่ วงหมาเลียไม่ เจียมใจ (จากเรื่องขุนช้ างขุนแผน)
  • 9. ๔. สัลลาปังคพิสย เป็ นบทพรรณนาความเศร้าโศก ั การครํ่าครวญ รําพันความทุกข์ยากที่ได้รับซึ่ งมักเป็ นการ สูญเสี ยของรักหรื อต้องพลัดพรากจากผูที่รัก ้
  • 10. ตัวอย่ าง สั ลลาปังคพิสัย ลูกก็แลดูแม่ แม่ ดูลูก ต่ างพันผูกเพียงว่ าเลือดตาไหล สะอืนรํ่าอําลาด้ วยอาลัย ้ แล้ วแข็งใจจากนางตามทางมา เหลียวหลังยังเห็นแม่ แลเขม้ น แม่ กเ็ ห็นลูกน้ อยละห้ อยหา แต่ เหลียวเหลียวเลียวลับวับวิญญาณ์ ้ โอ้ เปล่ าตาต่ างสะอืนยืนตะลึง ้ (จากเรื่อง ขุนช้ างขุนแผน)
  • 11. แบบทดสอบ อ่ านข้ อความต่ อไปนีแล้ วพิจารณาว่ าเป็ นรสวรรณคดีชนิดใด ้ ๑. สิ นสมุทรสุ ดแสนสงสารแม่ ด้ วยรู้ แน่ ว่าบิดาจะพาหนี ให้ ห่วงหลังกังวลด้ วยชนนี เจ้ าโศกีกราบก้มบังคมคัล ก. เสาวรจนี ข. นารีปราโมทย์ ค. พิโรธวาทัง ง. สั ลลาปังคพิสัย
  • 12. ๒. ด้ วยหน่ อนาถชาติเชื้อผีเสื้อสมุทร ดําไม่ ผดเลยทั้งวันก็กลั้นได้ ุ ยิงถูกนํากําลังยิงเกรียงไกร ่ ้ ่ เที่ยวเลียวไล่ ขี่ปลาในสาชล ้ ก. เสาวรจนี ข. นารีปราโมทย์ ค. พิโรธวาทัง ง. สั ลลาปังคพิสัย
  • 13. ๓. นางผีเสื้ อเหลือโกรธโลดทะลึ่ง โตดังหนึ่งยุคนธร์ขนไศล ุ ลุยทะเลโครมครามออกตามไป สมุทรไทยแทบจะล่มถล่มทลาย เหล่าละเมาะเกาะขวางหนทางยักษ์ ภูเขาหักหิ นหลุดฉุดฉลาย เสี ยงครึ กครื้ นคลื่นคลุมขึ้นกลุมกาย ผีเสื้ อร้ายรี บรุ ดไม่หยุดยืน ฯ ้ ้ ก. เสาวรจนี ข. นารีปราโมทย์ ค. พิโรธวาทัง ง. สั ลลาปังคพิสัย
  • 14. ๔. เสี ยงเจ้ าสิ เพราะกว่ า ดุริยางคะดีตใน ฟากฟาสุ ราลัย ้ สุ รศัพทะเริงรมย์ ยามเดินบเขินขัด กละนัจจะน่ าชม กรายกรก็เร้ ารม ยะประหนึ่งระบําสวย ยามนั่งก็นั่งเรียบ และระเบียบ บ เขินขวย แขนอ่ อน ฤ เปรียบด้ วย ธนุก่งกระชับไว้ พิศโฉมและฟังเสี ยง ละก็เพียงจะขาดใจ ... (พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้ าเจ้ าอยู่หัว) ก. เสาวรจนี ข. นารีปราโมทย์ ค. พิโรธวาทัง ง. สั ลลาปังคพิสัย
  • 15. ๕. บทกษัตริ ยทศนานางเงือกน้อย ดูแช่มช้อยโฉมเฉลาทั้งเผ้าผม ์ ั ประไพพักตร์ลกษณ์ล้ าล้วนขําคม ทั้งเนื้อนมนวลเปลงอกเต่งทรวง ั ํ ขนงเนตรเกศกรอ่อนสะอาด ดังสุ รางค์นางนาฏในวังหลวง พระเพลินพิศคิดหมายเสี ยดายดวง แล้วหนักหน่วงนึกที่จะหนีไป (พระสุ นทรโวหาร(ภู่) ก. เสาวรจนี ข. นารีปราโมทย์ ค. พิโรธวาทัง ง. สั ลลาปังคพิสัย
  • 16. ๖. เหลือบเห็นกวางขําดําขลับ งามสรรพสะพรั่งดังเลขา งามเขาเห็นเป็ นกิ่งกาญจนา งามตานิลรัตน์รูจี คอก่งเป็ นวงราววาด รู ปสะอาดราวนางสําอางศรี เหลียวหน้ามาดูภมี ู งามดังนารี ชาเลืองอาย ํ ก. เสาวรจนี ข. นารีปราโมทย์ ค. พิโรธวาทัง ง. สั ลลาปังคพิสัย
  • 17. ๗. แม้นเนื้อเย็นเป็ นห้วงมหรรณพ พี่ขอพบศรี สวัสดิ์เป็ นมัจฉา แม้นเป็ นบัวตัวพี่เป็ นภุมรา เชยผกาโกสุ มปทุมทอง แม้เป็ นถํ้าอําไพใคร่ เป็ นหงส์ จะร่ อนลงสิ งสู่ เป็ นคู่สอง ขอติดตามทรามสงวนนวลละออง เป็ นคู่ครองพิศวาสทุกชาติไป (พระสุ นทรโวหาร(ภู่) ก. เสาวรจนี ข. นารีปราโมทย์ ค. พิโรธวาทัง ง. สั ลลาปังคพิสัย
  • 18. ๘. นํ้าใจนางเหมือนนํ้าค้างบนไพรพฤกษ์ เมื่อยามดึกดังจะรองเข้าดื่มได้ ครั้งรุ่ งแสงสุ รียฉายก็หายไป ์ เพิ่งเห็นใจเสี ยเมื่อใจจะขาดรอน (ไม่ปรากฏนามผูแต่ง) ้ ก. เสาวรจนี ข. นารีปราโมทย์ ค. พิโรธวาทัง ง. สั ลลาปังคพิสัย
  • 19. ๙. ครั้งนี้เสี ยรักก็ได้รู้ ็ ถึงเสี ยรู้กได้เชาวน์ที่เฉาฉงน เป็ นชายหมิ่นชายต้องอายคน จําจนจําจากอาลัยลาน (เจ้ าพระยาพระคลัง(หน)) ก. เสาวรจนี ข. นารีปราโมทย์ ค. พิโรธวาทัง ง. สั ลลาปังคพิสัย
  • 20. ็ ๑๐. เมื่อรักกันไม่ได้กไม่รัก ไม่เห็นจักเกรงการสถานไหน ไม่รักเราเราจักไม่รักใคร เอ๊ะนํ้าตาเราไหลทําไมฤา (สุ จิตต์ วงษ์เทศ) ก. เสาวรจนี ข. นารีปราโมทย์ ค. พิโรธวาทัง ง. สั ลลาปังคพิสัย
  • 21. ๑๑. ลําดวนเอยจะด่วนไปก่อนแล้ว ทั้งเกดแก้วพิกลยีสุ่นสี ุ ่ จะโรยร้างห่างกลิ่นมาลี จําปี เอ๋ ยกี่ปีจะมาพบ (พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย) ก. เสาวรจนี ข. นารีปราโมทย์ ค. พิโรธวาทัง ง. สั ลลาปังคพิสัย
  • 22. ๑๒. เคยหมอบใกล้ ได้ กลินสุ คนธ์ ตรลบ ละอองอบรสรื่นชื่นนาสา ่ สิ้นแผ่ นดินสิ้นรสสุ คนธา วาสนาเราก็สิ้นเหมือนกลินสุ คนธ์ ่ (พระสุ นทรโวหาร(ภู่) ก. เสาวรจนี ข. นารีปราโมทย์ ค. พิโรธวาทัง ง. สั ลลาปังคพิสัย
  • 23. ๑๓. ร่ มรื่นพืนพรรณบุปผา ้ สะอาดตาช่ อชู ดูไสว ขุนแผนชักม้ าคลาไคล บัดใจถึงเขาธรรมเธียร ทีเ่ ชิงเขาเหล่ าพรรณมิงไม้ ่ ลมพัดกวัดไกวอยู่หันเหียน รกฟาขานางยางตะเคียน ้ กันเกราตระเบาตระเบียนแลชิงชัน (ขุนช้ างขุนแผน) ก. เสาวรจนี ข. นารีปราโมทย์ ค. พิโรธวาทัง ง. สั ลลาปังคพิสัย
  • 24. ๑๔. แม้นเจ้าคร้ามเคราะห์กาจ จงอย่ายาตรยุทธนา เอาพัสตราสตรี สวมอินทรี ยสร่ างเคราะห์ ์ (ลิลิตตะเลงพ่าย) ก. เสาวรจนี ข. นารีปราโมทย์ ค. พิโรธวาทัง ง. สั ลลาปังคพิสัย
  • 25. ่ ๑๕. มืดสิ้ นแสงเทียนประทีปส่ อง ก็ผองแสงจันทร์กระจ่างสว่างส่ ง บุปผชาติสาดเกสรขจรลง บุษบงเบิกแบ่งระบัดบาน เรณูนวลหวนหอมมารวยริ น พระพายพัดประทิ่นกลิ่นหวาน เฉื่ อยฉิ วปลิวรสสุ มามาลย์ ประสานสอดกอดหลับระงับไป (ขุนช้างขุนแผน) ก. เสาวรจนี ข. นารีปราโมทย์ ค. พิโรธวาทัง ง. สั ลลาปังคพิสัย
  • 26. จบการนําเสนอแล้ ว หวังว่ าคงจะได้ ความรู้ เรื่อง รสวรรณคดีไทย นะคะ
  • 27. คําตอบข้ อนีไม่ ถูกต้ องค่ ะ ้ ไม่ เป็ นไร ทําข้ อต่ อไปนะจ๊ ะ
  • 28. คําตอบข้ อนีถูกต้ อง ไชโย ! ้ ได้ ๑ คะแนน