More Related Content
More from SRINAKARIN MOTHER PRINCESS SCHOOL
More from SRINAKARIN MOTHER PRINCESS SCHOOL (20)
นางสาวนภาพร คำภักดี เลขที่19 รัฐสุลต่านโอมาน
- 4. ประเทศโอมานถือเป็นดินแดนประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน มีความ
หลากหลายทางภูมิประเทศ และในด้านการเมืองการปกครอง รัช
สมัยแห่งสุลต่าน กาบุส บิน ซาอิด อัล ซาอิด (Qaboos bin
said al Said) สุลต่านองค์สาคัญแห่งยุค ว่ากันว่ารัชสมัยของ
พระองค์เป็นจุดเริ่มต้นใหม่ของยุคอันรุ่งเรืองแห่งโอมาน
สุลต่าน กาบุส บิน ซาอิด อัล ซาอิด ทรงรับการศึกษาในอังกฤษ
และยังประจาการในกองทัพเครือบริติชระยะเวลาหนึ่งด้วย
พระองค์เสด็จฯ กลับโอมานในค.ศ. 1966 และขึ้นครองราชย์ต่อ
จากพระบิดาใน ค.ศ. 1970 (ภายหลังการรัฐประหาร)
จักรพันธุ์ กังวาฬ บรรยายในบทความ “ท่องไปในโอมาน” จาก
นิตยสาร “สารคดี” ว่า โอมานในเวลานั้นมีถนนลาดยางแค่ 10
กิโลเมตร จากสนามบิน Bait al Falaj สู่มัสกัต ขณะที่ระบบ
โครงสร้างพื้นฐานอย่างไฟฟ้า และโรงพยาบาลก็มีจากัด ระบบ
ไฟฟ้ามีแค่เฉพาะเมืองมัสกัต และอีกเมืองเท่านั้น โรงพยาบาลก็มี
เพียงแห่งเดียว และยังเป็นโรงพยาบาลซึ่งดาเนินการโดยมิชชันนารี
อเมริกัน
ในด้านการศึกษา บทความบรรยายว่า โรงเรียนระดับประถมใน
เมืองมัสกัต มีเพียง 3 แห่งเท่านั้น เช่นเดียวกับในเมืองซาลาลาห์
และ Muttrah นักเรียนทั้งประเทศมีราว 900 คน การศึกษาใน
ระดับสูงกว่านั้นจาเป็นต้องเดินทางไปศึกษาต่อต่างประเทศ ในค.ศ.
1970 ไม่มีชาวโอมานในประเทศที่สาเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี
เลย ส่วนใหญ่ที่สาเร็จการศึกษาก็มักไม่ได้เดินทางกลับโอมาน
ประวัติ
- 5. เมื่อสุลต่านขึ้นครองราชย์ พระองค์ประกาศว่า จะพัฒนาประเทศ
ไปสู่ความก้าวหน้า เมื่อมีการพบแหล่งน้ามันเพิ่มขึ้น รายได้จาก
น้ามันจึงกลายเป็นรายได้หลักของประเทศ กระทั่ง ค.ศ. 1984
รายได้ร้อยละ 84 ของประเทศมาจากการขายน้ามัน ตัวเลขรายได้
จากน้ามันของโอมานอยู่ที่ 1,292 ล้านโอมานริยัล หรือประมาณ
3,360 ล้านดอลลาร์สหรัฐเวลาผ่านไปจนถึงค.ศ. 1990 โอมานมี
ถนนลาดยางกว่า 4,500 กิโลเมตร มีถนนซูเปอร์ไฮเวย์ที่เชื่อมโยงแต่
ละส่วนของประเทศ โรงพยาบาลเพิ่มเป็น 47 แห่ง ระบบการศึกษา
ระดับมหาวิทยาลัยเพิ่มมากขึ้น มีมหาวิทยาลัยแห่งใหม่ที่เมืองชีบ
(Seeb) ใกล้กับเมืองมัสกัต
เมืองมัสกัต ถือเป็นเมืองเก่าแก่ที่ขึ้นชื่อของโอมาน มีความสาคัญ
หลายด้านมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 โดยในช่วงเวลานั้นเอง กองทัพเรือ
โปรตุเกสยึดเมืองมัสกัต และสร้างป้อมปราการ 2 แห่ง คือ ป้อมมิ
รานี และป้อมจารารี บนหน้าผาเหนืออ่าวโอมาน เมืองมัสกัต ได้รับ
การยกฐานะเป็นเมืองหลวงเมื่อค.ศ. 1780
กองทัพเรือโปรตุเกสยึดครองเมืองแถบชายฝั่งโอมานนานถึง 150 ปี
จนถึง ค.ศ. 1650 ราชวงศ์ยะรูบา ขับไล่ชาวโปรตุเกสออกไป และ
ปกครองโอมานต่อมาอีกหลายร้อยปี แต่ในค.ศ. 1714 เกิดสงคราม
กลางเมือง พวกเปอร์เซียจึงเข้ามารุกรานดินแดน ชาวเมืองโชฮาร์นา
โดยอาหมัด อัล บู ซาอิ (Ahmad Al Bu Said) ผู้สถาปนาราชวงศ์
อัล บู ซาอิด (ราชวงศ์ซึ่งปกครองโอมานจนถึงปัจจุบัน) เป็นฝ่ายเข้า
ต่อต้าน
- 8. อาหารโอมานแบบดั้งเดิม
Majboos
เรียกอีกอย่างว่า Kabsa และ Makboos, Majboos เป็นจาน
ข้าวแบบดั้งเดิมที่มีถิ่นกาเนิดในประเทศซาอุดิอารเบีย มีชื่อเสียง
ในโลกอาหรับโดยเฉพาะในประเทศอ่าวไทยรวมทั้งโอมาน จาน
ประกอบด้วยข้าวมัก basmati ผักเนื้อหรือไก่และส่วนผสมของ
เครื่องเทศ บางครั้งเสิร์ฟพร้อมกับโยเกิร์ตหรือสลัดผักสดขนมปัง
แบบดั้งเดิมและซอสมะเขือเทศ
- 10. สถำนที่ท่องเที่ยวในโอมำน
1. ทะเลทรายวาฮิบา (Wahiba Sands)
ตั้งอยู่ห่างจากเมืองมัสกัตไปประมาณ 190 กิโลเมตร เนินทรายยาว
ประมาณ 200 กิโลเมตรและกว้างประมาณ 100 กิโลเมตร สูง
ประมาณ 100-150 เมตร
มาเที่ยวประเทศแห่งทะเลทรายทั้งทีแน่นอนว่าคุณจะพลาดกับการได้
ออกไปสัมผัสกับทะเลทรายจริงๆ แบบต้นตาหรับได้อย่างไร
ทะเลทรายวาฮิบาถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อของโอมานที่
นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกต้องไปเยือนให้ได้ การได้ลองเผชิญกับ
สถานการณ์ที่ยากลาบากและอุณหภูมิอันร้อนระอุก็ถือว่าเป็นมนต์
เสน่ห์อันน่าหลงใหลไม่น้อยเลยทีเดียว
ภาพของทะเลทรายสีแดงน้าผึ้งอันกว้างใหญ่และกิจกรรมสนุกๆ รอให้
คุณได้เข้าร่วมมากมายทั้งการตั้งแค้มป์ทะเลทราย นอนดูดาว ชมพระ
อาทิตย์ขึ้นและตก ขี่อูฐหรือแม้แต่การขับรถกลางทะเลทรายก็ชวน
ตื่นเต้นไม่น้อย ทั้งนี้คุณยังจะได้ร่วมรับประทานอาหารเที่ยงกับ
ครอบครัวชาวเบดูอินที่เตรียมรอต้อนรับนักท่องเที่ยว
- 11. 2. โอเอซิสวาดิหรือวาดิชาบ (Wadi Shab)
เมื่อมาเที่ยวทะเลทรายอีกหนึ่งสถานที่ที่ขาดไปไม่ได้เลยก็คือ
โอเอซิสนั่นเอง วาดิชาบถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของ
โอมานตั้งอยู่ในแคว้น Al Sharqiya ประกอบด้วยหน้าผา โขดหิน
ต้นปาล์ม นกหัวขวาน สระน้าหลายแห่งและน้าตกในถ้าที่ต้องใช้
เวลาเดินเท้าไปกว่า 30-45 นาทีและว่ายน้าผ่านหลุมระหว่างภูเขา
แต่หากน้ามีระดับสูงก็จะต้องดาน้าผ่านเข้าไป นอกจากจะได้สัมผัส
กับธรรมชาติอันน่าทึ่งแล้วคุณยังจะได้ร่วมทากิจกรรมสนุกๆ อีก
มากมาย อาทิ การว่ายน้าในสระน้าจืดหรือปาร์ตี้บาร์บีคิวกลาง
โอเอซิส เหมาะอย่างยิ่งสาหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบการผจญภัย
- 12. 3. หลุมน้้าบิมมาซิงก์โฮล (Bimmah Sinkhole)
หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวสุดมหัศจรรย์ของโอมานกับหลุมน้าสีเขียว
มรกตใสขนาดใหญ่ตั้งอยู่ในสวนสาธารณะ Hawiyat Najm ทาง
ตอนเหนือของประเทศ มีลักษณะเป็นหลุมน้าขนาดใหญ่เกิดขึ้น
จากกระบวนการกัดเซาะตามธรรมชาติของหินปูนจนเกิดเป็นหลุม
ใหญ่และมีน้าทะเลไหลซึมผ่านเข้ามาเนื่องจากอยู่ใกล้กับทะเล ลึก
ประมาณ 20 เมตรมีความกว้างประมาณ 550 x 40 เมตร
- 13. เทศกาลส้าคัญ
เทศกาลมัสกัต
เป็นเทศกาลที่มีชื่อเสียงที่สุด เพื่อเฉลิมฉลองวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์
และขนบธรรมเนียมของชาวโอมาน จัดขึ้นเป็นประจาทุกปีช่วงเดือน
กุมภาพันธ์ในกรุงมัสกัต ภายในงานจะมีการออกร้าน จาหน่ายอาหาร
จัดนิทรรศการ การแสดงศิลปวัฒนธรรม มายากล ดนตรี นับได้ว่าเป็น
เทศกาลบันเทิงที่มีสีสันอีกงานหนึ่ง
เทศกาลแข่งขันอูฐชิงถ้วยสุลต่าน
อูฐเปรียบเสมือนกับเรือในทะเลทราย มีความสาคัญต่อดินแดนแถบนี้
มามากกว่าพันปี และมีความสาคัญต่อชีวิตประจาวัน กีฬานี้คล้ายกับ
การแข่งม้า มีฟาร์มที่เพาะอูฐเพื่อการแข่งขันโดยเฉพาะ วัตถุประสงค์
ในการแข่งคือ เพื่อรักษาขนบธรรมเนียมและกีฬาโบราณของชาว
โอมานไว้ จัดขึ้นช่วงเดือนกุมภาพันธ์
วันชาติโอมาน
มีการจัดงานฉลองในวันที่ 18 พฤศจิกายนของทุกปี เพื่อเฉลิมฉลอง
การแยกประเทศออกเป็นอิสระจากโปตุเกสในปี ค.ศ 1650 ซึ่งจะเป็น
วันหยุดราชการทั้งวันที่ 18 และ 19 เพราะวันที่ 19 ก็เป็นวันเกิด
สุลต่านกาบูส บิน ซะอีด อัล ซะอีด แห่งโอมานด้วย วันนี้จะมีการ
เดินขบวนพาเหรด จุดพลุไฟ แข่งอูฐ แสดงขี่ม้า โชว์แสนยานุภาพทาง
การทหาร