1

แบบฝึ กทักษะคณิตศาสตร์
สาหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 3

เรื่อง อสมการ
เล่ม 1 อสมการเชิงเส้ นตัวแปรเดียว

จุดประสงค์ การเรียนรู้
1. เขียนประโยคภาษาให้เป็ นประโยคสัญลักษณ์ทางคณิ ตศาสตร์ ได้
2. บอกได้ว่าประโยคสัญลักษณ์ใดเป็ นอสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว
3. หาคาตอบและเขียนกราฟแสดงคาตอบของอสมการที่กาหนดให้ได้
2

คาแนะนาการใช้ แบบฝึ กทักษะ
เล่ ม 1 อสมการเชิงเส้ นตัวแปรเดียว
แบบฝึ กทักษะเล่มนี้ใช้ประกอบการเรี ยนการสอนวิชาคณิ ตศาสตร์ รหัส ค 33101
ชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 3 เรื่ อง อสมการ ประกอบด้วย 2 ตอน ตอนที่ 1 เวลา 2 ชัวโมง และ
่
ตอนที่ 2 เวลา 2 ชัวโมง ให้นกเรี ยนดาเนินการตามคาแนะนา ดังนี้
ั
่
1. ทาแบบทดสอบก่อนเรี ยน จานวน 20 ข้อ ลงในกระดาษคาตอบ
2. ทาแบบฝึ กทักษะ ตอนที่ 1-2 โดยเริ่ มจากการศึกษาเนื้อหาและตัวอย่าง
ก่อนทาแบบฝึ กทักษะแต่ละตอน
3. ตรวจแนวตอบจากเฉลยท้ายเล่ม แล้วบันทึกคะแนนลงในตารางบันทึก
คะแนนทาแบบฝึ กทักษะ
4. เมื่อทาแบบฝึ กทักษะครบแล้วให้ทาแบบทดสอบหลังเรี ยนลงใน
กระดาษคาตอบ
5. ตรวจแบบทดสอบก่อนเรี ยนและหลังเรี ยนจากเฉลยท้ายเล่ม และบันทึก
คะแนนในตารางบันทึกคะแนน เพื่อทราบผลการเรี ยนและการพัฒนา
6. เวลา 4 ชัวโมง
่
3

แบบทดสอบก่ อนเรียน
วิชาคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 3 เรื่อง อสมการเชิงเส้ นตัวแปรเดียว
เวลา 30 นาที
คาสั่ง ข้อสอบฉบับนี้เป็ นข้อสอบปรนัยมีท้งหมด 20 ข้อ ให้นกเรี ยนเลือกคาตอบที่ถกเพียงข้อเดียว
ั
ั
ู
จุดประสงค์การเรี ยนรู้ : 1. เขียนประโยค
ภาษาให้เป็ นประโยคสัญลักษณ์
ทางคณิ ตศาสตร์ ได้
1. สามเท่าของจานวนจานวนหนึ่งมีค่า
ไม่เกิน 9 เขียนเป็ นประโยคสัญลักษณ์
ได้ในข้อใด
ก. 3x  9
ข. 3x  9
ค. 3x  9
ง. 3x  9
2. ห้าเท่าของผลต่างของจานวนจานวนหนึ่ง
กับ 8 ไม่นอยกว่า 35 เขียนเป็ นประโยค
้
สัญลักษณ์ได้ในข้อใด
ก. 5x  8  35
ข. 5x  8  35
ค. 5(x  8)  35
ง. 5(x  8)  35
3. ผลบวกของสามเท่าของจานวน
จานวนหนึ่งกับ 8 มีค่าไม่เกิน 20 เขียนเป็ น
ประโยคสัญลักษณ์ได้ในข้อใด
ก. 3(x  8)  20
ข. 3(x  8)  20
ค. 3x  8  20
ง. 3x  8  20

4. 3(x  4)  8 เขียนเป็ นประโยคภาษา
ได้ในข้อใด
ก. ผลต่างของสามเท่าของจานวน
จานวนหนึ่งกับ 4 ไม่มากกว่า 8
ข. สามเท่าของผลต่างของจานวน
จานวนหนึ่งกับ 4 ไม่มากกว่า 8
ค. ผลต่างของสามเท่าของจานวน
จานวนหนึ่งกับ 4 น้อยกว่า 8
ง. สามเท่าของผลต่างของจานวน
จานวนหนึ่งกับ 4 ไม่นอยกว่า 8
้
5. 2(x  5)  9  7 เขียนเป็ นประโยคภาษา
ได้ในข้อใด
ก. ผลต่างของสองเท่าของจานวน
จานวนหนึ่งกับ 5 ลบด้วย 9
มากกว่า 7
ข. สองเท่าของผลต่างของจานวน
จานวนหนึ่งกับ 5 มีค่ามากกว่า 9
อยูไม่มากกว่า 7
่
ค. ผลต่างของสองเท่าของจานวน
จานวนหนึ่งกับ 5 ลบด้วย 9 มากกว่า
หรื อเท่ากับ 7
ง. สองเท่าของผลต่างของจานวน
จานวนหนึ่งกับ 5 มีค่ามากกว่า 9
อยูไม่นอยกว่า 7
่ ้
4

6. สองเท่าของจานวนนับจานวนหนึ่ง
มากกว่า 15 อยูไม่เกิน 8 เขียนเป็ นอสมการได้
่
ในข้อใด
ก. 2x  8  15
ข. 2x 15  8
ค. 2x 15  8
ง. 2x 15  8
7. สี่เท่าของผลต่างจานวนจานวนหนึ่งกับหก
มากกว่า 15 อยูไม่เกิน 7 เขียนเป็ นประโยค
่
สัญลักษณ์ได้ในข้อใด
ก. 4(x  6) 15  7
ข. 4(x  6) 15  7
ค. 4(x  6)  7  15
ง. 15  4x  6  7
จุดประสงค์การเรี ยนรู้ : 2. บอกได้ว่า
ประโยคสัญลักษณ์ใดเป็ นอสมการเชิงเส้น
ตัวแปรเดียว
8. อสมการในข้อใดเป็ นอสมการเชิงเส้น
ตัวแปรเดียว
ก. 3  8  10
ข. 3x 2  9
ค. 5x  y  6
ง. 9x 15  85
9. อสมการในข้อใดเป็ นอสมการเชิงเส้น
ตัวแปรเดียว
ก. 4  9  10
ข. 3x 2  27
ค. 5x  y  6
x
ง. x  5  85

จุดประสงค์การเรี ยนรู้ที่ : 3. หาคาตอบ
และเขียนกราฟแสดงคาตอบของอสมการ
ที่กาหนดให้ได้
10. เส้นกราฟข้างล่างนี้แทนอสมการใด
-2
ก.
ข.
ค.
ง.

-1 0
x 1  0
x 2 0
x2 0
x 1  0

1

2

3

4

11. เส้นกราฟข้างล่างนี้แทนอสมการใด
-4
ก.
ข.
ค.
ง.

-3 -2 -1
x 1  0
x 1  0
x 1  0
x 1  0

0

1

2

12. เส้นกราฟข้างล่างนี้แทนอสมการใด
-1
ก.
ข.
ค.
ง.

0 1
x4
x  4
x4
x  4

2

3

4

5
5

13. กราฟข้อใดเป็ นคาตอบของอสมการ

x 3  0
ก.
-5 -4
ข.
-5 -4
ค.
-5 -4
ง.
-5 -4

16. เส้นกราฟข้างล่างนี้แทนอสมการใด

-3 -2 -1 0 1 2 3 4 5
-3 -2 -1 0 1 2 3 4 5
-3 -2 -1 0 1 2 3 4 5

17. กราฟข้อใดเป็ นคาตอบของอสมการ
-3 -2 -1 0 1 2 3 4 5

14. เส้นกราฟข้างล่างนี้แทนอสมการใด
-2
ก.
ข.
ค.
ง.

-5 -4 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6
ก. 2  x  4
ข. 2  x  4
ค. 2  x  4
ง. 2  x  4

-1 0
x2 0
x2 0
x 2 0
x 2 0

1

2

3

4

3  x  5
ก.
-5 -4
ข.
-5 -4
ค.
-5 -4
ง.
-5 -4

-3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6
-3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6
-3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6
-3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6

18. กราฟข้อใดเป็ นคาตอบของอสมการ
15. เส้นกราฟข้างล่างนี้แทนอสมการใด
-1
ก.
ข.
ค.
ง.

0 1 2
x 2 5
x  2  5
x 2 5
x 2 5

3

4

5

4  x  2
ก.
-5 -4
ข.
-5 -4
ค.
-5 -4
ง.
-5 -4

-3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6
-3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6
-3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6
-3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6
6

19. กราฟข้อใดเป็ นคาตอบของอสมการ

20. กราฟข้อใดเป็ นคาตอบของอสมการ

x  ( 3)( 2)
ก.
-3 -2 -1
ข.
-3 -2 -1
ค.
-3 -2 -1
ง.
-3 -2 -1

3  3x
ก.
-5 -4
ก.
-5 -4
ก.
-5 -4
ก.
-5 -4

0 1 2 3 4 5 6 7
0 1 2 3 4 5 6 7
0 1 2 3 4 5 6 7
0 1 2 3 4 5 6 7

ทาแบบฝึ กต่อไปเลยนะ

-3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6
-3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6
-3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6
-3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6
7

อสมการเชิงเส้ นตัวแปรเดียว
ตอนที่ 1
จุดประสงค์การเรียนรู้
เขียนประโยคภาษาให้เป็ นประโยคสัญลักษณ์ ทางคณิตศาสตร์ ได้
บอกได้ ว่าประโยคสัญลักษณ์ใดเป็ นอสมการเชิงเส้ นตัวแปรเดียว

นักเรี ยนเคยเขียนประโยคเกี่ยวกับจานวนให้เป็ นประโยคที่ใช้สญลักษณ์ทางคณิ ตศาสตร์
ั
เช่น แปดเท่าของจานวนจานวนหนึ่งเท่ากับยีสิบสี่ เขียนได้เป็ น 8x  24 หรื อประโยค ห้าเท่าของ
่
จานวนจานวนหนึ่งมากกว่าเจ็ดอยูสาม เขียนได้เป็ น 5x  7  3 ซึ่งเป็ นประโยคที่ใช้สญลักษณ์
่
ั
ทางคณิ ตศาสตร์ดงกล่าว เรี ยกว่า สมการ นอกจากนี้นกเรี ยนยังเคยรู้จกสัญลักษณ์ต่อไปนี้
ั
ั
ั
 แทนความสัมพันธ์ น้อยกว่า หรื อไม่ถึง
 แทนความสัมพันธ์ มากกว่า หรื อเกิน
 แทนความสัมพันธ์ ไม่เท่ากับ หรื อไม่เท่ากัน
 แทนความสัมพันธ์ น้อยกว่า หรื อเท่ากับ
 แทนความสัมพันธ์ มากกว่า หรื อเท่ากับ
เช่น
y  2 อ่านว่า y มากกว่าหรื อเท่ากับ 2
หมายถึง y  2 หรื อ y  2
x  5 อ่านว่า x น้อยกว่าหรื อเท่ากับ 5
และ
หมายถึง x  5 หรื อ x  5
8

พิจารณาการเปลียนประโยคภาษาให้ เป็ นประโยคสัญลักษณ์ ทางคณิตศาสตร์ ต่อไปนี้
่
ประโยคภาษา
ประโยคสัญลักษณ์
1. ยีสิบบวกแปดน้อยกว่าสามสิบหก
่
20  8  36
2. เจ็ดสิบสี่มากกว่าเศษหนึ่งส่วนสามคูณด้วยสามสิบเก้า 74  1 (39)
3
3. สองเท่าของจานวนหนึ่งน้อยกว่าหรื อเท่ากับ 10
2x  10
4. สี่เท่าของจานวนหนึ่งบวกกับสามมีค่าไม่เท่ากับ 6
4x  3  6
5. เจ็ดเท่าของจานวนหนึ่งมากกว่าผลบวกของสามเท่า
7x  3x 16
ของจานวนนั้นกับ 16
ประโยคสัญลักษณ์ในข้อ 1 – 5 เรี ยกว่า อสมการ
ประโยคที่แสดงถึงความสัมพันธ์ของจานวนโดยมีสญลักษณ์
ั
 ,  ,  ,  หรื อ  เรี ยกว่า อสมการ
1
อสมการ 20  8  36 และ 74  3 (39) เป็ นอสมการที่ไม่มีตวแปร
ั

ส่วนอสมการ 2x  10 , 4x  3  6 และ 7x  3x 16 เป็ นอสมการที่มีตวแปร และ
ั
มีตวแปรเดียวที่มดีกรี ของตัวแปรเท่ากับ 1 เรี ยกว่า อสมการเชิงเส้ นตัวแปรเดียว
ั
ี
ตัวอย่าง อสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว
(1) 2x  3  7 เป็ นอสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว
เพราะเป็ นประโยคสัญลักษณ์ที่มีเครื่ องหมาย  มีตวแปรหนึ่งตัวคือ x ดีกรี ของ x เท่ากับ 1
ั
(2) 4y  5  8 เป็ นอสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว
เพราะเป็ นประโยคสัญลักษณ์ที่มีเครื่ องหมาย  มีตวแปรหนึ่งตัวคือ y ดีกรี ของ y
ั
เท่ากับ 1
(3) 7a  3  9 เป็ นอสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว
เพราะเป็ นประโยคสัญลักษณ์ที่มีเครื่ องหมาย  มีตวแปรหนึ่งตัวคือ a ดีกรี ของ a เท่ากับ 1
ั
x
(4) 5  4  12 เป็ นอสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว
เพราะเป็ นประโยคสัญลักษณ์ที่มีเครื่ องหมาย  มีตวแปรหนึ่งตัวคือ x ดีกรี ของ x เท่ากับ 1
ั
9

(5) 4m  7  10 เป็ นอสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว
เพราะเป็ นประโยคสัญลักษณ์ที่มีเครื่ องหมาย  มีตวแปรหนึ่งตัวคือ m ดีกรี ของ m
ั
เท่ากับ 1
(6) 3(4z  8)  15 เป็ นอสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว
เพราะเป็ นประโยคสัญลักษณ์ที่มีเครื่ องหมาย  มีตวแปรหนึ่งตัวคือ z ดีกรี ของ z เท่ากับ 1
ั
(7) 12n  9  4x  3 เป็ นอสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว
เพราะเป็ นประโยคสัญลักษณ์ที่มีเครื่ องหมาย  มีตวแปรหนึ่งตัวคือ n ดีกรี ของ n
ั
เท่ากับ 1
(8) 7(x  4)  2(3x  5) เป็ นอสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว
เพราะเป็ นประโยคสัญลักษณ์ที่มีเครื่ องหมาย  มีตวแปรหนึ่งตัวคือ x ดีกรี ของ x เท่ากับ 1
ั
3
(9) 2 (b  7)  16 เป็ นอสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว
เพราะเป็ นประโยคสัญลักษณ์ที่มีเครื่ องหมาย  มีตวแปรหนึ่งตัวคือ b ดีกรี ของ b เท่ากับ 1
ั
4
5
(10) 5 (c  3)  4 (c  2) เป็ นอสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว
เพราะเป็ นประโยคสัญลักษณ์ที่มีเครื่ องหมาย  มีตวแปรหนึ่งตัวคือ c ดีกรี ของ c
ั
เท่ากับ 1
ตัวอย่าง อสมการที่ไม่ใช่อสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว
เช่น (1) 3x  2y  4
ไม่เป็ นอสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว
เพราะเป็ นประโยคสัญลักษณ์ที่มีตวแปรไม่เท่ากับหนึ่งตัวคือ x และ y
ั
(2) 3x 2  5  14 ไม่เป็ นอสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว
เพราะเป็ นประโยคสัญลักษณ์ที่มีตวแปรหนึ่งตัวคือ x แต่มีดีกรี ของ x ไม่เท่ากับ 1
ั
ทาแบบฝึ กทักษะ
ต่อไปเลยนะครับ
10

แบบฝึ กทักษะตอนที่ 1
1. จงเขียนประโยคภาษาต่อไปนีให้เป็ นประโยคสัญลักษณ์ ทางคณิตศาสตร์
้
ให้ ถกต้อง (ข้อละ 1 คะแนน) โดยมีข้อตกลงให้ x แทนตัวแปรในแต่ละข้อ
ู
ประโยคภาษา

ประโยคสัญลักษณ์

1. ผลบวกของจานวนหนึ่งกับห้าคูณสองมีค่ามากกว่าสิบสอง

……………………………………..

2. จานวนจานวนหนึ่งหารด้วยห้ามีค่ามากกว่าหรื อเท่ากับ

……………………………………..

สิบสอง
3. สามเท่าของจานวนจานวนหนึ่งบวกเจ็ดมีค่าไม่มากกว่า

……………………………………..

ยีสิบเอ็ด
่
4. สองเท่าของผลบวกของจานวนจานวนหนึ่งกับแปด

……………………………………..

น้อยกว่าห้า
5. สี่เท่าของจานวนหนึ่งบวกด้วยเจ็ดมีค่าไม่นอยกว่าเก้า
้

……………………………………..

6. สี่เท่าของจานวนจานวนหนึ่งหารด้วยเก้ามากกว่าหรื อ

……………………………………..

เท่ากับยีสิบ
่
7. ผลคูณของห้ากับจานวนหนึ่งบวกด้วยสองมีค่า

……………………………………..

มากกว่าสิบห้า
8. จานวนจานวนหนึ่งลบด้วยสิบสองหารด้วยห้ามีค่า
ไม่มากกว่าสิบแปด

……………………………………..
11

ประโยคภาษา
9. ผลต่างของจานวนจานวนหนึ่งกับเจ็ด เมื่อหารด้วยสาม

ประโยคสัญลักษณ์
……………………………………

มีค่าไม่เท่ากับสิบสอง
10. ครึ่ งหนึ่งของผลบวกของสิบกับจานวนหนึ่งมีค่า

……………………………………

ไม่นอยกว่าสิบ
้
11. จานวนจานวนหนึ่งเมื่อหารด้วยเก้ามากกว่าหรื อเท่ากับ

……………………………………

ยีสิบ
่
12. เศษสามส่วนสี่ของผลต่างของจานวนจานวนหนึ่งกับสอง

……………………………………

ไม่ถึงสี่สิบ
13. สองเท่าของผลต่างของจานวนจานวนหนึ่งกับสี่นอยกว่า
้

……………………………………

ห้าเท่าของผลบวกของจานวนจานวนนั้นกับแปด
14. ผลบวกของสามในสี่ของจานวนจานวนหนึ่งกับแปด

……………………………………

ไม่เกินสิบห้า
15. ผลบวกของจานวนหนึ่งกับแปดหารด้วยสองมีค่าไม่เท่ากับ
สิบสอง

……………………………………
12

2. จงเขียนประโยคภาษาต่อไปนีให้เป็ นประโยคสัญลักษณ์ ทางคณิตศาสตร์ ให้ถูกต้อง
้
(ข้ อละ 1 คะแนน) โดยมีข้อตกลงให้ y แทนตัวแปรในแต่ละข้ อ
ประโยคภาษา
1. สามเท่าของจานวนจานวนหนึ่งมีค่าไม่มากกว่าผลบวก
ของสองเท่าของจานวนนั้นกับสาม
2. สี่เท่าของผลต่างของจานวนจานวนหนึ่งกับ 15 ไม่เกิน 25
3. ผลบวกของสี่ส่วนห้าของจานวนจานวนหนึ่งกับ 10
ไม่นอยกว่า 9
้
4. แปดเท่าของจานวนจานวนหนึ่งมากกว่าสามเท่าของ
จานวนนั้นไม่นอยกว่า 16
้
5. ผลบวกของสามในสิบของจานวนจานวนหนึ่งกับ
สองในห้าของจานวนนั้นมีค่ามากกว่า 42
6. จานวนจานวนหนึ่งรวมกับสี่ในห้าของจานวนนั้น
ยังน้อยกว่า 15
7. สามเท่าของจานวนจานวนหนึ่งน้อยกว่าแปดเท่าของ
จานวนนั้นอยูไม่เกิน 35
่
8. ผลบวกของจานวนจานวนหนึ่งกับเจ็ดในเก้าของ
จานวนนั้นมีค่าน้อยกว่า 4
9. ห้าเท่าของผลบวกของจานวนจานวนหนึ่งกับ
สี่มีค่ามากกว่า 20
10. เจ็ดในสิบห้าของสองเท่าของจานวนจานวนหนึ่ง
มีค่ามากกว่า 15

ประโยคสัญลักษณ์
13

3. ให้ นักเรียนใส่ เครื่องหมาย (  ) ลงในช่ องของตารางให้ ถูกต้อง (ข้ อละ 1 คะแนน)
ข้ อ
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15

ประโยคสัญลักษณ์
8x  16
2x  5  13
3x  5y  10
3
2 x  20
y  9  16

2x  x  x  9
y2 5  0
5
6 (x  3)  10
x  8  26
3x  9  x 12
3  7  15
9 7
8  8 3
3x  9  x 12
2
5 x  9  20  y
3y  9  16x  8

รวมคะแนน

อสมการ
ใช่
ไม่ใช่

อสมการเชิงเส้ นตัวแปรเดียว
ใช่
ไม่ใช่
14

อสมการเชิงเส้ นตัวแปรเดียว
ตอนที่ 2

จุดประสงค์การเรียนรู้
หาคาตอบและเขียนกราฟแสดงคาตอบของอสมการที่กาหนดให้ได้
คาตอบของอสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว คือ จานวนจริ งใดๆ ที่นาไปแทนค่าตัวแปร
ในอสมการแล้ว จะได้อสมการที่เป็ นจริ ง
เช่น
x  3  12
ถ้าแทน x ด้วย 16 จะได้อสมการ 16  3  12
13  12 ไม่เป็ นจริ ง
ถ้าแทน x ด้วย 15 จะได้อสมการ 15  3  12
12  12 ไม่เป็ นจริ ง
ถ้าแทน x ด้วย 14 จะได้อสมการ 14  3  12
11  12 เป็ นจริ ง
แสดงว่า 14 เป็ นคาตอบของอสมการ
ถ้าแทน x ด้วย 13 จะได้อสมการ 13  3  12
10  12 เป็ นจริ ง
แสดงว่า 13 เป็ นคาตอบของอสมการ
เมื่อแทน x ด้วยจานวนอื่นๆ จะพบว่าอสมการเป็ นจริ งได้เมือ x  15
่
ดังนั้น คาตอบของอสมการ x  3  12 คือ จานวนจริ งทุกจานวนที่นอยกว่า 15
้
15

ตัวอย่างที่ 1 จงหาจานวนที่แทนตัวแปร x แล้วทาให้ประโยคเป็ นจริ ง
1) 5x 1  26
2) 3x  21
3) 2  x  5
วิธีทา
1) 5x 1  26
ถ้าแทน x ด้วย 5
จะได้
5(5) 1  26
26  26 เป็ นจริ ง
ดังนั้น แทน x ด้วย 5 แล้วจะทาให้ 5x 1  26 เป็ นจริ ง
แสดงว่า 5 เป็ นคาตอบของอสมการ 5x 1  26
เมื่อแทน x ด้วยจานวนอื่นๆ อีก จะพบว่ามีจานวนอีกหลายจานวน
1
1
ที่ทาให้อสมการ 5x 1  26 เป็ นจริ ง เช่น 4.9 , 4 2 , 3 .2 , 2 2 , 2 , 1 , 0 , 1 , ...
นันคือ คาตอบของอสมการ 5x 1  26 คือ จานวนจริ งทุกจานวนที่นอยกว่า
้
่
หรื อเท่ากับ 5
เขียนกราฟแสดงคาตอบของอสมการ 5x 1  26 ได้ดงนี้
ั
-2 -1 0 1 2 3 4 5 6 7 8 9
ตอบ จานวนจริ งทุกจานวนที่นอยกว่าหรื อเท่ากับ 5
้
16

2) 3x  21
ถ้าแทน x ด้วย 0 จะได้ว่า
3(0)  21 เป็ นจริ ง
ถ้าแทน x ด้วย 1 จะได้ว่า
3(1)  21 เป็ นจริ ง
ถ้าแทน x ด้วย 6 จะได้ว่า 3( 6)  21 เป็ นจริ ง
ถ้าแทน x ด้วย 7 จะได้ว่า
3(7)  21 ไม่เป็ นจริ ง
เมื่อแทน x ด้วยจานวนอื่นๆ อีกมากมายที่ทาให้อสมการเป็ นจริ ง
จะพบว่า 3x  21 เป็ นจริ ง เมื่อแทน x ได้ทุกจานวนยกเว้น 7
นันคือ คาตอบของอสมการ 3x  21 คือ จานวนจริ งทุกจานวนยกเว้น 7
่
เขียนกราฟแสดงคาตอบของอสมการ 3x  21 ได้ดงนี้
ั
3

4

5

6

7

8

9

ตอบ จานวนจริ งทุกจานวนยกเว้น 7
3) 2  x  5
ถ้าแทน x ด้วย 1 จะได้ว่า
2  1  5 เป็ นจริ ง
2  0  5 เป็ นจริ ง
ถ้าแทน x ด้วย 0 จะได้ว่า
เมือแทน x ด้วยจานวนอื่นๆ อีกหลายจานวนที่ทาให้อสมการเป็ นจริ ง
่
เช่น 1 , 2 , 3 , 4 , 5 ซึ่งเป็ นจานวนที่มากกว่า 2 แต่นอยกว่าหรื อเท่ากับ 5
้
นันคือ คาตอบของอสมการ 2  x  5 คือ จานวนจริ งทุกจานวนที่มากกว่า 2
่
แต่นอยกว่าหรื อเท่ากับ 5
้
เขียนกราฟแสดงคาตอบของอสมการ 2  x  5 ได้ดงนี้
ั
-5 -4 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6
ตอบ จานวนจริ งทุกจานวนที่มากกว่า 2 แต่นอยกว่าหรื อเท่ากับ 5
้
17

ตัวอย่างที่ 2 จงหาจานวนที่แทนตัวแปร x แล้วทาให้ x  3  8 เป็ นจริ ง
วิธีทา จาก
x 3  8
ถ้าแทน x ด้วย 11 จะได้ 11  3  8 ไม่เป็ นจริ ง
ถ้าแทน x ด้วย 10 จะได้ 10  3  8 เป็ นจริ ง
ถ้าแทน x ด้วย 9 จะได้ 9  3  8 เป็ นจริ ง
ถ้าแทน x ด้วย 8 จะได้ 8  3  8 เป็ นจริ ง
เมื่อแทน x ด้วยจานวนอื่นๆ อีกมากมายที่ทาให้อสมการเป็ นจริ ง
1
1
เช่น 10.9 , 10 , 9.9 , 9.8 , 9 2 , 8 , 7 2 , 7 , 6 , 5 , ...
นันคือ คาตอบของอสมการ x  3  8 คือ จานวนจริ งทุกจานวนที่นอยกว่า 11
้
่
เขียนกราฟแสดงคาตอบของอสมการได้ดงนี้
ั
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12
ตอบ จานวนจริ งทุกจานวนที่นอยกว่า 11
้

สู ้ ๆ ทาแบบฝึ กต่อไป
ได้เลย….
18

แบบฝึ กทักษะตอนที่ 2
คาชี้แจง ให้นักเรียนหาคาตอบของอสมการในข้ อต่อไปนี้ โดยทดลองแทนค่าและเขียนกราฟแสดง
คาตอบ (ข้ อละ 2 คะแนน)
1. x  7  3
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
……….. .……………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
……….. .……………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
……….. .……………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
19

2. 2x  6  4
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………….…………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………….…………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………….…………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
20

3. 4x  5  15
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
21

4. x  5  4
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
22

5. 7x  35
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………….
23

x
6. 2  4
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
24

7. 2x  8  2
………………………………………………………………………………………………………
………..……………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
25

8. 7x  6  20
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
26

9. 3x  5  14
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
27

10. 12  x  21
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………

รวมคะแนน

...............
28

แบบทดสอบหลังเรียน
วิชาคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 3 เรื่อง อสมการเชิงเส้ นตัวแปรเดียว
เวลา 30 นาที
คาสั่ง ข้อสอบฉบับนี้เป็ นข้อสอบปรนัยมีท้งหมด 20 ข้อ ให้นกเรี ยนเลือกคาตอบที่ถกเพียงข้อเดียว
ั
ั
ู
จุดประสงค์การเรี ยนรู้ : 1. เขียนประโยค
ภาษาให้เป็ นประโยคสัญลักษณ์ทาง
คณิ ตศาสตร์ ได้
1. ผลบวกของสามเท่าของจานวน
จานวนหนึ่งกับ 8 มีค่าไม่เกิน 20 เขียนเป็ น
ประโยคสัญลักษณ์ได้ในข้อใด
ก. 3(x  8)  20
ข. 3(x  8)  20
ค. 3x  8  20
ง. 3x  8  20
2. สามเท่าของจานวนจานวนหนึ่งมีค่า
ไม่เกิน 9 เขียนเป็ นประโยคสัญลักษณ์
ได้ในข้อใด
ก. 3x  9
ข. 3x  9
ค. 3x  9
ง. 3x  9
3. ห้าเท่าของผลต่างของจานวนจานวนหนึ่ง
กับ 8 ไม่นอยกว่า 35 เขียนเป็ นประโยค
้
สัญลักษณ์ได้ในข้อใด
ก. 5x  8  35
ข. 5x  8  35
ค. 5(x  8)  35
ง. 5(x  8)  35

4. 2(x  5)  9  7 เขียนเป็ นประโยคภาษา
ได้ในข้อใด
ก. ผลต่างของสองเท่าของจานวน
จานวนหนึ่งกับ 5 ลบด้วย 9
มากกว่า 7
ข. สองเท่าของผลต่างของจานวน
จานวนหนึ่งกับ 5 มีค่ามากกว่า 9
อยูไม่มากกว่า 7
่
ค. ผลต่างของสองเท่าของจานวน
จานวนหนึ่งกับ 5 ลบด้วย 9 มากกว่า
หรื อเท่ากับ 7
ง. สองเท่าของผลต่างของจานวน
จานวนหนึ่งกับ 5 มีค่ามากกว่า 9
อยูไม่นอยกว่า 7
่ ้
5. 3(x  4)  8 เขียนเป็ นประโยคภาษา
ได้ในข้อใด
ก. ผลต่างของสามเท่าของจานวน
จานวนหนึ่งกับ 4 ไม่มากกว่า 8
ข. สามเท่าของผลต่างของจานวน
จานวนหนึ่งกับ 4 ไม่มากกว่า 8
ค. ผลต่างของสามเท่าของจานวน
จานวนหนึ่งกับ 4 น้อยกว่า 8
ง. สามเท่าของผลต่างของจานวน
จานวนหนึ่งกับ 4 ไม่นอยกว่า 8
้
29

6. สี่เท่าของผลต่างจานวนจานวนหนึ่งกับหก
มากกว่า 15 อยูไม่เกิน 7 เขียนเป็ นประโยค
่
สัญลักษณ์ได้ในข้อใด
ก. 4(x  6) 15  7
ข. 4(x  6) 15  7
ค. 4(x  6)  7  15
ง. 15  4x  6  7
7. สองเท่าของจานวนนับจานวนหนึ่ง
มากกว่า 15 อยูไม่เกิน 8 เขียนเป็ นอสมการ
่
ได้ในข้อใด
ก. 2x  8  15
ข. 2x 15  8
ค. 2x 15  8
ง. 2x 15  8
จุดประสงค์การเรี ยนรู้ : 2. บอกได้ว่าประโยค
สัญลักษณ์ใดเป็ นอสมการเชิงเส้น
ตัวแปรเดียว
8. อสมการในข้อใดเป็ นอสมการเชิงเส้น
ตัวแปรเดียว
ก. 4  9  10
ข. 3x 2  27
ค. 5x  y  6
x
ง. x  5  85
9. อสมการในข้อใดเป็ นอสมการเชิงเส้น
ตัวแปรเดียว
ก. 3  8  10
ข. 3x 2  9
ค. 5x  y  6
ง. 9x 15  85

จุดประสงค์การเรี ยนรู้ที่ : 3. หาคาตอบ
และเขียนกราฟแสดงคาตอบของอสมการ
ที่กาหนดให้ได้
10. เส้นกราฟข้างล่างนี้แทนอสมการใด
-1
ก.
ข.
ค.
ง.

0 1
x4
x  4
x4
x  4

2

3

4

5

11. เส้นกราฟข้างล่างนี้แทนอสมการใด
-2
ก.
ข.
ค.
ง.

-1 0
x 1  0
x 2 0
x2 0
x 1  0

1

2

3

4

12. เส้นกราฟข้างล่างนี้แทนอสมการใด
-4
ก.
ข.
ค.
ง.

-3 -2 -1
x 1  0
x 1  0
x 1  0
x 1  0

0

1

2
30

13. เส้นกราฟข้างล่างนี้แทนอสมการใด
-1
ก.
ข.
ค.
ง.

0 1 2
x 2 5
x  2  5
x 2 5
x 2 5

3

4

16. เส้นกราฟข้างล่างนี้ แทนอสมการใด
5

-5 -4 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6
ก. 2  x  4
ข. 2  x  4
ค. 2  x  4
ง. 2  x  4

14. กราฟข้อใดเป็ นคาตอบของอสมการ

17. กราฟข้อใดเป็ นคาตอบของอสมการ

x 3  0
ก.
-5 -4
ข.
-5 -4
ค.
-5 -4
ง.
-5 -4

3  x  5
ก.
-5 -4
ข.
-5 -4
ค.
-5 -4
ง.
-5 -4

-3 -2 -1 0 1 2 3 4 5
-3 -2 -1 0 1 2 3 4 5
-3 -2 -1 0 1 2 3 4 5
-3 -2 -1 0 1 2 3 4 5

-3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6
-3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6
-3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6
-3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6

18. กราฟข้อใดเป็ นคาตอบของอสมการ
15. เส้นกราฟข้างล่างนี้แทนอสมการใด
-2
ก.
ข.
ค.
ง.

-1 0
x2 0
x2 0
x 2 0
x 2 0

1

2

3

4

4  x  2
ก.
-5 -4
ข.
-5 -4
ค.
-5 -4
ง.
-5 -4

-3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6
-3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6
-3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6
-3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6
31

19. กราฟข้อใดเป็ นคาตอบของอสมการ

20. กราฟข้อใดเป็ นคาตอบของอสมการ

3  3x
ก.
-5 -4
ข.
-5 -4
ค.
-5 -4
ง.
-5 -4

x  ( 3)( 2)
ก.
-3 -2 -1
ข.
-3 -2 -1
ค.
-3 -2 -1
ง.
-3 -2 -1

-3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6
-3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6
-3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6
-3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6

เก่งจริ งนะเธอ
ทาได้ทุกข้อเลย

0 1 2 3 4 5 6 7
0 1 2 3 4 5 6 7
0 1 2 3 4 5 6 7
0 1 2 3 4 5 6 7
32

เฉลยแบบฝึ กทักษะตอนที่ 1

1. จงเขียนประโยคภาษาต่อไปนีให้เป็ นประโยคสัญลักษณ์ ทางคณิตศาสตร์ ให้ถูกต้อง
้
(ข้ อละ 1 คะแนน) โดยมีข้อตกลงให้ x แทนตัวแปรในแต่ละข้ อ
ประโยคภาษา

ประโยคสัญลักษณ์

1. ผลบวกของจานวนหนึ่งกับห้าคูณสองมีค่ามากกว่าสิบสอง 2(5  x)  12
x
2. จานวนจานวนหนึ่งหารด้วยห้ามีค่ามากกว่าหรื อเท่ากับ
5  12
สิบสอง
3. สามเท่าของจานวนจานวนหนึ่งบวกเจ็ดมีค่าไม่มากกว่า

3x  7  21

ยีสิบเอ็ด
่
4. สองเท่าของผลบวกของจานวนจานวนหนึ่งกับแปด

2(x  8)  5

น้อยกว่าห้า
5. สี่เท่าของจานวนหนึ่งบวกด้วยเจ็ดมีค่าไม่นอยกว่าเก้า
้

4x  7  9

6. สี่เท่าของจานวนจานวนหนึ่งหารด้วยเก้ามากกว่าหรื อ

4x
9  20

เท่ากับยีสิบ
่
7. ผลคูณของห้ากับจานวนหนึ่งบวกด้วยสองมีค่ามากกว่า

5x  2  15

สิบห้า
8. จานวนจานวนหนึ่งลบด้วยสิบสองหารด้วยห้ามีค่า
ไม่มากกว่าสิบแปด

x  12
5  18
33

ประโยคภาษา
9. ผลต่างของจานวนจานวนหนึ่งกับเจ็ด เมื่อหารด้วยสาม

ประโยคสัญลักษณ์
x 7
3  12

มีค่าไม่เท่ากับสิบสอง
10. ครึ่ งหนึ่งของผลบวกของสิบกับจานวนหนึ่งมีค่า

10  x
2  10

ไม่นอยกว่าสิบ
้
11. จานวนจานวนหนึ่งเมื่อหารด้วยเก้ามากกว่าหรื อเท่ากับ

x
9  20

ยีสิบ
่
12. เศษสามส่วนสี่ของผลต่างของจานวนจานวนหนึ่งกับสอง

3
4 (x  2)  40

ไม่ถึงสี่สิบ
13. สองเท่าของผลต่างของจานวนจานวนหนึ่งกับสี่นอยกว่า
้

2(x  4)  5(x  8)

ห้าเท่าของผลบวกของจานวนจานวนนั้นกับแปด
14. ผลบวกของสามในสี่ของจานวนจานวนหนึ่งกับแปด

3
4 x  8  15

ไม่เกินสิบห้า
15. ผลบวกของจานวนหนึ่งกับแปดหารด้วยสองมีค่า
ไม่เท่ากับสิบสอง

x 8
2  12
34

2. จงเขียนประโยคภาษาต่อไปนีให้เป็ นประโยคสัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์ ให้ ถูกต้อง
้
(ข้ อละ 1 คะแนน) โดยมีข้อตกลงให้ y แทนตัวแปรในแต่ละข้ อ

ประโยคภาษา
1. สามเท่าของจานวนจานวนหนึ่งมีค่าไม่มากกว่าผลบวก
ของสองเท่าของจานวนนั้นกับสาม
2. สี่เท่าของผลต่างของจานวนจานวนหนึ่งกับ 15 ไม่เกิน 25
3. ผลบวกของสี่ส่วนห้าของจานวนจานวนหนึ่งกับ 10
ไม่นอยกว่า 9
้
4. แปดเท่าของจานวนจานวนหนึ่งมากกว่าสามเท่าของ
จานวนนั้นไม่นอยกว่า 16
้
5. ผลบวกของสามในสิบของจานวนจานวนหนึ่งกับ
สองในห้าของจานวนนั้นมีค่ามากกว่า 42
6. จานวนจานวนหนึ่งรวมกับสี่ในห้าของจานวนนั้น
ยังน้อยกว่า 15
7. สามเท่าของจานวนจานวนหนึ่งน้อยกว่าแปดเท่าของ
จานวนนั้นอยูไม่เกิน 35
่
8. ผลบวกของจานวนจานวนหนึ่งกับเจ็ดในเก้าของ
จานวนนั้นมีค่าน้อยกว่า 4
9. ห้าเท่าของผลบวกของจานวนจานวนหนึ่ งกับ
สี่มีค่ามากกว่า 20
10. เจ็ดในสิบห้าของสองเท่าของจานวนจานวนหนึ่ง
มีค่ามากกว่า 15

ประโยคสัญลักษณ์
3y  2y  3

4(y 15)  25
4
5 y  10  9

8y  3y  16
3
2
y  5 y  42
10
4
y  5 y  15

8y  3y  35
7
y 9y4

5(y  4)  20
7
15 (2y)  15
35

3. ให้ นกเรียนใส่ เครื่องหมาย (  ) ลงในช่ องของตารางให้ ถูกต้อง
ั
อสมการ
อสมการเชิงเส้ นตัวแปรเดียว
ข้ อ
ประโยคสัญลักษณ์
ใช่
ไม่ใช่
ใช่
ไม่ใช่


1 8x  16


2 2x  5  13


3 3x  5y  10


4 3 x  20
2


5 y  9  16


6 2x  x  x  9


7 y2 5  0


8 5 (x  3)  10
6


9 x  8  26


10 3x  9  x 12


11 3  7  15


12 9  7  3
8 8


13 3x  9  x 12


14 2 x  9  20  y
5


15 3y  9  16x  8

รวมคะแนน

...............
36

เฉลยแบบฝึ กทักษะตอนที่ 2
และเกณฑ์การให้ คะแนน
คาชี้แจง ให้นักเรียนหาคาตอบของอสมการในข้ อต่อไปนี้ โดยทดลองแทนค่าและเขียนกราฟแสดง
คาตอบ (ข้ อละ 2 คะแนน)
1.
x 7 3
วิธีทา จาก
x 7 3
ถ้าแทน x ด้วย 4
จะได้ว่า 4  7  3
3  3 ไม่เป็ นจริ ง
ถ้าแทน x ด้วย 3
จะได้ว่า 3  7  3
4  3 เป็ นจริ ง
ดังนั้น 3 แทนลงใน x แล้วจะทาให้ x  7  3 เป็ นจริ ง
แสดงว่า 3 เป็ นคาตอบของอสมการ x  7  3
เมื่อแทน x ด้วยจานวนจริ งอื่นๆ อีก จะพบว่ามีจานวนอีกหลายจานวนที่ทาให้
อสมการ x  7  3 เป็ นจริ ง เช่น 2 , 1 , 0 , 1, 2, …
นันคือ คาตอบของอสมการ x  7  3 คือ จานวนจริ งทุกจานวนที่มากกว่า 4
่
เขียนกราฟแสดงคาตอบของอสมการ x  7  3 ได้ดงนี้
ั
-5 -4 -3 -2 -1
ตอบ จานวนจริ งทุกจานวนที่มากกว่า 4

เกณฑ์การให้ คะแนน (ข้ อ 1  10)
ส่วนที่เป็ นสีฟ้าได้ 1 คะแนน
ส่วนที่เป็ นสีเหลืองได้ 1 คะแนน

0

1
37

2.
2x  6  4
วิธีทา จาก
2x  6  4
ถ้าแทน x ด้วย 6
จะได้
2(6)  6  4
6  4 ไม่เป็ นจริ ง
ถ้าแทน x ด้วย 5
จะได้
2(5)  6  4
4  4 เป็ นจริ ง
ถ้าแทน x ด้วย 4
จะได้
2(4)  6  4
2  4 เป็ นจริ ง
ดังนั้น แทน x ด้วย 5 และ 4 แล้วจะทาให้ 2x  6  4 เป็ นจริ ง
แสดงว่า 5 , 4 เป็ นคาตอบของอสมการ 2x  6  4
เมื่อแทน x ด้วยจานวนจริ งอื่นๆ อีก จะพบว่ามีจานวนอีกหลายจานวนที่ทาให้
อสมการ 2x  6  4 เป็ นจริ ง เช่น 4, 3, 2, 1, 0, …
นันคือ คาตอบของอสมการ 2x  6  4 คือ จานวนจริ งทุกจานวนที่นอยกว่า
้
่
หรื อเท่ากับ 5
เขียนกราฟแสดงคาตอบของอสมการ 2x  6  4 ได้ดงนี้
ั
0

1

2

3

4

5

ตอบ จานวนจริ งทุกจานวนที่นอยกว่าหรื อเท่ากับ 5
้

6
38

4x  5  15
จาก
4x  5  15
ถ้าแทน x ด้วย 4
จะได้
4(4)  5  15
11  15 ไม่เป็ นจริ ง
ถ้าแทน x ด้วย 5
จะได้
4(5)  5  15
เป็ นจริ ง
15  15
ถ้าแทน x ด้วย 6
จะได้
4(6)  5  15
เป็ นจริ ง
19  15
ดังนั้น แทน x ด้วย 5 แล้วจะทาให้ 4x  5  15 เป็ นจริ ง
แสดงว่า 5 เป็ นคาตอบของอสมการ 4x  5  15
เมื่อแทน x ด้วยจานวนจริ งอื่นๆ อีก จะพบว่ามีจานวนอีกหลายจานวนที่ทาให้
อสมการ 4x  5  15 เป็ นจริ ง เช่น 7, 8, 9, …
นันคือ คาตอบของอสมการ 4x  5  15 คือ จานวนจริ งทุกจานวนที่มากกว่า
่
หรื อเท่ากับ 5
เขียนกราฟแสดงคาตอบของอสมการ 4x  5  15 ได้ดงนี้
ั

3.
วิธีทา

2

3

4

5

6

ตอบ จานวนจริ งทุกจานวนที่มากกว่าหรื อเท่ากับ 5

7

8
39

4.
x  5  4
วิธีทา
จาก
x  5  4
ถ้าแทน x ด้วย 1
จะได้
1  5  4
6  4 ไม่เป็ นจริ ง
ถ้าแทน x ด้วย 0
จะได้
0  5  4
5  4 ไม่เป็ นจริ ง
ถ้าแทน x ด้วย 1
จะได้
1  5  4
4  4 เป็ นจริ ง
ถ้าแทน x ด้วย 2
จะได้
2  5  4
3  4 เป็ นจริ ง
ดังนั้น แทน x ด้วย 1 , 2 แล้วจะทาให้ x  5  4 เป็ นจริ ง
แสดงว่า 1 , 2 เป็ นคาตอบของอสมการ x  5  4
เมื่อแทน x ด้วยจานวนจริ งอื่นๆ อีก จะพบว่ามีจานวนอีกหลายจานวนที่ทาให้
อสมการ x  5  4 เป็ นจริ ง เช่น 3, 4, 5, …
นันคือ คาตอบของอสมการ x  5  4 คือ จานวนจริ งทุกจานวนที่มากกว่า
่
หรื อเท่ากับ 1
เขียนกราฟแสดงคาตอบของอสมการ x  5  4 ได้ดงนี้
ั
-2 -1

0

1

2

ตอบ จานวนจริ งทุกจานวนที่มากกว่าหรื อเท่ากับ 1

3

4
40

5.
7x  35
วิธีทา จาก
7x  35
ถ้าแทน x ด้วย 0 จะได้
7(0)  35 เป็ นจริ ง
ถ้าแทน x ด้วย 2 จะได้
7(2)  35 เป็ นจริ ง
ถ้าแทน x ด้วย 5 จะได้ 7( 5)  35 ไม่เป็ นจริ ง
ถ้าแทน x ด้วย 6 จะได้ 7( 6)  35 เป็ นจริ ง
เมื่อแทน x ด้วยจานวนจริ งอื่นๆ อีกมากมายที่ทาให้อสมการเป็ นจริ ง จะพบว่า
7x  35 เป็ นจริ ง เมื่อแทน x ได้ทุกจานวนยกเว้น 5
นันคือ คาตอบของอสมการ 7x  35 คือ จานวนจริ งทุกจานวนยกเว้น 5
่
เขียนกราฟแสดงคาตอบของอสมการ 7x  35 ได้ดงนี้
ั
-9 -8 -7 -6 -5 -4 -3 -2 -1 0 1 2
ตอบ จานวนจริ งทุกจานวนยกเว้น 5
41

x
6. 2  4
วิธีทา จาก

x
2 4
ถ้าแทน x ด้วย 10
10
จะได้
2 4
5  4 ไม่เป็ นจริ ง
ถ้าแทน x ด้วย 8
8
จะได้
2 4
44
เป็ นจริ ง
ถ้าแทน x ด้วย 6
6
จะได้
2 4
เป็ นจริ ง
34
เมื่อแทน x ด้วยจานวนจริ งอื่นๆ อีก จะพบว่ามีจานวนอีกหลายจานวนที่ทาให้
x
อสมการ 2  4 เป็ นจริ ง เช่น 4, 2, 0 , …
x
นันคือ คาตอบของอสมการ 2  4 คือ จานวนจริ งทุกจานวนที่นอยกว่า
้
่

หรื อเท่ากับ 8

x
เขียนกราฟแสดงคาตอบของอสมการ 2  4 ได้ดงนี้
ั

-1 0 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10
ตอบ จานวนจริ งทุกจานวนที่นอยกว่าหรื อเท่ากับ 8
้
42

7. 2x  8  2
วิธีทา จาก
2x  8  2
ถ้าแทน x ด้วย 4
จะได้
2(4)  8  2

8 8  2
02
ถ้าแทน x ด้วย 5
จะได้
2(5)  8  2

ไม่เป็ นจริ ง

10  8  2
22
เป็ นจริ ง
ถ้าแทน x ด้วย 6
จะได้
2(6)  8  2
เป็ นจริ ง
12  8  2
42
เป็ นจริ ง
เมื่อแทน x ด้วยจานวนจริ งอื่นๆ อีก จะพบว่ามีจานวนอีกหลายจานวนที่ทาให้
อสมการ 2x  8  2 เป็ นจริ ง เช่น 7, 8, 9, …
นันคือ คาตอบของอสมการ 2x  8  2 คือ จานวนจริ งทุกจานวนที่มากกว่า
่
หรื อเท่ากับ 5
เขียนกราฟแสดงคาตอบของอสมการ 2x  8  2 ได้ดงนี้
ั
-2 -1 0 1 2 3 4 5 6 7 8 9
ตอบ จานวนจริ งทุกจานวนที่มากกว่าหรื อเท่ากับ 5
43

8. 7x  6  20
วิธีทา จาก
7x  6  20
ถ้าแทน x ด้วย 3
จะได้
7(3)  6  20
21  6  20
27  20
ถ้าแทน x ด้วย 2
จะได้
7(2)  6  20

ไม่เป็ นจริ ง

14  6  20
20  20
ถ้าแทน x ด้วย 1
จะได้ว่า
7(1)  6  20

ไม่เป็ นจริ ง

7  6  20
13  20
ถ้าแทน x ด้วย 0
จะได้
7(0)  6  20

เป็ นจริ ง

0  6  20
เป็ นจริ ง
6  20
เมื่อแทน x ด้วยจานวนจริ งอื่นๆ อีก จะพบว่ามีจานวนอีกหลายจานวนที่ทาให้
อสมการ 7x  6  20 เป็ นจริ ง เช่น 1 , 2 , 3 …
นันคือ คาตอบของอสมการ 7x  6  20 คือ จานวนจริ งทุกจานวนที่นอยกว่า 2
้
่
เขียนกราฟแสดงคาตอบของอสมการ 7x  6  20 ได้ดงนี้
ั

-2 -1

0

1

ตอบ จานวนจริ งทุกจานวนที่นอยกว่า 2
้

2

3

4
44

9. 3x  5  14
วิธีทา จาก
3x  5  14
ถ้าแทน x ด้วย 4 จะได้ 3(4)  5  14 เป็ นจริ ง
ถ้าแทน x ด้วย 3 จะได้ 3(3)  5  14 ไม่เป็ นจริ ง
ถ้าแทน x ด้วย 2 จะได้ 3(2)  5  14 เป็ นจริ ง
เมื่อแทน x ด้วยจานวนจริ งอื่นๆ อีกมากมายที่ทาให้อสมการเป็ นจริ ง จะพบว่า
3x  5  14 เป็ นจริ ง เมื่อแทน x ได้ทุกจานวนยกเว้น 3
นันคือ คาตอบของอสมการ 3x  5  14 คือ จานวนจริ งทุกจานวนยกเว้น 3
่
เขียนกราฟแสดงคาตอบของอสมการ 3x  5  14 ได้ดงนี้
ั
0 1 2
ตอบ จานวนจริ งทุกจานวนยกเว้น 3

3

4

5

6

10. 12  x  21
วิธีทา
ถ้าแทน x ด้วย 11 จะได้ 12  11  21 ไม่เป็ นจริ ง
ถ้าแทน x ด้วย 12 จะได้ 12  12  21 เป็ นจริ ง
ถ้าแทน x ด้วย 13 จะได้ 12  13  21 เป็ นจริ ง
ถ้าแทน x ด้วย 21 จะได้ 12  21  21 ไม่เป็ นจริ ง
เมื่อแทน x ด้วยจานวนจริ งอื่นๆ อีกหลายจานวนที่ทาให้อสมการเป็ นจริ ง
เช่น 14, 1 5 , 16 ซึ่งเป็ นจานวนที่มากกว่าหรื อเท่ากับ 12 แต่นอยกว่า 21
้
นันคือ คาตอบของอสมการ 12  x  21 คือ จานวนจริ งทุกจานวนที่มากกว่า
่
หรื อเท่ากับ 12 แต่นอยกว่า 21
้
เขียนกราฟแสดงคาตอบของอสมการ 12  x  21 ได้ดงนี้
ั
11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23
ตอบ จานวนจริ งทุกจานวนที่มากกว่าหรื อเท่ากับ 12 แต่นอยกว่า 21
้
45

เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน

ข้ อที่

คาตอบ

ข้ อที่

คาตอบ

1.
2.
3.
4.
5.
6.
7.
8.
9.
10.

ง
ค
ง
ข
ง
ค
ข
ง
ง
ข

11.
12.
13.
14.
15.
16.
17.
18.
19.
20.

ก
ค
ข
ง
ก
ค
ก
ค
ข
ง
46

เฉลยแบบทดสอบหลังเรียน

ข้ อที่

คาตอบ

ข้ อที่

คาตอบ

1.
2.
3.
4.
5.
6.
7.
8.
9.
10.

ง
ง
ค
ง
ข
ข
ค
ง
ง
ค

11.
12.
13.
14.
15.
16.
17.
18.
19.
20.

ข
ก
ก
ข
ง
ค
ก
ค
ง
ข

ทาคะแนนได้ดีมากเลย…
ไปศึกษาแบบฝึ กทักษะเล่มที่ 2
ต่อไปครับ
47

ตารางบันทึกคะแนนการทาแบบฝึ กทักษะคณิตศาสตร์
เรื่อง อสมการ เล่มที่ 1 อสมการเชิงเส้ นตัวแปรเดียว
เลขที่

แบบฝึ กทักษะ
ตอนที่ 1
(40 คะแนน)

ชื่อ  สกุล

แบบฝึ กทักษะ
ตอนที่ 2
(20 คะแนน)

รวม
(60 คะแนน)

ตารางบันทึกคะแนนการทาแบบทดสอบก่อนเรียนและการทดสอบหลังเรียน
เรื่อง อสมการ เล่มที่ 1 อสมการเชิงเส้ นตัวแปรเดียว
เลขที่

ชื่อ  สกุล

ร้อยละความก้าวหน้าในการเรี ยนรู้ =

=

=

แบบทดสอบก่ อนเรี ยน
(20 คะแนน)

แบบทดสอบหลังเรียน
(20 คะแนน)

คะแนนหลังเรี ยน  คะแนนก่อนเรี ยน
 100
คะแนนเต็ม


20

 100
48

บรรณานุกรม
กนกวลี อุษณกรกุล. (2545). คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 3 เล่ม 2 ตามหลักสู ตรการศึกษา
ขั้นพืนฐาน พุทธศักราช 2544. (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุ งเทพมหานคร, อักษรเจริ ญทัศน์.
้
ฉวีวรรณ เศวตมาลย์. (2545). กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ช่ วงชั้นที่ 3 (ม.1-3)
กรุ งเทพมหานคร: โรงพิมพ์ประสานมิตร.
ชนันทิตา ฉัตรทอง และ อัศนีย ์ สว่างศิลป์ . (2544). คู่มอครูและแผนการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์
ื
ชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 3. (พิมพ์ครั้งที่ 1). กรุ งเทพมหานคร: อักษรเจริ ญทัศน์.
นพพร แหยมแสง. (2548). หนังสือเรียนสาระการเรียนรู้พนฐาน คณิตศาสตร์ พนฐาน ช่ วงชั้นที่ 3
ื้
ื้
ชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 3 เล่ม 2 ภาคเรียนที่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ตามหลักสู ตร
การศึกษาขั้นพืนฐาน พุทธศักราช 2544. กรุ งเทพมหานคร: เซเว่น พริ้ นติ้งกรุ๊ ป.
้
เลิศ เกษรคา. (2545). คู่สร้ างคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 3 เล่ม 2 ตามหลักสู ตรการศึกษา
ขั้นพืนฐาน พุทธศักราช 2544. (พิมพ์ครั้งที่ 1). กรุ งเทพมหานคร: ไทยร่ มเกล้า.
้
วิชาการ, กรม. (2540). คู่มอครูวชาคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น. (พิมพ์ครั้งที่ 2).
ื ิ
กรุ งเทพมหานคร: โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว.
ส่งเสริ มการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, สถาบัน. (2537). หนังสือเรียนรายวิชา ค 204
คณิตศาสตร์ 4 ชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 2 ตามหลักสู ตรมัธยมศึกษาตอนต้น พุทธศักราช 2521
(ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2533). (พิมพ์ครั้งที่ 3). กรุ งเทพมหานคร: โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว.
_______. (2548). คู่มอครูสาระการเรียนรู้พนฐานคณิตศาสตร์ เล่ม 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้
ื
ื้
คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 3 ตามหลักสู ตรการศึกษาขั้นพืนฐาน พุทธศักราช 2544.
้
(พิมพ์ครั้งที่ 1). กรุ งเทพมหานคร: โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว.
_______. (2548). หนังสือเรียนสาระการเรียนรู้ พนฐาน คณิตศาสตร์ เล่ม 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้
ื้
คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 3 ตามหลักสู ตรการศึกษาขั้นพืนฐาน พุทธศักราช 2544.
้
(พิมพ์ครั้งที่ 1). กรุ งเทพมหานคร: โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว.

อสมการ ม3

  • 1.
    1 แบบฝึ กทักษะคณิตศาสตร์ สาหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปี ที่3 เรื่อง อสมการ เล่ม 1 อสมการเชิงเส้ นตัวแปรเดียว จุดประสงค์ การเรียนรู้ 1. เขียนประโยคภาษาให้เป็ นประโยคสัญลักษณ์ทางคณิ ตศาสตร์ ได้ 2. บอกได้ว่าประโยคสัญลักษณ์ใดเป็ นอสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว 3. หาคาตอบและเขียนกราฟแสดงคาตอบของอสมการที่กาหนดให้ได้
  • 2.
    2 คาแนะนาการใช้ แบบฝึ กทักษะ เล่ม 1 อสมการเชิงเส้ นตัวแปรเดียว แบบฝึ กทักษะเล่มนี้ใช้ประกอบการเรี ยนการสอนวิชาคณิ ตศาสตร์ รหัส ค 33101 ชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 3 เรื่ อง อสมการ ประกอบด้วย 2 ตอน ตอนที่ 1 เวลา 2 ชัวโมง และ ่ ตอนที่ 2 เวลา 2 ชัวโมง ให้นกเรี ยนดาเนินการตามคาแนะนา ดังนี้ ั ่ 1. ทาแบบทดสอบก่อนเรี ยน จานวน 20 ข้อ ลงในกระดาษคาตอบ 2. ทาแบบฝึ กทักษะ ตอนที่ 1-2 โดยเริ่ มจากการศึกษาเนื้อหาและตัวอย่าง ก่อนทาแบบฝึ กทักษะแต่ละตอน 3. ตรวจแนวตอบจากเฉลยท้ายเล่ม แล้วบันทึกคะแนนลงในตารางบันทึก คะแนนทาแบบฝึ กทักษะ 4. เมื่อทาแบบฝึ กทักษะครบแล้วให้ทาแบบทดสอบหลังเรี ยนลงใน กระดาษคาตอบ 5. ตรวจแบบทดสอบก่อนเรี ยนและหลังเรี ยนจากเฉลยท้ายเล่ม และบันทึก คะแนนในตารางบันทึกคะแนน เพื่อทราบผลการเรี ยนและการพัฒนา 6. เวลา 4 ชัวโมง ่
  • 3.
    3 แบบทดสอบก่ อนเรียน วิชาคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เรื่อง อสมการเชิงเส้ นตัวแปรเดียว เวลา 30 นาที คาสั่ง ข้อสอบฉบับนี้เป็ นข้อสอบปรนัยมีท้งหมด 20 ข้อ ให้นกเรี ยนเลือกคาตอบที่ถกเพียงข้อเดียว ั ั ู จุดประสงค์การเรี ยนรู้ : 1. เขียนประโยค ภาษาให้เป็ นประโยคสัญลักษณ์ ทางคณิ ตศาสตร์ ได้ 1. สามเท่าของจานวนจานวนหนึ่งมีค่า ไม่เกิน 9 เขียนเป็ นประโยคสัญลักษณ์ ได้ในข้อใด ก. 3x  9 ข. 3x  9 ค. 3x  9 ง. 3x  9 2. ห้าเท่าของผลต่างของจานวนจานวนหนึ่ง กับ 8 ไม่นอยกว่า 35 เขียนเป็ นประโยค ้ สัญลักษณ์ได้ในข้อใด ก. 5x  8  35 ข. 5x  8  35 ค. 5(x  8)  35 ง. 5(x  8)  35 3. ผลบวกของสามเท่าของจานวน จานวนหนึ่งกับ 8 มีค่าไม่เกิน 20 เขียนเป็ น ประโยคสัญลักษณ์ได้ในข้อใด ก. 3(x  8)  20 ข. 3(x  8)  20 ค. 3x  8  20 ง. 3x  8  20 4. 3(x  4)  8 เขียนเป็ นประโยคภาษา ได้ในข้อใด ก. ผลต่างของสามเท่าของจานวน จานวนหนึ่งกับ 4 ไม่มากกว่า 8 ข. สามเท่าของผลต่างของจานวน จานวนหนึ่งกับ 4 ไม่มากกว่า 8 ค. ผลต่างของสามเท่าของจานวน จานวนหนึ่งกับ 4 น้อยกว่า 8 ง. สามเท่าของผลต่างของจานวน จานวนหนึ่งกับ 4 ไม่นอยกว่า 8 ้ 5. 2(x  5)  9  7 เขียนเป็ นประโยคภาษา ได้ในข้อใด ก. ผลต่างของสองเท่าของจานวน จานวนหนึ่งกับ 5 ลบด้วย 9 มากกว่า 7 ข. สองเท่าของผลต่างของจานวน จานวนหนึ่งกับ 5 มีค่ามากกว่า 9 อยูไม่มากกว่า 7 ่ ค. ผลต่างของสองเท่าของจานวน จานวนหนึ่งกับ 5 ลบด้วย 9 มากกว่า หรื อเท่ากับ 7 ง. สองเท่าของผลต่างของจานวน จานวนหนึ่งกับ 5 มีค่ามากกว่า 9 อยูไม่นอยกว่า 7 ่ ้
  • 4.
    4 6. สองเท่าของจานวนนับจานวนหนึ่ง มากกว่า 15อยูไม่เกิน 8 เขียนเป็ นอสมการได้ ่ ในข้อใด ก. 2x  8  15 ข. 2x 15  8 ค. 2x 15  8 ง. 2x 15  8 7. สี่เท่าของผลต่างจานวนจานวนหนึ่งกับหก มากกว่า 15 อยูไม่เกิน 7 เขียนเป็ นประโยค ่ สัญลักษณ์ได้ในข้อใด ก. 4(x  6) 15  7 ข. 4(x  6) 15  7 ค. 4(x  6)  7  15 ง. 15  4x  6  7 จุดประสงค์การเรี ยนรู้ : 2. บอกได้ว่า ประโยคสัญลักษณ์ใดเป็ นอสมการเชิงเส้น ตัวแปรเดียว 8. อสมการในข้อใดเป็ นอสมการเชิงเส้น ตัวแปรเดียว ก. 3  8  10 ข. 3x 2  9 ค. 5x  y  6 ง. 9x 15  85 9. อสมการในข้อใดเป็ นอสมการเชิงเส้น ตัวแปรเดียว ก. 4  9  10 ข. 3x 2  27 ค. 5x  y  6 x ง. x  5  85 จุดประสงค์การเรี ยนรู้ที่ : 3. หาคาตอบ และเขียนกราฟแสดงคาตอบของอสมการ ที่กาหนดให้ได้ 10. เส้นกราฟข้างล่างนี้แทนอสมการใด -2 ก. ข. ค. ง. -1 0 x 1  0 x 2 0 x2 0 x 1  0 1 2 3 4 11. เส้นกราฟข้างล่างนี้แทนอสมการใด -4 ก. ข. ค. ง. -3 -2 -1 x 1  0 x 1  0 x 1  0 x 1  0 0 1 2 12. เส้นกราฟข้างล่างนี้แทนอสมการใด -1 ก. ข. ค. ง. 0 1 x4 x  4 x4 x  4 2 3 4 5
  • 5.
    5 13. กราฟข้อใดเป็ นคาตอบของอสมการ x3  0 ก. -5 -4 ข. -5 -4 ค. -5 -4 ง. -5 -4 16. เส้นกราฟข้างล่างนี้แทนอสมการใด -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 17. กราฟข้อใดเป็ นคาตอบของอสมการ -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 14. เส้นกราฟข้างล่างนี้แทนอสมการใด -2 ก. ข. ค. ง. -5 -4 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6 ก. 2  x  4 ข. 2  x  4 ค. 2  x  4 ง. 2  x  4 -1 0 x2 0 x2 0 x 2 0 x 2 0 1 2 3 4 3  x  5 ก. -5 -4 ข. -5 -4 ค. -5 -4 ง. -5 -4 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6 18. กราฟข้อใดเป็ นคาตอบของอสมการ 15. เส้นกราฟข้างล่างนี้แทนอสมการใด -1 ก. ข. ค. ง. 0 1 2 x 2 5 x  2  5 x 2 5 x 2 5 3 4 5 4  x  2 ก. -5 -4 ข. -5 -4 ค. -5 -4 ง. -5 -4 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6
  • 6.
    6 19. กราฟข้อใดเป็ นคาตอบของอสมการ 20.กราฟข้อใดเป็ นคาตอบของอสมการ x  ( 3)( 2) ก. -3 -2 -1 ข. -3 -2 -1 ค. -3 -2 -1 ง. -3 -2 -1 3  3x ก. -5 -4 ก. -5 -4 ก. -5 -4 ก. -5 -4 0 1 2 3 4 5 6 7 0 1 2 3 4 5 6 7 0 1 2 3 4 5 6 7 0 1 2 3 4 5 6 7 ทาแบบฝึ กต่อไปเลยนะ -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6
  • 7.
    7 อสมการเชิงเส้ นตัวแปรเดียว ตอนที่ 1 จุดประสงค์การเรียนรู้ เขียนประโยคภาษาให้เป็นประโยคสัญลักษณ์ ทางคณิตศาสตร์ ได้ บอกได้ ว่าประโยคสัญลักษณ์ใดเป็ นอสมการเชิงเส้ นตัวแปรเดียว นักเรี ยนเคยเขียนประโยคเกี่ยวกับจานวนให้เป็ นประโยคที่ใช้สญลักษณ์ทางคณิ ตศาสตร์ ั เช่น แปดเท่าของจานวนจานวนหนึ่งเท่ากับยีสิบสี่ เขียนได้เป็ น 8x  24 หรื อประโยค ห้าเท่าของ ่ จานวนจานวนหนึ่งมากกว่าเจ็ดอยูสาม เขียนได้เป็ น 5x  7  3 ซึ่งเป็ นประโยคที่ใช้สญลักษณ์ ่ ั ทางคณิ ตศาสตร์ดงกล่าว เรี ยกว่า สมการ นอกจากนี้นกเรี ยนยังเคยรู้จกสัญลักษณ์ต่อไปนี้ ั ั ั  แทนความสัมพันธ์ น้อยกว่า หรื อไม่ถึง  แทนความสัมพันธ์ มากกว่า หรื อเกิน  แทนความสัมพันธ์ ไม่เท่ากับ หรื อไม่เท่ากัน  แทนความสัมพันธ์ น้อยกว่า หรื อเท่ากับ  แทนความสัมพันธ์ มากกว่า หรื อเท่ากับ เช่น y  2 อ่านว่า y มากกว่าหรื อเท่ากับ 2 หมายถึง y  2 หรื อ y  2 x  5 อ่านว่า x น้อยกว่าหรื อเท่ากับ 5 และ หมายถึง x  5 หรื อ x  5
  • 8.
    8 พิจารณาการเปลียนประโยคภาษาให้ เป็ นประโยคสัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์ ต่อไปนี้ ่ ประโยคภาษา ประโยคสัญลักษณ์ 1. ยีสิบบวกแปดน้อยกว่าสามสิบหก ่ 20  8  36 2. เจ็ดสิบสี่มากกว่าเศษหนึ่งส่วนสามคูณด้วยสามสิบเก้า 74  1 (39) 3 3. สองเท่าของจานวนหนึ่งน้อยกว่าหรื อเท่ากับ 10 2x  10 4. สี่เท่าของจานวนหนึ่งบวกกับสามมีค่าไม่เท่ากับ 6 4x  3  6 5. เจ็ดเท่าของจานวนหนึ่งมากกว่าผลบวกของสามเท่า 7x  3x 16 ของจานวนนั้นกับ 16 ประโยคสัญลักษณ์ในข้อ 1 – 5 เรี ยกว่า อสมการ ประโยคที่แสดงถึงความสัมพันธ์ของจานวนโดยมีสญลักษณ์ ั  ,  ,  ,  หรื อ  เรี ยกว่า อสมการ 1 อสมการ 20  8  36 และ 74  3 (39) เป็ นอสมการที่ไม่มีตวแปร ั ส่วนอสมการ 2x  10 , 4x  3  6 และ 7x  3x 16 เป็ นอสมการที่มีตวแปร และ ั มีตวแปรเดียวที่มดีกรี ของตัวแปรเท่ากับ 1 เรี ยกว่า อสมการเชิงเส้ นตัวแปรเดียว ั ี ตัวอย่าง อสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว (1) 2x  3  7 เป็ นอสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว เพราะเป็ นประโยคสัญลักษณ์ที่มีเครื่ องหมาย  มีตวแปรหนึ่งตัวคือ x ดีกรี ของ x เท่ากับ 1 ั (2) 4y  5  8 เป็ นอสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว เพราะเป็ นประโยคสัญลักษณ์ที่มีเครื่ องหมาย  มีตวแปรหนึ่งตัวคือ y ดีกรี ของ y ั เท่ากับ 1 (3) 7a  3  9 เป็ นอสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว เพราะเป็ นประโยคสัญลักษณ์ที่มีเครื่ องหมาย  มีตวแปรหนึ่งตัวคือ a ดีกรี ของ a เท่ากับ 1 ั x (4) 5  4  12 เป็ นอสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว เพราะเป็ นประโยคสัญลักษณ์ที่มีเครื่ องหมาย  มีตวแปรหนึ่งตัวคือ x ดีกรี ของ x เท่ากับ 1 ั
  • 9.
    9 (5) 4m 7  10 เป็ นอสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว เพราะเป็ นประโยคสัญลักษณ์ที่มีเครื่ องหมาย  มีตวแปรหนึ่งตัวคือ m ดีกรี ของ m ั เท่ากับ 1 (6) 3(4z  8)  15 เป็ นอสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว เพราะเป็ นประโยคสัญลักษณ์ที่มีเครื่ องหมาย  มีตวแปรหนึ่งตัวคือ z ดีกรี ของ z เท่ากับ 1 ั (7) 12n  9  4x  3 เป็ นอสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว เพราะเป็ นประโยคสัญลักษณ์ที่มีเครื่ องหมาย  มีตวแปรหนึ่งตัวคือ n ดีกรี ของ n ั เท่ากับ 1 (8) 7(x  4)  2(3x  5) เป็ นอสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว เพราะเป็ นประโยคสัญลักษณ์ที่มีเครื่ องหมาย  มีตวแปรหนึ่งตัวคือ x ดีกรี ของ x เท่ากับ 1 ั 3 (9) 2 (b  7)  16 เป็ นอสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว เพราะเป็ นประโยคสัญลักษณ์ที่มีเครื่ องหมาย  มีตวแปรหนึ่งตัวคือ b ดีกรี ของ b เท่ากับ 1 ั 4 5 (10) 5 (c  3)  4 (c  2) เป็ นอสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว เพราะเป็ นประโยคสัญลักษณ์ที่มีเครื่ องหมาย  มีตวแปรหนึ่งตัวคือ c ดีกรี ของ c ั เท่ากับ 1 ตัวอย่าง อสมการที่ไม่ใช่อสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว เช่น (1) 3x  2y  4 ไม่เป็ นอสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว เพราะเป็ นประโยคสัญลักษณ์ที่มีตวแปรไม่เท่ากับหนึ่งตัวคือ x และ y ั (2) 3x 2  5  14 ไม่เป็ นอสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว เพราะเป็ นประโยคสัญลักษณ์ที่มีตวแปรหนึ่งตัวคือ x แต่มีดีกรี ของ x ไม่เท่ากับ 1 ั ทาแบบฝึ กทักษะ ต่อไปเลยนะครับ
  • 10.
    10 แบบฝึ กทักษะตอนที่ 1 1.จงเขียนประโยคภาษาต่อไปนีให้เป็ นประโยคสัญลักษณ์ ทางคณิตศาสตร์ ้ ให้ ถกต้อง (ข้อละ 1 คะแนน) โดยมีข้อตกลงให้ x แทนตัวแปรในแต่ละข้อ ู ประโยคภาษา ประโยคสัญลักษณ์ 1. ผลบวกของจานวนหนึ่งกับห้าคูณสองมีค่ามากกว่าสิบสอง …………………………………….. 2. จานวนจานวนหนึ่งหารด้วยห้ามีค่ามากกว่าหรื อเท่ากับ …………………………………….. สิบสอง 3. สามเท่าของจานวนจานวนหนึ่งบวกเจ็ดมีค่าไม่มากกว่า …………………………………….. ยีสิบเอ็ด ่ 4. สองเท่าของผลบวกของจานวนจานวนหนึ่งกับแปด …………………………………….. น้อยกว่าห้า 5. สี่เท่าของจานวนหนึ่งบวกด้วยเจ็ดมีค่าไม่นอยกว่าเก้า ้ …………………………………….. 6. สี่เท่าของจานวนจานวนหนึ่งหารด้วยเก้ามากกว่าหรื อ …………………………………….. เท่ากับยีสิบ ่ 7. ผลคูณของห้ากับจานวนหนึ่งบวกด้วยสองมีค่า …………………………………….. มากกว่าสิบห้า 8. จานวนจานวนหนึ่งลบด้วยสิบสองหารด้วยห้ามีค่า ไม่มากกว่าสิบแปด ……………………………………..
  • 11.
    11 ประโยคภาษา 9. ผลต่างของจานวนจานวนหนึ่งกับเจ็ด เมื่อหารด้วยสาม ประโยคสัญลักษณ์ …………………………………… มีค่าไม่เท่ากับสิบสอง 10.ครึ่ งหนึ่งของผลบวกของสิบกับจานวนหนึ่งมีค่า …………………………………… ไม่นอยกว่าสิบ ้ 11. จานวนจานวนหนึ่งเมื่อหารด้วยเก้ามากกว่าหรื อเท่ากับ …………………………………… ยีสิบ ่ 12. เศษสามส่วนสี่ของผลต่างของจานวนจานวนหนึ่งกับสอง …………………………………… ไม่ถึงสี่สิบ 13. สองเท่าของผลต่างของจานวนจานวนหนึ่งกับสี่นอยกว่า ้ …………………………………… ห้าเท่าของผลบวกของจานวนจานวนนั้นกับแปด 14. ผลบวกของสามในสี่ของจานวนจานวนหนึ่งกับแปด …………………………………… ไม่เกินสิบห้า 15. ผลบวกของจานวนหนึ่งกับแปดหารด้วยสองมีค่าไม่เท่ากับ สิบสอง ……………………………………
  • 12.
    12 2. จงเขียนประโยคภาษาต่อไปนีให้เป็ นประโยคสัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์ ให้ถูกต้อง ้ (ข้ อละ 1 คะแนน) โดยมีข้อตกลงให้ y แทนตัวแปรในแต่ละข้ อ ประโยคภาษา 1. สามเท่าของจานวนจานวนหนึ่งมีค่าไม่มากกว่าผลบวก ของสองเท่าของจานวนนั้นกับสาม 2. สี่เท่าของผลต่างของจานวนจานวนหนึ่งกับ 15 ไม่เกิน 25 3. ผลบวกของสี่ส่วนห้าของจานวนจานวนหนึ่งกับ 10 ไม่นอยกว่า 9 ้ 4. แปดเท่าของจานวนจานวนหนึ่งมากกว่าสามเท่าของ จานวนนั้นไม่นอยกว่า 16 ้ 5. ผลบวกของสามในสิบของจานวนจานวนหนึ่งกับ สองในห้าของจานวนนั้นมีค่ามากกว่า 42 6. จานวนจานวนหนึ่งรวมกับสี่ในห้าของจานวนนั้น ยังน้อยกว่า 15 7. สามเท่าของจานวนจานวนหนึ่งน้อยกว่าแปดเท่าของ จานวนนั้นอยูไม่เกิน 35 ่ 8. ผลบวกของจานวนจานวนหนึ่งกับเจ็ดในเก้าของ จานวนนั้นมีค่าน้อยกว่า 4 9. ห้าเท่าของผลบวกของจานวนจานวนหนึ่งกับ สี่มีค่ามากกว่า 20 10. เจ็ดในสิบห้าของสองเท่าของจานวนจานวนหนึ่ง มีค่ามากกว่า 15 ประโยคสัญลักษณ์
  • 13.
    13 3. ให้ นักเรียนใส่เครื่องหมาย (  ) ลงในช่ องของตารางให้ ถูกต้อง (ข้ อละ 1 คะแนน) ข้ อ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 ประโยคสัญลักษณ์ 8x  16 2x  5  13 3x  5y  10 3 2 x  20 y  9  16 2x  x  x  9 y2 5  0 5 6 (x  3)  10 x  8  26 3x  9  x 12 3  7  15 9 7 8  8 3 3x  9  x 12 2 5 x  9  20  y 3y  9  16x  8 รวมคะแนน อสมการ ใช่ ไม่ใช่ อสมการเชิงเส้ นตัวแปรเดียว ใช่ ไม่ใช่
  • 14.
    14 อสมการเชิงเส้ นตัวแปรเดียว ตอนที่ 2 จุดประสงค์การเรียนรู้ หาคาตอบและเขียนกราฟแสดงคาตอบของอสมการที่กาหนดให้ได้ คาตอบของอสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียวคือ จานวนจริ งใดๆ ที่นาไปแทนค่าตัวแปร ในอสมการแล้ว จะได้อสมการที่เป็ นจริ ง เช่น x  3  12 ถ้าแทน x ด้วย 16 จะได้อสมการ 16  3  12 13  12 ไม่เป็ นจริ ง ถ้าแทน x ด้วย 15 จะได้อสมการ 15  3  12 12  12 ไม่เป็ นจริ ง ถ้าแทน x ด้วย 14 จะได้อสมการ 14  3  12 11  12 เป็ นจริ ง แสดงว่า 14 เป็ นคาตอบของอสมการ ถ้าแทน x ด้วย 13 จะได้อสมการ 13  3  12 10  12 เป็ นจริ ง แสดงว่า 13 เป็ นคาตอบของอสมการ เมื่อแทน x ด้วยจานวนอื่นๆ จะพบว่าอสมการเป็ นจริ งได้เมือ x  15 ่ ดังนั้น คาตอบของอสมการ x  3  12 คือ จานวนจริ งทุกจานวนที่นอยกว่า 15 ้
  • 15.
    15 ตัวอย่างที่ 1 จงหาจานวนที่แทนตัวแปรx แล้วทาให้ประโยคเป็ นจริ ง 1) 5x 1  26 2) 3x  21 3) 2  x  5 วิธีทา 1) 5x 1  26 ถ้าแทน x ด้วย 5 จะได้ 5(5) 1  26 26  26 เป็ นจริ ง ดังนั้น แทน x ด้วย 5 แล้วจะทาให้ 5x 1  26 เป็ นจริ ง แสดงว่า 5 เป็ นคาตอบของอสมการ 5x 1  26 เมื่อแทน x ด้วยจานวนอื่นๆ อีก จะพบว่ามีจานวนอีกหลายจานวน 1 1 ที่ทาให้อสมการ 5x 1  26 เป็ นจริ ง เช่น 4.9 , 4 2 , 3 .2 , 2 2 , 2 , 1 , 0 , 1 , ... นันคือ คาตอบของอสมการ 5x 1  26 คือ จานวนจริ งทุกจานวนที่นอยกว่า ้ ่ หรื อเท่ากับ 5 เขียนกราฟแสดงคาตอบของอสมการ 5x 1  26 ได้ดงนี้ ั -2 -1 0 1 2 3 4 5 6 7 8 9 ตอบ จานวนจริ งทุกจานวนที่นอยกว่าหรื อเท่ากับ 5 ้
  • 16.
    16 2) 3x 21 ถ้าแทน x ด้วย 0 จะได้ว่า 3(0)  21 เป็ นจริ ง ถ้าแทน x ด้วย 1 จะได้ว่า 3(1)  21 เป็ นจริ ง ถ้าแทน x ด้วย 6 จะได้ว่า 3( 6)  21 เป็ นจริ ง ถ้าแทน x ด้วย 7 จะได้ว่า 3(7)  21 ไม่เป็ นจริ ง เมื่อแทน x ด้วยจานวนอื่นๆ อีกมากมายที่ทาให้อสมการเป็ นจริ ง จะพบว่า 3x  21 เป็ นจริ ง เมื่อแทน x ได้ทุกจานวนยกเว้น 7 นันคือ คาตอบของอสมการ 3x  21 คือ จานวนจริ งทุกจานวนยกเว้น 7 ่ เขียนกราฟแสดงคาตอบของอสมการ 3x  21 ได้ดงนี้ ั 3 4 5 6 7 8 9 ตอบ จานวนจริ งทุกจานวนยกเว้น 7 3) 2  x  5 ถ้าแทน x ด้วย 1 จะได้ว่า 2  1  5 เป็ นจริ ง 2  0  5 เป็ นจริ ง ถ้าแทน x ด้วย 0 จะได้ว่า เมือแทน x ด้วยจานวนอื่นๆ อีกหลายจานวนที่ทาให้อสมการเป็ นจริ ง ่ เช่น 1 , 2 , 3 , 4 , 5 ซึ่งเป็ นจานวนที่มากกว่า 2 แต่นอยกว่าหรื อเท่ากับ 5 ้ นันคือ คาตอบของอสมการ 2  x  5 คือ จานวนจริ งทุกจานวนที่มากกว่า 2 ่ แต่นอยกว่าหรื อเท่ากับ 5 ้ เขียนกราฟแสดงคาตอบของอสมการ 2  x  5 ได้ดงนี้ ั -5 -4 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6 ตอบ จานวนจริ งทุกจานวนที่มากกว่า 2 แต่นอยกว่าหรื อเท่ากับ 5 ้
  • 17.
    17 ตัวอย่างที่ 2 จงหาจานวนที่แทนตัวแปรx แล้วทาให้ x  3  8 เป็ นจริ ง วิธีทา จาก x 3  8 ถ้าแทน x ด้วย 11 จะได้ 11  3  8 ไม่เป็ นจริ ง ถ้าแทน x ด้วย 10 จะได้ 10  3  8 เป็ นจริ ง ถ้าแทน x ด้วย 9 จะได้ 9  3  8 เป็ นจริ ง ถ้าแทน x ด้วย 8 จะได้ 8  3  8 เป็ นจริ ง เมื่อแทน x ด้วยจานวนอื่นๆ อีกมากมายที่ทาให้อสมการเป็ นจริ ง 1 1 เช่น 10.9 , 10 , 9.9 , 9.8 , 9 2 , 8 , 7 2 , 7 , 6 , 5 , ... นันคือ คาตอบของอสมการ x  3  8 คือ จานวนจริ งทุกจานวนที่นอยกว่า 11 ้ ่ เขียนกราฟแสดงคาตอบของอสมการได้ดงนี้ ั 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 ตอบ จานวนจริ งทุกจานวนที่นอยกว่า 11 ้ สู ้ ๆ ทาแบบฝึ กต่อไป ได้เลย….
  • 18.
    18 แบบฝึ กทักษะตอนที่ 2 คาชี้แจงให้นักเรียนหาคาตอบของอสมการในข้ อต่อไปนี้ โดยทดลองแทนค่าและเขียนกราฟแสดง คาตอบ (ข้ อละ 2 คะแนน) 1. x  7  3 ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……….. .…………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……….. .…………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……….. .…………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………
  • 19.
    19 2. 2x 6  4 ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………….………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………….………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………….………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………
  • 20.
    20 3. 4x 5  15 ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………
  • 21.
    21 4. x 5  4 ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………
  • 22.
    22 5. 7x 35 ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………….
  • 23.
    23 x 6. 2 4 ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………
  • 24.
    24 7. 2x 8  2 ……………………………………………………………………………………………………… ………..…………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………
  • 25.
    25 8. 7x 6  20 ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………
  • 26.
    26 9. 3x 5  14 ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………
  • 27.
    27 10. 12 x  21 ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… รวมคะแนน ...............
  • 28.
    28 แบบทดสอบหลังเรียน วิชาคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปี ที่3 เรื่อง อสมการเชิงเส้ นตัวแปรเดียว เวลา 30 นาที คาสั่ง ข้อสอบฉบับนี้เป็ นข้อสอบปรนัยมีท้งหมด 20 ข้อ ให้นกเรี ยนเลือกคาตอบที่ถกเพียงข้อเดียว ั ั ู จุดประสงค์การเรี ยนรู้ : 1. เขียนประโยค ภาษาให้เป็ นประโยคสัญลักษณ์ทาง คณิ ตศาสตร์ ได้ 1. ผลบวกของสามเท่าของจานวน จานวนหนึ่งกับ 8 มีค่าไม่เกิน 20 เขียนเป็ น ประโยคสัญลักษณ์ได้ในข้อใด ก. 3(x  8)  20 ข. 3(x  8)  20 ค. 3x  8  20 ง. 3x  8  20 2. สามเท่าของจานวนจานวนหนึ่งมีค่า ไม่เกิน 9 เขียนเป็ นประโยคสัญลักษณ์ ได้ในข้อใด ก. 3x  9 ข. 3x  9 ค. 3x  9 ง. 3x  9 3. ห้าเท่าของผลต่างของจานวนจานวนหนึ่ง กับ 8 ไม่นอยกว่า 35 เขียนเป็ นประโยค ้ สัญลักษณ์ได้ในข้อใด ก. 5x  8  35 ข. 5x  8  35 ค. 5(x  8)  35 ง. 5(x  8)  35 4. 2(x  5)  9  7 เขียนเป็ นประโยคภาษา ได้ในข้อใด ก. ผลต่างของสองเท่าของจานวน จานวนหนึ่งกับ 5 ลบด้วย 9 มากกว่า 7 ข. สองเท่าของผลต่างของจานวน จานวนหนึ่งกับ 5 มีค่ามากกว่า 9 อยูไม่มากกว่า 7 ่ ค. ผลต่างของสองเท่าของจานวน จานวนหนึ่งกับ 5 ลบด้วย 9 มากกว่า หรื อเท่ากับ 7 ง. สองเท่าของผลต่างของจานวน จานวนหนึ่งกับ 5 มีค่ามากกว่า 9 อยูไม่นอยกว่า 7 ่ ้ 5. 3(x  4)  8 เขียนเป็ นประโยคภาษา ได้ในข้อใด ก. ผลต่างของสามเท่าของจานวน จานวนหนึ่งกับ 4 ไม่มากกว่า 8 ข. สามเท่าของผลต่างของจานวน จานวนหนึ่งกับ 4 ไม่มากกว่า 8 ค. ผลต่างของสามเท่าของจานวน จานวนหนึ่งกับ 4 น้อยกว่า 8 ง. สามเท่าของผลต่างของจานวน จานวนหนึ่งกับ 4 ไม่นอยกว่า 8 ้
  • 29.
    29 6. สี่เท่าของผลต่างจานวนจานวนหนึ่งกับหก มากกว่า 15อยูไม่เกิน 7 เขียนเป็ นประโยค ่ สัญลักษณ์ได้ในข้อใด ก. 4(x  6) 15  7 ข. 4(x  6) 15  7 ค. 4(x  6)  7  15 ง. 15  4x  6  7 7. สองเท่าของจานวนนับจานวนหนึ่ง มากกว่า 15 อยูไม่เกิน 8 เขียนเป็ นอสมการ ่ ได้ในข้อใด ก. 2x  8  15 ข. 2x 15  8 ค. 2x 15  8 ง. 2x 15  8 จุดประสงค์การเรี ยนรู้ : 2. บอกได้ว่าประโยค สัญลักษณ์ใดเป็ นอสมการเชิงเส้น ตัวแปรเดียว 8. อสมการในข้อใดเป็ นอสมการเชิงเส้น ตัวแปรเดียว ก. 4  9  10 ข. 3x 2  27 ค. 5x  y  6 x ง. x  5  85 9. อสมการในข้อใดเป็ นอสมการเชิงเส้น ตัวแปรเดียว ก. 3  8  10 ข. 3x 2  9 ค. 5x  y  6 ง. 9x 15  85 จุดประสงค์การเรี ยนรู้ที่ : 3. หาคาตอบ และเขียนกราฟแสดงคาตอบของอสมการ ที่กาหนดให้ได้ 10. เส้นกราฟข้างล่างนี้แทนอสมการใด -1 ก. ข. ค. ง. 0 1 x4 x  4 x4 x  4 2 3 4 5 11. เส้นกราฟข้างล่างนี้แทนอสมการใด -2 ก. ข. ค. ง. -1 0 x 1  0 x 2 0 x2 0 x 1  0 1 2 3 4 12. เส้นกราฟข้างล่างนี้แทนอสมการใด -4 ก. ข. ค. ง. -3 -2 -1 x 1  0 x 1  0 x 1  0 x 1  0 0 1 2
  • 30.
    30 13. เส้นกราฟข้างล่างนี้แทนอสมการใด -1 ก. ข. ค. ง. 0 12 x 2 5 x  2  5 x 2 5 x 2 5 3 4 16. เส้นกราฟข้างล่างนี้ แทนอสมการใด 5 -5 -4 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6 ก. 2  x  4 ข. 2  x  4 ค. 2  x  4 ง. 2  x  4 14. กราฟข้อใดเป็ นคาตอบของอสมการ 17. กราฟข้อใดเป็ นคาตอบของอสมการ x 3  0 ก. -5 -4 ข. -5 -4 ค. -5 -4 ง. -5 -4 3  x  5 ก. -5 -4 ข. -5 -4 ค. -5 -4 ง. -5 -4 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6 18. กราฟข้อใดเป็ นคาตอบของอสมการ 15. เส้นกราฟข้างล่างนี้แทนอสมการใด -2 ก. ข. ค. ง. -1 0 x2 0 x2 0 x 2 0 x 2 0 1 2 3 4 4  x  2 ก. -5 -4 ข. -5 -4 ค. -5 -4 ง. -5 -4 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6
  • 31.
    31 19. กราฟข้อใดเป็ นคาตอบของอสมการ 20.กราฟข้อใดเป็ นคาตอบของอสมการ 3  3x ก. -5 -4 ข. -5 -4 ค. -5 -4 ง. -5 -4 x  ( 3)( 2) ก. -3 -2 -1 ข. -3 -2 -1 ค. -3 -2 -1 ง. -3 -2 -1 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6 เก่งจริ งนะเธอ ทาได้ทุกข้อเลย 0 1 2 3 4 5 6 7 0 1 2 3 4 5 6 7 0 1 2 3 4 5 6 7 0 1 2 3 4 5 6 7
  • 32.
    32 เฉลยแบบฝึ กทักษะตอนที่ 1 1.จงเขียนประโยคภาษาต่อไปนีให้เป็ นประโยคสัญลักษณ์ ทางคณิตศาสตร์ ให้ถูกต้อง ้ (ข้ อละ 1 คะแนน) โดยมีข้อตกลงให้ x แทนตัวแปรในแต่ละข้ อ ประโยคภาษา ประโยคสัญลักษณ์ 1. ผลบวกของจานวนหนึ่งกับห้าคูณสองมีค่ามากกว่าสิบสอง 2(5  x)  12 x 2. จานวนจานวนหนึ่งหารด้วยห้ามีค่ามากกว่าหรื อเท่ากับ 5  12 สิบสอง 3. สามเท่าของจานวนจานวนหนึ่งบวกเจ็ดมีค่าไม่มากกว่า 3x  7  21 ยีสิบเอ็ด ่ 4. สองเท่าของผลบวกของจานวนจานวนหนึ่งกับแปด 2(x  8)  5 น้อยกว่าห้า 5. สี่เท่าของจานวนหนึ่งบวกด้วยเจ็ดมีค่าไม่นอยกว่าเก้า ้ 4x  7  9 6. สี่เท่าของจานวนจานวนหนึ่งหารด้วยเก้ามากกว่าหรื อ 4x 9  20 เท่ากับยีสิบ ่ 7. ผลคูณของห้ากับจานวนหนึ่งบวกด้วยสองมีค่ามากกว่า 5x  2  15 สิบห้า 8. จานวนจานวนหนึ่งลบด้วยสิบสองหารด้วยห้ามีค่า ไม่มากกว่าสิบแปด x  12 5  18
  • 33.
    33 ประโยคภาษา 9. ผลต่างของจานวนจานวนหนึ่งกับเจ็ด เมื่อหารด้วยสาม ประโยคสัญลักษณ์ x7 3  12 มีค่าไม่เท่ากับสิบสอง 10. ครึ่ งหนึ่งของผลบวกของสิบกับจานวนหนึ่งมีค่า 10  x 2  10 ไม่นอยกว่าสิบ ้ 11. จานวนจานวนหนึ่งเมื่อหารด้วยเก้ามากกว่าหรื อเท่ากับ x 9  20 ยีสิบ ่ 12. เศษสามส่วนสี่ของผลต่างของจานวนจานวนหนึ่งกับสอง 3 4 (x  2)  40 ไม่ถึงสี่สิบ 13. สองเท่าของผลต่างของจานวนจานวนหนึ่งกับสี่นอยกว่า ้ 2(x  4)  5(x  8) ห้าเท่าของผลบวกของจานวนจานวนนั้นกับแปด 14. ผลบวกของสามในสี่ของจานวนจานวนหนึ่งกับแปด 3 4 x  8  15 ไม่เกินสิบห้า 15. ผลบวกของจานวนหนึ่งกับแปดหารด้วยสองมีค่า ไม่เท่ากับสิบสอง x 8 2  12
  • 34.
    34 2. จงเขียนประโยคภาษาต่อไปนีให้เป็ นประโยคสัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์ให้ ถูกต้อง ้ (ข้ อละ 1 คะแนน) โดยมีข้อตกลงให้ y แทนตัวแปรในแต่ละข้ อ ประโยคภาษา 1. สามเท่าของจานวนจานวนหนึ่งมีค่าไม่มากกว่าผลบวก ของสองเท่าของจานวนนั้นกับสาม 2. สี่เท่าของผลต่างของจานวนจานวนหนึ่งกับ 15 ไม่เกิน 25 3. ผลบวกของสี่ส่วนห้าของจานวนจานวนหนึ่งกับ 10 ไม่นอยกว่า 9 ้ 4. แปดเท่าของจานวนจานวนหนึ่งมากกว่าสามเท่าของ จานวนนั้นไม่นอยกว่า 16 ้ 5. ผลบวกของสามในสิบของจานวนจานวนหนึ่งกับ สองในห้าของจานวนนั้นมีค่ามากกว่า 42 6. จานวนจานวนหนึ่งรวมกับสี่ในห้าของจานวนนั้น ยังน้อยกว่า 15 7. สามเท่าของจานวนจานวนหนึ่งน้อยกว่าแปดเท่าของ จานวนนั้นอยูไม่เกิน 35 ่ 8. ผลบวกของจานวนจานวนหนึ่งกับเจ็ดในเก้าของ จานวนนั้นมีค่าน้อยกว่า 4 9. ห้าเท่าของผลบวกของจานวนจานวนหนึ่ งกับ สี่มีค่ามากกว่า 20 10. เจ็ดในสิบห้าของสองเท่าของจานวนจานวนหนึ่ง มีค่ามากกว่า 15 ประโยคสัญลักษณ์ 3y  2y  3 4(y 15)  25 4 5 y  10  9 8y  3y  16 3 2 y  5 y  42 10 4 y  5 y  15 8y  3y  35 7 y 9y4 5(y  4)  20 7 15 (2y)  15
  • 35.
    35 3. ให้ นกเรียนใส่เครื่องหมาย (  ) ลงในช่ องของตารางให้ ถูกต้อง ั อสมการ อสมการเชิงเส้ นตัวแปรเดียว ข้ อ ประโยคสัญลักษณ์ ใช่ ไม่ใช่ ใช่ ไม่ใช่   1 8x  16   2 2x  5  13   3 3x  5y  10   4 3 x  20 2   5 y  9  16   6 2x  x  x  9   7 y2 5  0   8 5 (x  3)  10 6   9 x  8  26   10 3x  9  x 12   11 3  7  15   12 9  7  3 8 8   13 3x  9  x 12   14 2 x  9  20  y 5   15 3y  9  16x  8 รวมคะแนน ...............
  • 36.
    36 เฉลยแบบฝึ กทักษะตอนที่ 2 และเกณฑ์การให้คะแนน คาชี้แจง ให้นักเรียนหาคาตอบของอสมการในข้ อต่อไปนี้ โดยทดลองแทนค่าและเขียนกราฟแสดง คาตอบ (ข้ อละ 2 คะแนน) 1. x 7 3 วิธีทา จาก x 7 3 ถ้าแทน x ด้วย 4 จะได้ว่า 4  7  3 3  3 ไม่เป็ นจริ ง ถ้าแทน x ด้วย 3 จะได้ว่า 3  7  3 4  3 เป็ นจริ ง ดังนั้น 3 แทนลงใน x แล้วจะทาให้ x  7  3 เป็ นจริ ง แสดงว่า 3 เป็ นคาตอบของอสมการ x  7  3 เมื่อแทน x ด้วยจานวนจริ งอื่นๆ อีก จะพบว่ามีจานวนอีกหลายจานวนที่ทาให้ อสมการ x  7  3 เป็ นจริ ง เช่น 2 , 1 , 0 , 1, 2, … นันคือ คาตอบของอสมการ x  7  3 คือ จานวนจริ งทุกจานวนที่มากกว่า 4 ่ เขียนกราฟแสดงคาตอบของอสมการ x  7  3 ได้ดงนี้ ั -5 -4 -3 -2 -1 ตอบ จานวนจริ งทุกจานวนที่มากกว่า 4 เกณฑ์การให้ คะแนน (ข้ อ 1  10) ส่วนที่เป็ นสีฟ้าได้ 1 คะแนน ส่วนที่เป็ นสีเหลืองได้ 1 คะแนน 0 1
  • 37.
    37 2. 2x  6 4 วิธีทา จาก 2x  6  4 ถ้าแทน x ด้วย 6 จะได้ 2(6)  6  4 6  4 ไม่เป็ นจริ ง ถ้าแทน x ด้วย 5 จะได้ 2(5)  6  4 4  4 เป็ นจริ ง ถ้าแทน x ด้วย 4 จะได้ 2(4)  6  4 2  4 เป็ นจริ ง ดังนั้น แทน x ด้วย 5 และ 4 แล้วจะทาให้ 2x  6  4 เป็ นจริ ง แสดงว่า 5 , 4 เป็ นคาตอบของอสมการ 2x  6  4 เมื่อแทน x ด้วยจานวนจริ งอื่นๆ อีก จะพบว่ามีจานวนอีกหลายจานวนที่ทาให้ อสมการ 2x  6  4 เป็ นจริ ง เช่น 4, 3, 2, 1, 0, … นันคือ คาตอบของอสมการ 2x  6  4 คือ จานวนจริ งทุกจานวนที่นอยกว่า ้ ่ หรื อเท่ากับ 5 เขียนกราฟแสดงคาตอบของอสมการ 2x  6  4 ได้ดงนี้ ั 0 1 2 3 4 5 ตอบ จานวนจริ งทุกจานวนที่นอยกว่าหรื อเท่ากับ 5 ้ 6
  • 38.
    38 4x  5 15 จาก 4x  5  15 ถ้าแทน x ด้วย 4 จะได้ 4(4)  5  15 11  15 ไม่เป็ นจริ ง ถ้าแทน x ด้วย 5 จะได้ 4(5)  5  15 เป็ นจริ ง 15  15 ถ้าแทน x ด้วย 6 จะได้ 4(6)  5  15 เป็ นจริ ง 19  15 ดังนั้น แทน x ด้วย 5 แล้วจะทาให้ 4x  5  15 เป็ นจริ ง แสดงว่า 5 เป็ นคาตอบของอสมการ 4x  5  15 เมื่อแทน x ด้วยจานวนจริ งอื่นๆ อีก จะพบว่ามีจานวนอีกหลายจานวนที่ทาให้ อสมการ 4x  5  15 เป็ นจริ ง เช่น 7, 8, 9, … นันคือ คาตอบของอสมการ 4x  5  15 คือ จานวนจริ งทุกจานวนที่มากกว่า ่ หรื อเท่ากับ 5 เขียนกราฟแสดงคาตอบของอสมการ 4x  5  15 ได้ดงนี้ ั 3. วิธีทา 2 3 4 5 6 ตอบ จานวนจริ งทุกจานวนที่มากกว่าหรื อเท่ากับ 5 7 8
  • 39.
    39 4. x  5 4 วิธีทา จาก x  5  4 ถ้าแทน x ด้วย 1 จะได้ 1  5  4 6  4 ไม่เป็ นจริ ง ถ้าแทน x ด้วย 0 จะได้ 0  5  4 5  4 ไม่เป็ นจริ ง ถ้าแทน x ด้วย 1 จะได้ 1  5  4 4  4 เป็ นจริ ง ถ้าแทน x ด้วย 2 จะได้ 2  5  4 3  4 เป็ นจริ ง ดังนั้น แทน x ด้วย 1 , 2 แล้วจะทาให้ x  5  4 เป็ นจริ ง แสดงว่า 1 , 2 เป็ นคาตอบของอสมการ x  5  4 เมื่อแทน x ด้วยจานวนจริ งอื่นๆ อีก จะพบว่ามีจานวนอีกหลายจานวนที่ทาให้ อสมการ x  5  4 เป็ นจริ ง เช่น 3, 4, 5, … นันคือ คาตอบของอสมการ x  5  4 คือ จานวนจริ งทุกจานวนที่มากกว่า ่ หรื อเท่ากับ 1 เขียนกราฟแสดงคาตอบของอสมการ x  5  4 ได้ดงนี้ ั -2 -1 0 1 2 ตอบ จานวนจริ งทุกจานวนที่มากกว่าหรื อเท่ากับ 1 3 4
  • 40.
    40 5. 7x  35 วิธีทาจาก 7x  35 ถ้าแทน x ด้วย 0 จะได้ 7(0)  35 เป็ นจริ ง ถ้าแทน x ด้วย 2 จะได้ 7(2)  35 เป็ นจริ ง ถ้าแทน x ด้วย 5 จะได้ 7( 5)  35 ไม่เป็ นจริ ง ถ้าแทน x ด้วย 6 จะได้ 7( 6)  35 เป็ นจริ ง เมื่อแทน x ด้วยจานวนจริ งอื่นๆ อีกมากมายที่ทาให้อสมการเป็ นจริ ง จะพบว่า 7x  35 เป็ นจริ ง เมื่อแทน x ได้ทุกจานวนยกเว้น 5 นันคือ คาตอบของอสมการ 7x  35 คือ จานวนจริ งทุกจานวนยกเว้น 5 ่ เขียนกราฟแสดงคาตอบของอสมการ 7x  35 ได้ดงนี้ ั -9 -8 -7 -6 -5 -4 -3 -2 -1 0 1 2 ตอบ จานวนจริ งทุกจานวนยกเว้น 5
  • 41.
    41 x 6. 2 4 วิธีทา จาก x 2 4 ถ้าแทน x ด้วย 10 10 จะได้ 2 4 5  4 ไม่เป็ นจริ ง ถ้าแทน x ด้วย 8 8 จะได้ 2 4 44 เป็ นจริ ง ถ้าแทน x ด้วย 6 6 จะได้ 2 4 เป็ นจริ ง 34 เมื่อแทน x ด้วยจานวนจริ งอื่นๆ อีก จะพบว่ามีจานวนอีกหลายจานวนที่ทาให้ x อสมการ 2  4 เป็ นจริ ง เช่น 4, 2, 0 , … x นันคือ คาตอบของอสมการ 2  4 คือ จานวนจริ งทุกจานวนที่นอยกว่า ้ ่ หรื อเท่ากับ 8 x เขียนกราฟแสดงคาตอบของอสมการ 2  4 ได้ดงนี้ ั -1 0 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 ตอบ จานวนจริ งทุกจานวนที่นอยกว่าหรื อเท่ากับ 8 ้
  • 42.
    42 7. 2x 8  2 วิธีทา จาก 2x  8  2 ถ้าแทน x ด้วย 4 จะได้ 2(4)  8  2 8 8  2 02 ถ้าแทน x ด้วย 5 จะได้ 2(5)  8  2 ไม่เป็ นจริ ง 10  8  2 22 เป็ นจริ ง ถ้าแทน x ด้วย 6 จะได้ 2(6)  8  2 เป็ นจริ ง 12  8  2 42 เป็ นจริ ง เมื่อแทน x ด้วยจานวนจริ งอื่นๆ อีก จะพบว่ามีจานวนอีกหลายจานวนที่ทาให้ อสมการ 2x  8  2 เป็ นจริ ง เช่น 7, 8, 9, … นันคือ คาตอบของอสมการ 2x  8  2 คือ จานวนจริ งทุกจานวนที่มากกว่า ่ หรื อเท่ากับ 5 เขียนกราฟแสดงคาตอบของอสมการ 2x  8  2 ได้ดงนี้ ั -2 -1 0 1 2 3 4 5 6 7 8 9 ตอบ จานวนจริ งทุกจานวนที่มากกว่าหรื อเท่ากับ 5
  • 43.
    43 8. 7x 6  20 วิธีทา จาก 7x  6  20 ถ้าแทน x ด้วย 3 จะได้ 7(3)  6  20 21  6  20 27  20 ถ้าแทน x ด้วย 2 จะได้ 7(2)  6  20 ไม่เป็ นจริ ง 14  6  20 20  20 ถ้าแทน x ด้วย 1 จะได้ว่า 7(1)  6  20 ไม่เป็ นจริ ง 7  6  20 13  20 ถ้าแทน x ด้วย 0 จะได้ 7(0)  6  20 เป็ นจริ ง 0  6  20 เป็ นจริ ง 6  20 เมื่อแทน x ด้วยจานวนจริ งอื่นๆ อีก จะพบว่ามีจานวนอีกหลายจานวนที่ทาให้ อสมการ 7x  6  20 เป็ นจริ ง เช่น 1 , 2 , 3 … นันคือ คาตอบของอสมการ 7x  6  20 คือ จานวนจริ งทุกจานวนที่นอยกว่า 2 ้ ่ เขียนกราฟแสดงคาตอบของอสมการ 7x  6  20 ได้ดงนี้ ั -2 -1 0 1 ตอบ จานวนจริ งทุกจานวนที่นอยกว่า 2 ้ 2 3 4
  • 44.
    44 9. 3x 5  14 วิธีทา จาก 3x  5  14 ถ้าแทน x ด้วย 4 จะได้ 3(4)  5  14 เป็ นจริ ง ถ้าแทน x ด้วย 3 จะได้ 3(3)  5  14 ไม่เป็ นจริ ง ถ้าแทน x ด้วย 2 จะได้ 3(2)  5  14 เป็ นจริ ง เมื่อแทน x ด้วยจานวนจริ งอื่นๆ อีกมากมายที่ทาให้อสมการเป็ นจริ ง จะพบว่า 3x  5  14 เป็ นจริ ง เมื่อแทน x ได้ทุกจานวนยกเว้น 3 นันคือ คาตอบของอสมการ 3x  5  14 คือ จานวนจริ งทุกจานวนยกเว้น 3 ่ เขียนกราฟแสดงคาตอบของอสมการ 3x  5  14 ได้ดงนี้ ั 0 1 2 ตอบ จานวนจริ งทุกจานวนยกเว้น 3 3 4 5 6 10. 12  x  21 วิธีทา ถ้าแทน x ด้วย 11 จะได้ 12  11  21 ไม่เป็ นจริ ง ถ้าแทน x ด้วย 12 จะได้ 12  12  21 เป็ นจริ ง ถ้าแทน x ด้วย 13 จะได้ 12  13  21 เป็ นจริ ง ถ้าแทน x ด้วย 21 จะได้ 12  21  21 ไม่เป็ นจริ ง เมื่อแทน x ด้วยจานวนจริ งอื่นๆ อีกหลายจานวนที่ทาให้อสมการเป็ นจริ ง เช่น 14, 1 5 , 16 ซึ่งเป็ นจานวนที่มากกว่าหรื อเท่ากับ 12 แต่นอยกว่า 21 ้ นันคือ คาตอบของอสมการ 12  x  21 คือ จานวนจริ งทุกจานวนที่มากกว่า ่ หรื อเท่ากับ 12 แต่นอยกว่า 21 ้ เขียนกราฟแสดงคาตอบของอสมการ 12  x  21 ได้ดงนี้ ั 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 ตอบ จานวนจริ งทุกจานวนที่มากกว่าหรื อเท่ากับ 12 แต่นอยกว่า 21 ้
  • 45.
  • 46.
  • 47.
    47 ตารางบันทึกคะแนนการทาแบบฝึ กทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง อสมการเล่มที่ 1 อสมการเชิงเส้ นตัวแปรเดียว เลขที่ แบบฝึ กทักษะ ตอนที่ 1 (40 คะแนน) ชื่อ  สกุล แบบฝึ กทักษะ ตอนที่ 2 (20 คะแนน) รวม (60 คะแนน) ตารางบันทึกคะแนนการทาแบบทดสอบก่อนเรียนและการทดสอบหลังเรียน เรื่อง อสมการ เล่มที่ 1 อสมการเชิงเส้ นตัวแปรเดียว เลขที่ ชื่อ  สกุล ร้อยละความก้าวหน้าในการเรี ยนรู้ = = = แบบทดสอบก่ อนเรี ยน (20 คะแนน) แบบทดสอบหลังเรียน (20 คะแนน) คะแนนหลังเรี ยน  คะแนนก่อนเรี ยน  100 คะแนนเต็ม  20  100
  • 48.
    48 บรรณานุกรม กนกวลี อุษณกรกุล. (2545).คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 3 เล่ม 2 ตามหลักสู ตรการศึกษา ขั้นพืนฐาน พุทธศักราช 2544. (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุ งเทพมหานคร, อักษรเจริ ญทัศน์. ้ ฉวีวรรณ เศวตมาลย์. (2545). กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ช่ วงชั้นที่ 3 (ม.1-3) กรุ งเทพมหานคร: โรงพิมพ์ประสานมิตร. ชนันทิตา ฉัตรทอง และ อัศนีย ์ สว่างศิลป์ . (2544). คู่มอครูและแผนการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ื ชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 3. (พิมพ์ครั้งที่ 1). กรุ งเทพมหานคร: อักษรเจริ ญทัศน์. นพพร แหยมแสง. (2548). หนังสือเรียนสาระการเรียนรู้พนฐาน คณิตศาสตร์ พนฐาน ช่ วงชั้นที่ 3 ื้ ื้ ชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 3 เล่ม 2 ภาคเรียนที่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ตามหลักสู ตร การศึกษาขั้นพืนฐาน พุทธศักราช 2544. กรุ งเทพมหานคร: เซเว่น พริ้ นติ้งกรุ๊ ป. ้ เลิศ เกษรคา. (2545). คู่สร้ างคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 3 เล่ม 2 ตามหลักสู ตรการศึกษา ขั้นพืนฐาน พุทธศักราช 2544. (พิมพ์ครั้งที่ 1). กรุ งเทพมหานคร: ไทยร่ มเกล้า. ้ วิชาการ, กรม. (2540). คู่มอครูวชาคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น. (พิมพ์ครั้งที่ 2). ื ิ กรุ งเทพมหานคร: โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว. ส่งเสริ มการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, สถาบัน. (2537). หนังสือเรียนรายวิชา ค 204 คณิตศาสตร์ 4 ชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 2 ตามหลักสู ตรมัธยมศึกษาตอนต้น พุทธศักราช 2521 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2533). (พิมพ์ครั้งที่ 3). กรุ งเทพมหานคร: โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว. _______. (2548). คู่มอครูสาระการเรียนรู้พนฐานคณิตศาสตร์ เล่ม 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ื ื้ คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 3 ตามหลักสู ตรการศึกษาขั้นพืนฐาน พุทธศักราช 2544. ้ (พิมพ์ครั้งที่ 1). กรุ งเทพมหานคร: โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว. _______. (2548). หนังสือเรียนสาระการเรียนรู้ พนฐาน คณิตศาสตร์ เล่ม 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ื้ คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 3 ตามหลักสู ตรการศึกษาขั้นพืนฐาน พุทธศักราช 2544. ้ (พิมพ์ครั้งที่ 1). กรุ งเทพมหานคร: โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว.