More Related Content
Similar to สภาพปัญหาและความคิดเห็นของนิสิตที่มีต่อการจัดการเรียนการสอน (20)
สภาพปัญหาและความคิดเห็นของนิสิตที่มีต่อการจัดการเรียนการสอน
- 1. (ก)
ชือเรือง : สภาพปั ญหาและความคิดเห็นของนิ สิตทีมีต่อการจัดการเรียนการสอนของ
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาลัยสงฆ์เลย
ชือผูวิจย :
้ ั พระไพรเวศน์ จิตฺตทนฺ โต หัวหน้าโครงการวิจย ั
ปี ทีทําวิจย : 2554
ั
ผูสนับสนุนการวิจย : มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาลัยสงฆ์เลย
้ ั
บทคัดย่อ
วัตถุประสงค์ของการวิจย ั
1. เพือทราบถึงสภาพปั ญหาของนิ สิตและการจัดการเรียนการสอนของมหาวิทยาลัยมหา
จุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาลัยสงฆ์เลย
2. เพือทราบถึ ง ระดับ ความคิ ด เห็น ของนิ สิต ที มี ต่ อ การจัด การเรี ย นการสอนของ
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาลัยสงฆ์เลย
3. เพือประมวลปั ญหาและข้อเสนอแนะของผูทีเกียวข้องในการจัดการเรียนการสอนของ
้
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาลัยสงฆ์เลย
วิธีการดําเนินการวิจย ั
ผูวิจยได้เก็บข้อมูลจากประชากรกลุมตัวอย่างทีเป็ นนิ สต จํานวน 191 รูป จากประชากร
้ ั ่ ิ
ทีเป็ นพระนิ สิตภาค 2 ปี การศึกษา 2551 ของวิทยาลัยสงฆ์
เครืองมือทีใช้ในการเก็บข้อมูลเป็ นแบบสอบถาม การวิเคราะห์ขอมูลโดยใช้โปรแกรม
้
สําเร็จรูปจากคอมพิวเตอร์ คํานวณหาค่าร้อยละ ค่าเฉลีย ค่าเบียงเบนมาตรฐาน และค่า
สัมประสิทธิสหสัมพันธ์
ผลการศึกษาวิจย ั
การวิจยครังนี ใช้กลุมประชากร ได้แก่ นิ สิตวิทยาลัยสงฆ์เลยทีศึกษาในภาคเรียนที 2 ปี
ั ่
การศึกษา 2554 โดยใช้แบบสอบถาม จํานวน 200 ชุด แบบสอบถามทีได้รบคืนจํานวน 191 ชุดั
คณะผูวจยได้ศึกษาทบทวนแนวคิดทฤษฎีและเอกสารผลงานทีเกียวข้อง โดยแบ่งแบบสอบถาม
้ิั
ออกเป็ น 4 ตอน คือ ตอนที 1 ข้อมูลพืนฐานของนิ สิต ตอนที 2 ข้อมูลปั ญหาของกลุมประชากรที ่
ใช้ในการศึกษา ตอนที 3 ข้อมูลความคิดเห็นของนิ สิตทีมีต่อการจัดการเรียนการสอน แบ่งออก
เป็ น 6 ด้าน ได้แก่ ด้านอาจารย์ผสอน ด้านหลักสูตร ด้านระบบการจัดการศึกษา ด้านวิธีการ
ู้
สอน ด้านอาคารสถานที และด้านสือการเรียนการสอนตอนที 4 ข้อเสนอแนะเพิมเติมของนิ สิต
ในด้านต่างๆ ซึงเป็ นคําถามลักษณะปลายเปิ ด
- 2. (ข)
ข้อมูลพืนฐานของนิ สิตกลุมตัวอย่าง จากผลการวิเคราะห์ขอมูลจากแบบสอบถามจํานวน
่ ้
191 ชุด ผูตอบแบบสอบถามส่วนมากมีสถานภาพเป็ นพระภิกษุ จํานวน 1 รูปและทีเหลือเป็ น
้
สามเณร จํานวน 8 รูป และคฤหัสถ์ จํานวน คน รวมจํานวน 1 รูป/คน
ข้อมูลทีเกียวกับปั ญหาของนิ สิต
จากการวิเคราะห์แบบสอบถาม พบว่า นิ สิตส่วนใหญ่มาเรียนโดยใช้ทุนส่วนตัวใน
การศึกษา ด้านการฉันเพลจะเตรียมภัตตาหารมาจากวัด นิ สิตส่วนใหญเดินทางมาเรียนไป-กลับ
จะโดยรถโดยสารประจําทาง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชัวโมง งานทีมอบหมายก็จะทําทุกครัง
ส่วนปั ญหาทีสําคัญทีสุดคือการขาดปั จจัยสนับสนุ นการเรียน เช่น ค่าเดินทาง ค่าเทอม ค่า
ภัตตาหาร เป็ นต้น
ข้อมูลทีเกียวกับด้านความคิดเห็นต่อการจัดการเรียนการสอนของวิทยาลัยสงฆ์เลย
1. ด้านผูสอน นิ สิตมีความคิดเห็นในระดับมาก โดยมีความคิดเห็นเชิงบวกใน 3 อันดับ
้
- ความคิดเห็นต่ออาจารย์ผสอนในด้านอาจารย์มีความเป็ นกันเอง
ู้
- อาจารย์พดจาสุภาพและเหมาะสม
ู
- เปิ ดโอกาสในชันเรียนให้พระนิ สิตซักถาม และให้คาแนะนําในด้านการเรียน
ํ
ส่วนความคิดเห็นของนิ สิตในเชิงลบแต่อยูในระดับมาก ได้แก่ อาจารย์เป็ นคนตรง
่
ต่อเวลาในการเข้าสอนและเลิกสอนให้โอกาสนอกชันเรียนแก่พระนิ สิตเข้าพบและให้
คําแนะนําในด้านการเรียน
2. ด้านหลักสูตร นิ สิตมีความคิดเห็นในระดับมากโดยมีความคิดเห็นเชิงบวกใน 3 อันดับ
- ความคิดเห็นต่อประโยชน์ของหลักสูตรสามารถนําไปใช้ในการพัฒนาสังคมได้
- หลักสูตรทีเรียนเป็ นหลักสูตรทีทําให้ได้รบความรูอย่างกว้างขวาง
ั ้
- มีการแจ้งตารางเรียนให้พระนิ สิตทราบก่อนล่วงหน้า
ส่วนความคิดเห็นของนิ สิตในเชิงลบ ได้แก่ มีการประเมินประสิทธิภาพของผูสอน ้
จากนิ สต มีการจัดวิชาลงในแต่ละภาคการศึกษาอย่างเหมาะสม
ิ
3. ด้านระบบการจัดการศึกษา นิ สิตมีความคิดเห็นในระดับมาก โดยมีความคิดเห็นเชิง
บวก ใน 3 อันดับ ได้แก่
- ชัวโมงการบรรยายแต่ละกระบวนวิชามีความเหมาะสมกับจํานวนหน่วยกิต
- เจ้าหน้าทีเต็มใจให้บริการแก่พระนิ สิต
- หลักสูตรมีการปรับปรุงและพัฒนาให้กาวทันการเปลียนแปลงของสังคมอยูเสมอ
้ ่
ส่วนความคิดเห็นของนิ สิตในเชิงลบ ได้แก่ การเปิ ดโอกาสให้นิสิตเข้าไปมีสวนร่วมใน
่
การจัดการศึกษาตามความเหมาะสมน้อย
4. ด้านวิธีการสอน นิ สิตมีความคิดเห็นในระดับมาก โดยมีความคิดเห็นเชิงบวกใน 3
อันดับ ได้แก่
- ผูเ้ รียนมีสวนร่วมในการเรียนการสอนการบรรยาย การสาธิต สัมมนา อภิปราย
่
ร่วม
- 3. (ค)
- มีแผนการสอนโดยกําหนดวัตถุประสงค์ เนื อหา สือ และวิธีการประเมินผล
- มีเอกสารประกอบการสอนทีตรงกับเนื อหาวิชาในกระบวนวิชาทีเรียน
ส่วนความคิดเห็นของนิ สิตในเชิงลบ ได้แก่ มีการส่งเสริมให้ผเู้ รียนใช้เทคโนโลยี
ผสมผสานการศึกษาเพือช่วยในการเรียนอย่างสมําเสมอ
5. ด้านอาคารสถานที นิ สิตมีความคิดเห็นในระดับมากโดยมีความคิดเห็นเชิงบวกใน 3
อันดับ ได้แก่
- แสงไฟภายในห้องเรียนสว่างอย่างเหมาะสมกับการจัดการเรียนการสอน
- ลักษณะของห้องเรียนมีความปลอดภัย
- บรรยากาศของห้องเรียนมีความโปร่งสบาย
ส่วนความคิดเห็นของนิ สิตในเชิงลบ ได้แก่ สภาพแวดล้อมของอาคารมีการจัดการ
ดูแลอย่างเป็ นระเบียบ สวยงาม และมีการบํารุงรักษาสถานทีเพืออํานวยความสะดวกแก่
พระนิ สิตสมําเสมอเป็ นอย่างดี
6. ด้านสือการเรียนการสอน นิ สิตมีความคิดเห็นในระดับมาก โดยมีความคิดเห็นเชิง
บวกใน 3 อันดับ ได้แก่
- อาจารย์ผสอนมีความสามารถใช้สือการสอนได้เป็ นอย่างดี
ู้
- สือทีอาจารย์ผสอนนํามาใช้มีความทันสมัยเหมาะสมกับรายวิชา
ู้
- สือทีมีอยูชวยให้ผเู้ รียนเรียนได้เร็วขึน
่่
ส่วนความคิดเห็นของนิ สิตในเชิงลบ ได้แก่ สือการสอนและอุปกรณ์การศึกษาไม่มี
ความเพียงพอและทันสมัย
7. ข้อเสนอแนะของนิ สิตด้านกิจกรรมนิ สต ในเชิงบวกนิ สิตมีความเห็นว่า ได้แก่
ิ
- ควรส่งเสริมกิจกรรมนิ สิตให้มีความหลากหลายประเภท
- ผูบริหารคณาจารย์ควรให้ความร่วมมือในการจัดกิจกรรมของนิ สิต รวมทังร่วมการ
้
วางแผน การสนับสนุ นการมีสวนร่วมในการจัดกิจกรรม
่
ส่วนในเชิงลบ คือ ควรมีทีทํางานของคณะกรรมการนิ สิตเป็ นสัดส่วน
- 4. (ง)
กิตติกรรมประกาศ
การวิจยนี ได้รบการสนับสนุ นจากผูบริหารทีเล็งเห็นความสําคัญในการวิจยเพือทีจะ
ั ั ้ ั
พัฒนาการจัดการศึกษาของวิทยาลัยสงฆ์เลย รวมทังได้รบความกรุณาให้คาแนะนําในการวิจย
ั ํ ั
จากนิ สตทังหลายจนทําให้การวิจยฉบับนี สาเร็จลงได้ดวยความสมบูรณ์
ิ ั ํ ้
ขอขอบคุณประชากรกลุมตัวอย่าง ทีให้ความร่วมมือในการตอบแบบสอบถามทีเป็ นผู้
่
มีสวนทําให้งานวิจยครังนี สมบูรณ์ทีสุด
่ ั
และขอขอบคุณผูบริหารทีสนับสนุ นการวิจยในครังนี
้ ั
ผูวิจย
้ ั
- 5. (จ)
สารบัญ
บทคัดย่อ (ก)
กิตติกรรมประกาศ (ง)
สารบัญ (จ)
สารบัญตาราง (ช)
สารบัญกราฟ (ซ)
บทที 1 บทนํา............................................................................................................ 1
1.1 ความเป็ นมาของปั ญหา..................................................................................... 1
1.2 วัตถุประสงค์การวิจย.........................................................................................
ั 2
1.3 สมมติฐานการวิจย.............................................................................................
ั 2
1.4 ขอบเขตการศึกษา.............................................................................................. 2
1.5 นิ ยามศัพท์เฉพาะ.................................................................................................. 3
1.6 ประโยชน์ทีคาดว่าจะได้รบ....................................................................................
ั 4
บทที 2 แนวคิด ทฤษฎีและผลงานวิจยทีเกียวข้อง......................................................
ั 5
. แนวคิดการก่อตังวิทยาลับสงฆ์เลย.................................................................. 5
. แนวคิดการจัดการเรียนการสอน..................................................................... 7
2.3 แนวคิดเกียวกับบัณฑิตทีพึงประสงค์................................................................ 29
. งานวิจยทีเกียวข้อง.....................................................................................
ั 31
. กรอบแนวคิดทีใช้ในการวิจย.......................................................................
ั 36
บทที 3 วิธีดาเนินการวิจย...........................................................................................
ํ ั 37
3.1 ตัวแปรในการวิจย..............................................................................................
ั 37
3.2 ประชากรและกลุมตัวอย่าง................................................................................
่ 37
3.3 เครืองมือในการวิจย..........................................................................................
ั 37
. วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล................................................................................. 38
. การวิเคราะห์ขอมูลและสถิติทีใช้ในการวิจย.....................................................
้ ั 38
บทที 4 ผลการวิเคราะห์ขอมูล....................................................................................
้ 40
4.1 ผลการวิเคราะห์ขอมูลทัวไปของผูตอบแบบสอบถาม.........................................
้ ้ 40
4.2 ผลการวิเคราะห์ขอมูลปั ญหาของกลุมประชากร................................................
้ ่ 43
4.3 ผลการวิเคราะห์ขอมูลความคิดเห็นของนิ สิต 6 ด้าน..........................................
้ 45
1. ความคิดเห็นด้านอาจารย์ผสอน.................................................................
ู้ 45
- 6. (ฉ)
สารบัญ (ต่อ)
เรือง หน้า
2. ความคิดเห็นด้านหลักสูตร.......................................................................... 46
3. ความคิดเห็นด้านระบบการจัดการศึกษา.................................................... 47
4. ความคิดเห็นด้านวิธีการสอน...................................................................... 48
5. ความคิดเห็นด้านอาคารสถานที.................................................................. 49
6. ความคิดเห็นด้านสือการเรียนการสอน....................................................... 50
4.4 ข้อเสนอแนะเพิมเติมของนิ สตด้านต่างๆ.......................................................... 51
ิ
4.5 ผลการทดสอบสมมติฐาน................................................................................. 51
บทที 5 การอภิปรายผล 54
.......................................................................................................
5.1 บทสรุป............................................................................................................... 54
5.2 อภิปรายผล........................................................................................................ 56
5.3 ข้อเสนอแนะ....................................................................................................... 58
บรรณานุกรม……………………………………………………………………………….… 59
ภาคผนวก.................................................................................................................................. 62
ภาคผนวก. ก. แบบสอบถามการวิจย........................................................................... 62
ั
ภาคผนวก. ข.ประวัติผวจย............................................................................................ 69
ู้ ิ ั
- 7. (ช)
สารบัญตาราง
ตารางที หน้า
2.1 เปรียบเทียบแนวคิดเกียวกับหลักการสอนของนักศึกษา 24
. แสดงสถานภาพของผูตอบแบบสอบถาม
้
. แสดงพรรษาของผูตอบแบบสอบถาม
้
. แสดงชันปี ทีศึกษาของผูตอบแบบสอบถาม
้
. แสดงเกรดเฉลียผูตอบแบบสอบถาม
้
. แสดงสาขาวิชาของผูตอบแบบสอบถาม
้
. แสดงแหล่งทีมาของทุนในการศึกษาของนิ สต ิ
. แสดงการฉันภัตตาหารเพล
. แสดงวิธีการเดินทางไป-กลับในการเรียน
. แสดงระยะเวลาทีใช้ในการเดินทาง
. แสดงการทํางานทีได้รบมอบหมายั
. แสดงค่าเฉลีย ส่วนเบียงเบนมาตรฐานและความหมายของปั ญหาการ
เดินทางนิ สิต
. แสดงจํานวน ร้อยละ ค่าเฉลีย และค่าเบียงเบนมาตรฐานในความคิดเห็น
ของนิ สิตทีมีต่อการจัดการเรียนการสอนด้านอาจารย์ผสอน
ู้
. แสดงจํานวน ร้อยละ ค่าเฉลียและค่าเบียงเบนมาตรฐานในความคิดเห็นของ
นิ สิตทีมีต่อการจัดการเรียนการสอนด้านหลักสูตร
. แสดงจํานวน ร้อยละ ค่าเฉลียและค่าเบียงเบนมาตรฐานในความคิดเห็นของ
นิ สิตทีมีต่อการจัดการเรียนการสอนด้านระบบการจัดการศึกษา
. แสดงจํานวน ร้อยละ ค่าเฉลีย และค่าเบียงเบนมาตรฐานในความคิดเห็น
ของนิ สิตทีมีต่อการจัดการเรียนการสอนด้านวิธีการสอน
. แสดงจํานวน ร้อยละ ค่าเฉลีย และค่าเบียงเบนมาตรฐานในความคิดเห็น
ของนิ สิตทีมีต่อการจัดการเรียนการสอนด้านอาคารสถานที
. แสดงจํานวน ร้อยละ ค่าเฉลีย และค่าเบียงเบนมาตรฐานในความคิดเห็น
ของนิ สิตทีมีต่อการจัดการเรียนการสอนด้านสือการเรียนการสอน
. แสดงการเปรียบเทียบค่าเฉลียระดับความคิดเห็นของนิ สตทีมีสถานภาพ
ิ
แตกต่างกันทีมีต่อการจัดการเรียนการสอนในด้านต่างๆ
. แสดงการเปรียบเทียบค่าเฉลียระดับความคิดเห็นของนิ สตทีมีพรรษาแตกต่าง
ิ
กันทีมีต่อการจัดการเรียนการสอนในด้านต่างๆ
- 8. (ซ)
สารบัญภาพ
ภาพที หน้า
. แสดงความหมายของการเรียนรู ้
. แสดงความสัมพันธ์ระหว่างองค์ประกอบของการเรียนการสอน
. แสดงองค์ประกอบของระบบทีสมบูรณ์
. แสดงระบบการเรียนการสอน
. ระบบการเรียนการสอนของเกลเซอร์ (Glaser, )
. ระบบการเรียนการสอนของเกอร์ลคและอีลาย (Gerlach and Dly)
ั
. แสดงรูปแบบการจัดกระบวนการเรียนการสอนของกรมวิชาการ และเขต
การศึกษา
.8 กรอบแนวคิดทีใช้ในการวิจย
ั 36
- 9. บทที
ปฐมบท
1.1 ความเป็ นมาของปัญหา
วิทยาลัยสงฆ์เลยเป็ นสถาบันการศึกษาของคณะสงฆ์ไทยแห่งหนึ ง เป็ นส่วนงานหนึ ง
ของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ
ได้ก่อตังขึนเพือการขยายโอกาสทางการศึกษาแก่พระภิกษุ สามเณรในเขตการปกครองคณะสงฆ์
ภาค เพือส่งเสริมการศึกษาแก่บุคลากรทางศาสนา มีประวัติความเป็ นมาโดยสังเขปคือเมือ
พ.ศ.2539 สภามหาวิทยาลัยมีมติอนุ มติให้วิทยาเขตขอนแก่น จัดตัง "ศูนย์การศึกษาวัดศรีวิชย
ั ั
วนาราม" ณ วัดศรีวิชยวนาราม ตําบลกุดป่ อง อําเภอเมือง จังหวัดเลยโดยมีพระสุนทรปริยติเมธี
ั ั
เป็ น "ผูชวยอธิการบดี" ทําหน้าทีบริหารประจําศูนย์การศึกษา ต่อมาเมือ พ.ศ.2541 ได้มีการ
้่
ประชุมสภามหาวิทยาลัยครังที 8/2541 มีมติให้ยกฐานะศูนย์การศึกษาเลยเป็ น “วิทยาลัยสงฆ์
เลย” ปั จจุบนได้เปิ ดการเรียนการสอนหลักสูตรพุทธศาสตรบัณฑิต ๓ คณะ ได้แก่ คณะพุทธ
ั
ศาสตร์ สาขาวิชาพระพุทธศาสนา คณะครุ ศ าสตร์ สาขาวิ ชาการอสนภาษาไทย และคณะ
สังคมศาสตร์ สาขาวิชารัฐศาสตร์ วิชาเอกการปกครอง นอกจากนี ยงเปิ ดการเรียนการสอน
ั
หลักสูตรประกาศนี ยบัตร คื อ หลักสูต รประกาศนี ยบัตรการบริหารกิจการคณะสงฆ์(ปบ.ส.)
ปั จจุบันวิทยาลัยสงฆ์เลยได้ยายสถานศึกษาจากวัด ศรีวิ ชย
้ ั มาอยู่ที เลขที หมู่ที
บ้านท่าบุ่ง ตําบลศรีสองรัก อําเภอเมือง จังหวัดเลย โดยมีวตถุประสงค์ในการก่อตัง ดังนี 1
ั
1. เพือส่งเสริมการศึกษาด้านพระพุทธศาสนา
2. เพือการเผยแผ่พระพุทธศาสนา
3. เพือเป็ นแหล่งการศึกษาพระไตรปิ ฎกและวิชาชันสูงสําหรับพระภิกษุ สามเณรและ
คฤหัสถ์ในภูมิภาคนี
4. เพือขยายโอกาสทางการศึกษาแก่พระภิกษุ สามเณร
5. เพือสนองนโยบายในการกระจายโอกาสบางการศึกษา และเปิ ดโอกาสให้บุคลากร
ในท้องถิน ได้มีสวนร่วมดําเนิ นการจัดการศึกษา
่
ในการจัดการเรียนการสอนนัน วิทยาลัยสงฆ์เลยมีพนธกิจทีสําคัญในการผลิตบัณฑิต
ั
ให้มีความเป็ นเลิศทางวิชาการด้านพระพุทธศาสนา บัณฑิตทีสําเร็จการศึกษามีความเป็ นผูนํา ้
ทางจิต และปั ญญา มีศรัทธาทีจะอุทิศตนเพือพระพุทธศาสนา มีคุณธรรม จริยธรรม เสียสละ
เพือส่วนรวม การส่งเสริมพระพุทธศาสนาและบริการวิชาการแก่สงคม ด้วยการสร้างความรู ้
ั
1
วิทยาลัยสงฆ์เลย, วัตถุประสงค์การก่อตัง, http://www.mcu.ac.th/site/college/coll_index.php. สืบค้นเมือวันที กันยายน .
- 10. ความเข้าใจในหลักคําสอนทางพระพุทธศาสนาแก่ประชาชน และสนับสนุ นงานกิจการคณะสงฆ์
เสริ ม สร้า งและพัฒ นาแหล่ ง เรี ย นรูด ้า นการทํา นุ บํ า รุ ง ศิ ล ปวัฒ นธรรม และการอนุ รัก ษ์
้
สิงแวดล้อ ม สนั บสนุ น ให้มี ก ารนํ าภูมิ ปัญญาไทยและภูมิ ปัญญาท้องถิ นมาเป็ นรากฐานการ
พัฒนา ส่งเสริมการวิจยและพัฒนางานวิชาการ เน้นการพัฒนาองค์ความรูในพระไตรปิ ฎก การ
ั ้
พัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศ และพัฒนาความรูทางพระพุทธศาสนามาประยุกต์ใช้แก้ปัญหา
้
ด้านศีลธรรมและจริยธรรมของสังคม
เพือให้เป็ นไปตามวัตถุประสงค์ในการจัดตังดังกล่าว วิทยาลัยสงฆ์เลยได้จดการศึกษา
ั
โดยการพยายามทีจะผลิต บัณฑิ ตที มีคุ ณภาพออกไปรับใช้สังคม ในขณะเดีย วกันก็ เพือผลิต
บุคลากรทางศาสนาทีมีคุณภาพ มีความตระหนักถึงบทบาทหน้าทีของตนในฐานะผูนําทางจิต ้
วิญญาณ แต่การทีผลิตพระบัณฑิตทีมีคุณภาพดังกล่าว จําเป็ นทีต้องทราบปั ญหาและอุปสรรค
ในจัด การศึ ก ษาเล่าเรีย น ดัง นั น วิ ทยาลัย สงฆ์เ ลยจึ ง ได้ดําเนิ น การวิ จัย สํารวจปั ญหาและ
อุปสรรคของนิ สิตเพือทราบถึงข้อมูลทีจะนําไปสู่การกําหนดแนวทางในการจัดการศึกษาต่อไป
ปั ญหาทีจะหยิบยกมาเป็ นประเด็น หลักทีจะค้นหาคําตอบให้ไ ด้ก็คือ นิ สิตคิด อย่างไรในเรือง
เหล่านี คือ ด้านอาจารย์ผสอน ด้านหลักสูตร ด้านการจัดการศึกษา ด้านวิธีการสอน ด้าน
ู้
อาคารสถานที และด้านสือการเรียนการสอน
1.2 วัตถุประสงค์การวิจย ั
1.2.1 เพือทราบถึงปั ญหาของนิ สิต และการจัดการเรียนการสอนของมหาวิทยาลัยมหา
จุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาลัยสงฆ์เลย
1.2.2 เพือทราบถึงระดับความคิด เห็นของนิ สิตทีมีต่อการจัดการเรียนการสอนของ
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาลัยสงฆ์เลย
1.2.3 เพือประมวลปั ญหาและข้อเสนอแนะของผูทีเกียวข้องในการจัดการเรียนการ
้
สอนของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาลัยสงฆ์เลย
1.3 สมมติฐานการวิจย ั
1.3.1 นิ สิตทีมีสถานภาพแตกต่างกัน มีความคิดเห็นต่อการจัดการเรียนการสอนของ
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาลัยสงฆ์เลยไม่แตกต่างกัน
1.3.2 นิ สิตที มีพรรษาแตกต่ างกัน มี ความคิด เห็น ต่อการจัด การเรีย นการสอนของ
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาลัยสงฆ์เลยไม่แตกต่างกัน
1.4 ขอบเขตการศึกษา
1.4.1 ขอบเขตด้านประชากร
ประชากรทีใช้ในการวิจัยครังนี คือ นิ สิตทีกําลังศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลง
กรณราชวิทยาลัย วิทยาลัยสงฆ์เลย ภาคการศึกษาที 2/2554
- 11. 1.4.2 ขอบเขตด้านเนื อหา
การศึกษาครังนี ผวิจยกําหนดศึกษาเนื อหาการจัดการศึกษาในมหาวิทยาลัยมหาจุฬา
ู้ ั
ลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาลัยสงฆ์เลย ในด้านต่างๆ 6 ด้าน คือ
1. ด้านอาจารย์ผสอน
ู้
2. ด้านหลักสูตร
3. ด้านการจัดการศึกษา
4. ด้านวิธีการสอน
5. ด้านอาคารสถานที
6. ด้านสือการเรียนการสอน
1.5 นิยามศัพท์เฉพาะ
ความคิดเห็น หมายถึง การแสดงออกถึงความรูสึก ความเข้าใจและการรับรูของ
้ ้
พระนิ สิตต่อการจัดการศึกษาของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาลัยสงฆ์เลย
ในด้านต่างๆ ทัง 6 ด้าน คือ ด้านอาจารย์ผสอน ด้านหลักสูตร ด้านระบบการจัดการศึกษา ด้าน
ู้
วิธีการสอน ด้านอาคารสถานที ด้านสือการเรียนการสอน
นิสิต หมายถึง นิ สิตของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาลัยสงฆ์เลย
ทีลงทะเบียนเรียนในภาคการศึกษาที 2/2554
สถานภาพ หมายถึง ลักษณะของเพศบรรพชิต จําแนกเป็ นพระภิกษุ และสามเณร
อาจารย์ผู ้ส อน หมายถึ ง อาจารย์ป ระจํ า ผู้ที บอกในรายวิ ช าที เปิ ดสอนของ
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาลัยสงฆ์เลย
หลักสูต ร หมายถึง แผนการจัด การศึ กษาระดับปริญญาตรีของมหาวิทยาลัยมหา
จุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาลัยสงฆ์เลย
การจัดการศึก ษา หมายถึ ง การจัดและดําเนิ นการเกียวกับการจัด การศึ กษาของ
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาลัยสงฆ์เลย ใน 6 ด้าน คือ ด้านอาจารย์ผูสอน ้
ด้านหลักสูต ร ด้านระบบการจัดการศึกษา ด้านวิธีก ารสอน ด้านอาคารสถานที ด้านสือการ
เรียนการสอน
วิธีการสอน หมายถึง วิธีการทีช่วยให้ผเู้ รียนสามารถเรียนรูได้โดยอาศัยความสามารถ
้
ของผูสอนและการใช้เทคนิ คต่างๆ ในการถ่ายทอดเนื อหาสาระให้น่าสนใจ
้
อาคารสถานที หมายถึง สถานทีทีใช้จดการศึกษาระดับปริญญาตรีของมหาวิทยาลัย
ั
มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาลัยสงฆ์เลย
สือการเรียนการสอน หมายถึง สือการสอนเป็ นเครืองมือช่วยสือความหมายใดๆ ก็
ตามทีจัดโดยอาจารย์และนิ สิต เพือเสริมการเรียนรู ้ เครืองมือการสอนทุกชนิ ดเป็ นสือการสอน
เช่น หนังสือในห้องสมุด โสตทัศนวัสดุต่าง ๆ ทรัพยากรจากชุมชน เป็ นต้น
- 12. 1.6 ประโยชน์ทีคาดว่าจะได้รบ ั
1.6.1 ได้ทราบถึงสภาพการจัดการศึกษาในมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
วิทยาลัยสงฆ์เลย
1.6.2 ได้ทราบถึ งระดับความคิ ด เห็นของนิ สิตที มีต่ อการจัด การเรีย นการสอนของ
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาลัยสงฆ์เลย
1.6.3 ได้รบสารสนเทศทีเกียวข้องกับปั ญหาและข้อเสนอแนะของผูทีเกียวข้องในการ
ั ้
จัดการเรียนการสอนของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาลัยสงฆ์เลย
- 13. บทที
แนวคิดทฤษฎีและผลงานวิจยทีเกียวข้อง
ั
ในการวิจยเรือง “สภาพปั ญหาและความคิดเห็นของนิ สิตทีมีต่อการจัดการเรียนการสอน
ั
ของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาลัยสงฆ์เลย” ผูวิจัยได้ทําการศึกษาแนวคิ ด
้
ทฤษฎีและผลงานวิจยทีเกียวข้อง ดังนี
ั
. แนวคิดการก่อตังวิทยาลับสงฆ์เลย
. แนวคิดการจัดการเรียนการสอน
2.3 แนวคิดเกียวกับบัณฑิตทีพึงประสงค์
. งานวิจยทีเกียวข้อง
ั
. กรอบแนวคิดทีใช้ในการวิจย ั
. แนวคิดการก่อตังวิทยาลัยสงฆ์เลย
วิทยาลัยสงฆ์เลยเป็ นส่วนงานสังกัดมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขต
ขอนแก่น ตังอยูเลขที เลขที
่ หมู่ที บ้านท่าบุ่ง ตําบลศรีสองรัก อําเภอเมือง จังหวัดเลย
มีประวัติการก่อตังโดยย่อคือ เมือ พ.ศ. พระสุนทรปริยติเมธี(พรหมา จนฺ ทโสภโณ) สมณ
ั
ศัก ดิ ในขณะนั น ซึ งเป็ นเจ้าคณะจัง หวัด เลยร่ว มกับพระสัง ฆาธิ ก ารในเขตจัง หวัด เลย ได้เสนอ
โครงการก่อตังวิทยาลัยสงฆ์เลยต่อมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น และได้รบ ั
อนุ มัติ ให้ก่อ ตังศูน ย์ก ารศึก ษาเลย สัง กัด วิทยาเขตขอนแก่ น ต่อ มาเมื อวันที สิง หาคม พ.ศ.
ได้รบการอนุ มัติจ ากสภามหาวิ ทยาลัย มหาจุ ฬ าลงกรณราชวิ ทยาลัย ให้ยกฐานะศูน ย์
ั
การศึกษาเลยเป็ นวิทยาลัยสงฆ์เลย
วัตถุประสงค์ในการก่อตังวิทยาลัยสงฆ์เลย
เพือตอบสนองความต้องการของศึ กษาของพระภิก ษุ สามเณร เพือสนองนโยบายของ
รัฐบาลในการกระจายโอกาสทางการศึกษาให้ทวถึงแก่ผดอยโอกาส เพือเปิ ดโอกาสให้บุคลากรใน
ั ู้ ้
ท้องถินได้มีสวนร่วมดําเนิ นการศึกษาระดับบาลีอุดมศึกษาให้เกิดประโยชน์แก่พระภิกษุ สามเณรใน
่
ชนบท และสามารถนําความรูดังกล่าวไปประยุก ต์ใช้ในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาได้อ ย่างพึง
้
ประสงค์ และมีประสิทธิภาพ ดังนี
. เพื อพัฒ นาทรัพ ยากรบุ ค คลทางพระพุ ท ธศาสนาในท้อ งถิ น ให้มี คุ ณ ธรรม มี
จริยธรรม มีความสามารถและมีศกยภาพในการบริหารกิจการคณะสงฆ์และสังคม
ั
. เพือขยายโอกาสให้พระสังฆาธิการ ครูสอนพระปริยติธรรม และ พระภิกษุ สามเณรที
ั
สนองงานคณะสงฆ์ในท้องถิน ได้ศึกษาวิชาการด้านพระพุทธศาสนาในระดับอุดมศึกษา
. เพือผลิตบัณฑิตทีมีความรู ้ ความสามารถด้านพระพุทธศาสนา
. เพือเป็ นแหล่งบริการด้านพระพุทธศาสนา ทํานุ บารุงศิลปวัฒนธรรม
ํ
- 14. 6
ปั จจุบนทีวิทยาลัยสงฆ์เลยได้เปิ ดหลักสูตรและจัดการเรียนการสอน ๔ สาขาวิชา คือ
ั
1. สาขาวิชาการสอนภาษาไทย
2. สาขาวิชาพระพุทธศาสนา
3. สาขาวิชารัฐศาสตร์ วิชาเอกการปกครอง
ปั จจุบนมีโครงการหลักสูตรประกาศนี ยบัตร คือ
ั
โครงการหลักสูตรประกาศนี ยบัตรการบริหารกิจการคณะสงฆ์ (ปบ.ส.)
โดยมีพนธกิจตามพันธกิจของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยในด้านต่างๆ
ั
ดังนี
ด้านการผลิตบัณฑิต
ผลิต และพัฒนาบัณฑิ ต ให้มี คุ ณลัก ษณะอัน พึงประสงค์ ๙ ประการ คื อ มี ปฏิปทาน่ า
เลือมใส ใฝ่ รใฝ่ คิด เป็ นผูนําด้านจิตใจและปั ญญา มีความสามารถในการแก้ปัญหา มีศรัทธาอุทิศ
ู้ ้
ตนเพือพระพุทธศาสนา รูจกเสียสละเพือส่วนรวม รูเ้ ท่าทันความเปลียนแปลงของสังคม มีโลกทัศน์
้ั
กว้างไกล มีศกยภาพทีจะพัฒนาตนเอง ให้เพียบพร้อมด้วยคุณธรรมและจริยธรรม
ั
ด้านการวิจยและพัฒนา
ั
การวิจยและค้นคว้า เพือสร้างองค์ความรูควบคู่ไปกับกระบวนการเรียนการสอน เน้น
ั ้
การพัฒนาองค์ความรูในพระไตรปิ ฎก โดยวิธีสหวิทยาการแล้วนําองค์ความรูทีค้นพบมาประยุกต์ใช้
้ ้
แก้ปั ญหา ศี ล ธรรม และจริ ย ธรรมของสั ง คม รวมทั งพัฒ นา คุ ณ ภาพงานวิ ช าการด้า น
พระพุทธศาสนา
ด้านการส่งเสริมพระพุทธศาสนาและบริการวิชาการแก่สงคม ั
ส่ ง เสริ ม พระพุ ท ธศาสนาและบริ ก ารวิ ช าการแก่ สัง คม ตามปณิ ธ านการจั ด ตั ง
มหาวิทยาลัย ด้วยการปรับปรุงกิจกรรมต่างๆ ให้ประสานสอดคล้อง เอือต่อการส่งเสริม สนับสนุ น
กิจการคณะสงฆ์ สร้างความรู ้ ความเข้าใจหลักคําสอนทางพระพุทธศาสนา สร้างจิตสํานึ ก ด้าน
คุ ณธรรม จริ ย ธรรมแก่ ประชาชน จัด ประชุ ม สัม มนา และฝึ ก อบรม เพื อพัฒนาพระสงฆ์และ
บุคลากรทางศาสนา ให้มีศกยภาพในการธํารงรักษา เผยแผ่หลักคําสอน และเป็ นแกนหลักในการ
ั
พัฒนาจิตใจในวงกว้าง
ด้านการทํานุบารุงศิลปวัฒนธรรม
ํ
เสริมสร้างและพัฒนาแหล่งการเรียนรูดานการทํานุ บํารุ งศิ ลปวัฒนธรรม ให้เอือ ต่ อ
้ ้
การศึกษา เพือสร้างจิตสํานึ กและความภาคภูมิใจในความเป็ นไทย สนับสนุ นให้มีการนําภูมิปัญญา
ท้องถิน มาเป็ นรากฐานของการพัฒนาอย่างมีดุลยภาพ
เปาประสงค์ของวิทยาลัยสงฆ์เลย
้
. จัด การศึ ก ษา ส่ง เสริม และพัฒนาวิ ชาการทางพระพุทธศาสนาประยุก ต์เข้ากับ
ศาสตร์ต่างๆ เพือการผลิตและพัฒนาคุณภาพบัณฑิ ต และทรัพยากรมนุ ษย์ให้เป็ นทียอมรับของ
สังคม
- 15. 7
. เพือให้มีโครงสร้างที กะทัดรัดและมีระบบการบริหารทีมี ความคล่องตัว สามารถ
ดําเนิ นงานทุกด้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ เกิดประสิทธิผล โป่ งใส ตรวจสอบได้
. เพือให้บุคลากรทุกระดับในวิทยาเขตขอนแก่น เป็ นผูมีความรูความสามารถให้ทัน
้ ้
ต่อความเปลียนแปลงทางเศรษฐกิจ สังคม การเมือง สิงแวดล้อม และเป็ นผูชีนําทางวิชาการด้าน
้
พระพุทธศาสนา
. เพือให้สามารถปฏิบัติภารกิจหลักในด้านการบริหาร การจัดการศึกษา การวิจัย
การส่งเสริมพระพุทธศาสนาและบริการวิชาการแก่สงคม และการทํานุ บารุงศิลปวัฒนธรรมได้ตาม
ั ํ
เปาหมาย
้
. เพือพัฒนาวิ ทยาลัย สงฆ์เลยให้เป็ นศูนย์กลางการศึ กษาด้านพุทธศาสนา สะสม
อนุ รกษ์ และพัฒนาภูมิปัญญาท้อ งถิน พัฒนาองค์ความรูดานศิลปะและวัฒนธรรม เพือมุ่งสู่การ
ั ้ ้
เป็ นศูนย์ก ลางการพัฒนาองค์ค วามรู ้ และเป็ นผูนํ าด้านการวิจัย ด้านพระพุทธศาสนา ปรัชญา
้
ศิลปะและวัฒนธรรมในภูมิภาคนี
. เพือให้สามารถระดมทุ น จากแหล่ง ต่ างๆ ให้มี เพีย งพอต่ อ การจัด หาและพัฒนา
อาคารสถานที บุ ค ลากร ครุ ภัณฑ์ทางการศึ ก ษาและเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยให้ภาคเอกชน
ชุมชนและสังคมมีสวนร่วมรับผิดชอบในการจัดการศึกษาของคณะสงฆ์เพิมมากขึน
่
2.2 แนวคิดเกียวกับการจัดการเรียนการสอน
การเรียนการสอน เป็ นคําทีคุนเคยกันดีในแวดวงการการศึกษา เป็ นคําทีมาจากคําว่า
้
“การเรียน” และ “การสอน” เนื องมาจากคําทังสองมีกระบวนการทีสัมพันธ์กัน เกียวเนื องกัน
จนกระทังไม่ สามารถแยกกันอยู่ได้ และกระบวนการทังสองเกี ยวข้อ งกับผูมีบทบาทสําคัญของ
้
การศึกษา คือ บทบาทของผูสอนและผูเ้ รียน ดังนันในฐานะของผูสอนซึงถือว่าเป็ นบทบาทในการ
้ ้
ทีจะส่งเสริมให้ผเู้ รียนเกิดความเจริญเติบโต มีความงอกงามทังทางร่างกาย สติปัญญา อารมณ์
และสังคม จึงควรมีความรู ้ ความเข้าใจเกียวกับความหมาย องค์ประกอบ หลักการสําคัญและ
ลักษณะทีดี ของการสอนการเรียนรู ้ ตลอดจนความสัมพัน ธ์ระหว่างหลักการเรียนรูและหลักการ ้
สอนเพือจะสามารถนําไปปฏิบติจนเกิดผลดี และมีประสิทธิภาพต่อการจัดการศึกษาต่อไป
ั
2.2.1 ความหมายของการเรียน
1
พจนานุ กรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ได้ให้ความหมายของการเรียนไว้ว่า
“เป็ นการศึ ก ษาเพื อให้เ จนใจ จํา ได้ ให้เ กิ ด ความรู ้ ความเข้า ใจหรื อ ความชํา นาญ” นั นเป็ น
ความหมายโดยทัวไป ซึงการเรียนสามารถเกิดขึนได้ทุกเวลา และทุกสถานที เกิดขึนได้ตลอดชีวิต
เกิดขึนทังทีตังใจและบังเอิญ
1
ราชบัณฑิตยสถาน. พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิ ตยสถาน พ.ศ. 2525. (กรุงเทพมหานคร : สํานักพิมพ์อกษรเจริญทัศน์,2526)
ั
หน้า 690
- 16. 8
ความหมายของการศึกษาในทัศนะของท่านพุทธทาส 2 ให้แนวความคิด ไว้ว่า “การ
เรีย นเป็ นการพัฒนาวิ ญญาณ ให้สามารถรับรู ้ สิงต่ าง ๆ ได้ต รงตามความเป็ นไปที แท้จ ริง ของ
ธรรมชาติ โดยไม่มีการปรับแต่งหรือปราศจากอวิชชา”
สวัสดิ จิตต์จนะ3 ได้ให้ความหมายของการเรียนว่า “เป็ นปฏิกิริยาทีมีต่อประสบการณ์
ซึงจะแสดงออกให้เห็นในลักษณะของพฤติกรรมทีเปลียนแปลงไป” นอกจากนันยังกล่าวว่า การ
เรียนมีความหมายแตกต่างไปจากการเรียนรู ้ กล่าวคือ การเรียนเป็ นการกระทํา ส่วนการเรียนรู ้
เป็ นผลของการกระทํา การเรียนจึงเกิดขึนก่อน และการเรียนรูจะเกิดขึนได้ในโอกาสต่อมา
้
สุพิน บุญชูวงศ์4 ได้แสดงความคิดเห็นไว้วา “การเรียน” เป็ นคําสัน ๆ ของคําว่า “การ
่
เรียนรู”้ มาจากคําภาษาอังกฤษว่า learning ซึงเป็ นคําทีใช้ในศาสตร์ทางจิตวิทยาเป็ นกระบวนการที
บุคคลมีการเปลียนแปลงพฤติกรรมอันเนื องมาจากประสบการณ์
ซึงเป็ นความคิดทีสอดคล้องกับ อาภรณ์ ใจเทียง5 ทีกล่าวว่า การเรียนรู ้ เป็ นคําทีใช้
ในศาสตร์ทางจิตวิทยา เมือนํามาใช้ค่กบการสอน จะเรียกสัน ๆ ว่า “การเรียน”
ู ั
ดังนัน การเรียน หรือ การเรียนรู ้ จึงมีความหมายทีแยกกันไม่ได้ เนื องจากเป็ นเหตุ
เป็ นผลต่อกัน ซึงจะนําความคิดเห็นของนักการศึกษาทีให้ความหมายไว้มานําเสนออีก ดังนี
คาเตอร์ วี. กู๊ด (Cater V. Good) 6 ได้ให้ความหมายของการเรียนรูไว้ว่า เป็ นการ
้
เปลียนปฏิกิริยาตอบสนอง หรือพฤติกรรม อันเนื องมาจากบุคคลได้รบประสบการณ์ ในขณะทีมี
ั
สติสมปชัญญะสมบูรณ์ แต่บางครังก็อาจเป็ นประสบการณ์ทีเกิดขึนโดยไม่รตว
ั ู้ ั
7
กันยา สุวรรณแสง ให้ความหมายไว้วา “การเรียนรู ้ คือ กระบวนการทีประสบการณ์
่
ตรง และ ประสบการณ์ทางอ้อม กระทําในอินทรีย ์ เกิดการเปลียนแปลงพฤติกรรมทีค่อนข้างถาวร
แต่ไม่รวมถึงการเปลียนแปลงพฤติกรรมอันเนื องมาจากเหตุอืน ๆ เช่น ความเจ็บป่ วย ฤทธิ ยาและ
สารเคมี ฯลฯ
อาภรณ์ ใจเทียง8 ให้ความหมายว่า “การเรีย นรู ้ คือกระบวนการที บุคคลเกิ ดการ
เปลียนแปลงพฤติกรรมอย่างถาวร อันเนื องมาจากประสบการณ์หรือการฝึ กหัด” โดยสามารถแสดง
ภาพได้ ดังนี
2
สวัสดิ จิตต์จนะ.หลักการสอน.(พิษณุโลก:ภาควิชาหลักสูตรและการสอน คณะครุศาสตร์ สถาบันราชภัฎพิบูลสงคราม,2537) หน้า5
3
เรืองเดียวกัน หน้า 5
4 ่
สุพน บุญชูวงศ์. หลักการสอน. (กรุงเทพมหานคร : ฝายเอกสารตํารา สถาบันราชภัฎสวนดุสต,2539) หน้า 2
ิ ิ
5
อาภรณ์ ใจเทียง. หลักการสอน. (กรุงเทพมหานคร : สํานักพิมพ์โอเดียนสโตร์, 2537 )หน้า 13
6
อภิวนท์ ชาญวิชย. หลักการสอน.(ภาควิชาหลักสูตรและการสอน คณะครุศาสตร์ สถาบันราชภัฎพิบูลสงคราม,2540) หน้า3
ั ั
7
อาภรณ์ ใจเทียง. เรืองเดียวกัน,หน้า 13
8
อาภรณ์ ใจเทียง. เรืองเดียวกัน,หน้า 7
- 17. 9
ผูเ้ รียนได้รบ
ั
มีการเปลียนแปลง
ประสบการณ์หรือ เกิด พฤติกรรมทีถาวร
การฝึ กหัด การเรียนรู้
ภาพที 2.1 แสดงความหมายของการเรียนรู ้
จากความหมายของการเรียนรูทีกล่าวมาข้างต้น จึงพอสรุปได้วา “การเรียนเป็ นความ
้ ่
พยายามของบุค คลหรือผูเ้ รีย นที จะตอบสนองสิงแวดล้อม หรือ ประสบการณ์ทีได้จ นกระทังเกิ ด
กระบวนการเปลียนแปลงพฤติกรรมอย่างถาวร ซึงเรียกว่า การเรียนรู”้
2.2.2 ความหมายของการสอน
การสอนเป็ นกระบวนการทีสลับซับซ้อนมากกว่าการเป็ นเพียง “กิจกรรมหรือบทบาท
ของผูสอน” การเป็ นภาระกิจทีต้องใช้ศาสตร์และศิลป์ จึงจะก่อให้เกิดประสบการณ์และสิงแวดล้อมที
้
มีความหมายต่อการเปลียนแปลงพฤติกรรมของผูเ้ รียน
9
พจนานุ ก รมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ให้ความหมายของการสอนไว้ว่า
“เป็ นการบอกวิชาความรู ้ การแสดงให้เข้าใจโดยวิธีบอกหรือทําให้เห็นเป็ นตัวอย่าง เพือให้รดีรชว”
ู้ ู้ ั
10
พุท ธทาสภิ ก ขุ ได้ย ําให้เ ห็ น หน้า ที ของการสอนไว้ว่า “เป็ นการนํ า วิ ญญาณ ซึ ง
หมายถึง การนําทางให้ผเู้ รียนมีความรูทีตรงกับความจริงของธรรมชาติ เห็นความเปลียนแปลงของ
้
ธรรมชาติ เพือการดํารงชีวิตทีปราศจากทุกข์
คาร์เตอร์ วี.กู๊ด 11 ให้ความหมายของการสอนไว้ ประการ ดังนี
. การสอนในความหมายกว้าง ๆ คื อ การจัด สภาพการณ์ สถานการณ์ หรือจัด
กิจกรรมทีจะช่วยให้การเรียนรูของผูเ้ รียนดําเนิ นไปอย่างราบรืน ซึงรวมทังกิจกรรมทีจัดอย่างมี
้
ระเบียบ แบบแผนและกิจกรรมทีจัดขึนเพือให้เกิดการเรียนรูอย่างไม่มีพิธีรีตอง
้
. การสอนในความหมายแคบ คื อ การอบรม สังสอนผูเ้ รียนในสถานการศึ กษา
ทัวไป
ธีระ รุญเจริญ12 ให้ความหมายของการสอนไว้ว่า การสอนหมายถึงกระบวนการที
ผูสอนและผูเ้ รียนร่วมกันสร้างสิงแวดล้อมทางการเรียนรู ้ รวมทังการสร้างค่านิ ยม และความเชือ
้
ต่าง ๆ ในอันทีจะช่วยให้ผเู้ รียนบรรลุเปาหมายทีตังไว้
้
9
ราชบัณฑิตยสถาน. เรืองเดียวกัน, หน้า 784
10
สวัสดิ จิตต์จนะ.เรืองเดียวกัน, หน้า 7
11
กาญจนา บุญรมย์.หลักการสอน.(อุบลราชธานี : คณะครุศาสตร์ วิทยาลัยครูอุบลราชธานี,2536) หน้า 6
- 18. 10
อาภรณ์ ใจเทียง13 ให้ความหมายไว้ว่า การสอนคือกระบวนการปฏิสมพันธ์ระหว่าง
ั
ผูสอนกับผูเ้ รียน เพือทําให้ผูเ้ รียนเกิดการเปลียนแปลงพฤติกรรมตามจุดประสงค์ทีกําหนด ซึง
้
ต้องอาศัยทังศาสตร์และศิลป์ ของผูสอน ้
14
สุ พิ น บุ ญ ชูว งศ์ ให้ค วามหมายว่า การสอนเป็ นกระบวนการที ทํา หน้า ที เป็ น
เครืองมือช่วยให้คนได้มีประสบการณ์ทีดี มีการเปลียนแปลงในทางทีดีขน จนสามารถดํารงชีพได้
ึ
อย่างราบรืน เป็ นประโยชน์แก่ตนเองและส่วนรวม
สรุปแล้วการสอนคือ “กระบวนการทีผูสอนต้องใช้ความสามารถในการจัดประสบการณ์
้
หรือสร้างสิงแวดล้อม ให้ผเู้ รียนเกิดการเปลียนแปลงพฤติกรรมตามจุดประสงค์ทีกําหนด”
2.2.3 องค์ประกอบของการเรียนการสอน
การเรียนการสอนเป็ นกระบวนการของผูเ้ รียนและผูสอน ทีต้องเกียวข้องสัมพันธ์กัน
้
จึงต้องอาศัยองค์ประกอบหลายด้าน ซึงนักการศึกษาหลายท่านให้ทรรศนะไว้
สุพิน บุ ญชูว งศ์15 กล่าวถึ ง องค์ประกอบของการสอนไว้ ประการ ได้แก่ ครู
นักเรียนและสิงทีสอน สรุปได้ดงนี ั
. ครู เป็ นองค์ประกอบที ขาดไม่ ไ ด้ บุ ค ลิก ภาพและความสามารถของผูสอนที มี
้
อิทธิพลต่อการเรียนรูของผูเ้ รียน ผูสอนควรมีบุคลิกภาพทีดีและรูจกเลือกใช้วธีสอนทีเหมาะสมเพือ
้ ้ ้ั ิ
ส่งเสริมให้ผเู้ รียนประสบผลสําเร็จในการเรียนรู ้
. นั ก เรีย นหรือ ผูเรีย น เป็ นองค์ประกอบที สําคัญเท่ากับผูสอน ความสําเร็จ ใน
้ ้
การศึ กษาเป็ นเปาหมายทีสําคัญของผูเ้ รียน ผูสอนจึง ควรเป็ นผูแนะแนว แนะนํา และจัดมวล
้ ้ ้
ประสบการณ์ให้ผเู้ รียนเกิดการเรียนรูได้มากทีสุด
้
. สิงทีจะสอน ได้แก่ เนื อหาวิชาต่าง ๆ ครูจะต้องจัดเนื อหาให้มีความสัมพันธ์กัน
น่าสนใจ เหมาะสมกับวัย ระดับชนชันและสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ของการเรียนการสอน
ลําพอง บุญช่วย16 กล่าวถึงองค์ประกอบของการเรียนการสอนไว้ ประการพร้อมทัง
แสดงแผนภูมิประกอบไว้ดงนี ั
. ครูผสอน ู้
. ผูเ้ รียน
. หลักสูตร
. วิธีสอน
. วัตถุประสงค์ของการเรียน
. สือการสอน
12
ธีระ รุญเจริญ. การเรียนการสอนในระดับประถมศึกษา. (กรุงเทพมหานคร : ไทยวัฒนาพานิช,2525) หน้า 3
13
อาภรณ์ ใจเทียง. เรืองเดียวกัน,หน้า 2
14
สุพน บุญชูวงศ์. เรืองเดียวกัน,หน้า 3
ิ
15
เรืองเดียวกัน,หน้า 4
16
ลําพอง บุญช่วย. การสอนเชิ งระบบ. (ปทุมธานี: วิทยาลัยครูเพชรบุรวทยาลังกรณ์, 2530) หน้า 1
ีิ
- 19. 11
. การประเมินผล
ซึงองค์ประกอบเหล่านี จะสัมพันธ์เกียวข้องกัน ดังแสดงในแผนภูมิ
วิธีสอน
ครู วัตถุประสงค์
การฝึ กประเมิน หลักสู ตร
ผู้เรียน
สื อการสอน
ภาพที 2.2 แสดงความสัมพันธ์ระหว่างองค์ประกอบของการเรียนการสอน
อาภรณ์ ใจเทียง17 วิเคราะห์และแยกย่อยเป็ นองค์ประกอบของการเรียนการสอนเป็ น 2
ด้าน ได้แก่
. ด้านองค์ประกอบย่อย หมายถึง องค์ประกอบด้านโครงสร้างทีมาประกอบกันเป็ น
การสอน อันประกอบด้วย
. ครู หรือผูสอนหรือวิทยากร
้
. นักเรียน หรือผูเ้ รียน
. หลักสูตร หรือสิงทีจะสอน
. องค์ประกอบย่อย หมายถึง องค์ประกอบด้านรายละเอียดของการสอนซึงจะต้อง
ประกอบด้วยกระบวนการเหล่านี จึงจะเป็ นการสอนทีสมบูรณ์ ได้แก่
2.1 การตังจุดประสงค์การสอน
2.2 การกําหนดเนื อหา
2.3 การจัดกิจกรรมการเรียนการสอน
2.4 การใช้สือการสอน
2.5 การวัดผลและประเมินผล
ซึงองค์ประกอบของการเรีย นการสอนทังองค์ประกอบรวมและองค์ประกอบย่อ ยนั น
เมื อพิจ ารณาแล้ว จะเห็ น ว่า องค์ประกอบรวมเป็ นส่ว นสร้า งให้เ กิ ด การเรีย นการสอน ส่ว น
17
อาภรณ์ ใจเทียง. เรืองเดียวกัน,หน้า 6
- 20. 12
องค์ประกอบย่อยเป็ นส่วนเสริมให้การเรียนการสอนมีความสมบูรณ์ มีประสิทธิภาพและมีคุณค่า
แก่ผเู้ รียนมาก
นอกจากนัน กฤษณา ศักดิศรี18 ยังกล่าวถึงองค์ประกอบสําคัญของการเรียนการสอน
ทีเกียวกับผูเ้ รียนไว้อย่างชัดเจนว่า การเรียนการสอนจะบรรลุเปาหมาย ก็ตองอาศัยองค์ประกอบ
้ ้
จากผูเ้ รียน หรือองค์ประกอบของการเกิด “การเรียนรู”้ ซึงมีหลายประเด็น ดังนี
. แรงขับ (Drive) มี ประเภท คือ แรงขับปฐมภูมิ (Primary Drive) เช่น
ความหิวกระหาย แรงขับทุติยภูมิ (Secondary Drive) เป็ นเรืองของความต้องการทางจิตใจและ
สัง คม เช่น ความวิ ต กกัง วล ความต้อ งการความรัก ความปลอดภัย ฯลฯ แรงขับทังสอง
ประเภท มีผลให้เกิดปฏิกิริยา อันจะนําไปสูการเรียนรู ้
่
. สิ งเร้า (Stimulus) เป็ นตัว การทํ า ให้บุ ค คลมี ป ฏิ กิ ริ ย าโต้ต อบออกมาเป็ น
ตัวกําหนดพฤติกรรมว่าจะแสดงอาการตอบสนองออกมาในลักษณะใด สิงเร้าอาจเป็ นเหตุการณ์
หรือวัตถุ และอาจเกิดภายในหรือภายนอกร่างกายก็ได้ เช่น เสียงนาฬิกาปลุกเร้าให้ตืน กําหนดวัน
สอบเร้าให้เตรียมตัวสอบ
. อาการตอบสนอง (Response) คื อ พฤติ ก รรมที แสดงออกมาเมื อได้รับการ
กระตุนจากสิงเร้า หรือพูดว่า คือผลทางพฤติกรรมของสิงเร้า เป็ นการกระทําของร่างกายและอาจ
้
เป็ นได้ชดหรือไม่ชดก็ได้ ซึงมักจะเกิดตามหลังสิงเร้าเสมอ
ั ั
. สิงเสริมแรง (Reinforcement) คือสิงทีมาเพิมกําลังให้เกิดการเชือมโยงระหว่างสิง
เร้ากับอาการตอบสนอง เช่นรางวัล การทําโทษ ซึงมีผลต่อการเรียนรูมาก อาจแบ่งสิงเสริมแรงออก
้
ได้เป็ น ประเภท คือ
. สิงเสริมแรงปฐมภูมิ เป็ นสิงเสริมแรงทีเกิดขึนตามธรรมชาติและบําบัดความ
ต้องการ หรือลดแรงขับโดยตรง เช่น อาหารเป็ นสิงเสริมแรงแก่บุคคลทีกําลังหิว
. สิงเสริมแรงทุติยภูมิ เช่น เงิน ชือเสียง
เมือพิจารณาจากองค์ประกอบของการเกิดการเรียนรูขางต้น ยังสามารถกล่าวเพิมเติม
้้
เกียวกับองค์ประกอบทีจะช่วยให้เกิดการเรียนรูได้ดีอีก คือ
้
. วุฒิภาวะ (Readiness) หมายถึง ความเจริญเติบโตทางด้านร่างกาย สติปัญญา
อารมณ์และสังคมของผูเ้ รียน
. ความพร้อม (Readiness) หมายถึง ความพร้อมในวุฒิภาวะ หรือความสามารถใน
การรับประสบการณ์หรือสิงทีจะเรียนรู ้
. ความแตกต่างระหว่างบุคคล (Individual Differences) หมายถึง ความสามารถ
เฉพาะบุคคลซึงมีความแตกต่างกันไป
. การฝึ กหัด (Exercise) หมายถึง การทําซําๆ หลายๆ ครังเพือให้เกิดความชํานาญ
. ผลลัพธ์ (Effect) หมายถึง ผลย้อ นกลับที ผูเ้ รีย นทราบผลทางการเรีย น ผูสอน ้
ทราบผลความก้าวหน้า จะทําให้เกิดความพึงพอใจทุกฝ่ าย
18
กฤษณา ศักดิศรี. จิตวิทยาการศึกษา.(กรุงเทพมหานคร: บํารุงสาสน์,2530) หน้า 481