More Related Content
Similar to โครงการ โครงงานสำรวจและปฏิบัติการ การประหยัดพลังงาน โรงเรียนซับบอนวิทยาคม (20)
More from Weerachat Martluplao (20)
โครงการ โครงงานสำรวจและปฏิบัติการ การประหยัดพลังงาน โรงเรียนซับบอนวิทยาคม
- 1. แบบเสนอโครงการ
โรงเรียนซับบอนวิทยาคม ประจาปี งบประมาณ 2555
1. ชื่องาน/โครงการ โครงงานสารวจและปฏิบติการ การประหยัดพลังงาน โรงเรี ยนซับบอนวิทยาคม
ั
2. ลักษณะกิจกรรม
ลักษณะงาน/กิจกรรม ( ) ต่อเนื่อง ( / ) ใหม่
สนองมาตรฐาน การเรี ยนรู้
สาระที่ ๕ พลังงาน
มาตรฐาน ว ๕. ๑ เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างพลังงานกับการดารงชี วต การเปลี่ยนรู ปพลังงาน
ิ
ปฏิสัมพันธ์ระหว่างสารและพลังงาน ผลของการใช้พลังงานต่อชี วตและสิ่ งแวดล้อม มี
ิ
กระบวน การสื บเสาะหาความรู ้ สื่ อสารสิ่ งที่เรี ยนรู ้และนาความรู ้ ไปใช้ประโยชน์
สาระที่ ๘ ธรรมชาติของวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี
มาตรฐาน ว ๘. ๑ ใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์และจิตวิทยาศาสตร์ในการสื บเสาะหาความรู้
่
การแก้ปัญหา รู ้วาปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นส่ วนใหญ่มีรูปแบบที่แน่นอน
่
สามารถอธิ บายและตรวจสอบได้ ภายใต้ขอมูลและเครื่ องมือที่มีอยูในช่วงเวลานั้นๆ
้
เข้าใจว่า วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สังคม และสิ่ งแวดล้อมมีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กน
ั
สนองมาตรฐาน สพฐ.
มาตรฐาน ( / ) ด้านคุณภาพผูเ้ รี ยน มาตรฐานที่
มาตรฐาน ( / ) ด้านการเรี ยนการสอน มาตรฐานที่
มาตรฐาน ( / ) ด้านผูบริ หารและการจัดการศึกษา มาตรฐานที่
้
มาตรฐาน ( / ) ด้านพัฒนาชุมชนแห่งการเรี ยนรู ้ มาตรฐานที่
3. ความสาคัญ หลักการและเหตุผล
สภาพและปัญหาการความสิ้ นเปลืองงบประมาณของโรงเรี ยนซับบอนวิทยาคมซึ่ งเกิดจากหลาย
สาเหตุ จากค่าใช้จ่ายพลังงานไฟฟ้ าและน้ าประมาณเดือนละ 14,000 บาทต่อเดือน เพิ่มเป็ น 24000 บาทต่อ
เดือน ซึ่ งเพิ่มขึ้นมากกว่าปกติ จึงนาสภาพและปัญหาความสิ้ นเปลืองพลังงานนี้มาจัดทาโครงการ โครงงาน
สารวจและปฏิบติการ การประหยัดพลังงาน โรงเรี ยนซับบอนวิทยาคม ประกอบการเรี ยนการสอนวิชา
ั
วิทยาศาสตร์ ในรู ปแบบโครงงานสารวจและปฏิบติการ การประหยัดพลังงาน โรงเรี ยนซับบอนวิทยาคม
ั
- 2. 4. วัตถุประสงค์
1. เพื่อศึกษาสภาพปั ญหาความสิ้ นเปลืองพลังงานของโรงเรี ยนซับบอนวิทยาคม
2.เพื่อพัฒนาการเรี ยนการสอนโครงงานกลุ่มสาระการเรี ยนรู้วทยาศาสตร์ดวยวิธีการสื บเสาะ
ิ ้
3.เพื่อส่ งเสริ มการเรี ยนรู ้แก่นกเรี ยนให้ได้ท้ งความรู ้ ทักษะ กระบวนการและเจตคติ ทาง
ั ั
วิทยาศาสตร์
4.เพื่อนาผลของการศึกษามาใช้ในการแก้ไขปั ญหาความสิ้ นเปลืองพลังงานพลังงานของโรงเรี ยน
ซับบอนวิทยาคม โดยเน้นการมีส่วนร่ วมของนักเรี ยน ครู ผูบริ หารและบุคลากรในโรงเรี ยน
้
5.ส่ งเสริ มให้นกเรี ยนได้รวบรวม จัดเก็บและนาเสนอผลงานการศึกษาค้นคว้า โดยใช้ ICT
ั
5. เปาหมาย
้
5.1 ด้านปริ มาณ
1. นักเรี ยนทุกระดับชั้นได้รับการพัฒนาการเรี ยนรู ้ร้อยละ 100
2. สามารถลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานของโรงเรี ยนลงร้อยละ 20-30
3.สามารถปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ที่ขาดประสิ ทธิภาพได้ ร้อยละ 80
5.2 ด้านคุณภาพ
1. นักเรี ยนสื บเสาะสารวจสภาพและปั ญหา รวมถึงสาเหตุของความสิ้ นเปลืองพลังงานใน
โรงเรี ยน
2.นักเรี ยนสามารถวิเคราะห์ แยกแยะ สาเหตุของความสิ้ นเปลืองพลังงานในโรงเรี ยน
3.นักเรี ยนสามารถสังเคราะห์ขอมูลที่ได้สร้างองค์ความรู ้ใหม่ เสนอแนวทางการแก้ไขปั ญหา
้
ความสิ้ นเปลืองพลังงานในโรงเรี ยน โครงงานที่จดการเรี ยนการสอนสามารถนามาประยุกต์ใช้ได้จริ ง
ั
4.นักเรี ยนสามารถเผยแพร่ ความรู ้ของตนเองโดยใช้ส่ื อและเทคโนโลยีท่ีเหมาะสม
5.พลังงานในโรงเรี ยนถูกนามาใช้อย่างประหยัด คุมค่าและมีประสิ ทธิภาพ
้
- 3. 6. วิธีดาเนินการ
กิจกรรม ระยะเวลา งบประมาณ ผู้รับผิดชอบ
1. โครงงานสารวจและ ตลอดภาคเรี ยน 20,000 บาท ครู กลุ่มสาระการเรี ยนรู ้
ปฏิบติการ การประหยัด
ั วิทยาศาสตร์
พลังงาน โรงเรี ยนซับบอน
วิทยาคม
2. กิจกรรมนาเสนอผลงานการ
ค้นคว้า โดยนาเสนอ ด้วย คลิป
วีดีโอ นาเสนอหน้าเสาธง
นาเสนอด้วยระบบเสี ยงตามสาย
นาเสนอด้วยเว็บบล็อก นาเสนอ
และเผยแพร่ ดวย Facebook.com
้
นาเสนอและเผยแพร่ ดวย ้
Powerpoint นาเสนอและ
เผยแพร่ บอร์ ด
3. กิจกรรมลงมือปฏิบติ แก้ไข
ั
ปั ญหาความสิ้ นเปลืองพลังงาน
4. กิจกรรมตรวจเช็คเฝ้ าระวัง
7. งบประมาณ
งบประมาณทั้งหมด 20,000 บาท
8. ผู้รับผิดชอบโครงการ/ผู้เกี่ยวข้ อง
บทบาท/หน้าที่ รายละเอียดบทบาท ชื่อผูเ้ กี่ยวข้อง
ผูจดทาโครงการ
้ั 1. หัวหน้าโครงการ นายชานาญ คามี
2. รองหัวหน้าโครงการ นางจารัส เพชรภักดี
3. จัดทารายละเอียดโครงการ นายวีรชาติ มาตรหลุบเลา
4.ประสานงานโครงการ นางสาวนุจริ นทร์ เทพจันทร์
5.ประเมินโครงการ นายชนาธิ ปัตย์ เจริ ญศักดิ์
เจ้าหน้าที่พสดุ
ั 1. จัดซื้ อตามระเบียบของทาง นางสาวนิตยา ชาตินนท์ ั
ราชการ
เจ้าหน้าที่การเงิน 2. เบิกจ่ายงบประมาณ นางอาภาพร บุญเติม
- 4. 9. การติดตามประเมินผล
ตัวชี้วดความสาเร็ จ
ั เกณฑ์ความสาเร็ จ เครื่ องมือประเมิน
1. นักเรี ยนทุกระดับชั้นได้รับการ 100 แบบประเมินโครงการ/กิจกรรม
พัฒนาการเรี ยนรู้ร้อยละ 100
2. ครู กลุ่มสาระการเรี ยนรู้วทยาศาสตร์
ิ 100
สามารถพัฒนานักเรี ยนได้ร้อยละ 100
10. ประโยชน์ ทคาดว่าจะได้ รับ
ี่
1. ได้พฒนาการเรี ยนการสอนกลุ่มสาระการเรี ยนรู ้วทยาศาสตร์
ั ิ
2. ได้ส่งเสริ มการเรี ยนรู ้แก่นกเรี ยนให้ได้ท้ งความรู ้ ทักษะกระบวนการและเจตคติ
ั ั
3. ได้จดการเรี ยนการสอนโครงงานโดยใช้ดวยวิธีการสื บเสาะ
ั ้
4.สามารถนาผลการศึกษาโครงงานมาปฏิบติเพื่อลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานของโรงเรี ยน
ั
5.ได้แหล่งเรี ยนรู ้จากการศึกษาโครงงานและเผยแพร่ ผลการเรี ยนรู ้
11. มีโครงการอืนทีสัมพันธ์ กับโครงการนี้
่ ่
ลงชื่อ...............................................ผูเ้ สนอโครงการ
(นายวีรชาติ มาตรหลุบเลา)
ครู ผช่วย
ู้
ลงชื่อ..............................................ผูเ้ ห็นชอบ
(นายชานาญ คามี)
หัวหน้ากลุ่มสาระการเรี ยนรู้วชาวิทยาศาสตร์ ิ
ความเห็นรองผูอานวยการ ้
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
ลงชื่อ...........................................
(นายคาภาสน์ บุญเติม)
รองผูอานวยการโรงเรี ยนซับบอนวิทยาคม
้
............../......................./...................
- 6. สาระที่ ๕ พลังงาน
มาตรฐาน ว ๕. ๑ เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างพลังงานกับการดารงชี วต การเปลี่ยนรู ปพลังงาน
ิ
ปฏิสัมพันธ์ระหว่างสารและพลังงาน ผลของการใช้พลังงานต่อชี วตและสิ่ งแวดล้อม มี
ิ
กระบวน การสื บเสาะหาความรู ้ สื่ อสารสิ่ งที่เรี ยนรู ้และนาความรู ้ ไปใช้ประโยชน์
ชั้น ตัวชี้วด
ั สาระการเรี ยนรู้ แกนกลาง
ป. ๑ - -
ป.๒ ๑. ทดลองและอธิ บายได้ว่าไฟฟ้ า - ไฟฟ้ าจากเซลล์ ไ ฟฟ้ าหรื อแบตเตอรี่
เป็ นพลังงาน สามารถทางานได้ ไฟฟ้ าจึงเป็ นพลังงาน
๒. ส า ร ว จ แ ล ะ ย ก ตั ว อ ย่ า ง - พลังงานไฟฟ้ าเปลี่ ยนเป็ นพลังงานอื่ นได้
เครื่ องใช้ไฟฟ้ าในบ้านที่เปลี่ยน ซึ่งตรวจสอบได้จากเครื่ องใช้ไฟฟ้ าในบ้าน
พลังงานไฟฟ้ าเป็ นพลังงานอื่น เช่น พัดลม หม้อหุงข้าวไฟฟ้ า
ป.๓ ๑. บอกแหล่งพลังงานธรรมชาติที่ - การผลิ ต ไฟฟ้ าใช้ พ ลั ง งานจากแหล่ ง
ใช้ผลิตไฟฟ้ า พลังงานธรรมชาติ ซึ่ งบางแหล่งเป็ นแหล่ง
พลั ง งานที่ มี จ ากั ด เช่ น น้ ามั น แก๊ ส
ธรรมชาติ บางแหล่ งเป็ นแหล่ งพลังงานที่
หมุนเวียน เช่น น้ า ลม
๒. อ ธิ บ า ย ค ว า ม ส า คั ญ ข อ ง - พ ลั ง ง า น ไ ฟ ฟ้ า มี ค ว า ม ส า คั ญ ต่ อ
พลั ง ง า นไ ฟฟ้ าแ ล ะ เ ส น อ ชี วิตประจาวัน เช่ น เป็ นแหล่ งกาเนิ ดแสง
วิธี การใช้ไ ฟฟ้ าอย่า งประหยัด สว่าง จึงต้องใช้ไฟฟ้ าอย่างประหยัด เช่ น
และปลอดภัย ปิ ดไฟเมื่อไม่ใช้งาน รวมทั้งใช้ไฟฟ้ าอย่าง
ปลอดภัย เช่ น เลื อกใช้อุปกรณ์ ต่าง ๆ ที่ มี
มาตรฐาน
ป.๔ ๑. ทดลองและอธิบายการเคลื่อนที่ - แสงเคลื่ อนที่ จากแหล่ ง ก าเนิ ดทุ ก ทิ ศ ทาง
ของแสงจากแหล่งกาเนิ ด และเคลื่อนที่เป็ นแนวตรง
๒. ทดลองและอธิบายการสะท้อน - แสงตกกระทบวัตถุจะเกิดการสะท้อนของ
ของแสงที่ตกกระทบวัตถุ แสงโดยมีมุมตกกระทบเท่ากับมุมสะท้อน
๓. ทดลองและจาแนกวัตถุตาม - เมื่อแสงกระทบวัตถุต่างกัน จะผ่านวัตถุแต่
ลักษณะการมองเห็นจาก ละชนิ ดได้ ต่ า งกั น ท าให้ จ าแนกวั ต ถุ
แหล่งกาเนิดแสง ออกเป็ นตัวกลางโปร่ ง ใส ตัวกลางโปร่ ง
แสงและวัตถุทึบแสง
๔. ทดลองและอธิบายการหักเห - เมื่ อแสงเคลื่ อนที่ ผ่านตัวกลางที่ต่างชนิ ดกัน
- 7. ชั้น ตัวชี้วด
ั สาระการเรี ยนรู้ แกนกลาง
ของแสงเมื่อผ่านตัวกลาง ทิศทางการเคลื่อนที่ของแสงเปลี่ยน เรี ยกการ
โปร่ งใสสองชนิ ด หักเหของแสง
๕. ทดลองและอธิบายการเปลี่ยน - เซลล์สุริยะเป็ นอุปกรณ์ ที่เปลี่ ยนพลังงาน
แสงเป็ นพลังงานไฟฟ้ าและนา แสงเป็ นพลัง งานไฟฟ้ า อุ ป กรณ์ ไ ฟฟ้ า
ความรู้ไปใช้ประโยชน์ หลายชนิ ดมี เซลล์สุ ริยะเป็ นส่ วนประกอบ
เช่น เครื่ องคิดเลข
๖. ทดลองและอธิบายแสงขาว - แสงขาวผ่านปริ ซึมจะเกิ ดการกระจายของ
ประกอบด้วยแสงสี ต่าง ๆ และ แสงเป็ นแสงสี ต่ า ง ๆ น าไปใช้ อ ธิ บ าย
นาความรู้ไปใช้ประโยชน์ ปรากฏการณ์ธรรมชาติ เช่น การเกิดสี รุ้ง
ป.๕ ๑. ทดลองและอธิ บายการเกิดเสี ยง - เสี ยงเกิ ดจากการสั่นของแหล่งกาเนิ ดเสี ยง
และการเคลื่อนที่ของเสี ยง และเสี ยงเคลื่อนที่จากแหล่งกาเนิ ดเสี ยงทุก
ทิศทางโดยอาศัยตัวกลาง
๒. ทดลองและอธิ บายการเกิดเสี ยง - แหล่งกาเนิ ดเสี ยงสั่นด้วยความถี่ ต่ าจะเกิ ด
สู ง เสี ยงต่า เสี ยงต่า แต่ถาสั่นด้วยความถี่สูงจะเกิดเสี ยง
้
สู ง
๓. ทดลองและอธิบายเสี ยงดัง - แหล่ งกาเนิ ดเสี ยงสั่นด้วยพลังงานมากจะ
เสี ยงค่อย ทาให้เกิ ดเสี ยงดัง แต่ถาแหล่งกาเนิ ดเสี ยง
้
สั่นด้วยพลังงานน้อยจะเกิดเสี ยงค่อย
๔. สารวจและอภิปรายอันตรายที่ - เสี ยงดังมาก ๆ จะเป็ นอันตรายต่อการได้ยิน
เกิดขึ้นเมื่อฟังเสี ยงดังมาก ๆ และเสี ยงที่ ก่ อให้ เกิ ดความร าคาญ เรี ยกว่ า
มลพิษทางเสี ยง
ป.๖ ๑. ทดลองและอธิ บายการต่อ - ว ง จ ร ไ ฟ ฟ้ า อ ย่ า ง ง่ า ย ป ร ะ ก อ บ ด้ ว ย
วงจรไฟฟ้ าอย่างง่าย แหล่งกาเนิดไฟฟ้ า อุปกรณ์ไฟฟ้ า
๒. ทดลองและอธิ บายตัวนาไฟฟ้ า - วัสดุท่ีกระแสไฟฟ้ าผ่านได้เป็ นตัวนาไฟฟ้ า
และฉนวนไฟฟ้ า ถ้ากระแสไฟฟ้ าผ่านไม่ได้เป็ นฉนวนไฟฟ้ า
๓. ทดลองและอธิบายการต่อ - เซลล์ ไ ฟฟ้ าหลายเซลล์ ต่ อ เรี ย งกัน โดย
เซลล์ไฟฟ้ าแบบอนุกรม และ ขั้วบวกของเซลล์ไฟฟ้ าเซลล์หนึ่ งต่อกับขั้ว
นาความรู้ไปใช้ประโยชน์ ลบของอี ก เซลล์ ห นึ่ งเป็ นการต่ อ แบบ
อนุ กรม ทาให้มีกระแสไฟฟ้ าผ่านอุปกรณ์
ไฟฟ้ าในวงจรเพิ่มขึ้น
- 8. ชั้น ตัวชี้วด
ั สาระการเรี ยนรู้ แกนกลาง
- การต่ อ เซลล์ ไ ฟฟ้ าแบบอนุ ก รมสามารถ
นาไปใช้ประโยชน์ในชี วิตประจาวัน เช่ น
การต่อเซลล์ไฟฟ้ าในไฟฉาย
๔. ทดลองและอธิ บายการต่อ - การต่ อ หลอดไฟฟ้ าแบบอนุ ก รม จะมี
หลอดไฟฟ้ าทั้งแบบอนุกรม กระแสไฟฟ้ าปริ มาณเดี ย วกันผ่ า นหลอด
แบบขนาน และนาความรู้ไป ไฟฟ้ าแต่ละหลอด
ใช้ประโยชน์ - การต่อหลอดไฟฟ้ าแบบขนาน
กระแสไฟฟ้ าจะแยกผ่านหลอดไฟฟ้ าแต่ละ
หลอด สามารถนาไปใช้ประโยชน์ เช่น
การต่อหลอดไฟฟ้ าหลายดวงในบ้าน
๕. ทดลองและอธิ บายการเกิด - สายไฟที่มีกระแสไฟฟ้ าผ่านจะเกิดสนามแม่เหล็ก
สนามแม่เหล็กรอบสายไฟที่มี รอบสายไฟ สามารถนาไปใช้ประโยชน์
กระแสไฟฟ้ าผ่าน และนา เช่น การทาแม่เหล็กไฟฟ้ า
ความรู้ไปใช้ประโยชน์
ม. ๑ ๑. ทดลองและอธิบายอุณหภูมิและ - การวัดอุณหภูมิเป็ นการวัดระดับความร้อน
การวัดอุณหภูมิ ของสาร สามารถวัดด้วยเทอร์มอมิเตอร์
๒. สังเกตและอธิ บายการถ่ายโอน - การถ่ายโอนความร้ อนมีสามวิธี คือ การนา
ความร้อน และนาความรู้ไปใช้ ความร้อน การพาความร้อนและการแผ่รังสี
ประโยชน์ ความร้อน
- การน าความร้ อ น เป็ นการถ่ า ยโอนความ
ร้อนโดยการสั่นของโมเลกุล
- การพาความร้ อ น เป็ นการถ่ า ยโอนความ
ร้อนโดยโมเลกุลของสารเคลื่อนที่ไปด้วย
- การแผ่ รั ง สี ค วามร้ อ น เป็ นการถ่ า ยโอน
ความร้อนจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ า
- การนาความรู ้เรื่ องการถ่ายโอนความร้อนไป
ใช้ประโยชน์
๓. อธิบายการดูดกลืน การคาย - วัต ถุ ที่ แ ตกต่ า งกัน มี ส มบัติ ใ นการดู ดกลื น
ความร้อน โดยการแผ่รังสี และ ความร้อนและคายความร้อนได้ต่างกัน
นาความรู้ไปใช้ประโยชน์ - การนาความรู้เรื่ องการดูดกลืนความร้อน
และการคายความร้อนไปใช้ประโยชน์
- 9. ชั้น ตัวชี้วด
ั สาระการเรี ยนรู้ แกนกลาง
๔. อธิบายสมดุลความร้อนและผล ่
- เมื่อวัตถุ สองสิ่ งอยูในสมดุ ลความร้ อน วัตถุ
ของความร้อนต่อการขยายตัว ทั้งสองมีอุณหภูมิเท่ากัน
ของสาร และนาความรู้ไปใช้ - การขยายตัวของวัตถุเป็ นผลจากความร้อนที่
ในชีวตประจาวัน
ิ วัตถุได้รับเพิ่มขึ้น
- การนาความรู้เรื่ องการขยายตัวของวัตถุเมื่อ
ได้รับความร้อนไปใช้ประโยชน์
ม.๒ ๑. ทดลองและอธิ บายการสะท้อน - เมื่อแสงตกกระทบผิววัตถุหรื อตัวกลางอีก
ของแสง การหั ก เหของแสง ตัว กลางหนึ่ ง แสงจะเปลี่ ย นทิ ศ ทางการ
และนาความรู้ไปใช้ประโยชน์ เคลื่อนที่โดยการสะท้อนของแสง หรื อการ
หักเหของแสง
- การนาความรู ้ เกี่ ยวกับการสะท้อนของแสง
และการหักเหของแสงไปใช้อธิ บายแว่นตา
ทัศนอุปกรณ์ กระจก เส้นใยนาแสง
๒. อธิ บายผลของความสว่างที่มีต่อ - นัย น์ ตาของคนเราเป็ นอวัย วะใช้ม องดู สิ่ ง
มนุษย์และสิ่ งมีชีวตอื่น ๆ
ิ ต่างๆ นัยน์ตามีองค์ประกอบสาคัญหลายอย่าง
- ความสว่า งมี ผ ลต่ อนัย น์ตามนุ ษย์ จึ ง มี ก าร
นาความรู ้ เกี่ยวกับความสว่างมาช่ วยในการ
จัดความสว่างให้เหมาะสมกับการทางาน
- ออกแบบวิธีการตรวจสอบว่าความสว่างมี
ผลต่อสิ่ งมีชีวตอื่น
ิ
๓. ทดลองและอธิ บายการดูดกลืน - เมื่อแสงตกกระทบวัตถุ วัตถุจะดูดกลืนแสง
แสงสี การมองเห็นสี ของวัตถุ สี บางสี ไว้ และสะท้อนแสงสี ที่เหลือออกมา
และนาความรู้ไปใช้ประโยชน์ ทาให้เรามองเห็นวัตถุเป็ นสี ต่าง ๆ
- การนาความรู ้เกี่ยวกับการดูดกลืนแสงสี การ
มองเห็นสี ของวัตถุไปใช้ประโยชน์ในการ
ถ่ายรู ปและในการแสดง
ม.๓ ๑. อธิ บายงาน พลังงานจลน์ พลังงาน - การให้งานแก่วตถุเป็ นการถ่ายโอนพลังงาน
ั
ศัก ย์โ น้ม ถ่ วง กฎการอนุ รั ก ษ์ ให้ ว ัต ถุ พลั ง งานนี้ เป็ นพลั ง งานกลซึ่ ง
พลัง งาน และความสั ม พัน ธ์ ประกอบด้วยพลังงานศักย์และพลังงานจลน์
ระหว่างปริ มาณเหล่านี้ รวมทั้ง พลังงานจลน์เป็ นพลังงานของวัตถุขณะวัตถุ
- 10. ชั้น ตัวชี้วด
ั สาระการเรี ยนรู้ แกนกลาง
นาความรู้ไปใช้ประโยชน์ เคลื่อนที่ ส่ วนพลังงานศักย์โน้มถ่วงของวัตถุ
่
เป็ นพลังงานของวัตถุที่อยูสูงจากพื้นโลก
- กฎการอนุรักษ์พลังงานกล่าวว่า พลังงานรวม
ของวัตถุ ไม่สูญหาย แต่สามารถเปลี่ ยนจาก
รู ปหนึ่งไปเป็ นอีกรู ปหนึ่งได้
- การนากฎการอนุ รักษ์พลังงานไปใช้ประโยชน์
ในการอธิ บายปรากฏการณ์ เช่ น พลังงานน้ า
เหนื อเขื่อนเปลี่ ยนรู ปจากพลังงานศักย์โน้มถ่ วง
เป็ นพลังงานจลน์, ปั้ นจันตอกเสาเข็ม
่
๒. ทดลองและอธิ บ ายความสั ม พัน ธ์ - ความต่างศักย์ กระแสไฟฟ้ าและความต้านทาน
ระหว่ างความต่ างศักย์ กระแสไฟฟ้ า ั
มีความสัมพันธ์กนตามกฎของโอห์ม
ความต้านทาน และนาความรู้ ไป - การนากฎของโอห์มไปใช้วิเคราะห์วงจรไฟฟ้ า
ใช้ประโยชน์ อย่างง่าย
๓. ค านวณพลั ง งานไฟฟ้ าของ - การค านวณพลัง งานไฟฟ้ าของเครื่ อ งใช้ไ ฟฟ้ า
เครื่ องใช้ไ ฟฟ้ า และนาความรู้ เป็ นส่ วนหนึ่ ง ของการคิ ดค่ า ไฟฟ้ าและเป็ น
ไปใช้ประโยชน์ แนวทางในการประหยัดพลังงานไฟฟ้ าในบ้าน
๔. สั ง เกตและอภิ ป รายการต่ อ - การต่อวงจรไฟฟ้ าในบ้านต้องออกแบบวงจร ติดตั้ง
วงจรไฟฟ้ าในบ้านอย่างถูกต้อง เครื่ องใช้ไฟฟ้ า อุ ปกรณ์ ไฟฟ้ าอย่างถู กต้อง โดย
ปลอดภัย และประหยัด การต่อสวิตช์แบบอนุ กรม ต่อเต้ารั บแบบขนาน
และเพื่อความปลอดภัยต้องต่อสายดิ นและฟิ วส์
รวมทั้งต้องคานึงถึงการใช้ไฟฟ้ าอย่างประหยัด
๕. อธิ บายตั ว ต้ า นทาน ไดโอด - ชิ้ นส่ วนอิเล็กทรอนิ กส์ เช่ น ตัวต้านทาน ไดโอด
ทรานซิ ส เตอร์ และทดลองต่ อ ทรานซิ สเตอร์ มี สมบั ติ ทางไฟฟ้ าแตกต่ างกั น
วงจรอิเล็กทรอนิกส์ เบื้องต้นที่มี ตัวต้านทานทาหน้าที่ จากัดกระแสไฟฟ้ าในวงจร
ทรานซิสเตอร์ ไดโอดมี สมบัติให้กระแสไฟฟ้ าผ่านได้ทิ ศทาง
เดี ยวและทรานซิ สเตอร์ ทาหน้าที่เป็ นสวิตซ์ปิด-
เปิ ดวงจร
- การประกอบวงจรอิ เล็ กทรอนิ กส์ เบื้ องต้นที่ มี
ทรานซิสเตอร์ ๑ ตัวทาหน้าที่เป็ นสวิตซ์
ม.๔-ม.๖ ๑. ทดลองและอธิ บายสมบัติของคลื่นกล - คลื่นกลมีสมบัติ การสะท้อน การหักเห การแทรก
และอธิ บ ายความสั มพันธ์ ระหว่าง สอด และการเลี้ยวเบน
- 11. ชั้น ตัวชี้วด
ั สาระการเรี ยนรู้ แกนกลาง
อัตราเร็ ว ความถี่และความยาวคลื่น - อัตราเร็ ว ความถี่และความยาวคลื่นมี
ั
ความสัมพันธ์กนดังนี้
อัตราเร็ ว = ความถี่ ความยาวคลื่น
๒. อธิ บ ายการเกิ ดคลื่ น เสี ย งบี ต ส์ - คลื่ นเสี ยงเกิ ดจากการสั่นของแหล่งกาเนิ ด
ของเสี ยง ความเข้ม เสี ยง เสี ยง
ระดับความเข้มเสี ยง การได้ยิน - บี ต ส์ ข องเสี ยงเกิ ด จากคลื่ น เสี ยงจาก
เสี ยง คุ ณ ภาพเสี ยง และน า แหล่ ง กาเนิ ดสองแหล่ งที่ มีความถี่ ต่างกัน
ความรู้ไปใช้ประโยชน์ เล็ ก น้อ ย มารวมกัน ท าให้ ไ ด้ยิ นเสี ย งดัง
ค่อยเป็ นจังหวะ
- ความเข้ม เสี ย ง คื อ พลัง งานเสี ย งที่ ตกตั้ง
ฉากบนหนึ่งหน่วยพื้นที่ในหนึ่งหน่วยเวลา
- ระดับ ความเข้ม เสี ย งจะบอกความดัง ค่ อ ย
ของเสี ยงที่ได้ยน ิ
- เครื่ องดนตรี แต่ ล ะชนิ ดที่ ใ ช้ ต ั ว โน้ ต
เดี ย วกั น จะให้ รู ปคลื่ น ที่ แ ตกต่ า งกั น
เรี ยกว่ามีคุณภาพเสี ยงต่างกัน
๓. อภิ ป รายผลการสื บ ค้น ข้อ มู ล - มลพิษทางเสี ยงมีผลต่อสุ ขภาพของมนุ ษย์
เกี่ ยวกับมลพิษทางเสี ยงที่ มีต่อ ถ้าฟั งเสี ยงที่มีระดับความเข้มเสี ยงสู งกว่า
สุ ขภาพของมนุ ษ ย์ และการ มาตรฐานเป็ นเวลานาน อาจก่ อ ให้ เ กิ ด
เสนอวิธีป้องกัน อันตรายต่อการได้ยินและสภาพจิ ตใจได้
การป้ องกันโดยการหลีกเลี่ยงหรื อใช้เครื่ อง
ครอบหู ห รื อลดการสั่ นของแหล่ ง ก าเนิ ด
เสี ยง เช่น เครื่ องจักร
๔. อธิ บ ายคลื่ น แม่ เ หล็ ก ไฟฟ้ า - คลื่ นแม่ เหล็กไฟฟ้ าประกอบด้วยสนามแม่ เหล็ก
สเปกตรั ม คลื่ นแม่ เหล็ ก ไฟฟ้ า และสนามไฟฟ้ าที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
และน าเสนอผลการสื บค้ น สเปกตรั ม คลื่ น แม่ เ หล็ ก ไฟฟ้ ามี ค วามถี่
ข้อมู ล เกี่ ย วกับ ประโยชน์ และ ต่ อเนื่ องกัน โดยคลื่ น แม่ เ หล็ ก ไฟฟ้ าช่ ว ง
การป้ องกัน อัน ตรายจากคลื่ น ความถี่ ต่ า งๆ มี ล ั ก ษณะเฉพาะตั ว ซึ่ ง
แม่เหล็กไฟฟ้ า สามารถนาไปใช้ประโยชน์ได้แตกต่างกัน
เช่ น การรับส่ งวิทยุ โทรทัศน์ การป้ องกัน
- 12. ชั้น ตัวชี้วด
ั สาระการเรี ยนรู้ แกนกลาง
อันตรายจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ า เช่น ไม่อยู่
ใกล้เตาไมโครเวฟขณะเตาทางาน
๕. อธิ บ ายปฏิ กิ ริย านิ ว เคลี ย ร์ ฟิ ช - ปฏิ กิ ริ ยานิ ว เคลี ย ร์ เ ป็ นปฏิ กิ ริ ยาที่ ท าให้
ชัน ฟิ วชัน และความสัม พัน ธ์ นิ วเคลี ยสเกิ ดการเปลี่ ยนแปลง ปฏิ กิริยาที่
ระหว่างมวลกับพลังงาน นิ วเคลียสของธาตุที่มีเลขมวลมากแตกตัว
เรี ยกว่ า ฟิ ชชั น ปฏิ กิ ริ ยาที่ เ กิ ด จากการ
หลอมรวมนิ วเคลี ย สของธาตุ ที่มีเลขมวล
น้อย เรี ยกว่า ฟิ วชัน ความสัมพันธ์ระหว่าง
มวลและพลั ง งานเป็ นไปตามสมการ
E mc2
๖. สื บค้นข้อมูลเกี่ยวกับพลังงานที่ - ปฏิ กิริยานิ วเคลี ยร์ ทาให้เกิ ดผลกระทบต่อ
ได้จ ากปฏิ กิ ริย านิ ว เคลี ย ร์ และ สิ่ งมีชีวตและสิ่ งแวดล้อม
ิ
ผ ล ต่ อ สิ่ ง มี ชี วิ ต แ ล ะ
สิ่ งแวดล้อม
๗. อภิ ป รายผลการสื บ ค้น ข้อ มู ล - โรงไฟฟ้ านิ วเคลียร์ เป็ นโรงไฟฟ้ าพลังงาน
เกี่ ย วกั บ โรงไฟฟ้ านิ ว เคลี ย ร์ ความร้ อ นประเภทหนึ่ ง ซึ่ งได้พ ลัง งาน
และนาไปใช้ประโยชน์ ความร้อนจากพลังงานนิวเคลียร์
๘. อธิบายชนิดและสมบัติของรังสี - รั ง สี จ ากธาตุ ก ัม มัน ตรั ง สี มี ๓ ชนิ ด คื อ
ั
จากธาตุกมมันตรังสี แอลฟา บีตาและแกมมา ซึ่ งมีอานาจทะลุ
ผ่านต่างกัน
๙. อธิ บายการเกิดกัมมันตภาพรังสี - กั ม มั น ตภาพรั ง สี เกิ ด จากการสลายของ
และบอกวิธีการตรวจสอบรังสี ไอโซโทปของธาตุ ที่ ไ ม่ เ สถี ย ร สามารถ
ใ น สิ่ ง แ ว ด ล้ อ ม ก า ร ใ ช้ ตรวจจั บ ได้ โ ดยเครื่ องตรวจวัด รั ง สี ใน
ป ร ะ โ ย ช น์ ผ ล ก ร ะ ท บ ต่ อ ธรรมชาติมีรังสี แต่ส่วนใหญ่อยูในระดับต่า
่
สิ่ งมีชีวตและสิ่ งแวดล้อม
ิ มาก
- รั ง สี มี ป ระโยชน์ ใ นด้ า นอุ ต สาหกรรม
การเกษตร การแพทย์ โบราณคดี รั งสี ใน
ระดับสู งมีอนตรายต่อสิ่ งมีชีวต
ั ิ
- 13. สาระที่ ๘ ธรรมชาติของวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี
มาตรฐาน ว ๘. ๑ ใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์และจิตวิทยาศาสตร์ในการสื บเสาะหาความรู้ การ
่
แก้ปัญหา รู ้วาปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นส่ วนใหญ่มีรูปแบบที่แน่นอน สามารถ
่
อธิ บายและตรวจสอบได้ ภายใต้ขอมูลและเครื่ องมือที่มีอยูในช่วงเวลานั้นๆ เข้าใจว่า
้
วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สังคม และสิ่ งแวดล้อมมีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กน
ั
ชั้น ตัวชี้วด
ั สาระการเรี ยนรู้ แกนกลาง
ป. ๑ ๑. ตั้งคาถามเกี่ยวกับเรื่ องที่จะ -
ศึกษาตามที่กาหนดให้หรื อ
ตาม ความสนใจ
๒. วางแผนการสังเกต สารวจ -
ตรวจสอบ ศึกษาค้นคว้า โดย
ใช้ความคิดของตนเองและ
ของครู
๓. ใช้วสดุอุปกรณ์ในการสารวจ
ั -
ตรวจสอบ และบันทึกผลด้วย
วิธีง่ายๆ
๔. จัดกลุ่มข้อมูลที่ได้จากการ -
สารวจตรวจสอบและนาเสนอผล
๕. แสดงความคิดเห็นในการ -
สารวจ ตรวจสอบ
๖. บันทึกและอธิบายผลการ -
สังเกต สารวจตรวจสอบ โดย
เขียนภาพหรื อข้อความสั้นๆ
๗. นาเสนอผลงานด้วยวาจาให้ -
ผูอื่นเข้าใจ
้
ป.๒ ๑. ตั้งคาถามเกี่ยวกับเรื่ องที่จะ -
ศึกษา ตามที่กาหนดให้และ
ตามความสนใจ
๒. วางแผนการสังเกต สารวจ -
ตรวจสอบ ศึกษาค้นคว้า โดย
- 14. ชั้น ตัวชี้วด
ั สาระการเรี ยนรู้ แกนกลาง
ใช้ความคิดของตนเองของ
กลุ่มและของครู
๓. ใช้วสดุอุปกรณ์ เครื่ องมือที่
ั -
เหมาะสมในการสารวจ
ตรวจสอบ และบันทึกข้อมูล
๔. จัดกลุ่มข้อมูล เปรี ยบเทียบ -
และนาเสนอผล
๕. ตั้งคาถามใหม่จากผลการ -
สารวจตรวจสอบ
๖. แสดงความคิดเห็นเป็ นกลุ่ม -
และรวบรวมเป็ นความรู้
๗. บันทึกและอธิบายผลการ -
สังเกต สารวจ ตรวจสอบ
อย่างตรงไปตรงมา โดยเขียน
ภาพ แผนภาพหรื อคาอธิบาย
๘. นาเสนอผลงานด้วยวาจาให้ -
ผูอื่น เข้าใจกระบวนการและ
้
ผลของงาน
ป.๓ ๑. ตั้งคาถามเกี่ยวกับเรื่ องที่จะ -
ศึกษา ตามที่กาหนดให้และ
ตามความสนใจ
๒. วางแผนการสังเกต เสนอวิธี -
สารวจตรวจสอบ ศึกษา
ค้นคว้า โดยใช้ความคิดของ
ตนเอง ของกลุ่มและ
คาดการณ์สิ่งที่จะพบจากการ
สารวจ ตรวจสอบ
๓. เลือกใช้วสดุอุปกรณ์
ั -
เครื่ องมือที่เหมาะสมในการ
สารวจตรวจสอบ และบันทึก
- 15. ชั้น ตัวชี้วด
ั สาระการเรี ยนรู้ แกนกลาง
ข้อมูล
๔. จัดกลุ่มข้อมูล เปรี ยบเทียบกับ -
สิ่ งที่คาดการณ์ไว้และ
นาเสนอผล
๕. ตั้งคาถามใหม่จากผลการ -
สารวจตรวจสอบ
๖. แสดงความคิดเห็นและ -
รวบรวมข้อมูลจากกลุ่ม
นาไปสู่ การสร้างความรู ้
๗. บันทึกและ อธิบายผลการ -
สังเกต สารวจตรวจสอบตาม
ความเป็ นจริ ง มีแผนภาพ
ประกอบคาอธิบาย
๘. นาเสนอ จัดแสดงผลงาน โดย -
อธิบายด้วยวาจา และเขียน
แสดงกระบวนการและผล
ของงานให้ ผูอื่นเข้าใจ
้
ป.๔ ๑. ตั้ง ค าถามเกี่ ย วกั บ ประเด็ น -
หรื อเรื่ อง หรื อสถานการณ์ ที่
จะศึกษา ตามที่กาหนดให้และ
ตามความสนใจ
๒. วางแผนการสัง เกต เสนอวิธี -
สารวจตรวจสอบ หรื อศึก ษา
ค้นคว้า และคาดการณ์สิ่งที่จะ
พบจากการสารวจตรวจสอบ
๓. เลื อ กอุ ป กรณ์ ที่ ถู ก ต้อ ง -
เหมาะสมในการสารวจ
ตรวจสอบ
๔. บัน ทึ ก ข้อ มู ล ในเชิ ง ปริ ม าณ -
นาเสนอ ผลสรุ ปผล
- 16. ชั้น ตัวชี้วด
ั สาระการเรี ยนรู้ แกนกลาง
๕. สร้ างค าถามใหม่ เ พื่ อ การ -
สารวจตรวจสอบ ต่อไป
๖. แสดงความคิ ดเห็ น และสรุ ป -
สิ่ งที่ได้ เรี ยนรู้
๗. บั น ทึ ก และอธิ บายผลการ -
ส า ร ว จ ต ร ว จ ส อ บ อ ย่ า ง
ตรงไปตรงมา
๘. นาเสนอ จัดแสดงผลงาน โดย -
อธิ บ ายด้ว ยวาจา หรื อเขี ย น
อธิบายกระบวนการและผลของ
งานให้ผอื่นเข้าใจ
ู้
ป.๕ ๑. ตั้งคาถาม เกี่ ยวกับประเด็น -
หรื อเรื่ อง หรื อสถานการณ์ ที่
จะศึกษา ตามที่กาหนดให้และ
ตามความสนใจ
๒. วางแผนการสังเกต เสนอการ -
สารวจตรวจสอบ หรื อศึก ษา
ค้นคว้า และคาดการณ์สิ่งที่จะ
พบจากการสารวจตรวจสอบ
๓. เลือกอุปกรณ์ที่ถูกต้องเหมาะสม -
ในการสารวจ ตรวจสอบให้
ได้ขอมูลที่เชื่อถือได้
้
๔. บัน ทึ ก ข้อ มู ล ในเชิ ง ปริ ม าณ -
และคุ ณ ภาพ และตรวจสอบผล
กับสิ่ งที่คาดการณ์ไว้ นาเสนอ
ผลและข้อสรุ ป
๕. สร้ างค าถามใหม่ เ พื่ อ การ -
สารวจตรวจสอบต่อไป
๖. แสดงความคิดเห็นอย่างอิสระ -
อธิ บาย แล ะส รุ ปสิ่ งที่ ได้
- 17. ชั้น ตัวชี้วด
ั สาระการเรี ยนรู้ แกนกลาง
เรี ยนรู้
๗. บันทึกและอธิบายผลการสารวจ -
ตรวจสอบตามความเป็ นจริ ง มี
การอ้างอิง
๘. น าเสนอ จัด แสดง ผลงาน -
โดยอธิ บ ายด้ ว ยวาจา หรื อ
เขียนอธิ บายแสดงระบวนการ
และผลของงานให้ผอื่นเข้าใจ
ู้
ป.๖ ๑. ตั้ง ค าถามเกี่ ย วกั บ ประเด็ น -
หรื อเรื่ อง หรื อสถานการณ์ ที่
จะศึกษา ตามที่กาหนดให้และ
ตามความสนใจ
๒. วางแผนการสังเกต เสนอการ -
สารวจตรวจสอบ หรื อศึก ษา
ค้น คว้า คาดการณ์ สิ่ ง ที่ จ ะ
พบจากการสารวจตรวจสอบ
๓. เลื อ กอุ ป กรณ์ และวิ ธี ก าร -
ส ารวจตรวจสอบที่ ถู ก ต้อ ง
เ ห ม า ะ ส ม ใ ห้ ไ ด้ ผ ล ที่
ครอบคลุมและเชื่อถือได้
๔. บัน ทึ ก ข้อ มู ล ในเชิ ง ปริ ม าณ -
และคุ ณ ภาพ วิเ คราะห์ และ
ต ร ว จ ส อ บ ผ ล กั บ สิ่ ง ที่
คาดการณ์ไว้ นาเสนอผลและ
ข้อสรุ ป
๕. สร้ างค าถามใหม่ เ พื่ อ การ -
สารวจ ตรวจสอบต่อไป
๖. แสดงความคิดเห็นอย่างอิสระ -
อธิ บาย ลงความเห็นและสรุ ป
สิ่ งที่ได้เรี ยนรู ้
- 18. ชั้น ตัวชี้วด
ั สาระการเรี ยนรู้ แกนกลาง
๘. บันทึกและอธิบายผลการสารวจ -
ตรวจสอบตามความเป็ นจริ ง มี
เหตุ ผ ล และมี ป ระจัก ษ์ พ ยาน
อ้างอิง
๘. นาเสนอ จัดแสดงผลงาน โดย -
อธิ บ ายด้ว ยวาจา และเขี ย น
รายงานแสดงกระบวนการ
และผลของงานให้ผอื่นเข้าใจู้
ม. ๑-ม.๓ ๑. ตั้ง ค าถามที่ ก าหนดประเด็ น -
หรื อตัว แปรที่ ส าคัญ ในการ
สารวจตรวจสอบ หรื อศึก ษา
ค้น คว้า เรื่ อ งที่ ส นใจได้อ ย่า ง
ครอบคลุมและเชื่อถือได้
๒. สร้ า งสมมติ ฐ านที่ ส ามารถ -
ตรวจสอบได้และวางแผนการ
สารวจตรวจสอบหลาย ๆ วิธี
๓. เลื อ กเทคนิ ค วิ ธี ก ารส ารวจ -
ตรวจสอบทั้งเชิ งปริ มาณและ
เชิ ง คุ ณภาพที่ ไ ด้ผลเที่ ย งตรง
และปลอดภัย โดยใช้วสดุและ ั
เครื่ องมือที่เหมาะสม
๔. รวบรวมข้อมูล จัดกระทาข้อมูล -
เชิงปริ มาณและคุณภาพ
๕. วิเ คราะห์ แ ละประเมิ น ความ -
สอดคล้องของประจักษ์พยาน
กับ ข้ อ สรุ ป ทั้ง ที่ ส นั บ สนุ น
หรื อขั ด แย้ ง กั บ สมมติ ฐ าน
และความผิดปกติ ข องข้อมู ล
จากการสารวจตรวจสอบ
๖. สร้างแบบจาลอง หรื อรู ปแบบ -
- 19. ชั้น ตัวชี้วดั สาระการเรี ยนรู้ แกนกลาง
ที่อธิ บายผลหรื อแสดงผลของ
การสารวจตรวจสอบ
๗. สร้ า งค าถามที่ น าไปสู่ การ -
ส ารวจตรวจสอบ ในเรื่ องที่
เกี่ ยวข้อง และนาความรู ้ ท่ี ไ ด้
ไปใช้ในสถานการณ์ใหม่หรื อ
อ ธิ บ า ย เ กี่ ย ว กั บ แ น ว คิ ด
กระบวนการ และผลของโครงงาน
หรื อชิ้นงานให้ผอื่นเข้าใจ
ู้
๘. บั น ทึ ก และอธิ บายผลการ -
สังเกต การสารวจ ตรวจสอบ
ค้ น คว้ า เพิ่ ม เติ ม จากแหล่ ง
ความรู ้ ต่ า ง ๆ ให้ ไ ด้ข ้อ มู ล ที่
เชื่ อ ถื อ ได้ และยอมรั บ การ
เปลี่ ย นแปลงความรู้ ที่ ค้นพบ
เมื่ อ มี ข ้ อ มู ล และประจั ก ษ์
พยานใหม่เพิ่มขึ้นหรื อโต้แย้ง
จากเดิม
๙. จัดแสดงผลงาน เขียนรายงาน -
และ/หรื ออธิ บายเกี่ ย วกั บ
แนวคิด กระบวนการ และผล
ของโครงงานหรื อชิ้ นงานให้
ผูอื่นเข้าใจ
้
ม.๔-ม.๖ ๑. ่
ตั้งคาถามที่อยูบนพื้นฐานของ -
ความรู้ แ ละความเข้า ใจทาง
วิทยาศาสตร์ หรื อความสนใจ
หรื อจากประเด็นที่ เกิ ดขึ้ นใน
ขณะนั้ น ที่ ส ามารถท าการ
ส ารวจตรวจสอบหรื อ ศึ ก ษา
ค้ น คว้า ได้ อ ย่ า งครอบคลุ ม
และเชื่อถือได้
- 20. ชั้น ตัวชี้วด
ั สาระการเรี ยนรู้ แกนกลาง
๒. สร้ า งสมมติ ฐ านที่ มี ท ฤษฎี -
รองรับ หรื อคาดการณ์สิ่งที่จะ
พบ หรื อสร้ า งแบบจ าลอง
หรื อสร้างรู ปแบบ เพื่อนาไปสู่
การสารวจตรวจสอบ
๓. ค้นคว้า รวบรวมข้อมู ล ที่ ต้อ ง -
พิจารณาปั จจัยหรื อ ตัวแปร
ส าคัญ ปั จ จัย ที่ มี ผ ลต่ อ ปั จ จัย
อื่น ปั จจัยที่ควบคุมไม่ได้ และ
จ านวนครั้ งของการส ารวจ
ตรวจสอบ เพื่ อ ให้ไ ด้ผ ลที่ มี
ความเชื่อมันอย่างเพียงพอ
่
๔. เลือกวัสดุ เทคนิ ควิธี อุปกรณ์ -
ที่ใช้ในการสังเกต การวัด การ
สารวจตรวจสอบอย่างถูกต้อง
ทั้ง ทางกว้า งและลึ ก ในเชิ ง
ปริ มาณและคุณภาพ
๕. รวบรวมข้อมูลและบันทึกผล -
การส ารวจตรวจสอบอย่ า ง
เป็ นระบบถูกต้อง ครอบคลุ ม
ทั้งในเชิ งปริ มาณและคุณภาพ
โดยตรวจสอบความเป็ นไป
ได้ ความเหมาะสมหรื อความ
ผิดพลาดของข้อมูล
๖. จัดกระทาข้อมูล โดยคานึ งถึง -
การรายงานผลเชิ งตัวเลขที่ มี
ร ะ ดั บ ค ว า ม ถู ก ต้ อ ง แ ล ะ
นาเสนอข้อมูลด้วยเทคนิ ควิธี
ที่เหมาะสม
๗. วิ เ ค ร า ะ ห์ ข้ อ มู ล แ ป ล -
ค ว า ม ห ม า ย ข้ อ มู ล แ ล ะ
- 21. ชั้น ตัวชี้วด
ั สาระการเรี ยนรู้ แกนกลาง
ประเมินความสอดคล้องของ
ข้อสรุ ป หรื อสาระสาคัญ เพื่อ
ตรวจสอบกับสมมติฐานที่ต้ งไว้ ั
๘. พิ จารณาความน่ า เชื่ อถื อของ -
วิ ธี การและผลการส ารวจ
ตรวจสอบ โดยใช้หลักความ
คลาดเคลื่ อนของการวัดและ
การสั ง เกต เสนอแนะการ
ป รั บ ป รุ ง วิ ธี ก า ร ส า ร ว จ
ตรวจสอบ
๙. น า ผ ล ข อ ง ก า ร ส า ร ว จ -
ตรวจสอบที่ได้ ทั้งวิธีการและ
องค์ ค ว าม รู้ ที่ ไ ด้ ไ ปส ร้ า ง
ค า ถ า ม ใ ห ม่ น า ไ ป ใ ช้
แก้ปัญหาในสถานการณ์ ใหม่
และในชีวตจริ ง
ิ
๑๐. ตระหนัก ถึ ง ความส าคัญ ใน -
ก า ร ที่ จ ะ ต้ อ ง มี ส่ ว น ร่ ว ม
รับผิดชอบการอธิ บาย การลง
ความเห็ น และการสรุ ปผล
การเรี ย นรู้ วิท ยาศาสตร์ ที่
นาเสนอต่ อ สาธารณชนด้ว ย
ความถูกต้อง
๑๑. บัน ทึ ก และอธิ บ ายผลการ -
ส า รว จต รว จ ส อ บอ ย่ า ง มี
เหตุ ผ ล ใช้ พ ยานหลั ก ฐาน
อ้า งอิ ง หรื อค้ น คว้า เพื่ อ เติ ม
เพื่ อ หาห ลั ก ฐาน อ้ า งอิ ง ที่
เชื่ อถื อได้ และยอมรั บ ว่ า
ค ว า ม รู้ เ ดิ ม อ า จ มี ก า ร
เปลี่ยนแปลงได้ เมื่อมีขอมูล ้
- 22. ชั้น ตัวชี้วด
ั สาระการเรี ยนรู้ แกนกลาง
แ ล ะ ป ร ะ จั ก ษ์ พ ย า น ใ ห ม่
เพิ่ ม เติ ม หรื อ โต้แ ย้ง จากเดิ ม
ซึ่ งท้าทายให้มีการตรวจสอบ
อย่างระมัดระวัง อันจะนามาสู่
การยอมรับเป็ นความรู ้ใหม่
๑๒. จัดแสดงผลงาน เขียนรายงาน -
และ/หรื ออธิ บายเกี่ ย วกั บ
แนวคิด กระบวนการ และผล
ของโครงงานหรื อชิ้ นงานให้
ผูอื่นเข้าใจ
้