SlideShare a Scribd company logo
ขโมยวิธีคิดสุดเจ๋ง
จากสุดยอดโรงเรียนสอน
สตาร์ทอัพ
The Launch Pad:
Inside Y Combinator
Randall Stross
ขโมยวิธีคิดสุดเจ๋ง จากสุดยอดโรงเรียนสอนสตาร์ทอัพ
The Launch Pad: Inside Y Combinator
Copyright © Randall Stross, 2012
Published by Portfolio / Penguin, a member of Penguin Group (USA) Inc.
Thai language translation copyright © 2018 by Superposition Co., Ltd.
All rights reserved.
เลขมาตรฐานสากลประจ�าหนังสือ ISBN 978-616-8109-07-6
ผู้เขียน Randall Stross
ผู้แปล กนกกาญจน์ เวชชวิศิษฏ์
กองบรรณาธิการ จิรวรรณ วงค�าเสา, ธีร์ มีนสุข, ปิยะพงษ์ ศิริสุทธานันท์
ออกแบบปก เชนิสา เพื่อวงศ์
ราคา 280 บาท
จัดพิมพ์โดย ส�านักพิมพ์บิงโก
ภายในเครือ บริษัท ซุปเปอร์โพซิชั่น จ�ากัด (Superposition Co., Ltd.)
18 ซอยดุลิยา ถนนกาญจนาภิเษก แขวงบางระมาด เขตตลิ่งชัน กทม. 10170
อีเมล superposition.books@gmail.com
โทรศัพท์ 094-810-7272
เว็บไซต์ www.bingobook.co เฟซบุ๊ก www.facebook.com/bingobooks
จัดจ�าหน่ายโดย
บริษัท ซีเอ็ดยูเคชั่น จ�ากัด (มหาชน) SE-EDUCATION Public Company Limited
เลขที่ 1858/87-90 ถนนบางนา-ตราด แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพฯ 10260
โทรศัพท์ 02-826-8222, 02-826-8000
โทรสาร 02-826-8356-9
เว็บไซต์ www.se-ed.com
พิมพ์ที่ Greenlife Printing House โทรศัพท์ 02-892-1941
หากต้องการสั่งซื้อเป็นจ�านวนมาก กรุณาติดต่อรับส่วนลดได้ที่ บริษัท ซุปเปอร์โพซิชั่น จ�ากัด
อีเมล superposition.books@gmail.com
คํานิยมจากคุณณัฐวุฒิ พึงเจริญพงศ์
หนังสือเล่มนี้เป็นเรื่องของ
โรงเรียนสอนสตาร์ทอัพที่มีชื่อ
เสียงที่สุดในซิลิคอนวัลเลย์ ซึ่ง
ได้ปั้นสตาร์ทอัพชื่อดังมาแล้ว
อย่างต่อเนื่อง
บริษัทที่เกิดจากโรงเรียนแห่งนี้มีมูลค่ามารวมกันถึงหลายหมื่นล้าน
ดอลลาร์ จึงไม่น่าแปลกใจที่โรงเรียนนี้ได้รับการยอมรับไปทั่วโลก ขนาดที่
มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดยังเคยให้มาจัดคอร์สเรียนแก่นักศึกษาของตัวเอง
ถ้าใครเคยได้เห็นสิ่งที่เขาสอนแล้วจะพบว่า Mentor ของโรงเรียนนี้ไม่
ธรรมดาเลย
ผมมองว่าเนื้อหาของหนังสือเล่มนี้พิเศษมาก เพราะมันคือราย
ละเอียดจริงที่กูรูธุรกิจชั้นน�าใช้ขัดเกลาบริษัทหน้าใหม่ตั้งแต่ยังไม่มีกระทั่ง
ไอเดีย จนพร้อมระดมทุนได้หลายล้านดอลลาร์ภายใน 3 เดือน ตั้งแต่การ
คัดเลือกคน การคิดไอเดีย การเริ่มธุรกิจ การขยายบริษัท ไปจนถึงการขอ
เงินทุนจากนักลงทุน ที่ส�าคัญคือเคล็ดลับเหล่านี้มาจากผู้เชี่ยวชาญที่รู้จริง
ระดับโลก ทุกคนที่สนใจเรื่องธุรกิจหรือเทคโนโลยีควรต้องอ่าน
ปกติสิ่งที่เกิดขึ้นในโรงเรียนนี้จะถูกเก็บเป็นความลับแต่ผู้เขียนเป็น
คนเดียวที่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปอยู่ข้างในนานหลายเดือนท�าให้เขียนออก
มาเป็นเนื้อหาที่ละเอียดเจาะลึกได้แต่ละบทจะเป็นเรื่องราวที่อ่านสนุกและ
แฝงไปด้วยบทเรียนส�าคัญต่างๆ ซึ่งจะพลิกมุมมองทั้งด้านธุรกิจและการ
ใช้ชีวิตของเราไปเลยครับ ไม่ว่าคุณจะเป็นนักธุรกิจ นักลงทุน คนที่ฝันว่า
สักวันจะท�าสตาร์ทอัพ หรือคนปกติที่อยากเปิดโลกทัศน์ให้กว้างขวาง
หนังสือเล่มนี้จะไม่ท�าให้คุณผิดหวังครับ
ณัฐวุฒิ พึงเจริญพงศ์ (หมู)
CEO และผู้ก่อตั้งบริษัท Ookbee สตาร์ทอัพอันดับต้นๆ ของไทย
ผู้บริหารกองทุน 500 Tuktuks ที่ได้ร่วมลงทุนกว่า 50 สตาร์ทอัพในไทย
และเป็นส่วนหนึ่งของกองทุน500Startupsกองทุนชั้นน�าของซิลิคอนวัลเลย์
คํานิยมจากคุณเรืองโรจน์ พูนผล
ผมมีโอกาสโลดแล่นและใช้ชีวิต
ในซิลิคอนวัลเลย์อยู่ 7 ปี รู้จัก
กับคนเก่งมากมายจากทั่วโลก
ผมค้นพบข้อเท็จจริง 3 ข้อ
ข้อแรก คนที่ก้าวเข้ามาในซิลิ
คอนวัลเลย์ จะได้รับใบอนุญาต 2 ใบ คือใบอนุญาตที่จะเปลี่ยนแปลงโลก
และใบอนุญาตให้ล้มเหลวกี่ครั้งก็ได้แล้วลุกขึ้นมาใหม่ ใครก็ตามที่ได้รับ
ใบอนุญาตทั้งสองใบจะสามารถก้าวข้ามขีดจ�ากัดของตัวเอง และค้นพบ
ความเป็นไปได้ที่ไม่จ�ากัด
ข้อสอง ผมท�างานกับบริษัทระดับโลกมามาก ผมพูดอย่างมั่นใจได้เลยว่า
คนไทยมีศักยภาพไม่แพ้ต่างชาติขอแค่คุณมุ่งมั่นตั้งใจก็สามารถสร้างสิ่ง
ที่ยิ่งใหญ่ได้
ข้อสามปัจจัยส�าคัญที่ช่วยให้ต่างชาติมีบริษัทเทคโนโลยีออกมามากก็คือ
“โรงเรียนบ่มเพาะสตาร์ทอัพ” ที่คอยสนับสนุนในช่วงตั้งไข่ โดยโรงเรียนที่
ถูกยกย่องให้เป็น The world’s most powerful incubator ก็คือ Y Com-
binator ซึ่งถูกพูดถึงในหนังสือเล่มนี้
ไม่ว่าคุณจะแค่สนใจหรืออยู่ในแวดวงสตาร์ทอัพเต็มตัวผมแนะน�าให้อ่าน
หนังสือเล่มนี้ คุณจะได้เข้าใจวิธีคิดของผู้ก่อตั้งสตาร์ทอัพและกองทุน
Venture Capital ระดับโลก ตั้งแต่การหาไอเดีย การสร้างธุรกิจ ไปจนถึง
การระดมทุนและหวังว่าอีลอนมัสก์คนถัดไปจะถือก�าเนิดในประเทศไทย
ครับ
เรืองโรจน์ พูนผล (กระทิง)
ผู้ก่อตั้ง Disrupt University
ผู้บริหารกองทุน 500 Tuktuks ที่ได้ร่วมลงทุนกว่า 50 สตาร์ทอัพในไทย
และเป็นส่วนหนึ่งของกองทุน500Startupsกองทุนชั้นน�าของซิลิคอนวัลเลย์
“อย่ากลัวที่จะล้มเหลว อย่ากลัวที่ต้องสู้แบบคนธรรมดา
เพราะคนธรรมดาที่ไม่ยอมแพ้ ก็สามารถสร้าง
การเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ได้เช่นกัน”
คํานิยมจากคุณโอฬาร วีระนนท์
“โดดเด่น อ่านง่าย ใช้ได้จริง”
คือ ค�านิยม ที่ผมมอบให้กับ
หนังสือเล่มนี้
ในฐานะแม่ทัพใหญ่ของ“ดูเรียนคอร์ปปอเรชัน”(DURIAN)ที่มีVisionใน
การสร้างธุรกิจว่าWhereAngelsMeetUnicornsหรือการเป็นศูนย์กลาง
ในการเชื่อมโยงนักลงทุนคุณภาพในทุกระดับ มาพบกับผู้ประกอบการทั้ง
SMEsและStartupที่มีศักยภาพในการเติบโตในอนาคตซึ่งท�าให้เราได้มี
โอกาสทั้งสร้าง พัฒนา ให้ค�าปรึกษา และร่วมลงทุนในธุรกิจ Startup และ
นักลงทุน ที่หลากหลายทั้งในไทยและต่างประเทศตลอดระยะเวลา 3 ปีที่
ผ่านมา
ท�าให้ผมได้รับเกียรติจากคุณตั้ม แห่งส�านักพิมพ์บิงโก ผู้ได้ลิขสิทธิ์
การแปลหนังสือ “TheLaunchPad:InsideYCombinator”ซึ่งเขียนโดย
RandallStrossนักเขียนชั้นน�าด้านDigitalแห่งNewYorkTimesเจ้าของ
ผลงานBestSellersมากมายหลายเล่มและคร�่าหวอดในวงการเทคโนโลยี
ธุรกิจ และสังคม ส่งต้นฉบับงานแปลมาให้อ่านและให้เกียรติแบ่งปัน
มุมมองหลังอ่าน ซึ่งผมขอสรุปสั้นๆ ดังนี้
โดดเด่น
ในการเลือกหยิบประเด็นที่น่าสนใจที่มีคนไทยไม่มากนักได้รับรู้ให้ออกมา
สู่สังคมในวงกว้าง คือ วิธิคิดและเคล็ดลับจาก “Y Combinator” ที่ได้รับ
การยอมรับจากทั่วโลกว่าที่นี่ คือ “โรงเรียนสตาร์ทอัพอันดับ 1 ของโลก”
และ พอล เกรแฮม (Paul Graham) ที่ได้รับการยอมรับว่า เค้าคือ “นักปั้น
Startup ที่ได้รับการนับถือมากที่สุดคนนึงในโลก” ด้วยการลงทุนใน
Startup ไปแล้วกว่า 1,450 บริษัท (นับถึงสิ้นปี 2017) ซึ่งรวมมูลค่าของ
บริษัทที่ได้ร่วมลงทุน (Company Valuation) กว่า 80,000 ล้านเหรียญ
สหรัฐฯ (กว่า 2.6 ล้านล้านบาท) (Source: Wikipedia)
อ่านง่าย
ด้วยสไตล์การเขียนที่สามารถท�าให้ผู้อ่านไม่ว่าจะเป็นมือใหม่ด้านStartup,
มือเก๋าด้านการลงทุน,มืออาชีพด้านการบ่มเพาะหรือผู้เกี่ยวข้องด้านต่างๆ
สามารถติดตามได้อย่างลื่นไหลทั้งต้องชื่นชมการแปลของส�านักพิมพ์บิงโก
ที่ยังสามารถคงอรรถรส และอรรถประโยชน์ในการอ่านได้อย่างครบถ้วน
จนหนังสือที่ดูเหมือนหนาเกือบ300หน้ากลับอ่านได้เพลิดเพลินและเปิด
สมองได้อย่างยอดเยี่ยม
ใช้ได้จริง
Y Combinator คือศูนย์บ่มเพาะสตาร์ทอัพ ที่ผลิตบริษัทระดับ “ยูนิคอร์น”
(Unicorn) หรือบริษัทที่มีมูลค่ามากกว่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ (33,000
ล้านบาท) จ�านวนมากทั้ง Dropbox, Airbnb, Coinbase, Stripe, Reddit,
Instacart,Twitch,CruiseAutomation,Zenefitsetc.ที่บางบริษัทมีCase
Studyที่น่าสนใจอยู่ในหนังสือเล่มนี้และแม้หลายบริษัทจะไม่ได้ถูกพูดถึง
แต่เราสามารถเรียนรู้เคล็ดลับในการเติบโตและเก็บเกี่ยวประสบการณ์ แง่
มุมความคิดที่หลากหลายตามที่ตนสนใจ ซึ่งน้อยครั้งที่จะมีคนออกมา
ถ่ายทอดให้เราได้เก็บเกี่ยวอย่างเต็มที่เช่นนี้ ใครจะรู้ว่าบางที “เพียงประ
โยคสั้นๆ หรือประสบการณ์บางส่วนจากหนังสือเล่มนี้ อาจช่วยพลิกมุม
ความคิดในการขยายธุรกิจเราได้เลย”
ผมขอปิดท้ายสั้นๆ ว่าหนังสือเล่มนี้“โดดเด่น อ่านง่าย ใช้ได้จริง”
และเป็นหนังสือดีๆ ที่อยากให้คนไทยได้อ่านมานานแล้ว!
ด้วยความปรารถนาดี
โอฬาร วีระนนท์
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้งบจ.ดูเรียนคอร์ปปอเรชัน(DURIAN)
เลขาธิการสมาคมฟินเทคประเทศไทย (Thai Fintech Association)
กรรมการบริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง หลักสูตรผู้บริหาร ดีสตาร์ทอัพ
(DSTARTUPbySPU)
กรรมการและผู้ร่วมก่อตั้ง หลักสูตรผู้บริหาร ทูมอร์โรว์ สเกลเลอร์
(2morrow Scaler)
สารบัญ
บทน�า ∙ 1
1
เด็กกว่า ∙ 9
2
สูงวัยกว่า ∙ 25
3
มหาวิทยาลัยสไตล์ใหม่ ∙ 35
4
ผู้ชาย ∙ 47
5
บ้าระห�่า แต่ปกติ ∙ 61
6
ไม่เซ็กซี่ ∙ 73
7
Genius ∙ 87
1
2
3
4
5
6
7
8
นักลงทุนรายย่อย ∙ 101
9
ปิดการขายเสมอ ∙ 115
10
แยกร่าง ∙ 129
11
เป็นไงพรรคพวก? ∙ 139
12
แฮกกาธอน ∙ 153
13
ไอเดียใหม่ ∙ 165
14
เสี่ยง ∙ 175
15
แต่งงาน ∙ 189
8
9
10
11
12
13
14
15
16
น่าเกรงขาม ∙ 195
17
ตั้งใจฟัง ∙ 205
18
เติบโต ∙ 219
19
ค้นหาดาวเด่น ∙ 233
20
อย่ายอมแพ้ ∙ 247
21
ซอฟต์แวร์ก�าลังเขมือบโลก ∙ 257
สตาร์ทอัพรุ่นฤดูร้อนที่ปรากฏในเล่ม ∙ 273
รายชื่อกุนซือแห่ง Y Combinator ∙ 276
16
17
18
19
20
21
1
บทนํา
บทนํา
ซานฟรานซิสโกเกรย์ไลน์คือบริษัททัวร์ชมทัศนียภาพที่ใหญ่ที่สุดทางตอน
เหนือของรัฐแคลิฟอร์เนีย ที่นี่ให้บริการทัวร์เที่ยวชมเมืองซานฟรานซิสโก
อนุสรณ์สถานแห่งชาติมิวร์วูด และซอซาลิโตหรือไร่องุ่นผลิตไวน์ทาง
ตอนเหนือของเมือง แต่ไม่ได้ให้บริการพาเที่ยวซิลิคอนวัลเลย์ที่อยู่ทางใต้
อีกต่อไปเพราะเมื่อมองจากที่นั่งในรถบัสแล้วซิลิคอนวัลเลย์ก็ไม่ได้มีอะไร
ให้ชมมากนัก
ซิลิคอนวัลเลย์มีประวัติความเป็นมาที่โด่งดัง ที่นั่นมีพิพิธภัณฑ์
ประวัติศาสตร์คอมพิวเตอร์แถมบริษัทอินเทลก็มีพิพิธภัณฑ์ของตัวเองและ
แน่นอนว่ายังมีโรงรถต่างๆ ที่เป็นจุดเริ่มต้นของบริษัทขนาดยักษ์ ไม่ว่าจะ
เป็นโรงรถของฮิวเลตต์และแพคการ์ด (หรือที่รู้จักกันในชื่อ HP) หรือของ
พ่อแม่สตีฟจ็อบส์หรือกระทั่งโรงรถที่กูเกิลเคยเช่าเพื่อเป็นออฟฟิศแห่งแรก
แต่สถานที่เหล่านี้ก็เป็นแค่เพียงเศษซากของสตาร์ทอัพที่ย้ายออกไปนาน
แล้ว
หากอยากรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไปในซิลิคอนวัลเลย์คุณคงต้องหัน
มาดูสตาร์ทอัพที่มีแววว่าจะประสบความส�าเร็จที่สุด ไม่ใช่พิพิธภัณฑ์หรือ
โรงรถของคนดังความจริงแล้วมีสตาร์ทอัพอยู่หลายพันบริษัทกระจัดกระจาย
อยู่ตามเส้นทางยาว60ไมล์ที่ทอดอยู่ระหว่างเมืองซานฟรานซิสโกกับเมือง
2
ขโมยวิธีคิดสุดเจ๋ง จากสุดยอดโรงเรียนสอนสตาร์ทอัพ
ซานโฮเซ แต่ทั้งหมดนั้นด�าเนินกิจการอย่างลับๆ จนกระทั่งพวกเขาพร้อม
ที่จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ชนิดแรกนั่นคือสาเหตุที่บริษัทอย่างเกรย์ไลน์ทัวร์จะ
ไม่มีวันได้พาลูกทัวร์เที่ยวชมซิลิคอนวัลเลย์อย่างแน่นอน
มันน่าเสียดายเพราะสถานที่แห่งนี้ก�าลังสร้างอนาคตของทุกคนนัก
ธุรกิจอย่างมาร์ค แอนดรีสเซน บรรยายเอาไว้อย่างน่าตื่นตาว่า ซอฟต์แวร์
ก�ำลังเขมือบโลก สตาร์ทอัพก�าลังจะเปลี่ยนแปลงโลกนี้ และไม่มีที่ไหนใน
โลกมีความมุ่งมั่นเทียบเคียงกับซิลิคอนวัลเลย์ได้เลย
มีโรงเรียนแห่งหนึ่งในซิลิคอนวัลเลย์ที่เยี่ยมยอดที่สุดในการ
สร้างสตาร์ทอัพ สถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่ในเมืองเมาน์เทนวิว และมอบทุนให้
สตาร์ทอัพระดับไม่มีใครเทียบติดแต่ละบริษัทจะได้รับเงินทุนตั้งแต่11,000
ถึง 20,000 ดอลลาร์ โดยต้องให้หุ้น 7% เป็นการตอบแทน
พอล เกรแฮม นักธุรกิจมือเก๋า เป็นผู้น�าโรงเรียนธุรกิจแห่งนี้ เขายัง
เป็นครูที่เปี่ยมพลังที่สุด เป็นหัวหน้าโปรแกรมเมอร์ และเป็นนักเขียน
ที่มีไอเดียบรรเจิดที่สุดของที่นี่อีกด้วย พอลให้ค�าแนะน�ากับผู้ก่อตั้ง
สตาร์ทอัพมานานหลายปี เขาคือผู้คิดค้นรูปแบบการท�างานที่พิเศษ
ไม่เหมือนใครของโรงเรียนธุรกิจนี้ และยังเป็นผู้ตั้งชื่อแปลกสะดุดหูให้กับ
มันว่า Y Combinator (ย่อว่า YC)
พอลจบปริญญาเอกสาขาคอมพิวเตอร์แต่เขาไม่สนใจเรื่องวิชาการ
สิ่งที่ดึงดูดเขาก็คือบรรดาแฮกเกอร์ทั้งหลาย คนเหล่านั้นไม่ได้มีแค่ทักษะ
ในการเขียนโปรแกรมเท่านั้น แต่ยังหลงใหลมันอีกด้วย แฮกเกอร์สนใจ
ใคร่รู้ว่าสิ่งต่างๆ ท�างานอย่างไรและวิธีอะไรใช้แก้ปัญหาได้ดีที่สุด โดย
3
บทนํา
ธรรมชาติแล้วแฮกเกอร์เป็นพวกชอบแหกกฎ และบางครั้งมันก็ท�าให้
พวกเขาเข้าไปยุ่มย่ามกับสิ่งที่ไม่ควรเข้าไปยุ่งพอลชี้ให้เห็นว่าการแฮกนั้น
เกิดขึ้นก่อนคอมพิวเตอร์เสียอีก โดยเขาได้เล่าถึงนักฟิสิกส์คนหนึ่งชื่อว่า
ริชาร์ดไฟน์แมนผู้นึกสนุกและบุกรุกเข้าไปในห้องเก็บเอกสารลับเพื่อค้นหา
ข้อมูลขณะที่ตัวเองก�าลังด�าเนินโครงการพัฒนาระเบิดนิวเคลียร์
ค�าว่า“แฮก”หมายถึงการคิดค้นวิธีอันชาญฉลาดเพื่อเอาชนะระบบ
ผู้สมัครรับทุนจาก YC จะถูกขอว่า “ช่วยเล่าถึงตอนที่คุณแฮกระบบ
อะไรสักอย่าง(ที่ไม่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์)ที่ตัวคุณได้ประโยชน์และประสบ
ความส�าเร็จที่สุดให้เราฟังหน่อย”ทีมที่พอลชอบให้ทุนที่สุดคือทีมที่สมาชิก
ทุกคนเป็นแฮกเกอร์
การลงทุนของ YC มีข้อแม้อยู่หนึ่งอย่างคือ ทีมนั้นจะต้องย้ายมาที่
ซิลิคอนวัลเลย์เป็นเวลา 3 เดือน พวกเขาจะต้องพยายามสร้างผลิตภัณฑ์
ภายใน 3 เดือนนั้น (มกราคมถึงมีนาคมส�าหรับรุ่นฤดูหนาว มิถุนายนถึง
สิงหาคมส�าหรับรุ่นฤดูร้อน)ระหว่างนั้นทุกคนจะได้ค�าปรึกษาจากพอลและ
กุนซือคนอื่นๆ ที่ YC นอกจากนี้ยังมีงานเลี้ยงอาหารเย็นกับแขกรับเชิญ
สัปดาห์ละครั้งอีกด้วย ในที่สุดเมื่อครบ 3 เดือน ทีมต่างๆ ในรุ่นนั้นจะออก
มาน�าเสนอใน “วันสาธิต” (Demo Day) ซึ่งเป็นวันที่ทีมต่างๆ มีโอกาส
น�าเสนอผลิตภัณฑ์แก่นักลงทุนหลายร้อยราย
YC เริ่มก่อตั้งขึ้นในปี 2005 และเป็นโรงเรียนต้นแบบให้กองทุน
สตาร์ทอัพจ�านวนมหาศาลที่ผุดขึ้นมาทั่วโลกเคล็ดลับมีตั้งแต่การลงทุนกับ
4
ขโมยวิธีคิดสุดเจ๋ง จากสุดยอดโรงเรียนสอนสตาร์ทอัพ
สตาร์ทอัพที่ร่วมโครงการทั้งรุ่น การพักอาศัยในย่านเดียวกันเป็นเวลา 3
เดือน และวันสาธิตตอนจบโครงการ
แต่กระนั้น YC ก็ยังคงโดดเด่นกว่าใคร พวกเขาลงทุนมากกว่า
กองทุนส�าหรับระยะก่อตั้งอื่นๆและเครือข่ายศิษย์เก่าของที่นี่ก็ไม่เหมือนที่
อื่น มันคือแหล่งทรัพยากรที่ส�าคัญของสตาร์ทอัพที่ได้รับทุนทั้งหลาย
นอกจากนี้บรรดานักลงทุนก็สนใจบริษัทที่เคยเข้าร่วมโครงการกับYCมาก
ที่สุด เท่ากับเป็นการบอกใบ้ว่าบริษัทของ YC นั้นมีแนวโน้มที่จะประสบ
ความส�าเร็จมากกว่าใคร แหล่งเงินทุนรายใหญ่ของ YC คือบริษัทเงินทุน
เซควอญ่า (Sequoia Capital) ที่เคยลงทุนส�าเร็จกับแอปเปิล ยาฮู และ
กูเกิลมาแล้ว
สตาร์ทอัพของ YC หลายบริษัทนั้นไปได้สวยมาก ที่ยอดเยี่ยมที่สุด
คือ Dropbox ซึ่งเป็นบริการให้พื้นที่จัดเก็บไฟล์ และตอนนี้มีผู้ใช้บริการ
หลาย 10 ล้านคน เมื่อติดตั้งโปรแกรมฟรีของ Dropbox แล้ว ไฟล์เอกสาร
รูปภาพ วิดีโอ หรือไฟล์อื่นๆ บนคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งจะถูกเชื่อมโดย
อัตโนมัติกับคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นรวมถึงสมาร์ทโฟนแท็บเล็ตและอุปกรณ์
อื่นๆ ท�าให้คุณสามารถน�าไฟล์มาใช้ได้ตลอดเวลาไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม
ทุกคนจะได้รับพื้นที่จัดเก็บไฟล์ฟรี2กิกะไบต์และซื้อพื้นที่เพิ่มได้หากต้องการ
Airbnb เป็นอีกบริษัทที่โดดเด่น พวกเขาให้บริการตลาดออนไลน์
ส�าหรับเจ้าของบ้านและอพาร์ตเมนต์ที่อยากให้นักเดินทางเช่าห้องว่าง
(หรือโซฟา) เมื่อต้นปี 2011 Airbnb ฉลองการที่มีผู้จองที่พักผ่านเว็บไซต์
ของพวกเขาเป็นคืนที่ 1 ล้าน
5
บทนํา
Heroku คือความส�าเร็จครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดของ YC ที่คนทั่วไปยังไม่รู้
จัก บริษัทนี้ดูแลซอฟต์แวร์ที่ใช้งานอยู่บนระบบคลาวด์ ลูกค้าของพวกเขา
จึงมีแต่นักพัฒนาซอฟต์แวร์เท่านั้น
หนังสือที่เกี่ยวกับ YC เล่มนี้มีเรื่องราวของบริษัทต่างๆ จ�านวนมาก
และแต่ละบริษัทก็ท�างานกันเร็วมาก ในช่วงยุค 90 สตาร์ทอัพบริษัทหนึ่ง
อาจต้องใช้เวลา 1-2 ปีกว่าผู้ก่อตั้งจะสามารถเปลี่ยนไอเดียให้กลายเป็น
ผลิตภัณฑ์ต้นแบบได้ในทางตรงข้ามสตาร์ทอัพของYCเริ่มธุรกิจได้ภายใน
ไม่กี่สัปดาห์หรือในบางกรณีก็แค่ไม่กี่วันเท่านั้นพวกเขาได้รับการส่งเสริม
ให้ปล่อยผลิตภัณฑ์โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะท�าได้ ค้นหาว่ามีปัญหาอะไร
จากนั้นก็ค่อยพัฒนาต่อ
เมื่อ 10 ปีที่แล้ว การที่สตาร์ทอัพสักแห่งจะดึงดูดนักลงทุนได้นั้น ผู้
ก่อตั้งจะต้องเป็นมืออาชีพที่มีประสบการณ์สูงลิบลิ่ว พวกเขาต้องการเงิน
หลายล้านดอลลาร์เพื่อซื้อเซิร์ฟเวอร์ซื้อซอฟต์แวร์ฐานข้อมูลราคาแพงและ
จ้างพนักงาน ปัจจุบัน YC สนับสนุนผู้ก่อตั้งบริษัททั้งหลายที่ไม่มีอะไรเลย
นอกจากความมุ่งมั่นและพรสวรรค์
ยังเรียนไม่จบและอยากสร้างสตาร์ทอัพทันทีอย่างงั้นหรือ?
ลุยเลย!
เป็นไปได้อยู่ที่จะก่อตั้งสตาร์ทอัพโดยปราศจากเงินทุน แต่คนที่
พยายามสร้างธุรกิจด้วยตัวเองโดยขาดประสบการณ์ย่อมพลาดพลั้งมานัก
ต่อนักแล้ว นั่นคือเหตุผลที่ YC ได้รับใบสมัคร 2,000 ใบส�าหรับโครงการ
รุ่นหลังๆทุกรุ่นบรรดาผู้ก่อตั้งสตาร์ทอัพมองหาค�าแนะน�าที่จะช่วยให้พวก
6
ขโมยวิธีคิดสุดเจ๋ง จากสุดยอดโรงเรียนสอนสตาร์ทอัพ
เขาหลีกเลี่ยงความผิดพลาดที่เกิดขึ้นบ่อยและเพิ่มโอกาสส�าเร็จให้มากขึ้น
ยิ่งรู้เกี่ยวกับชีวิตของสตาร์ทอัพมากเท่าไหร่ หลุมพรางทั้งหลายก็ยิ่งดูน่า
กลัวมากเท่านั้น ขนาดศิษย์เก่าบางคนที่ออกไปท�าสตาร์ทอัพตัวใหม่ก็ยัง
กลับมาขอร่วมโครงการอีกรอบ
แม้แต่สตาร์ทอัพที่YCสนับสนุนก็ยังมีโอกาสพลาดผู้ก่อตั้งทั้งหลาย
รู้ดี พวกเขามักจะพูดกันว่าพวกเขาจ�าเป็นต้องมี “ความบ้า” อยู่บ้าง จะได้
มองข้ามโอกาสที่จะผิดพลาดเหล่านั้นแล้วบุกตะลุยไปข้างหน้า
YCและสตาร์ทอัพในสังกัดอยู่ตรงใจกลางซิลิคอนวัลเลย์ชุมชนแห่ง
การประดิษฐ์คิดค้นที่อยู่ห่างไกลสายตาผู้คนและเกี่ยวข้องกับธุรกิจขนาด
ใหญ่ที่สุดในยุคนี้ มันเป็นสถานที่ที่ดีที่สุดส�าหรับเฝ้าสังเกตการณ์การ
ท�างานของสตาร์ทอัพ
ผมอยากเขียนหนังสือเกี่ยวกับ YC สักเล่ม โดยมีค�าขอ 2 อย่าง (ซึ่ง
ธุรกิจทั้งหลายไม่ค่อยอยากอนุญาตคู่กัน) นั่นคือ ผมขอเข้าถึงข้อมูล
เบื้องลึก และก็ยังอยากได้รับอนุญาตให้เขียนเกี่ยวกับมันได้เต็มที่ด้วย ใน
เดือนมีนาคมปี 2011 ผมจึงขออนุญาต YC เข้าไปติดตามทีมสตาร์ทอัพ
รุ่นหนึ่งระหว่างฤดูร้อนที่จะมาถึง ผมขอไปว่าจะเริ่มตามติดตั้งแต่ขั้นตอน
รับสมัครไปจนถึงสิ้นสุดฤดูร้อนนั้นเลย ผมอยากให้ผู้อ่านรู้สึกเหมือนว่า
ตัวเองอยู่ที่นั่นในเวลานั้นท่ามกลางสตาร์ทอัพหลายสิบทีมและกุนซือทั้ง
6 คนของ YC
เพื่อให้หนังสือเล่มนี้เกิดขึ้นได้ผมต้องเข้าไปสัมผัสความลับของYC
และสตาร์ทอัพของพวกเขาในทุกแง่มุมนั่นเพราะทุกสิ่งที่เกิดขึ้นที่YCและ
7
บทนํา
แต่ละบริษัทจะถูกปิดเป็นความลับ แม้กระทั่งในวันสาธิตบริษัทส่วนใหญ่
ก็ยังคงไม่พร้อมที่จะให้โลกภายนอกรับรู้ว่ามีพวกเขาอยู่ นักลงทุนที่มาใน
วันสาธิตเองก็ถูกขอร้องให้ปิดทุกอย่างเป็นความลับ ขนาดบนใบแนะน�า
การเข้าชมก็ยังต้องมีหมายเหตุ “ห้ามจดบันทึก” เขียนไว้ ค�าขอของผมจึง
พิเศษมากที่อยากเข้าไปดูความลับข้างในตลอดทั้งฤดูกาล ผมให้สัญญา
กับเขาว่าจะน�าข้อมูลมาเขียนหนังสือเล่มนี้เท่านั้นและจะไม่น�าข้อมูลที่ได้
มาไปเขียนบทความหรือหนังสือเล่มอื่นใดทั้งสิ้น
โชคดีที่เหล่ากุนซือของ YC อนุญาตให้ผมท�าตามค�าขอได้ทุกอย่าง
ผมเริ่มท�างานในปลายเดือนเมษายนเมื่อเริ่มการสัมภาษณ์ผู้เข้ารอบ
สุดท้าย ตอนนั้นผมไม่รู้ว่าบริษัทที่เข้าร่วมโครงการในช่วงฤดูร้อนรุ่นนั้นจะ
กลายเป็นรุ่นที่มีจ�านวนมากที่สุดโดยเพิ่มจาก44บริษัทในรุ่นก่อนหน้าเป็น
64 บริษัท ซึ่งท�าให้ผมได้เห็นเรื่องราวดีๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างทางมากมาย
หลายเรื่องเลยทีเดียว
เดิมทีหนังสือเล่มนี้จะจบลงในวันสาธิตแต่ผมขยายกรอบเวลาออก
ไปให้นานพอที่จะเห็นผู้ก่อตั้งสตาร์ทอัพรุ่นนี้ทักทายกับผู้ก่อตั้งรุ่นถัดไป
และต่อไปนี้คือเรื่องราวเหล่านั้น
9
เด็กกว่า
1
เด็กกว่า
คาลวิน หวัง และแรนดี ปัง คือแฮกเกอร์ประเภทที่ชอบเขียนซอฟต์แวร์
ส่วนเจสัน เชน ไม่ใช่ เขาเรียกตัวเองว่าเป็น “พนักงานขายของสตาร์ทอัพ”
และมีความสามารถรอบด้านในการโน้มน้าวผู้คน เขาเขียนบล็อกส่วนตัว
ชื่อว่า “ศิลปะในการเป็นคนเจ๋ง” (The Art of Ass-Kicking) ทั้งสามอายุ
ประมาณ24ปีเป็นบัณฑิตจบใหม่จากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดและเบิร์ก
ลีย์ อยู่ด้วยกันในเมืองซานฟรานซิสโก และเป็นเพื่อนสนิทกัน
พวกเขาอยากก่อตั้งสตาร์ทอัพด้วยกันแต่ยังไม่รู้ว่าจะท�าธุรกิจอะไร
มันเปลี่ยนไปทุกวันเลยทีเดียว ในระหว่างนั้นพวกเขาได้รับเลือกจาก YC
ให้เข้าโครงการรุ่นฤดูร้อนปี 2011 ที่เมืองเมาน์เทนวิว คาลวินและเพื่อนๆ
ไม่มีอะไรเลยนอกจากไอเดียส�าหรับสตาร์ทอัพแถมเป็นแค่ไอเดียเบื้องต้น
เสียด้วย“เมล็ดพันธุ์”ส�าหรับการลงทุนระยะก่อตั้งของพวกเขาเล็กกระจิริด
เสียจนไม่รู้จะเล็กยังไงแล้ว
ในระยะเริ่มแรกนี้บรรดาทีมต่างๆไม่จ�าเป็นต้องมีชื่อส�าหรับบริษัท
ที่น�าเสนอก็ได้ และส่วนใหญ่ก็ไม่มีจริงๆ คาลวิน หวัง คือผู้ติดต่อที่เป็น
ตัวหลักในใบสมัคร บริษัทของพวกเขาจึงถูกเรียกว่าทีม Kalvin
10
ขโมยวิธีคิดสุดเจ๋ง จากสุดยอดโรงเรียนสอนสตาร์ทอัพ
ทีม Kalvin ถูกพาไปยังห้องประชุมขนาดเล็กที่ส�านักงานใหญ่ของ
YC ในเมืองเมาน์เทนวิว รัฐแคลิฟอร์เนีย ผู้ชาย 5 คน และผู้หญิง 1 คนนั่ง
เรียงแถวอยู่ที่อีกฝั่งของโต๊ะและด้านข้างพวกเขาคือกุนซือของYCที่มีอายุ
มากกว่าทีม Kalvin ตั้งแต่ไม่กี่ปีไปจนถึง 20 ปี ทุกคนเปิดคอมพิวเตอร์
โน้ตบุ๊กเรียบร้อยแล้วและก�าลังมองที่ใบสมัครออนไลน์ของทีม Kalvin
ทีม Kalvin รู้ว่าการพูดคุยจะนานเพียง 10 นาที จากนั้นสัญญาณ
จะดังขึ้นมันเร็วจนเหมือนว่าสัญญาณดังแทบจะทันทีที่การสัมภาษณ์เริ่ม
ต้นเลยทีเดียว แล้วพวกเขาก็จะถูกพาออกไปจากที่นั่นเพื่อเปิดทางให้ทีม
ต่อไป
ทีม Kalvin นั่งลง พอลทักทายพวกเขาโดยไม่มีอารัมภบท “เอาละ
เราชอบพวกคุณมากกว่าไอเดีย”
“ไอเดีย” ธุรกิจของสตาร์ทอัพมักมีการเปลี่ยนแปลงระหว่างที่
ผู้สมัครส่งใบสมัครไปแล้วและก่อนการสัมภาษณ์ นี่เป็นหนึ่งในกรณีนั้น
ไอเดียที่ทีม Kalvin ส่งไปเมื่อหลายสัปดาห์ก่อนถูกปิดผนึกไว้ในรูปแบบ
ของ “ความทรงจ�าในอดีตที่ถูกส่งเข้ามาในกล่องข้อความ” กุนซือของ YC
คนหนึ่งที่ทีมKalvinคุยด้วยทางสไกป์เมื่อสัปดาห์ที่แล้วบอกว่าให้พวกเขา
คิดอย่างอื่นขึ้นมาใหม่ดีกว่า
“พวกเราปรับเปลี่ยนไอเดียเล็กน้อยครับ”เจสันเชนสมาชิกคนหนึ่ง
ในทีมKalvinพูดขึ้น“เราจะสร้างเว็บไซต์ส�าหรับโฟโต้บุ๊กเราจะจัดระเบียบ
รูปภาพในเฟซบุ๊กเพื่อให้คนสร้างโฟโต้บุ๊กได้ง่ายๆโดยแสดงรูปที่ดีที่สุดของ
พวกเขากับเพื่อนๆ”
11
เด็กกว่า
สมาชิกทีม Kalvin อีกคนเสริมว่า “ทุกหอพักในมหาวิทยาลัยจะมี
คนท�าหนังสือพวกนี้แล้วในสแตนฟอร์ดมีหลายสิบหอพักเลยพวกเขาต้อง
ท�าน่ะครับแต่พวกเขามักจะท�าแบบขอไปทีหรือไม่ก็ท�าไม่เสร็จไอเดียนี้น่า
จะเริ่มได้ไม่ยาก”
“พวกคุณยังมีคนรู้จักอยู่ที่มหาวิทยาลัยอยู่อีกเหรอ?” พอลถาม
มีสิ พวกเขาเพิ่งจบการศึกษาเมื่อ 2 ปีที่แล้ว
พอลสนใจในตัวผู้ก่อตั้งบริษัทมากกว่าในไอเดียที่พวกเขาน�าเสนอ
เมื่อเห็นทีมผู้ก่อตั้งที่แข็งแกร่งและมีคุณสมบัติที่เขาเชื่อว่าจะเอื้อให้ประสบ
ความส�าเร็จได้ เขาก็จะมองข้ามไอเดียที่อ่อนด้อยไปเสีย
“ผมว่าไอเดียนี้น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีได้” พอลพูด การพิมพ์โฟโต้บุ๊ก
น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของพวกเขาได้แต่พอลอยากรู้ว่า“จากสิ่งนี้คุณจะขยาย
ให้เป็นอะไร?”
“เราเชื่อในพลังแห่งความทรงจ�าและการโหยหาอาลัยอดีตครับเรา
สามารถสร้างผลิตภัณฑ์ได้มากมาย...” สมาชิกทีม Kalvin คนหนึ่งพูด
กุนซืออีกคนหนึ่งของYCโดดเข้ามาร่วมวงแซมอัลต์แมนเป็นศิษย์
เก่ารุ่นแรกของ YC เมื่อฤดูร้อนปี 2005 “ผมเชื่อพวกคุณเรื่องความ
ทรงจ�าและการโหยหาอดีต” แซมกล่าว “แต่ยังมีคนพิมพ์หนังสือแบบนั้น
อยู่อีกรึ?”
“ครับเมื่อปีที่แล้วตลาดโฟโต้บุ๊กมีมูลค่าเกิน1,000ล้านเหรียญและ
ตลาดที่ยุโรปโตขึ้น 25% ครับ”
12
ขโมยวิธีคิดสุดเจ๋ง จากสุดยอดโรงเรียนสอนสตาร์ทอัพ
สมาชิกทีมKalvinอีกคนเสริมว่า“มันเติบโตอย่างมั่นคงมาตั้งแต่ปี
2005 และมีมูลค่าสูงขึ้นเรื่อยๆ”
ทีมKalvinก�าลังพยายามท�าสิ่งที่ไม่น่าเป็นไปได้ด้วยการโต้แย้งว่า
ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่ดิจิทัลดังกล่าวเป็นสิ่งที่ควรท�า “การมีสิ่งที่จับต้องได้ให้
คุณพลิกดูและวางมันไว้บนโต๊ะรับแขก แล้วก็โชว์ให้เพื่อนดู มันมีคุณค่า
มากนะครับ!ความจริงพวกเราเคยซื้อโฟโต้บุ๊กให้เพื่อนๆกับครอบครัวมัน
แย่ตรงที่เราต้องเสียเวลาหลายชั่วโมงในการหารูปภาพเพื่อจัดท�ามัน” ใน
แต่ละปีทุกหอพักจะต้องจัดท�าโฟโต้บุ๊ก1เล่มจ่ายค่าท�าส�าเนาเล่มละ20
ดอลลาร์ และจัดท�าอย่างน้อย 100 เล่ม
พอลย้อนกลับไปยังค�าถามที่ยังไม่ได้รับค�าตอบ “แล้วพวกคุณจะ
ขยายให้มันเป็นอะไร?”
สมาชิกทีมKalvinคนหนึ่งตอบว่าเสนอขายโฟโต้บุ๊กโดยเรียงล�าดับ
เหตุการณ์จากปฏิทินส่วนตัวและการเช็คอินผ่านโฟร์สแควร์หรือไม่ก็ทวีต
บนทวิตเตอร์ใน 1 ปี
“ที่บอกว่าคนจะพิมพ์ทวีตจากปีที่แล้วออกมานี่ล้อเล่นใช่ไหม”
เทรเวอร์ แบล็กเวลล์ ถาม เขาอายุ 41 ปี ไล่เลี่ยกับกุนซือของ YC อีก 3 คน
ทีมKalvinไม่ได้รู้สึกสะทกสะท้านกับความต่างวัยเพราะดูท่าค�าพูด
พวกเขาจะท�าให้เหล่ากุนซือที่สูงวัยกว่าของ YC ไม่ชินกับการผสมผสาน
ระหว่างโซเชียลมีเดียกับสื่อสิ่งพิมพ์เท่าใดนัก “ที่จริงแล้วผมมีทวีตบุ๊กอยู่
เล่มหนึ่งครับ” สมาชิกทีมคนหนึ่งพูด “ทวีตบุ๊กแพร่หลายมาตั้งแต่ปี 2007
13
เด็กกว่า
แถมยังมีธุรกิจที่รวบรวม 2,000 ทวีตสุดท้ายของเราแล้วพิมพ์ออกมาเป็น
หนังสือด้วย”
“พวกคุณอาจจะใช้มันแทนหนังสือรุ่นได้” พอลบอก ตอบค�าถาม
ของเขาเองไปในตัว“หนังสือรุ่นของเด็กมัธยมผมว่ามันถึงเวลาแล้วละถ้า
พวกคุณแทนที่หนังสือรุ่นของเด็กมัธยมได้ มันจะท�าเงินได้มากเลยทีเดียว
มันก�าลังรอให้ใครสักคนลงมืออยู่”
ทีมKalvinสร้างความประทับใจได้ทันเวลาที่ก�าหนดทันทีที่พวกเขา
ออกจากห้องและปิดประตู พอลก็ประกาศว่า “ผมชอบพวกเขา!”
หากว่ามีอายุที่เหมาะสมเพียงเลขเดียวส�าหรับการเริ่มก่อตั้ง
สตาร์ทอัพ ทีม Kalvin ก็อยู่ในอายุนั้น คือเป็นผู้ใหญ่กว่านักศึกษาระดับ
ปริญญาตรีเล็กน้อย แต่ยังไม่มีภาระผูกพันเรื่องเงินกู้และเรื่องลูก ซึ่งเป็น
ปัจจัยที่ท�าให้การลาออกจากงานบริษัทที่มั่นคงและให้เงินดีเป็นเรื่องยาก
แต่พอลก็ยังชอบที่ทีมนี้ท�างานร่วมกันได้อย่างดีภายในระยะเวลาการ
สัมภาษณ์ นั่นคือสิ่งจ�าเป็นที่จะช่วยให้รอดพ้นจากความเครียดของชีวิต
สตาร์ทอัพ
*
YC เชิญผู้สมัครไม่ถึง 9% จาก 2,000 ทีม ให้มาสัมภาษณ์เพื่อเข้า
รอบสุดท้าย ระหว่างการสัมภาษณ์แต่ละครั้ง กุนซือแต่ละคนก็จะพิมพ์
ความคิดเห็นส่วนตัวลงไปในฐานข้อมูลของ YC ที่กุนซือคนอื่นมองเห็นได้
หลังการสัมภาษณ์แต่ละครั้งพวกเขาจะจัดล�าดับทีมที่ได้พบในวันนั้นทันที
และเมื่อสิ้นสุดวันก็จะมีการลงความเห็นว่าจะตัดสินใจให้ทุนแก่ทีมใดบ้าง
14
ขโมยวิธีคิดสุดเจ๋ง จากสุดยอดโรงเรียนสอนสตาร์ทอัพ
ทีมที่อยู่ในต�าแหน่งสูงสุด 8 ทีมจากจ�านวน 22 ทีมของแต่ละวันจะได้รับ
โทรศัพท์จากพอล
“เราอยากมอบทุนให้พวกคุณ” พอลจะทักทายเช่นนี้เมื่อเขาโทรไป
ยื่นข้อเสนอ “พวกคุณมี 3 คนใช่ไหม ทุนคือ 17,000 ดอลลาร์ แลกกับหุ้น
7%”
ผู้ก่อตั้งส่วนใหญ่ตกลงรับข้อเสนอทันที แต่พอลอนุญาตให้ทีมที่
ต้องการไตร่ตรองมีเวลาเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย อย่างไรก็ดี พอลอนุญาตให้
ผู้สมัครตกลงหรือไม่ตกลงเท่านั้นเขาจะไม่เจรจาเงื่อนไขอื่นใดเขาอธิบาย
ว่าข้อเสนอของ YC นั้นเป็นแบบทดสอบเชาวน์ปัญญาชนิดหนึ่งส�าหรับ
บรรดาผู้ก่อตั้ง “ถ้าเราขอหุ้น 6% เราจะต้องท�าให้สตาร์ทอัพมีก�าไรเพิ่มขึ้น
อีก 6.4% เพื่อให้ถึงจุดคุ้มทุน” เขาบอก “นั่นเป็นตัวเลขที่ต�่ามาก เพราะ
ฉะนั้นแบบทดสอบเชาว์ปัญญาก็คือพวกเขาจะเข้าใจจุดนี้หรือเปล่า”
จากผู้สมัคร 2,000 บริษัท จะมี 64 บริษัทที่ได้รับเลือก (รุ่นนี้เหลือ
แค่ 63 เพราะมี 1 บริษัทขอถอนตัว)
พอลกล่าวกับผู้ที่มีแนวโน้มว่าจะเป็นผู้สมัครซึ่งยังคงเป็นนักศึกษา
ปริญญาตรีว่า
ถ้าคุณเริ่มก่อตั้งสตาร์ทอัพ คุณอาจจะล้มเหลวก็ได้ มันคือ
ธรรมชาติของธุรกิจแต่การลองท�าบางสิ่งที่มีโอกาสล้มเหลว90%
ไม่จ�าเป็นต้องเป็นเรื่องผิดพลาดเสมอไปถ้าคุณรับมือกับความ
เสี่ยงได้ การล้มเหลวในวัย 40 ตอนที่คุณมีครอบครัวต้องเลี้ยงดู
น่าจะเป็นเรื่องร้ายแรงสาหัส แต่จะเป็นไรไปล่ะถ้าคุณล้มเหลว
15
เด็กกว่า
ตอนอายุ 22 ปี ถ้าคุณพยายามก่อตั้งสตาร์ทอัพขณะเรียนอยู่ใน
มหาวิทยาลัยแล้วมันพังไม่เป็นท่า สุดท้ายแล้วคุณก็จะถังแตก
ตอนอายุ23ปีและฉลาดขึ้นอีกเป็นกองถ้าคุณลองคิดดูมันคือสิ่ง
ที่ใกล้เคียงกับที่คุณหวังว่าจะได้จากการเรียนปริญญาโทหรือเอก
นั่นแหละ
ในฤดูใบไม้ผลิปี 2005 จัสติน คาน วัย 21 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 4 ที่
มหาวิทยาลัยเยล และเอมเม็ตต์ เชียร์ อายุ 21 ปีเท่ากัน และเป็นเพื่อนกัน
มาเกือบทั้งชีวิต ใช้เวลาว่างในการสร้างปฏิทินออนไลน์ชื่อว่า Kiko ค่า
ใช้จ่ายตั้งแต่เริ่มธุรกิจคือ250ดอลลาร์ที่ใช้ไปกับการจดทะเบียนชื่อโดเมน
ตอนที่พอลส่งค�าเชิญมา6สัปดาห์ก่อนจบการศึกษานั้นจัสตินไม่เคยได้ยิน
เกี่ยวกับพอลมาก่อน แต่เอมเม็ตต์เคยจากการอ่านบทความออนไลน์ของ
พอลทั้งสองตัดสินใจกรอกใบสมัครซึ่งพวกเขาไม่น่าจะเคยพบเจอค�าถาม
บางข้อจากทั้งหมด 32 ข้อนั้นมาก่อน
บอกเราภายในหนึ่งหรือสองประโยคเกี่ยวกับสิ่งที่แสดงให้
เห็นว่าผู้ก่อตั้งแต่ละคนนั้นเป็น “สัตว์” ในความหมายที่
บรรยายอยู่ในบทความเรื่อง “วิธีก่อตั้งสตาร์ทอัพ” (บทความ
ของพอล)
เอมเม็ตต์เพิ่งจะเริ่มเรียนเขียนโปรแกรมตอนอำยุ 16 ปี และเรียน
ภำษำ C++ ด้วยตัวเองจำกกำรดูตัวอย่ำง เขำไม่ท�ำอะไรเลย
นอกจำกเขียนโปรแกรม นอน แล้วก็กินอำหำรเผื่อ 6 วันข้ำงหน้ำ
16
ขโมยวิธีคิดสุดเจ๋ง จากสุดยอดโรงเรียนสอนสตาร์ทอัพ
บอกเราภายใน 1-2 ประโยคเกี่ยวกับตัวผู้ก่อตั้งที่แสดงให้
เห็นว่ามีความสามารถสูง
จัสตินก�ำลังจะเรียนจบสำขำฟิสิกส์กับปรัชญำซึ่งเป็นสำขำที่แตก
ต่ำงกันสุดขั้ว เอมเม็ตต์จบจำกโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษำของ
มหำวิทยำลัยวอชิงตันเมื่ออำยุ 14 ปี โรงเรียนแบบนี้มีไว้เพื่อให้
นักเรียนสำมำรถเรียนจบชั้นมัธยมปลำยได้ภำยในปีเดียว
อาจเกิดอะไรผิดพลาดขึ้นได้? (นี่เป็นการทดสอบ
จินตนาการ ไม่ใช่การทดสอบความมั่นใจ)
กูเกิลอำจจะบี้พวกเรำแบนแต๊ดแต๋เหมือนมดด้วยกำรปล่อย
ซอฟต์แวร์ชั้นเลิศออกมำในวันพรุ่งนี้
2-3 วันหลังจากส่งใบสมัครไปทางอีเมล 2 หนุ่มนักศึกษาจาก
มหาวิทยาลัยเยลก็ได้รับค�าตอบว่าใบสมัครของพวกเขาถูกปฏิเสธ
ขอบคุณส�ำหรับกำรสมัครเข้ำร่วมโครงกำรภำคฤดูร้อนส�ำหรับผู้ก่อ
ตั้งสตำร์ทอัพ เรำก�ำลังอ่ำนใบสมัครอยู่ในตอนนี้และน่ำจะตัดสิน
รอบแรกเสร็จภำยใน 2-3 วัน
เรำพบว่ำทีมผู้สมัครมี 3 ประเภทคือ มีแวว ไม่มีแวว และคน
มีแววแต่ไอเดียของพวกเขำไม่มีแวว ทีมของคุณอยู่ในกรณีหลัง
สุด เรำยินดีที่จะนั่งคุยกับทีมที่อยู่ในประเภทนี้แล้วคิดหำไอเดียที่
มีโอกำสท�ำเงินเพรำะฉะนั้นกรุณำแจ้งให้เรำทรำบว่ำพวกคุณเข้ำ
ข่ำยเหล่ำนี้หรือไม่
17
เด็กกว่า
1)มีควำมมุ่งมั่นที่จะท�ำไอเดียปัจจุบันของพวกคุณให้ส�ำเร็จ
2)ยินดีที่จะพิจำรณำไอเดียของพวกคุณในเวอร์ชั่นที่ถูกปรับ
เปลี่ยนแล้ว
3) ยินดีที่จะท�ำงำนกับไอเดียใด ๆ ก็ตำมที่ดี แม้ว่ำจะไม่
เกี่ยวข้องกับไอเดียเดิมเลยก็ตำม
กรุณำอย่ำคิดมำกเป็นเรื่องปกติที่ทีมผู้ก่อตั้งจะเคยมีไอเดีย
ที่ไม่เข้ำท่ำ เรำเองก็เคย แม้แต่บิล เกตส์ กับพอล อัลเลน ก็เคย
เหมือนกัน
ขอบคุณ
พอลเกรแฮมและเทรเวอร์แบล็กเวลล์
จัสตินและเอมเม็ตต์สร้างปฏิทินออนไลน์ของพวกเขามานาน แต่ทั้งสองก็
ท�าใจยอมรับความผิดหวังได้ และดีใจที่ถูกมองว่า “มีแวว” พวกเขาเขียน
ตอบกลับไปว่าจะปรับเปลี่ยนไอเดียของKikoหลังจากนั้นไม่นานพวกเขา
ก็ได้รับข้อความนัดหมายทางอีเมล การพบปะครั้งนี้จะถูกใช้ไปกับการถก
ปัญหาเรื่องไอเดียธุรกิจ
ทั้งสองได้รับเวลา40นาทีเพื่อแก้ต่างให้กับKikoจากนั้นพวกเขาก็
เดินไปรอบๆจัตุรัสฮาร์วาร์ดรอคอยที่จะได้ยินว่าพวกเขาได้รับการยอมรับ
หรือไม่ ประมาณ 6 โมงเย็น เอมเม็ตต์ได้รับโทรศัพท์จากพอล “เราอยาก
ลงทุนในบริษัทคุณเราจะให้เงิน12,000ดอลลาร์แลกกับหุ้นในบริษัทของ
พวกคุณ 4%”
18
ขโมยวิธีคิดสุดเจ๋ง จากสุดยอดโรงเรียนสอนสตาร์ทอัพ
“ผมไม่ได้เว่อร์เลยตอนที่บอกว่าเราดีใจจนกระโดดตัวลอย” จัสติน
เล่าในภายหลัง “มันอาจดูไม่มากส�าหรับคนที่เคยก่อตั้งบริษัทมาก่อน แต่
จากมุมมองของเรา เราเป็นเด็กนักศึกษาที่ไม่มีความรู้ด้านธุรกิจ แต่แล้วก็
มีคนมาบอกว่าบริษัทของเรามีมูลค่า 300,000 ดอลลาร์! มีคนคิดจริงๆ ว่า
มันคือไอเดียที่ดีและเราควรจะท�ามันให้ส�าเร็จ!”จัสตินบอกว่าการได้รับเงิน
ทุนสนับสนุนให้เขาไล่ตามความฝันในการก่อตั้งสตาร์ทอัพคือจุดเปลี่ยน
ชีวิตเขา
*
ผู้สมัครอีกทีมจากไอร์แลนด์มีสมาชิก2คนได้รับเชิญให้มาสัมภาษณ์
(สมาชิกคนที่อาวุโสกว่าอายุ 23 ปี ส่วนคนที่อ่อนกว่าอายุ 18 ปี และยัง
เรียนอยู่มัธยมปลาย)เมื่อถึงเวลาเดวิดดอลฟินเข้ามาในห้องทว่าแพทริก
โอโดเฮอร์ตี ไม่ได้มาด้วย เขาอยู่ที่ดับลิน แล้วจะเข้าร่วมการสัมภาษณ์
ผ่านทางสไกป์
พอลไม่เห็นด้วยที่แพทริกไม่มาด้วยตัวเอง การสื่อสารต่อหน้าถือ
เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ เพราะความจริงใจคงไม่เกิดหากไม่มาปรากฏตัว ทีม
ผู้เข้าสัมภาษณ์รอบสุดท้ายได้รับค�าสั่งให้มาที่ YC ด้วยตัวเองพร้อมกัน
ทั้งทีม ทีมผู้เข้าสัมภาษณ์รอบสุดท้ายที่หลั่งไหลมาจากทั่วโลก รวมถึง
ไอซ์แลนด์ อังกฤษ เดนมาร์ก ตุรกี แอฟริกาใต้ อินเดีย จีน ฮ่องกง และ
ออสเตรเลียจะต้องอดทนต่อความไม่สะดวกและเป็นผู้แบกรับภาระเรื่อง
19
เด็กกว่า
ค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่ YC จะคืนเงินค่าเดินทางให้สูงสุดแค่ทีมละ 600
ดอลลาร์เท่านั้น
หากได้รับการสนับสนุนเงินทุน ผู้ก่อตั้งบริษัททุกคนจะต้องมาอยู่ที่
ซิลิคอนวัลเลย์เพื่อเข้าร่วมโครงการเป็นระยะเวลา3เดือนนี่เป็นเรื่องจ�าเป็น
เพราะเวลาปรึกษาพอลและกุนซือคนอื่นๆพวกเขาจะต้องคุยกันแบบเผชิญ
หน้าหรือ“เผชิญข้าง”ในกรณีของพอลขณะที่เขาเดินไปมาบนถนนโดยที่
มีบรรดาผู้ก่อตั้งอยู่เคียงข้าง เดินไปคุยกันไป
พอลถามว่าอะไรคือสาเหตุที่แพทริกขัดขืนข้อเรียกร้องที่ให้ผู้
ก่อตั้งบริษัททุกคนมาด้วยตัวเอง “ท�าไมคุณถึงไม่มาสัมภาษณ์ล่ะ?” เขา
ถามแพทริกผ่านคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กของเดวิด
“ความจริงแล้วตอนนี้ผมควรจะอ่านหนังสือเตรียมสอบปลายภาค
และพ่อกับแม่ก็ยื่นค�าขาดว่าไม่ให้ผมไปครับ”เสียงของแพทริกดังลอดออก
มาจากโน้ตบุ๊คของเดวิด
“แล้วพ่อแม่คุณจะรู้สึกยังไงกับการที่คุณเข้าร่วมกับYCเราไม่แน่ใจ
ว่าการสนับสนุนเงินทุนให้กับเด็กอายุ18จะเป็นเรื่องดีไม่อยากท�าให้ชีวิต
ของใครพังน่ะ”
“พวกท่านก็เข้าใจอยู่นะครับว่าผมชอบท�าเรื่องลับสมอง” แพทริก
กล่าว “ไม่ใช่ว่าผมอยากจะเลิกเรียนหนังสือเร็วขึ้นเป็นพิเศษนะครับ แต่
ตอนนี้ธุรกิจเทคโนโลยีคือสิ่งดีที่ควรท�า”
20
ขโมยวิธีคิดสุดเจ๋ง จากสุดยอดโรงเรียนสอนสตาร์ทอัพ
“มันอาจจะไม่ได้ให้ความรู้เสริมสร้างสติปัญญาอย่างที่คุณคิดก็ได้
นะ”พอลพูดแสดงการบั่นทอนก�าลังใจออกมาให้เห็นแต่แพทริกและเดวิด
ยังยืนหยัดตอบค�าถามได้ดี หลังจบการสัมภาษณ์และเดวิดออกจากห้อง
ไปแล้วพอลพูดว่า“ผมชอบ2คนนี้พวกเขาดูมีวุฒิภาวะมากกว่าอายุจริง”
*
ถัดไป กลุ่มนักศึกษาปีหนึ่ง อายุ 18 ปี จ�านวน 4 คน เดินเข้ามาใน
ห้องไอเดียของพวกเขาโดนปฏิเสธแบบเดียวกันเมื่อนั่งลงแล้วสมาชิกคน
หนึ่งของทีมก็เล่าความเคลื่อนไหวให้พอลฟังทันที“หลังจากที่พวกเราได้รับ
ข้อความที่คุณบอกว่า ‘เราชอบพวกคุณมากกว่าไอเดียของพวกคุณ’ เราก็
ระดมความคิดกันอยู่หลายวันครับ” พวกเขาอวดผลลัพธ์ที่ได้ นั่นก็คือ
ซอฟต์แวร์ที่ช่วยแสดงบทความบนทวิตเตอร์ให้อ่านง่ายขึ้น พอลไม่สนใจ
ไอเดียนี้
พอลถามโดยพูดเบาลงจนแทบเป็นเสียงกระซิบว่า “ท�าไมถึงเป็น
ตอนนี้? ท�าไมไม่รอขึ้นปีสองก่อนล่ะ? ผมรู้ว่าพวกคุณรู้สึกว่าปีสองมันแก่
เกิน แต่ผมขอบอกเลยว่าไม่จริง”
“ท�าของจริงแล้วได้ความรู้เยอะกว่าเข้าคลาสน่ะครับ”
อีกคนพูดว่า “เราตื่นเต้นมากกับโอกาสที่มาถึงจนเราไม่อยากถอย
หลังกลับ”ก่อนหน้านี้พวกเขาสร้างแอพพลิเคชั่นที่แสดงให้ผู้ใช้งานเฟซบุ๊ก
เห็นเพื่อนๆ บนกูเกิลแมพ มันเป็นที่นิยมในมหาวิทยาลัยของพวกเขาอยู่
พักหนึ่ง แต่จากนั้นก็ไม่มีใครใช้มันอีกเลย
21
เด็กกว่า
พอลถาม “พวกคุณมีไอเดียที่จะท�าให้คนควักกระเป๋าไหม? เพราะ
พวกคุณก็รู้ว่าข้อผิดพลาดใหญ่หลวงของผู้ก่อตั้งบริษัทอายุน้อยก็คือพวก
เขาผลิตของประเภทที่แทบจะไม่มีคนซื้อ” เขาพูดต่อว่า “การบังคับตัวเอง
ให้ท�าของที่ขายได้จริงๆ อาจเป็นการฝึกวินัยที่ดีก็ได้ มันอาจเป็นธุรกิจที่
ดูไม่จริงใจ เป็นธุรกิจออนไลน์ที่น่าเบื่อเหมือนอู่ซ่อมรถ แต่ก็นี่แหละความ
เป็นจริง”
สัญญาณหมดเวลาดังขึ้น “เอาละหนุ่มๆ เราจะติดต่อทุกคนใน
คืนนี้” เขาบอก
หลังจากทีมนี้ไปแล้ว พอลก็บันทึกการประเมินผลของเขาในแง่ลบ
“ผมรู้สึกว่าพวกเขาเด็กมาก ไม่มีความเป็นผู้ใหญ่”
*
แต่ไหนแต่ไร พอลก็ชอบทีมอายุน้อยที่สมาชิกทุกคนเป็นแฮกเกอร์
ในบรรดาทีมที่เข้ารอบสุดท้ายของรุ่นฤดูร้อนปี 2011 ทีม CampusCred
นั้นผิดแผกจากทีมอื่นคือมีสมาชิกเพียงคนเดียวจาก3คนที่เป็นแฮกเกอร์
คนที่ไม่ได้เป็นแฮกเกอร์ยังเป็นนักศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยเบิร์กลีย์เว็บไซต์
ของพวกเขาเสนอโปรโมชั่นจากร้านค้าต่างๆ ที่อยู่ใกล้มหาวิทยาลัยให้กับ
นักศึกษา
“พวกคุณอยู่ทางใต้แถวซานตาบาร์บาราหรือซานดิเอโกหรือแถวๆ
นั้นสินะ”พอลทักทายขณะอ่านใบสมัครของทีมนี้บนโน้ตบุ๊กยากที่จะบอก
ได้ว่าเขาพูดด้วยน�้าเสียงที่ถูกใจหรือไม่ถูกใจกันแน่
22
ขโมยวิธีคิดสุดเจ๋ง จากสุดยอดโรงเรียนสอนสตาร์ทอัพ
“ครับ พวกเราอยู่ทางใต้ของลอสแอนเจลิส” สมาชิกคนหนึ่งในทีม
CampusCred ตอบ
พอลเห็นได้ว่าพวกเขาประหม่า“การไม่เกี่ยงงานหนักเป็นสัญญาณ
ที่ดี” เขาพูดให้หนุ่มๆ รู้สึกอุ่นใจ
เขาได้รับกระดาษสีสันสดใส2แผ่นที่แสดงให้เห็นว่าในฤดูใบไม้ร่วง
ที่ผ่านมา CampusCred เสนอโปรโมชั่นส่วนลดให้กับนักศึกษาที่
มหาวิทยาลัยเบิร์กลีย์ ต่อมาในภาคฤดูใบไม้ผลิที่ก�าลังด�าเนินอยู่นั้น
พวกเขาเพิ่มมหาวิทยาลัยเดวิส มหาวิทยาลัยซานตาครูซ มหาวิทยาลัย
ลอสแอนเจลิส มหาวิทยาลัยซานดิเอโก และมหาวิทยาลัยเซาธ์เทิร์น
แคลิฟอร์เนียเข้าไป รายได้รวม 117,000 ดอลลาร์ จ�านวนผู้ใช้งานทั้งสิ้น
11,446 คน อัตราการเติบโตต่อสัปดาห์ 10% นับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์
จ�านวนหน้าเว็บไซต์ที่มีคนเข้าชมรวม 491,391 หน้า การเข้าชมเว็บไซต์
141,364 ครั้ง
“เอาละ นั่นก็ดูดีนะ! มีอะไรไม่ชอบล่ะ?” ระดับความกระตือรือร้นที่
พอลแสดงออกนั้นผิดปกติที่สุด แต่ผู้ก่อตั้งสตาร์ทอัพที่อยู่ในห้องต่างก็ไม่
ตระหนักถึงเรื่องนั้น
สมาชิกคนหนึ่งอธิบายว่า กรุ๊ปปอน1
และเว็บไซต์เสนอสินค้าและ
บริการลดราคาอื่นๆ ไม่ได้พยายามที่จะขายสิ่งเหล่านั้นให้กับนักศึกษา
“พวกเขาท�าอะไรผิดไปเหรอ?”
1
Groupon.com คือเว็บไซต์ที่เสนอการซื้อดีลราคาพิเศษในระยะเวลาจ�ากัด หรือก�าหนด
จ�านวนคนซื้อเพื่อรับส่วนลด เปิดให้บริการแล้วกว่า 150 ประเทศทั่วโลก
23
เด็กกว่า
“พวกเขาแค่ไม่รู้วิธีที่จะเข้าถึงนักศึกษาหรือท�าการตลาดที่เหมาะสม
ครับ” ทีม CampusCred พบว่าการเสนอขายแก้วช็อตส�าหรับดื่มเหล้าที่มี
โลโก้ของCampusCredพิมพ์อยู่ด้านใต้ให้กับนักศึกษาเป็นโปรโมชั่นที่ได้
รับความนิยมนอกจากนี้บริษัทยัง“ร่วมมือ”กับสมาคมหรือองค์กรต่างๆที่
ยินดีจะติดป้ายขนาดใหญ่ของ CampusCred ไว้นอกตึกเพื่อแลกกับเงิน
บริจาคอีกด้วย
พอลระงับความตื่นเต้นไว้ไม่ได้ “ถ้าผมเป็นพวกคุณนะ ผมจะ
วางแผนยึดครองแต่ละมหาวิทยาลัย แล้วพวกคุณก็ลงมือยึดครองซะให้
หมด ไม่มีขีดจ�ากัดเลยสักนิดเดียว! ยึดให้หมดเดือนหน้าเลย!”
ทีมผู้ก่อตั้งหัวเราะ คิดว่าเป็นไปไม่ได้ที่พอลจะจริงจัง แต่พอลคิด
เช่นนั้นจริง ๆ
แซม อัลต์แมน ถามทีม CampusCred ว่า “แล้วท�าไมพวกคุณถึง
จะไม่ท�าล่ะ?”
“เราจ�าเป็นต้องมีตัวแทนที่มหาวิทยาลัยครับ”สมาชิกคนหนึ่งในทีม
ตอบ ตัวแทนคือคนที่รับสมัครร้านค้าในท้องถิ่นแล้วจัดโปรโมชั่นและขาย
บนเว็บไซต์
แซมสังเกตเห็นว่ามีอีกอย่างที่น่าทึ่งบนเว็บไซต์ใหญ่ๆอย่างกรุ๊ปปอน
ลูกค้า 85% เป็นผู้หญิง แต่ลูกค้าของ CampusCred นั้นมีทั้งผู้หญิงและ
ผู้ชายจ�านวนเกือบเท่ากัน “ท�าไมถึงเป็นอย่างนั้นล่ะ?” เขาถาม
“โปรโมชั่นส่วนใหญ่ของกรุ๊ปปอนจะเกี่ยวข้องกับสุขภาพและสปา
ครับ แต่ของเราไม่ใช่”
24
ขโมยวิธีคิดสุดเจ๋ง จากสุดยอดโรงเรียนสอนสตาร์ทอัพ
เมื่อถูกขอให้ประเมินขนาดของตลาดที่เป็นไปได้ทีมCampusCred
ก็บ่ายเบี่ยงเห็นได้ชัดว่าพวกเขาเกรงว่าจะดูเหมือนเพ้อเจ้อสมาชิกคนหนึ่ง
เริ่มพูดอย่างลังเล“เราเคยคาดการณ์ในเบื้องต้นว่าเราจะไปถึงไหนถ้าปีนึง
เราท�าได้ 100 มหาวิทยาลัย...”
“ท�าไมถึงไม่ท�าเดือนละ 100 มหาวิทยาลัยล่ะ?” พอลสงสัย
“เราต้องใช้เงิน 2-3 พันดอลลาร์ส�าหรับ 1 มหาวิทยาลัยครับ”
“แล้วตอนนี้พวกคุณมีก�าไรหรือยัง?”
“มีครับ”
“ถ้าผมสนับสนุนเงินทุนให้พวกคุณนะ ผมจะส่งพวกคุณไปให้
นักลงทุนอย่างเร็วจี๋เลย จะได้ไปหาเงินแล้วก็หาเมืองขึ้นกัน”
หลังจบการสัมภาษณ์และทีม CampusCred จากไปแล้ว พอลก็
รู้สึกปลาบปลื้มยินดี“ตอนนี้เรามีมาตรฐานแล้วว่าของดีต้องเป็นแบบไหน”
25
สูงวัยกว่า
2
สูงวัยกว่า
“ถ้าผมต้องเลือกอายุที่เหมาะสมส�าหรับผู้ก่อตั้งสตาร์ทอัพ ก็น่าจะเป็น
ราวๆ 24 ถึง 26 ปี” พอล เกรแฮม เขียนไว้ในบทความชิ้นหนึ่งในเดือน
ตุลาคม ปี 2006 บทความนี้มาจากค�าปราศรัยที่เขากล่าวกับนักศึกษาปีสี่
ของมหาวิทยาลัยเอ็มไอทีซึ่งก�าลังใคร่ครวญว่าจะเรียนต่อปริญญาโทหรือ
หางานท�า หรือเริ่มก่อตั้งสตาร์ทอัพอย่างที่พอลหวังไว้
ณ ขณะนั้น YC มอบทุนให้กับสตาร์ทอัพไปแล้ว 3 รุ่น พอลได้เห็น
ว่า หากบริษัทล้มเหลว ผู้ก่อตั้งที่อายุน้อยที่สุดที่ยังเรียนอยู่ก็ไม่จนตรอก
เขาจึงคิดว่าวัยที่เหมาะสมที่สุดส�าหรับความท้าทายของสตาร์ทอัพคือ 25
ปี เพราะส�าหรับพวกเขาจะไม่มีการถอยหลังกลับไปเรียนใหม่ ความ
ล้มเหลวจะเป็นเรื่องน่าอับอายทั้งต่อพ่อแม่และเพื่อนฝูงอย่างเห็นได้ชัดนั่น
ท�าให้แน่ใจได้ว่าพวกเขาจะมุ่งมั่นเต็มพิกัดกับบริษัท
แต่การรอนานเกินไป ผู้ที่ใฝ่ฝันว่าจะท�าธุรกิจก็จะมีภาระผูกพัน
ผู้สมัครที่อยู่ในวัย30ต้นๆส่วนใหญ่มีแนวโน้มว่าจะมีลูกและมีหนี้ซึ่งท�าให้
พวกเขาเสียเปรียบคนอายุ25ปี“คนอายุ32ปีอาจจะเก่งกว่าแต่ก็เป็นไป
ได้เช่นกันที่จะมีค่าใช้จ่ายในการด�ารงชีวิตที่สูงกว่า” พอลเขียนไว้เช่นนั้น
26
ขโมยวิธีคิดสุดเจ๋ง จากสุดยอดโรงเรียนสอนสตาร์ทอัพ
คนอายุ 25 ปีมีข้อได้เปรียบที่สุด ซึ่งรวมถึง “ความทรหด ความขัดสน การ
ยังไม่ลงหลักปักฐาน เพื่อนร่วมงาน และความเขลา”
ค�าว่า“เพื่อนร่วมงาน”พอลหมายถึงเพื่อนที่มหาวิทยาลัยที่พวกเขา
รู้จักดี คนเหล่านี้มีสิทธิ์ที่จะเป็นผู้ก่อตั้งสตาร์ทอัพด้วยกันในอนาคต ส่วน
ค�าว่า “ความเขลา” ซึ่งพอลยอมรับว่าเขาตั้งใจเลือกใช้ค�านี้เพื่อเป็นการ
ยั่วยุ หมายถึงคนไร้เดียงสาที่ไม่ตระหนักถึงความยากล�าบากของการ
มีสตาร์ทอัพ การไม่รู้ว่ามีอะไรรอคอยอยู่เบื้องหน้าเป็นสิ่งดีที่สุดส�าหรับ
ผู้ก่อตั้ง ไม่อย่างนั้นพวกเขาอาจจะไม่ลองพยายามเลยด้วยซ�้า
“ก�าไรพอซื้อมาม่ากิน” คือคติของพอลที่เป็นที่รู้จักกันดีที่สุด หมาย
ถึงช่วงเวลาที่พอลบอกว่าสตาร์ทอัพ “ท�าก�าไรได้แค่พออยู่ส�าหรับผู้ก่อตั้ง
เท่านั้น” ซึ่งก�าไรนั้นจะพอก็ต่อเมื่อผู้ก่อตั้งมีค่าใช้จ่ายที่ต�่าพอตัว
พอลรู้ดีว่าชีวิตของสตาร์ทอัพเป็นอย่างไรจากช่วงเวลา3ปีตั้งแต่ปี
1995 ถึง 1998 สิบปีก่อนที่เขาจะก่อตั้ง YC ประสบการณ์นั้นจบลงอย่าง
สวยงามส�าหรับเขา เขาขายบริษัทเวียเว็บให้กับยาฮู และร�่ารวยมั่งคั่ง
มากพอจนไม่จ�าเป็นต้องท�างานอีกต่อไปและเขาก็ไม่เสี่ยงโชคอีกครั้งด้วย
การสร้างสตาร์ทอัพขึ้นมาใหม่ เพราะเขารู้ดีว่าประสบการณ์ในการท�า
สตาร์ทอัพนั้นท�าให้ท้อถอยหมดก�าลังใจเพียงใด เหตุผลอีกประการก็คือ
ความร�่ารวยท�าให้เขาหมดแรงจูงใจ เขาเกือบจะสร้างสตาร์ทอัพใหม่ถึง 2
ครั้ง ทว่า “ผมล้มเลิกทั้ง 2 ครั้งเพราะรู้ดีว่าถ้าไม่มีความอัตคัตขัดสนเป็น
ตัวกระตุ้น ผมก็ไม่ยินดีที่จะอดทนกับความเครียดในการท�าสตาร์ทอัพ”
*
ตัวอย่างหนังสือ ขโมยวิธีคิดสุดเจ๋ง จากสุดยอดโรงเรียนสอนสตาร์ทอัพ
ตัวอย่างหนังสือ ขโมยวิธีคิดสุดเจ๋ง จากสุดยอดโรงเรียนสอนสตาร์ทอัพ
ตัวอย่างหนังสือ ขโมยวิธีคิดสุดเจ๋ง จากสุดยอดโรงเรียนสอนสตาร์ทอัพ
ตัวอย่างหนังสือ ขโมยวิธีคิดสุดเจ๋ง จากสุดยอดโรงเรียนสอนสตาร์ทอัพ
ตัวอย่างหนังสือ ขโมยวิธีคิดสุดเจ๋ง จากสุดยอดโรงเรียนสอนสตาร์ทอัพ
ตัวอย่างหนังสือ ขโมยวิธีคิดสุดเจ๋ง จากสุดยอดโรงเรียนสอนสตาร์ทอัพ
ตัวอย่างหนังสือ ขโมยวิธีคิดสุดเจ๋ง จากสุดยอดโรงเรียนสอนสตาร์ทอัพ
ตัวอย่างหนังสือ ขโมยวิธีคิดสุดเจ๋ง จากสุดยอดโรงเรียนสอนสตาร์ทอัพ
ตัวอย่างหนังสือ ขโมยวิธีคิดสุดเจ๋ง จากสุดยอดโรงเรียนสอนสตาร์ทอัพ
ตัวอย่างหนังสือ ขโมยวิธีคิดสุดเจ๋ง จากสุดยอดโรงเรียนสอนสตาร์ทอัพ
ตัวอย่างหนังสือ ขโมยวิธีคิดสุดเจ๋ง จากสุดยอดโรงเรียนสอนสตาร์ทอัพ
ตัวอย่างหนังสือ ขโมยวิธีคิดสุดเจ๋ง จากสุดยอดโรงเรียนสอนสตาร์ทอัพ
ตัวอย่างหนังสือ ขโมยวิธีคิดสุดเจ๋ง จากสุดยอดโรงเรียนสอนสตาร์ทอัพ
ตัวอย่างหนังสือ ขโมยวิธีคิดสุดเจ๋ง จากสุดยอดโรงเรียนสอนสตาร์ทอัพ
ตัวอย่างหนังสือ ขโมยวิธีคิดสุดเจ๋ง จากสุดยอดโรงเรียนสอนสตาร์ทอัพ
ตัวอย่างหนังสือ ขโมยวิธีคิดสุดเจ๋ง จากสุดยอดโรงเรียนสอนสตาร์ทอัพ
ตัวอย่างหนังสือ ขโมยวิธีคิดสุดเจ๋ง จากสุดยอดโรงเรียนสอนสตาร์ทอัพ
ตัวอย่างหนังสือ ขโมยวิธีคิดสุดเจ๋ง จากสุดยอดโรงเรียนสอนสตาร์ทอัพ
ตัวอย่างหนังสือ ขโมยวิธีคิดสุดเจ๋ง จากสุดยอดโรงเรียนสอนสตาร์ทอัพ

More Related Content

What's hot

ข้าวผัดกะเพรา
ข้าวผัดกะเพราข้าวผัดกะเพรา
ข้าวผัดกะเพรา
Silver Bullet
 
Chapter 2 innovation development in business organizations
Chapter 2 innovation development in business organizationsChapter 2 innovation development in business organizations
Chapter 2 innovation development in business organizations
Teetut Tresirichod
 
โรคเบาหวานและการตรวจวัด โดยอาจารย์ธราธิป เรืองวิทยานนท์
โรคเบาหวานและการตรวจวัด โดยอาจารย์ธราธิป เรืองวิทยานนท์โรคเบาหวานและการตรวจวัด โดยอาจารย์ธราธิป เรืองวิทยานนท์
โรคเบาหวานและการตรวจวัด โดยอาจารย์ธราธิป เรืองวิทยานนท์
Utai Sukviwatsirikul
 
โครงงาน
โครงงาน โครงงาน
โครงงาน
praifa1122
 
แบบประเมินโครงงาน1โดยอาจารย์ที่ปรึกษาก่อนpresent
แบบประเมินโครงงาน1โดยอาจารย์ที่ปรึกษาก่อนpresentแบบประเมินโครงงาน1โดยอาจารย์ที่ปรึกษาก่อนpresent
แบบประเมินโครงงาน1โดยอาจารย์ที่ปรึกษาก่อนpresentthanapat yeekhaday
 
โครงร่างรายงาน6/5
โครงร่างรายงาน6/5โครงร่างรายงาน6/5
โครงร่างรายงาน6/5
ChutimaKerdpom
 
การสื่อสารในองค์กร
การสื่อสารในองค์กรการสื่อสารในองค์กร
การสื่อสารในองค์กร
tanongsak
 
เศรษฐศาสตร์เชิงพุทธ
เศรษฐศาสตร์เชิงพุทธเศรษฐศาสตร์เชิงพุทธ
เศรษฐศาสตร์เชิงพุทธKasetsart University
 
ทรัพยากรสารนิเทศ
ทรัพยากรสารนิเทศทรัพยากรสารนิเทศ
ทรัพยากรสารนิเทศSupaporn Khiewwan
 
บทที่ 3 เทคโนโลยีสารสนเทศ
บทที่ 3 เทคโนโลยีสารสนเทศบทที่ 3 เทคโนโลยีสารสนเทศ
บทที่ 3 เทคโนโลยีสารสนเทศ
Wanphen Wirojcharoenwong
 
Script vdo สพก
Script vdo สพกScript vdo สพก
Script vdo สพก
Jitiya Purksametanan
 
Chapter 1 landscape of design
Chapter 1 landscape of designChapter 1 landscape of design
Chapter 1 landscape of design
Teetut Tresirichod
 
รูปแบบการสัมมนา
รูปแบบการสัมมนารูปแบบการสัมมนา
รูปแบบการสัมมนา
วัดดอนทอง กาฬสินธุ์
 
สารพันเลือกสรรตีความ
สารพันเลือกสรรตีความสารพันเลือกสรรตีความ
สารพันเลือกสรรตีความพัน พัน
 
การจัดการความขัดแย้ง
การจัดการความขัดแย้งการจัดการความขัดแย้ง
การจัดการความขัดแย้ง
Nabavee Serpa
 
บทที่ 1 มิติทางด้านวัฒนธรรมกับเจรจาต่อรองข้ามชาติ
บทที่ 1 มิติทางด้านวัฒนธรรมกับเจรจาต่อรองข้ามชาติบทที่ 1 มิติทางด้านวัฒนธรรมกับเจรจาต่อรองข้ามชาติ
บทที่ 1 มิติทางด้านวัฒนธรรมกับเจรจาต่อรองข้ามชาติ
Teetut Tresirichod
 
ปัญหาสังคมไทยในปัจจุบันและแนวทางการแก้ปัญหาโดยสันติวิธี
ปัญหาสังคมไทยในปัจจุบันและแนวทางการแก้ปัญหาโดยสันติวิธีปัญหาสังคมไทยในปัจจุบันและแนวทางการแก้ปัญหาโดยสันติวิธี
ปัญหาสังคมไทยในปัจจุบันและแนวทางการแก้ปัญหาโดยสันติวิธี
พระอภิชัช ธมฺมโชโต
 
โครงงานเทคโนโลยีสารสนเทศ
โครงงานเทคโนโลยีสารสนเทศโครงงานเทคโนโลยีสารสนเทศ
โครงงานเทคโนโลยีสารสนเทศ
Inam Chatsanova
 

What's hot (20)

ข้าวผัดกะเพรา
ข้าวผัดกะเพราข้าวผัดกะเพรา
ข้าวผัดกะเพรา
 
Chapter 2 innovation development in business organizations
Chapter 2 innovation development in business organizationsChapter 2 innovation development in business organizations
Chapter 2 innovation development in business organizations
 
โรคเบาหวานและการตรวจวัด โดยอาจารย์ธราธิป เรืองวิทยานนท์
โรคเบาหวานและการตรวจวัด โดยอาจารย์ธราธิป เรืองวิทยานนท์โรคเบาหวานและการตรวจวัด โดยอาจารย์ธราธิป เรืองวิทยานนท์
โรคเบาหวานและการตรวจวัด โดยอาจารย์ธราธิป เรืองวิทยานนท์
 
โครงงาน
โครงงาน โครงงาน
โครงงาน
 
แบบประเมินโครงงาน1โดยอาจารย์ที่ปรึกษาก่อนpresent
แบบประเมินโครงงาน1โดยอาจารย์ที่ปรึกษาก่อนpresentแบบประเมินโครงงาน1โดยอาจารย์ที่ปรึกษาก่อนpresent
แบบประเมินโครงงาน1โดยอาจารย์ที่ปรึกษาก่อนpresent
 
โครงร่างรายงาน6/5
โครงร่างรายงาน6/5โครงร่างรายงาน6/5
โครงร่างรายงาน6/5
 
การสื่อสารในองค์กร
การสื่อสารในองค์กรการสื่อสารในองค์กร
การสื่อสารในองค์กร
 
เศรษฐศาสตร์เชิงพุทธ
เศรษฐศาสตร์เชิงพุทธเศรษฐศาสตร์เชิงพุทธ
เศรษฐศาสตร์เชิงพุทธ
 
ทรัพยากรสารนิเทศ
ทรัพยากรสารนิเทศทรัพยากรสารนิเทศ
ทรัพยากรสารนิเทศ
 
ปรัชญาและปรัชญาการศึกษา
ปรัชญาและปรัชญาการศึกษาปรัชญาและปรัชญาการศึกษา
ปรัชญาและปรัชญาการศึกษา
 
บทที่ 3 เทคโนโลยีสารสนเทศ
บทที่ 3 เทคโนโลยีสารสนเทศบทที่ 3 เทคโนโลยีสารสนเทศ
บทที่ 3 เทคโนโลยีสารสนเทศ
 
Script vdo สพก
Script vdo สพกScript vdo สพก
Script vdo สพก
 
Chapter 1 landscape of design
Chapter 1 landscape of designChapter 1 landscape of design
Chapter 1 landscape of design
 
รูปแบบการสัมมนา
รูปแบบการสัมมนารูปแบบการสัมมนา
รูปแบบการสัมมนา
 
สารพันเลือกสรรตีความ
สารพันเลือกสรรตีความสารพันเลือกสรรตีความ
สารพันเลือกสรรตีความ
 
การจัดการความขัดแย้ง
การจัดการความขัดแย้งการจัดการความขัดแย้ง
การจัดการความขัดแย้ง
 
การแนะแนว
การแนะแนวการแนะแนว
การแนะแนว
 
บทที่ 1 มิติทางด้านวัฒนธรรมกับเจรจาต่อรองข้ามชาติ
บทที่ 1 มิติทางด้านวัฒนธรรมกับเจรจาต่อรองข้ามชาติบทที่ 1 มิติทางด้านวัฒนธรรมกับเจรจาต่อรองข้ามชาติ
บทที่ 1 มิติทางด้านวัฒนธรรมกับเจรจาต่อรองข้ามชาติ
 
ปัญหาสังคมไทยในปัจจุบันและแนวทางการแก้ปัญหาโดยสันติวิธี
ปัญหาสังคมไทยในปัจจุบันและแนวทางการแก้ปัญหาโดยสันติวิธีปัญหาสังคมไทยในปัจจุบันและแนวทางการแก้ปัญหาโดยสันติวิธี
ปัญหาสังคมไทยในปัจจุบันและแนวทางการแก้ปัญหาโดยสันติวิธี
 
โครงงานเทคโนโลยีสารสนเทศ
โครงงานเทคโนโลยีสารสนเทศโครงงานเทคโนโลยีสารสนเทศ
โครงงานเทคโนโลยีสารสนเทศ
 

Similar to ตัวอย่างหนังสือ ขโมยวิธีคิดสุดเจ๋ง จากสุดยอดโรงเรียนสอนสตาร์ทอัพ

สรรสร้าง แบรนด์ สร้างสรรค์
สรรสร้าง แบรนด์ สร้างสรรค์สรรสร้าง แบรนด์ สร้างสรรค์
สรรสร้าง แบรนด์ สร้างสรรค์
Utai Sukviwatsirikul
 
ทัศนภาพธุรกิจอนาคต2
ทัศนภาพธุรกิจอนาคต2ทัศนภาพธุรกิจอนาคต2
ทัศนภาพธุรกิจอนาคต2
DrDanai Thienphut
 
ทัศนภาพธุรกิจ ตอบจบ
ทัศนภาพธุรกิจ ตอบจบ ทัศนภาพธุรกิจ ตอบจบ
ทัศนภาพธุรกิจ ตอบจบ DrDanai Thienphut
 
Low cost marketing
Low cost marketingLow cost marketing
Low cost marketingChao Onlamai
 
Connectivity customer relationship community society
Connectivity  customer  relationship  community societyConnectivity  customer  relationship  community society
Connectivity customer relationship community societySirirat Yimthanom
 

Similar to ตัวอย่างหนังสือ ขโมยวิธีคิดสุดเจ๋ง จากสุดยอดโรงเรียนสอนสตาร์ทอัพ (6)

สรรสร้าง แบรนด์ สร้างสรรค์
สรรสร้าง แบรนด์ สร้างสรรค์สรรสร้าง แบรนด์ สร้างสรรค์
สรรสร้าง แบรนด์ สร้างสรรค์
 
ทัศนภาพธุรกิจอนาคต2
ทัศนภาพธุรกิจอนาคต2ทัศนภาพธุรกิจอนาคต2
ทัศนภาพธุรกิจอนาคต2
 
ทัศนภาพธุรกิจ ตอบจบ
ทัศนภาพธุรกิจ ตอบจบ ทัศนภาพธุรกิจ ตอบจบ
ทัศนภาพธุรกิจ ตอบจบ
 
Low cost marketing
Low cost marketingLow cost marketing
Low cost marketing
 
Connectivity customer relationship community society
Connectivity  customer  relationship  community societyConnectivity  customer  relationship  community society
Connectivity customer relationship community society
 
E commerce1
E commerce1E commerce1
E commerce1
 

More from Piyapong Sirisutthanant

ตัวอย่าง_หนังสือความสำเร็จเริ่มจากรายล้อมตัวเองด้วยคนที่ใช่.pdf
ตัวอย่าง_หนังสือความสำเร็จเริ่มจากรายล้อมตัวเองด้วยคนที่ใช่.pdfตัวอย่าง_หนังสือความสำเร็จเริ่มจากรายล้อมตัวเองด้วยคนที่ใช่.pdf
ตัวอย่าง_หนังสือความสำเร็จเริ่มจากรายล้อมตัวเองด้วยคนที่ใช่.pdf
Piyapong Sirisutthanant
 
ตัวอย่าง_หนังสือวิธีเซฟใจในวันที่ครอบครัวไม่ใช่เซฟโซน.pdf
ตัวอย่าง_หนังสือวิธีเซฟใจในวันที่ครอบครัวไม่ใช่เซฟโซน.pdfตัวอย่าง_หนังสือวิธีเซฟใจในวันที่ครอบครัวไม่ใช่เซฟโซน.pdf
ตัวอย่าง_หนังสือวิธีเซฟใจในวันที่ครอบครัวไม่ใช่เซฟโซน.pdf
Piyapong Sirisutthanant
 
ตัวอย่าง_หนังสือสำเร็จทุกเป้าหมายด้วยการจัดระเบียบชีวิตดิจิทัล.pdf
ตัวอย่าง_หนังสือสำเร็จทุกเป้าหมายด้วยการจัดระเบียบชีวิตดิจิทัล.pdfตัวอย่าง_หนังสือสำเร็จทุกเป้าหมายด้วยการจัดระเบียบชีวิตดิจิทัล.pdf
ตัวอย่าง_หนังสือสำเร็จทุกเป้าหมายด้วยการจัดระเบียบชีวิตดิจิทัล.pdf
Piyapong Sirisutthanant
 
ตัวอย่าง_หนังสือทักษะออกแบบชีวิตที่ใช้ได้ตลอดชีวิต.pdf
ตัวอย่าง_หนังสือทักษะออกแบบชีวิตที่ใช้ได้ตลอดชีวิต.pdfตัวอย่าง_หนังสือทักษะออกแบบชีวิตที่ใช้ได้ตลอดชีวิต.pdf
ตัวอย่าง_หนังสือทักษะออกแบบชีวิตที่ใช้ได้ตลอดชีวิต.pdf
Piyapong Sirisutthanant
 
ตัวอย่างหนังสือ 8 กฎทองของคนอยากเข้าใจรัก.pdf
ตัวอย่างหนังสือ 8 กฎทองของคนอยากเข้าใจรัก.pdfตัวอย่างหนังสือ 8 กฎทองของคนอยากเข้าใจรัก.pdf
ตัวอย่างหนังสือ 8 กฎทองของคนอยากเข้าใจรัก.pdf
Piyapong Sirisutthanant
 
ตัวอย่างหนังสือ_เลิกขายดีกำไรน้อย ยุคนี้ต้องขายน้อยกำไรงาม.pdf
ตัวอย่างหนังสือ_เลิกขายดีกำไรน้อย ยุคนี้ต้องขายน้อยกำไรงาม.pdfตัวอย่างหนังสือ_เลิกขายดีกำไรน้อย ยุคนี้ต้องขายน้อยกำไรงาม.pdf
ตัวอย่างหนังสือ_เลิกขายดีกำไรน้อย ยุคนี้ต้องขายน้อยกำไรงาม.pdf
Piyapong Sirisutthanant
 
ตัวอย่างหนังสือ_กล้าที่จะเลิก คำว่าพ่ายแพ้ไม่ได้หมายความว่าพยายามไม่พอ.pdf
ตัวอย่างหนังสือ_กล้าที่จะเลิก คำว่าพ่ายแพ้ไม่ได้หมายความว่าพยายามไม่พอ.pdfตัวอย่างหนังสือ_กล้าที่จะเลิก คำว่าพ่ายแพ้ไม่ได้หมายความว่าพยายามไม่พอ.pdf
ตัวอย่างหนังสือ_กล้าที่จะเลิก คำว่าพ่ายแพ้ไม่ได้หมายความว่าพยายามไม่พอ.pdf
Piyapong Sirisutthanant
 
ตัวอย่างหนังสือ _ความลับเรื่องเงินที่แม่อยากบอกลูกก่อนตาย.pdf
ตัวอย่างหนังสือ _ความลับเรื่องเงินที่แม่อยากบอกลูกก่อนตาย.pdfตัวอย่างหนังสือ _ความลับเรื่องเงินที่แม่อยากบอกลูกก่อนตาย.pdf
ตัวอย่างหนังสือ _ความลับเรื่องเงินที่แม่อยากบอกลูกก่อนตาย.pdf
Piyapong Sirisutthanant
 
ตัวอย่างหนังสือ_ยกหิน 10 ตันออกจากอก.pdf
ตัวอย่างหนังสือ_ยกหิน 10 ตันออกจากอก.pdfตัวอย่างหนังสือ_ยกหิน 10 ตันออกจากอก.pdf
ตัวอย่างหนังสือ_ยกหิน 10 ตันออกจากอก.pdf
Piyapong Sirisutthanant
 
โปรดเยียวยาใจฉันด้วยหนังสือเล่มนั้น_ตัวอย่าง.pdf
โปรดเยียวยาใจฉันด้วยหนังสือเล่มนั้น_ตัวอย่าง.pdfโปรดเยียวยาใจฉันด้วยหนังสือเล่มนั้น_ตัวอย่าง.pdf
โปรดเยียวยาใจฉันด้วยหนังสือเล่มนั้น_ตัวอย่าง.pdf
Piyapong Sirisutthanant
 
ความเจริญไม่เคยเกิดขึ้นเอง Power and progress_ตัวอย่าง.pdf
ความเจริญไม่เคยเกิดขึ้นเอง Power and progress_ตัวอย่าง.pdfความเจริญไม่เคยเกิดขึ้นเอง Power and progress_ตัวอย่าง.pdf
ความเจริญไม่เคยเกิดขึ้นเอง Power and progress_ตัวอย่าง.pdf
Piyapong Sirisutthanant
 
ตัวอย่างหนังสือ_พูดคุยอย่างไร ได้ทั้งใจ ได้ทั้งงาน.pdf
ตัวอย่างหนังสือ_พูดคุยอย่างไร ได้ทั้งใจ ได้ทั้งงาน.pdfตัวอย่างหนังสือ_พูดคุยอย่างไร ได้ทั้งใจ ได้ทั้งงาน.pdf
ตัวอย่างหนังสือ_พูดคุยอย่างไร ได้ทั้งใจ ได้ทั้งงาน.pdf
Piyapong Sirisutthanant
 
ตัวอย่างหนังสือ_ฉันแข็งแกร่งพอที่จะเชื่อความคิดของตัวเอง.pdf
ตัวอย่างหนังสือ_ฉันแข็งแกร่งพอที่จะเชื่อความคิดของตัวเอง.pdfตัวอย่างหนังสือ_ฉันแข็งแกร่งพอที่จะเชื่อความคิดของตัวเอง.pdf
ตัวอย่างหนังสือ_ฉันแข็งแกร่งพอที่จะเชื่อความคิดของตัวเอง.pdf
Piyapong Sirisutthanant
 
ตัวอย่างหนังสือ_ถกเถียงอย่างไร ให้เราเข้าใจกันมากกว่าเดิม.pdf
ตัวอย่างหนังสือ_ถกเถียงอย่างไร ให้เราเข้าใจกันมากกว่าเดิม.pdfตัวอย่างหนังสือ_ถกเถียงอย่างไร ให้เราเข้าใจกันมากกว่าเดิม.pdf
ตัวอย่างหนังสือ_ถกเถียงอย่างไร ให้เราเข้าใจกันมากกว่าเดิม.pdf
Piyapong Sirisutthanant
 
ตัวอย่างหนังสือ_เพราะฉันแตกต่างจึงบริหารเวลาแบบนี้.pdf
ตัวอย่างหนังสือ_เพราะฉันแตกต่างจึงบริหารเวลาแบบนี้.pdfตัวอย่างหนังสือ_เพราะฉันแตกต่างจึงบริหารเวลาแบบนี้.pdf
ตัวอย่างหนังสือ_เพราะฉันแตกต่างจึงบริหารเวลาแบบนี้.pdf
Piyapong Sirisutthanant
 
ตัวอย่างหนังสือ_เธอหรือฉันใครกันที่Toxic.pdf
ตัวอย่างหนังสือ_เธอหรือฉันใครกันที่Toxic.pdfตัวอย่างหนังสือ_เธอหรือฉันใครกันที่Toxic.pdf
ตัวอย่างหนังสือ_เธอหรือฉันใครกันที่Toxic.pdf
Piyapong Sirisutthanant
 
ตัวอย่างหนังสือ_เก่งด้วยศาสตร์.pdf
ตัวอย่างหนังสือ_เก่งด้วยศาสตร์.pdfตัวอย่างหนังสือ_เก่งด้วยศาสตร์.pdf
ตัวอย่างหนังสือ_เก่งด้วยศาสตร์.pdf
Piyapong Sirisutthanant
 
ตัวอย่างหนังสือ_ถ้าสอนงานแบบนี้.pdf
ตัวอย่างหนังสือ_ถ้าสอนงานแบบนี้.pdfตัวอย่างหนังสือ_ถ้าสอนงานแบบนี้.pdf
ตัวอย่างหนังสือ_ถ้าสอนงานแบบนี้.pdf
Piyapong Sirisutthanant
 
ตัวอย่างหนังสือ_แค่มองให้เป็น.pdf
ตัวอย่างหนังสือ_แค่มองให้เป็น.pdfตัวอย่างหนังสือ_แค่มองให้เป็น.pdf
ตัวอย่างหนังสือ_แค่มองให้เป็น.pdf
Piyapong Sirisutthanant
 
ตัวอย่างหนังสือ_คู่มือทำธุรกิจฉบับคนคิดสร้างสรรค์.pdf
ตัวอย่างหนังสือ_คู่มือทำธุรกิจฉบับคนคิดสร้างสรรค์.pdfตัวอย่างหนังสือ_คู่มือทำธุรกิจฉบับคนคิดสร้างสรรค์.pdf
ตัวอย่างหนังสือ_คู่มือทำธุรกิจฉบับคนคิดสร้างสรรค์.pdf
Piyapong Sirisutthanant
 

More from Piyapong Sirisutthanant (20)

ตัวอย่าง_หนังสือความสำเร็จเริ่มจากรายล้อมตัวเองด้วยคนที่ใช่.pdf
ตัวอย่าง_หนังสือความสำเร็จเริ่มจากรายล้อมตัวเองด้วยคนที่ใช่.pdfตัวอย่าง_หนังสือความสำเร็จเริ่มจากรายล้อมตัวเองด้วยคนที่ใช่.pdf
ตัวอย่าง_หนังสือความสำเร็จเริ่มจากรายล้อมตัวเองด้วยคนที่ใช่.pdf
 
ตัวอย่าง_หนังสือวิธีเซฟใจในวันที่ครอบครัวไม่ใช่เซฟโซน.pdf
ตัวอย่าง_หนังสือวิธีเซฟใจในวันที่ครอบครัวไม่ใช่เซฟโซน.pdfตัวอย่าง_หนังสือวิธีเซฟใจในวันที่ครอบครัวไม่ใช่เซฟโซน.pdf
ตัวอย่าง_หนังสือวิธีเซฟใจในวันที่ครอบครัวไม่ใช่เซฟโซน.pdf
 
ตัวอย่าง_หนังสือสำเร็จทุกเป้าหมายด้วยการจัดระเบียบชีวิตดิจิทัล.pdf
ตัวอย่าง_หนังสือสำเร็จทุกเป้าหมายด้วยการจัดระเบียบชีวิตดิจิทัล.pdfตัวอย่าง_หนังสือสำเร็จทุกเป้าหมายด้วยการจัดระเบียบชีวิตดิจิทัล.pdf
ตัวอย่าง_หนังสือสำเร็จทุกเป้าหมายด้วยการจัดระเบียบชีวิตดิจิทัล.pdf
 
ตัวอย่าง_หนังสือทักษะออกแบบชีวิตที่ใช้ได้ตลอดชีวิต.pdf
ตัวอย่าง_หนังสือทักษะออกแบบชีวิตที่ใช้ได้ตลอดชีวิต.pdfตัวอย่าง_หนังสือทักษะออกแบบชีวิตที่ใช้ได้ตลอดชีวิต.pdf
ตัวอย่าง_หนังสือทักษะออกแบบชีวิตที่ใช้ได้ตลอดชีวิต.pdf
 
ตัวอย่างหนังสือ 8 กฎทองของคนอยากเข้าใจรัก.pdf
ตัวอย่างหนังสือ 8 กฎทองของคนอยากเข้าใจรัก.pdfตัวอย่างหนังสือ 8 กฎทองของคนอยากเข้าใจรัก.pdf
ตัวอย่างหนังสือ 8 กฎทองของคนอยากเข้าใจรัก.pdf
 
ตัวอย่างหนังสือ_เลิกขายดีกำไรน้อย ยุคนี้ต้องขายน้อยกำไรงาม.pdf
ตัวอย่างหนังสือ_เลิกขายดีกำไรน้อย ยุคนี้ต้องขายน้อยกำไรงาม.pdfตัวอย่างหนังสือ_เลิกขายดีกำไรน้อย ยุคนี้ต้องขายน้อยกำไรงาม.pdf
ตัวอย่างหนังสือ_เลิกขายดีกำไรน้อย ยุคนี้ต้องขายน้อยกำไรงาม.pdf
 
ตัวอย่างหนังสือ_กล้าที่จะเลิก คำว่าพ่ายแพ้ไม่ได้หมายความว่าพยายามไม่พอ.pdf
ตัวอย่างหนังสือ_กล้าที่จะเลิก คำว่าพ่ายแพ้ไม่ได้หมายความว่าพยายามไม่พอ.pdfตัวอย่างหนังสือ_กล้าที่จะเลิก คำว่าพ่ายแพ้ไม่ได้หมายความว่าพยายามไม่พอ.pdf
ตัวอย่างหนังสือ_กล้าที่จะเลิก คำว่าพ่ายแพ้ไม่ได้หมายความว่าพยายามไม่พอ.pdf
 
ตัวอย่างหนังสือ _ความลับเรื่องเงินที่แม่อยากบอกลูกก่อนตาย.pdf
ตัวอย่างหนังสือ _ความลับเรื่องเงินที่แม่อยากบอกลูกก่อนตาย.pdfตัวอย่างหนังสือ _ความลับเรื่องเงินที่แม่อยากบอกลูกก่อนตาย.pdf
ตัวอย่างหนังสือ _ความลับเรื่องเงินที่แม่อยากบอกลูกก่อนตาย.pdf
 
ตัวอย่างหนังสือ_ยกหิน 10 ตันออกจากอก.pdf
ตัวอย่างหนังสือ_ยกหิน 10 ตันออกจากอก.pdfตัวอย่างหนังสือ_ยกหิน 10 ตันออกจากอก.pdf
ตัวอย่างหนังสือ_ยกหิน 10 ตันออกจากอก.pdf
 
โปรดเยียวยาใจฉันด้วยหนังสือเล่มนั้น_ตัวอย่าง.pdf
โปรดเยียวยาใจฉันด้วยหนังสือเล่มนั้น_ตัวอย่าง.pdfโปรดเยียวยาใจฉันด้วยหนังสือเล่มนั้น_ตัวอย่าง.pdf
โปรดเยียวยาใจฉันด้วยหนังสือเล่มนั้น_ตัวอย่าง.pdf
 
ความเจริญไม่เคยเกิดขึ้นเอง Power and progress_ตัวอย่าง.pdf
ความเจริญไม่เคยเกิดขึ้นเอง Power and progress_ตัวอย่าง.pdfความเจริญไม่เคยเกิดขึ้นเอง Power and progress_ตัวอย่าง.pdf
ความเจริญไม่เคยเกิดขึ้นเอง Power and progress_ตัวอย่าง.pdf
 
ตัวอย่างหนังสือ_พูดคุยอย่างไร ได้ทั้งใจ ได้ทั้งงาน.pdf
ตัวอย่างหนังสือ_พูดคุยอย่างไร ได้ทั้งใจ ได้ทั้งงาน.pdfตัวอย่างหนังสือ_พูดคุยอย่างไร ได้ทั้งใจ ได้ทั้งงาน.pdf
ตัวอย่างหนังสือ_พูดคุยอย่างไร ได้ทั้งใจ ได้ทั้งงาน.pdf
 
ตัวอย่างหนังสือ_ฉันแข็งแกร่งพอที่จะเชื่อความคิดของตัวเอง.pdf
ตัวอย่างหนังสือ_ฉันแข็งแกร่งพอที่จะเชื่อความคิดของตัวเอง.pdfตัวอย่างหนังสือ_ฉันแข็งแกร่งพอที่จะเชื่อความคิดของตัวเอง.pdf
ตัวอย่างหนังสือ_ฉันแข็งแกร่งพอที่จะเชื่อความคิดของตัวเอง.pdf
 
ตัวอย่างหนังสือ_ถกเถียงอย่างไร ให้เราเข้าใจกันมากกว่าเดิม.pdf
ตัวอย่างหนังสือ_ถกเถียงอย่างไร ให้เราเข้าใจกันมากกว่าเดิม.pdfตัวอย่างหนังสือ_ถกเถียงอย่างไร ให้เราเข้าใจกันมากกว่าเดิม.pdf
ตัวอย่างหนังสือ_ถกเถียงอย่างไร ให้เราเข้าใจกันมากกว่าเดิม.pdf
 
ตัวอย่างหนังสือ_เพราะฉันแตกต่างจึงบริหารเวลาแบบนี้.pdf
ตัวอย่างหนังสือ_เพราะฉันแตกต่างจึงบริหารเวลาแบบนี้.pdfตัวอย่างหนังสือ_เพราะฉันแตกต่างจึงบริหารเวลาแบบนี้.pdf
ตัวอย่างหนังสือ_เพราะฉันแตกต่างจึงบริหารเวลาแบบนี้.pdf
 
ตัวอย่างหนังสือ_เธอหรือฉันใครกันที่Toxic.pdf
ตัวอย่างหนังสือ_เธอหรือฉันใครกันที่Toxic.pdfตัวอย่างหนังสือ_เธอหรือฉันใครกันที่Toxic.pdf
ตัวอย่างหนังสือ_เธอหรือฉันใครกันที่Toxic.pdf
 
ตัวอย่างหนังสือ_เก่งด้วยศาสตร์.pdf
ตัวอย่างหนังสือ_เก่งด้วยศาสตร์.pdfตัวอย่างหนังสือ_เก่งด้วยศาสตร์.pdf
ตัวอย่างหนังสือ_เก่งด้วยศาสตร์.pdf
 
ตัวอย่างหนังสือ_ถ้าสอนงานแบบนี้.pdf
ตัวอย่างหนังสือ_ถ้าสอนงานแบบนี้.pdfตัวอย่างหนังสือ_ถ้าสอนงานแบบนี้.pdf
ตัวอย่างหนังสือ_ถ้าสอนงานแบบนี้.pdf
 
ตัวอย่างหนังสือ_แค่มองให้เป็น.pdf
ตัวอย่างหนังสือ_แค่มองให้เป็น.pdfตัวอย่างหนังสือ_แค่มองให้เป็น.pdf
ตัวอย่างหนังสือ_แค่มองให้เป็น.pdf
 
ตัวอย่างหนังสือ_คู่มือทำธุรกิจฉบับคนคิดสร้างสรรค์.pdf
ตัวอย่างหนังสือ_คู่มือทำธุรกิจฉบับคนคิดสร้างสรรค์.pdfตัวอย่างหนังสือ_คู่มือทำธุรกิจฉบับคนคิดสร้างสรรค์.pdf
ตัวอย่างหนังสือ_คู่มือทำธุรกิจฉบับคนคิดสร้างสรรค์.pdf
 

ตัวอย่างหนังสือ ขโมยวิธีคิดสุดเจ๋ง จากสุดยอดโรงเรียนสอนสตาร์ทอัพ

  • 2. ขโมยวิธีคิดสุดเจ๋ง จากสุดยอดโรงเรียนสอนสตาร์ทอัพ The Launch Pad: Inside Y Combinator Copyright © Randall Stross, 2012 Published by Portfolio / Penguin, a member of Penguin Group (USA) Inc. Thai language translation copyright © 2018 by Superposition Co., Ltd. All rights reserved. เลขมาตรฐานสากลประจ�าหนังสือ ISBN 978-616-8109-07-6 ผู้เขียน Randall Stross ผู้แปล กนกกาญจน์ เวชชวิศิษฏ์ กองบรรณาธิการ จิรวรรณ วงค�าเสา, ธีร์ มีนสุข, ปิยะพงษ์ ศิริสุทธานันท์ ออกแบบปก เชนิสา เพื่อวงศ์ ราคา 280 บาท จัดพิมพ์โดย ส�านักพิมพ์บิงโก ภายในเครือ บริษัท ซุปเปอร์โพซิชั่น จ�ากัด (Superposition Co., Ltd.) 18 ซอยดุลิยา ถนนกาญจนาภิเษก แขวงบางระมาด เขตตลิ่งชัน กทม. 10170 อีเมล superposition.books@gmail.com โทรศัพท์ 094-810-7272 เว็บไซต์ www.bingobook.co เฟซบุ๊ก www.facebook.com/bingobooks จัดจ�าหน่ายโดย บริษัท ซีเอ็ดยูเคชั่น จ�ากัด (มหาชน) SE-EDUCATION Public Company Limited เลขที่ 1858/87-90 ถนนบางนา-ตราด แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพฯ 10260 โทรศัพท์ 02-826-8222, 02-826-8000 โทรสาร 02-826-8356-9 เว็บไซต์ www.se-ed.com พิมพ์ที่ Greenlife Printing House โทรศัพท์ 02-892-1941 หากต้องการสั่งซื้อเป็นจ�านวนมาก กรุณาติดต่อรับส่วนลดได้ที่ บริษัท ซุปเปอร์โพซิชั่น จ�ากัด อีเมล superposition.books@gmail.com
  • 3. คํานิยมจากคุณณัฐวุฒิ พึงเจริญพงศ์ หนังสือเล่มนี้เป็นเรื่องของ โรงเรียนสอนสตาร์ทอัพที่มีชื่อ เสียงที่สุดในซิลิคอนวัลเลย์ ซึ่ง ได้ปั้นสตาร์ทอัพชื่อดังมาแล้ว อย่างต่อเนื่อง บริษัทที่เกิดจากโรงเรียนแห่งนี้มีมูลค่ามารวมกันถึงหลายหมื่นล้าน ดอลลาร์ จึงไม่น่าแปลกใจที่โรงเรียนนี้ได้รับการยอมรับไปทั่วโลก ขนาดที่ มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดยังเคยให้มาจัดคอร์สเรียนแก่นักศึกษาของตัวเอง ถ้าใครเคยได้เห็นสิ่งที่เขาสอนแล้วจะพบว่า Mentor ของโรงเรียนนี้ไม่ ธรรมดาเลย ผมมองว่าเนื้อหาของหนังสือเล่มนี้พิเศษมาก เพราะมันคือราย ละเอียดจริงที่กูรูธุรกิจชั้นน�าใช้ขัดเกลาบริษัทหน้าใหม่ตั้งแต่ยังไม่มีกระทั่ง ไอเดีย จนพร้อมระดมทุนได้หลายล้านดอลลาร์ภายใน 3 เดือน ตั้งแต่การ คัดเลือกคน การคิดไอเดีย การเริ่มธุรกิจ การขยายบริษัท ไปจนถึงการขอ เงินทุนจากนักลงทุน ที่ส�าคัญคือเคล็ดลับเหล่านี้มาจากผู้เชี่ยวชาญที่รู้จริง ระดับโลก ทุกคนที่สนใจเรื่องธุรกิจหรือเทคโนโลยีควรต้องอ่าน ปกติสิ่งที่เกิดขึ้นในโรงเรียนนี้จะถูกเก็บเป็นความลับแต่ผู้เขียนเป็น คนเดียวที่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปอยู่ข้างในนานหลายเดือนท�าให้เขียนออก มาเป็นเนื้อหาที่ละเอียดเจาะลึกได้แต่ละบทจะเป็นเรื่องราวที่อ่านสนุกและ
  • 4. แฝงไปด้วยบทเรียนส�าคัญต่างๆ ซึ่งจะพลิกมุมมองทั้งด้านธุรกิจและการ ใช้ชีวิตของเราไปเลยครับ ไม่ว่าคุณจะเป็นนักธุรกิจ นักลงทุน คนที่ฝันว่า สักวันจะท�าสตาร์ทอัพ หรือคนปกติที่อยากเปิดโลกทัศน์ให้กว้างขวาง หนังสือเล่มนี้จะไม่ท�าให้คุณผิดหวังครับ ณัฐวุฒิ พึงเจริญพงศ์ (หมู) CEO และผู้ก่อตั้งบริษัท Ookbee สตาร์ทอัพอันดับต้นๆ ของไทย ผู้บริหารกองทุน 500 Tuktuks ที่ได้ร่วมลงทุนกว่า 50 สตาร์ทอัพในไทย และเป็นส่วนหนึ่งของกองทุน500Startupsกองทุนชั้นน�าของซิลิคอนวัลเลย์
  • 5. คํานิยมจากคุณเรืองโรจน์ พูนผล ผมมีโอกาสโลดแล่นและใช้ชีวิต ในซิลิคอนวัลเลย์อยู่ 7 ปี รู้จัก กับคนเก่งมากมายจากทั่วโลก ผมค้นพบข้อเท็จจริง 3 ข้อ ข้อแรก คนที่ก้าวเข้ามาในซิลิ คอนวัลเลย์ จะได้รับใบอนุญาต 2 ใบ คือใบอนุญาตที่จะเปลี่ยนแปลงโลก และใบอนุญาตให้ล้มเหลวกี่ครั้งก็ได้แล้วลุกขึ้นมาใหม่ ใครก็ตามที่ได้รับ ใบอนุญาตทั้งสองใบจะสามารถก้าวข้ามขีดจ�ากัดของตัวเอง และค้นพบ ความเป็นไปได้ที่ไม่จ�ากัด ข้อสอง ผมท�างานกับบริษัทระดับโลกมามาก ผมพูดอย่างมั่นใจได้เลยว่า คนไทยมีศักยภาพไม่แพ้ต่างชาติขอแค่คุณมุ่งมั่นตั้งใจก็สามารถสร้างสิ่ง ที่ยิ่งใหญ่ได้ ข้อสามปัจจัยส�าคัญที่ช่วยให้ต่างชาติมีบริษัทเทคโนโลยีออกมามากก็คือ “โรงเรียนบ่มเพาะสตาร์ทอัพ” ที่คอยสนับสนุนในช่วงตั้งไข่ โดยโรงเรียนที่ ถูกยกย่องให้เป็น The world’s most powerful incubator ก็คือ Y Com- binator ซึ่งถูกพูดถึงในหนังสือเล่มนี้
  • 6. ไม่ว่าคุณจะแค่สนใจหรืออยู่ในแวดวงสตาร์ทอัพเต็มตัวผมแนะน�าให้อ่าน หนังสือเล่มนี้ คุณจะได้เข้าใจวิธีคิดของผู้ก่อตั้งสตาร์ทอัพและกองทุน Venture Capital ระดับโลก ตั้งแต่การหาไอเดีย การสร้างธุรกิจ ไปจนถึง การระดมทุนและหวังว่าอีลอนมัสก์คนถัดไปจะถือก�าเนิดในประเทศไทย ครับ เรืองโรจน์ พูนผล (กระทิง) ผู้ก่อตั้ง Disrupt University ผู้บริหารกองทุน 500 Tuktuks ที่ได้ร่วมลงทุนกว่า 50 สตาร์ทอัพในไทย และเป็นส่วนหนึ่งของกองทุน500Startupsกองทุนชั้นน�าของซิลิคอนวัลเลย์ “อย่ากลัวที่จะล้มเหลว อย่ากลัวที่ต้องสู้แบบคนธรรมดา เพราะคนธรรมดาที่ไม่ยอมแพ้ ก็สามารถสร้าง การเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ได้เช่นกัน”
  • 7. คํานิยมจากคุณโอฬาร วีระนนท์ “โดดเด่น อ่านง่าย ใช้ได้จริง” คือ ค�านิยม ที่ผมมอบให้กับ หนังสือเล่มนี้ ในฐานะแม่ทัพใหญ่ของ“ดูเรียนคอร์ปปอเรชัน”(DURIAN)ที่มีVisionใน การสร้างธุรกิจว่าWhereAngelsMeetUnicornsหรือการเป็นศูนย์กลาง ในการเชื่อมโยงนักลงทุนคุณภาพในทุกระดับ มาพบกับผู้ประกอบการทั้ง SMEsและStartupที่มีศักยภาพในการเติบโตในอนาคตซึ่งท�าให้เราได้มี โอกาสทั้งสร้าง พัฒนา ให้ค�าปรึกษา และร่วมลงทุนในธุรกิจ Startup และ นักลงทุน ที่หลากหลายทั้งในไทยและต่างประเทศตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ ผ่านมา ท�าให้ผมได้รับเกียรติจากคุณตั้ม แห่งส�านักพิมพ์บิงโก ผู้ได้ลิขสิทธิ์ การแปลหนังสือ “TheLaunchPad:InsideYCombinator”ซึ่งเขียนโดย RandallStrossนักเขียนชั้นน�าด้านDigitalแห่งNewYorkTimesเจ้าของ ผลงานBestSellersมากมายหลายเล่มและคร�่าหวอดในวงการเทคโนโลยี ธุรกิจ และสังคม ส่งต้นฉบับงานแปลมาให้อ่านและให้เกียรติแบ่งปัน มุมมองหลังอ่าน ซึ่งผมขอสรุปสั้นๆ ดังนี้
  • 8. โดดเด่น ในการเลือกหยิบประเด็นที่น่าสนใจที่มีคนไทยไม่มากนักได้รับรู้ให้ออกมา สู่สังคมในวงกว้าง คือ วิธิคิดและเคล็ดลับจาก “Y Combinator” ที่ได้รับ การยอมรับจากทั่วโลกว่าที่นี่ คือ “โรงเรียนสตาร์ทอัพอันดับ 1 ของโลก” และ พอล เกรแฮม (Paul Graham) ที่ได้รับการยอมรับว่า เค้าคือ “นักปั้น Startup ที่ได้รับการนับถือมากที่สุดคนนึงในโลก” ด้วยการลงทุนใน Startup ไปแล้วกว่า 1,450 บริษัท (นับถึงสิ้นปี 2017) ซึ่งรวมมูลค่าของ บริษัทที่ได้ร่วมลงทุน (Company Valuation) กว่า 80,000 ล้านเหรียญ สหรัฐฯ (กว่า 2.6 ล้านล้านบาท) (Source: Wikipedia) อ่านง่าย ด้วยสไตล์การเขียนที่สามารถท�าให้ผู้อ่านไม่ว่าจะเป็นมือใหม่ด้านStartup, มือเก๋าด้านการลงทุน,มืออาชีพด้านการบ่มเพาะหรือผู้เกี่ยวข้องด้านต่างๆ สามารถติดตามได้อย่างลื่นไหลทั้งต้องชื่นชมการแปลของส�านักพิมพ์บิงโก ที่ยังสามารถคงอรรถรส และอรรถประโยชน์ในการอ่านได้อย่างครบถ้วน จนหนังสือที่ดูเหมือนหนาเกือบ300หน้ากลับอ่านได้เพลิดเพลินและเปิด สมองได้อย่างยอดเยี่ยม ใช้ได้จริง Y Combinator คือศูนย์บ่มเพาะสตาร์ทอัพ ที่ผลิตบริษัทระดับ “ยูนิคอร์น” (Unicorn) หรือบริษัทที่มีมูลค่ามากกว่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ (33,000
  • 9. ล้านบาท) จ�านวนมากทั้ง Dropbox, Airbnb, Coinbase, Stripe, Reddit, Instacart,Twitch,CruiseAutomation,Zenefitsetc.ที่บางบริษัทมีCase Studyที่น่าสนใจอยู่ในหนังสือเล่มนี้และแม้หลายบริษัทจะไม่ได้ถูกพูดถึง แต่เราสามารถเรียนรู้เคล็ดลับในการเติบโตและเก็บเกี่ยวประสบการณ์ แง่ มุมความคิดที่หลากหลายตามที่ตนสนใจ ซึ่งน้อยครั้งที่จะมีคนออกมา ถ่ายทอดให้เราได้เก็บเกี่ยวอย่างเต็มที่เช่นนี้ ใครจะรู้ว่าบางที “เพียงประ โยคสั้นๆ หรือประสบการณ์บางส่วนจากหนังสือเล่มนี้ อาจช่วยพลิกมุม ความคิดในการขยายธุรกิจเราได้เลย” ผมขอปิดท้ายสั้นๆ ว่าหนังสือเล่มนี้“โดดเด่น อ่านง่าย ใช้ได้จริง” และเป็นหนังสือดีๆ ที่อยากให้คนไทยได้อ่านมานานแล้ว! ด้วยความปรารถนาดี โอฬาร วีระนนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้งบจ.ดูเรียนคอร์ปปอเรชัน(DURIAN) เลขาธิการสมาคมฟินเทคประเทศไทย (Thai Fintech Association) กรรมการบริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง หลักสูตรผู้บริหาร ดีสตาร์ทอัพ (DSTARTUPbySPU) กรรมการและผู้ร่วมก่อตั้ง หลักสูตรผู้บริหาร ทูมอร์โรว์ สเกลเลอร์ (2morrow Scaler)
  • 10.
  • 11. สารบัญ บทน�า ∙ 1 1 เด็กกว่า ∙ 9 2 สูงวัยกว่า ∙ 25 3 มหาวิทยาลัยสไตล์ใหม่ ∙ 35 4 ผู้ชาย ∙ 47 5 บ้าระห�่า แต่ปกติ ∙ 61 6 ไม่เซ็กซี่ ∙ 73 7 Genius ∙ 87 1 2 3 4 5 6 7
  • 12. 8 นักลงทุนรายย่อย ∙ 101 9 ปิดการขายเสมอ ∙ 115 10 แยกร่าง ∙ 129 11 เป็นไงพรรคพวก? ∙ 139 12 แฮกกาธอน ∙ 153 13 ไอเดียใหม่ ∙ 165 14 เสี่ยง ∙ 175 15 แต่งงาน ∙ 189 8 9 10 11 12 13 14 15
  • 13. 16 น่าเกรงขาม ∙ 195 17 ตั้งใจฟัง ∙ 205 18 เติบโต ∙ 219 19 ค้นหาดาวเด่น ∙ 233 20 อย่ายอมแพ้ ∙ 247 21 ซอฟต์แวร์ก�าลังเขมือบโลก ∙ 257 สตาร์ทอัพรุ่นฤดูร้อนที่ปรากฏในเล่ม ∙ 273 รายชื่อกุนซือแห่ง Y Combinator ∙ 276 16 17 18 19 20 21
  • 14.
  • 15. 1 บทนํา บทนํา ซานฟรานซิสโกเกรย์ไลน์คือบริษัททัวร์ชมทัศนียภาพที่ใหญ่ที่สุดทางตอน เหนือของรัฐแคลิฟอร์เนีย ที่นี่ให้บริการทัวร์เที่ยวชมเมืองซานฟรานซิสโก อนุสรณ์สถานแห่งชาติมิวร์วูด และซอซาลิโตหรือไร่องุ่นผลิตไวน์ทาง ตอนเหนือของเมือง แต่ไม่ได้ให้บริการพาเที่ยวซิลิคอนวัลเลย์ที่อยู่ทางใต้ อีกต่อไปเพราะเมื่อมองจากที่นั่งในรถบัสแล้วซิลิคอนวัลเลย์ก็ไม่ได้มีอะไร ให้ชมมากนัก ซิลิคอนวัลเลย์มีประวัติความเป็นมาที่โด่งดัง ที่นั่นมีพิพิธภัณฑ์ ประวัติศาสตร์คอมพิวเตอร์แถมบริษัทอินเทลก็มีพิพิธภัณฑ์ของตัวเองและ แน่นอนว่ายังมีโรงรถต่างๆ ที่เป็นจุดเริ่มต้นของบริษัทขนาดยักษ์ ไม่ว่าจะ เป็นโรงรถของฮิวเลตต์และแพคการ์ด (หรือที่รู้จักกันในชื่อ HP) หรือของ พ่อแม่สตีฟจ็อบส์หรือกระทั่งโรงรถที่กูเกิลเคยเช่าเพื่อเป็นออฟฟิศแห่งแรก แต่สถานที่เหล่านี้ก็เป็นแค่เพียงเศษซากของสตาร์ทอัพที่ย้ายออกไปนาน แล้ว หากอยากรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไปในซิลิคอนวัลเลย์คุณคงต้องหัน มาดูสตาร์ทอัพที่มีแววว่าจะประสบความส�าเร็จที่สุด ไม่ใช่พิพิธภัณฑ์หรือ โรงรถของคนดังความจริงแล้วมีสตาร์ทอัพอยู่หลายพันบริษัทกระจัดกระจาย อยู่ตามเส้นทางยาว60ไมล์ที่ทอดอยู่ระหว่างเมืองซานฟรานซิสโกกับเมือง
  • 16. 2 ขโมยวิธีคิดสุดเจ๋ง จากสุดยอดโรงเรียนสอนสตาร์ทอัพ ซานโฮเซ แต่ทั้งหมดนั้นด�าเนินกิจการอย่างลับๆ จนกระทั่งพวกเขาพร้อม ที่จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ชนิดแรกนั่นคือสาเหตุที่บริษัทอย่างเกรย์ไลน์ทัวร์จะ ไม่มีวันได้พาลูกทัวร์เที่ยวชมซิลิคอนวัลเลย์อย่างแน่นอน มันน่าเสียดายเพราะสถานที่แห่งนี้ก�าลังสร้างอนาคตของทุกคนนัก ธุรกิจอย่างมาร์ค แอนดรีสเซน บรรยายเอาไว้อย่างน่าตื่นตาว่า ซอฟต์แวร์ ก�ำลังเขมือบโลก สตาร์ทอัพก�าลังจะเปลี่ยนแปลงโลกนี้ และไม่มีที่ไหนใน โลกมีความมุ่งมั่นเทียบเคียงกับซิลิคอนวัลเลย์ได้เลย มีโรงเรียนแห่งหนึ่งในซิลิคอนวัลเลย์ที่เยี่ยมยอดที่สุดในการ สร้างสตาร์ทอัพ สถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่ในเมืองเมาน์เทนวิว และมอบทุนให้ สตาร์ทอัพระดับไม่มีใครเทียบติดแต่ละบริษัทจะได้รับเงินทุนตั้งแต่11,000 ถึง 20,000 ดอลลาร์ โดยต้องให้หุ้น 7% เป็นการตอบแทน พอล เกรแฮม นักธุรกิจมือเก๋า เป็นผู้น�าโรงเรียนธุรกิจแห่งนี้ เขายัง เป็นครูที่เปี่ยมพลังที่สุด เป็นหัวหน้าโปรแกรมเมอร์ และเป็นนักเขียน ที่มีไอเดียบรรเจิดที่สุดของที่นี่อีกด้วย พอลให้ค�าแนะน�ากับผู้ก่อตั้ง สตาร์ทอัพมานานหลายปี เขาคือผู้คิดค้นรูปแบบการท�างานที่พิเศษ ไม่เหมือนใครของโรงเรียนธุรกิจนี้ และยังเป็นผู้ตั้งชื่อแปลกสะดุดหูให้กับ มันว่า Y Combinator (ย่อว่า YC) พอลจบปริญญาเอกสาขาคอมพิวเตอร์แต่เขาไม่สนใจเรื่องวิชาการ สิ่งที่ดึงดูดเขาก็คือบรรดาแฮกเกอร์ทั้งหลาย คนเหล่านั้นไม่ได้มีแค่ทักษะ ในการเขียนโปรแกรมเท่านั้น แต่ยังหลงใหลมันอีกด้วย แฮกเกอร์สนใจ ใคร่รู้ว่าสิ่งต่างๆ ท�างานอย่างไรและวิธีอะไรใช้แก้ปัญหาได้ดีที่สุด โดย
  • 17. 3 บทนํา ธรรมชาติแล้วแฮกเกอร์เป็นพวกชอบแหกกฎ และบางครั้งมันก็ท�าให้ พวกเขาเข้าไปยุ่มย่ามกับสิ่งที่ไม่ควรเข้าไปยุ่งพอลชี้ให้เห็นว่าการแฮกนั้น เกิดขึ้นก่อนคอมพิวเตอร์เสียอีก โดยเขาได้เล่าถึงนักฟิสิกส์คนหนึ่งชื่อว่า ริชาร์ดไฟน์แมนผู้นึกสนุกและบุกรุกเข้าไปในห้องเก็บเอกสารลับเพื่อค้นหา ข้อมูลขณะที่ตัวเองก�าลังด�าเนินโครงการพัฒนาระเบิดนิวเคลียร์ ค�าว่า“แฮก”หมายถึงการคิดค้นวิธีอันชาญฉลาดเพื่อเอาชนะระบบ ผู้สมัครรับทุนจาก YC จะถูกขอว่า “ช่วยเล่าถึงตอนที่คุณแฮกระบบ อะไรสักอย่าง(ที่ไม่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์)ที่ตัวคุณได้ประโยชน์และประสบ ความส�าเร็จที่สุดให้เราฟังหน่อย”ทีมที่พอลชอบให้ทุนที่สุดคือทีมที่สมาชิก ทุกคนเป็นแฮกเกอร์ การลงทุนของ YC มีข้อแม้อยู่หนึ่งอย่างคือ ทีมนั้นจะต้องย้ายมาที่ ซิลิคอนวัลเลย์เป็นเวลา 3 เดือน พวกเขาจะต้องพยายามสร้างผลิตภัณฑ์ ภายใน 3 เดือนนั้น (มกราคมถึงมีนาคมส�าหรับรุ่นฤดูหนาว มิถุนายนถึง สิงหาคมส�าหรับรุ่นฤดูร้อน)ระหว่างนั้นทุกคนจะได้ค�าปรึกษาจากพอลและ กุนซือคนอื่นๆ ที่ YC นอกจากนี้ยังมีงานเลี้ยงอาหารเย็นกับแขกรับเชิญ สัปดาห์ละครั้งอีกด้วย ในที่สุดเมื่อครบ 3 เดือน ทีมต่างๆ ในรุ่นนั้นจะออก มาน�าเสนอใน “วันสาธิต” (Demo Day) ซึ่งเป็นวันที่ทีมต่างๆ มีโอกาส น�าเสนอผลิตภัณฑ์แก่นักลงทุนหลายร้อยราย YC เริ่มก่อตั้งขึ้นในปี 2005 และเป็นโรงเรียนต้นแบบให้กองทุน สตาร์ทอัพจ�านวนมหาศาลที่ผุดขึ้นมาทั่วโลกเคล็ดลับมีตั้งแต่การลงทุนกับ
  • 18. 4 ขโมยวิธีคิดสุดเจ๋ง จากสุดยอดโรงเรียนสอนสตาร์ทอัพ สตาร์ทอัพที่ร่วมโครงการทั้งรุ่น การพักอาศัยในย่านเดียวกันเป็นเวลา 3 เดือน และวันสาธิตตอนจบโครงการ แต่กระนั้น YC ก็ยังคงโดดเด่นกว่าใคร พวกเขาลงทุนมากกว่า กองทุนส�าหรับระยะก่อตั้งอื่นๆและเครือข่ายศิษย์เก่าของที่นี่ก็ไม่เหมือนที่ อื่น มันคือแหล่งทรัพยากรที่ส�าคัญของสตาร์ทอัพที่ได้รับทุนทั้งหลาย นอกจากนี้บรรดานักลงทุนก็สนใจบริษัทที่เคยเข้าร่วมโครงการกับYCมาก ที่สุด เท่ากับเป็นการบอกใบ้ว่าบริษัทของ YC นั้นมีแนวโน้มที่จะประสบ ความส�าเร็จมากกว่าใคร แหล่งเงินทุนรายใหญ่ของ YC คือบริษัทเงินทุน เซควอญ่า (Sequoia Capital) ที่เคยลงทุนส�าเร็จกับแอปเปิล ยาฮู และ กูเกิลมาแล้ว สตาร์ทอัพของ YC หลายบริษัทนั้นไปได้สวยมาก ที่ยอดเยี่ยมที่สุด คือ Dropbox ซึ่งเป็นบริการให้พื้นที่จัดเก็บไฟล์ และตอนนี้มีผู้ใช้บริการ หลาย 10 ล้านคน เมื่อติดตั้งโปรแกรมฟรีของ Dropbox แล้ว ไฟล์เอกสาร รูปภาพ วิดีโอ หรือไฟล์อื่นๆ บนคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งจะถูกเชื่อมโดย อัตโนมัติกับคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นรวมถึงสมาร์ทโฟนแท็บเล็ตและอุปกรณ์ อื่นๆ ท�าให้คุณสามารถน�าไฟล์มาใช้ได้ตลอดเวลาไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม ทุกคนจะได้รับพื้นที่จัดเก็บไฟล์ฟรี2กิกะไบต์และซื้อพื้นที่เพิ่มได้หากต้องการ Airbnb เป็นอีกบริษัทที่โดดเด่น พวกเขาให้บริการตลาดออนไลน์ ส�าหรับเจ้าของบ้านและอพาร์ตเมนต์ที่อยากให้นักเดินทางเช่าห้องว่าง (หรือโซฟา) เมื่อต้นปี 2011 Airbnb ฉลองการที่มีผู้จองที่พักผ่านเว็บไซต์ ของพวกเขาเป็นคืนที่ 1 ล้าน
  • 19. 5 บทนํา Heroku คือความส�าเร็จครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดของ YC ที่คนทั่วไปยังไม่รู้ จัก บริษัทนี้ดูแลซอฟต์แวร์ที่ใช้งานอยู่บนระบบคลาวด์ ลูกค้าของพวกเขา จึงมีแต่นักพัฒนาซอฟต์แวร์เท่านั้น หนังสือที่เกี่ยวกับ YC เล่มนี้มีเรื่องราวของบริษัทต่างๆ จ�านวนมาก และแต่ละบริษัทก็ท�างานกันเร็วมาก ในช่วงยุค 90 สตาร์ทอัพบริษัทหนึ่ง อาจต้องใช้เวลา 1-2 ปีกว่าผู้ก่อตั้งจะสามารถเปลี่ยนไอเดียให้กลายเป็น ผลิตภัณฑ์ต้นแบบได้ในทางตรงข้ามสตาร์ทอัพของYCเริ่มธุรกิจได้ภายใน ไม่กี่สัปดาห์หรือในบางกรณีก็แค่ไม่กี่วันเท่านั้นพวกเขาได้รับการส่งเสริม ให้ปล่อยผลิตภัณฑ์โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะท�าได้ ค้นหาว่ามีปัญหาอะไร จากนั้นก็ค่อยพัฒนาต่อ เมื่อ 10 ปีที่แล้ว การที่สตาร์ทอัพสักแห่งจะดึงดูดนักลงทุนได้นั้น ผู้ ก่อตั้งจะต้องเป็นมืออาชีพที่มีประสบการณ์สูงลิบลิ่ว พวกเขาต้องการเงิน หลายล้านดอลลาร์เพื่อซื้อเซิร์ฟเวอร์ซื้อซอฟต์แวร์ฐานข้อมูลราคาแพงและ จ้างพนักงาน ปัจจุบัน YC สนับสนุนผู้ก่อตั้งบริษัททั้งหลายที่ไม่มีอะไรเลย นอกจากความมุ่งมั่นและพรสวรรค์ ยังเรียนไม่จบและอยากสร้างสตาร์ทอัพทันทีอย่างงั้นหรือ? ลุยเลย! เป็นไปได้อยู่ที่จะก่อตั้งสตาร์ทอัพโดยปราศจากเงินทุน แต่คนที่ พยายามสร้างธุรกิจด้วยตัวเองโดยขาดประสบการณ์ย่อมพลาดพลั้งมานัก ต่อนักแล้ว นั่นคือเหตุผลที่ YC ได้รับใบสมัคร 2,000 ใบส�าหรับโครงการ รุ่นหลังๆทุกรุ่นบรรดาผู้ก่อตั้งสตาร์ทอัพมองหาค�าแนะน�าที่จะช่วยให้พวก
  • 20. 6 ขโมยวิธีคิดสุดเจ๋ง จากสุดยอดโรงเรียนสอนสตาร์ทอัพ เขาหลีกเลี่ยงความผิดพลาดที่เกิดขึ้นบ่อยและเพิ่มโอกาสส�าเร็จให้มากขึ้น ยิ่งรู้เกี่ยวกับชีวิตของสตาร์ทอัพมากเท่าไหร่ หลุมพรางทั้งหลายก็ยิ่งดูน่า กลัวมากเท่านั้น ขนาดศิษย์เก่าบางคนที่ออกไปท�าสตาร์ทอัพตัวใหม่ก็ยัง กลับมาขอร่วมโครงการอีกรอบ แม้แต่สตาร์ทอัพที่YCสนับสนุนก็ยังมีโอกาสพลาดผู้ก่อตั้งทั้งหลาย รู้ดี พวกเขามักจะพูดกันว่าพวกเขาจ�าเป็นต้องมี “ความบ้า” อยู่บ้าง จะได้ มองข้ามโอกาสที่จะผิดพลาดเหล่านั้นแล้วบุกตะลุยไปข้างหน้า YCและสตาร์ทอัพในสังกัดอยู่ตรงใจกลางซิลิคอนวัลเลย์ชุมชนแห่ง การประดิษฐ์คิดค้นที่อยู่ห่างไกลสายตาผู้คนและเกี่ยวข้องกับธุรกิจขนาด ใหญ่ที่สุดในยุคนี้ มันเป็นสถานที่ที่ดีที่สุดส�าหรับเฝ้าสังเกตการณ์การ ท�างานของสตาร์ทอัพ ผมอยากเขียนหนังสือเกี่ยวกับ YC สักเล่ม โดยมีค�าขอ 2 อย่าง (ซึ่ง ธุรกิจทั้งหลายไม่ค่อยอยากอนุญาตคู่กัน) นั่นคือ ผมขอเข้าถึงข้อมูล เบื้องลึก และก็ยังอยากได้รับอนุญาตให้เขียนเกี่ยวกับมันได้เต็มที่ด้วย ใน เดือนมีนาคมปี 2011 ผมจึงขออนุญาต YC เข้าไปติดตามทีมสตาร์ทอัพ รุ่นหนึ่งระหว่างฤดูร้อนที่จะมาถึง ผมขอไปว่าจะเริ่มตามติดตั้งแต่ขั้นตอน รับสมัครไปจนถึงสิ้นสุดฤดูร้อนนั้นเลย ผมอยากให้ผู้อ่านรู้สึกเหมือนว่า ตัวเองอยู่ที่นั่นในเวลานั้นท่ามกลางสตาร์ทอัพหลายสิบทีมและกุนซือทั้ง 6 คนของ YC เพื่อให้หนังสือเล่มนี้เกิดขึ้นได้ผมต้องเข้าไปสัมผัสความลับของYC และสตาร์ทอัพของพวกเขาในทุกแง่มุมนั่นเพราะทุกสิ่งที่เกิดขึ้นที่YCและ
  • 21. 7 บทนํา แต่ละบริษัทจะถูกปิดเป็นความลับ แม้กระทั่งในวันสาธิตบริษัทส่วนใหญ่ ก็ยังคงไม่พร้อมที่จะให้โลกภายนอกรับรู้ว่ามีพวกเขาอยู่ นักลงทุนที่มาใน วันสาธิตเองก็ถูกขอร้องให้ปิดทุกอย่างเป็นความลับ ขนาดบนใบแนะน�า การเข้าชมก็ยังต้องมีหมายเหตุ “ห้ามจดบันทึก” เขียนไว้ ค�าขอของผมจึง พิเศษมากที่อยากเข้าไปดูความลับข้างในตลอดทั้งฤดูกาล ผมให้สัญญา กับเขาว่าจะน�าข้อมูลมาเขียนหนังสือเล่มนี้เท่านั้นและจะไม่น�าข้อมูลที่ได้ มาไปเขียนบทความหรือหนังสือเล่มอื่นใดทั้งสิ้น โชคดีที่เหล่ากุนซือของ YC อนุญาตให้ผมท�าตามค�าขอได้ทุกอย่าง ผมเริ่มท�างานในปลายเดือนเมษายนเมื่อเริ่มการสัมภาษณ์ผู้เข้ารอบ สุดท้าย ตอนนั้นผมไม่รู้ว่าบริษัทที่เข้าร่วมโครงการในช่วงฤดูร้อนรุ่นนั้นจะ กลายเป็นรุ่นที่มีจ�านวนมากที่สุดโดยเพิ่มจาก44บริษัทในรุ่นก่อนหน้าเป็น 64 บริษัท ซึ่งท�าให้ผมได้เห็นเรื่องราวดีๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างทางมากมาย หลายเรื่องเลยทีเดียว เดิมทีหนังสือเล่มนี้จะจบลงในวันสาธิตแต่ผมขยายกรอบเวลาออก ไปให้นานพอที่จะเห็นผู้ก่อตั้งสตาร์ทอัพรุ่นนี้ทักทายกับผู้ก่อตั้งรุ่นถัดไป และต่อไปนี้คือเรื่องราวเหล่านั้น
  • 22.
  • 23. 9 เด็กกว่า 1 เด็กกว่า คาลวิน หวัง และแรนดี ปัง คือแฮกเกอร์ประเภทที่ชอบเขียนซอฟต์แวร์ ส่วนเจสัน เชน ไม่ใช่ เขาเรียกตัวเองว่าเป็น “พนักงานขายของสตาร์ทอัพ” และมีความสามารถรอบด้านในการโน้มน้าวผู้คน เขาเขียนบล็อกส่วนตัว ชื่อว่า “ศิลปะในการเป็นคนเจ๋ง” (The Art of Ass-Kicking) ทั้งสามอายุ ประมาณ24ปีเป็นบัณฑิตจบใหม่จากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดและเบิร์ก ลีย์ อยู่ด้วยกันในเมืองซานฟรานซิสโก และเป็นเพื่อนสนิทกัน พวกเขาอยากก่อตั้งสตาร์ทอัพด้วยกันแต่ยังไม่รู้ว่าจะท�าธุรกิจอะไร มันเปลี่ยนไปทุกวันเลยทีเดียว ในระหว่างนั้นพวกเขาได้รับเลือกจาก YC ให้เข้าโครงการรุ่นฤดูร้อนปี 2011 ที่เมืองเมาน์เทนวิว คาลวินและเพื่อนๆ ไม่มีอะไรเลยนอกจากไอเดียส�าหรับสตาร์ทอัพแถมเป็นแค่ไอเดียเบื้องต้น เสียด้วย“เมล็ดพันธุ์”ส�าหรับการลงทุนระยะก่อตั้งของพวกเขาเล็กกระจิริด เสียจนไม่รู้จะเล็กยังไงแล้ว ในระยะเริ่มแรกนี้บรรดาทีมต่างๆไม่จ�าเป็นต้องมีชื่อส�าหรับบริษัท ที่น�าเสนอก็ได้ และส่วนใหญ่ก็ไม่มีจริงๆ คาลวิน หวัง คือผู้ติดต่อที่เป็น ตัวหลักในใบสมัคร บริษัทของพวกเขาจึงถูกเรียกว่าทีม Kalvin
  • 24. 10 ขโมยวิธีคิดสุดเจ๋ง จากสุดยอดโรงเรียนสอนสตาร์ทอัพ ทีม Kalvin ถูกพาไปยังห้องประชุมขนาดเล็กที่ส�านักงานใหญ่ของ YC ในเมืองเมาน์เทนวิว รัฐแคลิฟอร์เนีย ผู้ชาย 5 คน และผู้หญิง 1 คนนั่ง เรียงแถวอยู่ที่อีกฝั่งของโต๊ะและด้านข้างพวกเขาคือกุนซือของYCที่มีอายุ มากกว่าทีม Kalvin ตั้งแต่ไม่กี่ปีไปจนถึง 20 ปี ทุกคนเปิดคอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊กเรียบร้อยแล้วและก�าลังมองที่ใบสมัครออนไลน์ของทีม Kalvin ทีม Kalvin รู้ว่าการพูดคุยจะนานเพียง 10 นาที จากนั้นสัญญาณ จะดังขึ้นมันเร็วจนเหมือนว่าสัญญาณดังแทบจะทันทีที่การสัมภาษณ์เริ่ม ต้นเลยทีเดียว แล้วพวกเขาก็จะถูกพาออกไปจากที่นั่นเพื่อเปิดทางให้ทีม ต่อไป ทีม Kalvin นั่งลง พอลทักทายพวกเขาโดยไม่มีอารัมภบท “เอาละ เราชอบพวกคุณมากกว่าไอเดีย” “ไอเดีย” ธุรกิจของสตาร์ทอัพมักมีการเปลี่ยนแปลงระหว่างที่ ผู้สมัครส่งใบสมัครไปแล้วและก่อนการสัมภาษณ์ นี่เป็นหนึ่งในกรณีนั้น ไอเดียที่ทีม Kalvin ส่งไปเมื่อหลายสัปดาห์ก่อนถูกปิดผนึกไว้ในรูปแบบ ของ “ความทรงจ�าในอดีตที่ถูกส่งเข้ามาในกล่องข้อความ” กุนซือของ YC คนหนึ่งที่ทีมKalvinคุยด้วยทางสไกป์เมื่อสัปดาห์ที่แล้วบอกว่าให้พวกเขา คิดอย่างอื่นขึ้นมาใหม่ดีกว่า “พวกเราปรับเปลี่ยนไอเดียเล็กน้อยครับ”เจสันเชนสมาชิกคนหนึ่ง ในทีมKalvinพูดขึ้น“เราจะสร้างเว็บไซต์ส�าหรับโฟโต้บุ๊กเราจะจัดระเบียบ รูปภาพในเฟซบุ๊กเพื่อให้คนสร้างโฟโต้บุ๊กได้ง่ายๆโดยแสดงรูปที่ดีที่สุดของ พวกเขากับเพื่อนๆ”
  • 25. 11 เด็กกว่า สมาชิกทีม Kalvin อีกคนเสริมว่า “ทุกหอพักในมหาวิทยาลัยจะมี คนท�าหนังสือพวกนี้แล้วในสแตนฟอร์ดมีหลายสิบหอพักเลยพวกเขาต้อง ท�าน่ะครับแต่พวกเขามักจะท�าแบบขอไปทีหรือไม่ก็ท�าไม่เสร็จไอเดียนี้น่า จะเริ่มได้ไม่ยาก” “พวกคุณยังมีคนรู้จักอยู่ที่มหาวิทยาลัยอยู่อีกเหรอ?” พอลถาม มีสิ พวกเขาเพิ่งจบการศึกษาเมื่อ 2 ปีที่แล้ว พอลสนใจในตัวผู้ก่อตั้งบริษัทมากกว่าในไอเดียที่พวกเขาน�าเสนอ เมื่อเห็นทีมผู้ก่อตั้งที่แข็งแกร่งและมีคุณสมบัติที่เขาเชื่อว่าจะเอื้อให้ประสบ ความส�าเร็จได้ เขาก็จะมองข้ามไอเดียที่อ่อนด้อยไปเสีย “ผมว่าไอเดียนี้น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีได้” พอลพูด การพิมพ์โฟโต้บุ๊ก น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของพวกเขาได้แต่พอลอยากรู้ว่า“จากสิ่งนี้คุณจะขยาย ให้เป็นอะไร?” “เราเชื่อในพลังแห่งความทรงจ�าและการโหยหาอาลัยอดีตครับเรา สามารถสร้างผลิตภัณฑ์ได้มากมาย...” สมาชิกทีม Kalvin คนหนึ่งพูด กุนซืออีกคนหนึ่งของYCโดดเข้ามาร่วมวงแซมอัลต์แมนเป็นศิษย์ เก่ารุ่นแรกของ YC เมื่อฤดูร้อนปี 2005 “ผมเชื่อพวกคุณเรื่องความ ทรงจ�าและการโหยหาอดีต” แซมกล่าว “แต่ยังมีคนพิมพ์หนังสือแบบนั้น อยู่อีกรึ?” “ครับเมื่อปีที่แล้วตลาดโฟโต้บุ๊กมีมูลค่าเกิน1,000ล้านเหรียญและ ตลาดที่ยุโรปโตขึ้น 25% ครับ”
  • 26. 12 ขโมยวิธีคิดสุดเจ๋ง จากสุดยอดโรงเรียนสอนสตาร์ทอัพ สมาชิกทีมKalvinอีกคนเสริมว่า“มันเติบโตอย่างมั่นคงมาตั้งแต่ปี 2005 และมีมูลค่าสูงขึ้นเรื่อยๆ” ทีมKalvinก�าลังพยายามท�าสิ่งที่ไม่น่าเป็นไปได้ด้วยการโต้แย้งว่า ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่ดิจิทัลดังกล่าวเป็นสิ่งที่ควรท�า “การมีสิ่งที่จับต้องได้ให้ คุณพลิกดูและวางมันไว้บนโต๊ะรับแขก แล้วก็โชว์ให้เพื่อนดู มันมีคุณค่า มากนะครับ!ความจริงพวกเราเคยซื้อโฟโต้บุ๊กให้เพื่อนๆกับครอบครัวมัน แย่ตรงที่เราต้องเสียเวลาหลายชั่วโมงในการหารูปภาพเพื่อจัดท�ามัน” ใน แต่ละปีทุกหอพักจะต้องจัดท�าโฟโต้บุ๊ก1เล่มจ่ายค่าท�าส�าเนาเล่มละ20 ดอลลาร์ และจัดท�าอย่างน้อย 100 เล่ม พอลย้อนกลับไปยังค�าถามที่ยังไม่ได้รับค�าตอบ “แล้วพวกคุณจะ ขยายให้มันเป็นอะไร?” สมาชิกทีมKalvinคนหนึ่งตอบว่าเสนอขายโฟโต้บุ๊กโดยเรียงล�าดับ เหตุการณ์จากปฏิทินส่วนตัวและการเช็คอินผ่านโฟร์สแควร์หรือไม่ก็ทวีต บนทวิตเตอร์ใน 1 ปี “ที่บอกว่าคนจะพิมพ์ทวีตจากปีที่แล้วออกมานี่ล้อเล่นใช่ไหม” เทรเวอร์ แบล็กเวลล์ ถาม เขาอายุ 41 ปี ไล่เลี่ยกับกุนซือของ YC อีก 3 คน ทีมKalvinไม่ได้รู้สึกสะทกสะท้านกับความต่างวัยเพราะดูท่าค�าพูด พวกเขาจะท�าให้เหล่ากุนซือที่สูงวัยกว่าของ YC ไม่ชินกับการผสมผสาน ระหว่างโซเชียลมีเดียกับสื่อสิ่งพิมพ์เท่าใดนัก “ที่จริงแล้วผมมีทวีตบุ๊กอยู่ เล่มหนึ่งครับ” สมาชิกทีมคนหนึ่งพูด “ทวีตบุ๊กแพร่หลายมาตั้งแต่ปี 2007
  • 27. 13 เด็กกว่า แถมยังมีธุรกิจที่รวบรวม 2,000 ทวีตสุดท้ายของเราแล้วพิมพ์ออกมาเป็น หนังสือด้วย” “พวกคุณอาจจะใช้มันแทนหนังสือรุ่นได้” พอลบอก ตอบค�าถาม ของเขาเองไปในตัว“หนังสือรุ่นของเด็กมัธยมผมว่ามันถึงเวลาแล้วละถ้า พวกคุณแทนที่หนังสือรุ่นของเด็กมัธยมได้ มันจะท�าเงินได้มากเลยทีเดียว มันก�าลังรอให้ใครสักคนลงมืออยู่” ทีมKalvinสร้างความประทับใจได้ทันเวลาที่ก�าหนดทันทีที่พวกเขา ออกจากห้องและปิดประตู พอลก็ประกาศว่า “ผมชอบพวกเขา!” หากว่ามีอายุที่เหมาะสมเพียงเลขเดียวส�าหรับการเริ่มก่อตั้ง สตาร์ทอัพ ทีม Kalvin ก็อยู่ในอายุนั้น คือเป็นผู้ใหญ่กว่านักศึกษาระดับ ปริญญาตรีเล็กน้อย แต่ยังไม่มีภาระผูกพันเรื่องเงินกู้และเรื่องลูก ซึ่งเป็น ปัจจัยที่ท�าให้การลาออกจากงานบริษัทที่มั่นคงและให้เงินดีเป็นเรื่องยาก แต่พอลก็ยังชอบที่ทีมนี้ท�างานร่วมกันได้อย่างดีภายในระยะเวลาการ สัมภาษณ์ นั่นคือสิ่งจ�าเป็นที่จะช่วยให้รอดพ้นจากความเครียดของชีวิต สตาร์ทอัพ * YC เชิญผู้สมัครไม่ถึง 9% จาก 2,000 ทีม ให้มาสัมภาษณ์เพื่อเข้า รอบสุดท้าย ระหว่างการสัมภาษณ์แต่ละครั้ง กุนซือแต่ละคนก็จะพิมพ์ ความคิดเห็นส่วนตัวลงไปในฐานข้อมูลของ YC ที่กุนซือคนอื่นมองเห็นได้ หลังการสัมภาษณ์แต่ละครั้งพวกเขาจะจัดล�าดับทีมที่ได้พบในวันนั้นทันที และเมื่อสิ้นสุดวันก็จะมีการลงความเห็นว่าจะตัดสินใจให้ทุนแก่ทีมใดบ้าง
  • 28. 14 ขโมยวิธีคิดสุดเจ๋ง จากสุดยอดโรงเรียนสอนสตาร์ทอัพ ทีมที่อยู่ในต�าแหน่งสูงสุด 8 ทีมจากจ�านวน 22 ทีมของแต่ละวันจะได้รับ โทรศัพท์จากพอล “เราอยากมอบทุนให้พวกคุณ” พอลจะทักทายเช่นนี้เมื่อเขาโทรไป ยื่นข้อเสนอ “พวกคุณมี 3 คนใช่ไหม ทุนคือ 17,000 ดอลลาร์ แลกกับหุ้น 7%” ผู้ก่อตั้งส่วนใหญ่ตกลงรับข้อเสนอทันที แต่พอลอนุญาตให้ทีมที่ ต้องการไตร่ตรองมีเวลาเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย อย่างไรก็ดี พอลอนุญาตให้ ผู้สมัครตกลงหรือไม่ตกลงเท่านั้นเขาจะไม่เจรจาเงื่อนไขอื่นใดเขาอธิบาย ว่าข้อเสนอของ YC นั้นเป็นแบบทดสอบเชาวน์ปัญญาชนิดหนึ่งส�าหรับ บรรดาผู้ก่อตั้ง “ถ้าเราขอหุ้น 6% เราจะต้องท�าให้สตาร์ทอัพมีก�าไรเพิ่มขึ้น อีก 6.4% เพื่อให้ถึงจุดคุ้มทุน” เขาบอก “นั่นเป็นตัวเลขที่ต�่ามาก เพราะ ฉะนั้นแบบทดสอบเชาว์ปัญญาก็คือพวกเขาจะเข้าใจจุดนี้หรือเปล่า” จากผู้สมัคร 2,000 บริษัท จะมี 64 บริษัทที่ได้รับเลือก (รุ่นนี้เหลือ แค่ 63 เพราะมี 1 บริษัทขอถอนตัว) พอลกล่าวกับผู้ที่มีแนวโน้มว่าจะเป็นผู้สมัครซึ่งยังคงเป็นนักศึกษา ปริญญาตรีว่า ถ้าคุณเริ่มก่อตั้งสตาร์ทอัพ คุณอาจจะล้มเหลวก็ได้ มันคือ ธรรมชาติของธุรกิจแต่การลองท�าบางสิ่งที่มีโอกาสล้มเหลว90% ไม่จ�าเป็นต้องเป็นเรื่องผิดพลาดเสมอไปถ้าคุณรับมือกับความ เสี่ยงได้ การล้มเหลวในวัย 40 ตอนที่คุณมีครอบครัวต้องเลี้ยงดู น่าจะเป็นเรื่องร้ายแรงสาหัส แต่จะเป็นไรไปล่ะถ้าคุณล้มเหลว
  • 29. 15 เด็กกว่า ตอนอายุ 22 ปี ถ้าคุณพยายามก่อตั้งสตาร์ทอัพขณะเรียนอยู่ใน มหาวิทยาลัยแล้วมันพังไม่เป็นท่า สุดท้ายแล้วคุณก็จะถังแตก ตอนอายุ23ปีและฉลาดขึ้นอีกเป็นกองถ้าคุณลองคิดดูมันคือสิ่ง ที่ใกล้เคียงกับที่คุณหวังว่าจะได้จากการเรียนปริญญาโทหรือเอก นั่นแหละ ในฤดูใบไม้ผลิปี 2005 จัสติน คาน วัย 21 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 4 ที่ มหาวิทยาลัยเยล และเอมเม็ตต์ เชียร์ อายุ 21 ปีเท่ากัน และเป็นเพื่อนกัน มาเกือบทั้งชีวิต ใช้เวลาว่างในการสร้างปฏิทินออนไลน์ชื่อว่า Kiko ค่า ใช้จ่ายตั้งแต่เริ่มธุรกิจคือ250ดอลลาร์ที่ใช้ไปกับการจดทะเบียนชื่อโดเมน ตอนที่พอลส่งค�าเชิญมา6สัปดาห์ก่อนจบการศึกษานั้นจัสตินไม่เคยได้ยิน เกี่ยวกับพอลมาก่อน แต่เอมเม็ตต์เคยจากการอ่านบทความออนไลน์ของ พอลทั้งสองตัดสินใจกรอกใบสมัครซึ่งพวกเขาไม่น่าจะเคยพบเจอค�าถาม บางข้อจากทั้งหมด 32 ข้อนั้นมาก่อน บอกเราภายในหนึ่งหรือสองประโยคเกี่ยวกับสิ่งที่แสดงให้ เห็นว่าผู้ก่อตั้งแต่ละคนนั้นเป็น “สัตว์” ในความหมายที่ บรรยายอยู่ในบทความเรื่อง “วิธีก่อตั้งสตาร์ทอัพ” (บทความ ของพอล) เอมเม็ตต์เพิ่งจะเริ่มเรียนเขียนโปรแกรมตอนอำยุ 16 ปี และเรียน ภำษำ C++ ด้วยตัวเองจำกกำรดูตัวอย่ำง เขำไม่ท�ำอะไรเลย นอกจำกเขียนโปรแกรม นอน แล้วก็กินอำหำรเผื่อ 6 วันข้ำงหน้ำ
  • 30. 16 ขโมยวิธีคิดสุดเจ๋ง จากสุดยอดโรงเรียนสอนสตาร์ทอัพ บอกเราภายใน 1-2 ประโยคเกี่ยวกับตัวผู้ก่อตั้งที่แสดงให้ เห็นว่ามีความสามารถสูง จัสตินก�ำลังจะเรียนจบสำขำฟิสิกส์กับปรัชญำซึ่งเป็นสำขำที่แตก ต่ำงกันสุดขั้ว เอมเม็ตต์จบจำกโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษำของ มหำวิทยำลัยวอชิงตันเมื่ออำยุ 14 ปี โรงเรียนแบบนี้มีไว้เพื่อให้ นักเรียนสำมำรถเรียนจบชั้นมัธยมปลำยได้ภำยในปีเดียว อาจเกิดอะไรผิดพลาดขึ้นได้? (นี่เป็นการทดสอบ จินตนาการ ไม่ใช่การทดสอบความมั่นใจ) กูเกิลอำจจะบี้พวกเรำแบนแต๊ดแต๋เหมือนมดด้วยกำรปล่อย ซอฟต์แวร์ชั้นเลิศออกมำในวันพรุ่งนี้ 2-3 วันหลังจากส่งใบสมัครไปทางอีเมล 2 หนุ่มนักศึกษาจาก มหาวิทยาลัยเยลก็ได้รับค�าตอบว่าใบสมัครของพวกเขาถูกปฏิเสธ ขอบคุณส�ำหรับกำรสมัครเข้ำร่วมโครงกำรภำคฤดูร้อนส�ำหรับผู้ก่อ ตั้งสตำร์ทอัพ เรำก�ำลังอ่ำนใบสมัครอยู่ในตอนนี้และน่ำจะตัดสิน รอบแรกเสร็จภำยใน 2-3 วัน เรำพบว่ำทีมผู้สมัครมี 3 ประเภทคือ มีแวว ไม่มีแวว และคน มีแววแต่ไอเดียของพวกเขำไม่มีแวว ทีมของคุณอยู่ในกรณีหลัง สุด เรำยินดีที่จะนั่งคุยกับทีมที่อยู่ในประเภทนี้แล้วคิดหำไอเดียที่ มีโอกำสท�ำเงินเพรำะฉะนั้นกรุณำแจ้งให้เรำทรำบว่ำพวกคุณเข้ำ ข่ำยเหล่ำนี้หรือไม่
  • 31. 17 เด็กกว่า 1)มีควำมมุ่งมั่นที่จะท�ำไอเดียปัจจุบันของพวกคุณให้ส�ำเร็จ 2)ยินดีที่จะพิจำรณำไอเดียของพวกคุณในเวอร์ชั่นที่ถูกปรับ เปลี่ยนแล้ว 3) ยินดีที่จะท�ำงำนกับไอเดียใด ๆ ก็ตำมที่ดี แม้ว่ำจะไม่ เกี่ยวข้องกับไอเดียเดิมเลยก็ตำม กรุณำอย่ำคิดมำกเป็นเรื่องปกติที่ทีมผู้ก่อตั้งจะเคยมีไอเดีย ที่ไม่เข้ำท่ำ เรำเองก็เคย แม้แต่บิล เกตส์ กับพอล อัลเลน ก็เคย เหมือนกัน ขอบคุณ พอลเกรแฮมและเทรเวอร์แบล็กเวลล์ จัสตินและเอมเม็ตต์สร้างปฏิทินออนไลน์ของพวกเขามานาน แต่ทั้งสองก็ ท�าใจยอมรับความผิดหวังได้ และดีใจที่ถูกมองว่า “มีแวว” พวกเขาเขียน ตอบกลับไปว่าจะปรับเปลี่ยนไอเดียของKikoหลังจากนั้นไม่นานพวกเขา ก็ได้รับข้อความนัดหมายทางอีเมล การพบปะครั้งนี้จะถูกใช้ไปกับการถก ปัญหาเรื่องไอเดียธุรกิจ ทั้งสองได้รับเวลา40นาทีเพื่อแก้ต่างให้กับKikoจากนั้นพวกเขาก็ เดินไปรอบๆจัตุรัสฮาร์วาร์ดรอคอยที่จะได้ยินว่าพวกเขาได้รับการยอมรับ หรือไม่ ประมาณ 6 โมงเย็น เอมเม็ตต์ได้รับโทรศัพท์จากพอล “เราอยาก ลงทุนในบริษัทคุณเราจะให้เงิน12,000ดอลลาร์แลกกับหุ้นในบริษัทของ พวกคุณ 4%”
  • 32. 18 ขโมยวิธีคิดสุดเจ๋ง จากสุดยอดโรงเรียนสอนสตาร์ทอัพ “ผมไม่ได้เว่อร์เลยตอนที่บอกว่าเราดีใจจนกระโดดตัวลอย” จัสติน เล่าในภายหลัง “มันอาจดูไม่มากส�าหรับคนที่เคยก่อตั้งบริษัทมาก่อน แต่ จากมุมมองของเรา เราเป็นเด็กนักศึกษาที่ไม่มีความรู้ด้านธุรกิจ แต่แล้วก็ มีคนมาบอกว่าบริษัทของเรามีมูลค่า 300,000 ดอลลาร์! มีคนคิดจริงๆ ว่า มันคือไอเดียที่ดีและเราควรจะท�ามันให้ส�าเร็จ!”จัสตินบอกว่าการได้รับเงิน ทุนสนับสนุนให้เขาไล่ตามความฝันในการก่อตั้งสตาร์ทอัพคือจุดเปลี่ยน ชีวิตเขา * ผู้สมัครอีกทีมจากไอร์แลนด์มีสมาชิก2คนได้รับเชิญให้มาสัมภาษณ์ (สมาชิกคนที่อาวุโสกว่าอายุ 23 ปี ส่วนคนที่อ่อนกว่าอายุ 18 ปี และยัง เรียนอยู่มัธยมปลาย)เมื่อถึงเวลาเดวิดดอลฟินเข้ามาในห้องทว่าแพทริก โอโดเฮอร์ตี ไม่ได้มาด้วย เขาอยู่ที่ดับลิน แล้วจะเข้าร่วมการสัมภาษณ์ ผ่านทางสไกป์ พอลไม่เห็นด้วยที่แพทริกไม่มาด้วยตัวเอง การสื่อสารต่อหน้าถือ เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ เพราะความจริงใจคงไม่เกิดหากไม่มาปรากฏตัว ทีม ผู้เข้าสัมภาษณ์รอบสุดท้ายได้รับค�าสั่งให้มาที่ YC ด้วยตัวเองพร้อมกัน ทั้งทีม ทีมผู้เข้าสัมภาษณ์รอบสุดท้ายที่หลั่งไหลมาจากทั่วโลก รวมถึง ไอซ์แลนด์ อังกฤษ เดนมาร์ก ตุรกี แอฟริกาใต้ อินเดีย จีน ฮ่องกง และ ออสเตรเลียจะต้องอดทนต่อความไม่สะดวกและเป็นผู้แบกรับภาระเรื่อง
  • 33. 19 เด็กกว่า ค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่ YC จะคืนเงินค่าเดินทางให้สูงสุดแค่ทีมละ 600 ดอลลาร์เท่านั้น หากได้รับการสนับสนุนเงินทุน ผู้ก่อตั้งบริษัททุกคนจะต้องมาอยู่ที่ ซิลิคอนวัลเลย์เพื่อเข้าร่วมโครงการเป็นระยะเวลา3เดือนนี่เป็นเรื่องจ�าเป็น เพราะเวลาปรึกษาพอลและกุนซือคนอื่นๆพวกเขาจะต้องคุยกันแบบเผชิญ หน้าหรือ“เผชิญข้าง”ในกรณีของพอลขณะที่เขาเดินไปมาบนถนนโดยที่ มีบรรดาผู้ก่อตั้งอยู่เคียงข้าง เดินไปคุยกันไป พอลถามว่าอะไรคือสาเหตุที่แพทริกขัดขืนข้อเรียกร้องที่ให้ผู้ ก่อตั้งบริษัททุกคนมาด้วยตัวเอง “ท�าไมคุณถึงไม่มาสัมภาษณ์ล่ะ?” เขา ถามแพทริกผ่านคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กของเดวิด “ความจริงแล้วตอนนี้ผมควรจะอ่านหนังสือเตรียมสอบปลายภาค และพ่อกับแม่ก็ยื่นค�าขาดว่าไม่ให้ผมไปครับ”เสียงของแพทริกดังลอดออก มาจากโน้ตบุ๊คของเดวิด “แล้วพ่อแม่คุณจะรู้สึกยังไงกับการที่คุณเข้าร่วมกับYCเราไม่แน่ใจ ว่าการสนับสนุนเงินทุนให้กับเด็กอายุ18จะเป็นเรื่องดีไม่อยากท�าให้ชีวิต ของใครพังน่ะ” “พวกท่านก็เข้าใจอยู่นะครับว่าผมชอบท�าเรื่องลับสมอง” แพทริก กล่าว “ไม่ใช่ว่าผมอยากจะเลิกเรียนหนังสือเร็วขึ้นเป็นพิเศษนะครับ แต่ ตอนนี้ธุรกิจเทคโนโลยีคือสิ่งดีที่ควรท�า”
  • 34. 20 ขโมยวิธีคิดสุดเจ๋ง จากสุดยอดโรงเรียนสอนสตาร์ทอัพ “มันอาจจะไม่ได้ให้ความรู้เสริมสร้างสติปัญญาอย่างที่คุณคิดก็ได้ นะ”พอลพูดแสดงการบั่นทอนก�าลังใจออกมาให้เห็นแต่แพทริกและเดวิด ยังยืนหยัดตอบค�าถามได้ดี หลังจบการสัมภาษณ์และเดวิดออกจากห้อง ไปแล้วพอลพูดว่า“ผมชอบ2คนนี้พวกเขาดูมีวุฒิภาวะมากกว่าอายุจริง” * ถัดไป กลุ่มนักศึกษาปีหนึ่ง อายุ 18 ปี จ�านวน 4 คน เดินเข้ามาใน ห้องไอเดียของพวกเขาโดนปฏิเสธแบบเดียวกันเมื่อนั่งลงแล้วสมาชิกคน หนึ่งของทีมก็เล่าความเคลื่อนไหวให้พอลฟังทันที“หลังจากที่พวกเราได้รับ ข้อความที่คุณบอกว่า ‘เราชอบพวกคุณมากกว่าไอเดียของพวกคุณ’ เราก็ ระดมความคิดกันอยู่หลายวันครับ” พวกเขาอวดผลลัพธ์ที่ได้ นั่นก็คือ ซอฟต์แวร์ที่ช่วยแสดงบทความบนทวิตเตอร์ให้อ่านง่ายขึ้น พอลไม่สนใจ ไอเดียนี้ พอลถามโดยพูดเบาลงจนแทบเป็นเสียงกระซิบว่า “ท�าไมถึงเป็น ตอนนี้? ท�าไมไม่รอขึ้นปีสองก่อนล่ะ? ผมรู้ว่าพวกคุณรู้สึกว่าปีสองมันแก่ เกิน แต่ผมขอบอกเลยว่าไม่จริง” “ท�าของจริงแล้วได้ความรู้เยอะกว่าเข้าคลาสน่ะครับ” อีกคนพูดว่า “เราตื่นเต้นมากกับโอกาสที่มาถึงจนเราไม่อยากถอย หลังกลับ”ก่อนหน้านี้พวกเขาสร้างแอพพลิเคชั่นที่แสดงให้ผู้ใช้งานเฟซบุ๊ก เห็นเพื่อนๆ บนกูเกิลแมพ มันเป็นที่นิยมในมหาวิทยาลัยของพวกเขาอยู่ พักหนึ่ง แต่จากนั้นก็ไม่มีใครใช้มันอีกเลย
  • 35. 21 เด็กกว่า พอลถาม “พวกคุณมีไอเดียที่จะท�าให้คนควักกระเป๋าไหม? เพราะ พวกคุณก็รู้ว่าข้อผิดพลาดใหญ่หลวงของผู้ก่อตั้งบริษัทอายุน้อยก็คือพวก เขาผลิตของประเภทที่แทบจะไม่มีคนซื้อ” เขาพูดต่อว่า “การบังคับตัวเอง ให้ท�าของที่ขายได้จริงๆ อาจเป็นการฝึกวินัยที่ดีก็ได้ มันอาจเป็นธุรกิจที่ ดูไม่จริงใจ เป็นธุรกิจออนไลน์ที่น่าเบื่อเหมือนอู่ซ่อมรถ แต่ก็นี่แหละความ เป็นจริง” สัญญาณหมดเวลาดังขึ้น “เอาละหนุ่มๆ เราจะติดต่อทุกคนใน คืนนี้” เขาบอก หลังจากทีมนี้ไปแล้ว พอลก็บันทึกการประเมินผลของเขาในแง่ลบ “ผมรู้สึกว่าพวกเขาเด็กมาก ไม่มีความเป็นผู้ใหญ่” * แต่ไหนแต่ไร พอลก็ชอบทีมอายุน้อยที่สมาชิกทุกคนเป็นแฮกเกอร์ ในบรรดาทีมที่เข้ารอบสุดท้ายของรุ่นฤดูร้อนปี 2011 ทีม CampusCred นั้นผิดแผกจากทีมอื่นคือมีสมาชิกเพียงคนเดียวจาก3คนที่เป็นแฮกเกอร์ คนที่ไม่ได้เป็นแฮกเกอร์ยังเป็นนักศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยเบิร์กลีย์เว็บไซต์ ของพวกเขาเสนอโปรโมชั่นจากร้านค้าต่างๆ ที่อยู่ใกล้มหาวิทยาลัยให้กับ นักศึกษา “พวกคุณอยู่ทางใต้แถวซานตาบาร์บาราหรือซานดิเอโกหรือแถวๆ นั้นสินะ”พอลทักทายขณะอ่านใบสมัครของทีมนี้บนโน้ตบุ๊กยากที่จะบอก ได้ว่าเขาพูดด้วยน�้าเสียงที่ถูกใจหรือไม่ถูกใจกันแน่
  • 36. 22 ขโมยวิธีคิดสุดเจ๋ง จากสุดยอดโรงเรียนสอนสตาร์ทอัพ “ครับ พวกเราอยู่ทางใต้ของลอสแอนเจลิส” สมาชิกคนหนึ่งในทีม CampusCred ตอบ พอลเห็นได้ว่าพวกเขาประหม่า“การไม่เกี่ยงงานหนักเป็นสัญญาณ ที่ดี” เขาพูดให้หนุ่มๆ รู้สึกอุ่นใจ เขาได้รับกระดาษสีสันสดใส2แผ่นที่แสดงให้เห็นว่าในฤดูใบไม้ร่วง ที่ผ่านมา CampusCred เสนอโปรโมชั่นส่วนลดให้กับนักศึกษาที่ มหาวิทยาลัยเบิร์กลีย์ ต่อมาในภาคฤดูใบไม้ผลิที่ก�าลังด�าเนินอยู่นั้น พวกเขาเพิ่มมหาวิทยาลัยเดวิส มหาวิทยาลัยซานตาครูซ มหาวิทยาลัย ลอสแอนเจลิส มหาวิทยาลัยซานดิเอโก และมหาวิทยาลัยเซาธ์เทิร์น แคลิฟอร์เนียเข้าไป รายได้รวม 117,000 ดอลลาร์ จ�านวนผู้ใช้งานทั้งสิ้น 11,446 คน อัตราการเติบโตต่อสัปดาห์ 10% นับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ จ�านวนหน้าเว็บไซต์ที่มีคนเข้าชมรวม 491,391 หน้า การเข้าชมเว็บไซต์ 141,364 ครั้ง “เอาละ นั่นก็ดูดีนะ! มีอะไรไม่ชอบล่ะ?” ระดับความกระตือรือร้นที่ พอลแสดงออกนั้นผิดปกติที่สุด แต่ผู้ก่อตั้งสตาร์ทอัพที่อยู่ในห้องต่างก็ไม่ ตระหนักถึงเรื่องนั้น สมาชิกคนหนึ่งอธิบายว่า กรุ๊ปปอน1 และเว็บไซต์เสนอสินค้าและ บริการลดราคาอื่นๆ ไม่ได้พยายามที่จะขายสิ่งเหล่านั้นให้กับนักศึกษา “พวกเขาท�าอะไรผิดไปเหรอ?” 1 Groupon.com คือเว็บไซต์ที่เสนอการซื้อดีลราคาพิเศษในระยะเวลาจ�ากัด หรือก�าหนด จ�านวนคนซื้อเพื่อรับส่วนลด เปิดให้บริการแล้วกว่า 150 ประเทศทั่วโลก
  • 37. 23 เด็กกว่า “พวกเขาแค่ไม่รู้วิธีที่จะเข้าถึงนักศึกษาหรือท�าการตลาดที่เหมาะสม ครับ” ทีม CampusCred พบว่าการเสนอขายแก้วช็อตส�าหรับดื่มเหล้าที่มี โลโก้ของCampusCredพิมพ์อยู่ด้านใต้ให้กับนักศึกษาเป็นโปรโมชั่นที่ได้ รับความนิยมนอกจากนี้บริษัทยัง“ร่วมมือ”กับสมาคมหรือองค์กรต่างๆที่ ยินดีจะติดป้ายขนาดใหญ่ของ CampusCred ไว้นอกตึกเพื่อแลกกับเงิน บริจาคอีกด้วย พอลระงับความตื่นเต้นไว้ไม่ได้ “ถ้าผมเป็นพวกคุณนะ ผมจะ วางแผนยึดครองแต่ละมหาวิทยาลัย แล้วพวกคุณก็ลงมือยึดครองซะให้ หมด ไม่มีขีดจ�ากัดเลยสักนิดเดียว! ยึดให้หมดเดือนหน้าเลย!” ทีมผู้ก่อตั้งหัวเราะ คิดว่าเป็นไปไม่ได้ที่พอลจะจริงจัง แต่พอลคิด เช่นนั้นจริง ๆ แซม อัลต์แมน ถามทีม CampusCred ว่า “แล้วท�าไมพวกคุณถึง จะไม่ท�าล่ะ?” “เราจ�าเป็นต้องมีตัวแทนที่มหาวิทยาลัยครับ”สมาชิกคนหนึ่งในทีม ตอบ ตัวแทนคือคนที่รับสมัครร้านค้าในท้องถิ่นแล้วจัดโปรโมชั่นและขาย บนเว็บไซต์ แซมสังเกตเห็นว่ามีอีกอย่างที่น่าทึ่งบนเว็บไซต์ใหญ่ๆอย่างกรุ๊ปปอน ลูกค้า 85% เป็นผู้หญิง แต่ลูกค้าของ CampusCred นั้นมีทั้งผู้หญิงและ ผู้ชายจ�านวนเกือบเท่ากัน “ท�าไมถึงเป็นอย่างนั้นล่ะ?” เขาถาม “โปรโมชั่นส่วนใหญ่ของกรุ๊ปปอนจะเกี่ยวข้องกับสุขภาพและสปา ครับ แต่ของเราไม่ใช่”
  • 38. 24 ขโมยวิธีคิดสุดเจ๋ง จากสุดยอดโรงเรียนสอนสตาร์ทอัพ เมื่อถูกขอให้ประเมินขนาดของตลาดที่เป็นไปได้ทีมCampusCred ก็บ่ายเบี่ยงเห็นได้ชัดว่าพวกเขาเกรงว่าจะดูเหมือนเพ้อเจ้อสมาชิกคนหนึ่ง เริ่มพูดอย่างลังเล“เราเคยคาดการณ์ในเบื้องต้นว่าเราจะไปถึงไหนถ้าปีนึง เราท�าได้ 100 มหาวิทยาลัย...” “ท�าไมถึงไม่ท�าเดือนละ 100 มหาวิทยาลัยล่ะ?” พอลสงสัย “เราต้องใช้เงิน 2-3 พันดอลลาร์ส�าหรับ 1 มหาวิทยาลัยครับ” “แล้วตอนนี้พวกคุณมีก�าไรหรือยัง?” “มีครับ” “ถ้าผมสนับสนุนเงินทุนให้พวกคุณนะ ผมจะส่งพวกคุณไปให้ นักลงทุนอย่างเร็วจี๋เลย จะได้ไปหาเงินแล้วก็หาเมืองขึ้นกัน” หลังจบการสัมภาษณ์และทีม CampusCred จากไปแล้ว พอลก็ รู้สึกปลาบปลื้มยินดี“ตอนนี้เรามีมาตรฐานแล้วว่าของดีต้องเป็นแบบไหน”
  • 39. 25 สูงวัยกว่า 2 สูงวัยกว่า “ถ้าผมต้องเลือกอายุที่เหมาะสมส�าหรับผู้ก่อตั้งสตาร์ทอัพ ก็น่าจะเป็น ราวๆ 24 ถึง 26 ปี” พอล เกรแฮม เขียนไว้ในบทความชิ้นหนึ่งในเดือน ตุลาคม ปี 2006 บทความนี้มาจากค�าปราศรัยที่เขากล่าวกับนักศึกษาปีสี่ ของมหาวิทยาลัยเอ็มไอทีซึ่งก�าลังใคร่ครวญว่าจะเรียนต่อปริญญาโทหรือ หางานท�า หรือเริ่มก่อตั้งสตาร์ทอัพอย่างที่พอลหวังไว้ ณ ขณะนั้น YC มอบทุนให้กับสตาร์ทอัพไปแล้ว 3 รุ่น พอลได้เห็น ว่า หากบริษัทล้มเหลว ผู้ก่อตั้งที่อายุน้อยที่สุดที่ยังเรียนอยู่ก็ไม่จนตรอก เขาจึงคิดว่าวัยที่เหมาะสมที่สุดส�าหรับความท้าทายของสตาร์ทอัพคือ 25 ปี เพราะส�าหรับพวกเขาจะไม่มีการถอยหลังกลับไปเรียนใหม่ ความ ล้มเหลวจะเป็นเรื่องน่าอับอายทั้งต่อพ่อแม่และเพื่อนฝูงอย่างเห็นได้ชัดนั่น ท�าให้แน่ใจได้ว่าพวกเขาจะมุ่งมั่นเต็มพิกัดกับบริษัท แต่การรอนานเกินไป ผู้ที่ใฝ่ฝันว่าจะท�าธุรกิจก็จะมีภาระผูกพัน ผู้สมัครที่อยู่ในวัย30ต้นๆส่วนใหญ่มีแนวโน้มว่าจะมีลูกและมีหนี้ซึ่งท�าให้ พวกเขาเสียเปรียบคนอายุ25ปี“คนอายุ32ปีอาจจะเก่งกว่าแต่ก็เป็นไป ได้เช่นกันที่จะมีค่าใช้จ่ายในการด�ารงชีวิตที่สูงกว่า” พอลเขียนไว้เช่นนั้น
  • 40. 26 ขโมยวิธีคิดสุดเจ๋ง จากสุดยอดโรงเรียนสอนสตาร์ทอัพ คนอายุ 25 ปีมีข้อได้เปรียบที่สุด ซึ่งรวมถึง “ความทรหด ความขัดสน การ ยังไม่ลงหลักปักฐาน เพื่อนร่วมงาน และความเขลา” ค�าว่า“เพื่อนร่วมงาน”พอลหมายถึงเพื่อนที่มหาวิทยาลัยที่พวกเขา รู้จักดี คนเหล่านี้มีสิทธิ์ที่จะเป็นผู้ก่อตั้งสตาร์ทอัพด้วยกันในอนาคต ส่วน ค�าว่า “ความเขลา” ซึ่งพอลยอมรับว่าเขาตั้งใจเลือกใช้ค�านี้เพื่อเป็นการ ยั่วยุ หมายถึงคนไร้เดียงสาที่ไม่ตระหนักถึงความยากล�าบากของการ มีสตาร์ทอัพ การไม่รู้ว่ามีอะไรรอคอยอยู่เบื้องหน้าเป็นสิ่งดีที่สุดส�าหรับ ผู้ก่อตั้ง ไม่อย่างนั้นพวกเขาอาจจะไม่ลองพยายามเลยด้วยซ�้า “ก�าไรพอซื้อมาม่ากิน” คือคติของพอลที่เป็นที่รู้จักกันดีที่สุด หมาย ถึงช่วงเวลาที่พอลบอกว่าสตาร์ทอัพ “ท�าก�าไรได้แค่พออยู่ส�าหรับผู้ก่อตั้ง เท่านั้น” ซึ่งก�าไรนั้นจะพอก็ต่อเมื่อผู้ก่อตั้งมีค่าใช้จ่ายที่ต�่าพอตัว พอลรู้ดีว่าชีวิตของสตาร์ทอัพเป็นอย่างไรจากช่วงเวลา3ปีตั้งแต่ปี 1995 ถึง 1998 สิบปีก่อนที่เขาจะก่อตั้ง YC ประสบการณ์นั้นจบลงอย่าง สวยงามส�าหรับเขา เขาขายบริษัทเวียเว็บให้กับยาฮู และร�่ารวยมั่งคั่ง มากพอจนไม่จ�าเป็นต้องท�างานอีกต่อไปและเขาก็ไม่เสี่ยงโชคอีกครั้งด้วย การสร้างสตาร์ทอัพขึ้นมาใหม่ เพราะเขารู้ดีว่าประสบการณ์ในการท�า สตาร์ทอัพนั้นท�าให้ท้อถอยหมดก�าลังใจเพียงใด เหตุผลอีกประการก็คือ ความร�่ารวยท�าให้เขาหมดแรงจูงใจ เขาเกือบจะสร้างสตาร์ทอัพใหม่ถึง 2 ครั้ง ทว่า “ผมล้มเลิกทั้ง 2 ครั้งเพราะรู้ดีว่าถ้าไม่มีความอัตคัตขัดสนเป็น ตัวกระตุ้น ผมก็ไม่ยินดีที่จะอดทนกับความเครียดในการท�าสตาร์ทอัพ” *