about the problem of water

1. 1
แบบเสนอร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
รหัสวิชา ง 33201 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 5
ปีการศึกษา 2562
ชื่อโครงงานปัญหาวัชพืชน้า
ชื่อผู้ท้าโครงงาน
ชื่อน.ส วนุชสรา สมศรี เลขที่ 43 ชัน ม.6 ห้อง 6
ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน
ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาด้าเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 62
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่
ส้านักงานเขตพืนที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34

2. 2
ใบงาน
การจัดท้าข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
สมาชิกในกลุ่ม
ชื่อน.ส วนุชสรา สมศรี เลขที่ 43
คาชี้แจง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี้
ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย)
ปัญหาวัชพืชน้า
ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ)
The problem of water weeds
ประเภทโครงงาน เพื่อการศึกษา
ชื่อผู้ทาโครงงาน ชื่อน.ส วนุชสรา สมศรี
ชื่อที่ปรึกษา ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ชื่อที่ปรึกษาร่วม -
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 62
ที่มาและความสาคัญของโครงงาน (อธิบายถึงที่มา แนวคิด และเหตุผล ของการทาโครงงาน)
จากปัจจุบันที่เกิดมลภาวะทางน้า มักมีสาเหตุจากการปล่อยของเสียลงแม่น้า หรือ การบาบัดน้าเสียที่
ไม่ได้คุณภาพจากโรงงาน แต่อีกหนึ่งสาเหตุที่เป็นปัญหามาตั้งแต่อดีต คือ วัชพืชน้า หนึ่งในนั้น คือผักตบชวาที่
มีส่วนให้ เกิดมลภาวะทางน้า หรือการขยายแพร่พันธุ์อย่างรวดเร็ว ทาให้ไปขวางทางน้าไหล จนน้าไม่สามารถ
ไหลผ่านเกิดเป็นน้าเน่าเสีย เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ามีพิษ ทาให้เกิดอันตรายต่อ สัตว์ที่อาศัยในน้า อาทิ
เช่น ปลา หอย ที่อาจจะไปทาให้เกิดการแย่งแหล่งอาหาร หรือที่อยู่อาศัย จากการศึกษา ปัญหานี้ ทาให้เกิด
เป็นโครงงานที่ช่วยกาจัดและลดปัญหาทางน้า โดยมีแนวคิดที่หาปัญหา ที่เกิดจากวัชพืชน้า หรือ ผลกระทบ
จากวัชพืชน้า แนวคิดจะช่วยฟื้นฟูให้แม่น้าลาคลอง สะอาด ขึ้น ดังนั้นเพื่อน ๆ ที่อาศัยอยู่ริมน้า ต้องช่วยกันงด
เทน้าที่มีผงซักฟอกลงในแม่น้าลาคลอง และติดตั้งถังบาบัดน้าเสีย

3. 3
วัตถุประสงค์ (สิ่งที่ต้องการในการทาโครงงาน ระบุเป็นข้อ)
1. เพื่อศึกษาวิธีลดการเกิดมละพิษจากวัชพืชน้า
2. เพื่อศึกษาผลกระทบของการวัชพืชน้า
3. เพื่อศึกษาและรับมือกับผลที่เกิดขึ้น
4. แนวทางการป้องกันอย่างยั่งยืนของการลดมละภาวะ
ขอบเขตโครงงาน
ผลกระทบ การป้องกันการ วิธีการรับมือจากวัชพืชน้า
การบาบัดดูแลแม่น้าและลาคลอง
หลักการและทฤษฎี (ความรู้ หลักการ หรือทฤษฎีที่สนับสนุนการทาโครงงาน)
ความน่ากลัวของผักตบชวา วัชพืชอันตรายอันดับ 8 ของโลก
ผักตบชวา ที่เพื่อน ๆ เห็นมันลอยอยู่ตามแม่น้าลาคลองในบ้านเรานั้น หลายคนคงจะยังไม่ทราบว่า ผักตบชวา
ถูกจัดอันดับให้เป็นวัชพืชร้ายแรงอันดับ 8 ของโลกเลยทีเดียว ซึ่งปัญหาของผักตบชวาไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้น แต่มีมา
ตั้งแต่สมัยยุคแรก ๆ โดยผักตบชวาเข้ามาในเมืองไทยคือเมื่อปี 2444 จุดประสงค์คือปลูกเพื่อความสวยงาม
ทว่าปี 2456 ผักตบชวาแพร่กระจายไปมาก จากเดิมที่เป็นพืชสวยงาม กลายเป็นพืชที่สร้างความเดือดร้อนใน
แม่น้า ลาคลอง ทาให้คนยุคนั้นสัญจรไปมาทางเรือลาบาก ถึงขั้นมีการออกกฎหมายห้ามมีผักตบชวาใน
ครอบครอง ใครมีต้องทาลายทิ้งทันที
จนถึงวันนี้ 106 ปีผ่านไป ผักตบชวายังคงเป็นปัญหาของคนที่อยู่ใกล้แม่น้าลาคลอง และปัญหาก็เริ่มลุกลาม
มากขึ้นนอกเหนือจากเรื่องการสัญจรทางน้าแล้ว ก็ยังสร้างปัญหาใหญ่อย่างอื่นอีกมากมาย ทีนี้เรามาดูกันว่า
ความน่ากลัวของผักตบชวานั้นมีอะไรบ้าง…
4

4. ผงซักฟองคืออาหารชั้นดีของผักตบชวา…ใช่ครับอ่านไม่ผิด เพราะผงซักฟอกมีสารที่ชื่อ ไนเตส ฟอสเฟต ที่เป็น
แหล่งอาหาร และแร่ธาตุชั้นดีของผักตบชวาและวัชพืชน้า ยิ่งได้รับเยอะก็ยิ่งแพร่กระจายได้ไว โตไว และโตเร็ว
มากยิ่งขึ้น
ดังนั้นเพื่อน ๆ ที่อาศัยอยู่ริมน้า ต้องช่วยกันงดเทน้าที่มีผงซักฟอกลงในแม่น้าลาคลอง และติดตั้งถังบาบัดน้า
เสีย เพราะถ้าหากยังไม่มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ผักตบชวาก็จะยังคงได้รับอาหารทางอ้อมจากมนุษย์ ทาให้
พวกมันขยายพันธุ์ได้อย่างรวดเร็วและสร้างปัญหาให้เราต่อไป
ผักตบชวาเป็นวัชพืชที่ขยายพันธุ์ไวที่สุดขนิดหนึ่ง ซึ่งผักตบชวา 1 ต้นนั้น มีเมล็ดถึง 5,000 เมล็ดที่พร้อม
ขยายพันธุ์ โดยใช้เวลาไม่ถึง 30 วัน เมล็ดพันธุ์ผักตบชวาก็จะเติบโตและพร้อมขยายพันธุ์ได้ถึง 1,000 ต้นเลย
ทีเดียว สังเกตง่าย ๆ ถ้าเห็นที่ไหนที่มีกอผักตบชวาแม้เพียงนิดเดียว ปล่อยไว้สักพักมันจะขยายพันธุ์อย่าง
รวดเร็ว และเมื่อมีจานวนมากจนปกคลุมพื้นผิวน้า จะส่งผลให้น้าขาดออกซิเจนเพราะอากาศในน้าไม่ถ่ายเท
สุดท้ายก็กลายเป็นน้าเน่าเสียและที่สาคัญ ผักตบชวามีความทนต่อทุกสภาวะมาก เพราะถึงแม้ว่าคลองจะแห้ง
จนแทบไม่มีน้า แต่ผักตบชวาก็สามารถยืนต้นต่อไปได้ หรือถ้าตาย พวกมันก็พร้อมที่จะฝากเมล็ดไว้ในดินแล้ว
รอขยายพันธุ์ต่อในส่วนหน้าฝ
ผักตบชวา เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทาให้เกิดน้าท่วม เพราะเมื่อไหร่ที่ผักตบชวาอยู่รวมกันเป็นกลุ่มขนาดใหญ่ จะ
ทาให้การไหลของน้าช้าลงกว่าปกติ และพวกกอผักตบที่ลอยตามน้าก็มักจะลอยไปกองรวมกันที่ใต้สะพานและ
ประตูระบายน้า ทาให้ขวางทางไหลของน้า และเมื่อฝนตกหนักหรือมีน้าหลากก็จะทาให้น้าระบายไม่ทัน จน
ทาให้น้าล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมบ้านเรือนที่อยู่ริมน้าได้
และที่สาคัญซากผักตบชวาที่ตาย ก็จะทับถมกันในคลองจนทาให้คลองตื้นเขิน ทาให้มีโอกาสเกิดน้าท่วมได้ง่าย
ขึ้นอีกด้วย
5

5. วิธีดาเนินงาน
แนวทางการดาเนินงาน
1. การศึกษาข้อมูลเกี่ยวการเกิดวัชพืชน้า
2. ศึกษาผลกระทบที่สามารถเกิดจากวัชพืชน้า
3. นาข้อมูลมาวิเคราะห์หาผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นได้ และหาแนวทางป้องกัน
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้
1. คอมพิวเตอร์
2. ข้อมูลทางโลกออนไลน์
3. สมุดบันทึก
6

6. ขั้นตอนและแผนดาเนินงาน
ลาดับ
ที่
ขั้นตอน
สัปดาห์ที่
1 หาเรื่องที่
น่าสนใจ
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17
2 ศึกษาและ
ค้นคว้า
ข้อมูล
3 จัดทาโค
รางร่าง
4 ปฎิบัติการ
ทา
โครงงาน
5 ปรับปรุง
ทดสอบ
6 ประเมินผ
ลงาน
7 นาเสนอ
โครงงาน
ผลที่คาดว่าจะได้รับ (ผลลพัธ์ที่ต้องการให้กิดขึ้นเมื่อสิ้นสุดการทา โครงงาน)
ทาให้ผู้คน รู้ถึงการเกิดปัญหา สาเหตุของการเกิดปัญหา
ผู้คนหันมาตะหนักถึงการส่งต่อทรัพยาการ
ผู้คนสนใจในการหยุดการกระทาที่อาจทาให้เกิดการแพร่พันธุ์ ของวัชพืชน้า
สถานที่ดาเนินการ
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย
แหล่งอ้างอิง
https://www.singha-r-
https://www.mwa.co.th/ewt_dl_link.php?nid=513