สมาธิมีผลต่อการเรียนรู้

1. 1
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
รหัสวิชา ง33201-33202 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 5- 6
ปีการศึกษา 2561
ชื่อโครงงาน สมาธิมีผลต่อการเรียนรู้
ชื่อผู้ทาโครงงาน
นางาสาวสุวดี คาบเพ็ชร ชั้นม.6/4 เลขที่ 22
ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน
ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2561
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34

2. 2
ใบงาน
การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
สมาชิกในกลุ่ม
นางสาวสุวดี คาบเพ็ชร ชั้น ม.6/4 เลขที่ 22
คาชี้แจง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี้
ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย)
สมาธิมีผลต่อการเรียนรู้
ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ)
Meditation affects learning.
ประเภทโครงงาน เพื่อการศึกษา
ชื่อผู้ทาโครงงาน นางสาวสุวดี คาบเพ็ชร
ชื่อที่ปรึกษาร่วม ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน 1 เดือน
ที่มาและความสาคัญของโครงงาน (อธิบายถึงที่มา แนวคิด และเหตุผล ของการทาโครงงาน)
เนื่องจากปัจจุบันมีเทคโนโลยีที่ก้าวไกลมากที่ช่วยอานวยความสะดวกแก่มนุษย์หลายๆด้าน ไม่ว่า
จะทาอะไรก็รวดเร็วทันใจกว่าในอดีตมาก เห็นได้ชัดเจนจากการที่มีสมาร์ทโฟน ซึ่งทาให้การ
ติดต่อสื่อสารของมนุษย์นั้นเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนต่างๆ ที่ช่วยอานวย
ความสะดวกและมอบความปลอดภัยในการใช้ชีวิตแก่มนุษย์ แต่ทว่าในความเจริญพร้อมด้วยเทคโนโลยีนี้
เองกลับแฝงไปด้วยปัญหาที่มนุษย์จะได้รับมาโดยไม่รู้ตัว เพราะมันทาให้มนุษย์ไม่ต้องใช้เวลาจดจ่อ
พยายามทาสิ่งใดนานๆ จนส่งผลให้หลายๆคนเริ่มมีสมาธิที่ไม่มั่นคง ไม่ชอบทาอะไรที่ต้องจดจ่อใช้สมาธิ
ใช้เวลานาน ยิ่งนานวันเข้าจึงทาให้หลายๆคนมีสมาธิสั้นลงเรื่อยๆโดยไม่รู้ตัว ดังนั้นโครงงานเรื่อง “สมาธิ
มีผลต่อการเรียนรู้” จึงต้องการศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับสาเหตุที่ทาให้คนเราสูญเสียสมาธิได้ง่ายขณะทา
กิจกรรมต่างๆ พร้อมทั้งศึกษาวิธีง่ายๆที่เหมาะสมกับทุกช่วงวัยเพื่อจะช่วยให้คนเราสามารถพัฒนาสมาธิ
ให้มาจดจ่อกับสิ่งที่กาลังทาอยู่ได้ดี ซึ่งจะเป็นผลให้คนเราสามารถทากิจกรรมนั้นๆได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ได้ผลดียิ่งขึ้น

3. 3
วัตถุประสงค์ (สิ่งที่ต้องการในการทาโครงงาน ระบุเป็นข้อ)
1. ศึกษาค้นคว้าสาเหตุที่ทาให้คนเราสูญเสียสมาธิได้ง่ายขณะทากิจกรรมต่างๆ
2. ศึกษาวิธีพัฒนาสมาธิที่เหมาะสมกับทุกเพศทุกวัย
ขอบเขตโครงงาน (คุณลักษณะ ขอบเขต เงื่อนไขและข้อจากัดของการทาโครงงาน)
ในการศึกษาหาวิธีที่จะช่วยพัฒนาสมาธิจะนาเสนอวิธีการที่ง่าย สะดวกต่อการปฏิบัติในชีวิตจริง
และเหมาะสมกับทุกเพศทุกวัย เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน
หลักการและทฤษฎี (ความรู้ หลักการ หรือทฤษฎีที่สนับสนุนการทาโครงงาน)
จากบทความของ “รวิวรรณ ศรีสุชาติ” นักสังคมสงเคราะห์ชานาญการพิเศษ สถาบันสุขภาพจิต
เด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ ที่ได้ทาการอธิบายเกี่ยวกับความหมายของสมาธิ สิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการ
เรียนรู้ และอื่นๆ ซึ่งสอดคล้องกับหัวข้อโครงงาน “สมาธิมีผลต่อการเรียนรู้” โดยผู้จัดทาจะทาการศึกษา
เพิ่มเติมต่อยอดตามจุดประสงค์ของโครงงานจากบทความข้างต้น
วิธีดาเนินงาน
แนวทางการดาเนินงาน
- เลือกหัวข้อการทาโครงงาน
- ปรึกษาหัวข้อกับครูผู้สอน
- ศึกษารวบรวมข้อมูล
- จัดทารายงาน
- นาเสนอครู
- ปรับปรุงและไก้ไข
-
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้
- คอมพิวเตอร์
- โทรศัพท์
- อินเตอร์เน็ต
งบประมาณ
- 100 บาท

4. 4
ขั้นตอนและแผนดาเนินงาน
ลาดับ
ที่
ขั้นตอน สัปดาห์ที่ ผู้รับผิดชอบ
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17
1 คิดหัวข้อโครงงาน
2 ศึกษาและค้นคว้าข้อมูล
3 จัดทาโครงร่างงาน
4 ปฏิบัติการสร้างโครงงาน
5 ปรับปรุงทดสอบ
6 การทาเอกสารรายงาน
7 ประเมินผลงาน
8 นาเสนอโครงงาน
ผลที่คาดว่าจะได้รับ (ผลลัพธ์ที่ต้องการให้เกิดขึ้นเมื่อสิ้นสุดการทาโครงงาน)
- ผู้จัดทาและผู้ที่สนใจได้เรียนรู้สาเหตุที่ทาให้คนส่วนใหญ่สูญเสียสมาธิได้ง่ายในปัจจุบัน
- ผู้จัดทาและผู้ที่สนใจสามารถนาความรู้ที่ได้จากโครงงานไปประยุกต์ใช้ชีวิตประจาวันเพื่อพัฒนา
สมาธิได้
สถานที่ดาเนินการ
- บ้าน
- โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย
กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง
- สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
- สุขศึกษา
แหล่งอ้างอิง (เอกสาร หรือแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ที่นามาใช้การทาโครงงาน)
- https://bit.ly/2qjy7Xs
- https://bit.ly/2wHBtWG