1.นางสาวพิมพ์ สุภาษา เลขที่ 10 ชั้น ม.6 ห้อง 8 2.นายโสภณวิชญ์ คำมูลชั้น เลขที่ 31 ชั้น ม.6 ห้อง 8

1. 1
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
รหัสวิชา ง33201-33202 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 6
ปีการศึกษา 2560
ชื่อโครงงาน ดูดซับสารฟอร์มาลดีไฮด์ด้วยไม้ประดับ
ชื่อผู้ทาโครงงาน
1.นางสาวพิมพ์ สุภาษา เลขที่ 10 ชั้น ม.6 ห้อง 8
2.นายโสภณวิชญ์ คามูลชั้น เลขที่ 31 ชั้น ม.6 ห้อง 8
ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2560
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34

2. 2
ใบงาน
การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
สมาชิกในกลุ่ม
1.นางสาวพิมพ์ สุภาษา เลขที่ 10
3.โสภณวิชญ์ คามูล เลขที่ 31
คาชี้แจง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี้
ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย)
ดูดซับสารฟอร์มาลดีไฮด์ด้วยไม้ประดับ
ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ) Absorbing Formaldehyde by Ornamental plants
ประเภทโครงงาน โครงงานเพื่อการศึกษา
ชื่อผู้ทาโครงงาน นางสาวพิมพ์ สุภาษา , นายโสภณวิชญ์ คามูล
ชื่อที่ปรึกษา ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคการเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2560
ที่มาและความสาคัญของโครงงาน
ปัจจุบันการทาเล็บกาลังเป็นที่นิยมมากขึ้น และในน้ายาทาเล็บก็มีสารประกอบที่สาคัญชนิดหนึ่ง เรียกว่า สาร
ฟอร์มาลดีไฮด์(formaldehyde) ซึ่งก็คือ สารฟอร์มาลีน(formalin) ในรูปแบบแก๊สอุณหภูมิที่ห้อง ไร้สีและมีกลิ่นฉุน
ระคายเคือง และหากเราได้รับสารนี้เข้าสู่ร่างกายผ่านทางอากาศเป็นเวลานาน อาจทาให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็ง
โพรงจมูกและโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจอื่นๆด้วย จึงได้ทาการทดสอบหาว่าไม้ประดับชนิดใดที่มีประสิทธิภาพ
ในการช่วยลดปริมาณสารฟอร์มาลดีไฮด์ในอากาศได้ดีที่สุด
วัตถุประสงค์
1. เพื่อศึกษาความสามารถในการดูดซับด้วยสารฟอร์มาลดีไฮด์ที่อยู่ในน้ายาทาเล็บของไม้ประดับ ได้แก่ ต้นวาสนา ต้น
พลุด่าง และต้นเศรษฐีเรือนใน
ขอบเขตโครงงาน

3. 3
เพื่อที่จะต้องการปรับปรุงคุณภาพอากาศให้มีปริมาณสารฟอร์มาลดีไฮด์น้อยลง โดยใช้ไม้ประดับเข้ามาเป็น
ตัวดูดซับสารนี้ โดยใช้ไม้ประดับ 3 ชนิด ได้แก่ ต้นวาสนา ต้นพลุด่าง และต้นเศรษฐีเรือนใน
หลักการและทฤษฎี
วิชาวิทยาศาสตร์ เรื่องการ ดูดซับสารพิษในอากาศของพืชเพื่อนาไปเป็นอาหาร
วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง สถิติในการเก็บข้อมูล
ต้นไม้ดูดสารพิษได้อย่างไร
ธรรมชาติสร้างให้ไม้ประดับเล็กๆมีความสามารถดึงดูดจุลินทรีย์ให้มาอยู่บนหรือรอบๆรากของมัน ซึ่งมี
ความสามารถย่อยสลายโครงสร้างอินทรีย์สารที่ซับซ้อนได้ ใบของต้นไม้ยังสามารถดูดซับสารอินทรีย์ที่เป็นแก๊ส
และย่อยหรือถ่ายโอนของเสียไปยังรากเพื่อใช้เป็นอาหารสาหรับจุลินทรีย์ ด้วยสาเหตุนี้เองทาให้ไม้ประดับ
สามารถดูดสารพิษจากอากาศได้ และกระบวนการคายน้าก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่พืชใช้ในการเคลื่อนย้ายสารที่เป็น
มลพิษ ไปยังจุลินทรีย์ที่อยู่รอบๆรากของมัน กระบวนการคายน้าต้องใช้กระแสความร้อน ทาให้เกิดการ ไหลเวียน
ของอากาศในขณะที่น้าที่ไหลจากรากขึ้นไปยังส่วนต่างๆ ของพืชอย่างรวดเร็ว อากาศจะถูกดึงลงไปสู่ ดินรอบๆ
ราก ก๊าซออกซิเจนและก๊าซไนโตรเจนในอากาศเมื่อถูกดึงไปอยู่ที่ราก ก๊าซไนโตรเจนจะถูกเปลี่ยนไป โดย
จุลินทรีย์ไปเป็นไนเตรทกลายเป็นอาหารของพืช และพืชในตระกูลไม้ประดับเป็นพืชที่มีการปรับตัว และ
เจริญเติบโตได้ดีในที่ที่มีแสงน้อย และสามารถดูดสารพิษด้วยกรรมวิธีการคายน้าโดยจะทาการดูดก๊าซพิษที่อยู่
รอบๆลงสู่ดินและจุลินทรีย์ที่อยู่รอบๆราก จะเป็นตัวเปลี่ยนให้สารพิษเหล่านั้นกลายไปเป็นอาหารของพืช
วิธีดาเนินงาน
แนวทางการดาเนินงาน
1.ทดสอบความสามารถในการตรวจสอบสารฟอร์มาลินของสารสกัดจากใบพืชทั้ง 3 ชนิด ได้แก่ ใบ มะยม ใบลูกหว้า
ใบมะขาม
1.1 ตรวจสอบประสิทธิภาพการตรวจสารฟอร์มาลินโดยการนาใบของสารทั้งสามมาปั่นและมาต้ม หลังจาก
นั้นนามาตรวจสารฟอร์มาลดีไฮด์สังเกตประสิทธิภาพจากปริมาณการตะกอน
1.2 ศึกษาชนิดของไม้ประดับที่สามารถดูดสารพิษฟอร์มาดีไฮด์ได้ดีที่สุดทั้ง 3 ชนิด ได้แก่ ต้นพลูด่าง ต้น
วาสนา ต้นว่านหางจระเข้
1.3ศึกษาชนิดของไม้ประดับที่สามารถดูดสารพิษฟอร์มาดีไฮด์ในยาทาเล็บได้ดีที่สุดทั้ง 3 ชนิด ได้แก่ ต้นพลู
ด่าง ต้นวาสนา ต้นว่านหางจระเข้
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้
บีกเกอร์ (Beaker)
กล่องพลาสติก (Plastic Box)
แท่งแก้วคนสาร (Glass Stirring Rod)
หลอดหยด (Dropper)
ตะเกียงแอลกอฮอล์ (Alcohol Burner)

4. 4
จานทดลองเคมี (PetriDish)
โกร่งบดยา (Mortar and pestel)
งบประมาณ
ประมาณ 200 บาท
ขั้นตอนและแผนดาเนินงาน
ลาดับ
ที่
ขั้นตอน
สัปดาห์ที่ ผู้รับผิดชอบ
1 2 3 4 5 6 7 8 9
1
0
1
1
12
1
3
1
4
1
5
16 17
1 คิดหัวข้อโครงงาน  
พิมพ์
โสภณวิชญ์
2 ศึกษาและค้นคว้าข้อมูล    
พิมพ์
โสภณวิชญ์
3 จัดทาโครงร่างงาน  โสภณวิชญ์
4 ปฏิบัติการสร้างโครงงาน     พิมพ์
5 ปรับปรุงทดสอบ   พิมพ์
6 การทาเอกสารรายงาน   
พิมพ์
โสภณวิชญ์
7 ประเมินผลงาน   โสภณวิชญ์
8 นาเสนอโครงงาน 
พิมพ์
โสภณวิชญ์
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
ได้รู้ว่าต้นไม้ชนิดใดสามารถดูดซับสารฟอร์มาลดีไฮด์ได้ดีที่สุด เพื่อนาไปต่อยอดต่อไป
สถานที่ดาเนินการ
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย
กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
แหล่งอ้างอิง
ดร.นิธิยา รัตนาปนนท์ และ ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.นิธิยา รัตนาปนนท์. Kaempferol /
แคมพ์เฟอรอล.[ออนไลน์].
สืบค้นจาก: http://www.foodnetworksolution.com/wiki/word/527
9/kaempferol-แคมพ์เฟอรอล (วันที่ค้นข้อมูล : 18 เมษายน 2560).
Chai Siri. (2556). สุดยอดไม้ประดับขจัดสารพิษ.[ออนไลน์].
สืบค้นจาก http://www.smile4work.com/2013/10/blog-post_21.html

5. 5
?m=1 (วันที่ค้นข้อมูล : 27 มีนาคม 2560).
Nurhanani Razalและคณะ. (2015). Polyphenols from the extract and
fraction of T. indica seeds protected HepG2 cells against
oxidative stress.[ออนไลน์].
สืบค้นจาก: https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC4683930/
(วันที่ค้นข้อมูล : 11 ธันวาคม 2559).
Zom.(2559). 20 พันธุ์ไม้ช่วยฟอกอากาศ สามารถปลูกในบ้านได้บ้าน.[ออนไลน์].
สืบค้นจาก: https://decor.mthai.com/garden/18502.html
(วันที่ค้นข้อมูล : 1 พฤศจิกายน 2559).