More Related Content
Similar to Supassara computer1 (20)
More from fahjirachaya (6)
Supassara computer1
- 1. แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
รหัสวิชา ง 33201 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 5
ปีการศึกษา 2562
ชื่อโครงงาน สาเหตุและแนวทางแก้ปัญหาการจราจร
ในเขตอาเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
ชื่อผู้ทาโครงงาน
ชื่อนางสาวสุภัสสรา กาศเกษม เลขที่ 17 ชั้นม.6 ห้อง 7
ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน คุณครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2562
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34
- 2. ใบงาน
การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
สมาชิกในกลุ่ม
1. นางสาว สุภัสสรา กาศเกษม เลขที่ 17
คาชี้แจง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี้
ชื่อโครงงาน ( ภาษาไทย )
สาเหตุและแนวทางแก้ปัญหาการจราจร ในเขตอาเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
ชื่อโครงงาน ( ภาษาอังกฤษ )
Causes and solutions to traffic problems In the Mueang district Chiangmai Province
ประเภทโครงงาน โครงงานสารวจและพัฒนา
ชื่อผู้ทาโครงงาน น.ส.สุภัสสรา กาศเกษม
ชื่อที่ปรึกษา คุณครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ชื่อที่ปรึกษาร่วม –
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2ปีการศึกษา 2562
ที่มาและความสาคัญของโครงงาน ( อธิบายถึงที่มา แนวคิด และเหตุผล ของการทาโครงงาน )
ประชาชนชาวเชียงใหม่มองว่าปัญหาการจราจรในเขตอาเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ในปี พ.ศ. 2544 มี
ความรุนแรงในระดับ “พอสมควร” แต่ในปี พ.ศ. 2545 มีระดับความรุนแรงเพิ่มขึ้นเป็น “ค่อนข้างรุนแรง”
ทั้งนี้ปัญหาการจราจรมีสาเหตุใหญ่มาจากการไม่เคารพกฎจราจรของประชาชนเอง อีกทั้งการที่ยังไม่มีระบบ
ขนส่งมวลชนที่ดีพอ ซึ่งเรื่องเหล่านี้ทาให้ประชาชนไม่มีทางเลือกที่จะต้องมียานพาหนะของตนเองเพื่อ
ความสะดวกรวดเร็วในการเดินทาง จนทาให้ชาวเชียงใหม่รู้สึกได้ว่าจานวนพาหนะมีมากเกินไปแล้ว แต่
กระนั้นผู้ที่พยายามหายานพาหนะมาขับขี่ก็ใช่จะสามารถหลีกเลี่ยงจากปัญหาได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ขับขี่
รถจักรยานยนต์ที่ต้องทนต่อสู้กับความยากลาบากบนท้องถนนมากที่สุด
- 3. วัตถุประสงค์ (สิ่งที่ต้องการในการทาโครงงาน ระบุเป็นข้อ)
1.เพื่อเข้าใจและเข้าถึงสาเหตุการจราจรติดขัดในตัวเมืองเชียงใหม่
2.เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดในระยะยาว
3.เพื่อลดปัญหาอุบัติเหตุบนท้องถนน
ขอบเขตโครงงาน (คุณลักษณะ ขอบเขต เงื่อนไขและข้อจากัดของการทาโครงงาน)
-ขอบเขตด้านพื้นที่
บริเวณตัวเมืองเชียงใหม่
-ขอบเขตด้านประชากร
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่ขับรถมาโรงเรียน
-ขอบเขตด้านระยะเวลาที่ใช้
ช่วงเวลา 00.60 น. ถึง 08.30 น. ในตอนเช้าของวันจันทร์ถึงวันศุกร์ (ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2562)
หลักการและทฤษฎี (ความรู้ หลักการ หรือทฤษฎีที่สนับสนุนการทาโครงงาน)
คมนาคมเตรียมเปิดประมูลระบบขนส่งสาธารณะจังหวัดเชียงใหม่สายแรกได้ในปี 2562 หลังสนข.
ศึกษาแล้วมอบให้รฟม.ดาเนินการในรูปแบบให้เอกชนร่วมทุนในกิจการของรัฐหรือพีพีพี สร้างความหวัง
ให้แก่มหานครเชียงใหม่ในการแก้ปัญหาจราจรติดขัด
ชัยวัฒน์ ทองคาคูณ ผู้อานวยการสานักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) และว่าที่
ปลัดกระทรวงคมนาคมคนใหม่เผยถึงความคืบหน้าการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะจังหวัดเชียงใหม่ หรือ
รถไฟฟ้าจังหวัดเชียงใหม่ว่าภายหลังจากที่กระทรวงคมนาคมได้มอบหมายให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน
แห่งประเทศไทย (รฟม.) ดาเนินการศึกษารายละเอียดความเหมาะสมและออกแบบโครงการระบบขนส่ง
มวลชนสายสีแดง ซึ่งเป็นรถไฟฟ้ารางเบาสายแรกของจังหวัดเชียงใหม่ ขณะนี้คณะกรรมการนโยบายการให้
เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ ซึ่งมีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้มีมติ
เห็นชอบกาหนดโครงการที่จะดาเนินการตามมาตรการเร่งรัดโครงการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ
(PPP Fast Track) ของกระทรวงคมนาคมจานวน 6 โครงการ โดยรวมถึงโครงการระบบขนส่งมวลชน
จังหวัดเชียงใหม่ด้วย และคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) ได้มีมติรับทราบผลการศึกษา
และจัดทาแผนแม่บทการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะจังหวัดเชียงใหม่ที่ สนข.ดาเนินการศึกษาแล้วเสร็จ
และมอบหมายให้รฟม.ดาเนินโครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดเชียงใหม่ในรูปแบบการให้เอกชนร่วม
ลงทุนในกิจการของรัฐ (PPP) โดยมีความเห็นว่าควรดาเนินการก่อสร้างครั้งละ 1 เส้นทาง
- 4. “สาหรับการศึกษาและจัดทาแผนแม่บทการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะจังหวัดเชียงใหม่ สนข.ได้
ให้ความสาคัญกับการมีส่วนร่วมของประชาชนชาวจังหวัดเชียงใหม่เป็นอย่างยิ่ง ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการจัด
ประชุมรับฟังความคิดเห็นจานวน 3 ครั้ง และจัดประชุมกลุ่มย่อย Focus Group จานวน 5 ครั้ง จากหน่วยงาน
ภาครัฐ ภาคเอกชน ผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรภาคประชาชน ผู้นาชุมชน ภาคธุรกิจเอกชน
และสื่อมวลชน โดยได้นาข้อเสนอแนะ และข้อคิดเห็นอันเป็นประโยชน์ มาประกอบการศึกษาฯ ดังกล่าว
เพื่อให้เป็นระบบขนส่งสาธารณะของคนเชียงใหม่อย่างแท้จริง”
ผอ.สนข.เผยต่อว่า จากผลการศึกษาพบว่าระบบขนส่งสาธารณะที่เหมาะสมกับจังหวัดเชียงใหม่จะ
เป็นระบบรถไฟฟ้าแบบรางเบา (Light Rail Transit: LRT) ประกอบด้วย 3 เส้นทาง ได้แก่ สายสีแดงวิ่งแนว
ทิศเหนือ-ใต้ระยะทาง 12.54 กิโลเมตร สายสีน้าเงิน วิ่งแนวทิศตะวันออก-ตะวันตก ระยะทาง 10.47
กิโลเมตร และสายสีเขียววิ่งเชื่อมย่านธุรกิจ ระยะทาง 11.92 กิโลเมตร รวมระยะทาง 34.93กิโลเมตร มี
โครงสร้างทางวิ่งผสมระหว่างระดับดินและใต้ดิน โดยเขตชานเมืองเป็นระดับดิน (วิ่งร่วมกับการจราจรปกติ
บางส่วน เช่น ทางแยก และจุดกลับรถ) และเขตเมืองเป็นระดับใต้ดิน โดยกระทรวงคมนาคมได้พิจารณา
มอบหมายให้รฟม. ดาเนินการศึกษารายละเอียดความเหมาะสมและออกแบบโครงการระบบขนส่งมวลชน
สายสีแดงจังหวัดเชียงใหม่ ตามรูปแบบโครงสร้างทางวิ่งผสมระหว่างใต้ดินและระดับดิน ซึ่งอยู่ในแนวทิศ
เหนือ–ใต้ผ่านพื้นที่กิจกรรมหลักสาคัญ ได้แก่ โรงพยาบาลนครพิงค์ศูนย์ราชการเชียงใหม่ สนามกีฬา
สมโภชเชียงใหม่ 700 ปี ศูนย์ประชุมนานาชาติ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ สถานีขนส่งช้างเผือก
โรงพยาบาลเชียงใหม่ราม โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ โรงเรียนวัฒโนทัยพายัพ สนามบินนานาชาติ
เชียงใหม่ ห้างสรรพสินค้าแอร์พอร์ตพลาซ่า สานักงานขนส่งทางบก และห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีหางดง
“ขณะนี้อยู่ระหว่างรฟม.เตรียมการดาเนินงานจัดจ้างที่ปรึกษาเพื่อศึกษาออกแบบรายละเอียดและ
จัดเตรียมเอกสารประกวดราคา รวมทั้งจัดทารายงาน EIA และรายงานตามพ.ร.บ.การให้เอกชนร่วมลงทุนใน
กิจการของรัฐ พ.ศ.2556คาดว่าจะใช้เวลาศึกษา ออกแบบรายละเอียด และจัดทารายงาน EIA รวมทั้งรายงาน
PPP ให้แล้วเสร็จได้ประมาณเดือนตุลาคม 2562”
ชัยวัฒน์ย้าในตอนท้ายว่าในช่วงต้นเดือนกันยายน 2561 จังหวัดเชียงใหม่จะร่วมกับสนข. จัดกิจกรรม
เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้และรณรงค์ส่งเสริมให้ประชาชนปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการ
เดินทางมาใช้ระบบขนส่งสาธารณะในจังหวัดเชียงใหม่ โดยจะมีการเดินขบวน Troopประชาสัมพันธ์
เพื่อให้เข้าถึงประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนบริเวณตามแนวเส้นทางของระบบขนส่งสาธารณะจังหวัดเชียงใหม่
หรือบริเวณแหล่งชุมชนที่มีประชาชนเดินทางสัญจรเป็นจานวนมากต่อไป โดยจะมีการจัดริ้วขบวน TROOP
เดินพาเรดอย่างสวยงามและตื่นตาน่าสนใจ เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ข้อมูลเกี่ยวกับประโยชน์ที่พึงจะได้รับของ
โครงการและของประชาชนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวโดยทั่วไป เมื่อโครงการแล้วเสร็จบนเส้นทางที่จะมี
การก่อสร้างทางรถไฟฟ้าแบบรางเบา ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 8 กันยายนนี้ ในรูปแบบขบวนรถแห่ที่มีการ
ประดับประดาและตกแต่งอย่างตระการตาน่าสนใจ โดยมีคณะผู้บริหารจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน
- 5. ประชาชนทั่วไปดารานักแสดง เจ้าหน้าที่ สนข.ตลอดถึงสื่อมวลชนทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค และ
เจ้าหน้าที่จากส่วนงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมสร้างการรับรู้ และประชาสัมพันธ์โครงการในครั้งนี้
ทั้งนี้จังหวัดเชียงใหม่นั้นในปัจจุบันนับเป็นพื้นที่ที่มีความเหมาะสมเป็นอย่างยิ่งต่อการพัฒนาระบบ
ขนส่งสาธารณะ ด้วยเป็นเมืองที่มีประชากรเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2559 มีประชากรตามทะเบียน
บ้านที่อาศัยอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่จานวน 1.7 ล้านคน ขณะที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศได้เดิน
ทางเข้าท่องเที่ยวและพักแรมในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่มากกว่า 10 เท่า ของจานวนประชากรตามทะเบียน
บ้าน คืออยู่ที่ 9.4 ล้านคน และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นกว่า 10% ในทุกปี ซึ่งสร้างรายได้เข้าจังหวัดไม่น้อยกว่า
88,452 ล้านบาทต่อปี หากมีพัฒนาเมืองด้านการขนส่งเพื่อรองรับตามทิศทางของการเพิ่มขึ้นของประชากร
ทั้งขาจรและขาประจา ในอนาคตอันใกล้นี้จังหวัดเชียงใหม่ก็จะกลายเป็นนครแห่งชีวิตที่มีความน่าสนใจ
และปลอดภัยในการเดินทางสัญจรเป็นอย่างยิ่งและจะเป็นเมืองในฝันที่ผู้คนทั่วโลกต่างอยากมาเยือนอย่าง
แน่นอน
แผนแม่บทระบบขนส่งมวลชนเมืองเชียงใหม่
หลังจากสนข. ได้ศึกษาและจัดทาแผนแม่บทและออกแบบเพื่อการก่อสร้างระบบขนส่งมวลชนเมือง
เชียงใหม่แล้วเสร็จเมื่อปี 2550 แบ่งกรอบยุทธศาสตร์การพัฒนาเป็น 3 ระยะคือ ระยะสั้น ระยะกลางและ
ระยะยาว ซึ่งคณะกรรมการจัดการจราจรทางบก (คจร.) ได้มีมติเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2550 รับทราบผล
การศึกษาโดยมอบสนข.ประสานกระทรวงมหาดไทยกระทรวงการคลังและสานักงบประมาณพิจารณาแนว
ทางการบริหารจัดการเพื่อนาไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม
โดยผลการดาเนินงานระยะสั้นให้จ.เชียงใหม่ จัดระเบียบรถโดยสารสาธารณะกาหนดให้รถสองแถว
แดง รถโดยสารปรับอากาศและรถสองแถวแดงเสริมพิเศษ เข้าจอดสถานีขนส่งช้างเผือกเพียงแห่งเดียวและ
ให้สหกรณ์ลานนาเดินรถ จากัด และเทศบาลนครเชียงใหม่จัดรถโดยสาร รับช่วงต่อในเขตเมือง แต่เนื่องจาก
การดาเนินงานดังกล่าวไม่ประสบความสาเร็จ จึงได้ศึกษาและสาธิตระบบรถประจาทางในเขตเมือง (จ้าง
ทดลองวิ่ง) โดยเริ่มทดลองเดินรถ 1 เส้นทางและเพิ่มการเดินรถอีก 3 เส้นทางและจัดรถบริการสาธารณะ
(ชัตเติลบัส) ระหว่างท่าอากาศยานเชียงใหม่–โรงแรมต่างๆโดยใช้รถตู้โดยสารปรับอากาศไม่ประจาทางวิ่ง
2 เส้นทาง
แต่การดาเนินการจัดระเบียบรถโดยสารสาธารณะขาดการประชาสัมพันธ์อย่างจริงจัง ทาให้ไม่มีผู้มาใช้
บริการรถสองแถวแดงที่เข้าร่วมโครงการ ประกอบกับไม่มีเงินอุดหนุนเพื่อดาเนินการในระยะแรก ทาให้
ผู้ประกอบการรถสองแถวแดงที่เข้าร่วม โครงการกลับไปให้บริการในรูปแบบเดิม ส่วนการสาธิตระบบรถ
ประจาทางในเขตเมือง ทาให้มีรถสองแถวแดงบริการอย่างต่อเนื่องและมีผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้น แต่หากการจ้าง
ทดลองวิ่งสิ้นสุดลง ในขณะที่ผลตอบแทนยังไม่คุ้มค่าการลงทุน มีผลให้รถสองแถวแดงที่เข้าร่วมโครงการ
กลับไปให้บริการในรูปแบบเดิมเช่นเดียวกัน
- 6. ส่วนระยะกลางและยาวนั้น แบงออกเป็น 3 แนวทาง โดยแนวทางแรกสานักงานจังหวัดเชียงใหม่ได้
ศึกษาโครงการระบบโครงสร้างเมืองเพื่อรองรับการพัฒนาอย่างยั่งยืนเพื่อพัฒนาและบูรณการระบบขนส่ง
และโลจิสติกส์สาธารณะของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 และจัดระเบียบการนารถโดยสารขนาดใหญ่
เข้ามาในเขตเมืองที่มีถนนแคบ ส่วนแนวทางที่สองสานักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์กรมหาชน) อยู่ระหว่าง
ดาเนินการศึกษาวิจัยความเหมาะสมและออกแบบรายละเอียดระบบขนส่งมวลชนเชียงใหม่ ลาพูน และ
ลาปางเพื่อออกแบบเบื้องต้นระบบขนส่งมวลชนที่เหมาะสมกับเมืองเชียงใหม่-ลาพูน ลาปาง และศึกษา
ความเหมาะสมด้านวิศวกรรม เศรษฐศาสตร์การเงินและสิ่งแวดล้อมรวมทั้งศึกษารูปแบบการลงทุนที่
เหมาะสมและแนวทางที่สาม ให้สนข.ดาเนินการสารวจข้อมูลด้านการจราจรและขนส่งในเขตเมืองเชียงใหม่
เพื่อแก้ไขปัญหาจราจรในระยะเร่งด่วน โดยศึกษาและจัดทาแผนแม่บทการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะ
จังหวัดเชียงใหม่ทั้งระบบเส้นทางสายหลักและสายรอง (Feeder) ของระบบขนส่งมวลชนเมืองเชียงใหม่
วิธีดาเนินงาน
แนวทางการดาเนินงาน
1.คิดหัวข้อโครงงานและนาเสนอครูที่ปรึกษา
2.ศึกษาและค้นคว้าข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับเรื่อง ปัญหาการจราจรของเชียงใหม่
3.จัดทาโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์เพื่อนาเสนอครูที่ปรึกษาโครงงาน
4.จัดทาโครงงานคอมพิวเตอร์ผ่าน Blogger
5.ปรับปรุงแก้ไขหากพบข้อผิดพลาดหรือได้รับคาแนะนาต่างๆเพิ่มเติมจากครูที่ปรึกา
6.ประเมินผลงาน โดยการนาเสนอผ่านเว็บบล๊อก โดยให้ครูที่ปรึกาแนะเพื่อนๆเข้าร่วมประเมิน
7.นาเสนอผ่านเว็บบล๊อก เพื่อให้ผู้ที่สนใจศึกษาหาความรู้ต่อไป
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้
1.คอมพิวเตอร์
2.โทรศัพท์มือถือ
3.สมุดจดบันทึก
4.ปากกาและดินสอ
- 7. งบประมาณ
-
ขั้นตอนและแผนการดาเนินงาน
ลาดับ
ที่
ขั้นตอน สัปดาห์ที่ ผู้รับผิดชอบ
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17
1 คิดหัวข้อโครงงาน
2 ศึกษาและค้นคว้า
ข้อมูล
3 จัดทาโครงร่างงาน
4 ปฏิบัติการสร้าง
โครงงาน
5 ปรับปรุงทดสอบ
6 การทา
เอกสารรายงาน
7 ประเมินผลงาน
8 นาเสนอโครงงาน
ผลที่คาดว่าจะได้รับ (ผลลัพธ์ที่ต้องการทาให้เกิดขึ้นเมื่อสิ้นสุดการทาโครงงาน)
1.ทาให้สามารถหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดในตัวเมืองเชียงใหม่
2.ทาให้นักเรียนตระหนักถึงปัญหาการจราจรและมีระเบียบวินัยในการใช้รถใช้ถนน
3.ทาให้ปัญหาการจราจรติดขัดในตัวเมืองเชียงใหม่ลดลงไปในที่สุด
สถานที่ดาเนินงาน
บริเวณตัวเมืองเชียงใหม่
กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง
กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา