ผลการดาเนินงานตามบันทึกสัญญาผลการปฏิบัติงานของโรงเรียนมหาธิคุณวิทยา
 ปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 ระหว่างวันที่ 1 เมษายน 2554 ถึง วันที่ 30 กันยายน 2554

จุดเน้นที่ 2 ลดอัตราการอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2,3 ขึ้นไป
อ่านออกเขียนได้ทุกคนและส่งเสริมการอ่านเพื่อการเรียนรู้
       สภาพปัจจุบัน
       จากผลการสอนวัดคุณภาพ ผลการประเมินคุณภาพศึกษาขั้นพื้นฐาน(NT) ปีการศึกษา 2552-2553
ทาให้ทราบว่านักเรียนในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 2- 3 รวมถึงระดับชั้นประถมศึกษาอื่นมีอัตราการอ่าน
ออกเสียงอยู่ในเกณฑ์ดี แต่เรื่องการเขียนอยู่ในเกณฑ์ต่า ดังตารางที่ 2.1
       ตารางที่ 2.1 แสดงค่าเฉลี่ยของการสอบวัดผลผลการประเมินคุณภาพศึกษาขั้นพื้นฐาน(NT) ปี
การศึกษา 2552-2553 ในเรื่องการเขียนและการอ่าน

                                              คะแนนเฉลี่ยร้อยละ
                   วิชา                      ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
                                ปีการศึกษา 2552 ปีการศึกษา 2553      เพิ่ม / ลด
            การเขียน                 47.83             59.17          +11.34
            การอ่านออกเสียง          82.66             80.74           -1.92

       ปัญหา
               1. ผู้เรียนขาดความเอาใจใส่ในการเรียนการ ขาดความเข้าในเนื้อหาที่อ่านและเขียน
               2. นักเรียนมีปัญหาด้านการเรียนรู้ เครียดกังวล ไม่มีความมั่นใจในตนเอง
               3. ขาดความเอาใจใส่จากผู้ปกครองในการฝึกอ่าน ฝึกเขียน ทาให้เมื่อกลับถึงบ้านผู้เรียน
                  มักไม่สนใจแบบฝึกที่ครูมอบหมายให้
               4. เนื้อในแบบเรียนมีความยากเกินไป ไม่เหมาะกับเด็กที่พื้นฐานทางครอบครัวที่
                  ผูปกครองมีการดารงชีพแบบหาเช้ากินค่า หรือหย่าร้าง อพยพอยู่บ่อยๆเพราะ
                    ้
                  ผู้ปกครองไม่มีเวลาดูแลเอาใจใส่
วิธีการดาเนินการในการแก้ปัญหา
        1. ส่งเสริมให้ครูผู้สอนศึกษาข้อมูลของผู้เรียน สภาพปัญหาทางกายภาพและทางจิตใจ
             ของผู้เรียน โดยใช้ข้อมูลจากระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน เพื่อให้ทราบถึงปัญหาการ
             ขาดความเอาใจใส่ในการเรียน
        2. ส่งเสริมครูผู้สอนให้สอนโดยใช้แรงจูงใจ การเสริมแรงนางบวกแก่ผู้เรียน ลด ละ เลิก
             อัตราการดุ ว่ากล่าวตักเตือนที่อาจจะทาให้ผู้เรียนเกิดความเครียด ความกังวล และ
             ความอับอาย ซึ่งจะจะนามาสู่พฤติกรรมการต่อต้าน เช่นการ ว่ากล่าวต่อหน้าเพื่อนๆ
             น้องๆหน้าเสาธง การทาโทษหน้าเสาธง
        3. การทาวิจัยในชั้นเรียน โดยการนานักเรียนที่มีปัญหาด้านทักษะในการเขียนและการ
             อ่าน มาเป็นกรณีศึกษาในการแก้ปัญหา
        4. ส่งเสริมความเข้าใจกับผู้ปกครอง ให้ความเอาใจใส่แก่บุตรหลาน เมื่อกลับถึงบ้าน โดย
             แนะนาถึงผลเสีย ของการขาดความดูแลเอาใจใส่ต่อบุตรหลาน
        5. ใช้สื่อ ICT เพื่อส่งเสริม สร้างแรงกระตุ้นผู้เรียนให้เกิดความกระตือรือร้น อยากรู้
             อยากเห็น และอยากเรียน
        6. นากิจกรรมส่งเสริมการอ่านมาใช้ในการเรียนการสอน เช่น กิจกรรมหนังสือเล่มเล็ก
             กิจกรรมห้องสมุดมีชีวิต กิจกรรมรักการอ่าน
        7. สร้างแบบฝึกอ่าน สะกดคาอย่างง่าย เพื่อให้เหมาะสาหรับเด็กที่มีปัญหาด้านการอ่าน
             และเขียน
        8. นาแบบเรียนภาษาไทยปีพุทธศักราช 2521 มาใช้ในการฝึกอ่าน ซึ่งเนื้อหาในบทเรียน
             เหล่านี้มีเนื้อหาที่ต่อเนื่อง ใช้ภาษาที่อ่านง่าย
ผลการดาเนินงานแก้ไขปัญหา
   1. ส่งเสริมให้ครูผู้สอนศึกษาข้อมูลของผู้เรียน สภาพปัญหาทางกายภาพและทางจิตใจของผู้เรียน โดย
      ใช้ข้อมูลจากระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน เพื่อให้ทราบถึงปัญหาการขาดความเอาใจใส่ในการเรียน
      - จากกิจกรรมเยี่ยมบ้านนักเรียน




      -  แบบบันทึกการรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคล สถานภาพครอบครัว ร่างกาย ผู้ปกครอง และความ
        เป็นอยู่ในครัวเรือนของนักเรียน
      - แบบประเมิน SDQ
2. ส่งเสริมครูผู้สอนให้สอนโดยใช้แรงจูงใจ การเสริมแรงนางบวกแก่ผู้เรียน ลด ละ เลิกอัตราการดุ
ว่ากล่าวตักเตือนที่อาจจะทาให้ผู้เรียนเกิดความเครียด ความกังวล และความอับอาย ซึ่งจะจะนามาสู่
พฤติกรรมการต่อต้าน เช่นการ ว่ากล่าวต่อหน้าเพื่อนๆน้องๆหน้าเสาธง การทาโทษหน้าเสาธง
        - ปรับเปลี่ยนมาใช้กิจกรรมบาเพ็ญประโยชน์แทน




-        การเข้าค่ายจิตอาสา
3. การทาวิจัยในชั้นเรียน โดยการนานักเรียนที่มีปัญหาด้านทักษะในการเขียนและการอ่าน มาเป็น
กรณีศึกษาในการแก้ปัญหา
                   - เสริมเด็กเก่ง ซ่อมเด็กอ่อน ผ่านการเรียนในกิจกรรมซ่อมเสริม




       4. ส่งเสริมความเข้าใจกับผู้ปกครอง ให้ความเอาใจใส่แก่บุตรหลาน เมื่อกลับถึงบ้าน โดยแนะนาถึง
          ผลเสีย ของการขาดความดูแลเอาใจใส่ต่อบุตรหลาน
       - ผ่านกิจกรรมการเยี่ยมบ้านนักเรียน
5. ใช้สื่อ ICT เพื่อส่งเสริม สร้างแรงกระตุ้นผู้เรียนให้เกิดความกระตือรือร้น อยากรู้อยากเห็น
   และอยากเรียน




                                                 เว็บไซต์โรงเรียนมหาธิคุณวิทยา
                                                    มีลักษณะส่งเสริมการอ่าน
                                                โดยมีหมวดหมู่ความรู้ 8 กลุ่มสาระ
6. นากิจกรรมส่งเสริมการอ่านมาใช้ในการเรียนการสอน เช่น กิจกรรมหนังสือเล่มเล็ก กิจกรรม
   ห้องสมุดมีชีวิต กิจกรรมรักการอ่าน วันสุนทรภู่
- ค่ายส่งเสริมการอ่าน




-      วันสุนทรภู่
-   สมุดเล่มเล็ก




7. สร้างแบบฝึกอ่าน สะกดคาอย่างง่าย เพื่อให้เหมาะสาหรับเด็กที่มีปัญหาด้านการอ่านและเขียน
8. นาแบบเรียนภาษาไทยปีพุทธศักราช 2521 มาใช้ในการฝึกอ่าน ซึ่งเนื้อหาในบทเรียนเหล่านี้มี
          เนื้อหาที่ต่อเนื่อง ใช้ภาษาที่อ่านง่าย
       - หนังสือเรียน มานีมานะ เสริมการอ่าน




        เป้าหมาย
        เพิ่มอัตราการอ่านเขียนได้ของนักเรียนให้มากกว่าร้อยละ 90 ของนักเรียนตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่
1- ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

        ผลสาเร็จตามเป้าหมาย
        อัตราการอ่านออก เขียนได้ของนักเรียนเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 90 และมีอัตราการอ่านไม่ออกร้อยละ 10

ผลการดำเนินงานจุดเน้นที่ 2

  • 1.
    ผลการดาเนินงานตามบันทึกสัญญาผลการปฏิบัติงานของโรงเรียนมหาธิคุณวิทยา ปีงบประมาณ พ.ศ.2554 ระหว่างวันที่ 1 เมษายน 2554 ถึง วันที่ 30 กันยายน 2554 จุดเน้นที่ 2 ลดอัตราการอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2,3 ขึ้นไป อ่านออกเขียนได้ทุกคนและส่งเสริมการอ่านเพื่อการเรียนรู้ สภาพปัจจุบัน จากผลการสอนวัดคุณภาพ ผลการประเมินคุณภาพศึกษาขั้นพื้นฐาน(NT) ปีการศึกษา 2552-2553 ทาให้ทราบว่านักเรียนในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 2- 3 รวมถึงระดับชั้นประถมศึกษาอื่นมีอัตราการอ่าน ออกเสียงอยู่ในเกณฑ์ดี แต่เรื่องการเขียนอยู่ในเกณฑ์ต่า ดังตารางที่ 2.1 ตารางที่ 2.1 แสดงค่าเฉลี่ยของการสอบวัดผลผลการประเมินคุณภาพศึกษาขั้นพื้นฐาน(NT) ปี การศึกษา 2552-2553 ในเรื่องการเขียนและการอ่าน คะแนนเฉลี่ยร้อยละ วิชา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา 2552 ปีการศึกษา 2553 เพิ่ม / ลด การเขียน 47.83 59.17 +11.34 การอ่านออกเสียง 82.66 80.74 -1.92 ปัญหา 1. ผู้เรียนขาดความเอาใจใส่ในการเรียนการ ขาดความเข้าในเนื้อหาที่อ่านและเขียน 2. นักเรียนมีปัญหาด้านการเรียนรู้ เครียดกังวล ไม่มีความมั่นใจในตนเอง 3. ขาดความเอาใจใส่จากผู้ปกครองในการฝึกอ่าน ฝึกเขียน ทาให้เมื่อกลับถึงบ้านผู้เรียน มักไม่สนใจแบบฝึกที่ครูมอบหมายให้ 4. เนื้อในแบบเรียนมีความยากเกินไป ไม่เหมาะกับเด็กที่พื้นฐานทางครอบครัวที่ ผูปกครองมีการดารงชีพแบบหาเช้ากินค่า หรือหย่าร้าง อพยพอยู่บ่อยๆเพราะ ้ ผู้ปกครองไม่มีเวลาดูแลเอาใจใส่
  • 2.
    วิธีการดาเนินการในการแก้ปัญหา 1. ส่งเสริมให้ครูผู้สอนศึกษาข้อมูลของผู้เรียน สภาพปัญหาทางกายภาพและทางจิตใจ ของผู้เรียน โดยใช้ข้อมูลจากระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน เพื่อให้ทราบถึงปัญหาการ ขาดความเอาใจใส่ในการเรียน 2. ส่งเสริมครูผู้สอนให้สอนโดยใช้แรงจูงใจ การเสริมแรงนางบวกแก่ผู้เรียน ลด ละ เลิก อัตราการดุ ว่ากล่าวตักเตือนที่อาจจะทาให้ผู้เรียนเกิดความเครียด ความกังวล และ ความอับอาย ซึ่งจะจะนามาสู่พฤติกรรมการต่อต้าน เช่นการ ว่ากล่าวต่อหน้าเพื่อนๆ น้องๆหน้าเสาธง การทาโทษหน้าเสาธง 3. การทาวิจัยในชั้นเรียน โดยการนานักเรียนที่มีปัญหาด้านทักษะในการเขียนและการ อ่าน มาเป็นกรณีศึกษาในการแก้ปัญหา 4. ส่งเสริมความเข้าใจกับผู้ปกครอง ให้ความเอาใจใส่แก่บุตรหลาน เมื่อกลับถึงบ้าน โดย แนะนาถึงผลเสีย ของการขาดความดูแลเอาใจใส่ต่อบุตรหลาน 5. ใช้สื่อ ICT เพื่อส่งเสริม สร้างแรงกระตุ้นผู้เรียนให้เกิดความกระตือรือร้น อยากรู้ อยากเห็น และอยากเรียน 6. นากิจกรรมส่งเสริมการอ่านมาใช้ในการเรียนการสอน เช่น กิจกรรมหนังสือเล่มเล็ก กิจกรรมห้องสมุดมีชีวิต กิจกรรมรักการอ่าน 7. สร้างแบบฝึกอ่าน สะกดคาอย่างง่าย เพื่อให้เหมาะสาหรับเด็กที่มีปัญหาด้านการอ่าน และเขียน 8. นาแบบเรียนภาษาไทยปีพุทธศักราช 2521 มาใช้ในการฝึกอ่าน ซึ่งเนื้อหาในบทเรียน เหล่านี้มีเนื้อหาที่ต่อเนื่อง ใช้ภาษาที่อ่านง่าย
  • 3.
    ผลการดาเนินงานแก้ไขปัญหา 1. ส่งเสริมให้ครูผู้สอนศึกษาข้อมูลของผู้เรียน สภาพปัญหาทางกายภาพและทางจิตใจของผู้เรียน โดย ใช้ข้อมูลจากระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน เพื่อให้ทราบถึงปัญหาการขาดความเอาใจใส่ในการเรียน - จากกิจกรรมเยี่ยมบ้านนักเรียน - แบบบันทึกการรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคล สถานภาพครอบครัว ร่างกาย ผู้ปกครอง และความ เป็นอยู่ในครัวเรือนของนักเรียน - แบบประเมิน SDQ
  • 4.
    2. ส่งเสริมครูผู้สอนให้สอนโดยใช้แรงจูงใจ การเสริมแรงนางบวกแก่ผู้เรียนลด ละ เลิกอัตราการดุ ว่ากล่าวตักเตือนที่อาจจะทาให้ผู้เรียนเกิดความเครียด ความกังวล และความอับอาย ซึ่งจะจะนามาสู่ พฤติกรรมการต่อต้าน เช่นการ ว่ากล่าวต่อหน้าเพื่อนๆน้องๆหน้าเสาธง การทาโทษหน้าเสาธง - ปรับเปลี่ยนมาใช้กิจกรรมบาเพ็ญประโยชน์แทน - การเข้าค่ายจิตอาสา
  • 5.
    3. การทาวิจัยในชั้นเรียน โดยการนานักเรียนที่มีปัญหาด้านทักษะในการเขียนและการอ่านมาเป็น กรณีศึกษาในการแก้ปัญหา - เสริมเด็กเก่ง ซ่อมเด็กอ่อน ผ่านการเรียนในกิจกรรมซ่อมเสริม 4. ส่งเสริมความเข้าใจกับผู้ปกครอง ให้ความเอาใจใส่แก่บุตรหลาน เมื่อกลับถึงบ้าน โดยแนะนาถึง ผลเสีย ของการขาดความดูแลเอาใจใส่ต่อบุตรหลาน - ผ่านกิจกรรมการเยี่ยมบ้านนักเรียน
  • 6.
    5. ใช้สื่อ ICTเพื่อส่งเสริม สร้างแรงกระตุ้นผู้เรียนให้เกิดความกระตือรือร้น อยากรู้อยากเห็น และอยากเรียน เว็บไซต์โรงเรียนมหาธิคุณวิทยา มีลักษณะส่งเสริมการอ่าน โดยมีหมวดหมู่ความรู้ 8 กลุ่มสาระ
  • 7.
    6. นากิจกรรมส่งเสริมการอ่านมาใช้ในการเรียนการสอน เช่นกิจกรรมหนังสือเล่มเล็ก กิจกรรม ห้องสมุดมีชีวิต กิจกรรมรักการอ่าน วันสุนทรภู่ - ค่ายส่งเสริมการอ่าน - วันสุนทรภู่
  • 8.
    - สมุดเล่มเล็ก 7. สร้างแบบฝึกอ่าน สะกดคาอย่างง่าย เพื่อให้เหมาะสาหรับเด็กที่มีปัญหาด้านการอ่านและเขียน
  • 9.
    8. นาแบบเรียนภาษาไทยปีพุทธศักราช 2521มาใช้ในการฝึกอ่าน ซึ่งเนื้อหาในบทเรียนเหล่านี้มี เนื้อหาที่ต่อเนื่อง ใช้ภาษาที่อ่านง่าย - หนังสือเรียน มานีมานะ เสริมการอ่าน เป้าหมาย เพิ่มอัตราการอ่านเขียนได้ของนักเรียนให้มากกว่าร้อยละ 90 ของนักเรียนตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1- ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ผลสาเร็จตามเป้าหมาย อัตราการอ่านออก เขียนได้ของนักเรียนเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 90 และมีอัตราการอ่านไม่ออกร้อยละ 10